****** เป็นหนังแนว ล่า-ท้า-ผี ถ่ายทำในประเทศไทย โหดวิปริตบ้าคลั่งที่สุดนับแต่เคยดูมา : The Unbelievable / 2009 😊 😊 😊 😊 😊

“อารมณ์ของหนังเรื่องนี้คล้ายกำลังนั่งดูรายการ คนอวดผี-ของช่องเวิร์คพอยท์23 ผสมมือปราบสัมภเวสี-ของหมอปลา แต่ Unbelievable / 2009 เพิ่มพลัง อัพเกรดอารมณ์ความดุ-เฮี๊ยน-โหด-วิปริตบ้าคลั่ง มันสุดกว่า สุดชนิดต้องจัดเข้าเรต ฉ 20+ / Danger และไม่สามารถเผยแพร่ในประเทศไทยได้ ไม่ว่าช่องทางไหน” (ผู้เขียน)

The Unbelievable / 2009 หรือ Guai Tan / 2009 เป็นหนังสยองขวัญประเภท Documentary-Horror ความยาว 1.20 ชั่วโมงจากประเทศฮ่องกง ผลงานการกำกับ(ตัดต่อคลิป)ของ Director : Tat-Nin Chan ว่ากันว่างานชิ้นนี้เฮี๊ยนจัด ไม่สามารถเผยแพร่ในประเทศไทยได้ตลอดกาล (จากคลิปภาพ และเรื่องราวที่ล่อแหลมแบบที่สุด)

The Unbelievable หรือ Guai Tan เป็นรายการทีวีของประเทศฮ่องกง เผยแพร่ครั้งแรกในช่อง Cable TV เนื้อหาของรายการโดยภาพรวมนำเสนอเกี่ยวกับเหตุการณ์อาถรรพณ์และเหตุการณ์เหนือธรรมชาติเน้นมุมมองเหนือธรรมชาติและพิธีกรรมทางจิตวิญญาณของชาวพุทธทางเอเชียตะวันออก (เต๋า หรือจีน) สถานที่ถ่ายทำ ส่วนใหญ่ถ่ายกันในฮ่องกงและประเทศใกล้เคียง รูปแบบรายการ The Unbelievable จะเป็นแบบเรียลลิตี้ที่มีการอัดคลิปวิดีโอสดในพื้นที่ที่มีกิจกรรมอาถรรพณ์หรือการหลอกหลอนของพลังงานวิญญาณ บางครั้งก็มีการจำลองสถานการณ์หรือการทดลอง-พิธีกรรมที่เซ็ทขึ้นใหม่ เพื่ออธิบายปรากฏการณ์หรือการพบเห็นที่จำเพาะเจาะจง

**** หมายเหตุ ภายในหนังเรื่องนี้เป็นการถ่ายทำ ผสมผสานระหว่างคลิปของจริง กับฉากที่ทางทีมงานเซ็ทขึ้นมา ฉะนั้น คนดูต้องคิด วิเคราะห์ให้ดีๆ ว่าคลิปไหนเป็นของจริง และคลิปไหนเป็นของที่สร้างขึ้น ทราบดังนั้นแล้ว ก็มาลุยกันเลย….

โครงเรื่องหลักๆภายใน The Unbelievable นำเสนอ….

ฉากเปิดและการเกริ่นนำที่สุดแสนจะบ้าคลั่งในห้วงเวลา 4 นาที
เป็นคลิปตัดต่อการทำงานของทีม The Unbelievable (ทีมล่าผี) ในครั้งที่ผ่านๆมา ตัดต่อให้เร้าใจ ผสมกันเสียงดนตรีที่ดุดันแต่ก็หลอนในห้วงอารมณ์ คลิปที่มีการจัดวางใน 4 นาทีนรก ประกอบไปด้วย พิธีกรรมการปลุกเสกของ-การถอนของ, การล่าผีในสถานที่อาถรรพ์ต่างๆ, การช่วยคนถูกผีเข้า คนโดนของ, การล้างป่าช้า, สภาพศพที่ขึ้นอืด, และศพจากเหตุการณ์ซึนามิถล่มประเทศไทยเมื่อครั้งอดีต ศพมันเละแบบสุดๆ ขึ้นอืดแบบสุดๆ ส่งกลิ่นโชย จนคนดูแทบอ้วกแตกตายห่ากันในช่วงคำโปรยนรก ช่วงต้นเรื่อง

จากนั้น ทีมงานของ The Unbelievable (ทีมล่าผี) ก็บินมาที่ประเทศไทยแบบยกทีม สมาชิกหลักๆมีราว 8-9 คน มีผู้นำทางจิตวิญญาณของทีมคือ ซินแส (อาจารย์ที่สวมชุดขาว) เป็นผู้มีอาคมแกร่งกล้า คอยปัดเป่าสิ่งชั่วร้ายให้กับทีมงานในการถ่ายทำทุกสถานที่อาถรรพ์ เดินทางร่วมมากับทีมด้วย

เริ่มจากทีมงานเข้าเยี่ยมคารวะทีมของมูลนิธิปอเต็กตึ้ง-กรุงเทพฯ ประเทศไทย อาจารย์ซินแสชุดขาวพาทีมเข้าไปทำความเคารพองค์เทพภายในมูลนิธิปอเต็กตึ้งเสร็จ ช่วงกลางคืน ทีมก็เปลี่ยนชุดของมูลนิธิปอเต็กตึ้ง และขึ้นรถกระบะของมูลนิธิฯออกตระเวณถ่ายทำรายการในช่วงแรก จากคำแนะนำของสายตรงในมูลนิธิปอเต็กตึ้ง

ภาพรวมของช่วงนี้ ก็จะเป็นการออกไปช่วยเหลือผู้ประสบเหตุ(อุบัติเหตุ)ต่างๆในกรุงเทพฯ, เก็บศพตามสถานที่ต่างๆ(ศพเละมากกก), ไปช่วยคนบ้านไฟไหม้, จนกระทั่งทางปอเต็กตึ้งได้รับสายแจ้งเข้ามาแบบด่วนๆ ว่าบ้านหลังหนึ่งมีกลิ่นศพโชยอย่างรุนแรง ทีมงานของ The Unbelievable (ทีมล่าผี) ก็ตามทีมของมูลนิธิปอเต็กตึ้งไปที่บ้านหลังดังกล่าวด้วย ในช่วงกลางดึกสงัด มันเป็นบ้านไม้ 2 ชั้น เดินขึ้นบันไดไป กลิ่นศพหน้าห้องรุนแรงแบบที่สุด พอพังประตูเข้าไป พิธีกรสาวสองคนของช่องรายการจากฮ่องกงถึงกับสติหลุด แหกปากร้องลั่น ภาพที่เห็นคือ ชายเสื้อดำนุ่งกางเกงยีนส์ขายาว ผูกคXตาXตรงหน้าต่างของชั้น 2 สังเกตว่าที่ข้อมือมีร่องรอยการถูกกรีดด้วยของมีคมจนเป็แผลเหวอะหวะด้วย(ตรงนี้เลยไม่แน่ใจว่าคนตาย เจตนาฆ่าตัXตาXเอง หรือถูกทำให้ตาย) จากนั้นก็จะเป็นการนำเสนอด้วยมุมมองแบบที่ไม่เคยเห็นที่ไหนมากก่อน กับพิธีกรรรมเสกคาถา เพื่อสะกดปลดปล่อยดวงวิญญาณ พิธีตัดเชือกที่มัดต้นคอของผู้ตาย การร่ายคาถาขนศพจากชั้นบนลงสู่ชั้นล่าง (มีหกล้มตรงบันไดด้วย) หลายคนเข่าอ่อนนึกว่าผีผลัก

จากนั้นอีกคืน ทางทีมก็ไปที่บ้านร้างที่ผู้คนในละแวกนั้นเล่าลือกันว่า มีความเฮี๊ยนในระดับขนหัวลุก พิธีกร 2 สาวรับหน้าที่ลองของและพิธีกรรมติดต่อสื่อสารกับดวงวิญญาณ จู่ๆก็มีเสียงแมวร้องดังขึ้นในรายการ หาที่มาที่ไปไม่ได้ ร้องดังมากกก ชนิดชวนขนหัวลุก เสียงแมวร้องคล้ายเสียงเด็กร้องมากๆ ขนลุก จู่ๆกระจกก็ตกลงมากระแทกพื้นจนแตก ประตูในห้องทดสอบพิธีกรรมปิดได้เอง และล็อคได้เอง จนทีมงานต้องพังประตูเข้าไปช่วยพิธีกรสาวทั้งสองคนอย่างทุลักทุเล

อีกวัน ทีม The Unbelievable (ทีมล่าผี) ก็ไปตามหาผู้หญิงชื่อ “ฟ้า” มีบ้านอยู่ริมคลองในกรุงเทพฯ หาจนมาเจอบ้าน แต่ปรากฏว่าเจ้าของบ้านไม่ใช่ชื่อฟ้า กลับเป็นผู้ชายคนหนึ่งเป็นเจ้าของแทน หน้าตาหลอนๆบอก “เป็นเจ้าของบ้าน และที่นี่ไม่มีคนชื่อฟ้า” ทางทีมก็ถามกลับไปว่าเล่นของไหม ชายหน้าหลอนบอกว่า “เล่น กูจะแสดงให้พวกมึงดู”

จากนั้นชายหน้าหลอนก็บริกรรมคาถา ปลุกอะไรบางอย่างออกมาจากห่อผ้าสะกดด้วยผ้ายันต์อีกชั้น เป็นกุมารทององค์สีดำ(ซากศพทารก) ที่ชายหน้าหลอนบอกว่ากำลังจะให้ข้าวลูกกินพอดี จากนั้นชายหน้าหลอนก็หยิบปลาช่อนตัวใหญ่ขึ้นมาจากถังน้ำ ปลายังมีชีวิต เป็นๆอยู่ และดิ้น ชายหน้าหลอนหักคอปลาช่อน ใช้ปากและฟันกัดแทะเนื้อปลาช่อนจนเลือดกระจาย จากนั้นจึงฉีกชิ้นเนื้อให้กุมารทองกิน, เจ้าของบ้านบอกว่ากุมารทองยังกินไม่อิ่ม จึงไปจับไก่มาอีก 1 ตัว เป็นๆ มาหักคอ ฉีกเนื้อไก่ตรงหน้า ไก่ดิ้นทุรนทุรายน่าสงสารมาก มันกำลังโดนชายหน้าหลอนถอนขนบริวณลำคอ จากนั้นหักคอ กัดด้วยฟันจนโลหิตกระจายเต็มบริเวณ ไม่พอ ไก่ที่กำลังดิ้นชักกระแด๊กๆถูกชายหน้าหลอนใช้กงเล็บขยี้ แหวกอกจนยับ ควักเครื่องในออกมาอย่างบ้าคลั่ง และหยิบหัวใจที่กำลังเต้นสดๆมอบให้กุมารทอง ถึงตรงนี้ทีมงานจากฮ่องกงเกิดอาการหน้ามืด อ้วกแตกกันถ้วนหน้า ชายหน้าหลอนพอควักหัวใจไก่ให้กุมารทองเสร็จก็เกิดอาการบ้าคุ้มคลั่ง วิ่งไล่ฆ่าทีมงาน The Unbelievable (ทีมล่าผี) จนทีมวิ่งต้องหนีตายออกมาจนตกสะพานข้ามคลองไป 2 คน รอดออกมาจากบ้านนรกหลังนี้ได้อย่างฉิวเฉียด

วันต่อมา ทีมงาน The Unbelievable (ทีมล่าผี) ได้รับการติดต่อให้ไปถ่ายทำ “พิธีกรรมถอนของ” (ถอนเสนียดจัญไร) ออกมาจากคนที่โดน ณ บ้านหลังหนึ่ง บริเวณชั้น 2 หมอผีและทีมงานของเขากำลังทำพิธีถอนของให้กับคุณยายท่านหนึ่ง นางโดนคุณไสยอะไรบางอย่างทำให้ปวดท้องอย่างหนัก ขณะทำพิธีถอนของ คุณยายอ้วกออกมาเป็นฝูงตัวหนอนนับได้เกือบ 1,000 ตัว หมอผีเก็บตัวหนอนขึ้นมาจนเต็มกำมือ เอาเข้าปาก แล้วเคี้ยวอย่างเมามันส์ ปากก็พลางบริกรรมคาถาบางอย่าง จนเสร็จพิธี ทีมงานจากฮ่องกงถามว่า “ทำไมหมอผีต้องกินหนอน” หมอผีตอบกลับมาว่า “ต้องกิน ถ้าไม่กินมันจะออกมาเรื่อยๆ 1-2-3 ไม่จบสิ้น ถ้ากิน คือจบ”

ไปต่อที่บ้าน (สำนักหมอผีของอาจารย์เม้ง) เพื่อถ่ายทำ “พิธีกรรมถอนของ” ให้กับคนไทย 2 คน โดยอาจารย์เม้งและลูกศิษย์จำนวน 3 คนช่วยกันประกอบพิธีกรรมที่มันสุดโต่งเอามากๆ เริ่มจากร่ายคาถาอาคม หยิบไก่เป็นๆเอาหัวและคอลงครกส้มตำ จากนั้นก็หักคอไก่ เชือดคอ จนไก่ดิ้นทุรนทุราย เลือดออกเต็มครก, อาจารย์เม้งร่ายคาถา(ต่อ) แล้วหยิบปลาไหลขนาดใหญ่ออกมาจากหม้อตัวหนึ่ง เอาปลาไหลใส่ลงไปในครก แล้วหักคอ ทุบลงไปด้วยสาก จนเลือดเลอะเต็มครก (ไม่พอ) อาจารย์เม้งร่ายคาถาเพิ่มอีกหนึ่งชุด หยิบจิ้งจกบ้านมา 2 ตัว(ยังเป็นๆ) ตอกลงบนตัวจิ้งจกด้วยตะปู จนมันร้องดิ้นทุรนทุรายอย่างน่าเวทนา จากนั้นอาจารย์เม้งเสกคาถาต่อ แล้วใช้มีดอีโต้สับลงบนหาง และลำตัวจิ้งจกจนขาด จิ้งจกตายลงตรงหน้า แต่ร่างของมันยังดิ้นกระตุกเป็นระยะๆ(น่ากลัวมากกกก) อาจารย์เม้งรายมหาเวทย์ ผสมโลหิตของสัตว์ทั้ง 3 ชนิด ไก่-ปลาไหล-จิ้งจก สูบขึ้นมาด้วยหลอดเข็มฉีดยา จากนั้นหยิบกบ(เป็นๆ)ขึ้นมา 1 ตัว เอาเลือดฉีดใส่ท้องของกบ จนมันเกิดอาการชักๆ อาจารย์เม้งเสกคาถา(ต่อ) เอากบไปปาดที่หน้าผากของผู้มาทำพิธีสองคน เพื่อให้กบดูวิญญาณชั่วร้าย-ของที่ถูกทำใส่ ออกจากร่าง จากนั้นก็เอากบไปฆ่าด้วยการผ่าท้องแยกร่าง กบดิ้นทุรนทุรายตายคาตาของทีมงาน (จนวินาทีนี้ หลายคนถึงกับ หน้ามืด เป็นลม และอ้วกแตก)

อาจารย์เม้งเอาเลือดผสมของสัตว์ 4 ชนิดสาดใส่ทีมงาน The Unbelievable (ทีมล่าผี) ทีมงานตกใจ แต่อาจารย์เม้งบอกว่าเลือดเป็นมหามงคล ของดี โชคลาภ ของหายาก เมื่อทำพิธีกรรมเสร็จแล้ว ก็ให้จ่ายมา 5 หมื่น (จากราคาเต็ม 5 แสน) ตรงนี้ทีมงาน The Unbelievable (ทีมล่าผี)รู้ว่าโดนหลอกมาเรียกตบทรัพย์ ก็ไม่พอใจ ทะเลาะตะลุมบอนกับทีมงานของอาจารย์เม้งจนชุลมุนไปหมด สุดท้ายจึงวิ่งหนีออกมาจากสำนักหมอผีแห่งนี้สำเร็จ

คืนนั้นเอง ทีมงาน The Unbelievable (ทีมล่าผี) ยังไม่หยุด หาสถานที่ถ่ายทำต่อ ไปได้วัดแห่งหนึ่ง ตรงบริเวณหน้าเมรุเผาศพ พวกเขาช่วยกันเอาศพไร้ญาติออกมาเพื่อทำพิธีท้าทายดวงวิญญาณ (เปิดฝาโลง เรียกชื่อคนตาย) ตรงนี้ปรากฏทีมงาน 2 สาวโดนผีเข้า จนต้องหามส่งโรงพยาบาล แต่ทีมงานยังไม่ยอมหยุด ถ่ายทำต่อ

โดยช่วงสายของอีกวัน ทีมงาน The Unbelievable (ทีมล่าผี) เดินทางไปที่สำนักทรงแห่งหนึ่ง ที่เล่าลือกันว่า เก่งกล้าสามารถด้วยการลงอาคมด้านเสน่ห์มหานิยม(ลงเสน่ห์ยาแฝด) ในสำนักมีผู้หญิงหลายนาง (เป็นคนไทย) มาขอให้อาจารย์เสริมเสน่ห์ผัวรักผัวหลง อาจารย์สำนักนี้มี 2 คน คนเป็นหนึ่งชาย คนหนึ่งเป็นสาวสอง ทีมงานได้รับอนุญาติให้ทำการถ่ายทำได้ แต่ให้ถ่ายเงียบๆ หญิงสาวคนหนึ่งเข้ามาหาอาจารย์ทั้งสอง อาจารย์ชายเสกคาถามหาเสน่ห์ใส่ให้ แล้วก็อัดคาถาใส่ศิวลึงค์(อีกรอบ) จากนั้นอัดคาถาใส่หน้าของสาวกอย่างใจเย็น อาจารย์สาวสองเริ่มร่ายรำ เสกคาถาใส่ศิวลึงค์ อาจารย์สาวสองสั่งให้สาวกสาวแก้ผ้าออกให้หมด แล้วเอาศิวลึงค์มานาบสาวกสาวในพิธีกรรมตรงบริเวณ ลิ้น-หัวนมทั้งสองข้าง-ก้น-ปากรูจิมิ๊ อาจารย์สาวสองเสกคาถาร่ายรำ จากนั้นจึงสั่งให้สาวกสาวนอนลง แล้วถ่างขา คาถามหาเสน่ห์ผัวรักผัวหลงถูกปลุกเสกใส่ลงไปในจิมิ๊(อีกรอบ) ศิวลึงค์สีดำเริ่มแทงใส่ช่องคลอดช้าๆ(พร้อมด้วยการเสกคาถาใส่เข้าไปข้างใน) สำเนียงที่อาจารย์สาวสองพูด ฟังไม่ค่อยชัด แต่คาดเดาว่า ประมาณ “ขอให้หอม ผัวรักผัวหลง” ประมาณนี้(มั๊ง) จากนั้นจึงดึงศิวลึงค์ออกจากช่องคลอด เอาขึ้นมาตั้งในพานทอง บูชาด้วยพวงมาลัยดอกมะลิสด เอากลับบ้านไปบูชา(ต่อ) เป็นอันเสร็จพิธีกรรม

ภาพตัดมาที่พิธีกรรมล้างคุณไสย (และการถูกวิญญาณผีตายโหงเข้าสิง) ให้กับ 2 สาวพิธีกรของ The Unbelievable (ทีมล่าผี) ที่เพิ่งออกจาโรงพยาบาล จัดขึ้นที่ศาลแห่งหนึ่ง ซินแสของทีม และอาจารย์หนุ่ม(แว่น)ประจำศาลทำพิธีกรรมสะเดาะเคราะห์ให้ ท่าของอาจารย์แว่นช่วงปิดท้ายพิธีพาลให้นึกถึงท่าพิฆาตในการ์ตูนญี่ปุ่น…. “ไอ้มดแดง” ซะงั้น ( 555+ )

จากนั้นทางทีม The Unbelievable (ทีมล่าผี) ก็มาเล่นผีถ้วยแก้วใต้ร่มสีแดง (คติจีนโบราณเชื่อว่าสีแดงจะทำให้ผีเฮี๊ยนและมีพลังมากกว่าปกติ) เล่นกันภายในบ้านร้างหลังใหญ่หลังหนึ่งที่ปกคลุมไปด้วยเถาวัลย์และรากของต้นไม้ ปรากฏทีมงานโดนผีหลอกจนต้องวิ่งหนีออกมา (ถ่ายกันสั้นๆ)

ยังไม่ยอมจบ ช่วงกลางดึกของอีกคืน ทีมงาน The Unbelievable (ทีมล่าผี) ไปปิดท้ายรายการกันด้วยช่วงล่าผีที่มัสยิดร้างหลังใหญ่ ปรากฏว่าพวกเขาถ่ายติดดวงไฟประหลาด (ญิน) ลอยไปลอยมานับได้หลายดวง รวมถึงกล้องที่ตั้งถ่ายผีเอาไว้ตรงมุมหนึ่งของมัสยิดก็โดนอะไรบางอย่าง พุ่งชนจนล้มลง พอกรอภาพแบบย้อนกลับ ก็เห็นญินตนหนึ่งพุ่งเข้าใส่ ภาพถูกบันทึกไว้ภายในกล้อง แล้วหนังก็ตัดจบลงเพียงแค่นี้….

****** หลังดูจบ
ภาพรวมของ The Unbelievable / 2009 คล้ายเอา “คนอวดผี” (ช่วงล่าท้าผี)-ของช่องเวิร์คพอยท์23 มาผสมโรงเข้ากับ “มือปราบสัมภเวสี”-ของหมอปลา อารมณ์มันจะดุๆ ดิบๆ ได้ความ Real สมจริง / ผสมกับบางช่วงที่เป็นการเซ็ทฉากการถ่ายทำขึ้น (ซึ่งเชื่อว่าคนดูหนังหลายคน น่าจะจับผิดได้แน่ๆ) ถึงมันจะเป็นการผสมระหว่างของจริงกับของปลอม แต่เพราะมีฉากล่อแหลมต้องห้ามเยอะมากกก (โดยเฉพาะฉากทารุณกรรมสัตว์ต่างๆ) หลายคนเลยไม่สามารถดูหนังเรื่องนี้ให้จบลงได้ และหลายคนก็จะไม่ขอดูมันโดยเด็ดขาด(ปฏิเสธที่จะดูมันโดยเด็ดขาด)

ฉ 20+ / Danger แน่ๆ สำหรับหนังเรื่องนี้ และไม่มีทางที่ The Unbelievable / 2009 จะสามารถเอามาฉายในประเทศไทยได้ (เนื่องด้วยติดปัญหาดังที่กล่าวมาข้างต้น)

ให้ 9 / 10 คะแนน สำหรับความหายาก และความน่าตื่นตาตื่นใจของมัน ถึงบางฉากจะรู้อยู่ล่ะว่าเป็นการเซ็ท รู้จนอยากร้องเพลงของศิรินทรา นิยากร (ถึงเขาหลอกแต่เต็มใจให้หลอก….) ก็เหอะ แต่พวกเราก็ยังนั่งดูมันกันเน๊อะ 555+

#แอดมินซามาร่า 😊