****** สั้นๆ ชอบใบปิดของหนังเรื่องนี้อย่างชนิดจับใจ : Manticore / 2022 (มันติคอร์)😊

Manticore / 2022 เป็นหนังสาย Drama-Horror ความยาว 1.55 ชั่วโมง จากประเทศสเปน-เอสโตเนีย ของผู้กำกับ Director : Carlos Vermut หนังว่าด้วยเรื่องสภาพความบิดเบี้ยวภายในจิตใจของชายคนหนึ่งสไตล์ Ped-ophilia ภายใต้ร่มเงาของร่มคันใหญ่ Paraphilia

ซึ่งคุณ Inertiatic Groovfie Viaquez ได้เขียนรีวิวถึงนังเรื่องนี้เอาไว้อย่างน่าสนใจ ดังนี้....

(* ตรงนี้เป็นงานเขียนของคุณ : Inertiatic Groovfie Viaquez)
Manticore (2022 / Carlos Vermut)
(Spain / Estonia)
You make everyone "จะอ้วก"

เปิดเผยเนื้อหาสำคัญ ***********
ประเด็นหลักที่หนังได้ใช้ไว้มันคือสิ่งที่เปราะบางและอ่อนไหวอย่างเรื่อง Ped-ophilia. ซึ่งปฏิเสธไม่ได้จริงๆ กับความรู้สึกรังเกียจ/ขยะแขยง/จะอ้วก ที่เมื่อได้พบว่าใครบางคนนั้นเป็นพวกใคร่เด็กแบบนี้ ซึ่งกับสภาพการเป็นคนดูมันก็ก่อเกิดความรู้สึกแบบนี้ขึ้นมาต่อตัวละครในหนังเช่นกัน แต่สิ่งที่สะท้อนได้ดียิ่งกว่าก็คือ การรองรับมุมของชายผู้ที่เป็นแบบนั้น เขาไม่ได้ทำร้ายใคร มันแค่อยู่ในหัวของเขา และเขาได้พยายามเปลี่ยนแปลงตัวเองอย่างเต็มที่แล้วเพื่อพาตัวเองกลับสู่เส้นทางของผู้ชายปกติ แต่การพลาดที่เกิดขึ้นมันเป็นแค่การที่คนอื่นได้พบรสนิยมทางเพศของเขาแบบนี้ขึ้นมา เมื่อคนอื่นรู้ สายตาและความรู้สึกมันก็ไม่เหมือนเดิมอีกต่อ มันเต็มไปด้วยการผลักใสไล่ส่ง เหมือนการรู้ว่าชายคนนี้มีรสนิยมทางเพศแบบนี้มันคือ การทำผิดบาปอย่างไล่หลวงที่ไม่สมควรได้รับโอกาสแก้ไขเป็นอย่างยิ่ง.

ถ้าย้อนกลับไปก่อนที่ชีวิตเขาจะพังทุกคนที่สนิทถีบส่งเขาออกห่าง มันก็ชัดเจนแหละว่าเขาพยายามทิ้งความคิดที่เคยคิดกับเด็กผู้ชายไปให้ได้ โดยคนหนึ่งที่เขาคิดว่าจะช่วยนำทางเขาได้ก็คือ ผู้หญิงคนหนึ่ง ผู้หญิงคนที่ตัดผมสั้นเป็นเด็กผู้ชาย(ที่ดูคล้ายเด็กผู้ชายคนนั้นในสายตาเขา) แม้เขาจะไม่เคยมีแฟนเลยหรือเข้ากับผู้หญิงไม่ค่อยได้ แต่สำหรับสาวผมสั้นคนนี้เขาน่าจะทำได้สำเร็จ ... แต่ก็อย่างที่บอกไว้ ความผิดพลาดเดียวที่เกิดขึ้นก็คือ เขาใช้อุปกรณ์การทำงานแบบผิดประเภท พอสิ่งที่เขาเคยทำไว้แล้วกำจัดทิ้งไปตอนที่เขาตั้งใจจะถอยออกมามันได้หลุดไปการรับรู้ของคนรอบข้าง เส้นทางที่เขาหวังไว้กับการเป็นผู้ชายปกติมันก็ได้ถูกปิดตายลงในทันที กับสีหน้าแววตาของคนที่รู้ที่ล้วนสื่อแทนคำพูดออกมาชัดเจนว่า You make me จะอ้วก.

นั่นคือสิ่งที่ฉันชอบมากสำหรับการสื่อมุมมองอีกทางออกมา แม้ว่าประเด็นหลักมันค่อนจะล่อแหลมและเปราะบางไปเยอะเลยก็ตาม ซึ่งหนังก็ไม่ได้พาเรื่องตรงนี้ไปสุดทางเช่นกัน (แม้จะเกือบๆ อีกนิดเดียวก็ตาม) การเบี่ยงทางลงของหนังคือการแลนดิ้งที่ดี สำหรับประเด็นเปราะบางพวกนี้ที่หนังเองก็ไม่ได้เอื้อหรือให้ท้ายแต่อย่างใด อาจมองได้ว่าทางลงของชายคนนี้คือบทลงโทษที่โหดร้ายไร้ปราณีที่สังคมล้วนมองไปในทางเดียวกันได้ แต่การเบี่ยงทางลงนิดหน่อยในตอนจบ มันก็คือสิ่งที่หนังพอจะมอบใจดีเสี้ยวหนึ่งให้กับชายคนนี้ได้มากที่สุดแล้วก็ได้ ผ่านตัวตนที่สาวผมสั้นคนเดิมคนนั้นเคยเป็นมา

แต่มันก็มีความรู้สึกบางอย่างต่อหนังขึ้นมาเช่นกัน เหมือนกับหนังมีท่าทีจะบอกว่า คนประเภทนี้คือคนป่วย เป็นไปได้เราควรรักษาและนำทางเขาให้ถูกทาง เฉกเช่นการได้พบสาวสั้นเหมือนการบำบัดเขาทีละนิดให้ถอยห่างสิ่งที่ไม่ควรแล้วเดินเคียงข้างไปถูกทางด้วยกัน ไม่ใช่ว่า พอรู้ว่าชายคนนี้เคยจิตนาการบางอย่างกับเด็กผู้ชายปุ๊บ เราต้องจะอ้วกต้องผลักไสต้องถีบส่งต้องไล่ให้ชายคนนี้ไปตายทันที จนส่งผลให้ความคิดของชายคนนั้นเตลิดไปไกล จากที่แค่จินตนาการอยู่แค่หัว มันอาจจะพาลให้ชายคนนั้นไปก่อเหตุขึ้นจริงๆ มาก็เป็นได้.

สำหรับชื่อหนัง Manticore ตอนแรกก็คือไม่เก็ตและไม่รู้ความหมายเลย พอดูจบและหาข้อมูลปุ๊บ ก็รู้ความหมายของคำนี้ทันที แล้วก็เข้าใจตามหนังทันทีเลยว่า ทำไมถึงเลือกใช้ชื่อนี้เป็นชื่อหนัง นั่นก็เพราะ เมื่อตัวหนังถึงจุดสุ่มเสี่ยงที่ชายคนนี้จะก่อเหตุจริงๆ มา ภาพหนึ่งที่ปรากฏบนหัวเตียงของเด็กผู้ชายตัวน้อย คือภาพวาดที่เด็กน้อยวาดตามสิ่งที่ได้คุยกับชายคนนี้ตอนต้นเรื่อง ชายคนนี้บอกว่า ตอนเด็กๆ เขาอยากเป็นเสือ ภาพวาดของเด็กเลยก็เป็นเสือตัวหนึ่งที่มีหัวเป็นหน้าผู้ชาย เสือตัวนี้มีชื่อของชายคนนั้น ... เท่านั้นแหละ ชายคนนี้ตาสว่างทันที ภาพวาดของเด็กสามารถมองเป็น Manticore ได้ และ Manticore มันคือสัตว์ร้ายในตำนานที่เข่นฆ่ามนุษย์ การที่ชายคนนี้ตาสว่างขึ้นมาก็เพราะเขาได้ตระหนักทันทีว่า "ตัวเขาไม่ใช่สัตว์ร้าย" "เขาต้องหยุดเรื่องที่ตั้งใจจะกระทำต่อเด็กเดี๋ยวนี้" "และสัตว์ร้ายไม่สมควรที่จะมีชีวิตอยู่บนโลกนี้อีกต่อไป"

(* ตรงนี้เป็นงานเขียนของคุณ : Inertiatic Groovfie Viaquez)

**** หลังดูจบ
สั้นๆ ชอบใบปิดหนังชนิดจับหัวใจ
แต่ตัวหนัง ไม่ถูกจริตกับฉันสักเท่าไหร่ คือไม่ใช่สไตล์ก็ว่า

อืมมม.... ก็นะ ชอบใบปิด (555+)

#แอดมินซามาร่า 😊