************* 13 ภาพยนตร์สยองขวัญแห่งตำนานต้องห้ามตลอดกาล (จัดอันดับครั้งที่ 16 / ปีที่ 15) : พงศาวดารมืดจากก้นบ่อน้ำ! 😊😊😊😊😊😊
#15ปีแล้วสินะที่บทความตัวนี้มีออกมาให้ได้อ่านกันทุกปี!!
การจัดอันดับ 13 ภาพยนตร์สยองขวัญเเห่งตำนานต้องห้ามตลอดกาล ถือเป็นธรรมเนียมปฏิบัติของเพจ “บ่อน้ำของซามาร่า” มายาวนาน ส่วนใหญ่ก็จะเป็นแอดมินซามาร่า หรือไม่ก็ทีมแอดมินนี่เเหล่ะที่ช่วยกันลงคะเเนนจัดอันดับกัน
มันเริ่มต้นขึ้นครั้งเเรกเมื่อวันที่ 1 มีนาคม ปี พ.ศ. 2552 เวลา 16:47:44 น. กับบทความชุด “ ศุกร์ 13 ฝันหวาน..........กับ 13 ภาพยนตร์สยองขวัญต้องห้ามตลอดกาล !!! ”
หลังจากนั้นก็มีบทความจัดอันดับ 13 หนังสยองขวัญเเห่งตำนานต้องห้ามตลอดกาล หรือการรวบรวมเรียบเรียง 13 อันดับหนังสยองขวัญน่ากลัวที่สุดในโลก-อันตรายที่สุดในโลก ของพวกเราปล่อยออกมาอีกเรื่อยๆ นับรวมได้ถึง 15 ครั้ง(ในรอบ 14 ปี)
ครั้งล่าสุดคือเมื่อปีที่เเล้ว วันพุธที่ 16 พฤศจิกายน 2565 เวลา 15:32 น. โดยใช้ชื่อบทความว่า “13 ภาพยนตร์สยองขวัญเเห่งตำนานต้องห้ามตลอดกาล : ภาคดับสุริยันวันแห่งการสิ้นโลก!! (จัดอันดับครั้งที่ 15 )”
โดยเฉลี่ย เราจะจัดอันดับกันประมาณปีละครั้ง(แต่มีพิเศษอยู่ครั้ง ที่จัด 2 บทความในหนึ่งปี / ช่วงแรกๆ) ช่วงหลังจะยึดเอาสองเดือนสุดท้ายของปีนั้นๆเป็นหลักในการลงบทความ (ไม่จำกัดวันที่ลง)
ปีนี้ฤกษ์งามยามดี วันพุธที่ 6 ธันวาคม 2566 กับการจัดอันดับครั้งที่ 16 ใน “13 ภาพยนตร์สยองขวัญแห่งตำนานต้องห้ามตลอดกาล (จัดอันดับครั้งที่ 16 / ปีที่ 15) : พงศาวดารมืดจากก้นบ่อน้ำ!”
ต้นฉบับ สดๆร้อนๆ สำหรับโผคะเเนนปีนี้ เสร็จสิ้นสมบูรณ์แล้ว จึ่งเชิญท่านทั้งหลายทัศนา….
****** อันดับ ( 13. ) When Evil Lurks / 2023 (เชื้อคลั่งวันล้างโลก)
ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาดนี่คือ “หนังสยองขวัญสายโหดที่ดีที่สุดของช่วงปลายปี 2023” หนังในเรต ฉ 20+, หนังอันตราย
Taglines #ไม่มีประโยชน์ที่จะอธิษฐานขอพรเพราะพระเจ้าก็ช่วยมึงไม่ได้!
“มันเริ่มจากชายอ้วนคนหนึ่งใช้ปืนลูกซองยิงแพะตัวเมียที่กำลังอุ้มท้องตายอย่างสยดสยอง, หญิงสาวอีกคนที่กำลังคลุ้งคลั่ง นางนั่งลงแล้วเอาขวานมาสำเร็จอารมณ์ใคร่ด้วยการจามลงไปตรงบริเวณใบหน้าอย่างวิปริต, สุนัขสายพันธุ์พิตบลูฯตัวหนึ่งกระโจนงับต้นคอเด็กผู้หญิงอายุ 5 ขวบแล้วกระชากจนคอแทบหลุด, ชายวัยกลางคนเริ่มเดินวนเวียนเข้าไปในเมืองอย่างเสียสติ เขาใช้ปืนยิงหัวสุนัขจนสมองกระจุยตายลงตรงเบื้องหน้า, รถยนต์ที่พุ่งใส่ร่างของหญิงท้องแก่ใกล้คลอดและลูกสาวอายุ 5 ขวบ อัดคาบ้านตายอนาจคู่กัน, แม่ของเด็กผู้ชายอีกคน แสดงอาการความรักและหวงลูกชายวัย 6 ขวบปีด้วยการตัดกระโหลก แล้วควักเอาเนื้อสมองของลูกชายมากินอย่างอร่อย, กลุ่มเด็กๆที่กำลังใช้ค้อนไล่ตีผู้ใหญ่จนตายอย่างสนุกสนานและมีความสุข นี่คือความหฤหรรษ์บ้าคลั่งจากหนังเรื่องนี้ที่พร้อมประเคนใส่คนดู ให้ตายห่าลงนรก….” (ผู้เขียน)
“เหมือนหนังสยองขวัญแห่งวันโลกาวินาศโดยแท้จริง มันผสมผสานหนังหลายๆเรื่องเข้าด้วยกันอย่างลงตัว อารมณ์ประมาณหยิบเอา The Happening / 2008 (เดอะ แฮปเพนนิ่ง วิบัติการณ์สยองโลก) ของ Director: M. Night Shyamalan, มาผสมกับ The Plague / 2006 (ผีระบาด) ของ Director: Hal Masonberg จากนั้นก็ใส่อารมณ์ดิบของ High Tension / 2003 (สับ สับ สับ) ของ Director: Alexandre Aja ลงไป, ตบท้ายด้วยการละเลงโลหิตอันบ้าคลั่งของหนังสไตล์ Evil Dead / 2013 (ผีอมตะ) ของผู้กำกับ Director: Fede Alvarez แต่รอบนี้เป็นการสิงสู่ที่มีเส้นรอบวงที่กว้างกว่าและริยำกว่า เพราะผู้ถูกสิงโดยภาพรวม กินเนื้อที่ไปเกือบหมดทั้งเมืองในชนบทเล็กๆอย่างสุดสะพรึงขนหัว….” (ผู้เขียน)
โครงเรื่องหลักๆใน When Evil Lurks / 2023 หนังบอกเล่าเรื่องราววิถีชีวิตของเมืองเล็กๆชนบทห่างไกลปืนเที่ยงในประเทศอาร์เจนติน่า และก็ชีวิตของชายสองคนที่เป็นพี่น้องกัน เขาต้องพยายามปกป้องครอบครัวจากการระบาดของเชื้อผีนรก ที่ว่ากันว่าหากถูกเจ้าเชื้อตัวนี้สิงสู่เข้า มันจะเป็นคล้ายการครอบงำกายร่าง และการกำเนิดของ “ชีวิตใหม่ที่ผุดขึ้นมาจากนรก” กับกฎข้อห้าม 7 ข้อ สำหรับต่อสู่กับ “มัน” เพื่อให้มีชีวิตและลมหายใจอยู่รอดจนอรุณรุ่ง
****** อันดับ ( 12. ) House of Secrets: The Burari Deaths / 2021 และ The Burari Deaths (คลิปต้องคำสาปความยาว 76 วินาที เป็นคลิปที่ว่ากันว่า “ห้ามเปิดดูโดยเด็ดขาด”)
จะขอเล่าถึงคลิปต้องคำสาปที่ไม่สามารถเผยแพร่ภายในภาพยนตร์สารคดีสยองขวัญเรื่อง House of Secrets: The Burari Deaths / 2021 (ใน Netflix) เป็นคลิปที่ว่ากันว่า “ห้ามเปิดดูโดยเด็ดขาด”
“เมื่อราวอาทิตย์ก่อน มีเพื่อนสมาชิกท่านหนึ่ง เปิดหนังแนวสารคดีสยองขวัญใน Netflix ออกดู หนังเรื่องนั้นมีชื่อว่า House of Secrets: The Burari Deaths / 2021 เป็นหนังความยาว 3 ตอนจบ เล่าถึงเหตุฆาตกรรมหมู่ 11 ศพภายในครอบครัว Burari อย่างสุดสยดสยอง หลังดูจบ ด้วยความสงสัย คืนนั้นเองเพื่อนสมาชิกท่านนี้ออกตามหาภาพข่าวที่หลุดจากกองเซ็นเซอร์จนเจอ ยังไม่หนำใจ เขายังลงไปควานหาคลิปที่ว่ากันว่า #ห้ามเปิดดูโดยเด็ดขาด คลิปความยาว 76 วินาที ซึ่งทำการบันทึกเป็น Footage ของจริง ถ่ายทำในสถานที่จริง ภายในบ้านของครอบครัวตระกูล Burari ก่อนที่ทางทีมของตำรวจจะเดินทางมาถึงจุดพื้นที่เกิดเหตุ หลังดูคลิปจนจบ ปรากฏว่า คืนนั้นไม่สามารถนอนข่มตาให้หลับลงได้ เกิดอาการตาค้าง หลอน ขนหัวลุก จิตตก หวาดผวา ต้องเปิดไฟทุกดวงที่มีในบ้านให้สว่างจนรุ่งเช้า ช่วงสายก็ไปทำบุญกรวดน้ำขออุทิศส่วนบุญส่วนกุศลให้กับเจ้ากรรมนายเวร เกิดอาการคลั่งเนื้อคลั่งตัว เลยขอให้หลวงพ่อวัดใกล้บ้าน ท่านประพรมน้ำมนต์ให้ กว่าจะสลัดภาพและภาวะจิตตกได้ ภาพมันติดฝังอยู่ในหัวสมองราว 72 ชั่วโมง(3 วัน 3 คืน) กว่าจะทำจิตใจให้กลับมาเป็นปกติได้ มันทรมานเอามากๆ….” (อ้างอิงข้อมูลจากคุณ : นิรนาม)
House of Secrets: The Burari Deaths / 2021 (ใน Netflix) เป็นภาพยนตร์สารคดีสยองขวัญ 3 ตอนจบ ทุกภาพในหนัง คือ เรื่องจริงทั้งหมด หนังนำเสนอเกี่ยวกับคดีสะเทือนขวัญของจริง โด่งดังระดับที่สุดของประเทศอินเดียเมื่อสมัยปี ค.ศ.2018 (พ.ศ.2561)
สารคดีจะนำผู้ชมไปสำรวจทฤษฎีเกี่ยวกับการตายของสมาชิกครอบครัวเดียวกันมากถึง 11 คน ในวันที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2561 ซึ่งสื่อที่อินเดียเรียกว่า “การเสียชีวิตของตระกูลบุรารี” (The Burari Deaths)
เมื่อคนในตระกูลบุรารีทำการ แขXน คอ ฆ่X ตัว Xาย บนตะแกรงเหล็ก พร้อมกันภายในบ้าน เป็นวงกลม บางคนมีผ้ามัดหน้า ปิดปาก มัดมือ สายชาร์จโทรศัพท์มัด สำลีอุดหู ไม่มีร่องรอยของการลักขโมย ไม่มีทรัพย์สินสูญหาย ไม่มีร่องรอยของการต่อสู้ใดใด ราวกับว่าคนทั้งหมดกระทำการดังกล่าวด้วยความเต็มใจ ซึ่งเป็นคดีที่มันแปลกเอามากๆ ว่าคนทั้ง 11 ภายในบ้าน ตายยังไงกันแน่?
ท่ามกลางอินเดียมุงกว่า 1,000 คน คนอินเดียกว่า 1,000 ล้านคน และสายตาของชาวโลกทุกประเทศจ้องจับคดีนี้อย่างใจจดจ่อ ในพื้นที่ ตำรวจอินเดียมึนตึ๊บ เพราะไม่รู้จะสืบคดีและสางมันลงให้จบได้อย่างไร จวบจนทีมงานของตำรวจค้นพบบันทึก 11 เล่ม ของผู้ตายทั้ง 11 คน ที่ทำการบันทึกเรื่องราวประจำวัน หลายปีก่อนวันเกิดเหตุ นี่เองจึงกลายเป็นหลักฐานที่สามารถคลี่คลายปมทั้งหมดของคดี ฆ่XตัวตาXหมู่ 11 ศพของครอบครัว Burari ลงได้อย่างสมบูรณ์
หลังดูจบ….
เป็นหนังสารคดีความยาว 3 ตอนจบ ที่ถือว่ายอดเยี่ยมเอามากๆ หนังมีชั้นเชิงการเล่าเรื่องในระดับที่สูง สร้างแรงกดดัน และอาการจิตตกแก่คนดูในปริมาณที่น่าวิตกกังวล
ภาพข่าวของจริง ในพื้นที่เกิดเหตุของครอบครัว Burari ซึ่งหลุดออกมาจากหลายพื้นที่ข่าวในประเทศอินเดีย ต้องใช้คำนี้เลย…. น่ากลัว!!
คลิปความยาว 76 วินาที ซึ่งใครก็ไม่รู้แอบเข้ามาถ่ายทำบันทึกเป็น Footage ของจริงไว้ ถ่ายทำในสถานที่จริง ภายในบ้านของครอบครัวตระกูล Burari ก่อนที่ทางทีมของตำรวจจะเดินทางมาถึงจุดพื้นที่เกิดเหตุ แล้วกลายเป็นคลิปหลุดในโลกใต้ดิน สั้นๆ…. เป็นอะไรที่โคตรตื่นตะลึงเอามากๆ น่ากลัวที่สุด ชวนจิตตก และเจ็บป่วยทางจิตแบบที่สุด (สำหรับคนที่จิตอ่อน ข้อล่ะ อย่า….อย่าหามาดูโดยเด็ดขาด! ข้าพเจ้าขอเตือนท่านด้วยความหวังดี)
****** อันดับ ( 11. ) Death2Kuffar / 2008
เป็น “โคตรแรร์ไอเท่ม” ที่หลุดขึ้นมาจากส่วนที่ลึกที่สุดพิกัดหนึ่งใน Dark Web ไม่จำเป็นก็อย่าไปหามันมาดูกันเลย เดี๋ยวจะเกิดอาการจิตตกเปล่าๆ : Death2Kuffar / 2008
Death2Kuffar / 2008 ถือเป็นงานหายากระดับ “โคตรแรร์ไอเท่ม” ที่หลุดขึ้นมาจากส่วนที่ลึกที่สุดพิกัดหนึ่งใน Dark Web ตัวงานมีความยาวราว 17 นาที (17.08 นาที) แต่ปรากฏว่าหาแหล่งดูยากแบบที่สุดระดับต้นๆในโลกใบนี้ จนแปลกใจว่าภายในของ Death2Kuffar มีอะไรซ่อนไว้กันแน่ จึงถูกเอาไปแอบไกลลิบสุดขอบโลกซะขนาดนั้น
ได้รับงานชิ้นนี้มาแบบบังเอิญจากเพื่อนสมาชิกเพจท่านหนึ่งที่แอบสะกิดส่งให้ มันถูกปล่อยไว้ในบางพิกัดของเว็บใต้ดิน ก็นั่งดูนะ ดูจนจบ ไม่ยาวมากแค่ 17 นาทีเอง แต่เป็น 17 นาทีนรกที่อาจทำให้ใครหลายคนดูได้ไม่จบ ต้องรีบปิดหน้าจอคอมฯลงก่อน เพราะไม่สามารถทนกับภาพอันสุดแสนทารุณกรรม บ้าคลั่งภายในได้
“เพราะทุกคลิปภายใน Death2Kuffar คือของจริง 100% อืมมมม ก็นั่นแหล่ะ….”
Death2Kuffar / 2008 เปิดเรื่องด้วยภาพเหตุการณ์สุดสะเทือนขวัญในอดีต เหตุวินาศกรรม 9/11 เครื่องบิน 2 ลำถูกปล้นเพื่อใช้พุ่งชนตึกแฝดเวิลด์เทรดเซ็นเตอร์ในนิวยอร์ก (คลิปภาพตัดเอามาส่วนหนึ่งจากช่วง CNN Exclusive) หลังจากนั้นก็เป็นคลิปที่ถูกส่งต่อมาจากกลุ่มมุญาฮิดีน และก็อัลกออิดะห์ ที่ประกาศตนเองในคลิปว่า “Soldiers of Allah” ตามด้วยคลิปรวมๆแบบลากยาว ฆ่าตัดคอเชลย, ปืนยิงหัวกลุ่มเชลยทิ้ง, เอาอาก้ายิงหัวผู้หญิง, แล้วก็พวกคลิป Car bomb ใส่รถจิ๊บทหาร เวียนๆกันไปประมาณนี้จนจบชิ้นงาน
หลังดูจบ
มันเป็นงานที่หายากเอามากๆเลยนะ
แต่ อืมมมม…. ไม่พูดดีกว่า
****** อันดับ ( 10. ) Slow Torture Puke Chamber / 2010 (เจ้าตั๊กเเตนน้อยน่ารัก)
หนังต้องห้ามสัญชาติอเมริกันของ Director: Lucifer Valentine ที่วนเวียนอยู่กับการกินอ้วก ลบหลู่สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทางศาสนาแบบจัดเต็ม จึงไม่แปลกที่หนังเรื่องนี้จะถูกจัดเอาไว้ในเรตของ “หนังต้องห้ามแบบสุดขั้ว” ตลอด 76.21 นาทีในหนังเรื่องนี้จะนำพาท่านผู้ชมไปสู่วังวนแห่งความวิบัติอย่างแท้จริง หนังยกความสยดสยอง-อ้วกแตก นรกอันสะพรึงขุมที่อันตรายที่สุดมาไว้ตรงเบื้องหน้า และมีน้อยคนนัก….ที่สามารถทนดูหนังเรื่องนี้ได้จนจบ
****** อันดับ ( 9. ) Guinea Pig : Flower of Flesh and Blood / 1985 (ดอกไม้โลหิต)
ข้าพเจ้ารู้จักหนังในหมวดหมู่ของหนังต้องห้ามเรื่องแรกๆ ก็คือหนังเรื่องนี้ Guinea Pig : Flower of Flesh and Blood /1985 หนังสายต้องห้ามจากประเทศญี่ปุ่น ผลงานการกำกับของ Director Hideshi Hino หนังแนวใต้ดิน-นอกกระแสที่กล่าวขานกันว่ามีความรุนแรงเกินกว่ามนุษย์ปกติจะสามารถทนดูให้จบได้ Flower of Flesh and Blood นำเสนอเกี่ยวกับชายในชุดซามูไรดำกับเหยื่อสาวของมันที่กำลังถูกหั่นออกเป็นชิ้นๆอย่างสุดสยดสยองพองขนหัว
****** อันดับ ( 8. ) Snuff 102 / 2007 (อเวจี 102)
หนังอาร์เจนติน่าของ Director: Mariano Peralta หนังบอกเล่าเรื่องราวของนักข่าวสาว Yamila Greco ที่กำลังสืบค้นและออกตามหาสนัฟฟ์ฟิล์ม (Snuff Film1)ในแบบ Real Snuff Film ถ่ายจริง-ฆ่าจริง-ตายจริง ในประเทศอาร์เจนติน่า มันเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับนักฆ่านิรนามที่สังหารเหยื่อไปแล้วมากถึง 99 ศพ โดยนางไม่รู้มาก่อนเลยว่าเหยื่อคนที่ 102 คือตัวของนางเอง หนังมีฉากโหดร้ายทารุณกรรมแบบสุดๆ อาทิ ฉากทุบตี ทรมาน และชำแหล่ะสาวท้องแก่ออกเป็นชิ้นๆคาห้องทรมาน
****** อันดับ ( 7. ) Tumbling Doll of Flesh หรือ Niku Daruma / 1998 (ตุ๊กตาไม้ลอย)
หนังต้องห้ามจากญี่ปุ่นของ Director: Tamakichi Anaru นำเสนอเกี่ยวกับเรื่องราวของหญิงสาวที่ถูกทีมถ่ายทำหนัง AV หลอกมาทำการถ่ายทำ Snuff Film อีกต่อหนึ่ง หนังนำเสนอภาพสุดหวาดเสียวที่ “เหยื่อสาว” ถูกชำแหละออกเป็นชิ้นๆอย่างเต็มมุมกล้อง (หลายประเทศสั่งแบน ให้เป็นของอันตราย และห้ามนำเข้าโดยเด็ดขาด) หนังเรื่องนี้รุนแรงเอามากๆจนหลายประเทศสั่งแบนตลอดกาลมาแล้ว
****** อันดับ ( 6. ) August Underground’s Mordum / 2003 (สิงหาคลั่ง)
หนังโหดใต้ดินจากอเมริกา กำกับและเขียนบทหนังโดย Jerami Cruise, Fred Vogel และทีมงาน August Underground’s Mordum มันเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับการดำเนินชีวิตประจำวันของ 2 หนุ่มและ 1 หญิงสาวสติหลุด(แบบสุดๆ)ซึ่งถูกบันทึกด้วยกล้องวีดีโอที่ทั้งสามช่วยกันถ่ายทำขึ้นเป็นไดอารี่นรกประจำวันในบ้านหลังหนึ่งที่ห่างไกลผู้คน กับการถ่ายทำหนังแนว Snuff Films สุดชั่วร้าย อนึ่ง เรื่องนี้เคยเป็นสุดยอดหนังสุดเสื่อมตลอดกาลอันดับ 1 ของเว็บไซต์รีวิวเกม IGN ที่ทำโพลไว้เมื่อปี ค.ศ. 2006 ด้วยนะ
****** อันดับ ( 5. ) Terrible Meal / 1995 (สาวงูเหลือม)
หนังโคตรวิปริตสัญชาติญี่ปุ่นของ Director: Kaoru Adachi หนังที่เล่าลือกล่าวขานกันในตำนานว่ามีน้อยคนนักที่สามารถทนดูมันแบบรวดเดียวให้จบได้ ภายใน Terrible Meal / 1995 หนังนำเสนอเรื่องราวเกี่ยวกับหญิงสาวนางหนึ่งที่มีพฤติกรรมประหลาด เพราะนางชอบกินอ้วกเป็นชีวิตจิตใจ ไม่ว่าจะเป็นอ้วกของตัวนางเอง(ที่เพิ่งทำการล้วงคอ อ้วกออกมาแบบสดๆ) หรืออ้วกของคนอื่น ฉากในตำนานของหนังเรื่องนี้ก็สุดขั้วขนานแท้…. เราจะได้เห็นคนรักของนางกำลังอ้วกแตกออกมาสดๆ นางงูเหลือมรีบวิ่งเข้าหา อ้าปากรองรับอ้วกของเขาเข้าปาก เคี้ยว กลืนกินลงลำคออย่างอร่อย!!(อี๋ๆๆๆ แหว่ะๆๆๆๆๆๆๆ)
****** อันดับ ( 4. ) A Serbian Film / 2010 (ฟิล์มวิปลาส)
โคตรหนังสายต้องห้ามจากประเทศเซอร์เบีย ผลงานการกำกับของ Srdjan Spasojevic ที่สร้างหนังเรื่องนี้เพื่อโจมตีระบอบการปกครองภายในประเทศที่เป็นเผด็จการแบบสุดกู่ จึงไม่แปลกที่หนังเรื่องนี้จึงถูกรัฐบาลของประเทศเซอร์เบียแลผู้ปกครองสั่งแบนห้ามเผยแพร่โดยเด็ดขาดตลอดกาลมาแล้ว ใน A Serbian Film / 2010 หนังนำเสนอเรื่องราวของชายคนหนึ่ง ดาราหนัง x ตกอับที่ชีวิตพลิกผันให้ต้องมาเล่นหนังแนว Snuff Films แบบไม่ได้ตั้งใจ จนนำพาตนเองและครอบครัวไปสู่ความวิบัติชิบหาย
****** อันดับ ( 3. ) R73 - Snuff R73 (เสียงร่ำไห้จากก้นหุบเหวแห่งอเวจี!)
Snuff R73 (เสียงร่ำไห้จากก้นหุบเหวแห่งอเวจี!) หรืออีกชื่อหนึ่งคือ Necropedophiliac เชื่อว่าหนังเรื่องนี้ถูกสร้างขึ้นโดยกลุ่มคนที่มีภาวะซึมเศร้า-เจ็บป่วยทางจิตกลุ่มหนึ่ง โดยพวกเขา(และเธอ)เรียกชื่อกลุ่มว่า “Snuff R73” (ตามชื่อหนัง) ซึ่งกลุ่มนี้มีสมาชิกอยู่ราว 4-5 คน หนังสร้าง-ตัดต่อจนเสร็จระหว่างปี ค.ศ. 2014-2015 หนังตัวเต็มมีความยาวทั้งเรื่องประมาณ 11 นาที โครงเรื่องหลักๆใน Snuff R73 เน้นการนำเสนอภาพหลังอุบัติเหตุร้ายแรง-การถูกทำร้ายของเด็กๆจากหลากหลายเชื้อชาติ คล้ายคนตัดต่อชื่นชอบในการเสพฯเสียงหวีดร้องที่เจ็บปวดและทุกข์ทรมานเหล่านั้นเป็นภักษาหารอันเริงรื่น(หนังเฉพาะทางสำหรับคนบางกลุ่มอย่างแท้จริง) โดยคลิปสุดท้ายก่อนหนังจบเป็นอะไรที่รู้สึกได้ถึงความหวาดวิตกและสะเทือนใจเป็นที่สุด ภาพที่เห็นคือเด็กชายอายุราว 2-3 ขวบถูกชายคนหนึ่งทำร้ายจนสาหัส(น่าจะเสียชีวิตด้วย) เป็นภาพที่ตัดเอามาจากกล้องวงจรปิด ถ่ายไกลๆ แต่ก็ยังน่ากลัวอยู่ดี แล้วหนังก็ตัดจบไป (ทุกคลิปที่ว่ามานี่ คือของจริงหมด) #ถ้าไม่จำเป็นก็อย่าไปยุ่งกับมัน!!
****** หมายเหตุ ******
และนี่ก็คือผู้กล้าที่เคยผ่านมันมาแล้ว R73 (คอมเม้นต์เพียงส่วนหนึ่งจากเพจ : บ่อน้ำของซามาร่า)
คุณ Rittee Sumanee To-in : อ่านรีวิวแล้วไม่กล้าดูเลย งุงิ
คุณ Lavia DelCielo : ดูจบแล้วไปสอบเป็นกุมารแพทย์ได้ไหม?
คุณ Michael Wooantian : คลิปสุดท้ายนี่ไปโกรธใครมาวะนั่น
คุณ Ansoki Edison : เห็นอยู่ทุกวัน ก็ยังซี้ดๆ แต่คลิปสุดท้าย ตายจ่ะ ปิดก่อน ไม่ไหว
คุณ เอฟ-อ้อย เลื่อยสังหาร : เค้ากลัว
คุณ Todsapon Manpakdee : เปิดมา 5 วิ ปิดแทบไม่ทัน โหยยไม่ไหวครับ เหมาะกับสายแข็ง ไม่เหมาะกับมือใหม่เป็นอย่างยิ่งง
คุณ Ogam Neawpaya : เด็กกับสัตว์ขอข้ามคร๊าบบบบ ไม่หว๋ายยยย
คุณ Aem Carina : เรื่องนี้รู้สึกไม่กล้าแฮะ
คุณ Blackcat Pasit Auegusonsomboon : อ๋อ ไอ้นี่นี่เอง คำเดียวสั้นๆครับ "อย่าไปยุ่งกับมัน" ครั้งเดียวพอครับ ไม่แนะนำสำหรับคนอื่นๆด้วย...
คุณ Boom Sherlyn : โอ้ไม่นะ 10นาที จะวูปปป
คุณ Jakkapat Rudeeamonkiat : เอาเรื่องอยู่นะ5555 ตัดเเต่ละภาพ มีแต่เด็ก เเละคลิปสุดท้ายคือ ก็โหดอยู่ คือกระทืบ ด อะคนเดินผ่านก็ไม่ช่วยด้วย
คุณ Heron Alexandria : ดูไป 4 นาที สงสารเด็กอะไม่ไหว
คุณ JJ Lavenders : แค่เสียงเปิดมาก็สะดุ้งแล้วครับ มีใครมาสปอยให้หน่อยได้ไหม ไม่กล้าดู
คุณ Moobin Daechawang : สุด
คุณ Teeranika Wong : ใครไม่ชอบบาดแผลเหวอะหวะ ความรุนแรงกับเด็กก็อย่าไปดูเลยค่ะ ขอบคุณแอดมินที่หามาให้ดูนะคะ
คุณ Akkarawat Ko : โอ้ เกรดเดียวกับ MDPOPE เลยเหรอเนี่ย สงสัยต้องลัดคิวละ (ดองหนังไว้เยอะเลย)
คุณ ธนภัทร ไชยรบ : ดูจบเรียบร้อยส่วนตัวผมเองก็ถือว่าดูได้อยู่ แต่ขอเตือนไว้นะครับถ้าหากใครรับไม่ได้กับพวกคลิปเกี่ยวกับเด็ก "อย่าได้เปิดดูเป็นอันขาด" แล้วก็ขอขอบคุณ แอดมินด้วยนะครับที่หามาให้ดู
คุณ Yutthaphon Tang : คลิปสุดท้ายของหนังคือ....... บรรยายอะไรไม่ได้เลยจริง
สมกับคำว่า #ไม่จำเป็นก็อย่าไปยุ่งกับมัน
คุณ Thosavorn Thavornjit : สงสารเด็ก เลยเรื่องนี้
คุณ Veeradesh Pinsanor : โอย ไม่ไหว เจ้าข้าเอ้ย
คุณ Sodtikul Peemii Mahattanakul : เคยเห็นมาบ้างแบบแยกๆ แต่พอเอามารวมกันแล้วดูรวดเดียว10นาทีก็ไม่ไหวเหมือนกันนะ
คุณ Nathawat Praseeratesang : ภาพดุใช้ได้เลย ถ้าเป็นคนเคยทำงานห้องฉุกเฉินอาจจะรู้สึกปกติ แต่ถ้าใครแพ้ภาพพวกแผลฉีกขาดกับเสียงโหยหวนของเด็กนี่ไม่ไหวแน่ๆ
คุณ สุรสิงห์ แก้วเศษ : ภาพพอทน แต่เสียงนี่ไม่ไหว
คุณ Mild Vipavee : หงุดหงิดคลิปสุดท้ายแบบสุดๆ
คุณ คุณากร แซ่ลิ้ม : ไม่แนะนำให้ดูเลยละมึง กูดูไป 20 วิ ปิดเลย
คุณ Aphakorn Chitlertworawong : ที่มันอยู่หลุม8เพราะมันเกี่ยวกับเด็กล้วนๆ นี่แหละมั้ง
คุณ Mod Thanathorn : มีลูกเล็ก ๆ อยู่ครับ
ขอผ่านละกันฮะเรื่องนี้
คุณ Thewarit Plumsamran : ไม่ไหว ดูได้ 2 นาที ปิดเลย
คุณ Kantapasits Phutanasupong : สุด
คุณ Pee Sakda : สงสารเด็ก ไม่ไหว
คุณ Worapat Noksuk : สุดตรีนอลังการครับ คนรักเด็กห้ามบอกเลย
คุณ Annarisza Nariszami : เมื่อก่อนรับได้ทุกรูปแบบ แล้วห่างหายทางเรียลสนัฟฟิล์มเกือบ10ปี แต่คือเรื่องนี้เป็นเรื่องที่เชื่อว่าหลายคนในวงการตามหากันมาตลอด ทำใจดูจนจบแทนคำขอบคุณที่แอดอุตส่าห์ไปขุดจนเจอ และความเห็นเสียงเดัยวกับแอดคือ ปล่อยให้มันหายไปตลอดกาลดีที่สุด
****** อันดับ ( 2. ) Salo the 120 Days of Sodom / 1975 (สุขนาฏกรรมอเวจี)
นี่คือหนังสายซาดิสต์ทรงพลังที่สุดในโลกใบนี้ตลอดกาล!
นี่คือหนังทรงพลานุภาพที่สุดในโลกใบนี้ตลอดกาล ตราบเท่าที่มวลมนุษยชาติรู้จักนิยามความหมายของคำว่า “ซาดิสต์”
Salo the 120 Days of Sodom (สุขนาฏกรรมอเวจี/120 วันในโซดอม)
ศักดิ์ศรีความเป็นคน มีไว้…ให้เหยียบย่ำ!
หนึ่งร้อยยี่สิบวันอันแสนทรมาทรกรรมในเมืองซาโล นรกทั้ง 3 ขุม ซึ่งมันก็คือเกมที่ผู้ทรงอิทธิพลในสังคมคนชั้นสูง-นายทหารเขาเล่นกันเพื่อตอบสนองกิเลส-ตัณหาส่วนบุคคล เสียงเปียโนของโชแปงดังแว่วบรรเลงขานขับสอดประสาน เราจะมารับประทานอุจจาระกันอย่างเริงรื่น กลิ่นคาวเลือดช่างหอมกรุ่นแดงฉานสว่างไสว เสียงหวีดร้องที่ชวนสะเทือนใจ คือความบันเทิงเริงใจของพวกข้า
Salo the 120 Days of Sodom หรือในชื่อภาคภาษาไทยว่า “สุขนาฏกรรมอเวจี” บ้างก็เรียก “120 วันในโซดอม” เป็นหนังร่วมทุนสร้างระหว่างประเทศอิตาลี และฝรั่งเศส สร้างเสร็จสมบูรณ์ราวปี ค.ศ.1976 ด้วยความยาว 116 นาทีโดยประมาณ Salo the 120 Days of Sodom เขียนบทและกำกับโดย Pier Paolo Pasolini สถานที่ถ่ายทำหนังใช้ที่ Salo, Brescia, Lombardia, Italy เล่าลือว่า Pier Paolo Pasolini ผู้กำกับหนังเรื่องนี้ดัดแปลง-สร้างหนังมาจากบทนิยายอันลือลั่นต่อศีลธรรมของ มาร์กีส์ เดอ ซาด (Marquis De Sade Marquis De Sade) เรื่อง Les Cent-Vingt Journees De Sodome หรือ I' Ecole du libertinage (โรงเรียนของผู้รักอิสระ)ซึ่งเขียนเสร็จสมบูรณ์ในปี ค.ศ.1785
เล่าถึง มาร์กีส์ เดอ ซาด นักเขียนชาวฝรั่งเศสต้นตำรับแห่ง Salo ส่วนใหญ่รู้จักกันในนาม Marquis De Sade สำเนียงฝรั่งเศสเรียกว่า “โดนาเตียง อัลฟงส์ ฟรองซัวส์ เดอ ซาด” หรือ “Donation Alphonse Francois De Sade” มีชื่อเล่นว่า “มาร์กีส์จอมเทพ” หรือ “Divine Marquis” มีชีวิตอยู่ในระหว่างปี ค.ศ.1740-1814 ชื่อของ มาร์กีส์ เดอ ซาด (Marquis De Sade)นี้เองเป็นรากศัพท์ของคำว่า “ซาดิสม์” (Sadism) งานเขียนส่วนใหญ่ของมาร์กีส์ เดอ ซาด จะออกแนวปรัชญา-กามารมณ์ที่รุนแรงเร่าร้อน การทำลายกรอบคิดของศาสนา ศีลธรรมจรรยาอันดีงาม มุ่งเสรีภาพแบบสุขารมณ์ส่วนตัวเป็นใหญ่สุดโต่ง อาทิ บทประพันธ์เรื่อง Dialogue entre un pretre et un moribund หรือ เรื่องบทสนทนาระหว่างนักบวชกับคนใกล้ตาย เรื่อง Les Infortunes de la vertu หรือ เรื่องผู้โชคร้ายทางจรรยา และเรื่อง La La Philosophie dans le boudoir dans le boudoir หรือ เรื่องปรัชญาในห้องพักอารมณ์(ภาษาอังกฤษใช้Philosophic ส่วนภาษาฝรั่งเศสใช้ Philosophie) แต่เรื่องที่สร้างชื่อเสียงให้ มาร์กีส์ เดอ ซาด มากที่สุดคือเรื่อง Les Cent-Vingt Journees De Sodome หรือที่รู้จักกันในนาม I' Ecole du libertinage (โรงเรียนของผู้รักอิสระ) ซึ่งต่อมา Pier Paolo Pasolini ได้ดัดแปลงเป็นหนังคือเรื่อง Salo the 120 Days of Sodom ซึ่งได้รับการยอมรับกันว่าเป็นหนังอันตราย วิตถาร เสียดสีสังคม จัดเป็นหนังแนวซาดิสม์ที่สร้างจากนวนิยายที่โด่งดังที่สุดเท่าที่มวลมนุษยชาติเคยมีมา โดยจากการศึกษาอัตชีวประวัติของมาร์กีส์ เดอ ซาด พบว่าเขาสร้างงานเขียนส่วนใหญ่ราว 29 ปีในโรงพยาบาลบ้า(มาร์กีส์ เดอ ซาด ถูกทางการจับขังไว้ในโรงพยาบาลบ้าด้วยเหตุผลบางประการ)
Salo the 120 Days of Sodom (สุขนาฏกรรมอเวจี/120 วันในโซดอม) เล่าเรื่องเกี่ยวกับผู้ปกครองระบอบฟาสซิสต์นายทหารผู้เรืองอำนาจทั้ง 4 ได้ออกคำสั่งให้จับวัยรุ่นหญิง-ชาย ลูกชนชั้นกลางหน้าตาดี 18 คนมาคุมขังไว้ยังคฤหาสน์ใหญ่หลังหนึ่งที่เรียกชื่อว่า Salo ซึ่งมันก็คือโลกส่วนตัวของผู้ยิ่งใหญ่ทั้ง 4 ประหนึ่งวิมารหลังน้อยที่พวกเขาและเธอจะสามารถกระทำย่ำยีอย่างไรก็ได้กับบรรดาเหยื่อผู้เคราะห์ร้ายทั้งหลาย สร้างเป็นนรกในวงวนแห่งความหายนะทั้งสาม ดังนี้
1. Circle of Manias (วงวนแห่งความเพ้อคลั่ง) นำเสนอวัยรุ่นหนุ่ม-สาว ที่ต้องกระทำการตามคำสั่งของผู้ปกครองระบอบฟาสซิสต์นายทหารผู้เรืองอำนาจทั้ง 4 อย่างสุดวิตถาร การเปลื้องผ้า การเล่าประสบการณ์ทางเพศที่แสนวิปริตร่วมกัน การดื่มน้ำปัสสาวะสด การมีเพศสัมพันธ์แบบหมู่ชาย-หญิง การมีเพศสัมพันธ์แบบขบวนรถไฟ(หญิง-ชาย-ชาย) เซ็กซ์วิปริต พิธีแต่งงานเปลือย และการดำรงชีพแบบสุนัข เป็นต้น
2. Circle of Shit (วงวนแห่งอุจจาระ) ฉากเด่นอันแสนชวนอาเจียนในตอนนี้ก็คือฉากกินอุจจาระของผู้ปกครองระบอบฟาสซิสต์นายทหารผู้เรืองอำนาจทั้ง 4 เหยื่อวัยรุ่นหนุ่ม-สาว และบรรดานายทหารน้อยใหญ่ทั้งหลาย อุจจาระ (ขี้) ของเหยื่อถูกตักมาจากภาชนะรองรับ นำเข้ามาในครัวเพื่อทำอาหารเลี้ยงรับรองชั้นเลิศ ซึ่งฉากนี้เองถือเป็นฉากในตำนานของหนังเรื่อง Salo the 120 Days of Sodom ที่กล่าวขานกันไปทั้งโลกในเรื่องของความวิปริตแบบสุดขั้ว
3. Circle of Blood (วงวนแห่งคาวโลหิต) ฉากจบอันแสนสะพรึงของหนังเรื่องนี้ นำเสนอกรรมวิธีการทรมานเหยื่อวัยรุ่นหนุ่ม-สาว อย่างโหดเหี้ยมอำมหิตผิดมนุษย์ ไล่ตั้งแต่จับมัด ตัดลิ้น ตัดอวัยวะบางส่วนของร่างกาย แขวนคอ ฯลฯ
เล่าถึงผู้กำกับ Pier Paolo Pasolini (ปีแอร์ เปาโล พาโซลีนี) ผู้กำกับสุดแรงของหนังเรื่องนี้ Pier Paolo Pasolini เป็นชาวอิตาลี มีชีวิตอยู่ระหว่างปี ค.ศ.1922-1975 แหล่งข่าววงในใกล้ชิดกับพาโซลีนีรายงานว่า พาโซลีนีเป็นคนที่ไม่ได้ศรัทธาในศาสนา หรือแม้แต่ขนบธรรมเนียมโบราณที่มีมาแต่เก่าก่อน คือทำหนังตามแต่ใจของตนเองเป็นหลัก พาโซลีนีกำกับและสร้างหนังแรงๆมาหลายต่อหลายเรื่อง อาทิ หนังชุด Trilogy of Life (ไตรภาคแห่งชีวิต) และหนังสุดอื้อฉาวอีกเรื่องคือ Gospel According to ST. Matthew หนังภาพขาว-ดำในปี ค.ศ.1964 หนังเรื่องนี้เองกล่าวถึงพระคัมภีร์ พระคริสต์ ศาสนา หลักธรรมคำสั่งสอน รวมถึงความทุกข์ทรมานของพระเยซูที่ถูกจับมัดตรึงกางเขน แต่ที่ว่ากันว่าเป็นฉากที่แรงแบบสุดกู่ของหนังเรื่อง Gospel According to ST. Matthew ก็คือฉากที่พระเยซูต้องมีเพศสัมพันธ์กับสุกร(ฉากนี้เองที่ผู้ศรัทธาชาวคริสต์ทั้งโลกถึงกับขู่ที่จะฆ่า พาโซลีนีมาแล้ว)โดยหนังเรื่อง Salo the 120 Days of Sodom ถือเป็นหนังที่สร้างชื่อเสียงให้แก่พาโซลีนีที่สุดและยังถือเป็นหนังเรื่องสุดท้ายที่เขากำกับจนเสร็จสมบูรณ์ก่อนถูกฆ่าตายอีกด้วย Pier Paolo Pasolini กล่าวถึงการสร้างหนังสุดอื้อฉาวเรื่องดังกล่าวว่า “ปีแอร์ เปาโล พาโซลีนี : ผมเชื่อว่า การสร้างเรื่องอื้อฉาว เป็นหน้าที่ของศิลปิน เรื่องราวเหล่านี้นำมาซึ่งความปิติยินดี การปฏิเสธมันก็เท่ากับเป็นการปฏิเสธศีลธรรมที่สั่งสมกันมาชั่วนาตาปี” (คำกล่าวของ ปีแอร์ เปาโล พาโซลีนี จากเว็บไซต์ http://www.dvdcanfly.com/?name=knowledge&file=readknowledge&id=292)
การตายอย่างมีเงื่อนงำของ Pier Paolo Pasolini เป็นที่กล่าวขานกันว่าเพราะมาจากการที่เขาสร้าง Salo the 120 Days of Sodom วันอันแสนเศร้า 2 พฤศจิกายน ปี ค.ศ.1975 (รวมสิริอายุได้ 53 ปี)ที่เมือง Ostia, Rome, Italy หลังจากหนังสุดอื้อฉาวแห่งมวลมนุษยชาติ Salo the 120 Days of Sodom ได้เข้าฉายในโรงภาพยนตร์ไม่นานปรากฏผู้กำกับคนดังก็มาเสียชีวิตอย่างกะทันหัน เล่าลือกันว่าพาเซลีนีถูกฆาตกรรมจากสาเหตุที่พวกฟาสซิสต์ไม่พอใจที่มีการสร้างหนังเรื่องดังกล่าวขึ้นมา โดยเชื่อกันว่าฆาตกรอาจเป็นเด็กวัยรุ่นชายอายุ 17 ปี ชื่อ Giuseppe Pelosi ได้แอบขโมยรถยนต์ของพาโซลีนี แล้วขับพุ่งชนผู้กำกับเคราะห์ร้ายจนล้มลง จากนั้นจึงขับรถทับพาโซลีนีไปมาหลายครั้งจนถึงแก่ความตาย Giuseppe Pelosi ถูกจับและให้การพาคเสธตลอดข้อกล่าวหาประจวบเหมาะกับพยานและหลักฐานที่ไม่เพียงพอจึงส่งผลให้ไม่มีการดำเนินคดีใดๆต่อ Giuseppe Pelosi จนหมดอายุความ สุดท้ายเพื่อนของพาโซลีนีชื่อ Sergio Citti ระบุว่าพาโซลีนีอาจถูกฆาตกรรมจากพวกกรรโชกทรัพย์ขโมยแผ่นฟิล์มเรื่อง Salo ก็เป็นได้ หรืออาจจะเป็นการจัดฉากของพาโซลีนีเองเพื่อเขาจะได้ตายอย่างทรมานแสนสาหัส กลายเป็นผู้สร้างตำนานสุดวิปริตแห่งโลกภาพยนตร์ในที่สุด
*เกร็ดเล็กๆเกี่ยวกับ Salo the 120 Days of Sodom : นี่คือหนังสยองขวัญที่ผู้กำกับถูกคนดูตามมาฆ่าจนตาย เพราะไม่พอใจที่มีการสร้างหนังเรื่องนี้ขึ้น : Director-Pier Paolo Pasolini และ salo the 120 days of sodom / 1975(สุขนาฏกรรมอเวจี)
ว่ากันว่ามีหลายเหตุ และปัจจัยต่างๆที่ทำให้ผู้กำกับชื่อก้องโลกชาวอิตาเลี่ยนคนนี้ Director-Pier Paolo Pasolini ถูกฆ่าตาย
บางคนก็ว่า เพราะตัวผู้กำกับเองเป็นกลุ่มคนรักร่วมเพศ เลยทำให้คนเคร่งศาสนาไม่พอใจ
บ้างก็ว่าเป็นคดีฆาตกรรมเพื่อประสงค์ต่อทรัพย์
แต่ที่เป็นที่ฮือฮาที่สุด ก็คือ เรื่องเล่าที่ว่า มีกลุ่มคนดูขู่ฆ่าผู้กำกับ เพราะผู้กำกับดันไปสร้างหนังที่ขัดต่อศีธรรมแบบชนิดกู่ไม่กลับ หนังเรื่องนั้นมีชื่อว่า salo the 120 days of sodom / 1975
สุดท้ายมีการข่มขู่ ห้ามสร้าง ห้ามฉาย ห้ามเผยแพร่ (ไม่งั้นจะฆ่าให้ตาย)
ปรากฏ หลังหนังสร้างเสร็จ ผู้กำกับ ยักไหล่ (บอกกุไม่สน)
กลุ่มคนดังกล่าวเลยตามมาฆ่าผู้กำกับจริงๆ (แล้วก็ตายจริงๆด้วย)
ศพของ Director-Pier Paolo Pasolini ถูกพบเมื่อเวลา 06.00 น. ของวันอาทิตย์ที่ 2 พฤศจิกายน พ.ศ. 2515 (1972) ที่เมืองๆหนึ่งในอิตาลี
ว่ากันว่าผู้กำกับถูกใครคนหนึ่ง หรือหลายคน ใช้รถยนต์พุ่งชน จากนั้นก็ขับเหยียบศรีษะ แล้วทับร่างซ้ำๆไปราว 10 กว่ารอบจนสมความแค้น
อาจจะเป็นผู้กำกับเพียงคนเดียวในโลกใบนี้(มั๊ง) ที่่ถูกฆ่า เพราะหนังที่เขาสร้างขึ้นมา
**** อนึ่ง salo the 120 days of sodom / 1975 ถูกสร้างโดยดัดเเปลงมาจากบทประพันธ์ที่ชื่อ Les Cent-Vingt journées de Sodome (หนึ่งร้อยยี่สิบวันที่โซโดม) หรือ l’École du libertinage (โรงเรียนของผู้รักอิสระ) หนังสือเล่มนี้ถูกประพันธ์ขึ้นในโรงพยาบาลบ้า โดย มาร์กี เดอ ซาด (บิดาแห่งผู้ให้กำเนิดคำว่า “ซาดิสม์” คนแรกในโลกใบนี้)
****** อันดับ ( 1. ) Most Disturbed Person On Planet Earth / 2013 (MDPOPE)- (บิกแบงแห่งอเวจีและโลกันต์มหานรก!!)
ไม่ทราบประเทศที่ผลิต ผู้กำกับคือ Thomas Extreme Cinemagore(ใช้ชื่อปลอม / ไม่รู้ว่าคือใคร หญิง หรือชาย หรือเพศทางเลือก) นับเป็นปีที่ 3 ติดต่อกันแล้วที่ MDPOPE สามารถยึดตำแหน่งหนังสยองขวัญที่อันตรายและน่ากลัวที่สุดในโลกใบนี้เอาไว้ได้อย่างไร้ผู้ท้าชิง มันคือหนังที่รวบรวมสิ่งที่น่ากลัวที่สุด มนุษย์ยำเกรงที่สุด ใน Dark Web และในโลกใบนี้มายำรวมเข้าไว้เป็นหนึ่งเดียว เพื่อสร้างให้หนังเรื่องนี้ “ทรงพลังที่สุด มีอำนาจในการทำลายล้างสูงสุด และอันตรายอันดับหนึ่งในพื้นพิภพ” เล่าลือกันว่าถ้าใครสามารถทนดูมันแบบรวดเดียวจบได้โดยไม่ต้องหยุดพัก ให้เรียกตนเองว่าเป็น…. “ยอดมนุษย์” ได้เลย!!!
****** คำเตือนสุดท้ายสำหรับคนที่อยากลองของ
ใจไม่แข็ง-มีโรคประจำตัว-เด็ก-สตรีมีครรภ์-คนชรา-ผู้เคร่งในศีลธรรม….งดหามารับชมโดยเด็ดขาด เพราะท่านอาจตายได้! ส่วนใครสายแข็ง อยากลงนรกนรกโลกันต์สักครั้ง ขออวยพรครับ ดูจบ….ขออย่าตายคาหน้าจอคอมฯไปเสียก่อนนะเออ (โชคดีครับผม)
และนี่ก็คือคอมเม้นท์เพียงส่วนหนึ่งของนักดูหนังสยองขวัญ…ที่ครั้งหนึ่งเคยได้เผชิญหน้ากับมัน Most Disturbed Person On Planet Earth / 2013 (MDPOPE) (* คอมเม้นท์เพียงส่วนหนึ่งจากสมาชิกเพจฯ : บ่อน้ำของซามาร่า / และจากเว็บบอร์ด soccersuck )
คุณ Uncen Sored “พึ่งปิดมะกี้ไม่รู้จะเอ่ยคำว่าอะไร ผมคิดว่าผมแข็งแล้วนะ.. ผมยังกล่าวขอโทษชีวิตตัวเองทุกๆชั่วโมงไม่หยุดอยู่เลยที่เข้าไปดู ดูไม่จบจริงๆ ไม่ไหวกุจะร้องไห้แล้วเนี่ยย”
คุณ Bowvy On Street “สะเทือนใจมากกก ติดตา นอนไม่หลับเลยค่ะ”
คุณ Rattapol Tony Mheekouloak “ใครมีโรคประจำตัวเป็นแพนิคหรือโรคเครียดอย่าดูเลยจริงๆขนาดดูแบบข้ามๆดูไม่จบยังต้องหาพารามากินเลย”
คุณ Wijak Metchanan “ยอมครับ ดูไม่จบ”
คุณ Narawit Apithamma “สุดจริง”
คุณ Dew Tanapon “สุดจริง บาง เหตุการณ์ แสดงถึงความต่ำตม แบบสุดๆ”
คุณ Rujjapan Jariyajindasatain “ถอยก่อนครับ หายใจไม่ทั่วท้อง”
คุณ ViVee Zenith “ดูจบแล้ว ไม่ขอบรรยายความรู้สึกนะ มีหลากหลายมาก............อืมมมมมมม นะ”
คุณ Rutta Nupharp Uncen Sored “ผมก็ยังบ้าดูจนจบ... ตอนนี้รู้สึกเหมือนของในท้องมันจุกอยู่ตรงคอ...”
คุณ Techatat Rojnwatham “กว่าจะจบ 2 ชั่วโมงกว่าๆ มันทรมานมากก”
คุณ Local Inn “ผมว่าสุดๆคือจุดไฟเผาให้ตายทั้งเป็น ตอนดูจิตนาการว่าถ้าเป็นเราจะทรมานไหน”
คุณ Pary Pary “โหโหดสุดจิง เพื่อนสมาชิกเรา ยังดูแล้วอ้วกแตก นับถือๆๆๆๆสายโหดทุกท่านน”
คุณ Olives Man “โหดเกิน เห็นตอนจับแมวมาตกฉลาม พอเลยปิด ผมทาสแมว รับไม่ได้”
คุณ D'Kaiser Tapanapong “ใครยังไม่ได้ดูแล้วอยากดู แนะนำว่าทำท้องให้ว่าง(เดี๋ยวอ้วก) ปล่อยวางจิตใจ เอาคุณธรรมในใจอันแสนดีวางไว้บนหิ้ง แล้วก็เริ่มได้!! ปล.ขอย้ำอีกทีภาพนี้เป็น ภาพจริงไม่ได้ถ่ายทำ คนที่เห็นในภาพ ก็เป็นคนจริงๆไม่ใช่ตัวแสดง”
คุณ Jirayu Thaisawas “แค่เปิดมาคลิปแรกก็ช็อคละครับ 5555”
คุณ น้ำตาลทรายขาว หอมมะลิ “ถ้าบอกเลิกดูแล้วกลับไปหา guinie pig นี่คือ...ยอมแล้วแม่จ๊าาา”
คุณ Bo Chaw “แค่คิดก็สยองกับความวิปริตของคนจริงๆ (ไม่อยากเรียกว่ามนุษย์ )”
คุณ PK Imp “แค่ภาคแรกนี่ก็ข้ามรัวๆ แต่มันน่าลองดูจริงๆ”
คุณ Ezio Jrz “ภาค 1 ก็สุดแล้วนะ….”
คุณ Niphon Saengtrichapoh “ดูภาคแรกจบก็ค้างไป 3-4 วันแล้ว….”
คุณ Rutta Nupharp “ดูพาร์ท 1 จบแบบอึนๆ...เรื่องสยองในนั้นเชื่อว่าผ่านตาหลายคนมาแล้ว น่าจะพอรับกันได้...แต่เรื่องการละเล่นกับ #มวลสสาร นี่แหละ ที่อาจจะทำให้หลายคนไม่ไหว...”
คุณ Bamboo Bamboo “ทำร้ายจิตใจมากกก….”
คุณ แม่ไม่ให้โกนหนวดเดี๋ยวหน้าหวาน ธานีวรรณ “ยอมรับครับภาคแรกยังดูไม่จบครับ”
คุณ Arpawan Boonchalakunkoson “ดูและ แต่ไม่จบ คือมันกระอักกระอ่วน จับต้นชนปลายไม่ถูก มีทุกอรรถรสจริงๆ เอื้ออออออ”
คุณ Tasnim Pathan “อยากดู..แต่ยังไม่อยากตาย”
คุณ Song Kanin “ดูไปแค่ 5 นาที พอเลยครับ”
คุณ Purimpruch Boorayothin “กรี้ดดดดดด นอนไม่หลับนึกได้ว่าปักหมุดว่ายังไม่ได้ดูเรื่องนี้ เลยเปิดดู ถามว่าจะนอนต่อได้ยังไงฮือออออ”
คุณ Tang Tang “กดข้ามๆดูยังจะอ๊วกเลยครับ รับได้หมดครับยกเว้นกิน..ข.. แต่ที่จำได้ติดตาคือหนังยางรัดไข่ 55555”
คุณ Jingcheng Cheng Guan “โอ้ยกว่าจะดูจบมวนท้องมากๆ”
คุณ Pichet Max “ยอมครับดูได้แค่1ชม.กว่าเอง ไม่ไหว”
คุณ Kraisit Okp “ดูแล้ว แบบผ่านๆ สรุปคือเอาคลิปเหตุการณ์จริงมารวมกัน โหดจริงๆ แหวะจริง ใครไหวดูเลย 2 ชมกว่า ส่วนนี่ ขอบาย 55”
คุณ ปริพล บุญทัน “กินเยี่ยวว่าโหดแล้ว 3 นาทีแรกลืมเหนียวเรียนไปเลย”
คุณ Torres Torres Fernando “เลื่อยไฟฟ้าตัดคอคนเป็นๆ เอาลูกแมวมาเป็นหยื่อตกปลา เผาคนทั้งเป็น ย่อๆครับ มีอีกเพียบด้านมืดอย่างเยอะ แล้วก็ความอัปปรีย์จัญไรในตัวคน โห สาธยายไม่หมด ต้องไปดูเอง55”
คุณ ธเนศ พรหมด้วง “ดูแล้ว กรอผ่านๆ ยอมครับ”
คุณ Mushroom Head “สุดจริงๆ ฉากเหวี่ยงนี่อึ้งเลยครับ”
คุณ Saranpat Hattawigit “40 นาทีพอละ ไม่ไหว 555”
คุณ กฤชชลัช ผู้เคร่งครัดในศีลธรรม “ไม่ใช่เล่น ๆ เลยครับ ยอม ๆ ปรกติจะดูแบบเงียบ ๆ อันนี้ถือว่าหนัก”
คุณ Aekkarat Da Faq Desuka “ใครดูจบนี้ก้าวข้ามความกลัวได้สุดๆอะ”
คุณ Isoon “โอ้ยตายแล้ว ข้ามไปข้ามมา สุขภาพจิตดิ่งมาก”
คุณ Supote Thirapote “คนตัดต่อมึงต้องเป็นคนแบบไหน หนังเหี้ยมากๆ เสื่อมสุดๆ ยอมแพ้”
คุณ Oat Sutisak “ดูได้สองนาที ไม่ไหวเลย โบกมือบ๊ายบายยยยยย”
คุณ ไม่มี อีกแล้ว “ไปดูมาแล้วครับ....ไม่จบครับ...หมดคำจะบรรยาย”
คุณ codenameq “ดูไปหน่อย มันของจริงนี่หว่า โหดฉิบ”
คุณ Peerapong Bubphapuang “นี่เป็นหนังเรื่องเดียวที่ผมดูไม่จบเลยนะ หวังว่าถ้าดูจบสติจะไม่อ๊องนะ อิอิ”
คุณ Yoleez Eiei “โหดจัดโหดจริง เคยดูไปนิดนึงต้องปิดเลย แต่ยังชอบแนวนี้อยู่ดี แค่ไม่กล้าดู 55555”
คุณ Tgm Muffler “ต้องเจอซักฉากที่เราทำใจลำบากที่จะเบิ่งตาดู
ดูจบหมดแล้ว การทรมานสัตว์คือจุดที่พาผมดิ่งสุด ที่เหลือดูได้ปกติ แต่ละคนจะมีจุดที่ทำให้เราดิ่งไม่เหมือนกัน แต่มั่นใจเรื่องนี้จะขุดไปในขั้วหัวใจของทุกคนแน่นอน แค่จะไปกระตุกต่อมด้านไหนแค่นั้น”
คุณ Kitsada Thongkam “ผมดูแล้วครับ ใครอยากดูทักมา….
แนะนำว่าคนรักเด็กหรือรักสัตว์ อย่าหาดูนะครับ
ขนาดผมเจอฉากแมวไปเฉยๆ ฉากเด็กเฉยๆ [น่าจะมาจากภาพไม่ค่อยชัด + กดข้ามรัวๆ] ทนดูไม่จบครับ ได้ครึ่งเรื่อง เหมือนมีอะไรดันขึ้นมาที่คอ (บางฉากภาพก็ชัดเกิ๊น) ว่าจะนอนตอนบ่าย กลายเป็นนอนไม่หลับไปละครับ”
คุณ Vachiraphong Kob “ดูจบหมดไปนานแล้ว สรุปทั้ง3ภาคส่วนใหญ่จะรวมคลิปโหดๆวิตถารที่ตัดมาบางส่วนเคยออกข่าวและมีในหนังโป้ก็มี ง่ายๆ แหล่งรวมคนเพี้ยนๆ ส่วนตัวพวกคนในคลิปส่วนใหญ่แม่งมีอาการทางจิตขั่นรุนแรง ชอบความเจ็บปวด บางคนชอบเห็นเลือดชอบเห็นแววตาความสิ้นหวังของคนโดนกระทำแล้วสะใจก็มี พวกนี้แม่งป่วยขั่นหนัก
คำเตือนจิตไม่เเข็ง อย่าดู รับรองผวาไปหลายวัน”
คุณ อสรพิษ อเมซอน “เป็นหนังที่รวมความน่ากลัวความวิปริตวิตถารของมนุษย์ไว้เลย หนังมีสามภาค ภาคนึงก็หลายชั่วโมง แถมส่วนใหญ่ก็เป็นคลิปจริง ทำให้รู้เลยว่าคนเรามันผิดเพี้ยนได้ขนาดนี้ มันน่ากลัวตรงที่ทีมงานสามารถหาคลิปเหล่านี้มารวมกันได้จนเป็นหนังถึงสามภาค เราไม่รู้เลยว่าในชีวิตจริงเราอยู่ร่วมกับคนที่มีพฤติกรรมแบบในคลิปมั้ย มนุษย์เรานี่น่ากลัวสุดแล้ว หนูจบสามภาค แต่ก็ไม่เคยดูซ้ำอีกเลย แต่ถ้ามีภาค4มาก็จะดู5555555555”
คุณ หมวย งอแง “ถึงนี่จะดูจบ แต่ก็ไม่เชิงจบจริงๆ ข้ามพวกทรมานสัตว์ไปหมด ทำใจไม่ได้จริง ยังไม่แข็งพอ เซนซิทิฟกับการทีทรมานสัตว์มาก”
คุณ Aem Carina “เท่าทีาดูภาคแรกมานะครับ (ภาค2-3 ดูต่อไม่ไหวเอฟเฟคแรงมาก) มันคือศูนย์รวมความต่ำตมของมนุษย์ที่ผมไม่เคยเห็นชัดขนาดนี้มาก่อน”
คุณ Jann Uary “รุนแรงเหลือเกิน ดูได้ 30 นาทีค่ะ ฉากที่ผู้ชายนั่งทับขวดแก้วแล้วเเตก ได้ถึงแค่นั้นเลย”
คุณ Pawanrat Chirapattanarat “บอกเลยว่าถ้าไม่ใจแข็ง อย่าหาดู ไม่งั้นคุณเป็นบ้าแน่ๆ รับประกันเลย นี่ใจแข็งดูได้ถึง 10 นาทีก็จะหลุดอยู่แล้ว ต้องไปหายาแก้เครียดกินเลย”
คุณ Florence Iamsila “ดูไม่จบครับ โหดเหี้ยมเกิน”
คุณ Roger Divingman “มันคือไซยาไนท์ดีๆนี่เอง”
คุณ นัท มิลเลอร์ “อ้วกจะพุ่ง นาทีเดียวพอ”
คุณ วรปรัชญ์ เลี้ยงบำรุง “เคยดูไตรภาค MDPOPE จบเมื่อ 3 ปีก่อนและเราไม่เสียใจที่ลืมฉากต่างๆในหนังเรื่องนี้ ยกเว้นความปราถนาเดียวหลังดูเสร็จที่จำได้ คือ #ครั้งเดียวพอ”
คุณ Thosavorn Thavornjit “ดูจบทั้ง3ภาค แต่ขอแค่รอบเดียวพอ ไม่อยากกลับไปนั่งอึน เหมือนครั้งก่อน”
คุณ panzadit1 “99% หนักๆทั้งนั้นโอ้ยติดตาจริงโว้ย”
คุณ Glamorous_Sky~* “ด้วยความที่ผมผ่านหนังโหดอย่างซีรี่ย์หนูทดลองมาหมดแล้ว แม้แต่ Serbian film , SALO ก็ทำอะไรผมไม่ได้ สามารถดูจนจบได้อย่างไม่ค่อยชิวนักเพราะมันยังตั้งอยู่บนพื้นฐานความเป็นภาพยนตร์ เลยเสาะหาและเปิดคลิปภาคแรกของ MDPOPE ออกดู สารภาพว่า นี่มันไม่ใช่หนังแล้วโว้ยไอหอกหัก มันคือการตัดต่อทุกอย่างที่โคตรวิปราศ ขยะแขยง ทารุณ เต็มไปด้วยความรุนแรงที่โคตรสุด จนทำให้ไอพวกชื่อหนังด้านบนนั้นกลายเป็นการ์ตูนดิสนี่ย์ไปเลย ไม่จบครับ ไม่ไหว ไม่ไหวจริงๆ สมแล้วกับที่มันถูกยกให้เป็น โคตรหนังต้องห้าม อันตรายสัสๆ ที่สุดในโลกาอย่างแท้จริง คำเตือน : ใครไม่ใช่สายหนังโหด หนังแหวะ ไม่ควรลองเด็ดขาด หรือถ้าคิดว่าชีวิตคุณมีความสุขดีเกินไปแล้วอยากให้ชีวิตหดหู่ก็ลองดูครับ”
#บทความโดยเพจ : บ่อน้ำของซามาร่า 😊
(วันพุธที่ 6 ธันวาคม 2566)