****** ช่วงสปอยล์หนังโหด : The 120 days of Sodom / 1975 (สุขนาฏกรรมอเวจี) / โดยคุณ : Satawat 😊

ภาพยนตร์สดใสในรั้วปูนซีเมนต์ ที่ที่ทุกอย่าง จะมีแต่เรื่องสัปดนคนหาทำเต็มไปหมด คำแนะนำส่วนตัวสำหรับใครที่อยากดูเรื่องนี้ เปลี่ยนเรื่องยังทัน เอาเวลาไปดูเรื่องอื่นดีไหมเธอ แต่สำหรับใครที่คิดว่าไหว ชีวิตอยากเจออะไรที่ผิดปกติของมนุษย์ เชิญเลยครับ จำไว้ว่า ผมห้ามแล้วนะจ๊ะ (20+เลยนะเออ อี๋แหวะเอาเรื่อง)

เรื่องราวของ 120 จะพาคุณดำดิ่งไปกับการกดขี่ นำเสนอด้านที่อิหยังวะของมนุษย์ออกมาได้อย่างน่าเตะ ภาพยนตร์ที่ตั้งคำถามทันทีที่ได้ชมเลยว่า เพื่ออะไร นี้มันหนังหอแต๋วแxกภาคพิสดารชัดๆเลย คิดได้อย่างเดียว หนังเรื่องนี้สนองความต้องการส่วนตัวของผู้กำกับเห็นๆ

***คำเตือน เรื่องนี้ไม่เหมาะกับผู้คนที่มีความสุขทางใจมองอะไรก็สดใส เด็กสตรีคนหัวใจอ่อนแอ ยิ่งซึมเศร้าหรือหดหู่ใจอยู่ก็ไม่ควรชม หลบออกไปเลยนะ โลกสวยก็ห้าม เดินทุ่งลาเวนเดอร์ต่อไปอะดีแล้ว จะได้มีความสุขต่อไป เดี๋ยวจะหาว่าไม่เตือน!!!
(ขนาดคนเขียนยังใช้เวลาตั้งสองวันแหน่ะ มันหลับไม่ใช่อะไร ดูไม่รู้เรื่อง)

เนื้อเรื่องโดยย่อ เป็นเหตุการณ์ในช่วงปี 1944 ถึง 1945 ยุคสมัยสงครามโลกนู้น อิตาลีทางตอนเหนือ ได้ถูกกองทัพนาฮี เข้ายึดครองพื้นที่(อย่าว่าผมนะ ประวัติศาสตร์ไม่ได้แน่น ผมก็อ่านเอาในเรื่อง) ดยุคแห่งนาฮี และ ประธานาธิบดีแห่งอิตาลี ลงนามในสมุดสัญญาว่าด้วยเรื่อง18+ อยากจะบอกเลยว่า เมืองน่าอยู่นะแต่คนในหนังเหี้ยมมาก

ด้วยความที่ว่างจัดไม่มีอะไรทำ กองทัพนาฮี เริ่มตะเวนไล่หาเด็กวัยรุ่นเอ๊าะๆมาเข้าแคลน วิธีการก็ไม่ได้ยาก เพียงหันปากกระบอกปืนใส่แล้วพูดว่า สูสิไปไส มากับอ้ายได้บ่? ใครเห็นก็เข่าอ่อนน้ำตาแตก ร้องไห้ด้วยความยินดี พร้อมกับรอยยิ้มกระชากใจ
(กองทัพนาฮีบอก ไผกะได้ อ้ายจับหมด)

พอจับมาร่วมตัวกันเสร็จ ก็มีการเดินเช็คร่างกายกันนิดหน่อย ดยุคหันไปเห็นก็ตกใจ เฮ้ย!!ตรวจค้นอาวุธกันรึยัง ทำไมในกางเกงมันป่องๆอูมๆ!!! ว่าแล้วก็สั่งให้ถอดออกทันที ในใจก็ได้แต่คิดแล้วก็สงสัย คุณคาดหวังว่าจะเจออาวุธอะไรภายใต้กางเกงครับ? ผมให้เลยสามคำ ลำยาวใหญ่ (ผมหมายถึง ข้าวหลาม)

ไม่ใช่แต่ผู้ชาย ผู้หญิงก็ไม่ได้ต่างกันเลย จับลูบบีบคลำเช็คกันละเอียดยันใต้ร่มผ้า คัดแล้วคัดอีกยังกับหานางแบบ ฟันห่างฟันผุก็ถอยออกไป ถูกใจคนไหนก็กวักมือเรียกทันที โดยเฉพาะคนที่ชื่อ เอวา บอกเลยว่านี้แหล่ะตัวเปิดประจำกลุ่ม หาแต่เรื่องของแทร่!

วันต่อมา พลพรรคนาฮี ก็เรียกตัวเหล่าวัยรุ่นมารับฟังกฎสำหรับสถานที่นี้ ใจความว่า จะโดนริบสิทธิ์ความเป็นคนออกไป สถานะก็ไม่ต่างอะไรกับสัตว์ที่คุยกับคนได้ (เหี้ยมไหมล่ะคุณ?) ที่นี้ไม่มีศีลธรรม เราจะจัดกับคุณตอนไหนก็ได้ อย่าขัดขืน อย่าแอบไปเซ็ทหย่อกันเอง ใครที่พูดถึงเทพ หรือฝ่าฝืนกฎ จะโดนจดลงในบัญชีเด็กดื้อ โดนแน่เข้าใจไหม?

กิจกรรมภายในก็ไม่มีไรมาก รวมกลุ่มนั่งล้อมวงฟังเรื่องสยิวท้องน้อย โดยจะมีเจ้สูงวัยสามคน ทำหน้าที่เล่าประสบการณ์สุดแสนประทับใจ ในการจัดหนักกับผู้ชายหลากหลายอาชีพ ซึ่งแต่ละเรื่องที่เล่ามา บอกเลยว่าหายนะแท้ๆ

เพราะไม่ว่าจะเล่ามายังไง ก็จะพากันทำตามทั้งกลุ่มแบบไม่มีเงื่อนไข ชายหญิงไม่มีแบ่งแยก ขอแค่ถูกใจคณะนาฮี พวกนั้นก็พร้อมจะจัดทุกกระบวนท่าที่มีที่คิดได้ ในการย่ำยีร่างกายให้แก่ผู้โชคดีทันที
(บันเทิงกันทั้งหมดละทีนี้)

เริ่มตั้งแต่การสอนเพศศึกษาภาคปฎิบัติ วิธีการรูดดูดแหนม คลานสี่ขาร้องโฮ่งๆ จับบ่าวสาวที่พึ่งแต่งงานกันได้ไม่ถึงสองนาที มากระทำการฟิวชั่นแบบหมู่ตอกกันสดๆ และที่ทำเอาอึ้งจนต้องตกใจ คือฉากที่มีบุพเฟ่ต์ช็อคโกแลตแท่งยาวจากร่องจูด กองให้ตักกินกันแบบจุใจบนถาดสแตนเลสตรานกนางนวล ด้วยความสุขกับชีวิตแบบสุดๆ อี๋แหวะเอาเรื่องเลย ขนลุกซู่

เมื่อวันเวลาผ่านไป ยังไงความบันเทิงในสถานที่นี้ก็ต้องเลิกลา การคัดสรรค์มาถึงตอนจบ ก็ได้ทำการมอบริบบิ้นสีฟ้าใสปิ๋งเป็นรางวัลในความพยายาม พร้อมทั้งเรียกคนที่มีรายชื่อในบัญชีเด็กดื้อออกมา นำพาไปสู่ความรุนแรงอย่างขีดสุดของบทลงโทษ

ไม่ว่าจะการซ้อมด้วยหมัดเท้าจนนิ่ม เอาเหล็กเผาไฟเย็นๆมาจิ้มใส่จุกนม ใช้แส้ควงลงมาฟาดจนต้องร้องกรี๊ด กดร่างกับพื้นแล้วแยกลิ้นออกจากปาก ลานทรายสีขาวนวล แปรเปลี่ยนเป็นพื้นที่ในการออกกำลังกายของผู้สำเร็จโทษในทันที ระงมไปด้วยเสียงเชียร์จากผู้คุม และเสียงกรี๊ดจากเอฟซีที่นอนบนพื้น

หากคุณกำลังคิดว่า แหม่พวกริบบิ้นสีฟ้าก็สบายแล้วสิ! คงไม่โดนอะไรแล้วมั้ง? ก็คงจะพูดยาก เพราะแม้จะมีเสื้อผ้าสวยงาม หรือจะถูกใจพวกนาฮีมากเพียงใด แต่ก็ยังต้องนั่งแช่ในบ่อช็อคโกแลต วางเรียงรายเป็นก้อนๆในห้องน้ำ ไม่อาจหลุดพ้นออกไปได้ ตราบเท่าที่มีชีวิตอยู่นานเท่านาน~~~

ด้วยความที่บรรยากาศดี วิวสวย สถานที่สวย ฉากธรรมชาติสงบสุข แต่เนื้อหาช่างโหดร้ายสิ้นดี ความบันเทิงก็ไม่มี เห็นเพียงความจันไลค์ บรรยากาศอึดอัดประกอบกับฉากอี๋แหว่ะ คะแนนส่วนตัวสำหรับความใจร้ายของหนังเรื่องนี้ ค่อนข้างสูง แต่หนังมันทำผมหลับไปเลย ลบออกอีก 0.5 และหักเพิ่มอีก 0.5 คะแนน เพราะมันทำน้องเอวาคนดีย์ รับไปเลยสำหรับเรื่องนี้

9 เต็ม 10 เหมาะสำหรับคนประเภทไหนอันนี้ก็บอกไม่ถูกเลย

ใครอ่านจบแล้วหรือเคยดูแล้วรู้สึกยังไง บอกกันด้วยก็ดี หากมีถ้อยคำไหนที่อ่านแล้วไม่สบายใจ กราบขออภัยไว้ ณ ที่นี่ด้วย

Satawat รายงาน