****** เป็นไฟล์วิดีโอสุดหายากที่หายสาบสูญไปตั้งแต่ปี 1997 ไฟล์ต้นฉบับการจับกุมฆาตกรต่อเนื่องโรคจิตคนแรกของอดีตสหภาพโซเวียต Andrey Chikatilo ใน : Пo cлeду Сaтаны / 1997 (ต้นแบบของ ฮันนิบาล เล็คเตอร์) 😊

“ไอ้ฆาตกรโหดรายนี้มันชั่วร้ายที่สุด ลูกสาวของฉันโดนมันใช้มีดแทงไป 46 แผล มันตัดมดลูกของเธอออกไปด้วย, ลูกสาวของผมถูกมันควักลูกนัยน์ตาออกมากินสดๆ ทำไมมันทำแบบนี้, ผู้พิพากษาบนบัลลังก์ยิงคำถามถึง Andrey Chikatilo ว่าทำไมนายถึงทำพฤติกรรมแบบนี้ เขามองขึ้นไปที่ใบหน้าของท่านผู้พิพากษา พร้อมตอบกลับมาว่า…. ผมอธิบายไม่ได้” (ถอดถ้วยคำจากภาพเหตุการณ์จริงก่อนประหารชีวิต)

เคยได้ยินว่ากรมตำรวจของรัสเซีย หรือไม่ก็บุคคลในแวดวงการสืบสวนสอบสวนสร้างไฟล์วิดีโอชุดนี้ขึ้นมาเพื่อเป็นหนึ่งในสำเนาหลักฐานสำหรับการใช้จับกุมฆาตกรต่อเนื่องโรคจิตคนแรกของอดีตสหภาพโซเวียต Andrey Chikatilo อย่างไรก็ตาม หลังการจับกุม เจ้าไฟล์ตัวนี้ก็หายสาบสูญไปจากวงการยาวนาน จนกระทั่งเมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมาในปี ค.ศ. 2022 มีบางคนแอบอัพไฟล์ตัวดังกล่าวลงในเว็บไซต์บางเว็บในประเทศรัสเซีย ของสุดหายากอีกชิ้นหนึ่งในโลกใบนี้ ในที่สุด มันก็กลับขึ้นมาจากหลุมดำอันแสนลึกลับ มาให้พวกเรายลโฉม อีกครา….

Пo cлeду Сaтаны / 1997 เป็นไฟล์หนังต้องห้ามความยาว 46 นาที (ประเภท: สารคดี) ไม่ทราบชื่อของผู้กำกับ(ตัดต่อ) ทีมงาน หรือสถานที่ถ่ายทำใดใดทั้งสิ้น(แต่คาดว่าถ่ายทำกันในรัสเซีย ไม่เมืองใดก็เมืองหนึ่ง) หนังเรื่องนี้จะผสมผสานกันระหว่าง ไฟล์วิดีโอจากเหตุการณ์จริง 80% ผสมกับฉากจำลองการฆาตกรรมเหยื่อของฆาตกรโรคจิตนาม Andrei Chikatilo ราว 20%

หลังดูจบ โดยภาพรวมหนังนำเสนอภาพการลงพื้นที่ของตำรวจรัสเซีย กับการตรวจสภาพศพของเหยื่อผู้เคราะห์ร้ายหลายราย ที่เชื่อว่าเป็นฝีมือการฆ่าโดยฆาตกรนาม Andrei Chikatilo (ฆาตกรต่อเนื่องโรคจิตชาวรัสเซียที่ได้ชื่อว่า ฆ่าเหยื่อเยอะที่สุดเบอร์ 1 ของประเทศนี้) หนังนำเสนอภาพใบหน้าของเหยื่อ ประกอบกับสภาพศพที่ถูกข่มขืน ทรมาน ก่อนสังหารทิ้งอย่างโหดเหี้ยม การวางแผนซุ่ม ดักจับกุมฆาตกรอย่างแนบเนียบ รวมถึงฉากการสืบคดีความในชั้นศาล กับภาพสุดแสนหดหู่ ครอบครัวของเหยื่อที่ถูกฆาตกรรมอย่าป่าเถื่อนรุมสาปแช่งฆาตกรอย่างเอาตายในบริเวณศาล

พูดถึง Andrey Chikatilo (อังเดร ชิคาทิโล) หมอนี่มีชื่อเต็มว่า Andrey Pomanovich Chikatilo หรือบางคนก็เรียกว่า Andrei Romanovich Chikatilo เกิดที่ยูเครนในปี ค.ศ. 1936 (ขณะนั้นเป็นส่วนหนึ่งของสหภาพโซเวียต) ยุคนั้นยูเครนภายใต้การปกครองของ Joseph Stalin เป็นแบบรัฐจัดสรรคที่ดินทำกินให้ ประชาชนมีหน้าที่ทำเกษตรกรรมเพื่อส่งผลผลิตเข้าไปเลี้ยงดูผู้คนในเมืองใหญ่ ส่วนผู้ผลิตกลับถูกรัฐปล่อยให้อดอยากหิวโหย ว่ากันว่าเพราะผลผลิตเกือบทั้งหมดถูกทางการยึดเอาไปในแต่ละปี ครอบครัวของ Andrey Chikatilo อยู่ในสภาพอดอยากแร้งแค้นเป็นที่สุด ถึงขนาดต้องตัดหญ้ามากินประทังชีวิต แม่ของเขาเล่าให้ฟังว่า จริงๆ Andrey Chikatilo มีพี่ชายอยู่อีกคน แต่ถูกเพื่อนบ้านลักพาตัวไปฆ่า แล้วชำแหละเนื้อกินประทังชีวิต

พ่อของเขาโดนจับเป็นเชลยในขณะรบในสงครามโลกครั้งที่ 2 (ได้รับการปล่อยตัวในภายหลัง) ส่วนแม่ถูกรุมข่มขืนโดยทหารนาซีจนตั้งท้อง(นี่เป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้คนโซเวียตเกลียดนาซีเยอรมัน) แน่นอน เหตุการณ์ทั้งหมดอยู่ในสายตาของเด็กน้อย Andrey Chikatilo

ครั้งเติบโตเป็นผู้ใหญ่ Andrey Chikatilo เข้ารับราชการทหาร เขาแต่งงานกับผู้หญิงคนหนึ่ง และมีลูกด้วยกัน 2 คน ต่อมาเขาออกจากกองทัพ ไปทำงานเป็นคุณครูสอนหนังสือ ต่อมาก็ลาออกไปเป็นเสมียนในโรงงานเหมือง (อาชีพคุณครู และเสมียนฯ เป็นอาชีพที่ต้องเดินทางไปลงพื้นที่งานต่างถิ่นบ่อยๆ เขาชอบตรงนี้ เพราะมันทำให้เขาสามารถเลือกเหยื่อได้มากขึ้น ฆ่าได้หลากหลายสถานที่ ยากแก่การติดตามเพ่งเล็งของตำรวจ)

วันที่ 22 ธันวาคม ปี ค.ศ.1978 Andrey Chikatilo ในวัย 42 ปี ก่อเหตุฆ่าคนเป็นศพแรก เขาล่อลวงเด็กหญิงวัย 9 ขวบจากบริเวณป้ายรถเมล์ไปฆ่าหมกป่า มีคนเห็น Andrey Chikatilo อยู่กับเด็กเป็นคนสุดท้ายก่อนที่จะตาย แต่เพราะเขาไม่มีประวัติการก่อเหตุมาก่อน เลยรอดการจับกุมไป

ศพแรกผ่านไปเป็นประสบการณ์อันสุดแสนวิเศษ Andrey Chikatilo ก็เริ่มล่อลวงเด็กผู้หญิง, เด็กผู้ชาย, วัยรุ่นชาย, วัยรุ่นหญิง, และหญิงสาวในวัยผู้ใหญ่ มาฆ่าหมกป่าเพิ่มเป็นจำนวนมาก ว่ากันว่าเหยื่อถูกข่มขืน ควักลูกนัยน์ตาออกมากิน เชือกรัดคอ มีดชำแหละออกเป็นชิ้นๆเพื่อทำลายซาก มีเด็กที่ป้ายรถเมล์ถูกล่อลวงไปฆ่าเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆโดยที่ตำรวจไม่รู้ว่าใครคือคนร้าย

ปี ค.ศ. 1984 Andrey Chikatilo ล่อลวงเด็กชายวัย 10 ขวบไปทารุณกรรมและฆ่าทิ้งอีกศพ คดีนี้มีคนเห็นว่า Andrey Chikatilo อยู่กับเด็กเป็นคนสุดท้ายที่ป้ายรถเมล์ แต่จากการตรวจเลือด พวกเขาพบว่าเลือดของอังเดรเป็นกรุ๊ป A ไม่ตรงกับข้อมูลของฆาตกรต่อเนื่องใดใด (*ในทางวิทยาศาสตร์ซึ่งทราบในยุคต่อมา Andrey Chikatilo เป็นคนส่วนน้อยในโลกใบนี้ที่มีค่าแอนติเจนในเลือดไม่ตรงกับแอนติเจนในสารคัดหลั่ง ทั้งน้ำลาย เหงื่อ หรือน้ำย่อยในร่างกาย ซึ่งคนปกติจะไม่เป็นแบบนั้น เลยทำให้เขารอดจากการตรวจเลือด-แอนติเจนในเลือด ทุกครั้งเวลาโดนตรวจสอบ)

แล้วเขาก็ล่อลวง ฆ่าเหยื่อต่อไปเรื่อยๆอย่างสนุก….

กระทั่ง คดีฆาตกรรมเหยื่อรายสุดท้ายของ Andrey Chikatilo เกิดขึ้นในวันที่ 6 พฤศจิกายน 1990 เมื่อเขาฆ่าหญิงสาววัย 22 ปีจนถึงแก่ความตาย เขาโดนตำรวจนายหนึ่งจับได้ตรงบริเวณจุดเกิดเหตุที่ป้ายรถเมล์

มีการกักขังเขาเอาไว้โดยตำรวจ และมีการสอบปากคำยาวนาน 9 วัน 9 คืนโดยนักจิตวิทยาอย่างละเอียด ท้ายที่สุด Andrey Chikatilo รับสารภาพว่าล่อลวงและฆ่าคนตายไปมากถึง 56 ศพ (แต่จากหลักฐานของทางตำรวจ ยืนยันเอาไว้เพียง 53 ศพ)

2 ปีต่อมา สหภาพโซเวียตล่มสลาย กลายเป็นรัสเซีย Andrey Chikatilo ถูกนำตัวขึ้นศาล จากความผิดในการฆาตกรรมเหยื่อไป 52 ศพ จาก 53 ศพ เขาถูกตัดสินประหารชีวิต ด้วยการโดนปืนยิงเจาะท้ายทอย ในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ ปี ค.ศ.1994 หลายวันต่อมาศพของ Andrey Chikatilo ถูกฝังโดยไม่มีการทำเครื่องหมายใดๆไว้บนหลุมศพ นอกจากนี้ คนในครอบครัว ภรรยา และลูกหลาน เปลี่ยนชื่อสกุลหนีความอับอาย ที่ดังกระฉ่อนชั่วไปทั่วทั้งประเทศรัสเซีย ณ ตอนนั้น


**** บทส่งท้าย
อ่านประวัติของ Andrey Chikatilo มาถึงตรงที่ “แม่ของเขาเล่าให้ฟังว่า จริงๆ Andrey Chikatilo มีพี่ชายอยู่อีกคน แต่ถูกเพื่อนบ้านลักพาตัวไปฆ่า แล้วชำแหละเนื้อกินประทังชีวิต….” ตรงนี้นึกถึง ฮันนิบาล เล็คเตอร์ ในตอน Red Dragon / 2002 ขึ้นมาเลย แรงบรรดาลใจในการสร้าง Red Dragon น่าจะมาจากประวัติของ Andrey Chikatilo นี่ล่ะ

หลังดู Пo cлeду Сaтаны / 1997 จบ
โอ้โห…. แทบหายใจไม่ออก เพราะหลายภาพที่เราเห็นในหนังเรื่องนี้ คือ ศพที่ถูกฆาตกรรมของจริง และไม่เคยเผยแพร่ที่ไหนมาก่อน หนึ่งในหนังต้องห้ามอีกเรื่องของโลกใบนี้อย่างแท้จริง! ไม่หนัก แต่ทิ่มแทงหัวใจอย่างเจ็บปวด

#แอดมินซามาร่า 😊