****** รีวิว+สปอยล์ : ร่างทรง-The Medium / 2021 (rate 18+) *บทรีวิว-สปอยล์ โดยคุณ : Satawat Tawinrat 😊

มีให้ชมหลายช่องทาง ง่ายสะดวก ปลอดภัยก็
Netfxxx ช่องทางอื่นมีไหมไม่รู้
หนังผีที่ไม่เห็นผี 9 เต็ม 10 ครับ
หัก 1 คะแนนเรื่องกระโปรงของมิ้งค์
(ถ้าคุณเคยดู อาจจะรู้ว่าผมหมายถึงอะไร)
ต้องขอบอกว่าพึ่งจะได้ดู หลังจากหลบสปอยล์ที่บรรดามิตรรักนักศึกษา พยาบาลทหารตำรวจ
ยุวกาชาด ยาวไปเรื่อยจนกระทรวงสาธารณสุข
ก็มีโอกาสได้ดูสักที ถึงจะเกือบ2ปีแล้วก็เถอะ
นานเกิ้น!
เมื่อสร้างบรรยากาศได้ที่จึงรีบปิดไฟนอน
เปิดเสียงดังลั่นสนั่นโลก ผลลัพธ์ที่ได้คือออกอาการผวา คืนนั้นไม่ได้นอน หลับๆตื่นๆ สะดุ้งเฮือกเห็นหน้าป้านิ่มกับมิ้งทุกที เวรกำ
ช่างหาทำจริงๆ (ครั้งหน้าไม่ทำแล้วจ้า เข็ดแล้ว)
หลายคนต่างยกย่องให้ มิ้งค์ เป็นMVP ที่กล้าเล่นบทถึงเนื้อถึงตัว ชนิดที่ร้องว้าวทั้งประเทศ
แต่ไม่รู้ว่าเพราะอะไร ผมถึงได้ชอบตัวประกอบโนเนมมากกว่า เปรียบได้ดั่งซัพพอร์ตของทีม
ถึงจะไม่เด่นแต่ก็ไม่ขัดใจเหมือนละครช่อง7.1
ตัวประกอบทั้งเรื่อง ชงบทให้มิ้งค์แบบเข้มข้น
เปรียบได้ดั่งกาแฟ เอสเปรสโซ่ที่ไม่มีน้ำตาล
ปูทางให้สวยๆ ส่งอารมณ์ให้เราแบบถึงใจชนิดที่ต้องตาค้างกันเลย
อีกอย่างที่ชอบคือ การที่ผู้กำกับแกเฉลี่ยบทให้
ตัวละครทุกตัว เกลี่ยให้แบบเนียนกริบ ทำให้รู้สึกว่าแต่ละคนในเรื่องก็มีความลับเป็นของตัวเอง
แล้วค่อยเฉลยไปทีละนิด คำตอบที่ออกมา
ทำผมหน้าชาได้เรื่อยๆ ประทับใจอย่างแรง
(โดยเฉพาะ ตากล้อง ผมเกลียดคุณมากเลยครับ)
สิ่งแวดล้อมในหนัง ทำให้ผมเชื่อว่าเรื่องราวนั้นเป็นเรื่องจริง เหมือนนั่งดูสารคดียาวๆเรื่องราวหนึ่ง
แบบโคตรฟินและอินกับมันสุดๆ
น่าเสียดายที่ไม่มีโอกาสได้ดูในโรงภาพยนตร์
ดีนะไม่ไป! ไม่งั้นช็อกคาที่ ยิ่งแพ้ทางหนังแนวนี้อยู่
****คำเตือน
บทความต่อจากนี้จะมีการสปอยล์เนื้อหาบางส่วน
ถ้ามีตรงไหนที่ไม่เข้าใจว่า อิหยังว่ะ ก็ไปหาดูเอานะจ๊ะ งุงิงุงิ คว้าถุงกาวกำเเน่นๆแล้วเลื่อนลงไปเลย
ณ ประเทศสารขัณฑ์ ทีมงานสาระแนทีมหนึ่ง
อยากถ่ายทำสารคดีเกี่ยวกับ ร่างทรง จึงได้ติดต่อกับมนุษย์ป้าท่านหนึ่ง ชื่อกระฉ่อนว่า นิ่ม
จากบทสัมภาษณ์ช่วงแรกทำให้รู้ว่า ป้าอะของจริง
ไม่สวยมากแต่ถ้าอยากวัดก็มาดิ!!!
(ป้าแกไม่ได้กล่าว)
ด้วยรายได้อันน้อยนิด จึงทำงานเสริมอย่างมากมาย รับรักษาโรคผีสาง ถางหญ้า เลี้ยงเป็ด
เด็ดผัก เย็บผ้า พาคนแก่ไปรดน้ำเย็นเล่นกลางเขา
ซึ่งร่างทรงของแก คือมนุษย์ป้าในตำนาน นามว่า
ย่าบาหยัน วันทรงชัยนั้นเอง! (อยากใส่เอคโค่จัง)
ตัดภาพมาที่ป้านิ่ม ซึ่งกำลังเดินทางไปงานศพของ
วิโรจน์ ยะสันเทียะ สามีของน้อย น้องสาวของ
ป้านิ่ม ลูกป้าน้อยชื่อแม็ก คนน้องชื่อมิ้ง
(คนนี้แหละตัวดีเลย) พี่ป้านิ่มชื่อมานิตและมี
ศรีภรรเมียชื่อว่าแป้ง ที่อุ้มเด็กแดงหนึ่งคน
(ครบแล้วมั้ง เหนื่อย!!!)
ซึ่งมานิตก็มานั่งจ้อให้ฟังว่าน้อยกับนิ่มไม่ถูกกัน
เหตุจากการรับสืบทอดร่างทรงนั้นเอง จนทำให้น้อยและครอบครัวหันไปนับถือศาสนาคริสต์
และในเรื่องก็ได้บอกเป็นนัยๆว่า ตระกูลนี้ไม่ได้ตายแบบปกติดีสักคน
ยามค่ำคืนลมกำลังดี จู่ๆก็มีเหตุการณ์ไม่คาดฝัน มิ้งซึ่งนั่งในวงพนันเปิดลุงเจ้าวง อ้างว่าโดนด่าว่าเป็นลูกบุหรี่ ทั้งๆที่ไม่มีใครได้ยินแบบนั้นสักคน
สงสัยเมาจนหลอน เบาได้เบามิ้งเอ้ย
ป้านิ่ม ซึ่งสังเกตเห็นว่ามิ้งหลอนๆ จึงอยากรู้ว่าเสพอะไรมา จึงได้ทำการตรงดิ่งแอบเนียนไปค้นของในห้องคนอื่นเขาก็ได้พบเป็น เครื่องรางปริศนาของแฮร์รี่ คอปเตอร์ ซึ่งป้านิ่มแกคอนเฟิร์มว่า
ใช่ไล่ผีดีนักแล แถมยังเอาไว้จุดแล้วก็วน
ตอนบรรยากาศดีๆได้ด้วย นิ่มชอบดูดาาาาาว!
(อันนี้แกไม่ได้กล่าว)
ด้วยความสาระแน่ เหตุจากอาการหลอนของมิ้ง ทางทีมงานจึงได้ตามติดชีวิตมุ้งมิ้ง ในการทำงานประจำวัน ซึ่งทางมิ้งก็ไม่ขัดข้อง ให้สัมภาษณ์กับทางทีมงานว่า ฉันรักงานนี้มากค่ะ นางงามno.1 แห่งยุค4.0 บุกทำงานด้วยใจ บริการให้ทุกสปีชี่ส์
มิ้งรักทุกคนค่าาาา!!!! (มิ้งไม่ได้กล่าว)
มาจะกล่าวบทไปถึงป้าน้อยใจดำเหมือนยักษี
จับสุนัขมานอนแผ่สิ้นชีวี ยึดเอาอาชีพนี้มานานวัน
ให้สัมภาษณ์กับทีมงานด้วยยิ้มแย้ม
แก้มอิ่มเอมใครเมียงมองต้องกลั้นขำ
เจอคำถามตบหน้าไปจี้ใจดำ
ทำการด่าลิ้นระรัวในทันที (ทีมคุณภาพ)
เมื่อผ่านไปสักพัก มิ้งคนดีย์ ก็ออกอาการแปลกๆ
เริ่มจากตกเลือดวิงเวียนหน้ามืดตาลาย
คายอาหารเสริมออกมาทางปาก ร่างโทรมอย่างรวดเร็วและในขณะเดียวกัน ก็กร่างชาวบ้านบวกคนเขาไปทั่ว เรียนกันให้ทราบล่วงหน้าว่าอาการน่าเป็นห่วง
พีคสุดในเรื่องคือโดนไล่ออกเหตุการณ์จากที่มิ้ง
ชวนลุงยามและผู้ใหญ่ไม่ซ้ำหน้ากันมาทำการ
เต้น เพลง sad airobic กันจนเสียงมิ้งดังลั่น
ในที่ทำงาน เต้นกันตรงโซฟา เก้าอี้ โต๊ะทำงานก็ไม่เว้นชนิดว่าเนื้อเนียบเนื้อ เสียงดัง ตับๆๆ
โดยที่มิ้งไม่ได้รู้เรื่องอะไรเลย
(ผีเข้า แกแหละ)
ด้วยร่างกายที่ทรุดโทรมลง ทำให้ต้องเข้าโรงพยาบาล ทางด้านของป้านิ่มที่มาเยี่ยมอาการ
ก็โดนร้องขอให้ช่วย โดนยินยอมให้ มิ้ง สืบทอด
แม่ไม้มวยไทยของย่าบาหยันต่อไปแต่โดยดี
ป้านิ่มจิ้มคำถามให้มานิต ว่าบอกความจริงมานะ
แมค ลูกป้าน้อยตายยังไง แล้วก็ต้องตกใจว่า
มิ้งและแมค แอบไปเต้นโยกสะโพกกันอย่างลับๆ
จนมีเหตุบางอย่างทำให้แมคน้อยใจจนหนีไป
ตากลมใต้ต้นไม้ใหญ่ ในสภาพขาลอยเหนือพื้น
ป้านิ่ม ทราบเรื่องจึงรีบรุดไปตรวจสอบ
ฝั่งป้าน้อยเกิดอารมณ์น้อยใจ ไม่เห็นช่วยสักทีนานจังขัดใจวัยรุ่นระยะสุดท้าย พามิ้งไปรับขันธ์มั่วๆ จนป้านิ่มวิ่งมาปัดทิ้งแต่ไม่ทัน ก่อนจะทะเลาะกันเรื่องไม่ช่วยมิ้ง
มิ้ง เริ่มอาการแปลกๆ คว้ากล้องถ่ายมาแนบศรีษะของผู้เป็นแม่ จนร่างทรุดลงนอนแผ่แล้วก็วิ่งหนีไป
คนในเหตุการณ์จึงร่วมใจกันหาจนพลบค่ำคืน
ก็ยังหาตัวไม่เจอ
ตัดภาพมาที่ป้าน้อย หลังจากโดนของแข็งกระแทกก็กลับเป็นผู้เป็นคนหน่อย
อ้อนวอนให้ป้านิ่ม ทำอะไรสักอย่าง
ป้านิ่มจึงพาน้อยไปปรับทัศนคติ ที่รูปปั้นของย่า
ก่อนจะกระเตงกันมารื้อห้องมิ้งอีกครั้ง
เมื่อเข้ามาแล้วก็ไม่รอช้าบุกค้นหาของประหลาดในห้องของมิ้ง เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้ทำการยึดของกลางได้เป็นจำนวนเยอะ จึงขยายผลเพื่อสืบหา
ข้อเท็จจริง และจับมิ้งเข้าคุกได้ในที่สุด
แล้วหนังก็จบ (ไม่ใช่ละ)
ป้านิ่มได้นำหลักฐานมาวางกลางแจ้งเพื่อฆ่าเชื้อ
และเริ่มทำพิธีหามิ้งทันใด ด้วยการตอกไข่ไก่
ออกมาและก็ทำอยู่แค่นั้นแหละ ฝนตกฟ้าร้องก็ไม่หยุดยั้งทำซ้ำจนท้อใจก่อนนึกเอะใจ เอาไม่เกี่ยวกับแมคเลยนี่หว่า รีบตรงดิ่งซิ่งรถโดยเร็วพลัน (อยากกินไข่เจียวหมูสับเลยฉากนี้)
เมื่อมาถึงทางสามแพร่งก็จอดรถ สอดส่ายสายตาหาเหยื่อ วิ่งเลาะลัดป่ารกๆเข้าไปเรื่อยๆ
จนมาพบกับมิ้ง นอนแน่นิ่งสลบกลิ้งกับพื้นในโรงงานร้าง จึงรีบนำร่างส่งโรงพยาบาลทันที
(เจอซะงั้น บารมีGPSของย่าแท้ๆ สาธุ99)
ป้านิ่มไตร่ตรองอยู่สักพักจึงได้รีบรุดไปหา
รูปปั้นย่าบาหยัน หวังขอขมาแทนมิ้ง แต่ก็ต้องทรุดลงกลิ้ง ร้องลั่นเหมือนเด็กโดนแย่งขนม
เมื่อรูปปั้นที่ว่า หัวกับบ่าอยู่ห่างกันทำให้ฝันสลาย
หมดอาลัยตายอยากกันเลยทีเดียว
ตัดภาพมาที่มิ้ง นั่งนิ่งเป็นผักต้มอยู่บนเตียง อยู่ดีๆก็ส่งเสียงเจี๊ยวจ๊าว ป้านิ่มเดินโมโหมาแต่ไกล
ถามว่าใครบังอาจมาอยู่ในร่างหลานกรู
ก่อนที่มิ้งจะกวนตี_ไปเรื่อย กระชากเสื้อโชว์กล้ามหน้าท้องตัวเอง แล้วใช้มือจกไหกะปิป้ายหน้า
ลุงมานิต(กลิ่นวนิลา หอมชื่นใจไหมลุง)
มิ้งรีบกระโดดคร่อมลุง พยายามจะเต้นแอโรบิค
แต่โดนลากออกมามัดกับขาเตียง ป้าน้อยไม่รอช้ารีบไล่ผีอย่างไว จับนิ้วมิ้งจุ่มน้ำในจอก
แล้วส่งเสียงสวดงุงิงุงิ
ทางผีที่สิงมิ้ง ก็ได้เปิดเผยเรื่องราวน่าตกใจ
เหตุที่ทำให้ป้านิ่มได้เป็นร่างทรง เจตจำนงมาจากป้าน้อยนั้นเองที่ยัดเยียดให้ทุกหนทาง อำอึ้งไปไม่ถูกเลยทีเดียว ก่อนจะยกธงขาวบอกไม่ไหว
กลิ่นวนิลาหอมชื่นใจ สูดทีลงถึงปอดเดียวอักเสบ
เห็นที่ต้องขอกำลังสนับสนุนเพิ่มเติม
เมื่อเห็นท่าไม่ดีจึงรีบรุดไปเปิดเควสที่กิลล์ปราบผี
ระดมกำลังกันอย่างสนุกสนาน พรั่งพร้อมไปด้วยผ้ายันต์และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ แท่งทอง ต่างๆ
ปลุกเสกกันอย่างชื่นบาน ตั้งพิธี ณ โรงงานร้างตระกูล ยะสันเทียะ โดยไว
และในช่วง7วันก่อนพิธีเริ่มนั้นเอง เหตุการณ์วุ่นวายก็พรั่งพรูเข้ามาไม่หยุด เพราะว่าอาการหลอนของมิ้งที่รุนแรงขึ้นเรื่อยๆ โดยมีภาพจากกล้องวงจรปิดแสดงให้รับชม วีรกรรมอันหนักหน่วงเหนี่ยวนำใจให้หดหู่
(ถ้าหลอนหนักขนาดนี้ที่หลังไม่ขายให้แล้วนะ)
ไม่ว่าจะ แอบย่องออกมาคร่อมคนเล่น นั่งห่อไหล่จ้องเขม็ง เปิบพิสดาร จับเด็ก ไล่แทงลุงมานิต และพฤติกรรมที่น่าตีด้วยไม้เรียวให้น่องลายอีก
หลายหลาก แต่ที่น่าเสียดายคือ ป้านิ่มผู้บุกเบิกรายการนี้ ชิงสิ้นชีวีดับดิ้นสิ้นใจไปก่อนวันพิธี
(Good game ละพี่น้องเอ้ย!!!)
และแล้ววันสำคัญก็มาถึง กิลล์ปราบผีและชาวคณะก็ยกขบวนนำพากันไปยังสถานที่ทำพิธี
ประกอบกิจกรรมบริกรรมคาถาอาคมกันไปสักพัก
ก็มีเหตุการณ์วุ่นวายมากมาย เพื่อเรียกให้ผีห่าทั้งโรงงานมาอัดแน่นกันในคนคนเดียว
(ผีนะ ไม่ใช่ปลากระป๋อง)
ซึ่งบทมาเฉลยว่าคนที่เราเห็นกันเป็นป้าน้อยซะนี่
หลังจากผีเข้าไปสักพัก ป้าแกก็คายผีออกมาเป็นน้ำดำตราเสือดาวใส่หม้อดินเผา หมอผีเล่าว่าเดี๋ยวจะเอาไปฝั่งลืม พวกผีใจร้าย บ้าๆๆ ไม่น่ารักเลยอ่ะ
(หมอผีไม่ได้กล่าว)
พิธีทุกอย่างเป็นไปได้ด้วยดี แต่ด้วยความเหลี่ยมจัดของมิ้ง ก็ทำให้แป้งที่เฝ้าบ้านอยู่เฉยๆกับตากล้องสองสามคนเกิดอาการหลอน คิดว่าลูกในเปลโดนจับเข้าไปในห้องของมิ้ง ทั้งที่ตากล้อง
บอกว่านอนอยู่ที่เดิม ผีบังตาเป็นเหตุสังเกตได้
ด้วยจิตวิญญาณแห่งความเป็นแม่ แทนที่จะดูให้ดีว่าลูกนอนอยู่ในเปลจริงไหม? ใจโซเซไปเปิดประตูเข้าให้บังเกิดความวินาศภัยให้กันอย่าง
ทั่วถึง มิ้งรีบพุ่งออกมาอาละวาดไปทั่ว
เก็บเกี่ยวค่าประสบการณ์จากชีวิตผู้อื่นอย่าง
บรรเทิงปานลุงเริง in 8K (สั้นๆครับ...ชิ้หาแหละ!!)
ทางด้านหมอผีก็ใช่ย่อยพลาดท่าโดนผีสิง
เดินอุ้มหม้อยืนชักแหงกๆก่อนหงายหลังร่วงลงสู่พื้นสิ้นชีพไป ผีที่อยู่ในหม้อก็ออกมาเข้าสิงสู่คน
ไปทั่วรอบนอกพิธี เกิดอาการหัวร้อนจนต้องวิ่งไล่กัดกันโลหิตกระจายไปไกล สิ้นชีวิตกันอย่างแพร่หลายในพื้นที่โรงงาน
ใจสู้หรือเปล่า ไหวไหมบอกมา ป้าน้อย สัมผัสได้
ถึงพลังงานบางอย่าง รับรู้ได้ว่าย่าบาหยันมาช่วย
สั่งลูกกิลล์ทั้งหลายให้ไปเก็บเศษหม้อมาเดี๋ยวนี้
จะได้ทำพิธีกันต่อ
ตัดภาพมาที่ มิ้ง ผู้เปิดแดงไล่เชือดเขาทั้งหลาย
ได้มายืนประจัญหน้ากับตากล้องมือบอนคนหนึ่ง
มิ้ง ได้แต่คิดและก็สงสัยว่าขอถ่ายบ้างได้ปะ
ก่อนจะคว้ากล้องที่เปิดโหมดกลางคืน มาถ่ายให้เห็นถึงสภาพที่ไม่น่ารอด ใครเห็นก็ว่าตาย
ไส้อั่วแคบหมูตับหวานไหลรวมกองกันอยู่ที่เดียว
(ฉากนี้แอบซะใจเล็กๆเลย สมหน้า)
แต่เหตุการณ์ดันมาพลิกล็อกเละเทะตุ้มเปะเมื่อร่างทรงเก๊ของย่าบาหยัน ดันทะลึ่งหลอกคน
เอาธูปที่ไหว้กันเสร็จมาปักกลับหัว(ขนลุกซู่!!)
ก่อเกิดเป็นเหตุให้ผีเข้ากันรอบวง เว้นป้าน้อยนะ
วุ่นวายไปหมด ลุงมานิตกลัวบทน้อยน่ากระโดดม้วนเกลียวหลังกาลงจากตึกสูงโชว์ไปหนึ่งสเต็ป
เหลือตากล้องมือทองอีกหนึ่งหน่อ ที่ทนรอบันทึกบทสรุปสุดท้ายของชีวิต การประจันหน้ากันระหว่างมนุษย์ป้าในตำนาน ย่าบาหยันและผู้ท้าชิงอันดับหนึ่ง มุ้งมิ้ง หมอมแม่มหม่นหมองคล้ำ
ศึกชาแมนควีน เริ่มต้น ณ บัดนี้ Allez Cuisine
ป้าน้อย คว้าหัวมิ้งสวดงุงิงุงิไล่ผีบ้า มิ้งไม่ยอมน้อยหน้า ทำเสียงร้องเรียกแม่จ้าก่อนบีบคอจน
สิ้นแรงล้มลงนอนร้อง อุ้ย! จนสิ้นฤทธิ์ (ง่ายเกิ้น!!!)
ป้าน้อยนอนดิ้น ร้องขอให้ปล่อยลูกมาเถอะ
น้อยยอมแล้ว อยู่ดีๆก็มีรอยเท้าผุดขึ้นรอบๆตัว
มิ้งทนเห็นหม่อมแม่นอนหนาวไม่ไหว
แหม้จะโดนสิงโดยสมบูรณ์ไปแล้ว แต่ก็ยังมีใจนึกถึงพระคุณแม่ คว้าถังน้ำมันราดแล้วจุดไฟแต่ดันไปสะดุดตากับตากล้องดวงกุดเข้าก่อน จึงพุ่งไปเก็บแต้มเลือดสาดจนกล้องตก คาที่ไปในทันที
ภาพสุดท้ายในกล้อง มีเพียงเปลวไฟที่สาดส่องเผยให้เห็นถึงตุ๊กตาฟาง ที่เต็มไปด้วยตะปูตอกไว้
พร้อมป้ายเล็กๆตรงหน้าอกว่า ยะสันเทียะ
อวสานพรรคธรรมมะ
บทสัมภาษณ์สุดท้ายก่อนมนุษย์ป้าจะสิ้นชีพไป
ป้านิ่มได้หมดอาลัยและสิ้นศรัทธาแบบสุดๆ
ตัดพ้อว่า จริงๆไม่รู้ว่าย่าเข้าร่างมาจริงไหม
ร้องไห้เสียใจบอก ไม่รู้ๆๆๆๆ ตรอมใจวิ่งหายไป
ซึ่งนี้อาจจะเป็นเหตุให้ป้านิ่มตายก่อนเริ่มพิธี
แล้วหนังก็จบ (น้ำตาจะไหล ป้านิ่มน่าสงสารจัง)
ใครอ่านมาถึงตรงนี้ก็กราบเลย ทนอ่านกันได้เนาะ
ล้อเล่นครับ ซึ้งใจมากเลยครับ ขอบคุณครับ
หากมีคำที่ระคายเคียงใจ กราบขออภัยด้วยครับสาธุ!
*บทรีวิว-สปอยล์ โดยคุณ : Satawat Tawinrat