****** นั่งพิมพ์บทรีวิวหนังเรื่องสุดท้ายของปี 2564 ลงใน “คลับสยอง” (horrorclub.net) หลังดูจบ มันเป็นหนังสยองขวัญดีกว่าที่คิดเอาไว้เยอะเลยนะ ชื่อของมันคือ : Antlers / 2021 (สิงร่างกระชากวิญญาณ) ^_^

เคยเห็นข้อมูลผ่านๆว่าหนังเรื่องนี้ตอนฉายในต่างประเทศสร้างกระแสฮือฮาได้พอสมควร แต่หลังจากนั้นเรื่องราวของมันก็ค่อยๆเงียบหายไป อย่างเชื่องช้า

ในไทย เคยได้ยินข่าวว่าหนังฉายภายในโรงภาพยนตร์ไปแล้วเมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน 2564 ที่กรุงเทพฯ(ข้อมูลโดย : bugaboo.tv) แต่กระแสมันเงียบแบบแปลกๆ….

ช่วงพฤศจิกายน 2564 ที่ผ่านมา หาดใหญ่โรงหนังส่วนใหญ่ไม่สามารถเปิดได้ (หรือเปิดได้ก็เพียงส่วนน้อยเอามากๆ) เพราะการระบาดของโควิด19 รวมถึงสายพันธุ์โอมิครอนกำลังระบาดแบบหนักหน่วงดุเดือดในโลกใบนี้ หมดสิทธิ์ที่จะได้ดูหนังเรื่องนี้ภายในโรงหนังไปโดยปริยายในหาดใหญ่ กระนั้นก็ตามเรากลับพบว่ามีการปล่อยออนไลน์หนังเรื่องนี้ในหลายๆเว็บไซต์(แบบฝังซับไทย) แต่เพราะไม่ค่อยมั่นใจว่าหนังเรื่องนี้มันจะสนุกหรือไม่(กลัวเสียเวลาที่จะต้องนั่งดูหนังไม่สนุก) เลยปัดผ่านมันในหลายๆครั้ง จนกระทั่งอยู่มาวันหนึ่ง เผลอไปกดดูตัวอย่างของมันเข้าอย่างบังเอิญ พบว่าคนตัดต่อตัว Trailer ของมันทำออกมาได้ดีเอามากๆ เลยเลือกเอาวันว่างๆ กดดูหนังเรื่องนี้โดยที่ไม่รู้ว่าหนังนำเสนอเกี่ยวกับอะไร….

Antlers / 2021 หนังสยองขวัญสาย Genres: Drama-Horror-Mystery งานร่วมทุนสร้างจาก Countries of origin: United States-Mexico-และ Canada หนังความยาว 1.39 ชั่วโมง ผลงานการกำกับของ Director: Scott Cooper หนังนำเสนอเกี่ยวกับครอบครัวๆหนึ่งประกอบไปด้วยพ่อ และลูกชายสองคนพี่น้องอายุราว 8-10 ขวบปี พ่อเป็นคนงานในเหมืองย่านชานเมือง Hope, British Columbia ในแคนาดา วันหนึ่งระหว่างที่พ่อและเพื่อนๆกำลังทำงานกันตามปกติ ดันไปเจอการโจมตีจากสัตว์บางชนิดที่อาศัยอยู่ภายในเหมืองโจมตีเข้า เพื่อนตาย ส่วนคนพ่อได้รับบาดเจ็บสาหัส เสียงร้องโหยหวลดังก้องกึกเหมืองอย่างชวนหวาดหวั่นสะพรึงขนหัว และหลังจากที่พ่อกลับมาถึงบ้านหลังน้อยนับแต่วันนั้น พ่อก็ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป พ่อมีอาการคล้ายโดนผีสิง เด็กน้อยต้องช่วยกันกักขังพ่อและน้องชาย(ที่ดูเหมือนว่าจะติดเชื้ออะไรบางอย่างมาจากพ่อ) กักขังเอาไว้ภายในห้องนอน จากนั้นก็ลงกลอนล็อกไว้ 3 ชั้น โดยลูกชายคนโต เด็กชาย Lucas Weaver(รับบทโดย Jeremy T. Thomas)กลางวันจะไปเรียนหนังสือที่โรงเรียนประถมในตัวเมือง ช่วงเย็นก็กลับมาบ้าน หาอาหารให้พ่อและน้องชายกิน โดยอาหารที่คนเป็นพ่อโปรดปรานมากที่สุด ก็คือ…. ซากศพเน่าเปื่อยของสัตว์ทุกชนิด รวมถึงเนื้อมนุษย์อันแสนโอชนะที่พ่อแอบย่องหนีออกจากบ้านได้ในบางครั้ง

ต่อมา…. ข่าวว่ามีชาวเมือง Hope, British Columbia ในแคนาดาโดนสิ่งมีชีวิตประหลาดฆ่า แล้วกัดแทะกินซากอย่างสยดสยองกลางป่า รวมถึงย่านชานเมือง แพร่สะพัดไปทั่วทั้ง Hope, British Columbia เล่นเอาชาวเมืองต่างขวัญผวา ซึ่งทำให้นายอำเภอ Paul Meadows (รับบทโดย Jesse Plemons) และลูกน้องต่างต้องปวดหัวแบบสุดๆ เพราะหมอที่ห้องผ่าชันสูตรพลิกศพยืนยันหนักเเน่นว่า สาเหตุการตายศพทุกศพที่เมืองแห่งนี้เกิดจากการฆ่าและกัดแทะกินซากจากฟันของมนุษย์ ขณะเดียวกันคุณครูสาว Julia Meadows (รับบทโดย Keri Russell) พี่สาวของนายอำเภอก็กำลังวิตกกังวลกับพฤติกรรมแปลกประหลาดที่ลูกศิษย์ของเธอ เด็กชาย Lucas Weaver (ลูกของคนทำงานในเหมืองที่โดนสิง)แสดงออกมา เลยชวนเพื่อนครูในโรงเรียน พยายามเดินทางไปพบพ่อของเด็กชายที่บ้าน เพื่อช่วยเหลือและปรับพฤติกรรมแปลกแยกที่แสดงออกมาให้เป็นปกติ โดยคุณครูหารู้ไม่ว่า ภายในบ้านของเด็กชายคนนี้แอบซุกซ่อนความสยดสยองเอาไว้ข้างในแบบสุดขั้ว และไม่มีใครที่ก้าวเท้าเข้าไปภายในบ้านจะสามารถมีชีวิตรอดกลับออกมาได้แม้นแต่คนเดียว….

หลังดูจบ พบว่าหนังไม่ยาวจนเกินไปนัก ด้านมุมกล้องการถ่ายทำถือว่ายอดเยี่ยมเอามากๆ เป็นงานที่ปราณีตสุดๆ สวยงาม การเล่าเรื่องทำออกมาได้อย่างน่าสนใจ ค่อยๆปรับอารมณ์ของคนดูทีละเล็กละน้อยจนทะลุจุดเดือดในช่วงท้ายอย่างพอเหมาะพอดี งานเอฟเฟคและคอมฯกราฟฟิกตัวสัตว์ร้าย ถือว่าทำออกมาได้ดีงามเอามากๆ ทรงพลัง เสียดายนิดตรงฉากจบ หนังดันจบง่ายไปหน่อย แต่ก็นะ….โดยภาพรวมถือว่าหนังเรื่องนี้ “ดีเยี่ยมในระดับหนึ่งเลยครับ”

ความสนุก เอาไป 8.5 / 10 คะแนน ช่วงส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ ใครว่างๆ ไม่รู้จะดูหนังสยองขวัญเรื่องไหน แนะนำเลยครับ

(******* หมายเหตุ : ตรงนี้มีส่วนของการสปอยล์เนื้อหาเพียงบางส่วน)

“จากคำบอกเล่าในหนัง โดยคนพื้นถิ่นใน Hope, British Columbia ในแคนาดา ตำนานโบราณเล่าขานว่าพ่อของเด็กชายโดนปีศาจที่ชื่อ Wendigo สิงสู่ ซึ่งถ้านับเอาเฉพาะตามหลักทางความเชื่อล้วนๆ(beliefs) สิ่งมีพลังอำนาจชั่วร้าย(พลังแบบ Mana)นามนี้อยู่ในลัทธิ animism หรือลัทธิวิญญาณนิยม ซึ่งแยกสายในส่วนของ Totemism หรือสายพลังอำนาจเหนือธรรมชาติของสัตว์และพืช โดยทางยุโรปตะวันตกนิยามศัพท์เฉพาะเอาไว้ เรียกว่า Lycanthropy, ส่วนทางฝั่งอเมริกาเหนือนิยามศัพท์เฉพาะเอาไว้เช่นกัน โดยเรียกว่า skinwalker

ในขณะเดียวกัน หากมองภาพสะท้อนเกี่ยวกับปีศาจที่ชื่อ Wendigo มองในแบบมนุษยวิทยาวัฒนธรรม เราอาจมองได้ว่า ปีศาจตนดังกล่าวที่หลายคนในเผ่าอินเดียแดงโบราณกล่าวอ้างว่ามีลักษณะเป็นกวางตัวโตนั้น จริงๆแล้วก็น่าจะเป็นมนุษย์แบบเราๆท่านๆนี่แหล่ะ แต่อาจจะครั้งหนึ่งถูกบทลงโทษของเผ่า เลยโดนเทรเทศออกไปอยู่คนเดียวตามลำพังในป่าในภูเขา เลยหาเลี้ยงชีพด้วยการออกล่าสัตว์กินดิบๆเป็นอาหาร หนังและเขาสัตว์ที่ล่าได้ก็เอาทำเครื่องนุ่งห่ม เครื่องประดับหลอกล่อสัตว์ชนิดนั้นๆสำหรับการล่าในครั้งต่อๆไป และเป็นไปได้ว่า การที่อยู่คนเดียวในหน้าหนาว ขาดอาหาร เลยอาจแสดงพฤติกรรมผิดแผกแตกต่างจากมนุษย์ปกติทั่วไป คือ ออกล่ามนุษย์กินเป็นอาหารด้วยความจำใจ หลายคนที่ย่างกรายเข้าไปในถิ่น โดนล่า รอดชีวิตกลับออกมาได้ เลยเห็นเป็นปีศาจ มีรูปร่างประหลาด มีหนังและเขาของกวางประดับ ถือหอกออกล่าเหยื่อ ก็เป็นได้ เลยพาลเชื่อว่าตำนานแห่ง Wendigo นั้นเป็นจริง เช่น เรื่องราวเกี่ยวกับ skinwalker ของเผ่านาวาโฮ ชนพื้นเมืองของอเมริกาเหนือ เป็นต้น

สุดท้าย หากเชื่อว่าทั้ง Lycanthropy และ skinwalker คือลัทธิที่ว่าด้วยการกลายร่างจากมนุษย์ไปเป็นสัตว์ชนิดต่างๆ จะสอดคล้องกับลัทธิการกลายร่างจากมนุษย์ไปเป็นสัตว์ในแถวเอเซียและในย่านอาเซียนด้วยเช่นกัน อาทิ ลัทธิการกลายร่างจากคนไปเป็นเสือ(สมิง)ในกัมพูชา, ลัทธิการกลายร่างจากคนไปเป็นงู(พญานาค)ในฝั่งประเทศลาวและฝั่งไทย, รวมถึงลัทธิที่ว่าด้วยการกลายร่างจากมนุษย์ไปเป็นงูจงอาง ในลัทธิ Totemism ในแบบฉบับชาวไทยภาคใต้และคนในรัฐทางตอนเหนือของประเทศมาเลเซีย ในหมู่ของชาวไทยสยาม ในกรณีศึกษา ทวดในรูปสัตว์ เป็นต้น ซึ่งการศึกษาเรื่องราวเกี่ยวกับความเชื่อดังกล่าวต้องใช้หลักการทางมนุษยวิทยาวัฒนธรรมเข้าศึกษาควบคู่”
(วิเคราะห์โดย : ดร.คุณาพร ไชยโรจน์ / นักวิชาการอิสระทางมานุษยวิทยาวัฒนธรรม)

#แอดมินซามาร่า ^_^