****** รีวิวหนังอาร์ต-รสชาติแปลกประหลาด : Santa Sangre / 1989 (คือหัตถาแห่งพระมารดา)



“สมัยปี 1989 ผมทำอะไรอยู่นะ อืมมม….ใช่ เป็นงานเลี้ยงรุ่นส่งท้ายเพื่อนๆประถมศึกษาชั้นปีที่ 6 ก่อนเดินทางไปเที่ยวบ้านคุณยายที่จังหวัดพะเยา หลังจากนั้นก็เข้าเรียนต่อชั้น ม.1 แล้วฟุตบอลโลกปี 1990 ที่อิตาลีก็เริ่มต้นขึ้น เพลง To be number one เพลงประจำทัวร์นาเมนต์ดังกระหึ่มห้องแล็บภาษาอังกฤษของโรงเรียนแสงทองวิทยา-เซนต์โทมัส(ST) เด็กๆทุกคนของที่นี้ร้องตามกันดังสะเทือน จากนั้นคณะละครสัตว์ชื่อก้องโลกอย่าง American Circus ก็เดินทางมาเปิดการแสดงที่หาดใหญ่ ถ้าจำไม่ผิดคณะของ American Circus ขอใช้ตัวอาคารเพียงบางจุดภายในวัดแม่พระประจักษ์เมืองลูร์ด หาดใหญ่ ในโรงเรียนแสงทองวิทยาเป็นที่พัก ก่อนเปิดการแสดงขึ้นที่เนินดินกว้างๆ ซึ่งก็คือตึกอาเซี่ยนเทรดในปัจจุบัน การแสดงในค่ำคืนนั้นผมได้ไปนั่งชมอยู่ด้วย อืมมม….จำได้ประมาณนี้แหล่ะ” (วาทะโดย : แอดมินซามาร่า)

Santa Sangre / 1989 (หัตถาแห่งพระมารดา) หนังสาย Genres : Drama-Horror-Thriller จากประเทศเม็กซิโก-อิตาลี ผลงานของ Director : Alejandro Jodorowsky ร่วมเกลาบทหนังโดย Roberto Leoni และ Claudio Argento หนังตัวเต็มฉบับหลุดกองเซ็นเซอร์ความยาวคือ 2.03 ชั่วโมง โดยหนังได้เรต NC-17, เรต R, เรต 18+, และทางเราขอให้เรต ฉ 20+ เพราะหนังมีเนื้อหาล่อแหลม สุ่มเสี่ยง ทำลายศีลธรรมให้บิดเบี้ยว มีความรุนแรงสูงในหลายฉาก(นับเฉพาะในปี 1989) จึงไม่แปลกที่หลายประเทศสั่งแบนหนังเรื่องนี้จากการฉายและเผยแพร่อย่างชนิดฝังลงหลุมเอาดินกลบซะมิดชิดในห้วงเวลานั้น

ผมเคยเห็นหนังเรื่องนี้วางขายอยู่ในเว็บของเจ๊เอ็มม่า(เจ้าแม่แห่ง PMDVD2U อันลือลั่นในอดีต) แล้วก็ในเว็บของ dvdcanfly ช่วงนั้นเคยซื้อมาเก็บนะ แต่ปรากฏเก็บอีท่าไหนจำไม่ได้ ผมทำแผ่นหายไปล่ะ หายังไงก็ไม่เจอ(555+) นานเข้าหลายปีผ่าน เลยลืมมันไปเสียนี่ จวบจนเมื่อวาน(พฤหัสบดีที่ 1 กรกฎาคม 2564 ) เปิดคอมฯ ทำงานตามปกติ แล้วนิ้วเจ้ากรรมก็ดันเผลอคลิ๊กไปเจอใบปิดของเจ้า Santa Sangre / 1989 เข้า เลยนึกขึ้นได้ว่าผมลืมดูอะไรไปอย่าง(555+)….เจ้าหนังเรื่องนี้ไง อืมมม….

Santa Sangre / 1989 หนังนำเสนอเรื่องราวใน 3 ห้วงเวลา เรียงลำดับ คือ
(1.) ห้วงเวลาแรก หลังเหตุการณ์ในวัยเด็กผ่านพ้นไป จนพระเอกอายุก้าวย่างเข้าสู่ช่วงวัยผู้ใหญ่ในโรงพยาบาลบ้า
(2.) ห้วงเวลาสอง พาย้อนกลับไปสู่วัยเด็กของพระเอก อายุราว 10 ขวบปี ในคณะละครสัตว์ในประเทศเม็กซิโก
(3.) ห้วงเวลาสุดท้าย พากลับมาที่ห้วงเวลาผู้ใหญ่อีกครั้ง แล้วหนังก็พาคนดูก้าวเดินต่อไปจวบจนหนังจบ

จุดเริ่มต้นคือภายในโรงพยาบาลบ้า เราจะเห็นใครคนหนึ่ง หนุ่มผมยาว ปีนต้นไม้ ทำท่าทางคล้ายลิงชิมแปนซี หมอทางจิตเวชบอกเขาว่า “เฟนิกซ์ ถึงเวลาแล้วที่คุณควรจะทำตัวให้เหมือนผู้คนปกติ และออกไปสู่โลกภายนอก”

แล้วหนังก็ตัดภาพไปถึงสาเหตุที่ทำให้เขาต้องกลายสภาพมาเป็นคนบ้า….

มันเป็นเรื่องราวของเด็กน้อยคนหนึ่ง “เฟนิกซ์” เด็กชายอายุ 10 ขวบปี ลูกเจ้าของคณะละครสัตว์คณะหนึ่งใจกลางกรุงเม็กซิโกซิตี้ในประเทศเม็กซิโก กับเรื่องราวที่ผ่านเข้ามาในชีวิตอย่างมากมาย ไล่ตั้งแต่การที่เด็กน้อยมีคุณแม่เป็นพวกบ้าคลั่งลัทธิทางศาสนา แม่สร้างโบสถ์ประหลาดที่รวมกลุ่มคนศรัทธาเพี้ยนๆในรูปปั้นแปลกนาม “สาวน้อยไร้แขน” เด็กสาวที่ถูกกลุ่มชายโฉดบ้ากามรุมข่มขืนและกระชากแขนทั้งสองข้างของนางจนขาด ระหว่างนางถูกรุมข่มขืนเล่าลือกันว่านางบรรลุจนได้กลายเป็นนักบุญ โลหิตของนางกลายเป็นสระน้ำศักดิ์สิทธิ์ให้ชาวเม็กซิโกได้ใช้ชำระกายร่าง(เพื่อจะได้เป็นนักบุญไปด้วย) คุณพ่อของเด็กน้อยเป็นเจ้าของคณะละครสัตว์ เป็นชายแก่ขี้เมาบ้ากาม วันๆไม่ค่อยทำห่าอะไรมัวแต่จ้องจะฟันสาวๆในคณะแสดงโชว์เอามาเป็นเมียเก็บ คณะละครสัตว์เลยคล้ายฮาเร็มของพ่อ พอดีกับที่มีสาวสักลายเต็มร่างร่านอยากโดนซำพอดี คู่นี้เลยแอบไปมีอะไรกันแบบลับๆโดยมีเด็กน้อยคอยแอบดูอย่างตื่นตะลึงในภาพที่เห็น(พ่อหนูแอบไปมีแม่ใหม่) ส่วนฝ่ายแม่ของเด็กน้อยเฟนิกซ์ก็แอบสะกดรอยตามและกัดฟันกรอดๆอยู่ห่างๆ

จวบจนวันหนึ่งนางทนไม่ไหว เพราะแอบเห็นสามีสุดรัก(พ่อของเด็กน้อยเฟนิกซ์)กำลังจะเผด็จศึกสาวสักลาย เลยเอากรดเข้มข้นในขวดแก้วไปสาดใส่เจ้าช้างน้อยของสามีจนละลาย สามีโกรธจัดใช้มีดตัดแขนของศรีภรรเมียจนขาดทั้งสองข้าง จากนั้นเขาก็จ้องมองลงไปสำรวจที่เจ้าช้างน้อย ซึ่งบัดนี้มันเหลือแต่เพียงตอไม้เหี่ยวๆ ใช้การไม่ได้ ด้วยความอาลัยแลสิ้นหวัง สามีเลยใช้มีดเชือดคอตัวเองจนตาย ต่อหน้าลูกชายสุดรักเพียงคนเดียว

ลูกชายที่เห็นภาพเหตุการณ์ทั้งหมดเลยเสียสติ กลายเป็นบ้า เขาถูกรักษาอาการตั้งแต่อายุ 10 ขวบ จวบจนอายุเลยผ่านเข้าสู่ช่วงวัยผู้ใหญ่ เฟนิกซ์เริ่มรับรู้ว่ามีบางสิ่งบางอย่างเกิดขึ้นข้างนอกตัวอาคารของโรงพยาบาลบ้า เขามองผ่านหน้าต่างออกไป เห็นคุณแม่ของเขาที่รอดตายจากเหตุการณ์ในครั้งนั้น กลายเป็นคนพิการแขนด้วนทั้งสองข้าง ยืนรอคอยเขาอยู่ที่ภายนอกตึกรักษาอาการบ้า เฟนิกซ์ตัดสินใจปีนหนีออกไป และเริ่มต้นชีวิตใหม่ด้วยการเป็นมือให้กับคุณแม่ของเขาแทนมือทั้งสองข้างที่เสียไป คุณแม่ไปไหน ลูกก็จะตามไปด้วย คุณแม่อยากฆ่าใครกูก็จะไปฆ่าให้ เป็นมือและกายร่างให้กันและกัน ตลอดไป….

****** ความเห็นส่วนตัวของผู้เขียน
ตอนแรกก็แอบ งง ว่าหนังต้องการสื่อถึงอะไร ก็นั่งดูมันทั้งที่ งงๆ นี่แหล่ะ จวบจนหนังปิดม่านจบลง เลยถึงบางอ้อ ว่าไปแล้วก็ทำให้นึกถึงฆาตกรโรคจิตชื่อดังของอเมริการายหนึ่งอย่าง Ed Gein ขึ้นมาตะหงิกๆ หมอนี่เป็นต้นแบบของฆาตกรโรคจิตชื่อดังในโลกภาพยนตร์หลายต่อหลายเรื่องเลย เช่น ไอ้หน้าหนัง Leatherface ใน The Texas Chainsaw Massacre และป๋า Hannibal Lecter ใน The Silence of the Lambs กล่าวกันว่า Ed Gein มีอาการ Schizophrenia เลยทำให้เขากลายเป็นฆาตกรโรคจิตไป ซึ่งมันคล้ายๆกับที่เกิดขึ้นภายในหนังเรื่อง Santa Sangre / 1989 นี้แหล่ะ มีส่วนคล้ายกันในหลายภาคส่วนจริงๆ(พิมพ์มากกว่านี้ไม่ได้ล่ะ เดี๋ยวสปอยล์ 555+)

มาดูฉากแรงๆในหนังเรื่องนี้กันบ้าง ขอบอกว่าเพียบบบบ เช่น ฉากลูกชายแอบดูพ่อกับกิ๊กเอากันภายในเต้นท์ของคณะละครสัตว์, ฉากแม่เอาน้ำกรดราดไข่พ่อ และฉากพ่อตัดแขนของแม่ทั้งสองข้างจนขาด, แต่ฉากที่เล่าลือกันว่า “ติดตาที่สุด” ภายในหนังเรื่องนี้ ก็คือ ฉากการจัดงานศพในช้างในคณะละครสัตว์ ฉากตอนที่ขบวนแห่เดินทางมาถึงหน้าผา มีการตัดเชือกให้โลงศพช้างตกลงไปยังก้นเหว ซึ่งในขณะเดียวกัน อีกฝั่งก็มีประชาชนมายืนรออีกจำนวนมาก ต่างยิ้มร่า โห่ร้องด้วยความยินดีปรีดา อืมมม….ฉากนี้สะเทือนอารมณ์สัส!

หลังดูจบ เอาไปเหอะ 10 / 10 คะแนน หนังมีแรงดึงดูดแปลกๆ ชิมแล้วรสชาติแปลกแยก แต่ก็ท้าทายให้คนดูพยายามกลั้นใจ เปิดรับ ดูมันให้จบสักครั้ง ว่าแต่ คุณพร้อมหรือยัง…. ????

#แอดมินซามาร่า ^_^