****** เล่าถึงหนังสยองขวัญเก่าๆในความทรงจำเรื่องนี้ : Mr.Vampire 4 / 1988 (ผีกัดอย่ากัดตอบ ภาค 4 )


หนังในตระกูล "ผีกัดอย่ากัดตอบ" ที่สนุกที่สุดในความทรงจำของแอดมิน
กระทู้นี้ขอพิมพ์รีวิวหนังตามใจแอดมินบางนะเออ
สมัยเด็กๆ บ้านของแอดมินตั้งอยู่ในย่านชานเมือง การที่จะได้ดูหนังสยองขวัญสนุกๆในโรงหนังสักเรื่องนั้น เป็นเรื่องยากพอตัว ประเด็นเเรกคือการเดินทางที่ค่อนข้างลำบาก ประเด็นต่อมาถ้าจะดูด้วยเครื่องฉายหนัง(เครื่องเล่น VDO)สมัยนั้นก็มีราคาค่อนข้างเเพง เด็กบ้านๆเเบบเราไม่ค่อยมีกะตังค์ไปหาซื้อเครื่อง-หาเช่าม้วนมาดูหรอก ก็อาศัยดูหนังเอาตาม TV บ้างตามเเต่โอกาสจะเอื้ออำนวย หนึ่งปีคุณเเม่จะพาไปดูหนังในโรงหนังเสียครั้งหนึ่ง มันเป็นวันพิเศษเพียงวันเดียวในรอบปีเลยล่ะ ปี พ.ศ. 2531 เราเลยเลือกดูหนังเรื่องนี้ในวันพิเศษวันนั้น
ผีกัดอย่ากัดตอบ 4 หรือ Mr.Vampire 4 /1988 (ชื่อต้นฉบับคือ Geung see suk suk / 1988) คือหนังที่เราเลือกดู ตอนนั้นแอดมินเรียนอยู่ชั้น ป.6 เคยได้ยินเพื่อนๆเล่ากันว่าภาค 1-2-3 สนุกมาก เราเด็กบ้านๆ ไม่เคยดูกะเขา เลยเอา(ว่ะ)เลือกเรื่องนี้เเหล่ะดูในโรงหนัง วันนั้นนั่งรถตุ๊กๆเข้าไปในตัวเมืองหาดใหญ่ ไปที่โรงหนังโคลีเซี่ยม(ปัจจุบันโรงหนังถูกทุบทิ้งไปเเล้ว สร้างเป็นห้างลีการ์เด้นหาดใหญ่ ขึ้นมาเเทนที่) เเล้วซื้อตั๋วหนังราคา 40 บาท(ชั้น VIP)มาดูกันสามคน แอดมิน-น้องชาย-เเละคุณเเม่ นี่เป็นหนังเรื่องสุดท้ายที่เราได้ดูในโรงหนังโคลีเซี่ยมในยุคปี พ.ศ.2531 ก่อนที่โรงหนังจะถูกทุบทิ้ง เหลือเพียงความทรงจำ
ผีกัดอย่ากัดตอบ 4 หลายคนบอกว่ามันเป็นหนังตลก-แอ็คชั่น เเต่สำหรับแอดมินในตอนนั้น(เด็กน้อยเรียนชั้น ป.6)ผีในเรื่องมันน่ากลัวเอาการเลยล่ะ ในความทรงจำในวัยเด็กนะ
ผีกัดอย่ากัดตอบ 4 หรือ Mr.Vampire 4 /1988 หนังสยองขวัญสาย Genres: Action | Comedy | Horror จากประเทศฮ่องกงโดย Director: Ricky Lau หนังบอกเล่าเรื่องราวของบ้านสองหลังที่ตั้งอยู่กลางป่า เเละตั้งอยู่ติดกัน โดยมีเพื่อนบ้านสองคนที่ไม่กินเส้นกันอย่างรุนเเรง (นักพรตในลัทธิเต๋ากับลูกศิษย์หนุ่ม-นักบวชในศาสนาพุทธนิกายมหายานกับลูกศิษย์สาว) ทั้งสองบ้านมักจะมีปัญหากันตลอด จนกระทั่งวันหนึ่งมีขบวนศพของเจ้านายชั้นสูงเดินทางผ่านหน้าบ้าน นักพรตผู้ควบคุมขบวนศพเป็นศิษย์น้องของนักพรตบ้านหลังเเรกโบกมือทักทายศิษย์พี่อย่างอ่อนน้อม บอกกล่าวว่า.... "กำลังลำเลียงศพของเจ้านายคนชั้นสูงพร้อมคุณชายน้อยเเละทหารองค์รักษ์อีกจำนวนหนึ่ง เดินทางไปคารวะฮ่องเต้ในเมืองหลวง เพื่อขอให้ท่านออกคำสั่งให้เผาหรือฝังชนชั้นสูงคนดังกล่าว" (คนชั้นสูงในจีน ในยุคสมัยหนึ่งที่ทำงานรับใช้ฮ่องเต้ ถ้าตาย ครอบครัวจะไม่สามารถจัดพิธีศพเองได้ ต้องรอให้เจ้าชีวิต-ฮ่องเต้เป็นคนตัดสิน)
หลังทักทายกันพอหอมปากหอมคอ นักพรตศิษย์น้องขอข้าวเหนียวจากศิษย์พี่มาห่อหนึ่ง(ข้าวเหนียวใช้สำหรับเเก้พิษของผีดิบหากโดนกัด) เเล้วออกเดินทางต่อ ปรากฏว่าระหว่างเดินทาง คืนนั้นเกิดพายุฝนตกหนักมาก ฝนชะโลมจนตัวอักษรสะกดวิญญาณผีร้ายหลุดลอกออกจากโลงศพ เคราะห์ซ้ำเมื่อมีฟ้าผ่าลงมากลางโลงอีก ทำให้ผ้ายันต์สะกดวิญาณระเบิดออก ผีดิบที่ทรงพลังที่สุด ชั่วร้ายที่สุด กระหายโลหิตที่สุด ถูกปลดปล่อยออกมาจากโลงทองที่ ณ บัดนี้ไม่สามารถสะกดมันเอาไว้ได้อีกต่อไป....
เเน่นอนว่าทั้งนักพรตในลัทธิเต๋ากับลูกศิษย์หนุ่ม-นักบวชในศาสนาพุทธนิกายมหายานกับลูกศิษย์สาว ทั้งสองบ้านต้องรีบเดินทางไปยังกลางป่าลึก ยุติความบาดหมางเอาไว้เพียงชั่วคราว รวมพลังกันเพื่อออกปราบเจ้าผีร้ายตนนี้ให้ราบคาบ ก่อนที่มันจะหลุดไปถึงหมู่บ้าน-เมืองใหญ่ในลำดับถัดไป (หากหยุดมันไม่ได้ หายนะเเน่นอน)
****** ความเห็นส่วนตัวของผู้เขียน
เคยดูมันในโรงหนังสมัยปี พ.ศ. 2531 พอเจอตัวเต็มฉบับพากย์ไทย(เเม้เป็นเวอร์ชั่นพากย์ไทยโดยทีมพากย์ทีมใหม่)เเต่ตัวหนังโดยภาพรวมยังสนุกเหมือนเดิม สนุกเพราะเราเคยดูมันนานมาเเล้ว เริ่มลืมเลือนเนื้อเรื่อง รายละเอียดปลีกย่อยไปบ้าง พอได้ดูมันอีกครั้งเมื่อคืน(วันอังคารที่ 15 ธันวาคม 2563) สนุกจนน้ำตาไหล! นั่งดูไป ยิ้มไป หัวเราะไป เหมือนได้กลับไปเป็นเด็กอีกครั้ง ^^
ให้ 10 / 10 คะเเนน ดูจบแทบอยากร้องไห้ เราได้กลับมานั่งดูมันอีกครั้งจริงๆ
#แอดมินซามาร่า