****** Shocking Asia II: The Last Taboos / 1985 (แอบดูเอเชีย 2)

>>>>https://samara-hatyai-17520.blogspot.com/2020/08/shocking-asia-ii-last-taboos-1985-2.html

เป็นหนังภาคต่อของ Shocking Asia / 1981 โดยภาพนี้ใช้ชื่อว่า Shocking Asia II: The Last Taboos / 1985 หรือ Die letzten Tabu's - Shocking Asia II ผู้กำกับยังเป็นคนเดิมคือ Director-Writer: Rolf Olsen เรื่องนี้เป็นหนังสัญชาติ Country: Hong Kong | West Germany หนังถูกจัดอยู่ในประเภท Genres: Documentary โดย Filming Locations ส่วนใหญ่ถูกถ่ายทำใน Philippines / ประเทศใกล้เคียง / รวมถึงในประเทศไทยด้วย

โครงเรื่องใน Shocking Asia II: The Last Taboos / 1985 เล่าถึงงานถ่ายหนังเเนวสารคดีของจริงที่ Director-Writer: Rolf Olsen เดินทางมาถ่ายทำในภูมิภาคเอเชีย....

ช่วงเเรก หนังบอกเล่าถึงเรื่องราวของกลุ่มคนพื้นเมือง ณ สถานที่เเห่งหนึ่ง (เข้าใจเอาเองว่าน่าจะในอินโดนีเซีย) เราจะเห็นความเชื่อเกี่ยวกับวิหารศักดิ์สิทธิ์ ฝูงลิงบริวารของเทพเจ้า พิธีกรรมเกี่ยวกับการลำเลียงเเละจัดงานศพเเบบเเปลกๆ รวมถึงถ้ำค้างคาว

หลังจากนั้นหนังพาคุณผู้ชมข้ามฝั่งไปยังกรุงมะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์ ในยุคก่อนปี 1985 ชมภาพกลางเมืองหลวง รวมถึงดูความเสื่อมโทรมของบ้านพักอาศัยของคนจนเมืองที่นั่น ชุมชนแออัดที่มีเเต่ความเเร้งเเค้น ริมถนนตรงมุมตึกในซอยเปลี่ยวมีเเต่สาวขายบริการทางเพศคอยเมียนมองหาลูกค้าเเละรายได้ที่จะนำมาจุนเจือครอบครัว เเมงดาที่กำลังเปิดซ่องเล็กๆเต็มรายทางกลางกรุงมะนิลา เเม่เล้าที่กำลังฝึกนางระบำจ้ำบ๊ะ เเละฝึกการมีเพศสัมพันธ์ของสาวขายบริการหน้าใหม่ ในบาร์เปลือยมีการเต้นจ้ำบ๊ะอย่างสนุกสนานของสาวๆ ลูกค้าฝรั่งที่กำลังดื่มกินพร้อมชมโชว์ตรงหน้าอย่างมีความสุข ตรงมุมมืดของบาร์ เราจะเห็นหัวโขน(น่าจะเศียรหนุมาน)วางประดับบาร์เปลือยอย่างสวยงาม หลังจากนั้นหนังก็ตัดไปที่พิธีล้างบาปของโบสถ์คริสต์เเห่งหนึ่ง พร้อมวันที่สดใสของสาวขายบริการทางเพศที่กำลังนั่งรถยนต์สีขาวกลับมายังสลัมอย่างผู้มีอันจะกิน นางเป็นความหวังของครอบครัวจนๆที่นี่ เพื่อชีวิตใหม่ที่ดีกว่า เเละเป็นความหวังของพ่อเเม่น้องๆในสลัม....

หนังยังคงถ่ายทำในฟิลิปปินส์ต่อ คราวนี้พาไปชมวิธีการรักษาโรค หรือไม่ก็พิธีกรรมบางอย่าง เห็นหมอหลายคนทั้งคนท้องถิ่น รวมถึงหมอฝรั่ง กำลังใช้มีดเเทง เเล้วใช้นิ้มมือล้วงทะลวงเข้าไปในรูสะดือจนคนไข้เลือดอาบ อวัยวะไหลออกมาจากรูสะดืออย่างสยดสยอง

หลังจากนั้นหนังพาคุณผู้ชมขึ้นไปทางตอนเหนือของฟิลิปปินส์ ไปที่เมืองทางเหนือเเห่งหนึ่งเพื่อดู Kabayan Mummy หรือมัมมี่ของฟิลลิปปินส์ เป็นสุสานที่มีเเต่ศพคนตายเเละซากที่ไม่เน่าเปื่อยที่เรียกว่า Kabayan เต็มพื้นที่ไปหมด ตรงนี้ใครไม่ถูกโรคกับซากศพมีสิทธิ์อ้วกเเตกหลอนผวาขนหัวลุกเอาได้ง่ายๆ เพราะเเต่ละศพหน้าตาน่ากลัวมากๆ ช่วงท้ายในฟิลิปปินส์หนังยังคงวนเวียนอยู่กับชายคนหนึ่งที่กำลังล้างป่าช้าทำความสะอาดโครงกระดูกศพ เพื่อใส่มันกลับลงไปในไห ในสุสานเก่า

เปลี่ยนบรรยากาศนิดๆ หนังเปลี่ยนสถานที่ถ่ายทำไปเป็นชุมชนชาวประมงเล็กๆเเห่งหนึ่งเเถวโซนทะเลประเทศมาเลเซีย กับกลุ่มนักล่าหูฉลามที่ต้องเเลกชีวิตด้วยอวัยวะบางอย่างของตนเพื่อให้ได้อวัยวะสุดอร่อยล้ำค่าของโคตรปลาดุร้ายเเห่งท้องน้ำมาขึ้นภัตคารอาหารหรูในหลายประเทศ จากนั้นหนังพาคนดูไปเที่ยวชมบาร์ของคนเเคระ ที่มีคนเเคระเป็นพนักงานเสริฟ, นักร้อง, นักกีฬา, เเละเป็นนักเเสดงสดบนเวทีเพื่อให้คนดูมีความสุข

ไม่นาน Director-Writer: Rolf Olsen ก็พาทีมงานขึ้นเครื่องบินมาลงที่ประเทศฮ่องกง(เมื่อสมัยก่อนปี 1985) พามาชมมุมมืดของคนฮ่องกง กับที่พักในเเบบโลงศพ หรือพื้นที่เช่าขนาดเล็กเท่าโลงศพสำหรับผู้มีรายได้น้อยว่าพวกเขา(เเละเธอ)ดำรงชีวิตกันอย่างไร (สุดลำบากยากไร้)

หลังจากเที่ยวชมมุมมืดกลางฮ่องกงจบ ทีมของ Director-Writer: Rolf Olsen ก็เดินทางไปถ่ายทำสารคดีต่อที่ญี่ปุ่น โดยเลือกพาคนดูไปชมย่านโคมเเดง(ย่านขายบริการทางเพศของญี่ปุ่น) ไล่ตั้งเเต่ซ่องเเบบปกติ ซ่องบนเรือขนาดเล็กย่านชายฝั่ง พิพิธภัณฑ์เกี่ยวกับเซ็กซ์เเละตุ๊กตายาง รวมถึงย่านร้านโคมแดงโชว์การมีเพศสัมพันธ์ให้ลูกค้าดูกันเเบบสดๆข้างถนน เราจะเห็นบาร์เฉพาะบางเเห่งมีการโชว์วิปริตทางเพศเพื่อบริการลูกค้าบางกลุ่มด้วย ไล่ตั้งเเต่สาวโชว์ร่วมเพศกับอวัยวะเพศปลอม การโชว์ร่วมเพศกับใบมีดโกน 5-6 ใบอย่างสุดหวาดเสียว ศิลปะการมัดสาวเปลือยด้วยเชือก รวมถึงการใช้จิ๋มสูบบุหรี่เเละพ่นควันโชว์เรียงหน้ากระดานภายในบาร์ 18+

ทีมของ Director-Writer: Rolf Olsen ยังคงตระเวนเดินทางต่อด้วยการลงพื้นที่ 18+ อย่างต่อเนื่อง กับการขอไปตั้งกล้องถ่ายทำภายในคลับลึกลับแห่งหนึ่งที่มีบริการทางเพศเเปลกๆ เช่น บาร์เฉพาะที่หนุ่มใหญ่ชอบมาใช้บริการ พวกเขาจะจ่ายตังค์ก้อนโตเพื่อเข้าไปยังห้องปิดตายที่มีรูปดาราสาวคนโปรดกำลังนั่งฉีกขา พร้อมมีรูขนาดใหญ่ปรากฏตรงสามเหลี่ยมทองคำของรูปดังกล่าว ชายหนุ่มเริ่มปลดกางเกงลง เเล้วสอดใส่พญามังกรเข้าไปในรูปริศนา หญิงสาวฝั่งตรงข้าม ซึ่งเราไม่มีทางรู้ว่าเป็นใคร กำลังช่วยให้หนุ่มใหญ่มากหน้าหลายตาถึงสวรรค์เพียงไม่กี่อึดใจ ด้วยการสาวมืออย่างเชื่องช้า เเต่ว่าวน้อยล่องลอยถึงดวงดาว....

บาร์เฒ่าทารก คืออีกสถานที่ๆต้องกล่าวถึงให้ได้ เพราะสถานที่เเห่งนี้ในญี่ปุ่นค่าบริการเเพงหูฉี่ คนมาใช้บริการส่วนใหญ่เป็นหนุ่มใหญ่ไม้ใกล้ฝั่งกระเป๋าหนักที่ปราถนาอยากกลับมาใช้ชีวิตในวัยเด็กอีกครั้ง หลังจากจ่ายตังค์(เเพงมาก) สาวสวยในชุดเปลือยก็จะพาคุณผู้เฒ่ามาเปลี่ยนชุดเป็นทารก มีการทาเเป้งให้ ใส่เเพมเพิสให้ จากนั้นก็ป้อนอาหารเด็ก ให้เล่นของเล่นเด็กทารก มีหัวนมปลอมให้ดูด โอ๊วววววว....ดีใจจังฉันกลับมาเป็นเด็กอีกครั้ง! ยิ้วกิ้ววววว (ดูหนังมาถึงตรงนี้ ยอมรับเลยว่า ผู้เขียนเอาส้นตีนก่ายหน้าผาก มึนหัวตึ๊บๆๆๆ 555+)

หนังยังไม่จบนะ อิผู้กำกับพาคุณผู้ชมไปรับชมพิธีกรรมแปลกๆกันต่อ น่าจะเป็นพิธีกรรมนองเลือดในฟิลิปปินส์ เป็นพิธีกรรมประหลาดในโบสถ์คริสต์ที่สาวกจะถอดเสื้อออกเเล้วใช้อาวุธที่เป็นเเส้ฟาดหลังตัวเองจนเลือดอาบเพื่อบูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์(น่าจะช่วงเทศกาลอีสเตอร์)

จากนั้นทีมของ Director-Writer: Rolf Olsen ก็บินตรงมายังกรุงเทพฯ ประเทศไทย พาคุณผู้ชมมาดูบางสิ่งบางอย่างภายในโรงพยาบาลประสาทเเห่งหนึ่ง เกี่ยวกับความพิกลพิการของคนบางกลุ่มที่ค่อนข้างชวนหดหู่ หลังจากนั้นผู้กำกับก็เดินทางมาถ่ายทำหนังสารคดีต่อที่วัดถ้ำกระบอก ถนนพหลโยธิน ตำบลขุนโขลน อำเภอพระพุทธบาท จังหวัดสระบุรี เกี่ยวกับการรักษาเเละการเลิกยาเสพติดของผู้ป่วยหลายๆคน โดยมีพระพุทธศาสนา พระอาจารย์ เเละพระภายในวัดถ้ำกระบอกเป็นที่พึ่งทางจิตใจ

หลังจากนั้นทีมงานก็พาคนดูไปเข้าบ่อนไก่ ชมการชนไก่ของคนไทย ณ บ่อนเเห่งหนึ่งซึ่งมีการทรมานสัตว์ในเเบบแปลกๆ โดยบ่อนนี้จะเอาใบมีดโกนมาใส่เเทนเดือยไก่ เเน่นอนว่าขณะชนกันเเรงเฉือนของเดือยใบมีดโกนจะรุนเเรงกว่าเดือยไก่ในเเบบปกติมาก ไก่จึงตายเกือบทุกครั้งที่มีการชนกัน ซึ่งมันโหดร้ายทารุณกรรมมาก ออกจากสนามชนไก่ก็เข้าสนามมวยต่อ(น่าจะที่ลุมพีนี)

เเล้วทีมงานก็เดินทางต่อไปยังเกาะลอมบอก (Lombok) ในประเทศอินโดนีเซีย เพื่อชมศิลปะการต่อสู้ของชาวเกาะที่ยึดถือเป็นประเพณีของชายชาตินักรบมายาวนาน โดยผู้ชายชาวลอมบอกจะใส่เฉพาะกางเกง ถอดเสื้อออก มีดาบไม้ โล่ สำหรับท้ารบกันตัวต่อตัวกลางฝูงชนประจักษ์พยาน เเน่นอนว่าพิธีกรรมศักดิ์สิทธิ์นี้ได้เลือดทุกปี

ปิดท้ายด้วยเทศกาลว่าวนานาชาติเอเชีย เเละพระอาทิตย์ตกดินเเถวเเม่น้ำเจ้าพระยาโดยมีวัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหารเป็นฉากหลัง

หนังจบลงเเค่ตรงนี้จริงๆ....

ก็เอเชียในมุมมองของฝรั่งนี่นะ

ให้ 8 / 10 คะเเนนสำหรับความน่าตื่นตาตื่นใจของสารคดีชุดนี้ครับ

#แอดมินซามาร่า