รีวิวหนังฆาตกรรมซ่อนเงื่อนจากประเทศเกาหลีใต้  :   Hide and Seek / 2013 (ซ่อนพฤติกรรมอำมหิต!)



“มีข่าวลือแปลกๆ เกิดขึ้นรอบๆบ้านผม ว่ากันว่ามีคนบุกรุกเข้าไปในบ้านคนอื่น เเล้วแอบอาศัยอยู่ที่บ้านนั้นเงียบๆ....”


Hide and Seek / 2013 (ซ่อนพฤติกรรมอำมหิต!) เป็นหนังสยองขวัญของ Director: Jung Huh หนังใช้อีกชื่อหนึ่งว่า Sum-bakk-og-jil / 2013 โดยมีความยาวประมาณ 107 นาที ออกเผยแพร่ครั้งแรกเมื่อวันที่ 14 สิงหาคม ปี 2013 (ในประเทศเกาหลีใต้)

หนังนำเสนอเรื่องราวของชายวัยกลางคนชื่อ Seong-soo (รับบทโดย Hyeon-ju Son) หัวหน้าครอบครัวที่มีภาระต้องดูแลภรรยาและลูกๆวัยกำลังน่ารักอีกสองคนภายในอพาร์ทเม้นท์สุดหรูกลางกรุงโซล กับภาพที่กำลังค่อยๆรื้อฟื้นผุดขึ้นมาในหัว มันเป็นภาพของพี่ชายเพียงคนเดียวที่จำต้องพรากจากกันในวัยเด็กอย่างมีปมบางอย่างติดค้างคาใจ เขาพยายามลืมเลือนมันเรื่อยๆด้วยยาเพียงบางตัว จนกระทั่ง….

วันหนึ่ง Seong-soo ได้รับข่าวสารจากชายคนที่เขาเชื่อว่าเป็นพี่ชายในวัยเด็ก….ส่งมา

พี่ชายส่งข่าวมาว่า เขาอาศัยที่พักราคาถูกสำหรับซุกหัวนอนย่านอาคารเก่าซอมซ่อน แถวเขตท่าเรือ

ด้วย Seong-soo อยากจะสะสางสิ่งที่ค้างคาในใจบางอย่างกับพี่ชาย เขาจึงรีบเดินทางไปที่ห้องเช่าเก่าๆแถวเขตท่าเรืออย่างไม่รอช้า ซึ่งที่นี่เองที่ Seong-soo รู้สึกว่ามันแปลกประหลาด เพราะหน้าห้องเช่าทุกห้องจะมีการสลักสัญลักษณ์แปลกๆที่แทนค่าด้วยจำนวนของผู้คน-เพศ ไว้ใต้กริ่งกดสัญญาณเสมอ

เขาเข้าไปในห้องเช่าที่ Seong-soo เชื่อว่าพี่ชายพักอาศัยอยู่ แต่ปรากฏเขาหาเท่าไหร่ก็ไม่เจอพี่ชายเสียทีคล้ายกับว่าพี่ชายไม่ต้องการออกมาพบเขาเสียเเล้ว  นอกจากนี้ Seong-soo ยังได้รับการเตือนจากคนเช่าห้องแถวบริเวณข้างๆว่า…. “อย่าพยายามยุ่งกับชายเจ้าของห้องหลังดังกล่าว เพราะเขาอันตราย และสร้างความรำคาญ-หวาดกลัวแก่ผู้คนที่นี่ทุกคน ถ้าคุณตามหาชายเจ้าของห้องหลังนี้ คุณอาจจะตายได้!”

แม้นเป็นคำเตือนที่ดูน่าหวาดหวั่น แต่เพราะชายคนดังกล่าวเป็นพี่ชายเพียงคนเดียวที่ Seong-soo มีอยู่ในตอนนี้ เขาจึงปฏิเสธคำเตือนดังกล่าว และเดินทางมายังห้องเช่าหลังที่เชื่อว่าพี่ชายแอบมาเช่าอาศัยอยู่อย่างลับๆอีกหลายครั้ง

นานวันเข้า ดูเหมือนยิ่ง Seong-soo ยิ่งพยายามตามหาพี่ชายเท่าไหร่ เขาและครอบครัวกลับถูกชายปริศนาในชุดดำ-สวมหมวกกันน็อค-ถือร่ม-และมีท่อนเหล็กเป็นอาวุธ ออกตามล่าอย่างชนิดเอาถึงตาย จนไม่มีสถานที่ใดในโลกใบนี้ที่จะปลอดภัยอีกต่อไป แม้นจะเป็นในอพาร์ทเม้นท์ของพวกเขาเอง!!  ไอ้บ้านี่มันเป็นใครกันเเน่! ( ???? )

หนังจะบอกเล่าเรื่องราวเมื่อครั้งอดีตของพี่น้องคู่นี้ และการไล่ล่าอย่างบ้าเลือดของใครเพียงบางคนที่หมายปองชีวิตของ Seong-soo และครอบครัวอย่างชนิดวิปริตผิดมนุษย์เป็นที่สุด! ถึงตรงนี้คุณผู้ชมจะได้ร่วมลุ้นกันล่ะว่า พระเอกของเราจะสามารถปกป้องครอบครัวเอาไว้ได้หรือไม่ (?) หรือจะตกเป็นเหยื่อรายต่อไปที่ต้องพลีชีวิตให้กับพฤติกรรมอำมหิตของ…. “พวกมัน!” ( ? )

****** ความเห็นส่วนตัวของผู้เขียน
ตอนแรกเข้าใจว่าผมจะต้องนั่งเมาภาษาเกาหลีทั้งเรื่องเพราะหนังไร้ซับใดใด   เอ้อ….แต่ก็โชคดีจริงๆที่คืนนี้เหลือบไปเห็นซับไทยเข้า(เลยรอดตาย 555+)  เป็นไฟล์หนังเกาหลี-พากย์เกาหลีตลอดทั้งเรื่องแต่ฝังซับไทยทิ้งไว้ให้ครับ ( 7 ตอนจบ) คืนนี้เลยนั่งดูแบบมีความสุข ชิลล์ๆไป อิอิอิ

หนังใช้คำโปรยว่า….  “มีข่าวลือแปลกๆ เกิดขึ้นรอบๆบ้านผม ว่ากันว่ามีคนบุกรุกเข้าไปในบ้านคนอื่น เเล้วแอบอาศัยอยู่ที่บ้านนั้นเงียบๆ....”  อื่ม….ตรงนี้แหล่ะที่ทำให้ผมต้องหามันมาดูให้จบให้จงได้

หลังดูจบ….   เอ่อ….ภาพของหนังสยองขวัญรุ่นเก่าๆอย่าง Taking Lives / 2004 (สวมรอยฆ่า) ของ Director: D.J. Caruso และ The Pact / 2012 (ผีฆาตกร) ของ Director: Nicholas McCarthy ลอยผุดขึ้นมาเลย! แต่ในกรณีของ Hide and Seek / 2013 นี้ดูว่าหนังสร้างออกมาได้นุ่มนวลกว่าสองเรื่องแรก

หนังมุ่งหลอกคนดูให้จ้องจดลงไปที่ตัวละครเพียงบางตัว ที่เราต่างเข้าใจตรงกันว่าคือ “ฆาตกรโรคจิต” แต่แท้จริงแล้วมันกลับไม่ใช่  เพราะผู้กำกับหนังเผยให้คนดูเห็นภาพของฆาตกรตั้งแต่ช่วงต้นๆเรื่อง จวบจนหนังใกล้จบก็ยังเผยโฉมของฆาตกรให้เห็นอย่างซึ่งๆหน้า แต่คนดูกลับไม่รู้จริงๆว่า…. “นี่คือฆาตกรโรคจิต!”  ใครเข้าถึงอารมณ์ตรงนี้ไม่ได้ ขอให้ย้อนกลับไปเมื่อครั้งดูหนังเรื่อง “Saw 1 ซอว์ เกมต่อตาย..ตัดเป็น” กับฉากจบ ที่เล่นเอาคนดูหงายหลังเป็นทิวแถวมาเเล้ว  นั่นแหล่ะ!  ใช่!…ผู้กำกับเชื้อเชิญให้คนดูร่วมทานดินเนอร์สุดหรูในค่ำคืนนี้ หั่นเนื้อวะกิวเสร็จ ใช้ส้อมจิ้ม กำลังจะเอาเข้าปาก  อิผู้กำกับแม่งเดินเข้ามาถีบยอดอกคนดูจนหงายหลังลงไปนอนกองกับพื้น นั่นๆๆ....อารมณ์ประมาณนั้นเลยครับ!   มันใช่!! (555+)

สรุปว่าเรื่องนี้เป็นหนังดีเลยล่ะ แม้นไม่ดีที่สุด แต่ก็ห้ามมองข้ามมันไปง่ายๆนะเออ ดูจบคุณจะเกิดอาการหลอนแบบแปลกประหลาด อาจจะวิ่งไปดูหน้าต่างห้องนอน ดูกลอนประตูว่าล็อคดีแล้วหรือยัง(555+) ให้ 9.5 / 10 คะแนนครับ (เรื่องนี้สำหรับสาวกหนังฆาตกรรมซ่อนเงื่อน ย้ำว่า #ต้องดูสถานเดียวครับ!)




#สปอยล์เเบบจัดเต็ม!!

หนังฆาตกรรมซ่อนเงื่อนจากประเทศเกาหลีใต้ : Hide and Seek / 2013 (ซ่อนพฤติกรรมอำมหิต!)

เรื่องของเรื่องคือ สมัยเด็ก  พระเอก(Seong-soo)ที่เป็นลูกบุญธรรมของครอบครัว กับพี่ชาย(ลูกที่แท้จริงของครอบครัว-แต่ป่วยเป็นโรคที่น่ารังเกียจ) มีปัญหากัน  ปรากฏหลังจากเหตุการณ์ในวันนั้น  พ่อ-แม่ ยกทรัพย์สมบัติส่วนใหญ่ให้พระเอก ส่วนพี่ชายถูกจับแยก แล้วส่งไปเลี้ยงดูกับญาติที่อเมริกา  พี่ชายตะโกนก้องหูพระเอกว่า…. “มันไม่ยุติธรรม แกมันโกหก”

หลายสิบปีผ่านไป…..

พระเอกเข้าสู่วัยกลางคน มีหน้าที่การงานที่ดี มีครอบครัว  มีภรรยาสาวสวย  มีลูกชาย-หญิงวัย 10 ขวบที่กำลังน่ารัก 2 คน  เขาและครอบครัวอาศัยอยู่ภายในอพาร์ทเม้นท์หรู บนตึกหมายเลข 108 กลางกรุงโซลอย่างมีความสุข

ไม่กี่วันต่อมา  มีข่าวว่าพี่ชายเดินทางมาจากอเมริกา และกำลังลำบากเพราะไม่มีเงินใช้ ทรัพย์สินไม่เหลือเลย อดมื้อกินมื้อ ตอนนี้เดินทางจากอเมริกามาถึงเกาหลีแล้ว โดยอาศัยอยู่ในห้องเช่า บนตึกเก่าซอมซ่อแถวเขตท่าเรือ

พระเอกจึงตัดสินใจว่าอยากพบพี่ชาย หนึ่งเพื่อช่วยเหลือ และสองคือเพื่อลบปมในอดีตครั้งวัยเด็กที่เขาทำไม่ดีต่อพี่ชายเอาไว้

(ขอเล่าเหตุการณ์ก่อนที่พระเอกของเรื่อง Seong-soo จะเดินทางมาถึงที่นี่….)

มีผู้หญิงอยู่คนหนึ่ง(เป็นฆาตกรโรคจิต) นางมีลูกติดสามีเก่า เป็นลูกสาวอายุ 10 ขวบปี(เด็กใช้ผ้าปิดตาไว้ข้างหนึ่ง-คล้ายตาของเด็กคนนี้มีปัญหา)

พฤติกรรมนรกแตกของแม่ลูกคู่นี้คือ  จะย้ายบ้านไปเรื่อยๆ โดยการเข้าสังเกตครอบครัวที่อาศัยอยู่ภายในหอพัก หรือภายในอพาร์ทเม้นท์นั้นๆเพื่อวางแผน  โดยนางจะออกสำรวจว่า ห้องไหนบ้างมีใครอาศัยอยู่จำนวนกี่คน มีชายกี่คน มีหญิงกี่คน มีคนแก่กี่คน มีเด็กกี่คน แล้วก็ทำเครื่องหมายเป็นรหัสเล็กๆไว้บริเวณใต้กริ่งหน้าประตู(โดยที่เจ้าของห้องถ้าไม่สังเกตจริงๆจะไม่รู้เลย)

หลังจากนั้นนางก็จะเฝ้าสังเกตพฤติกรรมของเพื่อนบ้าน แล้วก็แอบย่องเข้าไปข้างในห้องพัก เพื่อฆ่าเจ้าของห้อง ชิงทรัพย์ และสวมรอยเข้าเป็นผู้พักอาศัย คล้ายปูเสฉวนที่เปลี่ยน-ย้ายบ้านเปลือกหอยไปเรื่อยๆไม่รู้จบ….

คืนนั้นเอง(ฉากเปิดเรื่อง)….  มีผู้หญิงวัยทำงานคนหนึ่งย้ายมาที่นี่  ประจวบเหมาะกับที่ฆาตกรโรคจิตแม่-ลูกกำลังบุกเข้าไปเพื่อฆ่าชายคนหนึ่งในห้องพัก(ซึ่งก็คือพี่ชายของพระเอกนั่นเเหล่ะ) นางฆ่าพี่ชายของพระเอกจนตาย แล้วพยายามซ่อนศพไว้ในตู้เสื้อผ้า  สาววัยทำงานได้ยินเสียง และเข้าใจว่าคนที่อยู่ห้องข้างๆ โรคจิต ชอบถ้ำมอง ชอบมาขโมยของของนางในห้อง  จึงไปทุบประตูห้องเช่า แล้วด่าทอ  ฆาตกรสองแม่ลูกเข้าใจผิดว่าเพื่อนบ้านรู้ว่ามีเหตุฆาตกรรมจึงแอบเข้าห้องของนาง ฆ่านางทิ้ง แล้วซ่อนศพนางไว้ในตู้เสื้อผ้า ในห้องของนางเอง ( 2 เหตุการณ์ที่มีคนตายนี้ ไม่มีใครในตึก ห้องเช่ารู้เลย เพราะมีการห่อศพเพื่อดับกลิ่นไว้อย่างดี

นางฆาตกรโรคจิต-แม่ลูก  เห็นว่าไม่ดี  จึงย้ายตัวเองจากสองห้องนี้ ลงไปข้างล่างของตึก  โดยฆ่าภรรยา-และลูกสาววัย 10 ขวบ ของครอบครัวหนึ่งที่สามีเดินทางไปทำงานที่ออสเตรเลียตาย  แล้วนางก็สวมรอยเป็นภรรยา และลูกสาวของชายคนดังกล่าวแทน เเถมตีเนียนบอกกับเพื่อนข้างห้องว่านางกับลูกกำลังเฝ้ารอสามีกลับมาจากออสเตรเลีย  เพื่อ…. ซื้อบ้าน ที่อยู่อาศัยที่ดีกว่านี้ให้

(เล่าเหตุการณ์ต่อ  พระเอก Seong-soo เดินทางมาตามหาพี่ชายที่ตึกแห่งนี้)

ปรากฏระหว่างพระเอกขึ้นไปตามหาพี่ชาย
ลูกๆสองคนที่รออยู่ในรถหายตัวไป ภรรยาออกตามหา  จนไปเจอว่าลูกๆถูกคนบ้าจับตัวไป แล้วผู้หญิง-ลูกสาว(ฆาตกรโรคจิต)ก็ทำทีว่าออกมาให้ความช่วยเหลือ ไล่คนบ้าไป แล้วเชิญครอบครัวของพระเอก รวมถึงพระเอกมาดื่มน้ำชาที่ห้องเช่า

ระหว่างดื่มชา พระเอกบอกนางว่าตามหาพี่ชาย(ลักษณะประมาณนี้) นางฆาตกรตกใจ(ว่าเป็นศพที่ตรูฆ่าไปเมื่อวันก่อนนี่หว่า) นางจึงไล่พระเอกออกจากห้องเช่า แล้วขู่ว่า…. “อย่าพยายามยุ่งกับชายเจ้าของห้องดังกล่าว เพราะเขาอันตราย และสร้างความหวาดกลัวกับผู้คนที่นี่ทุกคน ถ้าคุณตามหาชายเจ้าของห้องนี้ คุณอาจจะตายได้!” (เพราะนางกลัวเรื่องที่พี่ชายของพระเอกตายจะแดงออกมานั่นเอง)

กระนั้นก็ตาม….
พระเอกได้รับความช่วยเหลือจากคู่แม่ลูก(ฆาตกรโรคจิต) ช่วยตามหาพี่ชายในห้องเช่าให้
แต่ปรากฏว่าหายังไงก็ไม่เจอพี่ชายอยู่ดี หนำซ้ำยังถูกชายลึกลับชุดดำ ตามล่ามาถึงภายในอพาร์ทเม้นท์หรูกลางกรุงโซลอย่างเอาตายหลายครั้ง  จนเขาและภรรยาทนไม่ไหว  พระเอกเข้าใจว่าชายลึกลับชุดดำ เป็นพี่ชายที่มาจากอเมริกา จึงขอเดินทางไปสะสางแค้นส่วนตัวที่ตึกเก่าย่านท่าเรือเอง และสั่งให้ภรรยากับลูกๆว่า  อยู่แต่ในห้องพัก ล็อกกลอนให้ดี อย่าเปิดรับคนแปลกหน้าโดยเด็ดขาด!!

พระเอกไปตามหาพี่ชาย และเจอชายผมยาว(สวมหมวกกันน็อก) เลยสู้กันไปสู้กันมา  ปรากฏว่าความจริงแดงออกมา  แท้จริงแล้วชายคนนี้จริงๆไม่ใช่ฆาตกร เพราะเขากลับเป็นแฟนหนุ่มของผู้หญิงทำงาน(คนที่ถูกฆ่าในช่วงต้นเรื่อง)ออกตามหาแฟนสาวที่ขาดการติดต่อไปตะหากล่ะ และเขาแอบเห็นพระเอกเข้ามาในห้องข้างๆกับที่แฟนหายตัวไป เลยเข้าใจว่าพระเอกเป็นฆาตกรเช่นกัน จึงใส่หมวกกันน็อกและชุดดำเพื่อสะกดรอยตามพระเอกกับครอบครัวว่า  “คุณทำอะไรกับแฟนผม ตอนนี้แฟนผมหายไปไหน”

คนทั้งคู่ตกลงว่าจะช่วยกันสืบค้นความจริงทั้งหมด จึงกลับเข้ามายังห้องเช่าของพี่ชายพระเอกอีกครั้ง  แล้วก็ช่วยกันหาพี่ชายของพระเอกภายในห้องเช่าห้องนั้นอย่างละเอียดทุกซอกมุม  ไม่นาน….   พระเอกก็เจอเข้ากับช่องลับ  เป็นที่เก็บศพของพี่ชาย  ใช่…พี่ชายของพระเอกตายแล้ว  แถมถูกพันร่างเอาไว้ด้วยพลาสติกใสเก็บกลิ่นอีกหลายชั้น

พอสำรวจห้องอีกครั้ง ปรากฏว่าห้องของพี่ชายพระเอก มีช่องลับ  เชื่อมไปยังห้องของผู้หญิงที่ถูกฆ่าตอนต้นเรื่อง   เฮ๊ยยยยย….สยองง่าๆๆ

พอคนทั้งคู่เข้าไปยังห้องของหญิงสาวรายดังกล่าว  ก็พบเข้ากับภาพการฆาตกรรมสุดโหด และศพของเธอ ที่ถูกพันร่างทับเอาไว้ด้วยพลาสติกใสเก็บกลิ่นเช่นกัน….

แฟนหนุ่มของนางเจอศพเข้าถึงกับตกใจสุดขีด!!

ประจวบกับชายชุดดำถือท่อนเหล็กตัวจริงปรากฏ (ซึ่งจริงๆแล้วไม่ใช่ผู้ชาย แต่เป็นผู้หญิงโรคจิตนางนั้นแหล่ะ)  นางใช้มีดเชือดแฟนของสาวเจ้าของห้องจนตาย  แล้วพยายามทำร้ายพระเอก

พระเอกก็สู้ยิบตา แต่เพราะเจ็บขาทั้งสองข้าง เลยวิ่งหนีเอาตัวรอดไปยังห้องของลูกสาวนาง(ช่วงนี้พระเอกยังไม่รู้ว่าแม่-ลูกคู่นี้เป็นฆาตกรโรคจิต เพราะนางยังใส่หมวกกันน็อกอยู่)

ลูกสาววัย 10 ขวบ เปิดให้พระเอกเข้าไปหลบในห้อง โดยมีฆาตกรยืนขวางประตูห้องไว้ข้างนอก พระเอกขอยืมโทรศัพท์มือถือเพื่อโทรไปแจ้งความกับทางตำรวจ  เด็กน้อยก็ให้ คือพาเดินไปยังห้องเก็บของของแม่ ซึ่งห้องนี้เองมีของที่ขโมยมาจากที่ต่างๆ เพียบ!  โทรศัพท์มือถือในห้องนี้มีมากกว่า 100 เครื่อง  รวมถึงเครื่องที่ไปขโมยมาจากพระเอกด้วย เด็กน้อยโชว์ภาพของอพาร์ทเม้นท์หรูกลางกรุงโซลให้พระเอกดู ว่านี่คือบ้านหลังใหม่ของเด็กน้อย คุณแม่ซื้อเป็นของขวัญให้หนูแล้วค่ะคุณลุง  พอพระเอกได้ดูภาพอพาร์ทเม้นท์ในโทรศัพท์มือถือ ก็ถึงกับตกใจเป็นที่สุด เพราะมันคือห้อง-อพาร์ทเม้นท์ของเขาเเละครอบครัว!

แล้วเด็กน้อยก็ยิ่มร่า หัวเราะอย่างมีความสุข พร้อมบอกกับพระเอกว่า….  “ดีใจจัง คุณแม่กลับมาแล้ว!”

พระเอกที่ไม่ได้ระวังตัว ถูกฆาตกรโรคจิตคนแม่ตีนด้วยท่อนเหล็กจนเลือดอาบ  สลบ….  (แต่คนร้ายเข้าใจว่าพระเอกตายแล้ว)

ถึงตรงนี้ฆาตกรโรคจิตสองแม่ลูก  เดินทางไปยังอพาร์ทเม้นท์หรูกลางกรุงโซลของครอบครัวนี้  และพยายามฆ่าภรรยา-รวมถึงลูก 2 คนของพระเอก เพื่อปิดปาก ทำลายศพ และย้ายเข้ามาครอบครองอพาร์ทเม้นท์หลังนี้แทนคล้ายปูเสฉวนเปลี่ยนเปลือกหอย

ปรากฏพระเอกตื่นขึ้นมาจากภาวะโคม่า(สลบ) รีบหาโทรศัพท์ แล้วก็โทรแจ้งตำรวจในทันที  จากนั้นเขาจึงรีบเดินทางกลับมาช่วยครอบครัวที่อพาร์ทเม้นท์ (ขับรถแบบตบเกียร์ 5 เหยียบจมมิด)  พระเอกกลับมาถึงอพาร์ทเม้นท์ก็วิ่งขึ้นไปชั้นบนเพื่อสู้ยิบตากับนางฆาตกรโรคจิต  จนสามารถฆ่านางได้(ซัดกันหลายยก แล้วราดน้ำมัน เผานางในกองเพลิงทั้งเป็นจนตาย)

หลังเหตุการณ์จบ  พระเอกกับครอบครัวตัดสินใจย้ายออกจากที่นี่  ไปยังที่อยู่ใหม่ที่ปลอดภัยกว่า….(ไม่แน่ใจว่าที่เมืองอื่น หรือตัดสินใจไปตั้งรกรากใหม่ที่อเมริกา)

หนังยังไม่จบ….

เพราะลูกของนังฆาตกรโรคจิตยังไม่ตาย  เด็กน้อยหายสาบสูญไป….

แต่เล่าลือกันในหมู่เด็กๆที่พักอาศัยภายในอพาร์ทเม้นท์หรูบนตึกหมายเลข 108 กลางกรุงโซลว่า  หลายห้องในตึกหลังนี้คล้ายมีเด็กแอบอาศัยอยู่ด้วยอย่างเงียบๆ  เด็กจะย้ายที่นอน ที่กินไปเรื่อยๆ มันฝีเท้าเบาคล้ายแมว ว่องไวยามราตรีคล้ายนกฮูก  ที่สำคัญ เด็กคนนี้มีดวงตาจ้องมองมาที่เหยื่อในช่วงกลางดึกของทุกคืนอย่างสุดสยดสยองพองขนหัว…..

มันคือเรื่องเล่า  ซึ่งไม่รู้ว่าจริงรึเปล่า…. ( ???? )

แล้วหนังก็ #จบ