มันจะฝังอยู่ในหัวคุณไปจนวันตาย !! เคยมีคนเป็นลมตอนได้ดูหนังเรื่องนี้ !! (The Way to Eden / 1995 / ทางไปสวนเเห่งอีเดน)   Share






มันจะฝังอยู่ในหัวคุณไปจนวันตาย !!  เคยมีคนเป็นลมตอนได้ดูหนังเรื่องนี้ !! (The Way to Eden  / 1995 / ทางไปสวนเเห่งอีเดน)

“ตอนที่ได้หนังเรื่องนี้มาครอบครองไว้ในมือครั้งแรก รู้สึกตื่นเต้นมาก เป็นหนังที่แทบไม่มีคนรู้จัก ยากยิ่งไปกว่าถ้าจะตามหางานต้นฉบับของมัน วันหนึ่งจึงชวนเพื่อนๆรวมห้าชีวิตมานั่งดูหนังเรื่องนี้ร่วมกันที่ห้องพักแห่งหนึ่ง  ปรากฏว่าเพื่อนคนแรกดูยังไม่ทันจบก็เป็นลมล้มพับไป  เพื่อนคนที่สองวิ่งไปอ้วกที่ริมหน้าต่าง  เพื่อนคนที่สามเบือนหน้าหนี ลุกขึ้น แล้วเอาศีรษะโขกกับกำแพงหอพักราว 3-4 ครั้งเพียงแผ่วเบา  เพื่อนคนที่สี่นั่งน้ำตาไหลอยู่หน้าจอทีวีคนเดียวเงียบๆ  ส่วนผม….  เกิดอาการหลายอย่างขึ้นภายในหัวและกายร่าง หนึ่งคืออยากอ้วก สองคืออยากร้องไห้ สามคือรู้สึกโลกมันหมุนได้รอบตัวเรา และสุดท้าย ผมจะขอดูมันแค่ครั้งเดียว….   (ผู้เขียน)

#เพราะความตายเป็นเพื่อนคู่หูคนสุดท้ายที่มนุษย์ทุกคนจะได้พานพบ!

* ขออภัยที่ไม่สามารถเอาภาพประกอบจากหนังเรื่องนี้มาลงเผยแพร่ในบทความให้คุณผู้อ่านรับชมได้  มันจะเกิดอาการมือสั่นทุกครั้งที่คิดจะก๊อปปี้ภาพประกอบจากหนังเรื่องนี้มาเผยแพร่ในบทความ เพราะภาพทุกภาพ คือของจริง!!   เรื่องนี้จึงขอยกเว้นไว้เพียงเรื่องเดียวจริงๆ….

ผมเคยได้ยินชื่อของหนังเรื่อง The Way to Eden  / 1995 มานานล่ะ เคยเห็นเพียงใบปิดนะ  แต่ไม่รู้อะไรเกี่ยวกับมันเลยจริงๆ ว่ามันคือหนังประเภทไหน สร้างเพื่ออะไร รู้แต่ว่ามันแรงจนถูกหลายประเทศในโลกใบนี้สั่งแบนตลอดกาลมาแล้ว  จนอยู่มาวันหนึ่ง ผมเกิดลงไปในเว็บสำหรับดาวน์โหลดหนังหายากในต่างประเทศเข้า เลยได้เจอมัน(อย่างบังเอิญสุดๆ….)

หนังชื่อ The Way to Eden  / 1995 หรือ Der Weg nach Eden / 1995 เรื่องนี้เป็นหนังแนวสารคดี (Genres: Documentary) จากประเทศออสเตรีย ความยาวประมาณ 80 นาที โดย Director: Robert-Adrian Pejo หนังได้รับฉายาว่า “Science and Death and Life” (วิทยาศาสตร์-ความตาย-ชีวิต) และ “real faces of death” (โฉมหน้าที่แท้จริงของความตาย)

เคยได้ยินว่าตอนแรก Director: Robert-Adrian Pejo พยายามจะถ่ายทำ The Way to Eden  / 1995 ในประเทศบ้านเกิด(ออสเตรีย) หรือไม่ก็ในเยอรมัน หรือในสเปน แต่เกิดเหตุติดขัดในหลายเรื่อง เพราะหนังเรื่องนี้ Robert-Adrian Pejo ต้องการจะถ่ายทำเรื่องราวของแพทย์ผ่าศพ ที่ใช้แพทย์ตัวจริง ใช้สถานที่จริง ศพก็ใช้ศพของจริง เลยถูกต่อต้านจากหลายหน่วยงานภายในประเทศนั้นๆอย่างหนัก เพราะเชื่อว่าผิดศีลธรรมอย่างรุนแรง จวบจนหนังแอบเปิดกล้อง แล้วก็แอบถ่ายทำกันอย่างลับๆ (เชื่อว่าแอบถ่ายทำหนังกันในกรุงบูดาเปสต์ เมืองหลวงของประเทศฮังการี)

เนื้อใน….

หนังเริ่มต้นเปิดเผยให้เห็นการทำงานของนายแพทย์ผ่าศพท่านหนึ่ง ภายในห้องทำงานของเขาและเพื่อนๆ ที่นี่เป็นสถานที่สำหรับผ่าพิสูจน์ศพมนุษย์ในรูปแบบต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการผ่าเพื่อตกแต่ง, ผ่าเพื่อสำหรับดองเก็บไว้, หรือผ่าเพื่อพิสูจน์บางสิ่งบางอย่างภายในร่างกาย  ซึ่งมีหลายกรณีที่นายแพทย์ท่านนี้ได้รับหน้าที่ให้ดูแลคนสูงอายุวัยไม้ใกล้ฝั่งด้วย จวบจนวาระสุดท้าย เขาและทีมงานก็ได้ทำหน้าที่ผ่าร่างของคนสูงอายุที่เขารู้จักเหล่านั้นเอง….

หนังแสดงภาพให้คนดูได้เห็นทุกซอกทุกมุมของตัวอาคาร และห้องสำหรับผ่าศพอย่างละเอียด นักดูหนังท่านใดเคยผ่านหนังผ่าร่างมนุษย์อย่าง Engineering Red / 1993 และ Orozco The Embalmer / 2001 มาแล้ว ขอบอกว่าหนังเรื่องนี้จะทำให้สองเรื่องที่กล่าวมาข้างต้นกลายเป็นเด็กเล่นขายของไปเลย  เพราะทุกฉากใน The Way to Eden  / 1995 ถ่ายจากของจริง 100% ไม่มีฉากไหนที่เซ็ทฯขึ้นเลย  แถมมุมกล้องในหลายๆมุม ผกก. ยังคล้ายแกล้งคนดูด้วยการยิงมุมกล้องจากศพเข้าหาคนดูแบบจะๆ(บางฉากนี่เล่นเอาผู้เขียนสะดุ้งมาแล้ว!)

หนังนำเสนอภาพของการผ่าเปิดกะโหลกมนุษย์แบบซูมพิเศษ เห็นเต็มๆ เนื้อๆ เน้นๆ ไม่มีการเซ็นเซอร์ใดใด ฉากผ่าท้องของศพเพื่อนำอวัยวะภายในมาล้าง แล้วใส่คืนกลับไปในร่าง คนดูจะได้เห็นการกรีดหนัง  ตัดกระดูก  การดูด ล้างไขมันส่วนเกินอย่างจัดเต็ม(ได้ข่าวว่าหลายคนวิ่งไปอ้วกกันเพราะดูฉากนี้เข้าแหล่ะ) ก้อนไขมันสีเหลืองๆกระจาย แตกออกมาเต็มโต๊ะผ่า  ยี๋ๆๆๆ….    ดูหนังเรื่องนี้จบ แต่ขอบอกว่าภาพมันตามไปหลอกหลอน ติดตาตรึงใจยาวนานมาก….เพราะภาพนี้ มันจะฝังอยู่ในหัวคุณไปจนวันตาย !!  (ยืนยัน!) หลังจากหนังกระหน่ำคนดูชนิดปางตายน้ำลายฟูมปากราว 70 นาที(ผ่าน 70 นาทีนี้ได้ตรูแทบจะเป็นนักศึกษาแพทย์ได้แล้ว เหอะ เหอะ) สิบนาทีในช่วงท้ายจะเป็นพิธีกรรมสำหรับนำศพไปเข้าสู่กระบวนการทำลายซาก หรือไม่ก็ฝังลงหลุมศพ พร้อมเพลงเศร้าๆคลอเพื่อรำลึกแด่ผู้วายชนม์ ดูถึงฉากจบจากที่จิตตกก็เริ่มปรับเข้าสู่สามัญสำนึกของปุถุชนทั่วไป….

เกิดขึ้น  ตั้งอยู่  ดับไป  ไม่มีใครหรอกจะยิ่งใหญ่อยู่ได้ค้ำฟ้า  สักวัน  เมื่อถึงวาระนั้น  ก็ต้องคืนกายร่างกลับให้ธรรมชาติเฉกเช่นที่ธรรมชาติเคยมอบมันมาให้เรา  เพราะความตายเป็นสิ่งที่มนุษย์เกรงกลัวที่สุด แต่ความตายก็เป็นเพื่อนที่ดีและใกล้ชิดมนุษย์ที่สุดเช่นกัน….เพราะความตายเป็นเพื่อนคู่หูคนสุดท้ายที่มนุษย์ทุกคนจะได้พานพบ!

****** หนังดีเลยแหล่ะเรื่องนี้  ให้ 10 / 10 คะแนนครับ (ยากจริงๆที่ดูมันจบแล้วจะลืมมันลงได้ เพราะมันจะฝังอยู่ในหัวคุณไปจนวันตาย !!) 

ความคิดเห็นที่ 1


Function Used time : 0:0:0:31