The Wailing / 2016 (ฆาตกรรมอำปีศาจ)

กระทู้นี้ #ส่วนบน จะเป็นรีวิวเเบบหยาบๆ!!
กระทู้นี้ #ส่วนล่าง จะเป็นสปอยล์เเบบเจาะบดจนละเอียด!!

จงรู้เนื้อเรื่องให้น้อยที่สุดก่อนรับชมมัน
The Wailing / 2016 (ฆาตกรรมอำปีศาจ)

เชื่อว่าหลายคนคงเคยได้รับชมหนังเรื่องนี้กันมาบ้างเเล้ว ทั้งในโรงภาพยนต์ เเละในเเบบออนไลน์(ฉบับฝังซับไทย) หนังชื่อ The Wailing / 2016 (ฆาตกรรมอำปีศาจ) เป็นหนังสยองขวัญจากประเทศเกาหลีใต้โดย Director: Hong-jin Na ซึ่งหนังเรื่องนี้เองได้รับการกล่าวขวัญกันในเทศกาลภาพยนต์หลายงานเลยล่ะว่า #มันเยี่ยมยอดมากๆ ไปดูคะเเนนใน IMDB ได้ถึง 7.4 / 10 คะเเนน(โดยสมาชิกโหวต 25,575 คน / ลงวันที่ 25 กุมภาพันธ์ ปี 2561)นับว่าไม่ธรรมดาเลย กับคะเเนนระดับนี้ในฐานะหนังสยองขวัญ

ถามว่าหนังมันออกมานานพอสมควรเเล้วทำไมผมถึงเพิ่งเอามาพิมพ์รีวิว เอ่อ...ต้นเรื่องมาจากรุ่นน้องของผมเองเเหล่ะ พอดีมันได้ดูหนังเรื่องนี้จนจบไป(เมื่อวาน)แล้วเกิดอาการ งงเเตก เเกส่งข้อความมาคุยในกล่องเเชทครับ ว่าถึงจะมีหลายเว็บไซต์รีวิวสปอยออกมาเยอะพอสมควรเเล้ว เเต่ในฐานะที่ผมเป็นนักวิชาการอิสระทางมานุษยวิทยาวัฒนธรรม(Academic freedom of Anthropology) อยากให้ผมได้ดูเรื่องนี้บ้าง คือพอดูจบเเล้วน่าที่จะมีมุมมองในเเบบที่แปลกเเตกต่างจากคนอื่นไม่มากก็น้อย ว่าเเล้วน้องเค๊าก็รบเร้าขอให้ผมช่วยดูหนังเรื่องนี้+ขอรีวิวสปอยล์หน่อย

นานหลายเดือนก่อนที่ผมปฏิเสธการดูหนังเรื่องนี้ไปเพราะหนังมันมีเเบบออนไลน์ภาษาเกาหลี+ฝังซับไทย(ซึ่งผมยอมรับเลยว่าขี้เกียจนั่งอ่านซับ) จนมาตอนนี้ปัญหานั้นหมดไปเพราะมีออนไลน์พากย์ไทยปล่อยออกมาพอดี(ภาพ HD ซะด้วย) เลยเออๆๆ...รับปากรุ่นน้องไปว่า #จะดูให้นะจ๊ะ

หนังเริ่มต้นด้วยถ้อยคำในคัมภีร์ไบเบิลบทหนึ่ง
“ เจ้าจะหวาดหวั่นไปเพื่อเหตุใด? ไฉนจึงยังมีความเคลือบแคลงในใจของเจ้า? จงพินิจหัตถ์แลบาทแห่งข้า เป็นข้าเอง สัมผัสข้าและเพ่งดูเหตุเพราะผีนั้นหามีเนื้อแลกระดูกดั่งข้าไม่....”

จากนั้นหนังก็โฟกัสลงไปที่ชีวิตนายตำรวจคนหนึ่งชื่อ “จงกู” (Jong-goo / รับบทโดย Do-won Kwak) เขาพักอาศัยอยู่ในย่านชานเมืองเเห่งหนึ่งในเกาหลีใต้ ภายใต้บ้านหลังน้อยกับครอบครัวอันเเสนอบอุ่น โดยครอบครัวประกอบด้วยเขา(จงกู), คุณเเม่, ภรรยา, เเละลูกสาววัยสิบขวบเศษอย่าง สาวน้อยโฮยจิน (Hyo-jin / รับบทโดย Hwan-hee Kim)

มันเป็นช่วงระยะเวลาหนึ่งภายในเมืองเล็กๆที่นายตำรวจจงกูอาศัยอยู่ เมืองๆนี้จู่ๆก็เกิดเหตุการณ์ประหลาดขึ้นบ่อยครั้ง กล่าวคือ...หลายครอบครัวที่อาศัยอยู่ภายในเมืองนี้มีสมาชิกบางคนเสียสติจนกลายเป็นบ้า พอบ้าเเล้วก็ฆ่ากันตายเเบบล้างโคตรภายในครัวเรือน สมาชิกบางคนเผาคนในครอบครัวจนตายหมด, สมาชิกบางคนเดินกลับบ้านอย่างคนไร้อารมณ์-ไร้วิญญาณ จากนั้นก็ใช้มีดจ้วงเเทงคนในบ้านจนตายหมดเช่นเดียวกันกับเหตุเเรกๆที่เกิดขึ้น บางคนชำเเหละอวัยวะของญาติพี่น้องออกมาดูเล่นอย่างบ้าคลั่ง, ลูกบางคนก็ฆ่าพ่อเเม่ หญิงวัยกลางคนในบางบ้านก็เเขวนคอตายปริศนาโดยหาสาเหตุอะไรไม่ได้เลย มันเกิดเรื่องห่าเหวอะไรขึ้นที่นี่กันเเน่?

ท่ามกลางคำเล่าลือของชาวบ้านว่ามีชายชาวญี่ปุ่นคนหนึ่งชอบเเก้ผ้าเปลือยกายเดินไปๆมาๆอยู่บนภูเขา

ใช่...ชายคนนี้สร้างบ้านไว้บนภูเขาเพียงหลังหนึ่ง เล็กๆพอซุกหัวนอน

เล่าลือกันอีกว่าชายคนนี้เเหล่ะที่มันชอบจับสัตว์บนภูเขามากินเเบบดิบๆ สดๆ (ชอบล่า ฆ่า กินกวางเเบบดิบๆ)

คนในหมู่บ้านเชื่อต่อว่าชายชาวญี่ปุ่นคนนี้มันไม่ใช่มนุษย์เเต่...มันเป็นผีร้าย!!

เรื่องเล่าเหล่านี้ดูเหมือนว่าพวกตำรวจจะไม่เชื่อเเต่อย่างใด เพราะต่อมามีการชันสูตรศพโดยกระบวนการทางนิติวิทยาศาสตร์ พบว่า ชาวบ้านอาจกินเห็นพิษเข้าไปจึงทำให้เกิดอาการบ้าคลั่งเเล้วก็ไล่ฆ่ากันเอง

เเม้นเรื่องเห็ดพิษอาจเป็นความจริงในเชิงประจักษ์กับเหตุอันเกิดขึ้นในช่วงต้นเรื่อง เเต่เพื่อความสบายใจของชาวบ้าน นายตำรวจจงกูเลยอาสาที่จะขึ้นไปสำรวจบนภูเขา เเละสืบเรื่องของชายชาวญี่ปุ่นให้กระจ่าง เขาจึงรวมทีมกับบาทหลวงฝึกหัดคนหนึ่ง เเละเพื่อนตำรวจ เดินเท้าขึ้นภูเขาจนไปพบเข้าชายชาวญี่ปุ่นพร้อมหมาตัวสีดำตัวโตตรงปากทางเข้าบ้าน

หลังการพูดคุยจบ จงกูกลับลงมาจนถึงบ้าน
เเล้วก็...อีกไม่กี่วัน เรื่องน่ากลัวบางอย่างก็ได้เกิดขึ้นกับครอบครัวของนายตำรวจคนนี้อย่างจังเบอร์ เพราะว่าลูกสาวเพียงคนเดียวของเขาถูกผีเข้าอย่างหนักจนทางบ้านต้องไปตามหมอผีมาปราบ

ในขณะที่อาการของลูกสาวกำลังครึ่งเป็นครึ่งตาย ภายในใจของจงกูมีเเต่ความเคียดเเค้น เพราะเขาเชื่ออย่างสนิทใจว่าชายชาวญี่ปุ่นบนภูเขาคือคนทำของ(ไสยศาสตร์ใส่ลูกสาว)จึงรวมทีมกับบาทหลวงฝึกหัดเเละชาวบ้านจำนวนหนึ่งพร้อมอาวุธ เดินทางขึ้นไปตามล่า-ฆ่าชายชาวญี่ปุ่น.....

(**** เรื่องย่อของหนัง เล่าเเค่นี้พอนะ หนังยาว 2 ชั่วโมงครึ่งเลยนะเออ)

...........................................................................
************* #ตรงนี้สปอยล์เเบบเจาะบดจนละเอียด!!

เริ่มจากชื่อของหนัง The Wailing / 2016 ชื่อก็บอกอยู่เเล้วตรงๆว่า คร่ำครวญเสียใจอย่างเเสนสาหัส(ก็ในเรื่องที่คนในครอบครัวฆ่ากันเองยังไงเล่า...)

ส่วนถ้อยคำในคัมภีร์ไบเบิลบทหนึ่งที่ว่า....
“ เจ้าจะหวาดหวั่นไปเพื่อเหตุใด? ไฉนจึงยังมีความเคลือบแคลงในใจของเจ้า? จงพินิจหัตถ์แลบาทแห่งข้า เป็นข้าเอง สัมผัสข้าและเพ่งดูเหตุเพราะผีนั้นหามีเนื้อแลกระดูกดั่งข้าไม่....”

ตรงนี้เเสดงเเบบนัยยะแฝงเเละเปรียบเปรยว่าสิ่งชั่วร้ายตนนี้ มัน...ไม่ใช่ผี (เพราะมันมี เนื้อแลกระดูก) จึงตัดประเด็นที่ว่าชายชาวญี่ปุ่นเป็นผีร้ายไปได้เลย(เพราะมันไม่ใช่ผี) เเล้วมันเป็นตัวอะไรล่ะ....????

ชาวบ้านที่ฆ่าคนในครอบครัวเดียวกัน อาจจะเพราะกินเห็ดพิษเข้าไปจนทำให้บ้า นั่นก็ส่วนหนึ่ง อีกส่วนหนึ่งอาจจะมาจากอำนาจของชายชาวญี่ปุ่น ที่เราเข้าใจว่ามันคือ “ปีศาจ” (ใช่ เรากำลังเชื่อว่าชายชาวญี่ปุ่นเป็นปีศาจร้าย????)

หญิงสาวปริศนาในชุดขาว คนเกาหลีเชื่อว่านางเป็น “ผีผู้พิทักษ์หมู่บ้าน” (คล้ายๆกับผีเสาเมือง, พระเสาหลักเมือง, เเละพระเสื้อเมือง, ซึ่งถือว่าเป็นผีผู้พิทักษ์หมู่บ้านเเละพิทักษ์เมืองในเเบบไทยๆ) นางรู้เรื่องของปีศาจบนเขา เข้าจึงพยายามหยุดปีศาจด้วยการใช้ดอกไม้หัวกระโหลกขนาดเล็กทำเป็นยันต์คุ้มครองหมู่บ้าน เเต่ดูเหมือนว่าฤทธิ์ของปีศาจอาจมากกว่า เเละเพราะพลังศรัทธาในศาสนา-หรือในรากความเชื่อเรื่องผีบรรพชน (animism สาย ancestor worship / คติบูชาผีบรรพบุรุษ)ของผู้คนในหมู่บ้านเจือจางลงจากกระเเสเเห่งโลกาภิวัตน์เเละวิถีเเบบคนเมืองที่เข้ามาเเทรก ยันต์เเห่งศรัทธาจึงถูกทำลายลง เเล้วปีศาจก็เข้ามาภายในหมู่บ้านได้(เเต่ยังเข้ามาได้ไม่หมดทุกซอกทุกมุม)

วันหนึ่งนายตำรวจจงกูรวมทีมกับเพื่อนตำรวจเเละบาทหลวงฝึกหัดเดินทางขึ้นไปบนภูเขา เพื่อสืบเรื่องของชายชาวญี่ปุ่น เขาพบเข้ากับหมาดำตัวใหญ่นอนเฝ้าอยู่ตรงหน้าบ้านของชายชาวญี่ปุ่น ซึ่งหมาดำมีนัยยะเเฝงคือ เซอร์เบอรัส(Cerberus)หมาผู้เฝ้าปากทางลงสู่ขุมนรก มันถือเป็นบริวารอันซื่อสัตย์ของนรก

ภาพที่เราเห็นหมาดำกำลังไล่กัดบาทหลวงฝึกหัดจนกางเกงขาดเเละได้รับบาดเจ็บที่ข้อเท้า นัยยะเเฝงคือ “เรา” เป็นศัตรูกับพระเจ้า(ในศาสนาคริสต์)

“เรา” = คือชายชาวญี่ปุ่น+หมาดำ = ปีศาจ

นอกจากนั้นพอพวกของจงกูพยายามสำรวจภายในบ้านของชายชาวญี่ปุ่นกลับพบภาพของเหยื่อที่ถูกฆ่าตายในหมู่บ้านมาติดไว้เต็มห้องของเขา อันนี้ย้ำให้เห็นอย่างชัดเจนว่าชายชาวญี่ปุ่นคนนี้เป็นคนเลวตัวจริง

หัวเเพะ-เขาเเพะ....ที่ปรากฏอยู่ภายในห้องทำพิธีของชายชาวญี่ปุ่น คือสัญลักษณ์เเทนองค์ลูซิเฟอร์(ซานตาน)เเละปีศาจร้าย

จงกูถูกหมาดำไล่กัดจนเขาต้องฆ่ามันทิ้ง เเล้วประกาศเป็นศัตรูกับชายชาวญี่ปุ่น และไล่ให้ชายชาวญี่ปุ่นออกไปจากหมู่บ้านภายใน 3 วันไม่งั้นจะฆ่าทิ้งซะ (อันนี้คือจงกูเเสดงตนว่าเป็นศัตรูกับชายชาวญี่ปุ่นเเบบเต็มตัว โดยหารู้ไม่ว่ามันเป็นปีศาจ)

ภาพตัดมาที่อีกาฝูงหนึ่งโบยบินลงมาที่ซากของหมาดำเพื่อจิกกิน....คติโบราณของชาวเกาหลี(บางกลุ่ม)เชื่อว่า อีกาเป็นสัตว์เทพ คอยปกป้องหมู่บ้าน สัญลักษณ์อีกาดำจึงเอาไว้สู้เเละขับไล่ปีศาจได้ อีกาที่บินลงมาเเทะซากหมาดำจึงลงมาเพื่อต่อต้านปีศาจ(ในปกรณัมเกาหลี เชื่อว่า อีกาสามขา เป็นสัญลักษณ์แห่งสติปัญญาและอำนาจ และเป็นสัญลักษณ์ประจำราชวงศ์โกคูรยอ และพระเจ้าดงเมียงซอง ปฐมจักรพรรดิแห่งราชวงศ์โกคูรยอ ของเกาหลี อีกาจึงอาจเป็นสัญลักษณ์ที่ใช้ในการต่อสู้กับปีศาจร้ายในบางยุคสมัย เป็นต้น)

หลังจากนั้นลูกสาวของจงกูถูกผีเข้า โดยจงกูพยายามรักษาลูกเเบบหมอเเผนปัจจุบัน(ในโรงพยาบาล เเต่ก็ไม่หาย) เมื่อหมดหนทาง เขาจึงเชื่อคุณเเม่ของเขา คือไปเชิญหมอผีมาช่วยขับไล่เเละสู้กับผีร้ายในร่างของชายชาวญี่ปุ่น(โดยสัญญาว่าจะจ่ายค่าตอบเเทนเป็นเงินจำนวน 10 ล้านวอน)

จริงๆหมอผีเป็นพวกเดียวกับชายชาวญี่ปุ่น(สังเกตผ้าเตี่ยวที่หมอผีใส่ขณะเปลี่ยนเสื้อผ้า)

คือหมอผีได้รับทรัพย์เเละอำนาจบางอย่างจากปีศาจญี่ปุ่นบนเขา หมอผีได้รับคำสั่งจากปีศาจจึงมาหลอกครอบครัวของจงกูว่าจะช่วยทำพิธีขับไล่ให้

การที่หมอผีมาพบอีกาดำซ่อนไว้ในตุ่ม เเล้วบอกว่าอีกาดำเป็นคุณไสย์ สิ่งจัญไรที่คนญี่ปุ่นทำไว้ อันนั้นคือการหลอกลวงครับ เพราะอีกาดำเป็นยันต์ที่ผีสาวชุดขาวประจำหมู่บ้านมาแอบทำไว้สำหรับป้องกันบ้านให้จงกู เเต่พอเอามันออก งานนี้ปีศาจเลยสามารถเดินทางเข้าออกบ้านได้อย่างสบายอุรา

หมอผีหลอกทำพิธีเพื่อฆ่าลูกสาวของจงกูตามคำสั่งปีศาจ ในขณะเดียวกันภาพก็ตัดไปๆมาๆระหว่างหมอผีกับชายชาวญี่ปุ่น(ปีศาจ)ที่ดูเหมือนว่ากำลังสู้กันอย่างเอาตาย เเต่ขอบอกว่าไม่ใช่!!(อันนี้อิตาผู้กำกับพยายามตัดภาพเพื่อหลอกคนดู)

เพราะจริงๆหมอผีกำลังทำพิธีฆ่าลูกสาวของจงกู เเต่ลูกสาวรอดมาได้เพราะจงกูเเละภรรยาไปทำลายพิธีกรรม(คือสงสารที่เห็นลูกสาวได้รับความเจ็บปวดขณะพิธีกรรมกำลังดำเนินอยู่) จากนั้นเขาจึงขับไล่หมอผีออกไป

ส่วนภาพที่เห็นชายชาวญี่ปุ่นทำพิธีมนต์ดำ-คุณไสยสู้อยู่นั้น เขากำลังสู้อยู่กับผีสาวชุดขาวที่ตามมาลุยกับเขาที่หน้าบ้าน(บนเขา) ซึ่งผีสาวไม่สามารถปราบปีศาจตนนี้ให้สิ้นฤทธิ์ลงได้เเบบ 100% พอเวลาผ่านไปเพียงไม่นาน มันก็ฟื้นขึ้นมาอีกครั้ง

ช่วงท้ายเเม้นชายชาวญี่ปุ่นจะถูกรถยนต์ของจงกูขับพุ่งชนจนตาย เเล้วเอาศพของมันไปทิ้งหน้าผา เเต่มันก็ไม่ตาย(เพราะมันเป็นปีศาจ)

ฤทธิ์ของปีศาจจากญี่ปุ่นยังตามไปเรียกหมอผีที่คิดตีตัวออกห่างให้กลับมาทำงานให้เสร็จ(เเสดงฤทธิ์เป็นฝูงเเมลงพุ่งชนกระจกหน้าของรถยนต์ / สังเกตว่าปีศาจในตำนานหลายตัวมักจะมาพร้อมกับ....ฝูงเเมลง)

สังเกตว่าหมอผีกับผีสาวชุดขาวเป็นศัตรูกัน เพราะก่อนที่เขาจะหนีได้พยายามแอบเข้าไปทำของภายในบ้านของจงกูเเต่โดนผีสาวเสกมนต์จนเลือดออกจมูกเเละอ้วกเเตกมาเเล้ว

ผีสาวชุดขาวพยายามทำผ้ายันต์ดอกไม้หัวกระโหลกตรงหน้าบ้านของจงกูอีกครั้ง เเต่ดูเหมือนว่าฤทธิ์ของนางอ่อนลงไปมาก ครั้งนี้จึงไม่สำเร็จ ลูกสาวของนายตำรวจจงกูโดนผีสิงอีกรอบ(หลังจากรอบเเรกนางฆ่าเพื่อนบ้านจนตายยกครัวมาเเล้ว)

ผีสาวชุดขาวพยายามมายื้อจงกูว่าอย่าเข้าไปภายในบ้าน เเต่ถ้าจะเข้าให้ไก่ขันครบ 3 ครั้งก่อน(คตินิยมในเกาหลี เชื่อว่าเลข 3 คือเลขมงคล) คือนางกะจะให้ลูกสาวที่ถูกสิงได้ฆ่าเพียงภรรยา เเละเเม่ของจงกู(ให้ตายเพียง 2 ศพ) ตรงนี้เข้าใจว่าฤทธิ์ของผีสาวมีน้อยลงเรื่อยๆ ไม่สามารถช่วย 2 คนนั้นได้(เพราะ 2 คนนั้นดวงกุด / คือถึงฆาตถึงคราวเคราะห์ / ต้องตาย) เเต่ผีสาวพยายามที่จะประคองช่วยจงกูให้ได้(เพราะเขายังไม่ถึงฆาต)

เเต่จงกูไม่ยอม เเละวิ่งเข้าบ้านก่อนไก่ขันครบ 3 ครั้ง พอดีกับที่ดอกไม้รูปหัวกระโหลกร่วงโรย(ฤทธิ์ของผีสาวในชุดขาวสิ้นลง)จงกูจึงถูกลูกสาวทำร้ายด้วยมีดจนสาหัส(เเต่ไม่ถึงกับตาย)

หนังตัดฉากมาที่บาทหลวงฝึกหัด ถือเคียว ไฟฉาย ขึ้นไปตามหาชายชาวญี่ปุ่นบนภูเขา

เเน่นอน...เขายังไม่ตาย

เเล้วชายชาวญี่ปุ่นก็พูดประมาณ....

“ เจ้าจะหวาดหวั่นไปเพื่อเหตุใด? ไฉนจึงยังมีความเคลือบแคลงในใจของเจ้า? จงพินิจหัตถ์แลบาทแห่งข้า เป็นข้าเอง สัมผัสข้าและเพ่งดู เหตุเพราะผีนั้นหามีเนื้อแลกระดูกดั่งข้าไม่....”

คือมันไม่ใช่ผีร้าย เเต่เป็นปีศาจตัวจริง(ปีศาจที่สิงอยู่ในร่างของชายชาวญี่ปุ่น)
มันมีเนื้อเเลกระดูก มันจึงเป็นปีศาจที่ขึ้นมาเพื่อล่าดวงวิญญาณจากนรกขนานเเท้

ถามว่ามันคือปีศาจตนไหน ขอเดาว่าอาจเป็น โดเกบิ-dokkaebi หรือภูต(ยักษ์)ในตำนานของคนเกาหลี คนเกาหลีเชื่อว่าโดเกบิประเภท Gae dokkaebi นั้นชั่วร้ายเเบบสุดๆประหนึ่งปีศาจจากขุมนรกอเวจีก็มิปาน มันเป็นทั้งภูต เป็นทั้งยักษ์ เป็นทั้งปีศาจ ที่สำคัญมันชอบการหลอกลวงผู้คนให้หลงเชื่อถ้อยคำโกหกต่างๆจนนำไปสู่ความตาย โดยคนเกาหลีในยุคโบราณหวาดกลัวโดเกบิกันอย่างที่สุด พวกเขากลัวที่จะวาดภาพ บรรยาย หรือพูดถึงมัน เเน่นอนว่าคนโบราณไม่รู้จริงๆว่าโดเกบิในตำนานนั้นหน้าตาเป็นอย่างไร เเต่พวกเขาเชื่อว่าโดเกบิอาจคล้ายยักษ์ญี่ปุ่น(โอนิ)จึงมีการมโนกันว่าโดเกบินั้นหน้าตาเหมือนยักษ์โอนิของญี่ปุ่น เเล้วก็เชื่อกันเเบบนั้นเรื่อยมา

ปีศาจในหนังเรื่องนี้จึงอาจเป็นได้ทั้งโดเกบิประเภท Gae dokkaebi เเละโอนิ(ในสายชั่วร้าย)ก็ได้

ฉากจบคือ....ปีศาจชนะ พระเจ้าน่ะไม่มีอยู่จริงหรอก สัมผัสข้าและเพ่งดูเหตุเพราะผีนั้นหามีเนื้อแลกระดูกดั่งข้าไม่...เพราะข้าเป็นปีศาจตัวจริงไง!!

สรุป....ฆาตกรรมอำปีศาจ จริงๆน่าจะเป็น ปีศาจฆาตกรรมมนุษย์เเล้วอำพวกเราจนหัวปั่นมากกว่า

ผมเข้าใจเเบบนี้จริงๆ(นะเออ)

* อนึ่ง นานมาเเล้ว ผมเคยอ่านงานเขียนเรื่อง“วิเคราะห์ภาพสะท้อนสังคมที่ปรากฏในนิทานพื้นบ้านเกาหลี” ผู้เเต่งคือคุณ ปาร์ค เกียง ฮึน ซึ่งได้สรุปภาพสะท้อนสังคมของคนเกาหลีออกมาใน 4 ด้าน คือ ด้านวิถีชีวิต, ด้านประเพณี, ด้านแนวคิด, เเละด้านความเชื่อ // โดยด้านความเชื่อ นิทานพื้นบ้านเกาหลีสะท้อนภาพความเชื่อเรื่องโลก, ความเชื่อเรื่องผี, ความเชื่อเรื่องเลข 3, ความเชื่อเรื่องพระเจ้าฮานือนิม, ความเชื่อเรื่องเทพเจ้าซันซิน, ความเชื่อเรื่องฮวงซุ้ย, ความเชื่อเรื่องเจ้าที่, ความเชื่อเรื่องข้อห้าม, ความเชื่อเรื่องการพยากรณ์, และความเชื่อทางศาสนา ซึ่งสิ่งเหล่านี้สะท้อนให้เห็นภาพสังคมคนเกาหลีในสมัยโบราณโดยเฉพาะสังคมชนชั้นสามัญเป็นอย่างดี ซึ่งมีวิถีชีวิต ประเพณี แนวคิด และความเชื่อหลายอย่างอันยังคงมีอิทธิพลต่อการดำเนินชีวิตของชาวเกาหลีตราบยุคปัจจุบัน (ปาร์ค เกียง ฮึน ใน วิเคราะห์ภาพสะท้อนสังคมที่ปรากฏในนิทานพื้นบ้านเกาหลี)

ดังนั้นเรื่องตำนานเกี่ยวกับ “ผีผู้พิทักษ์หมู่บ้าน” ที่ปรากฏในหนังเรื่อง The Wailing / 2016 (ฆาตกรรมอำปีศาจ) จึงน่าจะเข้าเค้ากับภาพสะท้อนสังคมของชาวเกาหลีที่ว่าด้วยเรื่อง “ความเชื่อเรื่องเจ้าที่” ซึ่งผู้กำกับ Hong-jin Na นำมาปรับให้เข้ากับหนังของเขาอีกทอดหนึ่ง ซึ่งจริงหรือเท็จประการใดขอท่านผู้อ่านโปรดพิจรณากันเอาเอง(นะเออ)

@ ปล. กระทู้นี้ใช้เวลาหาข้อมูลและพิมพ์เพียงไม่นานนะ คือนั่งคิดนั่งพิมพ์ไปเรื่อยๆจนเสร็จ(เเล้วก็ได้งานตัวนี้ออกมาเเบบหยาบๆนะจ๊ะ) หากอ่านเเล้ว งงๆ กรุณาทำใจ....มันเป็นเช่นนั้นเเล ^^