จากคุณ : meganame
เขียนเมื่อ : 19 Oct 12 20:43
|
|
ตอนแรกชื่อ "Welcome to Briarcliff"
สำหรับเรื่องฉายซีรียส์อาจไม่ได้ฉายตลอดรอดฝั่ง ทั้งThe Walking Dead หรือ AHS แต่อาจทำเป็นscreenshotมา(ถ้าว่าง) เพราะแค่เรื่องนี้แคปไปแคปมาปาไปเกือบ 350 รูป เยอะกว่าหนังเรื่องหนึ่งอีก คราวนี้เลยใช้กลวิธีรวมรูปจะได้พากย์โดยรวมได้เร็วยิ่งขึ้น
การฉายหนังแบบนี้สำหรับชาวหนังโหดหน้าใหม่อาจถาม ทำไมไม่ลงแบบคลิปไปเลย
คือ เว็บไม่มีพื้นที่พอ และ เอกลักษณ์ของเว็บเราก็ฉายแห้งๆแบบนี้ละจ๊ะ ส่วนจะไปหาดูที่ไหน ก็torrentทั่วไปเลย แล้วถามว่าเรื่องนี้จะมีซับไทยไหมมีอยู่แล้ว แต่รอหน่อย เพราะชาวบ้านเขาทำกัน
แต่ถ้าดูซับEngแล้วไม่เก็ต ก็มาถามในเว็บหรือFBก็ได้เพราะก่อนฉายดูไปประมาณสอง-สามรอบ และมีการหาข้อมูลเพิ่มเติมบ้าง น่าจะตอบปัญหาด้านภาษาได้
อะวกกลับมาพูดถึงเรื่องนี้ต่อ ในซีซั่นสองนี้ จะมี13ตอนน่าจะจบตอนปลายๆเดือนธันวาคม
เรื่องย่อๆ คือ คู่แต่งงานใหม่มาสำรวจโรงพยาบาลจิตเวชร้างในย่านตะวันออกของอเมริกา(ในรัฐแมสซาชูเซตส์) ที่มีตำนานเล่าขานกันว่าผู้ป่วยที่เข้ามารักษาที่นี้ไม่มีใครออกไปได้อีกเลย ในอดีตโรงพยาบาลแห่งนี้รับทั้งคนป่วยทางจิตจริงๆ รวมถึงโรคที่ยังไม่มีคำอธิบายทางวิทยาศาสตร์ในสมัยยุค1960 หรือไม่มียารักษา เช่น โรคติดเซ็กส์ ติดเหล้า แม้กระทั่งเป็นเลสเบี้ยน ก็ไม่รอด แถมในโรงพยาบาลนี้ยังรับอาชญกรป่วยทางจิตมารักษาอีกด้วย
เอาละมาดูกันดีกว่าว่าเกิดอะไรขึ้นในที่แห่งนี้
พากย์ไทยโดย Horrorclub.net
จากคุณ : แว่นจัง
เขียนเมื่อ : 19 Oct 12 20:49
|
|
รายชื่อนักแสดงในซีซั่นนี้
Zachary Quinto : Dr. Oliver Thredson Joseph Fiennes : Monsignor Timothy Howard Sarah Paulson : Lana Winters Evan Peters : Kit Walker Lily Rabe : Sister Mary Eunice Lizzie Brocheré : Grace James Cromwell : Dr. Arthur Arden Jessica Lange : Sister Jude
Adam Levine : Leo Jenna Dewan-Tatum : Teresa Chloë Sevigny : Shelly สาวติดเซ็กส์ Mark Consuelos : Spivey Clea DuVall : Wendy Paisa Franka Potente Britne Oldford : Alma Walker Mark Margolis : Sam Goodwin
จากคุณ : แว่นจัง
เขียนเมื่อ : 19 Oct 12 20:52
|
|
มารอให้กำลังใจแว่นจัง //นั่งไขว่ห้างรอคนรับใช้เสิร์ฟอาหารค่ำ
จากคุณ : nespay
เขียนเมื่อ : 19 Oct 12 21:03
|
|
จากคุณ : sherlock
เขียนเมื่อ : 19 Oct 12 21:05
|
|
เปิดฉากมาด้วยLeoและTeresa คู่แต่งงานใหม่ ตัดสินใจฮันนีมูนด้วยการตระเวนสำรวจสถานที่สุดเฮี้ยนในตำนาน12แห่ง และพวกเขาก็มาถึงที่ Briarcliff Manor
ถ่ายรูปกันไปตลอดทาง หวานเจี๊ยบจ๊าบ แหมมมมันอิจฉา
ด้วยความช่วยเหลือของไอโฟน Teresa เล่าถึงความเป็นมาของที่แห่งนี้
Briarcliff Manor สร้างขึ้นปี 1908 เพื่อเป็นสถานที่รักษาผู้ป่วยวัณโรค และเป็นสถานที่รักษาวัณโรคที่ใหญ่ที่สุดในด้านชายฝั่งตะวันออกของอเมริกา(ทางชายฝั่งตะวันออกของอเมริกาที่ติดมหาสมุทรแอตแลนติก ตั้งแต่รัฐเมนเรื่อยไปจนถึงรัฐฟลอริดา) ว่ากันว่ามีคนเสียชีวิตในที่แห่งนี้ถึง46,000 คน และมีการลำเลียงศพผ่านทางอุโมงที่เรียกกันว่า Death Chute
ทั้งคู่ก็ยังหวานกันอย่างดูดดื่มไปตลอดทาง ลีโอเร่งให้รีบสำรวจให้เสร็จก่อนมืดซึ่งเหลือเวลาอีกเพียง 1 ชั่วโมงเท่านั้น
จากคุณ : แว่นจัง
เขียนเมื่อ : 19 Oct 12 21:06 แก้ไขเมื่อ : 19 Oct 12 22:30
|
|
แล้วทั้งคู่ก็มาอยู่ชั้นสอง Teresaเล่าต่อมาว่า
โบสถ์คาธอลิกซื้อที่แห่งนี้ต่อในปี 1962 เพื่อเป็นสถานที่รักษาอาชญกรที่ป่วยทางจิต โดยตามตำนานเล่าว่าเมื่อเข้ามาอยู่ในBriarcliffแล้ว จะไม่มีทางได้กลับออกมา คนไข้ที่มีชื่อเสียงของที่แห่งนี้ คือ ฆาตกรต่อเนื่องนามว่า Bloodyface
แล้วLeoไปเจอเก้าอี้ที่ใช้ช็อตไฟฟ้ารักษาผู้ป่วย หลังจากนั้นคู่แต่งงานใหม่ก็ประกอบกิจกรรมเข้าจังหวะกัน ด้วยการสวมบทคุณหมอฉีดยาคนไข้ แต่แล้วก็มีเสียงดังเหมือนมีคนเคาะประตูเหล็กที่ไหนซักแห่งในโรงพยาบาลร้างแห่งนี้ Teresaเลยตัดสินใจไปดู เผื่อจะเจอBloodyface ขณะที่Leoที่หงุดหงิดเล็กน้อยเพราะโดนขัดจังหวะก็บอกว่าอาจเป็นเสียงท่อน้ำเก่าๆก็ได้
จากคุณ : แว่นจัง
เขียนเมื่อ : 19 Oct 12 21:16 แก้ไขเมื่อ : 19 Oct 12 22:30
|
|
Bloodyface ที่หน้าเหมือนเป็นญาตินักร้องนำวงSlipknotเวลาใส่หน้ากาก
จากคุณ : แว่นจัง
เขียนเมื่อ : 19 Oct 12 21:17
|
|
จากคุณ : แว่นจัง
เขียนเมื่อ : 19 Oct 12 21:24
|
|
ขอเข้าโรงหน่อยค่ะ มาช้าไปนิ๊ดด
จากคุณ : kubkew
เขียนเมื่อ : 19 Oct 12 21:27
|
|
ปาดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด
จากคุณ : sport_ranger
เขียนเมื่อ : 19 Oct 12 21:27
|
|
และไปถึงตรงใกล้ๆกันเป็นประตูเหล็กมีช่องด้านล่างให้สอดอาหารเข้าไปให้ได้ Teresaเข้าไปดูยังไม่เห็นอะไร เลยLeoว่าคงไม่กล้าที่จะดูว่าในห้องนี้มีอะไรอยู่กันแน่
Leoจึงเอาโทรศัพท์เข้าไปจะได้บันทึกภาพในห้องจะได้รู้ว่ามีอะไรอยู่บ้าง ส่วนTeresaก็จัดหนักให้Leo ขณะที่Leo กำลังเคลิ้มได้ที่เขาก็โวยวายผลักTeresaที่คุกเขาอยู่จนเกือบกระเด็น เธอตกใจสุดขีดเมื่อLeoดึงแขนออกมา
เลือดสาดกระเซ็น โทรศัพท์ของTeresaตกอยู่หลังประตูเหล็ก และเสียงร้องด้วยความเจ็บปวดก็ดังไปทั่วโรงพยาบาลร้างแห่งนี้
จากคุณ : แว่นจัง
เขียนเมื่อ : 19 Oct 12 21:28 แก้ไขเมื่อ : 19 Oct 12 22:29
|
|
จากคุณ : แว่นจัง
เขียนเมื่อ : 19 Oct 12 21:31
|
|
จากคุณ : ChaChaKoi
เขียนเมื่อ : 19 Oct 12 21:32
|
|
แรงกัดของสิ่งมีชีวิตปริศนาทำให้Leoถึงกับแขนขาด
จากคุณ : แว่นจัง
เขียนเมื่อ : 19 Oct 12 21:33
|
|
ย้อนกลับไปปี 1964
ที่ปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่ง Kit Walker ทำงานเป็นคนดูแลปั๊ม ก่อนปิดปั๊มดันเจอลูกค้ามาเป็นครอบครัว คนเป็นพ่อดูหงุดหงิดลงท้ายด้วยการโยนเงินค่าน้ำมันลงบนพื้น
Kit อวยพรให้เดินทางปลอดภัยก่อนเดินมาปิดปั๊มและสบถถึงเหตุการณ์เมื่อกี้ แล้วเก็บเงินใส่กล่องลงบัญชีให้เรียบร้อย
จากคุณ : แว่นจัง
เขียนเมื่อ : 19 Oct 12 21:34 แก้ไขเมื่อ : 19 Oct 12 22:30
|
|
ปิดเสียงมือถือ ย่องเข้าโรงฉายเบาๆ
จากคุณ : Pattsaya
เขียนเมื่อ : 19 Oct 12 21:35
|
|
มารอดูด้วยใจระทึก ตึ๊ก ๆๆ ...
จากคุณ : cattym
เขียนเมื่อ : 19 Oct 12 21:38
|
|
ขณะที่กำลังปิดปั๊มอย่างอารมณ์ดี จู่ๆไฟก็ดับKitรีบวิ่งไปที่ตู้เซฟทันที ก่อนที่มีอะไรโผล่มาให้ตกใจ กลายเป็นBilly และกลุ่มเพื่อนของKit
Kit บอกBillyว่าทำแบบนี้มันอันตราย เดี๋ยวเกิดยิงเพราะนึกว่าเป็นโจรจะให้ทำไรอย่างไร
ทุกคนหัวเราะBilly ชูปืนแกว่งไปมา Kit รีบวิ่งไปเอาปืนคืนมาใส่เซฟไว้อย่างเดิม
เฮ้ยKitขอยืมปืนหน่อยสิวะ จะเอาไปขู่ไอ้ดำที่มาเกาะแกะกับน้องสาวคนเล็กของRandyว่ะ BillyถามKit
Kitตอบด้วยน้ำเสียงจริงจังว่า พวกแกเสียสติไปแล้วหรือไง ยังไงก็ไม่มีทางไปกับพวกแกแล้วก็ปืนกระบอกนี้ด้วย
Billyหยุดหัวเราะแล้วถามKitว่า
Alเจ้าของปั๊มให้เงินเดือนแกเท่าไรวะ ได้ข่าวมาว่าแกมีคนใช้ด้วยหนิหว่า
Billyหยิบช็อกโกแลตมาแกะกิน ก่อนพูดต่อว่า
อืมมมม ช็อกโกแลต แล้วยิ้มเยาะKit ก่อนจะเดินออกไปทั้งกลุ่ม ทิ้งให้Kitยืนอยู่ด้วยเสียงหน้ากังวล
จากคุณ : แว่นจัง
เขียนเมื่อ : 19 Oct 12 21:47 แก้ไขเมื่อ : 19 Oct 12 22:27
|
|
Kitขับรถมาถึงบ้าน แล้วทักทายผู้หญิงในบ้านว่า คุณนายWalker ฝ่ายผู้หญิงบอกKitว่า ยังไม่คุ้นกับคำว่าคุณนายWalker พร้อมเรียกเขาว่า คุณWalker
Kitหยิบแหวนแต่งงานที่วางอยู่มาใส่ ทั้งคู่เพิ่งแต่งงานกันได้ไม่นาน
Kitบอกให้Alma ภรรยาผิวสีของเขาว่าเขาอยากจะบอกให้ญาติทั้งสองฝ่ายรู้ว่า ทั้งสองแต่งงานกันแล้ว แต่Almaท้วงว่า ทำแบบนั้นไม่ได้หรอก ก่อนKitจะพูดว่า โลกนี้แหละผิด
คู่แต่งงานหนุ่มสาวคู่นี้ไม่ได้สนใจอาหารมื้อเย็น แล้วทั้งคู่ก็เข้าห้องนอนทันที
ช็อกโกแลตก่อนหน้านี้บิลลี่หมายถึงคนรับใช้ ซึ่งก็คือAlma นั้นช่วงยุค1960 เป็นช่วงที่ความขัดแย้งเรื่องการเหยียดสีผิวในอเมริกานั้นค่อนข้างรุนแรงในหลายๆรัฐ ในซีรียส์นี้เป็นเมืองเล็กๆจึงยอมมีเรื่องการเหยียดสีผิว หรือ เรื่องอะไรที่เราเห็นว่าธรรมดามากๆในปัจจุบัน เป็นเรื่องที่ผิดมาก โดยเฉพาะตามความเชื่อทางศาสนา
จากคุณ : แว่นจัง
เขียนเมื่อ : 19 Oct 12 21:58 แก้ไขเมื่อ : 19 Oct 12 22:26
|
|
ทั้งคู่มีความสุขด้วยกัน ก่อนที่Almaออกไปเตรียมอาหารมื้อค่ำต่อ ขณะที่Kitนอนสูบบุหรี่พลางฟังเพลงไปด้วย คลื่นวิทยุก็ไม่ชัด ซักพักมีแสงไฟสว่างวาบเหมือนไฟหน้ารถ
Kitรีบแต่งตัวหยิบปืน ตะโกนบอกให้Almaซ่อนอยู่ในครัว และออกไปหน้าบ้านกวาดตามอง ซึ่งเขานึกว่าบิลลี่อาจรู้ความจริงแล้วว่าเขาแต่งงานอยู่กินกับสาวผิวสีที่คนเข้าใจกันว่าเป็นคนรับใช้ เขาตะโกนเรียกชื่อบิลลี่ แต่เมื่อมองไปก็ไม่พบรถซักคน
ปรากฎว่าแสงสว่างนั้นไม่ได้มาจากรถ มันมาจากท้องฟ้า สว่างจ้าราวกับไฟสปอตไลท์
จากคุณ : แว่นจัง
เขียนเมื่อ : 19 Oct 12 22:03 แก้ไขเมื่อ : 19 Oct 12 22:25
|
|
Kitรีบวิ่งเข้าบ้านหลังจากได้ยินเสียงร้องของAlma
เมื่อเข้ามาในบ้าน ชายหนุ่มร้องเรียกภรรยาสาวของเขา สายตาก็เห็นบ้านเหมือนถูกรื้อค้นของกระจัดกระจายระเนระนาด แสงสว่างนั้นเจิดจ้าไปทั่วแถมด้วยเสียงแหลมบาดหูบ้านสั่นอย่างไร Kitล้มตัวลงเอามืออุดหูเสียงนั้นทำให้เขาปวดหัวจนแทบทนไม่ได้
และเสียงก็หยุดลง
จากคุณ : แว่นจัง
เขียนเมื่อ : 19 Oct 12 22:06 แก้ไขเมื่อ : 19 Oct 12 22:24
|
|
แต่แค่ครู่เดียว ข้าวของก็ลอยไปติดเพดานชั้นหนึ่งของบ้าน
Kitได้เผชิญหน้ากับมนุษย์ต่างดาวเข้าให้แล้ว
เขาส่งเสียงร้องด้วยกลัวเมื่อมนุษย์ต่างดาวยื่นมือที่มีนิ้วยาวๆเข้ามาใกล้
จากคุณ : แว่นจัง
เขียนเมื่อ : 19 Oct 12 22:09 แก้ไขเมื่อ : 19 Oct 12 22:24
|
|
มีมนุษย์ต่างดาวด้วย (*0*)
จากคุณ : nespay
เขียนเมื่อ : 19 Oct 12 22:13
|
|
จากคุณ : sherlock
เขียนเมื่อ : 19 Oct 12 22:13
|
|
ตัดมาที่ตอนเช้าหญิงสาวคนหนึ่งขับรถเข้ามา
เธอคือ Lana Winter จากหนังสือพิมพ์The Gazette เธอมีนัดกับซิสเตอร์Jude เธอจอดรถหน้าตึกอิฐสีแดงที่ตั้งตระหง่านอยู่
เล่นกันหน่อยๆ
ลาน่าหันไปมองเมื่อมีมือมาแตะที่ไหล่เธอ เป็นหญิงสาวหน้าตาอัปลักษณ์
หญิงสาวคนดังกล่าวยื่นดอกไม้ให้ลาน่ารับไว้แล้วหนามก็ตำนิ้วเธอจนเลือดออก
รูปมองเห็นไหมตอนรวมรูปมันกะลำบากเพราะแคปมาพอดี แต่พอรวมรูปมันจะใหญ่ตอนเช็คครั้งสุดท้ายมันจะไม่เหมือนตอนโพส
จากคุณ : แว่นจัง
เขียนเมื่อ : 19 Oct 12 22:18 แก้ไขเมื่อ : 19 Oct 12 22:32
|
|
แล้วซิสเตอร์Mary Euniceก็เดินเข้ามาบอกหญิงผู้ป่วยที่มอบดอกไม้ให้ลาน่าว่า
"Pepper อย่าไปกวนคุณผู้หญิงคนนี้สิจ๊ะ"
ลาน่าตอบกลับซิสเตอร์ว่า "ไม่ได้กวนเลยค่ะ ไม่เป็นอะไรหรอก เธอพยายามผูกมิตรกับดิฉันค่ะ"
ซิสเตอร์หน้าเด็กตอบกลับว่า "เป็นสิค่ะ ผู้หญิงคนนี้อันตรายทีเดียว เธอจับลูกชายของพี่สาวกดน้ำแล้วตัดหูเขาขาดทั้งสองข้าง"
ลาน่าได้แต่ยิ้งแห้งๆก่อนจะรีบตามซิสเตอร์แมร์รี่ ยูนิซ เข้าไปในตึก
เมื่อเข้าไปข้างใน เสียงกรีดร้องฟังไม่ได้ศัพท์ เสียงโวยวาย เสียงด่าทอของคนไข้ดังขึ้นเป็นระยะๆ
ซิสเตอร์ยูนิซยิ้มให้นักข่าวสาวก็พูดถึงบันไดที่ตั้งอยู่กลางตัวตึกว่า
"บันไดนี้ ซฺสเตอร์จู๊ดบอกว่าเป็น "บันไดสู่สวรงสวรรค์" ค่ะ "
ลาน่าเดินตามซิสเตอร์ขึ้นไป ซิสเตอร์คว้าดอกกุหลาบเมื่อกี้โยนใส่ตะกร้าที่ถือมา
จากคุณ : แว่นจัง
เขียนเมื่อ : 19 Oct 12 22:42
|
|
เปิดเข้ามาในห้องซิสเตอร์จู๊ดที่กำลังโกนหัวผู้ป่วยหญิงคนหนึ่ง
ซิสเตอร์ยูนีซเปิดเข้ามาแบบไม่ดูตามาตาเรือ เลยพูดว่าเอ่อ นี่คุณนักข่าวค่ะ ซิสเตอร์
ซิสเตอร์จู๊ดจึงสั่งให้แซลลี่ ผู้ป่วยคนดังกล่าวปัดเศษผมออกจากตัว แล้วหล่อนก็ด่าซิสเตอร์จู๊ดว่า
"ต่อให้ซิสเตอร์โกนผมฉันไปจนหมด ฉันก็ยังเป็นผู้หญิงที่น่าสนใจทีสุดในที่นี้อยู่ดีนั้นแหละ"
แซลลี่หยุดพูดเมื่อเห็นสายไฟจากบัตตาเลี่ยน ซิสเตอร์จู๊ดสั่งให้ซิสเตอร์ยูนิซพาแซลลี่ไปที่ห้องนั่งเล่นของโรงพยาบาล ก่อนหันมาถามชื่อแขกของเธอ
"ชื่อ ลาน่า วินเทอร์ส์ ค่ะ ซิสเตอร์ค่ะ ดิฉันขอถามนะคะว่าแซลลี่ทำอะไรผิด ซิสเตอร์ถึงลงโทษเธอแบบนี้"
ซิสเตอร์จู๊ดตอบกลับด้วยน้ำเสียงเรียบๆว่า
"คุณมาสัมภาษณ์เรื่องเบเกอร์รี่ของที่นี่ไม่ใช่หรือ จะมาถามเรื่องนี้ทำไม"
"ดิฉันชอบขนมปังของที่นี่มากค่ะ ทานทุกเช้าเลย"
ลาน่าเปลี่ยนเรื่อง เพราะกลัวซิสเตอร์จะโกรธเธอ
จากคุณ : แว่นจัง
เขียนเมื่อ : 19 Oct 12 22:55
|
|
ซิสเตอร์เลยเล่าถึงอาการของแซลลี่ว่า
"จิตแพทย์วินิจฉัยแซลลี่ว่ามีอาการผิดปรกติ เปรียบกับนางไม้"
"ซิสเตอร์หมายถึง อาการติดเซ็กส์หรือคะ" ลาน่าถาม
"นั่นมันคำอธิบายของพวกหมอเถื่อนๆ หญิงสาวคนนั้นป่วยเพราะตัณหาของเธอ ไอ้อาการป่วยทางจิตนั้นมันคือคำอธิบายสมัยใหม่ของคำว่าบาป"
"ชื่อของคุณ ลาน่า ตั้งตามดาราใช่ไหม"
"ใช่ค่ะ ซิสเตอร์" นักข่าวสาวตอบ
"ชื่อนั้น เทียบไม่ได้กับJennifer Jones หรอก เธอผู้นั้นเป็นหญิงสาวที่เหมาะสมอย่างแท้จริง ได้ดูหนังเรื่องThe Song of Bernadette ไหม"
"ได้ดูค่ะ หนังสุดคลาสสิคเลยนะคะ ได้ยินมาว่าคุณก็เป็นดาวเด่นของที่นี่เหมือนกันนี่ค่ะ"
"ไม่ใช่หรอกMonsignor Timothy Howard ต่างหาก"
จากคุณ : แว่นจัง
เขียนเมื่อ : 19 Oct 12 23:09
|
|
ย่องเข้าโรงมามั่ง เอาที่นอนปูผ้าห่มพร้อมนอนชม !!!
จากคุณ : Loma บ้าชอปป์
เขียนเมื่อ : 19 Oct 12 23:14
|
|
"ก่อนหน้านี้ที่นี่มีชื่อเรียกว่า "หลุมนรก" แต่พอท่านMonsignor Howard เข้ามาปรับปรุงที่นี่ก็ดีขึ้นมาก"
"เบเกอร์รี่ของซิสเตอร์ก็มีชื่อมากนะคะ" ลาน่าบอก
"นั้นไม่ใช่ความคิดของฉันหรอกคนเดียวหรอก" ซิสเตอร์จู๊ดตอบ พร้อมบอกให้ลาน่าจดตาม
"เป็นความคิดของท่านMonsignor Howard ท่านได้ว่ารากฐานว่าอาการป่วยจะดีขึ้นด้วยสามอย่าง คือ ความอุดมสมบูรณ์ การสวดมนต์ และ ความบริสุทธิ์ เบเกอร์รี่นั้นแค่ปลายบนสุดของรากฐานเท่านั้นเอง"
นอกจากนี้ซิสเตอร์ยังบอกว่าคนป่วยนอกจากรัฐจะส่งมาแล้ว ยังมีบางส่วนมาจากชุมชนแออัดในเมืองอีกด้วย ซึ่งเป็นการทำบุญทำทานรักษาคนยากไร้ของท่านMonsignor Howard
แล้วซิสเตอร์ยูนิซก็วิ่งทะเล่อทะล่าเข้ามาในห้องอีกครั้ง ก่อนจะนึกได้ว่าลืมเคาะประตู เธอเลยจะวิ่งออกไปเคาะประตูก่อน
จากคุณ : แว่นจัง
เขียนเมื่อ : 19 Oct 12 23:17
|
|
ซิสเตอร์ยูนิซพยายามกระซิบไม่ให้ลาน่าได้ยินเพื่อบอกซิสเตอร์จู๊ดว่า คนไม่ดีกำลังมาถึงอยู่แล้ว
ลาน่าก็ยังได้ยินและขอไปดูด้วยทันที เธอลืมเรื่องเบเกอร์รี่ไปหมดสิ้น
"คนสติไม่ดีคนนั้นคือ Bloodyfaceใช่ไหมคะ ที่เดินไปมาสวมหน้ากากทำจากหนังของเหยื่อที่เป็นหญิงสาว เห็นว่าเขาลงมือฆ่าถลกหนังเหยื่อไปแล้วอย่างน้อยสามคน ตอนนี้ชุมชนของเรากำลังมีคนโรคจิตคุกคามนะคะ ขอดิฉันเข้าไปดูให้เห็นกับตาหน่อยคะ แค่สามนาทีเท่านั้น"
ซิสเตอร์รู้ทันทีว่าเป้าหมายแท้จริงของนักข่าวคืออะไร ถึงกับหัวเสียทันที และชี้หน้าบอกลาน่าว่า หล่อนไม่รู้อะไรซะแล้ว
จากคุณ : แว่นจัง
เขียนเมื่อ : 19 Oct 12 23:25
|
|
ซิสเตอร์จู๊ดบอกถ้าอยากได้นักก็จดไปซะ ทางรัฐส่งBloodyfaceมาที่นี้เพื่อดูว่าเขาจะขึ้นศาลได้หรือไม่
และBloodyfaceก็เป็นแค่ชายหนุ่มที่ธรรมดาๆ
นั่นคือ Kit Walker นั้นเอง
จากคุณ : แว่นจัง
เขียนเมื่อ : 19 Oct 12 23:27
|
|
เข้ามาก็โดนจับแก้ผ้า ฉีดน้ำล้างตัว สาดผงคล้ายๆแป้ง แล้วถูกจับฉีดยา ใส่เสื้อรัด และบอกซิสเตอร์เมื่อเขาลืมตาตื่นมาว่า เขาไม่ได้ฆ่าใครทั้งสิ้น
ซิสเตอร์จู๊ดบอกกับคิทว่า ที่เจ้าหน้าที่ส่งมาไม่ได้จะมาแก้ไขอะไรทั้งสิ้น แค่กักตัวเขาไว้และรอเวลาว่าจะจัดการแบบใดกับเขาดี ที่นี่ให้เขาสำนึกผิดกับสิ่งที่ทำลงไปกับพระเจ้าเท่านั้น
คิทตอบว่าพวกสัตว์ประหลาดต่างหากที่เป็นคนทำ
ซิสเตอร์จู๊ดตอบว่าไอ้มุขมนุษย์ตัวเขียวๆไม่ได้ผลที่นี่หรอก
คิดย้ำว่าพวกนั้นไม่ใช่คนมันคือสัตว์ประหลาด
จากคุณ : แว่นจัง
เขียนเมื่อ : 19 Oct 12 23:33
|
|
ซิสเตอร์พูดต่อหลังจากคิทบอกไม่เชื่อในพระเจ้าแและยืนยันสิ่งที่เขาเผชิญหน้ามา
"ที่นี่สัตว์ประหลาด คือ มนุษย์ และ สัตว์ประหลาดตัวนั้น มันคือแก"
แล้วซิสเตอร์หันมาถามอีกครั้งว่า
"ฉันอยากรู้นะว่าหนังผู้หญิงผิวดำคนนั้นมันเลื่อนหลุดออกจากกระดูกเหมือนเหยื่อคนอื่นๆไหม"
"ถุยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย"
คิทถ่มน้ำลายใส่ซิสเตอร์
ซฺิสเตอร์หบิยผ้ามาเช็ดก่อนพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบว่า
"แล้วแกจะเสียใจในสิ่งที่ทำลงไป"
จากคุณ : แว่นจัง
เขียนเมื่อ : 19 Oct 12 23:38
|
|
แม่ชีค่าาาาาาาา แม่ชีซาดิสไปหยิบอุปกรณ์แล้วมาฝาดไปที่ลำตัวของคิท วอลก์เกอร์
จากคุณ : แว่นจัง
เขียนเมื่อ : 19 Oct 12 23:38
|
|
คิทลงมาห้องนั่งเล่นของโรงพยาบาล เจอแต่คนที่บ้าจริงๆแล้วมาเจอแซลลี่ลวนลามจะเปิดเสื้อที่ผูกไว้จนเห็นผลและก้น
เธอบอกเขาว่าเจอฤทธิ์ของอีป้าแม่ชีจู๊ดแล้วละสิ คิทได้แต่ไล่หล่อนไปไกลๆ
เขารู้สึกแปลกๆกับที่นี่เหลือเกิน
ในห้องเปิดเพลง Dominique
เพลงดังกล่าวดังในช่วงยุค1960มากเป็นเพลงพูดถึงบาทหลวงชื่อโดมินิค ร้องโดย The Singing Nun
จากคุณ : แว่นจัง
เขียนเมื่อ : 19 Oct 12 23:43 แก้ไขเมื่อ : 20 Oct 12 02:29
|
|
คิทจะเดินไปปิดแผ่นเสียง จู่ๆก็มีผู้หญิงที่ดูท่าทางปกติที่สุดเดินมาบอกอย่าปิดเพลงเด็ดขาด ไม่งั้นเขาจะต้องลำบากแน่ๆ
คิทสงสัยว่าทำไมต้องเชื่อเธอ
สาวคนนี้บอกว่าเพราะฉันไม่ได้ป่วยแล้วอีกอย่างห้องนั่งเล่นจะเปิดให้ใช้ต่อเมื่อเพลงนี้เปิดอยู่ และเธอย้ำทุกที่มีกฎรวมถึงที่นี้เช่นกัน เธอเรียนรู้มาด้วยตัวเองและเรียนรู้ด้วยวิธีที่แสนเจ็บปวด
แล้วจู่ๆก็มีคนป่วยร่างกำยำมาถามเขาว่า เป็นไอ้ฆาตกรสุดโหดอย่างนั้นหรอ
"ได้ข่าวว่าแก ถลกหนังเหยื่อคนสุดท้ายเป็นๆเพราะแกไม่ชอบผิวดำของหล่อนใช่ไหม"
หลังจากนั้นคิทก็ผลักคนป่วยคนนี้ออกไปก่อนจะมีเรื่องชกต่อยกัน
จากคุณ : แว่นจัง
เขียนเมื่อ : 19 Oct 12 23:49
|
|
คิทโดนต่อยอย่างไม่มีท่าสูง ท่ามกลางเสียงเชียร์ให้ทั้งคู่ต่อยกัน
แม่ชีมหาภัยเข้ามาห้ามทัพด้วยเสียงนกหวีดดด
ทุกคนถอยหลบไปด้านข้างของห้องด้วยความกลัว
คิทชี้นิ้วไปที่ตัวก่อเหตุ
แม่ชีมหาภัยก็เดินไปเปิดเพลงตามเดิม
จากคุณ : แว่นจัง
เขียนเมื่อ : 19 Oct 12 23:51
|
|
เพลงหยุดไปเพราะตอนที่ผู้ป่วยหญิงที่เขามาคุยกับคิท เข้ามาห้ามทัพโดนผู้ป่วยที่มาหาเรื่องคิทผลักกระเด็นไปโดนเครื่องเล่นแผ่นเสียง
แล้วคิทก็โดนกระหน่ำตี
เขารู้สึกตัวพร้อมโดนขังในห้องแยกขังเดียวพร้อมใส่เสื้อรัด ในหัวเขามีแต่ช่วงเวลาที่เขาเคยมีความสุขและรอยยิ้มของAlma
จากคุณ : แว่นจัง
เขียนเมื่อ : 19 Oct 12 23:54
|
|
หลังจากนั้นไม่นานมีจานอาหารเลื่อนเข้ามาใต้ประตู คิดยื่นขึ้น และเห็นผู้หญิงที่เจอในห้องนั่งเล่นเป็นคนอาสาเอาอาหารมาให้ แถมยังให้บุหรี่สูบด้วย
"มาช่วยทำไม" "สิ่งที่นายทำมันย้อนกลับมาหานายไง" เธอตอบ
"แล้วเธอทำอะไรถึงมาอยู่ที่นี่ละ"
"เขาหาว่าฉันใช้ขวานฟันคนในครอบครัวตายหมดนะสิ อยากถามไหมละว่าฉันทำหรือเปล่า"
"แล้วเธอฆ่าพวกเขาหรือเปล่าละ"
เธอตอบทันทีว่า"ไม่" และถามคิทว่า "แล้วนายละฆ่าเมียหรือเปล่า"
"เปล่า ไม่ได้ฆ่า"
จากคุณ : แว่นจัง
เขียนเมื่อ : 20 Oct 12 00:03
|
|
"งั้นนายก็ลำบากแล้วละถ้าตอบแบบนั้น เพราะพวกนั้นจะบอกว่านายจิตปกติ แล้วจะส่งนายไปที่ที่สยดสยองกว่านี้อีกมาก"
คิทสงสัยว่าในโลกใบนี้ยังมีที่ที่แย่กว่าโรงพยาบาลแห่งนี้อีกหรือ
คิทถามชื่อผู้หญิงคนนี้ก่อนเธอจะไป
"ฉันชื่อเกรซ" เธอตอบ
จากคุณ : แว่นจัง
เขียนเมื่อ : 20 Oct 12 00:05
|
|
ไปนอนก่อนนะคะ พรุ่งนี้มาดูต่อ ฝันดีค่ะ
จากคุณ : sherlock
เขียนเมื่อ : 20 Oct 12 00:05
|
|
ซิสเตอร์ยูนีซร้องไห้เหมือนเด็กๆตอนซิสเตอร์จู๊ดเข้ามายังห้องนั่งเล่น แล้วก็รู้ว่าวิลลี่คนไข้คนหนึ่งตายแล้วเมื่อคืน
"ทำไมไม่มีใครบอกฉัน" ซิสเตอร์จู๊ดถามด้วยอารมณ์เสีย
ซิสเตอร์ยูนีซตอบว่า หมออาร์เดนบอกว่าเขาจะจัดการเอง
ซิสเตอร์จู๊ดจึงไปถามหมออาร์เดนบอกว่าเกิดอะไรขึ้นกับคนไข้เมื่อคืน หมอจึงบอกว่าคนไข้ป่วยทางจิตใจแล้วยังป่วยทางร่างกายด้วย คนไข้ป่วยแล้วก็ตายก็แค่นั้นไม่เห็นมีอะไร
แล้วหมอจึงให้ดูดอกไม้ที่เกิดจากการอาบรังสี
ซึ่งทำให้ซิสเตอร์พูดถึงความไม่เชื่อในวิทยาศาสตร์แบบที่หมออาร์เดนยึดถือ เธอเชื่อในพลังของธรรมชาติและพระเจ้ามากกว่า
จากคุณ : แว่นจัง
เขียนเมื่อ : 20 Oct 12 00:11
|
|
ซิสเตอร์จู๊ดถามต่อว่าช่วงนี้มีคนไข้ที่ไม่มีญาติตายบ่อยมาก พวกนี้ไม่มีญาติ ไม่มีคนมาเศร้าโศกไม่มีคนมาถามคำถามอะไรทั้งสิ้น ซิสเตอร์ถามว่าศพคนไข้อยู่ที่ใด
"เผาศพสิ "จากเถ้าสู่เถ้า จากธุลีสู่ธุลี"แบบนั้นไงละ"
ภาพตัดไปที่จานแดงๆ มีมือมาคว้ากิน หรือว่าแท้จริงแล้วไม่มีการเผาศพแต่อย่างใด แต่กลับให้เศษเนื้อให้ผู้ป่วยกิน?
แล้วภาพตัดกลับมาที่แม่ชีมหาโหด
"ฉันขอเตือนไว้ก่อนนะหมอ ฉันจะคอยจับตาดูการกระทำของคุณ และอย่าลืมละว่าฉันเป็นผูชนะเสมอเวลาแข่งในโลกที่ผู้ชายเป็นใหญ่"
ซิสเตอร์จู๊ดยิ้มเตือนอย่างน่าสะพรึ่งกลัว
ปกติคาธอลิกไม่มีการเผาศพ วลีดังกล่าวหมออาร์เดนต้องการเสียดสีความเชื่อของซิสเตอร์จู๊ด
จากคุณ : แว่นจัง
เขียนเมื่อ : 20 Oct 12 00:18 แก้ไขเมื่อ : 20 Oct 12 00:22
|
|
// เปิดประตูก้าวเท้าเข้าโรงบาล เอ๊ย...โรงหนัง
จากคุณ : nikkishi
เขียนเมื่อ : 20 Oct 12 00:23 แก้ไขเมื่อ : 20 Oct 12 16:48
|
|
ในบ้านหลังนี้
ลาน่า นักข่าว อาศัยอยู่กับ เวนดี้ ครูสาว ทั้งสองคนเป็นเลสเบี้ยน
ลาน่าแซวแฟนสาวว่าเมากัญชาก่อนกินข้าวเลยหรอ เวนดี้ตอบที่ต้องเมาเพราะฝีมือทำกับข้าวของลาน่านั้นรสชาติไม่ไหวจริงๆ
"ยัยป้าแก่แม่ชีนั้นโกหกทั้งเพ"
ลาน่าพูดถึงเรื่องที่ไปโรงพยาบาลวันนี้ให้เวนดี้ฟัง เวนดี้สนับสนุนให้ลาน่าตีแผ่โรงพยาบาลแห่งนี้แบบที่เคยมีคนทำกับโรงพยาบาลจิตเวชอีกแห่งในอดีต
ก่อนทั้งคู่จะจูบกัน เวนดี้รีบปิดมูลี่ ด้วยกลัวที่คนข้างนอกจะเห็น เพราะการเป็นเลสเบี้ยนนั้นไม่เป็นที่ยอมรับของคนในยุคนั้นอย่างมาก
ลาน่าปิดท้ายว่า "ทุกอย่างที่ทำไป ฉันทำเพื่อเธอนะเวนดี้ไม่ใช่เพราะบรรณาธิการบ้าบอที่จะให้ฉันมาเขียนบทความเรื่องทำกับข้าว ทั้งๆที่ฝีมือทไอาหารฉันห่วยมาก"
จากคุณ : แว่นจัง
เขียนเมื่อ : 20 Oct 12 00:28
|
|
ป้าทำอาหาร
แล้วตัดไปกับฉากที่สวดมนต์และใช้น้ำหอม
จากคุณ : แว่นจัง
เขียนเมื่อ : 20 Oct 12 00:28
|
|
อาหารที่ทำไฮโซมากมีไฟลุกพรึ่บขึ้นมา ตัดมาที่ป้าแม่ชีมหาภัยใส่ชุดสีแดงสุดเซ็กซี่!
และตัดมาที่ฉากกินอาหารกับMonsignor Timothy Howard พระหนุ่มอนาคตไกล เขาชมฝีมือทำอาหารของซิสเตอร์จู๊ดอย่างไม่ขาดปาก พร้อมกับรินไวน์ดื่ม
จากคุณ : แว่นจัง
เขียนเมื่อ : 20 Oct 12 00:31 แก้ไขเมื่อ : 20 Oct 12 00:40
|
|
ซิสเตอร์บอกว่าเธอไม่ดื่มไวน์ หลังจากนั้นเธอพูดกับMonsignor Timothy Howardเรื่องหมออาร์เดน
"ท่านเป็นพระที่สมควรเป็นแบบอย่าง แต่ว่าหมออาร์เดนไม่ใช่คนของพระเจ้า วิธีของเขาก็ด้วย ท่านไปได้ตัวหมอคนนี้มาจากไหนคะ"
Monsignor Howard ตอบว่า ""วาติกันเป็นคนรับรองมา"
จุดนี้ป้าถึงกับหงายเงิบไปเลยทีเดียว
"พ่อศรัทธาในพระเจ้า เพราะพระเจ้าสร้างทั้งธรรมชาติและวิทยาศาสตร์มาพร้อมกัน" พระหนุ่มบอกถึงสาเหตุที่เขาชวนหมออาร์เดนมาทำงานที่นี่
จากคุณ : แว่นจัง
เขียนเมื่อ : 20 Oct 12 00:36
|
|
แล้วMonsignor Timothy Howard ก็พูดถึงแผนการที่เขาอยากBriarcliff เป็นที่เลื่องชื่อไปยังนิวยอร์ก
เขาจับมือซิสเตอร์จู๊ด พร้อมบอกว่าเมื่อถึงจุดนั้นเขาจะได้เป็นพระคาร์ดินัล ส่วนซิสเตอร์ก็จะได้เป็นคุณแม่อธิการ เป็นผู้คุมแม่ชีทั้งหมด และเธอจะเป็นมือขวาของเขา
เขาไปที่ไหนเธอจะได้ตามติดไปด้วย
จากคุณ : แว่นจัง
เขียนเมื่อ : 20 Oct 12 00:40
|
|
จากร่างป้าแม่ชี จึงกลายร่างเป็นป้าสุดเซ็กซี่ชุดสีแดง
สุดสะพรึงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง
จากคุณ : แว่นจัง
เขียนเมื่อ : 20 Oct 12 00:43
|
|
สุดท้ายคนดูก็เงิบ เพราะมันคือจินตนาการของป้า
ป้าก็ตื่นจากภวังค์เมื่อMonsignor Timothy Howard สั่งให้รับผิดชอบหน้าที่ของตัวเอง และปล่อยให้หมอทำงานของหมอไป
จากคุณ : แว่นจัง
เขียนเมื่อ : 20 Oct 12 00:44
|
|
และอีกฟากของโรงพยาบาลซิสเตอร์ยูนีซก็ออกไปในป่าติดกับโรงพยาบาลในตอนดึก เพราะหมออาร์เดนพูดกับเธอว่าถ้าเชื่อหมอให้ทำตามที่หมอบอก หลังจากที่เธอถามหมอเรื่องเสียงประหลาด ที่เธอบอกว่าเสียงนั้นเหมือนกำลังหิวมาก
เธอเอาถึงใส่เนื้อบางอย่างมาไว้ ก่อนเสียงลึกลับเหมือนจะเข้ามาใกล้เธอ ซิสเตอร์ยูนีซก็วิ่งโกยอ้าวจนมาเจอลาน่าที่แอบเข้ามาหาข้อมูล
จากคุณ : แว่นจัง
เขียนเมื่อ : 20 Oct 12 00:48
|
|
ถือถังแบบที่เคยเห็นในตัวอย่าง กับโปสเตอร์
เนื้ออะไรเอ่ย?
จากคุณ : แว่นจัง
เขียนเมื่อ : 20 Oct 12 00:49
|
|
ลาน่าถามซิสเตอร์ยูนีซว่าเสียงประหลาดนั้นเสียงอะไร
เธอไม่ตอบก็จะให้ลาน่ารีบกลับเข้าตึกไปกับเธอ
ด้านคิทผู้โชคร้ายใช้ปากกินอาหารแล้วก็ถึงกับคายทิ้งด้วยรสชาติหมาไม่แดรกกกกกกก
ท่าทางของเขาแย่เต็มทน
จากคุณ : แว่นจัง
เขียนเมื่อ : 20 Oct 12 00:51
|
|
แล้วหมออาร์เดนเข้ามาฉีดยา และจะพาคิทไปที่ไหนซักแห่ง
จากคุณ : แว่นจัง
เขียนเมื่อ : 20 Oct 12 00:54
|
|
กลับมาที่ปัจจุบัน
เทรีซ่าห้ามเลือดให้ลีโอ บอกให้เขาอดทนอย่าหลับ เดี๋ยวจะพาไปที่รถ แต่เธอแบกเขาไปไม่ไหว
เมื่อนึกถึงโทรศัพท์ของลีโอที่น่าจะอยู่ในรถ เทรีซ่าจึงบอกให้ลีโอนอนรอก่อน และวิ่งลงไปชั้นล่าง ที่จู่ๆมีโซ่คล้องประตูที่ทั้งคู่พึ่งเข้ามาเมื่อไม่นานนัก
เธอจึงวิ่งไปทางอุโมงเพื่อหาทางออก "Death Chute"นั้นเอง
จากคุณ : แว่นจัง
เขียนเมื่อ : 20 Oct 12 00:57
|
|
ทั้งลาน่าและยูนิซกลับเข้ามาทางอุโมง เมื่อเข้ามาถึงยูนีซรีบเอาฝูกเก่าๆปิดประตูไว้
เมื่อลาน่าถามว่าทางนี้เอาไว้ทำอะไร
ยูนิซจึงตอบว่าก็แค่ทางลัดเข้ามาในโรงพยาบาล
ยูนิซจึงขู่ว่าให้พาไปหาBloodyfaceไม่งั้นเธอจะรายงานเรื่องนี้ให้ซิสเตอร์จู๊ดรู้
ยูนิซตัวสั่นด้วยความกลัว เธอบอกหมออาร์เดนเป็นคนสั่ง อย่าได้บอกเรื่องนี้ให้ใครรู้เด็ดขาด
หมออาร์เดนก็กำลังเอาตัวคิท มาศึกษาถึงจิตใจของฆาตกร และซิสเตอร์จู๊ดก็ทำหน้าที่ตรวจตราตึก
จากคุณ : แว่นจัง
เขียนเมื่อ : 20 Oct 12 01:02
|
|
ยูนีซพาลาน่าไปหาBloodyface
ในขณะที่หมออาร์เดนตอบคิดว่า ตัวเขาก็เป็นคนดูแลที่โรงพยาบาลนี้แบบเดียวกับซิสเตอร์จู๊ด เมื่อมาถึงวอร์ดคนป่วยชาย
มีคนป่วยขว้าขี้ใส่หน้าซิสเตอร์ยูนิซ จนเธอบอกให้ลาน่ารออยู่เฉยๆห้ามไปไหน แล้วก็วิ่งร้องไห้กลับออกไปเพื่อล้างหน้า แต่ยูนิซก็เดินสำรวจต่อไป
ตัดกลับมาที่หมออาร์เดนเขาบอกว่าการศึกษาครั้งนี้ต้องขอโทษด้วยที่ไม่ใช่ยาสลบ เพราะอยากศึกษาตอนเป็นๆ
จากคุณ : แว่นจัง
เขียนเมื่อ : 20 Oct 12 01:06
|
|
จากคุณ : แว่นจัง
เขียนเมื่อ : 20 Oct 12 01:07
|
|
ลาน่าเดินไปจนเห็นคนกำลังทำซัมติ้งรองกัน ปรากฎว่าเป็นเจ้าหน้าที่กับแซลลี่สาวติดเซ็กส์นั้นเอง
เขาถามลาน่าว่ามาทำอะไรที่นี่ตอนกลางคืน เขาจะรายงานซิสเตอร์จู๊ด
เธอตอบว่าเธอจะรายงานซิสเตอร์จู๊ดเช่นกันแล้วเหลือบมองที่ซิบของเจ้าหน้าที่ที่ยังไม่ได้รูดปิด
แล้วพูดต่อไปว่าเธอจะไม่บอกซิสเตอร์ถ้าเขาไม่บอกเรื่องนี้เช่นกัน แล้วเจ้าหน้าที่ดังกล่าวจึงไม่พูดอะไรและเดินหายไปด้านหลัง
ลาน่าถามแซลลี่ถึงห้องของBloodyface ซึ่งได้คำตอบมาว่าเขาถูกแยกขังเดี่ยว แต่ไม่ทันจะตอบอะไรต่อ แซลลี่รีบวิ่งออกไปเพราะมีคนเดินมา
ส่วนลาน่ารีบเข้าไปซ่อนหลังประตู
จากคุณ : แว่นจัง
เขียนเมื่อ : 20 Oct 12 01:13
|
|
ซิสเตอร์จู๊ดไล่ตรวจตามห้องคนป่วยมาเรื่อยๆ ลาน่าก็ได้แต่ลุ้นไม่ให้โดนจับได้ก่อนจะได้คุยกับBloodyface
ฝากคิทBloodyface ก็นอนรอให้หมออาร์เดนศึกษา หมอพร่ำถึงความผิดปกติของคิทว่าเกิดจากสมองส่วนหน้า และพรรณาถึงความงามของสมองสีชมพู๊
ดูเหมือนหมอจะคลั่งไคล้สมองเอามากๆ
จากคุณ : แว่นจัง
เขียนเมื่อ : 20 Oct 12 01:16
|
|
ตอนนี้ฉากจะตัดไปตัดมาระหว่างในห้องของหมออาร์เดน ความคิดของคิท และ ลาน่า
หมอพูดถึงคดีที่คิทลงมือฆ่าเหยื่อ เขาเริ่มเอาเครื่องมื่อมารัดรอบหัวของคิท ส่วนลาน่ายืนอยู่หน้าห้องหนึ่งเขาได้ยินเสียงผู้ชายร้องด้วยความเจ็บปวด แต่ลังเลอยู่ว่าใช่ห้องที่Bloodyfaceอยู่หรือไม่
ส่วนคิดก็เริ่มนึกถึงมนุษย์ต่างดาวและAlmaเรียกหาเขาอีกครั้ง
จากคุณ : แว่นจัง
เขียนเมื่อ : 20 Oct 12 01:19
|
|
"ช่วยด้วยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย"
Alma ตะโกนให้คิทช่วย ก่อนเขาจะนึกถึงตอนที่มนุษย์ต่างดาวสำรวจร่างกายเขา ตัดกลับมาที่ภาพหมออาร์เดนสำรวจและไปเจอเหมือนก้อนเนื้อที่ต้นคอของคิท
"นั้นต้องเป็นเนื้องอกแน่ๆ ไหนดูสิ"
หมอใช้มีดกรีดไปที่บริเวณนั้นโดยไม่ได้ใช้ยาชาใดๆ คิทนึกถึงว่ามนุษย์ต่างดาวเอานิ้วแหลมคมกรีดลงข้างคอที่เดียวกับที่หมอเอามีดกรีด
จากคุณ : แว่นจัง
เขียนเมื่อ : 20 Oct 12 01:22
|
|
ฟากลาน่าเห็นอีกห้องหนึ่งแยกออกมา เธอเดาว่าห้องนี้น่าจะใช่ห้องที่Bloodyfaceอยู่แน่ๆ เธอค่อยๆเดินเข้าไป
ส่วนหมออาร์เด็นคีบเนื้องอก ที่กลายเป็นคล้ายๆกับไมโครชิปออกจากด้านข้างของลำคอของคิท
หมอตะลึ่งในสิ่งที่เห็น
จากคุณ : แว่นจัง
เขียนเมื่อ : 20 Oct 12 01:24
|
|
จากคุณ : แว่นจัง
เขียนเมื่อ : 20 Oct 12 01:25
|
|
ส่วนลาน่าเปิดช่องส่งอาหารดู
แล้วก็เหมือนมีอะไรทำร้ายเธอและสลบไป
จากคุณ : แว่นจัง
เขียนเมื่อ : 20 Oct 12 01:26
|
|
ตัดมาตอนเช้า ซิสเตอร์จู๊ดเรียกซิสเตอร์ยูนีซมาว่าถึงในห้องทำงาน พร้อมหวดคล้ายๆกับแส้ลงบนโต๊ะเสียงดังควับๆอย่างน่ากลัว
ว่าการกระทำของยูนีซเกือบทำอันตรายให้กับโรงพยาบาลแห่งนี้และเกือบทำลายอนาคตของMonsignor Howardเสียแล้ว
ยูนิซร้องไห้เสียใจเหมือนกับเด็กๆเมื่อถูกซิสเตอร์จู๊ดด่า
ซิสเตอร์จู๊ดผิดหวังที่เชื่อในตัวยูนิซทั้งๆที่ใครๆบอกว่ายูนิซนั้นโง่เง่า แต่ซิสเตอร์กลับเชื่อว่าเธอไม่ได้โง่ แต่การกระทำเมื่อคืนนั้นทำให้ซิสเตอร์เรียกยูนิซว่าโง่เง่ามากๆ
ยูนิซหยิบแส้ของซิสเตอร์จู๊ดเก็บเข้าตู้และเลือกอุปกรณ์ลงโทษใหม่มา
จากคุณ : แว่นจัง
เขียนเมื่อ : 20 Oct 12 01:32
|
|
ซิสเตอร์ยูนิซร่ำไห้ฟูมฟายถลกกระโปรงโชว์ก้นขาวๆ(ที่แคปมาได้แค่นั้น) ให้ซิสเตอร์จู๊ดตีก้นลงโทษแบบเด็กเล็กๆ
ซิสเตอร์จู๊ดได้แต่สมเพช เธอปิดกระโปรงเครื่องแบบแม่ชีของยูนิศแล้วตีไปแค่ทีเดียวเท่านั้น ในขณะที่ยูนิซเอาหัวโขกโต๊ะ พร่ำร้องแต่คำว่า โง่ๆๆๆๆๆ
สุดท้ายซิสเตอร์จู๊ดสั่งให้ยูนิซหยุดพูดคำว่าโง่ และไม่ให้ยูนิซเรียกตัวเองว่าโง่อีกเด็ดขาด และไล่เด็กสาวออกไปจากห้อง
ซิสเตอร์จึงได้เอาหน้าซบกับตู้ด้วยความเคร่งเครียด
จากคุณ : แว่นจัง
เขียนเมื่อ : 20 Oct 12 01:35
|
|
และซิสเตอร์ก็เป็นอีป้ามหาภัยต่อ
เธอบอกลาน่าว่าตอนนี้อยู่ที่โรงพยาบาล ลาน่าบอกว่าถูกทำร้าย แต่อีป้าบอกว่า"แม่นักเขียนจินตนาการสูงส่ง เธอก็แค่สะดุดล้มเท่านั้นละ"
แล้วคัดไปยังบ้านของเวนดี้และลาน่า
เมื่ออีป้ามหาภัยมาหาเวนดี้ถึงบ้านที่เป็นรังรักของเวนดี้และลาน่า
เธอไล่ต้อนว่าตกลงเวนดี้และลาน่ามีความสัมพันธ์แบบใดกันแน่
เวนดี้บอกพ่อแม่ของลาน่าไม่ได้พูดกับลาน่ามานานแล้ว เธอจึงเป็นพี่น้องที่สนิทที่สุดของลาน่า "แต่คุณไม่ใช่สายเลือดเดียวกันแล้วจะเป็นพี่น้องได้ยังไง"
เวนดี้ตอบว่า "พี่น้องทางศีลธรรมไงค่ะ"
อีป้าทำเสียงเยาะเย้ย "ศีลธรรมยังงั้นหรอ" แล้วหยิบรูปที่ลาน่าถ่ายกับลุกศิษย์ชั้นป 3มาดู
จากคุณ : แว่นจัง
เขียนเมื่อ : 20 Oct 12 01:39 แก้ไขเมื่อ : 20 Oct 12 01:45
|
|
อีป้ามหาภัยพยายามให้เวนดี้เซ็นยินยอมให้โรงพยาบาลรักษาลาน่าได้
เวนดี้ไม่ยอมบอกทำเช่นกับลาน่า "งั้นคุณก็ไม่ทราบสินะว่า คุณวินเทอส์มีพฤติกรรมรักร่วมเพศ"
เวนดี้เริ่มโมโหที่อีป้าเริ่มพูดจาไม่ดี "ที่นี่เป็นเมืองเล็กๆ ข่าวลืมยิ่งกระพือไปได้ไวด้วย คุณคงไม่อยากจะให้เด็กๆเรียนรู้พฤติกรรมแบบผิดศีลธรรม แล้วยิ่งถ้ามีคนรู้เรื่องนี้คุณคงไม่ได้กลับไปเหยียบที่ชั้นเรียนไหนๆอีกตลอดชีวิต"
เวนดี้ห่วงอนาคตตัวเอง และถามว่าจะเซ็นได้ไงเมื่อเธอไม่ใช่ญาติทางสายเลือด
อีป้าบอกว่าทำได้เพราะเวนดี้เป็นครูที่มีคนนับหน้าถือตาในชุมชนนี้
และอีป้าก็ได้ดูแล กักขัง ลาน่าไปตลอดกาลอีกราย
จากคุณ : แว่นจัง
เขียนเมื่อ : 20 Oct 12 01:51 แก้ไขเมื่อ : 20 Oct 12 01:54
|
|
เสียงของลาน่าร้องโวยวายว่าเธอจะไม่อยู่ที่นี่ ต้องมีคนมาตามหาเธอ
เมื่ออีป้าแม่ชีมหาภัยโชว์ใบยินยอมที่มีลายเซ็นของเวนดี้ให้ลาน่าดูด้วยท่าทีแบบผู้มีชัย
ลาน่าถึงกับกรีดร้องอย่างเสียสติ
อีป้าย้ำว่าไม่ต้องรีบร้อน พฤติกรรมของลาน่าจะได้รับการแก้ไข ส่วนตอนเช้าจะต้องตื่นมาตอนเช้าตอนหกโมงตรง
ลาน่าจึงทำได้เพียงแต่ตะโกนด่า "ปล่อยกรูวไปนะ อีแก่นังเหี่ยวววววววววววววววววววววววววววววววววววว"
หลังจากนั้นซฺสเตอร์ยูนิซก็เอากุญแจพวกใหญ่มาให้ ซึ่งเธอไปแอบหยิบมาจากห้องของหมออาร์เดนนั้นเอง
จากคุณ : แว่นจัง
เขียนเมื่อ : 20 Oct 12 01:57
|
|
ระหว่างที่เธอเดินผ่านห้องหนึ่ง ซิสเตอร์จู๊ดได้กลิ่นเหม็นชวนอ้วก เมื่อเปิดเข้าไปกลับเป็นหมออาร์เดนที่ใช้น้ำยาฆ่าเชื้อทำความสะอาดห้องอยู่
"ห้องนี้ปิดตายมาหลายปี ผมอยากได้ห้องเก็บอุปกรณ์ของผมเพิ่ม เลยมาทำความสะอาด หวังว่าคุณแม่ชีจะไม่ว่าอะไร"
"ไม่ว่าคุณจะทำอะไร ฉันจะหาให้เจอจนได้ว่าคุณทำอะไรกับคนไข้เหล่านั้นกันแน่"
"ตัวเฟอร์เร็ตนะหรอ" หมอตอบ "ผมก็เคยเลี้ยงตอนเด็ก"
ตอนนี้เป็นการเล่นคำ ferret out แปลว่าค้นหา กับคำว่าferret สัตว์ชนิดนหนึ่ง
จากคุณ : แว่นจัง
เขียนเมื่อ : 20 Oct 12 02:03
|
|
ห้องนี้มีรอยเหมือนรอยเล็บขูดขีดเต็มไปหมด
จากคุณ : แว่นจัง
เขียนเมื่อ : 20 Oct 12 02:03
|
|
"ผมเลี้ยงมัน จนวันหนึ่งมันกัดมือผม ผมเลยหักคอมันซะ"
"ผมก็รู้นะว่าคุณทำอะไรกับคนไข้ แล้วช่วยคืนกุญแจของผมมาด้วย"
อีป้ามหาภัยเลยให้กุญแจไปอย่างเลี่ยงไม่ได้
"รู้ไว้ด้วยนะหมออาร์เดนถึงแม้คุณจะบอกว่าหัวใจฉันจะปิดตาย แต่ตาฉันเปิดกว้างตลอดเวลา"
แล้วอีลุงหมอโรคจิตก็เดินแกว่งกุญแจพร้อมยิ้มอย่างผู้มีชัยในนัดนี้
จากคุณ : แว่นจัง
เขียนเมื่อ : 20 Oct 12 02:08 แก้ไขเมื่อ : 20 Oct 12 02:12
|
|
ตัดกลับมาปัจจุบัน
เทรีซ่าวิ่งมาทางอุโมงจนเจอกับร่างร่างหนึ่ง และแสงก็สาดส่องมาที่ใบหน้าดังกล่าว ในมือถืออาวุธเดินตรงมาหาเทรีซ่า
เธอจึงหวีดร้อง
จากคุณ : แว่นจัง
เขียนเมื่อ : 20 Oct 12 02:10 แก้ไขเมื่อ : 20 Oct 12 02:13
|
|
จากคุณ : แว่นจัง
เขียนเมื่อ : 20 Oct 12 02:14
|
|
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด อย่าจบแบนี้นะเว้ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย
จบแล้วจ๊ะ
ดมยาดม -..-
จากคุณ : แว่นจัง
เขียนเมื่อ : 20 Oct 12 02:15
|
|
จากคุณ : pangjang
เขียนเมื่อ : 20 Oct 12 02:24
|
|
สรุปจากที่ดูคือ
เฮ้ยยยยยยยยยยยมีมนุษย์ต่างดาวด้วยนี่มันThe X-Files ชัดๆ
ศัพท์เยอะพอควร กัดกันด้วยชั้นเชิงการใช้ภาษา การเล่นคำ ความนัย ตลอด
ตอนแรกนึกว่าคิทจะโดนใส่ร้ายไปๆมาๆนั่งคิด ในเรื่องมีมุมมองของคิท กับคนทั่วไปที่บอกว่าคิทเป็นฆาตกร ซึ่งเชื่อไม่ได้ทั้งสองอย่าง หรือจะมีหักมุม
เดี๋ยวต้องมีคนถามว่าโรงพยาบาลในฉากมีอยู่จริงหรือเปล่า ไปถ่ายที่ไหน ลองหาดูแล้วน่าจะเป็นฉากที่เซ็ทขึ้นมาในแคลิฟอร์เนีย (แต่เนื้อเรื่องเกิดแถวๆแมสซาซูเซ็ส)
แล้วมีเรื่องแบบนี้จริงๆเปล่าที่โรงพยาบาลปิดไปแล้วแต่มีคนไข้ยังอยู่
มีแต่เรื่องเล่าแต่ไม่มีคนพิสูจน์ได้ว่าจริงหรือเปล่า มันมีอยู่หลายโรงพยาบาลพอปิดตัวก็มีการย้ายคนไข้ ก็มีบ้างว่าคนไข้หนีไปได้ แล้ววันดีคืนดีก็กลับมาที่ๆคุ้นเคย
แล้วสมัยก่อนขังกันทุกโรคจริงๆ เพราะถ้าการเป็นคนรักร่วมเพศก็เชื่อว่าป่วยทางจิต วัณโรค ปัญญาอ่อน ก็ถูกจับส่งมาหมด
http://www.horrorclub.net/ForumDetails.aspx?ForumID=1839 ลองอ่านดู
ส่วนDeath Chute มาจากBody Chute หรือ Death Tunnel ของโรงพยาบาลWaverly Hills
http://www.horrorclub.net/ForumDetails.aspx?ForumID=1058
เมื่อก่อนโรงพยาบาลที่เคยรักษาวัณโรคซึ่งคนป่วยเยอะตอนหลังมาเป็นโรงพยาบาลจิตเวชก็เยอะ
ตัวละครแต่ละตัวในซีซั่นนี้มีด้านมืดกันหมดทุกคน ดังนั้น จึงไม่ใช่ซีรียส์ผี แต่มันทำให้เรากลัวด้านมืดในตัวคน สิ่งที่เราคิดว่าต่างแล้วจับยัดโรงพยาบาลก็หวังว่าจะหาย ซึ่งมันก็ไม่ใช่แม้แต่อิป้ามหาภัยเป็นถึงซิสเตอร์ แต่ก็ยังมีตัณหา ราคะแบบคนทั่วไป นางซาดิสเฆี่ยนตีคนไข้ ขู่คนได้ เพื่อทำตามความเชื่อของตัวเองที่คิดว่าถูกต้อง แต่ป้าคงมีอะไรบ้างอย่างที่ทำให้ซาดิสได้ขนาดนี้
เช่นเดียวกับยูนิซที่ทำอะไรเหมือนเด็กตลอด รวมถึงพฤติกรรมลงโทษตัวเอง แบบแปลกๆจนสงสัยว่าเกิดจากอะไร
แล้วไอ้หน้าเละในปัจจุบันใช่คิทหรือเปล่า
ไอ้ตัวประหลาดมันของจริงใช่ไหม ประหลาดขนาดนี้แล้วจะมีอะไรโผล่มาอีก อันนี้ตอบได้เลยว่าไม่รู้
น่าติดตามว่าผู้กำกับจะงัดมุขไหนมาใช้
และบทของอดัมจะโผล่มาแค่นี้หรอ โผล่มาของเกือบตายแล้ว
คาดว่าอดัมต้องทรมานจนเกือบจบซีซั่นนั้นแหละ ไม่แน่นะ อาจจะรอดก็ได้(มั๊ง)
จากคุณ : แว่นจัง
เขียนเมื่อ : 20 Oct 12 02:43
|
|
จากคุณ : nespay
เขียนเมื่อ : 20 Oct 12 08:09
|
|
จากคุณ : แว่นจัง
เขียนเมื่อ : 20 Oct 12 09:38
|
|
"การฉายหนังแบบแห้งแบบนี้" ผมว่ามันอร่อยดีออก
เป็นกำลังใจ ขอบคุณครับ
จากคุณ : semakutay
เขียนเมื่อ : 20 Oct 12 10:50
|
|
สงสารลาน่าจัง
อิป้าซิสเตอร์โหดหน้าเหี่ยวน่ากลัวอ่ะ
รอชมตอนต่อไปเน้อ
จากคุณ : nikkishi
เขียนเมื่อ : 20 Oct 12 16:47 แก้ไขเมื่อ : 20 Oct 12 19:27
|
|
ยังหาดูไม่ได้เลย ขอบคุณที่เอามาให้ดู :)
จากคุณ : คนขายหนังโป๊
เขียนเมื่อ : 20 Oct 12 16:54
|
|
ชอบไอ้ชิปแมงมุมมาก ... อยากรู้ตกลงมันคืออะไร !!
จากคุณ : nana_idol
เขียนเมื่อ : 20 Oct 12 19:42
|
|
มันส์มาก อิป้าหน้าคุ้นๆ นางตามมาจากภาคแรกรึเปล่า
จากคุณ : chonchonz
เขียนเมื่อ : 21 Oct 12 21:10
|
|
ขอถามหน่อยคะว่าซีซั่นแรกของ American Horror Story นี่สนุกมั้ยคะ เผื่อจะไปตามซื้อเก็บมาดูย้อนหลังคะ
จากคุณ : obbie
เขียนเมื่อ : 21 Oct 12 22:51
|
|
@chonchoonz นางมาจากภาคแรก นักแสดงมาจากภาคแรกพอสมควร แต่ไม่ใช่ภาคอดีตชาติแต่อย่างใด
@obbie ส่วนตัวเราว่าโอเคนะ ไม่ใช่ผีตุ้งแช่ ถ้าหวังว่าจะดูเอาอารมณ์กลัวคงไม่ขนาดนั้น
ข่าวคืบหน้า แปลในthaisub เกือบเสร็จแล้ว
แปลเองไปอีก60%เครดิตของhorrorclub
จากคุณ : แว่นจัง
เขียนเมื่อ : 22 Oct 12 02:31
|
|
จากคุณ : แว่นจัง
เขียนเมื่อ : 22 Oct 12 16:47
|
|
จากคุณ : jzyjjx
เขียนเมื่อ : 22 Oct 12 19:11
|
|
อะโฮกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก
ขอบคุณมากค่ะ
จากคุณ : Poiily
เขียนเมื่อ : 23 Oct 12 23:25
|
|
ขอบคุณมากครับ
รอติดตามตอนต่อไป.....
จากคุณ : highloop
เขียนเมื่อ : 25 Oct 12 13:18
|
|
สนุกจัง รอตอนต่อไปจ้า ^^ คิดถึงการฉายหนังแห้งแบบนี้มากๆๆ
จากคุณ : ekolai
เขียนเมื่อ : 26 Oct 12 20:27
|
|
เพิ่งดูตอนสองจบไปเมื่อคืนนี้เองค่ะ ติดงอมแงมกับ Series นี้มากๆ คาดว่า Season 2 นี้ คงจะมันส์ำไม่แพ้ Season แรกค่ะ
จากคุณ : Rasputin
เขียนเมื่อ : 1 Nov 12 06:46
|
|
จากคุณ : kɛ.vɪ.n kæn
เขียนเมื่อ : 26 May 13 11:42
|
|