เหมือนผมเลย ผมดูแนวนี้มาตั้งแต่เด็กเพราะพ่อผมดูตลอด อะไรเอ่ยมันอยู่ในตะกร้า, freddy, แดนสนธยา

มันมีผลถึงปัจจุบันคือ ภูมิต้านทานความโหดสูงมากครับ 5555

ทรอมา.......บาดเเผลทางจิตใจ

ปล. ถ้าคิดว่าไม่ไหวจริงๆควรงดดูครับ เพราะอาจจะเกิด ทรอมา ได้.....บางคนดูเพื่อเพิ่มภูมิคุ้มกัน(อันนั้นก็ว่ากันไป อิอิ) ถ้าไม่ไหวจริงๆหรือดูเเล้วรู้สึกปวดที่หัวใจ(เเบบเเปร๊บๆ)ให้เลิกดูในทันทีนะครับ ภูมิคุ้มกันของเเต่ละคนไม่เท่ากันครับผม

555
จะทัมให้เป็นโรคจิตป่ะนี่ !

ภาควิเคราะห์ : พฤติกรรมที่ตามมาในกลุ่มผู้ชมหนังแนวนอกกระแส (Snuff film ) และแนวทางการป้องกัน

คงจะปฏิเสธไม่ได้ว่าในโลกปัจจุบันด้วยเทคโนโลยีอันทรงพลังและทันสมัยทำให้การเข้าถึงข้อมูลข่าวสารหลายๆอย่างไม่ได้เป็นเรื่องยากอีกต่อไปเหมือนเฉกเช่นในอดีต กลายเป็นโลกไร้พรมแดนสะดวกสบายเพียงปลายนิ้วสัมผัสข้อมูลข่าวสารก็มาปรากฏอยู่ตรงเบื้องหน้า เทคโนโลยีถ้ารู้จักใช้ให้ดีก็เป็นคุณหากประมาทอาจเป็นโทษมหันต์โดยไม่รู้ตัว อย่างหนังแนวนอกกระแสกลุ่ม Snuff film ซึ่งถูกจัดว่าเป็นหนังหายากในครั้งอดีต ปัจจุบันหากท่านมีความรู้ทางด้านคอมพิวเตอร์เสียหน่อย ท่องไปในโลก Internet เป็น ท่านอาจสามารถเสาะแสวงหา Snuff film ในแบบ Fake Snuff film มาชมได้ไม่ยาก ของพวกนี้มีทั้งคุณและโทษ ด้านคุณอาจจะกล่าวได้ว่าท่านอาจจะได้มุมมองใหม่ๆในโลกที่คุณไม่เคยรู้จักมาก่อน ได้ชมหนังแปลกๆ หนังหายาก บ้างก็ว่าชมหนังแนว Fake Snuff film เพื่อการปลดปล่อยทางจิตเหมือนประหนึ่งการเล่นวีดีโอเกม

แต่การผ่อนคลายอาจกลายเป็นโทษได้หากผู้รับชมหนังแนวดังกล่าวไร้ซึ่งวิจารณญาณที่ถ่องแท้ อาจจะด้วยวัยวุฒิที่ยังไม่สมควรก็เป็นอีกประการหนึ่ง เพราะฉะนั้นผู้ชมจึงต้องตระหนักให้ดีว่าหนังเรื่องไหนเราสมควรหามาชมได้หรือยัง ในการดูหนังเพื่อผ่อนคลายนี่ท่านทราบหรือไม่ว่าขณะดูหนังที่ตื่นเต้นมากๆ(โดยเฉพาะหนังแนวเขย่าขวัญ)สมองจะหลั่งสารตัวหนึ่งออกมาซึ่งเราเรียกมันว่า “ฮอร์โมน Dopamine” สารตัวดังกล่าวนี้เองยิ่งหนังที่เรารับชมเป็นที่สนใจของเรามากเท่าไหร่ สมองก็จะสั่งให้ฮอร์โมน Dopamine หลั่งออกมามากเท่านั้น ฮอร์โมน Dopamine นี้หากออกมาในปริมาณที่พอเหมาะในเวลาที่พอดีจะทำให้เกิดความสุขความเพลิดเพลินใจ ยกตัวอย่างเช่นหากท่านได้รับชมหนังที่ท่านชอบมากๆในเวลาระหว่าง 1.30 - 2 ชั่วโมงท่านจะรู้สึกมีความสุข แต่หากท่านดูหนังนานเกินกว่า 2 ชั่วโมงเมื่อไหร่ Dopamine จะถูกบังคับให้หลั่งออกมามากกว่าปกติ กลายเป็นความสุขที่ล้า หมกมุ่น และเสพติดได้ในที่สุดซึ่งอาจเป็นอันตรายแก่ผู้ที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะได้ (ข้อมูลอ้างอิงเรื่องฮอร์โมน Dopamine โดย รศ. วิทยากร เชียงกูล หนังสือเรื่องจิตวิทยาวัยรุ่น ก้าวข้ามปัญหาและพัฒนาศักยภาพด้านบวก)

ดูหนังแนวนอกกระแสจำพวก Snuff film (Fake Snuff film) แล้วทำให้เกิดพฤติกรรมก้าวร้าวรุนแรงรึเปล่า? คำตอบคือก็มีโอกาสเป็นไปได้ในระดับหนึ่งหากผู้รับชมไร้ซึ่งวิจารณญาณหรือวัยวุฒิไม่ถึงเกณฑ์กำหนด(อายุผู้ชมควรจะ 20+) กล่าวกันว่าความก้าวร้าวรุนแรงเป็นกลไกทางจิตที่ส่งผ่านมาในรูปของพฤติกรรมทำลายก่อเกิดอยู่ภายในจิตใจ ถ้าเป็นสัตว์ก็จะเป็นสัญชาตญาณการเอาตัวรอด แต่ถ้าเป็นคน ความก้าวร้าวกลายเป็นอาวุธทำลายและทำร้ายบุคคลที่ไม่พอใจยิ่งประสบการณ์สูงมากเท่าไหร่ ความก้าวร้าวยิ่งรุนแรง (ข้อมูลอ้างอิงเรื่องความก้าวร้าวรุนแรง โดย ดร.กุลยา ตันติผลาชีวะ หนังสือเรื่องทำไมเด็กก้าวร้าวรุนแรง)

เพราะฉะนั้นผู้ที่ต้องการหรือกำลังคิดจะหาหนังแนวดังกล่าวข้างต้นนี้มารับชม ต้องทำความเข้าใจให้สามารถแบ่งโลกแห่งหนัง และโลกแห่งความเป็นจริงออกด้วยว่า “หนังก็คือหนัง” รับชมเพื่อความบันเทิง รับชมหนังสยองขวัญเพื่อความตื่นเต้นหรือรสชาติแปลกใหม่ในชีวิตเพียงเท่านั้น หากท่านรับชมหนังแล้วแยกแยะไม่ออกว่าอะไรคือเรื่องจริงอะไรคือมายา นั่นหมายความว่าท่านอาจจะกำลังลุ่มหลง เสพติดความรุนแรงไปโดยไม่รู้ตัว ความรุนแรงที่ไม่รู้ตัวนี่แหล่ะอันตรายของแท้ เพราะความรุนแรงที่รับเข้าไปทุกวันจากการเสพติดจะไปเก็บรวมอยู่ที่สมองส่วนหนึ่งอันเรียกว่า Reptile Brain หรือสมองส่วนหยาบ บ้างก็เรียกว่าสมองสัตว์ ยิ่งเก็บเข้าไปมากโดยไม่รู้ตัวยิ่งอันตราย เพราะฉะนั้นผู้ชม Fake Snuff film ทุกท่านจึงควรใช้วิจารณญาณขั้นสูงในการรับชม และที่สำคัญควรเก็บให้พ้นมือเด็กเก็บให้เหมือนกับหนังบางประเภทที่คุณผู้ชาย-คุณผู้หญิงดูก่อนนอนแบบ 6 เดือนเอามาดูซ้ำไปซ้ำมาก็ไม่เบื่อ นั่นแหล่ะครับเก็บให้พ้นมือเด็ก

สุดท้ายกับคำถามที่ใครหลายๆคนชอบส่ง E-mail มาถามผม “คิดยังไงกับหนังสยองขวัญแนวนอกกระแส Snuff film” ผมมองว่ามันเป็นความแปลกใหม่ในโลกนะ เป็นประหนึ่งโลกที่ถูกปิดกั้น เหมือนดินแดนที่แสงอาทิตย์สาดส่องไปไม่ถึง ดินแดนเหล่านี้มันมีมนต์เสน่ห์แบบบอกไม่ถูก เหมือนมันกำลังรอให้เราเดินทางไปค้นหาเหมือนกับที่คริสโตเฟอร์ โคลัมบัส ค้นพบทวีปอเมริกายังไงยังงั้นเลย หนังพวกนี้เล่นกับความอยากรู้อยากเห็นของมนุษย์ ยิ่งห้ามเหมือนยิ่งยุ ให้เปิดเข้าไปดูว่าข้างในมันมีอะไรแอบซ่อนอยู่บ้าง ที่กล่าวมานี่หมายถึง Snuff film ในแบบ Fake Snuff film นะส่วน Snuff film ในแบบ Real Snuff film ยังไงก็ไม่ขอสนับสนุนให้หามาดูกันมันหดหู่เกินกว่าจะรับได้


ที่มาของข้อมูล http://www.siamsouth.com/smf/index.php?board=11.0

....แบบนี้จะเป็นอะไรมั้ยครับ จะมีผลตอนโตปะครับ 5555+
^

^

เอ่อ แล้วตอนนี้ จขกท รู้สึกยังไงล่ะครับ

อายุเท่าไหร่แล้วเนี่ยครับ?

ตอนเด็กๆใครดูหนังน่ากลัว ก็ต้องกลัวเป็นธรรมดาค่ะ
แต่พอตอนโตขึ้นมาก็จะคิดได้ว่ามันไม่ใช่ความจริงบางคนอาจจะเลิกกลัว

เพราะฉะนั้น เวลากลัวต้องบอกตัวเอง เตือนตัวเองเสมอว่ามันไม่ใช่ความจริง

สมัยนู๊นนนนนน..... ย้อนไปนาน
ดูหนังเรื่องผี กลัวมากกกกกกก เดี๋ยวนี้กลับไปดูอีกที นั่งหัวเราะเฉยเลยขำว่าตัวเองกลัวไปได้ยังไง Snuff film (Fake)ก็เคยดูบ้างแต่ก็แยกแยะได้ รู้สึกว่าการดูหนังสยองมันทำให้มีสตินะคะ มีจิตใจมั่นคง และทำให้เป็นผู้ใหญ่มากขึ้น(มั๊ง) แต่ถ้าคนกลัวจริงๆก็หลีกเลี่ยงเถอะค่ะ

หนังโหดทำไรผมไม่ได้เลยนะ ตั้งแต่เด็กๆแล้ว มีแต่สนุก ลุ้น สะใจ 555

แต่หนังผีเนี่ยดิ มีผีนิ้ดดดเดียวผมก็นอนไม่ได้ไปทั้งคืนแล้ว T T

รู้สึกว่าจขกท.ก็โตมาได้แล้วนี่คะ 5555 แสดงว่ายังดีอยู่

เราตอนเด็กๆ กลัวผี กลัวความมืด กลัวหนังโหดมากกกกกกก

แต่โตมากลับชอบ ไม่รู้ทำไม

ไม่ต้องกลัวครับ ผมคิดว่าไม่มีสื่อตัวไหน ไม่ว่าจะเป็น หนังสือ ภาพยนตร์ วิทยุ โทรทัศน์ ทำให้คนสามารถเปลี่ยนแปลงจิตใจหรือมีผลกนะทบต่อด้านจิตใจขั้นรุนแรงถึงขั้นเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมกลายเป็นอีกคนหนึ่งได้ครับ ลองนึกดูง่ายๆครับถ้าเราเปรียบการดูหนังเป็นการรับประสบการณ์ซํ้าซากทำให้ชินชาต่อความรุนแรงและโหดร้ายแล้วทำให้คนกลายเป็นอย่างในหนังได้ อันนี้ก็ลองมาเทียบกับสิ่งที่ใหญ่กว่าดู เช่น วัฒนธรรม คือการกระทำในสิ่งเดิมๆเป็นเวลานานจนได้รับความยอมรับในคนหมู่มากและปฎิบัติสืบต่อกันมาเป็นเวลานานและยอมรับว่าสิ่งนั้นถูกต้อง แต่จะถูกต้องจริงๆหรือไม่นั้นอันนี้ไม่รู้เพราะพวกเราเองก็ยังไม่ยอมรับบางวัฒนธรรม และในวัฒนธรรมของเราเองก็ยังไม่คนที่ไม่เห็นด้วยและไม่ปฎิบัติตามทั้งที่ถูกเลี้ยงดูจากวัฒธรรมนั้นๆตั้งแต่เด็ก แล้วนับอะไรกับหนังเพียงไม่กี่เรื่องจะทำอะไรให้เกิดขึ้นได้ครับ ในเมื่อสิ่งที่ใหญ่กว่ามันหลายเท่าตัวยังทำไม่สมบูรณ์ สื่อไม่ว่าจะเป็นตัวไหน หนังสือ ภาพยนตร์ วิทยุ โทรทัศน์ ทำได้เพียงสร้างความเข้าใจผิดด้านข้อมูลข่าวสารเพียงเท่านั้น อย่าลืมครับว่า หนังสือ ภาพยนตร์ วิทยุ โทรทัศน์ คือส่วนหนังขององค์ประกอบทางวัฒนธรรม ในเมื่อตัวแม่มันยังทำอะไรไม่ได้นับอะไรกับองค์ประกอบเพียงเล็กน้อย

#10

เห็นด้วย ...

เราคิดว่าแล้วแต่รสนิยมส่วนบุคคลนะคะ
โดยส่วนตัวถ้าให้พูดกันตรงๆเราชอบทำ"เรื่องอย่างว่า"แบบรุนแรง(และรุนแรง"มาก")จริงๆแบบที่เขียนเป็นตัวหนังสือแล้วกลัวจะโดนยี้ใส่ (แต่ไม่มีสกปรก สิ่งปฎิกูล)
เราดูกระทู้่ฉายหนังเราไม่รู้สึกอะไรเลยค่ะ แค่ดูแล้วก็รู้สึกแปลกใหม่ดี เหมือนดูหนังธรรมดา(แ่ต่ไม่ได้อยากปฎิบัติตามแต่อย่างใด) ไม่น่าเบื่อ เพราะรู้ว่ามันคือการแสดง (แต่มีอยู่ช่วงนึงด้วยความอยากรู้อยากเห็น ค้นหาของจริงของนอกมาดูค้นแล้วค้นอีกจ่ายเงินแล้วจ่ายเงินอีกตามเว็บบนดินบ้างใต้ดินบ้างทอร์เรนท์บ้าง ไฟล์เก่าๆจากเว็บที่เลิกไปแล้วบ้าง ก็ทำเอาจิตเสื่อมไปนิดๆเหมือนกัน เพราะรู้ว่ามันคือของจริง โดยเฉพาะพวกอิรักอิหร่านเนี่ย ภาพไม่เท่าไหร่ แต่เสียงเนี่ย พอเป็นของจริงนี่มันสุดๆเลยรับไม่ได้ ยิ่งไฟล์วีดีโอคดีคันนิบาลเกย์ชาวเยอรมันเนี่ยสุดๆ รบกวนจิตใจมาก หลอนมากแต่ก็ทนดู ไม่รู้เพราะอะไร และไม่กล้าดูซ้ำแล้ว)

แต่ที่เราค้นพบคือ ยิ่งดูยิ่งจิตใจแข็งค่ะ คือหลังๆคุณจะเริ่มชาชิน แต่เราพูดไม่ได้ว่าเป็นเรื่องดีรึเปล่า แต่โดยส่วนตัวเราคิดว่าไม่ใช่เรื่องดีเพราะเราคิดว่ามันไม่ปกติ แต่เราก็ไม่ได้รู้สึกว่ามันผิดอะไร เพราะไม่ได้ทำร้ายใคร

ความเห็นเรา ย้อนกลับไปอ่าน ดูโรคจิตพอตัว สงสัยต้องมานั่งย้อนดูตัวเองมากๆแล้ว ว่าสมควรหยุดหรือยัง แต่ไม่เคยคิดทำร้ายใครแน่นอน เพราะไม่เห็นว่ามันน่าสนุกตรงไหนเลย

เหมือนกันเลย ตอนเด็ก ๆ พ่อชอบเอาหนังมาดู เราลงมาเข้าห้องน้ำตอนกลางคืน แล้วก็แอบดูอยู่ตรงขั้นบรรไดอ่ะพอขึ้นห้องนอนไม่หลับ เช้ามาเป็นไข้เลย ภาพมันติดตา แต่ตอนเน่ี่ย สบาย บรีอ ๆ หาดูเองแบบเต็ม ๆ ตา

มันทำให้เรามีภูมิคุ้มกันขึ้นจริงค่ะแต่มันจะให้ผลเสียมาพร้อมกัน
แต่ถ้าเราอ่านนิยายที่อธิบายมาอย่างละเอียดมันจะหน้ากลัวกว่าแต่จะทำให้มีภูมิคุ้มกันดีกว่ากนังสยองขวัญทั่วไปคะ
ลองมากับตัวและสำรวจกับคนอื่นๆแล้วค่า