ดูมาแล้ว "PIRANHA 3D" ปลา เลือด นม! ปลา เลือด นม! [นมเด่นกว่าปลาซะอีก]
by demonbug • วันศุกร์ที่ 27 สิงหาคม พ.ศ. 2553 20:34
ไปดูมาแล้ว เมื่อวานนี้ ดูแบบ 140 บาท ไม่มีสามมิติ
(ข้าพเจ้าว่า ดูแบบไม่มีสามมิติ ยังรู้สึกสนุกกว่าอีกนะ)
แบบว่า ชอบมากกกก สนุกมากกก สะใจมากกก และ โป๊มากกกก
สิ่งที่มหัศจรรย์ที่สุด ไม่ใช่ฉาก 3D
แต่เป็นการที่หนังเรื่องได้ฉายในไทย โดยไม่มีการเซนเซอร์ หรือ ตัดออกเลย
ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้ หนังเรื่อง My Bloody Valentine 3D ตัดฉากโป๊ทิ้งไปทั้งซีน
แบบว่า โป๊กันสนุกไปเลย โป๊หมดทั้งตัว โป๊กันทั้งเรื่อง
จนต้องอุทานขึ้นมาในใจว่า "จะโป๊กันไปถึงไหนเพ่!!"
ถ้าพูดเรื่องความโหด ก็ต้องบอกว่าโหดมากกกกกกกก
จนมั่นใจว่า อีหนังเรื่องนี้ต้องมี "แผนกคิดค้นวิธีการตาย" แน่นอน
เพราะถ้าแค่ให้ปลากัดคนอย่างเดียว คนเห็นแล้วก็อาจรู้สึกเบื่อได้
ก็เลยทำให้ปลาพวกนี้ สามารถทำคนตายได้อย่างหลากหลายวิธี!?
กลายเป็น Final Destination เวอร์ชั่นปลา!
ถ้าเทียบกับเวอร์ชั่นเก่า ต้นฉบับ ที่สร้างเมื่อปี 1978
ก็ต้องบอกว่า สิ่งที่แตกต่างกันมากที่สุดคือ เนื้อเรื่อง
ขณะที่เวอร์ชั่นปี 1978 จะมีเนื้อเรื่องที่เยอะมาก
มีเรื่องการทดลองของรัฐบาล การพยายามปกปิดหลักฐาน
การตามล่าพระเอกนางเอกโดยหน่วยงานรัฐ การช่วยผู้คน
มีเรื่องพ่อลูก เรื่องเจ้าของรีสอร์ท เรื่องพวกเด็กเข้าแคมป์
แต่เวอร์ชั่นปี 2010 แทบจะทิ้งเนื้อเรื่องไปเลยจ้า!!!
เวอร์ชั่น 2010 แทบไม่มีเนื้อเรื่องเลย เน้นเอามันส์สะใจลูกเดียว
โชว์ฉากการตาย ฉากการฆ่า ฉากโป๊ ฉากเสียวสยองกันลูกเดียว
เกิดแผ่นดินไหว ปิรันย่าโบราณหลุดออกมา ที่เหลือก็คือกินๆๆๆลูกเดียว
ไม่ต้องเสียเวลาเล่าเรื่องหน่วยงานรัฐ ไม่ต้องมีประเด็นลึกๆอะไรมากมาย
ไม่ต้องนั่งคุยกันยืดเยื้อ ไม่ต้องมีคนมานั่งถกเถียงว่า เชื่อไม่เชื่อเรื่องปลา
แค่สร้างตัวละครหนุ่มสาวลามกๆขึ้นมาสักพันคน แล้วก็หาวิธีฆ่าพวกนี้ซะ!
ซึ่งผู้กำกับคิดถูกมากๆ ที่เลือกสร้างหนังให้ออกมาแบบนี้ (ฉลาดจริงๆนะ)
เพราะไม่ซ้ำใครดี หนีจากขนบธรรมเนียมของหนังแนวสัตว์กินคนเรื่องอื่นๆ
มั่นใจได้เลยว่า บทหนังเรื่องนี้ "บางมากๆ" แน่นอน
เพราะเมื่อนับๆดูแล้ว มันมีอยู่ไม่กี่ซีน ไม่กี่ฉากเองนะ
เหตุการณ์ไม่เยอะ เพราะเรื่องเกิดขึ้นภายใน 1 วันครึ่ง
ไปดูเหอะ สนุกจริงๆนะ ไม่ได้ล้อเล่น (ดูแบบ 140 ไม่มีสามมิติก็ได้)
ปล. เห็นผู้ใหญ่พาลูกหลาน น่าจะประมาณ ป.2 - ป.4 มาดูหลายคนเลย
เห็นแล้วก็รู้สึกเศร้ามาก แกคงนึกว่าเป็นหนังสัตว์ประหลาดแบบก๊อตซิลล่า
ปล. ในคห.ที่1 ข้าพเจ้าจะพูดถึงตอนจบของหนังเรื่องนี้
ใครที่ยังไม่ได้ดู ให้ข้ามคห.ที่1 ไปได้เลย (เตือนไว้ก่อน)
(ข้าพเจ้าว่า ดูแบบไม่มีสามมิติ ยังรู้สึกสนุกกว่าอีกนะ)
แบบว่า ชอบมากกกก สนุกมากกก สะใจมากกก และ โป๊มากกกก
สิ่งที่มหัศจรรย์ที่สุด ไม่ใช่ฉาก 3D
แต่เป็นการที่หนังเรื่องได้ฉายในไทย โดยไม่มีการเซนเซอร์ หรือ ตัดออกเลย
ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้ หนังเรื่อง My Bloody Valentine 3D ตัดฉากโป๊ทิ้งไปทั้งซีน
แบบว่า โป๊กันสนุกไปเลย โป๊หมดทั้งตัว โป๊กันทั้งเรื่อง
จนต้องอุทานขึ้นมาในใจว่า "จะโป๊กันไปถึงไหนเพ่!!"
ถ้าพูดเรื่องความโหด ก็ต้องบอกว่าโหดมากกกกกกกก
จนมั่นใจว่า อีหนังเรื่องนี้ต้องมี "แผนกคิดค้นวิธีการตาย" แน่นอน
เพราะถ้าแค่ให้ปลากัดคนอย่างเดียว คนเห็นแล้วก็อาจรู้สึกเบื่อได้
ก็เลยทำให้ปลาพวกนี้ สามารถทำคนตายได้อย่างหลากหลายวิธี!?
กลายเป็น Final Destination เวอร์ชั่นปลา!
ถ้าเทียบกับเวอร์ชั่นเก่า ต้นฉบับ ที่สร้างเมื่อปี 1978
ก็ต้องบอกว่า สิ่งที่แตกต่างกันมากที่สุดคือ เนื้อเรื่อง
ขณะที่เวอร์ชั่นปี 1978 จะมีเนื้อเรื่องที่เยอะมาก
มีเรื่องการทดลองของรัฐบาล การพยายามปกปิดหลักฐาน
การตามล่าพระเอกนางเอกโดยหน่วยงานรัฐ การช่วยผู้คน
มีเรื่องพ่อลูก เรื่องเจ้าของรีสอร์ท เรื่องพวกเด็กเข้าแคมป์
แต่เวอร์ชั่นปี 2010 แทบจะทิ้งเนื้อเรื่องไปเลยจ้า!!!
เวอร์ชั่น 2010 แทบไม่มีเนื้อเรื่องเลย เน้นเอามันส์สะใจลูกเดียว
โชว์ฉากการตาย ฉากการฆ่า ฉากโป๊ ฉากเสียวสยองกันลูกเดียว
เกิดแผ่นดินไหว ปิรันย่าโบราณหลุดออกมา ที่เหลือก็คือกินๆๆๆลูกเดียว
ไม่ต้องเสียเวลาเล่าเรื่องหน่วยงานรัฐ ไม่ต้องมีประเด็นลึกๆอะไรมากมาย
ไม่ต้องนั่งคุยกันยืดเยื้อ ไม่ต้องมีคนมานั่งถกเถียงว่า เชื่อไม่เชื่อเรื่องปลา
แค่สร้างตัวละครหนุ่มสาวลามกๆขึ้นมาสักพันคน แล้วก็หาวิธีฆ่าพวกนี้ซะ!
ซึ่งผู้กำกับคิดถูกมากๆ ที่เลือกสร้างหนังให้ออกมาแบบนี้ (ฉลาดจริงๆนะ)
เพราะไม่ซ้ำใครดี หนีจากขนบธรรมเนียมของหนังแนวสัตว์กินคนเรื่องอื่นๆ
มั่นใจได้เลยว่า บทหนังเรื่องนี้ "บางมากๆ" แน่นอน
เพราะเมื่อนับๆดูแล้ว มันมีอยู่ไม่กี่ซีน ไม่กี่ฉากเองนะ
เหตุการณ์ไม่เยอะ เพราะเรื่องเกิดขึ้นภายใน 1 วันครึ่ง
ไปดูเหอะ สนุกจริงๆนะ ไม่ได้ล้อเล่น (ดูแบบ 140 ไม่มีสามมิติก็ได้)
ปล. เห็นผู้ใหญ่พาลูกหลาน น่าจะประมาณ ป.2 - ป.4 มาดูหลายคนเลย
เห็นแล้วก็รู้สึกเศร้ามาก แกคงนึกว่าเป็นหนังสัตว์ประหลาดแบบก๊อตซิลล่า
ปล. ในคห.ที่1 ข้าพเจ้าจะพูดถึงตอนจบของหนังเรื่องนี้
ใครที่ยังไม่ได้ดู ให้ข้ามคห.ที่1 ไปได้เลย (เตือนไว้ก่อน)

Replies (22)
เอาล่ะ ถ้าจะพูดถึงฉากจบของหนังเรื่องนี้
ข้าพเจ้ารู้สึกก้ำกึ่งมากๆ ว่ามันจบดี หรือไม่ดี มองให้มันฮา มันก็ฮาดี
แล้วก็ไม่ได้โอเวอร์ หรือ ไม่ได้หลุดโลกตรงไหน
เพราะหนังมันบอกอยู่แล้วตั้งแต่ต้นเรื่อง ว่ามันเป็นปิรันย่าจากยุคไดโนเสาร์
ดังนั้น เจ้าพวกนี้มันก็ต้องตัวโตกว่าปกติแน่นอนอยู่แล้ว (เพราะล่าไดโนเสาร์)
เพียงแต่ว่า ไอ้ก่อนที่หนังเรื่องนี้จะฉาย ดันมี "หนังแผ่น" เรื่อง ""ปิรันย่ายักษ์" วางขาย
แล้วอีหนังเรื่องปิรันย่ายักษ์ (Mega Piranha) ก็ดันเป็นหนังแผ่นเกรด C แบบสุดๆซะด้วยสิ
ก็เลยทำให้เกิดความรู้สึกว่า Piranha 3D กลายเป็นหนังภาคกำเนิดของอี Mega Piranha ซะงั้น
หรือ พาลทำให้รู้สึกว่า ฉากจบมันเอียงไปในทางหนังเกรด C ซะอย่างงั้น (ทั้งๆที่คุณภาพเกรด A)
ดังนั้น คนที่ดูจบแล้ว อาจรู้สึกได้สองทาง
1. จบกวนดีว่ะ โคตรชอบเลย สะใจดีโว้ย
2. จบปาหมอนสุดๆ ไม่ต้องจบแบบนี้ก็ได้
ข้าพเจ้ารู้สึกก้ำกึ่งมากๆ ว่ามันจบดี หรือไม่ดี มองให้มันฮา มันก็ฮาดี
แล้วก็ไม่ได้โอเวอร์ หรือ ไม่ได้หลุดโลกตรงไหน
เพราะหนังมันบอกอยู่แล้วตั้งแต่ต้นเรื่อง ว่ามันเป็นปิรันย่าจากยุคไดโนเสาร์
ดังนั้น เจ้าพวกนี้มันก็ต้องตัวโตกว่าปกติแน่นอนอยู่แล้ว (เพราะล่าไดโนเสาร์)
เพียงแต่ว่า ไอ้ก่อนที่หนังเรื่องนี้จะฉาย ดันมี "หนังแผ่น" เรื่อง ""ปิรันย่ายักษ์" วางขาย
แล้วอีหนังเรื่องปิรันย่ายักษ์ (Mega Piranha) ก็ดันเป็นหนังแผ่นเกรด C แบบสุดๆซะด้วยสิ
ก็เลยทำให้เกิดความรู้สึกว่า Piranha 3D กลายเป็นหนังภาคกำเนิดของอี Mega Piranha ซะงั้น
หรือ พาลทำให้รู้สึกว่า ฉากจบมันเอียงไปในทางหนังเกรด C ซะอย่างงั้น (ทั้งๆที่คุณภาพเกรด A)
ดังนั้น คนที่ดูจบแล้ว อาจรู้สึกได้สองทาง
1. จบกวนดีว่ะ โคตรชอบเลย สะใจดีโว้ย
2. จบปาหมอนสุดๆ ไม่ต้องจบแบบนี้ก็ได้

แก้ไขล่าสุด: 27/8/2553 20:45 โดย demonbug
คห 1 นี่สปอยตรงไหนเหรอครับ ไม่เห็นรู้เรื่องเลยอ่ะ
จบแบบไหนเหรอครับ บอกก็ได้ เพราะที่นี่คงไม่มีโอกาสได้ดูแน่ๆ
จบแบบไหนเหรอครับ บอกก็ได้ เพราะที่นี่คงไม่มีโอกาสได้ดูแน่ๆ
เมนท์ไปแล้วใน http://www.horrorclub.net/ForumDetails.aspx?ForumID=926
ทีนี้ขอพูดเฉพาะแค่ตอนจบแล้วกัน
ในความเห็นเรา มองว่านี้เป็นการดิ้นทางทางจบที่ฉลาด ตลกมากๆ
คือถ้าเป็นหนังเรื่องอื่นจบแบบนี้มันคือ "สิ้นคิด"
แต่กับปิรันย่าเมื่อหนังเลือกจะรักษาขนบตระกูลสัตว์กินคน อันมีความซ้ำซากทางความคิดต่อวิธีการจบในแบบที่เป็นสูตรตายตัวในแบบที่ว่า
"เมื่อตัวละครคิดว่าปลอดภัย พวกเค้าเดินทางออกจากพื้นที่สู้รบด้วยความภาคภูมิ พร้อมดนตรีประกอบสวยงาม ทันใดนั้นกล้องก็ตัดไปที่ซากสัตว์ร้ายที่นอนแน่นิ่งในสภาพบาดเจ็บสาหัส แล้วทันใดนั้นตาของมันก็เบิกโพล่ง....จบ"
เราเชื่อว่าทุกคนรู้ว่ายังไง หนังก็ไม่มีทางที่จะทิ้ง "ตัวละครเอก" ของหนังให้ตายลงได้ (เอาจริงๆ ลองนึกดู ตัวละครพระเอก นางเอก อาจจะเป็นตัวละครที่เราลุ้นเอาใจช่วย พวกเค้ามักมีคุณธรรมที่ดี มีความน่าสนใจให้เราลุ้น แต่ในขณะเดียวกันหัวใจของหนังเหล่านี้คือ ตัวร้ายของเรื่อง อย่างสัตว์อสูรเหล่านี้ต่างหาก และมันจะไม่มีทางที่หนังจะลับจอไปโดยไม่เหลือร่องรอยการสืบต่อ ดำรงตัวตนของเผ่าพันธุ์พวกมันไปได้)
ฉะนั้นการจบของปิรันย่าจึงเป็นการรักษาความคลาสสิของหนังแนวนี้ไว้ได้ โดยในขณะเดียวกัน มันก็ไม่ได้ซ้ำซากจนน่าเบื่อแบบที่ "ตาเบิกโพล่ง" "ครีบขยับ" แล้วตัดเข้าจอมืดแบบนั้น
เพราะหนังเรื่องนี้นอกจากจะคารวะขนบดั้งเดิม มันยังคงแฝงมุกกวนตีนต่างไว้เพียบ ฉะนั้นฉากจบของหนังจึงต้องทำให้ดู "โอเวอร์" "เกินความเป็นจริง" "เกรดบี-ขยะ" สุดๆ
การที่จู่ๆมีปลาปิรันย่าตัวยักษ์โผล่ขึ้นมางับคน นอกจากจะแสดงให้เห็นว่าพวกมันยังไม่ตายแล้ว (พร้อมจะแพร่พันธ์ุ์ต่อ) มันยังกลับมาในสภาพเกินจริงเหมือนหนังสัตว์ประหลาดห่วยๆด้วย เรามองว่านี้เป็นตอนจบที่ทั้งมีความเคารพ และล้อเลียนในเวลาเดียวกัน
เหมาะสมแล้วล่ะถ้ามันจะจบแบบนี้
ทีนี้ขอพูดเฉพาะแค่ตอนจบแล้วกัน
ในความเห็นเรา มองว่านี้เป็นการดิ้นทางทางจบที่ฉลาด ตลกมากๆ
คือถ้าเป็นหนังเรื่องอื่นจบแบบนี้มันคือ "สิ้นคิด"
แต่กับปิรันย่าเมื่อหนังเลือกจะรักษาขนบตระกูลสัตว์กินคน อันมีความซ้ำซากทางความคิดต่อวิธีการจบในแบบที่เป็นสูตรตายตัวในแบบที่ว่า
"เมื่อตัวละครคิดว่าปลอดภัย พวกเค้าเดินทางออกจากพื้นที่สู้รบด้วยความภาคภูมิ พร้อมดนตรีประกอบสวยงาม ทันใดนั้นกล้องก็ตัดไปที่ซากสัตว์ร้ายที่นอนแน่นิ่งในสภาพบาดเจ็บสาหัส แล้วทันใดนั้นตาของมันก็เบิกโพล่ง....จบ"
เราเชื่อว่าทุกคนรู้ว่ายังไง หนังก็ไม่มีทางที่จะทิ้ง "ตัวละครเอก" ของหนังให้ตายลงได้ (เอาจริงๆ ลองนึกดู ตัวละครพระเอก นางเอก อาจจะเป็นตัวละครที่เราลุ้นเอาใจช่วย พวกเค้ามักมีคุณธรรมที่ดี มีความน่าสนใจให้เราลุ้น แต่ในขณะเดียวกันหัวใจของหนังเหล่านี้คือ ตัวร้ายของเรื่อง อย่างสัตว์อสูรเหล่านี้ต่างหาก และมันจะไม่มีทางที่หนังจะลับจอไปโดยไม่เหลือร่องรอยการสืบต่อ ดำรงตัวตนของเผ่าพันธุ์พวกมันไปได้)
ฉะนั้นการจบของปิรันย่าจึงเป็นการรักษาความคลาสสิของหนังแนวนี้ไว้ได้ โดยในขณะเดียวกัน มันก็ไม่ได้ซ้ำซากจนน่าเบื่อแบบที่ "ตาเบิกโพล่ง" "ครีบขยับ" แล้วตัดเข้าจอมืดแบบนั้น
เพราะหนังเรื่องนี้นอกจากจะคารวะขนบดั้งเดิม มันยังคงแฝงมุกกวนตีนต่างไว้เพียบ ฉะนั้นฉากจบของหนังจึงต้องทำให้ดู "โอเวอร์" "เกินความเป็นจริง" "เกรดบี-ขยะ" สุดๆ
การที่จู่ๆมีปลาปิรันย่าตัวยักษ์โผล่ขึ้นมางับคน นอกจากจะแสดงให้เห็นว่าพวกมันยังไม่ตายแล้ว (พร้อมจะแพร่พันธ์ุ์ต่อ) มันยังกลับมาในสภาพเกินจริงเหมือนหนังสัตว์ประหลาดห่วยๆด้วย เรามองว่านี้เป็นตอนจบที่ทั้งมีความเคารพ และล้อเลียนในเวลาเดียวกัน
เหมาะสมแล้วล่ะถ้ามันจะจบแบบนี้
อ้อ ลืมไป
อีเว็บ Wild Wild Girls ของอีตาผู้กำกับหนังโป๊ในเรื่อง เขาทำขึ้นมาจริงๆด้วยนะ
http://thewildwildgirls.com/home.html
เข้าไปเยี่ยมชมได้
อีเว็บ Wild Wild Girls ของอีตาผู้กำกับหนังโป๊ในเรื่อง เขาทำขึ้นมาจริงๆด้วยนะ
http://thewildwildgirls.com/home.html
เข้าไปเยี่ยมชมได้
เค้าไม่ชอบดูหนังโป๊ มันผิดศีลธรรมอันดี เปรรับไม่ดั่ย
ไม่ชอบดู แต่เป็นผู้ผลิต
ขอบคุณค่า
คห. 7 ขอบคุณ คห. 4 เหรอครับ?
ตกลงหนังเรื่องนี้มันเกรด B หรือ A กันแน่ครับเพราะบางเว็บบอกว่า เกรด B อะ
ไว้หายไข้เมื่อไร ไปดูแล้ว ... จะมาเมาท์ด้วยคนครับ
อยากดูเนื้อหนัง...ปิรันย่า ^^
หนังเกรดไรไม่รู้ จากที่ดูตัวอย่างคิดว่า คัพ D
หนังเกรดเอที่ทำออกมาให้เหมือนเกรดบี
แต่ผลลัพธ์ที่ได้คือ A+
แต่ผลลัพธ์ที่ได้คือ A+
เด๋วไปดูดีกว่า
ขอให้มันดีกว่าอี Mega Piranha ก็พอ
วันนั้นนึกไงก็ไม่รู้ไปเช่า Mega Piranha มาดู
...เซ็งไป 2 วัน คือมัน unbelievable สุดๆ
นั่นปลาหรือขีปนาวุธฟะ งับเฮลิคอปเตอรได้ด้วยนะตัวเอ๊ง
ขอให้มันดีกว่าอี Mega Piranha ก็พอ
วันนั้นนึกไงก็ไม่รู้ไปเช่า Mega Piranha มาดู
...เซ็งไป 2 วัน คือมัน unbelievable สุดๆ
นั่นปลาหรือขีปนาวุธฟะ งับเฮลิคอปเตอรได้ด้วยนะตัวเอ๊ง
วันนี้ไปดูมา แบบ 3D ผมกับแฟนรอดูฉากนี้ แต่ไมมีอ่ะคับ ไม่รู้โรงอื่นเป็นเหมือนกันรึป่าว ผมดูที่ SF เดอะมอลล์บางกะปิ

^
ไม่มีฉากนี้หรอก เป็นฉากที่ทำขึ้นเพื่อใส่ในตัวอย่างหนังเท่านั้น
ช่วงนี้มีตัวอย่างหนังที่ชอบทำแบบนี้บ่อย
ไม่มีฉากนี้หรอก เป็นฉากที่ทำขึ้นเพื่อใส่ในตัวอย่างหนังเท่านั้น
ช่วงนี้มีตัวอย่างหนังที่ชอบทำแบบนี้บ่อย
จริงๆ ฉากในรูปน่าจะเป็นตอนที่พระเอก-นางเอกกอดกันใต้น้ำก่อนจะให้เรือแม่ลากตัวไปนะครับ....
เค้าคงถ่ายทำไว้แหละ เป็นหลายๆมุมกล้อง แต่พอตัดเป็นตัวหนังฉบับสมบูรณ์คงตัดออก อาจเพราะมีมุมที่ดีกว่า หรือกระชับกว่า
ไอ้การที่จะถ่ายฉาก เขียนซีจี เพื่อเอามาใช้ในเทรลเลอร์โดยเฉพาะนี้ค่อนข้างสิ้นเปลืองอยู่น้า
เค้าคงถ่ายทำไว้แหละ เป็นหลายๆมุมกล้อง แต่พอตัดเป็นตัวหนังฉบับสมบูรณ์คงตัดออก อาจเพราะมีมุมที่ดีกว่า หรือกระชับกว่า
ไอ้การที่จะถ่ายฉาก เขียนซีจี เพื่อเอามาใช้ในเทรลเลอร์โดยเฉพาะนี้ค่อนข้างสิ้นเปลืองอยู่น้า
โน้ตดูก็เพลินๆจนจบเรื่อง แต่ฉากตายมันพาเสียวแวบ เพราะไม่คิดว่าจะได้เห็นจังๆ ไม่ตัด (ฉากตายนะ ไม่ใช่นมอย่าเข้าใจผิด :D)
ถ้าฉายแบบไม่ตัดไม่เซ็นฯ ต้องดูแบบ 3D เท่านั้น!!
...
ในความเห็นส่วนตัว เป็นหนังเกรดบี ที่ดูหนุกดี
เทพมังกรอวยชัยทุกท่านจ้าาา
...
ในความเห็นส่วนตัว เป็นหนังเกรดบี ที่ดูหนุกดี
เทพมังกรอวยชัยทุกท่านจ้าาา

ดูจบแล้วรู้สึกตัวเองสูงมาก
แคลเซียมทั้งเรื่อง!
แคลเซียมทั้งเรื่อง!
อยากหา มาดูแล้วสิ รอแผ่นๆ
ดดูแล้ว รู้สึกว่าทรีดีไม่คุ้มเลย 55
แต่เลือดสาดได้ใจจริงๆ
แต่เลือดสาดได้ใจจริงๆ
Function Used time : 0:00:00:00.035