LET THE RIGHT ONE IN ดำเนินเรื่องแบบเหงาๆ เนิบๆ คละเคล้ากลิ่นคาวเลือดสีแดงสดที่แตะแต้มบนหิมะขาวโพลน

ใครๆ (ใครไหนวะ???) ก็ว่า มันเป็นหนังโรแมนติก สยองขวัญ ที่น่าจดจำ

ความสัมพันธ์ของออสกาและเอลี่ ดำเนินไปเรื่อยๆ
ทั้งออสก้าและเอลี่ ต่างก็เป็นเพียงเพื่อนคนเดียว ของกันและกัน
โดยที่ตัวหนังเอง ไม่ได้บอกอะไรที่ชัดเจนกับเรามากนัก
กับคำบอกเล่าของ เอลี่ที่ว่า เธอไม่ใช่เด็กผู้หญิงอย่างที่เขาคิดนะ หรือ ความสัมพันธ์ของพ่อแม่ออสกา ที่เลิกกันเพราะอะไร
และบางตอนหนังก็ทำให้เราคิดเอาเองว่า พ่อของออสกาเป็นเกย์หรือเปล่า
หรือความสัมพันธ์ของเอลี่ กับชายแก่คนนั้น ที่ไม่รู้ว่าเป็นอะไรต่อกัน กันแน่

หนังไม่ชัดเจนเลยซักอย่าง ราวกับจะให้เราคอยจดจ่ออยู่กับความสัมพันธ์ที่งอกเงย ของเด็กทั้งสองมากกว่า
สิ่งอื่นใด การเติบโตของออสกา จนไปถึงเมื่อวันนึงออสกา ค้นพบในสิ่งที่เอลี่เป็น

ทุกอย่างล้วนแล้วแต่ดำเนินไปช้าๆ
เพื่อให้เราซึมซับที่ความรู้สึกมากกว่าตาเห็น
ฉากสยอง โหด ทั้งหลายไม่ได้มาแบบตื่นเต้นระทึกขวัญ ลุ้นตัวโก่ง แต่มันกลับมาแบบหลอนๆ และให้เราทำใจยอมรับกับสิ่งที่มันเกิด และดำเนินไป

จนเมื่อถึงบทสรุป ไคลแม็กซ์ของหนัง ไม่ได้ทำให้เราดีใจ หรือปลาบปลื้มอะไร แต่มันเป็นฉากที่ลายคนบอกว่าโรแมนติกและเศร้าสยองในคราวเดียวกัน

หลังจากดูจบ บางความรู้สึกยังค้างคา หนังทำให้เราคิดต่อ มากกว่า จะยอมจบเพียงแค่เรากดปิดเครื่องเล่น เพราะจนถึงตอนนี้ ความสัมพันธ์ของออสกา และเอลี่ก็ยังดำเนินต่อไปเรื่อยๆ โดยที่ตาเรามองไม่เห็นนน ~

ใครแวะเวียนไปตามกระบะเก่าๆ ลองคุ้ยมาดูนะคะ 55+
ราคาไม่แพง

เราคงไม่พูดเต็มปาก ว่าเฮ้ย หนังมันดี หนังเยี่ยม ต้องดุนะ เพราะเราก็แยกไม่ออกหรอกว่าหนังเรื่องไหนดีระดับไหน อะไรยังไง แต่เรื่องนี้ อยากแนะนำให้ดูค่ะ แต่ใครจะชอบหรือเปล่า ก็เป็นรสนิยมส่วนตัว สำหรับเรา ชอบค่ะ

^_^