ภาคหนึ่งหยิบมาดูกี่ทีก็ตื่นเต้นทุกครั้ง เป็นอะไรที่มันส์มากและสยองสุดๆ อย่าง ฉากตำรวจโดนหญิงอ้วนกัดคอ, ฉากพนักงานดับเพลิงตกลงมาหัวฟาดพื้นตาย, ฉากคุณแม่ที่ราวบันได, ฉากวิ่งไล่จับกันทั่วอพาร์ตเม้นท์ในช่วงท้ายเรื่อง ฯลฯ ภาคหนึ่งหนังพยายามจะทำให้ดูเป็นแนวไวรัส-เชื้อโรคเป็นธีมหลัก ซึ่งก็ทำได้สำเร็จ แม้ว่าในช่วงตอนใกล้จบจะมีการกล่าวถึง กรณีผู้หญิงถูกผีเข้าและมีการอ้างถึงการนำวิทยาศาสตร์มาทดลองกับความเชื่อของศาสนา บรื๋อ...



ส่วนภาคสองนี้ดูผ่านๆ เพราะโหลดมาดู ผลคือ ภาพไม่ชัด มืดมากแถมเสียงสเปนดูไม่รู้เรื่องเลยสักนิด ว่าด้วยเรื่องหน่อยสวาทกลุ่มนึ่งที่กำลังถูกส่งตัวเข้าไปในอพาร์ทเม้นต์นั้น ที่ทุกคนมีกล้องติดอยู่บนหมวกและมีอาวุธกันมาครบมือ แต่กลายเป็นว่าภาคนี้ไปโฟกัสว่าเป็นหนังผีแทน เพราะถ้าหากเป็นหนังซอมบี้ธรรมดาพวกหน่วยสวาทก็แค่เอาปืนไล่กราดยิงๆ ก็สามารถจบเรื่องได้ภายใน 30 นาทีแล้ว แต่ผู้สร้างฉีกประเด็นภาค 2 เป็นหนังผี-ซอมบี้-ไวรัส ทำให้ต่อยอดออกไปได้ถึงภาค 3 ได้เลยทีเดียว แถมภาคนี้ยังให้ความรู้สึกแบบ ดิ เอ๊กซอซิส เข้ามาอีกด้วย(แต่ไม่รู้ว่ามันจะแถรึเปล่า)



สรุป คิดว่าหนังเรื่องนี้เป็นการผสมผสานระหว่างวิทยาศาสตร์และศาสนา ใครที่คิดว่าเป็นหนังซอมบี้หรือคิดว่าหนังผีแบบ evil dead ก็คิดได้เหมือนกัน ส่วนต้นตอของทุกอย่าง(หลังจากกลับไปดูภาคแรกอีกครั้ง) สันนิฐานว่ามาจาก ผู้หญิงที่ถูกผีเข้าที่ถูกอ้างอิงในภาคแรก และรวมถึงบาทหลวงตัวแสบที่นำเธอมาขังไว้ที่ห้องใต้หลังคา โดยบาทหลวงได้สะกัดเอายีนส์หรือเอนไซม์ของเธอในขณะที่เธอถูกผีเข้ามาทดลอง ซึ่งปรากฎว่าได้ผล เพราะ มันตอบสนองต่อออกซิเจน และแพร่ไปสู่อากาศเหมือนกับเชื้อโรคทุกประการ และผู้ที่ได้รับเชื้อนี้จะมีการคล้ายหวัดก่อนที่จะคุ้มคลั่ง กระหายเลือดแบบปีศาจจากนรก ในภาค 1 ที่ติดเชื้อกันเพราะโดนกัดก็คือติดเชื้อจริงๆ เพราะมันเเป็นไวรัสจริงๆ เพียงแต่เป็นไวรัสที่มีที่มาจาก'ผี'นั่นเอง



ใครที่ดูแล้วทั้งสองภาคแล้ว คิดว่าไงกันบ้าง มาช่วยกันแชร์หน่อยเร๊วว