เชิญคุณลงฑัณฑ์บัญชา ให้สมอุรา ให้สาแก่ใจ
by AguileraAnimato • วันศุกร์ที่ 8 มกราคม พ.ศ. 2553 21:50
ได้แต่วิจารณ์หนังชาวบ้านมาก็ตั้งหลายครา
ถึงเวลาที่เราจะขึ้นเขียง ลำเลี้ยงไปลงหลุมให้รุมสับบ้างแล้ว

ในงาน Movie Mania 10 ของ คณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ซึ่งเป็นงานประกวดภาพยนตร์สั้น อนิเมชั่น มิวสิควิดีโอ และภาพถ่าย
เราได้เสนอตัวและหัวใจ ส่งผลงานหนังสั้นเราไปประกวด 3 เรื่อง
"ไสหัวไปตายซะ"
"เก้าอี้พิศวาส"
และ Surprise Film หนังส่วนตัวสุดๆ
ซึ่งหนังทุกเรื่องที่ส่งไป จะได้รับการฉายมาราธอนในรอบแรกครับ วันที่ 9 และ10 มกราคมครับ
งานฉายที่ ห้องประชุม ดร.เทียม โชควัฒนา คณะนิเทศศาสตร์ ครับ
โดยเรื่อง
เก้าอี้พิศวาส ฉายวันที่ 9
เวลา 16.30
หนังเซอร์ไพร์ส
A Neangly Fairytale~BREAKDOWN: side story~ ฉายวันที่ 10
เวลา 18.00
ไสหัวไปตายซะ ฉายวันที่ 10
เวลา 18.30
ใครว่างๆก้ไปดูกันได้ครับ ดูแล้วเชิญวิจารณ์กันตามสบาย
ถึงเวลาที่เราจะขึ้นเขียง ลำเลี้ยงไปลงหลุมให้รุมสับบ้างแล้ว

ในงาน Movie Mania 10 ของ คณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ซึ่งเป็นงานประกวดภาพยนตร์สั้น อนิเมชั่น มิวสิควิดีโอ และภาพถ่าย
เราได้เสนอตัวและหัวใจ ส่งผลงานหนังสั้นเราไปประกวด 3 เรื่อง
"ไสหัวไปตายซะ"
"เก้าอี้พิศวาส"
และ Surprise Film หนังส่วนตัวสุดๆ
ซึ่งหนังทุกเรื่องที่ส่งไป จะได้รับการฉายมาราธอนในรอบแรกครับ วันที่ 9 และ10 มกราคมครับ
งานฉายที่ ห้องประชุม ดร.เทียม โชควัฒนา คณะนิเทศศาสตร์ ครับ
โดยเรื่อง
เก้าอี้พิศวาส ฉายวันที่ 9
เวลา 16.30
หนังเซอร์ไพร์ส
A Neangly Fairytale~BREAKDOWN: side story~ ฉายวันที่ 10
เวลา 18.00
ไสหัวไปตายซะ ฉายวันที่ 10
เวลา 18.30
ใครว่างๆก้ไปดูกันได้ครับ ดูแล้วเชิญวิจารณ์กันตามสบาย
Replies (15)
"นิเทศ จุฬาฯ" โอ๊ยยย.. เจ็บปวดเพราะคนคณะนี้
แต่ก็จะปาดน้ำตา แล้วตามไปดูนะจ๊ะน้ำหนึ่ง
(ถ้าทำใจได้ โฮฮฮฮ)
แต่ก็จะปาดน้ำตา แล้วตามไปดูนะจ๊ะน้ำหนึ่ง
(ถ้าทำใจได้ โฮฮฮฮ)
เก้าอี้พิศวาส
ฉายวันที่ 9 มกราคม
เวลา 16.30

เรื่องย่อ:
อันตรายที่มองไม่เห็นใคร่กระเส่าจู่โจม "หนึ่งฤทัย พิมพ์ใจชล" นักเขียนนิยายชื่อดัง เมื่อเธอได้รับจดหมายลึกลับจากแฟนหนังสือโรคจิต ที่ส่งมาพร้อมเก้าอี้ตัวนึง เก้าอี้ที่ซุกซ่อนความลับพิศวาสวิปลาศอยู่อย่างน่าสะพรึง
------------------------------------------------------
คำวิจารณ์จากนักวิจารณ์ และผู้ชมที่ได้รับชมมาแล้ว
(ขออนุญาตแก้บางประโยค เพื่อไม่ให้ spoil คนที่ยังไม่ได้ดู)
เกรด A ชอบครับ จะ ชอบกว่านี้ถ้าจบแบบนางเอกโดน*** อะไรแบบนั้น
dhanlhaow (หนึ่งในคณะยอดเซียนซักแห้ง กลุ่มนักสร้างหนังสั้นอินดี้)
http://dhanlhaow.multiply.com/journal/item/152
เกรดA ชอบดนตรีหลอนดี ชอบสไตล์ภาพช่วงครึ่งแรกที่ทำแบบฟิลม์เก่าๆ แต่ไม่ชอบครึ่งหลัง ภาพมันดูใหม่ๆสลับเก่าๆ เหมือนลืมทำภาพอะ เลยหลุดซะแล้ว แต่โดยรวมเนื้อเรื่องกวนตีนดีมาก ชอบ กวนตีนแบบไฮโซผู้ดีมาก คลาสซี่
จาก อัลวา ติศศิลา (ผกก. หนังสั้น)
เกรด A-
- แก้ไขแล้วดีขึ้นนะ โดยเฉพาะการใช้เสียงพากย์ (เวอร์ั่ชั่นแรกใช้เสียงจริง)
- มีถ่ายซ่อมด้วย แต่มันทำให้ภาพโดดๆไปหน่อย (ก็เข้าใจแหละ ฟิล์มมันหมดแล้ว) แต่ทำแล้วดูดีขึ้นนะ โดยเฉพาะฉากกรีดเก้าอี้
จาก nanoguy (นักวิจารณ์ภาพยนตร์ นิตยสาร starpics)
(4.5/5)
- ดูเป็นรอบที่ 2 แล้วสำหรับหนังเรื่องนี้ ดูกี่ครั้งอารมณ์ระทึกขวัญมันก็ยังคงหลุ้งพล่านอยู่ ถ้าทำเสียงให้สมูทกว่านี้ กับ ภาพให้ดูเป็นก้อนเดียวกันมากกว่านี้จะดีมาก เพราะตัวเรื่องมันดีอยู่แล้ว แล้วเทคนิคที่ใช้มันเหมาะกับเรื่องอยู่แล้ว
จาก พัชร เอี่ยมตระกูล (ผกก. หนังสั้น / นศ. ม.กรุงเทพ)
(B+)
- เคยดูในฟิ้วแคมป์เช่นกัน
- ชอบฉบับก่อนมากกว่า เพราะฉากที่ insert เพิ่มเข้าไป มันดูหลุดจากหนังมากเลย
merveillesxxx (นักวิจารณ์ นักเขียนไบโอสโคป + ผกก.หนังสั้น + บล๊อกเกอร์ชื่อดัง)
ชอบเสียงพากย์ครับ...ดีกว่าอันเดิมเยอะมากๆ...
ทำให้เรารู้สึกอิน และผวาไปกับอารมณ์ของตัวละครมากขึ้นด้วย....
นิดนึงคือ...มันมีบางช่วงบางตอน ภาพเหมือนไม่ได้ใช้กล้องตัวเดียวกันถ่ายอ่ะ...
เสียงก็ยังไม่ราบลื่นไปกับหนังในบางช่วง...ถ้ากำจัดส่วนนี้ไปได้จะดีมากๆครับ....
แต่ก็เหอะ...โดยรวมแล้วผวาจริงๆ...
ถ้าไม่เคยอ่านงานของรัมโปมาก่อน...หลอนได้นะ...
ถึงจะอ่านงานของรัมโปจนรู้เรื่องมาแล้วก็เหอะ...
แต่การที่เห็นฉาก ที่อีนี่มันอ่านจดหมาย แล้วตัวหนังสือไหลไปเนี๊ยะ...
ก็ได้อารมณ์น่ากลัวดี....ประกอบกับเสียงพากย์ด้วย...ความน่ากลัวคูณสอง...
จาก คุณ PB บอร์ดคริสทิน่า อากิเรล่า (นศ. มช.)
------------------------------------------------------
เกร็ด:
- เป็นการดัดแปลงเรื่องสั้นของนักเขียนชื่อดังชาวญี่ปุ่น เอโดงาวะ รัมโป มาสร้างเป็นภาพยนตร์ครับ... (มีใครรู้จัก รัมโป ไหมเอ่ย)
- นี้เป็นงานที่ทำในวิชาFilm Production ตอนปี 3
- ถ่ายทำด้วยฟิลม์ 16 มม. (อาจารย์บังคับ) แต่เพราะฟิลม์มันมีความยาวจำกัดจำเขี่ย (ประมาณ 10 นาทีมั้ง) ทุกกลุ่มเลยใช้กล้องดิจิทัลถ่ายเสริมกันหมด (นั้นจึงเป็นสาเหตุให้สี-สภาพภาพในเรื่องดูโดดๆ)
- หานางเอกวันเดียว ถ่ายสองวัน ในโรงถ่ายของมหาลัย เตรียมงานเป็นเดือนๆ เต็มไปด้วยดราม่าตลอดเวลา
- หนังเรื่องนี้มีสองเวอร์ชั่นครับ คือเวอร์ชั่นปี 2551 และปี 2552 ซึ่ง 2551 คือตอนที่ทำส่งอาจารย์ ยังตัดต่อไม่สมบูรณ์ สุดท้ายเลยจัดการแก้ไขใหม่เป็นฉบับไฟนอล ปี 2552 ซึ่งได้ทำการจัดการเรื่องเสียงในหนัง ให้เป็นการพากท์หมดทั้งเรื่อง ดึงอารมณ์แบบหนังไทยยุคเก่าไปเลย
- ที่เลือกเรื่องสั้น เรื่องนี้มาทำ เพราะโปรเจคบทเรื่องก่อนที่เขียน ไม่ผ่านซักที เลยตัดสินใจหาเรื่องสั้นที่มีอยู่แล้วมาทำ เนื่องจากเคยอ่านเรื่อง "เก้าอี้พิศวาส" มาก่อน จึงตัดสินใจเลือก เหตุผลเพราะ ทั้งเรื่องมีฉากเดียว ตัวละครน้อย คุมง่ายดี
- เรื่องนี้จะไม่ออกมาดีแบบนี้เลย ถ้าขาดตากล้องที่ชำนาญ(ในรุ่น) และทุกคนในกลุ่ม (ขอโทษด้วยที่เคยดราม่ากันตลอดระยะเวลา 3 เดือนใส่กัน)
ฉายวันที่ 9 มกราคม
เวลา 16.30

เรื่องย่อ:
อันตรายที่มองไม่เห็นใคร่กระเส่าจู่โจม "หนึ่งฤทัย พิมพ์ใจชล" นักเขียนนิยายชื่อดัง เมื่อเธอได้รับจดหมายลึกลับจากแฟนหนังสือโรคจิต ที่ส่งมาพร้อมเก้าอี้ตัวนึง เก้าอี้ที่ซุกซ่อนความลับพิศวาสวิปลาศอยู่อย่างน่าสะพรึง
------------------------------------------------------
คำวิจารณ์จากนักวิจารณ์ และผู้ชมที่ได้รับชมมาแล้ว
(ขออนุญาตแก้บางประโยค เพื่อไม่ให้ spoil คนที่ยังไม่ได้ดู)
เกรด A ชอบครับ จะ ชอบกว่านี้ถ้าจบแบบนางเอกโดน*** อะไรแบบนั้น
dhanlhaow (หนึ่งในคณะยอดเซียนซักแห้ง กลุ่มนักสร้างหนังสั้นอินดี้)
http://dhanlhaow.multiply.com/journal/item/152
เกรดA ชอบดนตรีหลอนดี ชอบสไตล์ภาพช่วงครึ่งแรกที่ทำแบบฟิลม์เก่าๆ แต่ไม่ชอบครึ่งหลัง ภาพมันดูใหม่ๆสลับเก่าๆ เหมือนลืมทำภาพอะ เลยหลุดซะแล้ว แต่โดยรวมเนื้อเรื่องกวนตีนดีมาก ชอบ กวนตีนแบบไฮโซผู้ดีมาก คลาสซี่
จาก อัลวา ติศศิลา (ผกก. หนังสั้น)
เกรด A-
- แก้ไขแล้วดีขึ้นนะ โดยเฉพาะการใช้เสียงพากย์ (เวอร์ั่ชั่นแรกใช้เสียงจริง)
- มีถ่ายซ่อมด้วย แต่มันทำให้ภาพโดดๆไปหน่อย (ก็เข้าใจแหละ ฟิล์มมันหมดแล้ว) แต่ทำแล้วดูดีขึ้นนะ โดยเฉพาะฉากกรีดเก้าอี้
จาก nanoguy (นักวิจารณ์ภาพยนตร์ นิตยสาร starpics)
(4.5/5)
- ดูเป็นรอบที่ 2 แล้วสำหรับหนังเรื่องนี้ ดูกี่ครั้งอารมณ์ระทึกขวัญมันก็ยังคงหลุ้งพล่านอยู่ ถ้าทำเสียงให้สมูทกว่านี้ กับ ภาพให้ดูเป็นก้อนเดียวกันมากกว่านี้จะดีมาก เพราะตัวเรื่องมันดีอยู่แล้ว แล้วเทคนิคที่ใช้มันเหมาะกับเรื่องอยู่แล้ว
จาก พัชร เอี่ยมตระกูล (ผกก. หนังสั้น / นศ. ม.กรุงเทพ)
(B+)
- เคยดูในฟิ้วแคมป์เช่นกัน
- ชอบฉบับก่อนมากกว่า เพราะฉากที่ insert เพิ่มเข้าไป มันดูหลุดจากหนังมากเลย
merveillesxxx (นักวิจารณ์ นักเขียนไบโอสโคป + ผกก.หนังสั้น + บล๊อกเกอร์ชื่อดัง)
ชอบเสียงพากย์ครับ...ดีกว่าอันเดิมเยอะมากๆ...
ทำให้เรารู้สึกอิน และผวาไปกับอารมณ์ของตัวละครมากขึ้นด้วย....
นิดนึงคือ...มันมีบางช่วงบางตอน ภาพเหมือนไม่ได้ใช้กล้องตัวเดียวกันถ่ายอ่ะ...
เสียงก็ยังไม่ราบลื่นไปกับหนังในบางช่วง...ถ้ากำจัดส่วนนี้ไปได้จะดีมากๆครับ....
แต่ก็เหอะ...โดยรวมแล้วผวาจริงๆ...
ถ้าไม่เคยอ่านงานของรัมโปมาก่อน...หลอนได้นะ...
ถึงจะอ่านงานของรัมโปจนรู้เรื่องมาแล้วก็เหอะ...
แต่การที่เห็นฉาก ที่อีนี่มันอ่านจดหมาย แล้วตัวหนังสือไหลไปเนี๊ยะ...
ก็ได้อารมณ์น่ากลัวดี....ประกอบกับเสียงพากย์ด้วย...ความน่ากลัวคูณสอง...
จาก คุณ PB บอร์ดคริสทิน่า อากิเรล่า (นศ. มช.)
------------------------------------------------------
เกร็ด:
- เป็นการดัดแปลงเรื่องสั้นของนักเขียนชื่อดังชาวญี่ปุ่น เอโดงาวะ รัมโป มาสร้างเป็นภาพยนตร์ครับ... (มีใครรู้จัก รัมโป ไหมเอ่ย)
- นี้เป็นงานที่ทำในวิชาFilm Production ตอนปี 3
- ถ่ายทำด้วยฟิลม์ 16 มม. (อาจารย์บังคับ) แต่เพราะฟิลม์มันมีความยาวจำกัดจำเขี่ย (ประมาณ 10 นาทีมั้ง) ทุกกลุ่มเลยใช้กล้องดิจิทัลถ่ายเสริมกันหมด (นั้นจึงเป็นสาเหตุให้สี-สภาพภาพในเรื่องดูโดดๆ)
- หานางเอกวันเดียว ถ่ายสองวัน ในโรงถ่ายของมหาลัย เตรียมงานเป็นเดือนๆ เต็มไปด้วยดราม่าตลอดเวลา
- หนังเรื่องนี้มีสองเวอร์ชั่นครับ คือเวอร์ชั่นปี 2551 และปี 2552 ซึ่ง 2551 คือตอนที่ทำส่งอาจารย์ ยังตัดต่อไม่สมบูรณ์ สุดท้ายเลยจัดการแก้ไขใหม่เป็นฉบับไฟนอล ปี 2552 ซึ่งได้ทำการจัดการเรื่องเสียงในหนัง ให้เป็นการพากท์หมดทั้งเรื่อง ดึงอารมณ์แบบหนังไทยยุคเก่าไปเลย
- ที่เลือกเรื่องสั้น เรื่องนี้มาทำ เพราะโปรเจคบทเรื่องก่อนที่เขียน ไม่ผ่านซักที เลยตัดสินใจหาเรื่องสั้นที่มีอยู่แล้วมาทำ เนื่องจากเคยอ่านเรื่อง "เก้าอี้พิศวาส" มาก่อน จึงตัดสินใจเลือก เหตุผลเพราะ ทั้งเรื่องมีฉากเดียว ตัวละครน้อย คุมง่ายดี
- เรื่องนี้จะไม่ออกมาดีแบบนี้เลย ถ้าขาดตากล้องที่ชำนาญ(ในรุ่น) และทุกคนในกลุ่ม (ขอโทษด้วยที่เคยดราม่ากันตลอดระยะเวลา 3 เดือนใส่กัน)
แก้ไขล่าสุด: 8/1/2553 22:32 โดย AguileraAnimato
ไสหัวไปตายซะ
ฉายวันที่ 10 มกราคม
เวลา 18.30
(ควรเข้าเลทซัก 5 นาที เพื่อจะได้ไม่ต้องเห็นอะไรบางอย่าง เหอๆ)

เรื่องย่อ:
บึง ชายหนุ่มขายน้ำแข็งไส ฐานะยากจน อาศัยอยู่กับเมียที่ขายไก่ย่าง และลูกสาวที่อยากกินไก่เคเอฟซี ด้วยความอัตคัตทางการเงิน ทำให้บึงตัดสินใจใช้น้ำหวานปลอมไม่ได้คุณภาพอ.ย. ขายน้ำแข็งไส ซึ่งเค้าไม่รู้ตัวเลยว่าการตัดสินใจครั้งนี้ จะส่งผลที่รุนแรงสุดสยองอย่างคาดไม่ถึง
------------------------------------------------------
คำวิจารณ์จากนักวิจารณ์ และผู้ชมที่ได้รับชมมาแล้ว
(ขออนุญาตแก้บางประโยค เพื่อไม่ให้ spoil คนที่ยังไม่ได้ดู)
A++++) ชายหนุ่มมีลูกเมียบ้านจน เครียดวิกฤติเศรษฐกิจ เมียขายไก่ย่าง พระเอกขายน้ำแข็งใสรถเข็น ขาดทุน น้ำหวานขวดก็แพง .... เพื่อนเขาจึงเอาน้ำหวานเถื่อนของปลอม มาให้ ซึ่งพระเอกก็ขายไป สรุปว่า ใครกินน้ำหวานนั้นเข้าไป กลายเป็นปีศาจ ฆ่าคน และตามมาล่าแค้นครอบครัวพระเอก!!!
หนังเรื่องนี้ คัลท์ มากๆๆ อย่างแรง ครึ่งแรก ดูคุยกันเรื่อง เศรษฐกิจแย่ จน ขายไม่ดี ลูกอยากกิน KFC ดูกึ่งๆซีเรียส ก็ไม่รู้จะมีลูกบ้าไร แต่พอเข้าครึ่งหลัง ปีศาจโผล่ (มากะเมคอัพเยิ้มๆน่าเกียจเต็มพิกัด) หนังกลายเป็นความบ้าคลั่ง ฮาสุดๆ มันบ้าจริงๆ หนังตั้งใจทำอารมณ์แบบหนังเกรดบีโง่ๆ ทุนต่ำ ถ่ายแบบไม่ปราณีต (แบบงานเก่า ของ ผกก คือ เก้าอี้พิศวาส ซึ่งอันนั้นจะดูปราณีต) แต่มันดูแล้วบันเทิงบ้ามาก
ฉากที่น่าจดจำ พระเอกโดนปีศาจ จับ******แบบ ภาพปลอมๆเหมือนใช้ flash!!
[จาก อัลวา ริตศิลา (ผกก.หนังสั้น)]
(3/5)
บาง จังหวะของเรื่องดูช้าเกินไป และในบางจังหวะมันก็เหวอเกินไปเหมือนกับถ่ ายมาไม่ครบ ภาพแสงโดดแบบไม่ตั้งใจเยอะ ซึ่งงานชิ้นต่อมา (เก้าอี้พิศวาส)ก็ทำออกมาได้ดีทีเดียว
[พัชร เอี่ยมตระกูล (ผกก.หนังสั้น / นศ. ม.กรุงเทพ)]
(B)
โดยรวมยังไม่ลงตัวเท่าไหร่ แต่ชอบฉากสุดท้ายมากๆ เป็นการแถเข้ากับชื่อเรื่องที่ได้ใจจริงๆ
[Nanoguy (นักวิจารณ์ภาพยนตร์นิตยสาร Starpics)]
ชอบฉากเครื่องซักผ้า
[merveillesxx ((นักวิจารณ์ นักเขียนไบโอสโคป + ผกก.หนังสั้น + บล๊อกเกอร์ชื่อดัง))]
B+
ฉากเครื่องซักผ้าเยี่ยมมาก นอกนั้นโอเค แต่เสียอยู่ 3-4 จุด ในเรื่องของงานเทคนิคที่น่าจะใช้วิธีทำสดๆ หน้ากล้องมากกว่าโปรแกรม After Effects และแม่ค้าขายไก่ย่างขาวเกินจะเป็นแม่ค้า
[วิชชา สุยะลา ผกก.หนังสั้น]
เดิน เรื่องอืดไปหน่อย อาจเป็นเพราะต้องอธิบายอะไรทางวิชาการหรือ เปล่า (ถ้าผิดพลาดขออภัยด้วยนะครับ) แต่ตอนท้ายๆมันส์ดีครับ ชอบจริงๆ ชอบฉากแอ็คชั่นมาก อยากดูฉากแอ็คชั่นอีกเยอะๆ 5555 ชอบฉากเครื่องซักผ้าาา ชอบคนที่เล่นเป็นปิศาจน้ำแข็งไสด้วย ถึงอารมณ์มากกก
[คุณ jane-jud (นศ.ภาพยนตร์)]
หนึ่งทำหนังตลกเหรอ
5555+
[ปาล์ม รุ่นพี่ต่างคณะ]
โดยรวมแล้ว ก็งง ๆ แต่ก็โอเค คือตอนยังไม่ได้ดูก็พอจะรู้นะ ว่าจะโยงเข้าชื่อเรื่องยังไง
บางฉากก็ตั้งใจไปนะ ชอบที่สุดก็ฉากเครื่องซักผ้าอะ แต่มันก็ยังไม่แรงพอจะเป็นไคลแมกได้
เออ ชอบมุมกล้องแต่ไม่ชอบการเคลื่อนไหวกล้องอะ ดูแล้วปวดหัว
แล้วแสงก็โดดเร็วไป อันที่จิงน่าจะเป็นสีภาพมากกว่านะ เพราะหนึ่งน่าจะใช้เอฟเฟกช่วย ในขณะที่จะทำกลางวันให้เป็นกลางคืน จิงแล้วชอบอารมณ์ภาพอารมณ์เรื่อง ของเก้าอี้พิสวาทมากกว่า อะ
(เจ๊ทิพย์ บอร์ดคริสทิน่า อากิเรล่า)
ถ้าเข้าใจไม่ผิด...หนังแบบนี้ เรืยกว่าหนังคันท์ ใช่ไหมครับ....
แล้วถ้าเข้าใจไม่ผิด...เรื่องนี้ เป็นผลงานก่อนเก้าอี้พิศวาส ใช่ป่ะ....
เพราะถ้าเรื่องนี้ เป็นผลงาน ทีหลังเก้าอี้พิศวาส...
กราฟพัฒนาผลงานของผู้กำกับ คงเป็นติดลบอ่ะครับ...
อนุมานว่า เรื่องนี้ เป็นผลงานก่อนเก้าอี้ แล้วกันนะ...
ข้อบกพร่องหลายๆอย่างของเรื่องนี้ ถูกแก้ไขในเก้าอี้อ่ะ....
ทำให้รู้สึกรักเก้าอี้ มากขึ้น หลังจากที่ดูไสหัวจบ...
สิ่งที่ดีที่สุด 3 อย่างของไสหัว...ก็คือ...
- ฉากเครื่องซักผ้า...คิดได้อ่ะ...ภาพสวยด้วย...
- แม่ค้าไก่ย่าง... แม้ไม่ใช่ตัวเดินเรื่อง แต่พลังของเธอกรุ่นอยู่เต็มเปี่ยมในหนังเรื่องนี้ บดบังนักแสดงทุกคนจนหมด....
- ผีน้ำแข็งไส...ดีไซด์คาแรกเตอร์ได้บรรเจิดดี...คิดว่าถ้ามีงบมากกว่านี้ คงสามารถแสดงศักยภาพทางความคิดสร้างสรรค์ได้เต็มที่กว่าที่เป็นอยู่....
สิ่งที่ไสหัว บกพร่องไป และมันก็ทำให้หนังไม่สนุกอย่างที่ควรจะเป็น (มันสนุกนะ...แต่น่าจะสนุกมากกว่านี้อ่ะ..)
- เสียงของเรื่องครับ...บางช่วงดัง บางช่วงเบา...เบาจนไม่รู้เรื่องว่าพูดเหี้ยไรกัน...
- การตัดต่อ...ขาดๆเกินๆพิกล...เทียบกับเก้าอี้แล้ว เก้าอี้เนียนกว่าเยอะเลย ขนาดมีการรีมาสเตอร์ แล้วฟิล์มไม่เหมือนกันนะ ยังดูเนียนกว่า ไสหัวเลยครับ... บางช่วงของไสหัว ก็หนืดมากๆ...ในขณะที่บางช่วงก็ห้วนสุด...เห็นได้ชัดที่สุด คือฉากต่อสู้กันระหว่างแม่ค้าไก่ย่าง กับ ผีน้ำแข็งไสอ่ะ...
- โครงเรื่อง และบทอ่ะครับ... ตอนต้นอืดมาก... พูดไรกันก็ไม่รู้ เหมือนจะวิพากษ์สังคมพิกล แต่ก็ไม่ค่อยถึงพ๊อยท์เท่าไหร่ (ความเห็นส่วนตัวล้วนๆนะครับ...มองผ่านสายตาของคนที่เรียนสายสังคมมาอ่ะ) แต่ตอนหลังไม่ต้องพูดถึง มันส์ๆๆๆๆ แสดงให้เห็นว่า ตัวผู้เขียนบท ยังขาดการใส่ประเด็นลงไปในเนื้อเรื่อง หรือพยายามใส่แหละ แต่มันยังไม่โดน ถ้าประเด็นนั้น เป็นประเด็นที่ผู้เขียนบทไม่ถนัด ... ฉะนั้น จึงอยากเสนอแนะให้ผู้เขียนบทหาวิธีกระฉากคนดู ให้ติดกับหนังผ่านทางบทให้ได้มากกว่านี้ อาจจะศึกษาประเด็นที่เกี่ยวกับบท ที่ตนไม่ถนัดเพิ่มเติม หรือพัฒนาสกิลด้านนี้ด้วยวิธีอื่นวิธีใดก็แล้วแต่ครับ...
(คุณ PB สมาชิกบอร์ดคริสทิน่า อากิเรล่า / นศ. มช.)
-------------------------------------------------------
เกร็ด:
- นี้เป็นหนังเรื่องแรกของข้าพเจ้าในฐานะผู้กำกับ
- นี้เป็นงานเดี่ยว ที่นักศึกษา ฟิลม์ ลาดกระบัง ต้องทำตอนปี 2 (สำหรับเ้รา เราคิดว่าเป็นอะไรที่ยาก และท้าทายมากอ่ะ เรียนมาไม่กี่ปี ต้องทำงานเดี่ยวแล้ว....)
- ภาพยนตร์ที่เป็นแรงบันดาลใจในการสร้างหนังเรื่องนี้คือ The Hill Have Eyes[remake] / Dawn of the Dead / Suspiria
- ทุกฉากในหนังเรื่องนี้ ถ่ายในเขต ลาดกระบัง ทั้งหมด
- นักแสดงพระเอก คือ เพื่อนคนละสาขา / นางเอก คือ เพื่อนสนิท เรียนมัธยมที่เดียวกัน แต่มหาลัยคนละที่ / เด็กสองคนในเรื่อง คือ ลูกพี่ลูกน้อง / ผู้หญิงอีกคนที่ซักผ้า คือ เพื่อนเอกเดียวกัน
- ถ่าย 6 วัน รวมระยะเวลาตั้งแต่พรีโพรงานจนถึงเสร็จเป็นหนังหมดงบไปประมาณ 5000+
- ถ้าเอาหนังเรื่องนี้มากางออก จาก 20 นาที จะพบว่า แม่งหนังคนละม้วนชัดๆ 10 นาทีแรกซีเรียส และดูเป็นหนังเพื่อสังคม ส่วน 10 นาทีหลังเวอร์และบ้าไปแล้ว
- เป็นความต้องการของผกก. เนื่องจากตอนนั้นยังอ่อนด๋อย กลัวอาจารย์ด่าว่าทำหนังสยอง (อาจารย์ไม่ชอบหนังสยอง) เลยต้องพยายามยัดเยียดประเด็นเพื่อสังคมเข้าไปให้ดูน่าสนใจ ปลอดภัยเวลาพรีเซนต์ แต่ทำไปทำมาชักมันส์มือ เริ่มไม่แคร์ ผลสุดท้ายจึงออกมาเป็น 10 นาทีหลังที่อลังการความเละตุ้มเป๊ะ นั้นแหละ
- อาจารย์เลยประทานเกรด C+ ให้ เพราะความบ้าพิกลพิการแบบตลกแดก แถใส่ไร้เหตุผล รวมทั้งถ่ายออกมาภาพก็ไม่สวย บันทึกเสียงไม่ดี ตัดต่อแย่ จัดแสงห่วย แย่มากกกก.... (ทั้งนี้เพราะตูส่งงานเลทด้วย)
- แต่ผกก. ชอบผลงานเรื่องนี้มากกว่าเก้าอี้พิศวาส เพราะไสหัวไปตายซะ มันอิสระกว่าในการคิด และมันแสดงถึงตัวตนบางอย่างในการทำงานของเราออกมาแบบหน้าด้านๆ
- หนังเรื่องนี้จะออกมาไม่ได้เลยถ้าขาด เพื่อนๆที่มาช่วยกันคนละนิดคนละหน่อย ที่สำคัญคือคุณพ่อ คุณแม่ ที่ออกค่าใช้จ่าย และช่วยขนของ หาพร๊อพมาให้ (โดยเฉพาะรถเข็นไก่ย่าง / รถเข็นน้ำแข็งไส นี้แหละ)
ฉายวันที่ 10 มกราคม
เวลา 18.30
(ควรเข้าเลทซัก 5 นาที เพื่อจะได้ไม่ต้องเห็นอะไรบางอย่าง เหอๆ)

เรื่องย่อ:
บึง ชายหนุ่มขายน้ำแข็งไส ฐานะยากจน อาศัยอยู่กับเมียที่ขายไก่ย่าง และลูกสาวที่อยากกินไก่เคเอฟซี ด้วยความอัตคัตทางการเงิน ทำให้บึงตัดสินใจใช้น้ำหวานปลอมไม่ได้คุณภาพอ.ย. ขายน้ำแข็งไส ซึ่งเค้าไม่รู้ตัวเลยว่าการตัดสินใจครั้งนี้ จะส่งผลที่รุนแรงสุดสยองอย่างคาดไม่ถึง
------------------------------------------------------
คำวิจารณ์จากนักวิจารณ์ และผู้ชมที่ได้รับชมมาแล้ว
(ขออนุญาตแก้บางประโยค เพื่อไม่ให้ spoil คนที่ยังไม่ได้ดู)
A++++) ชายหนุ่มมีลูกเมียบ้านจน เครียดวิกฤติเศรษฐกิจ เมียขายไก่ย่าง พระเอกขายน้ำแข็งใสรถเข็น ขาดทุน น้ำหวานขวดก็แพง .... เพื่อนเขาจึงเอาน้ำหวานเถื่อนของปลอม มาให้ ซึ่งพระเอกก็ขายไป สรุปว่า ใครกินน้ำหวานนั้นเข้าไป กลายเป็นปีศาจ ฆ่าคน และตามมาล่าแค้นครอบครัวพระเอก!!!
หนังเรื่องนี้ คัลท์ มากๆๆ อย่างแรง ครึ่งแรก ดูคุยกันเรื่อง เศรษฐกิจแย่ จน ขายไม่ดี ลูกอยากกิน KFC ดูกึ่งๆซีเรียส ก็ไม่รู้จะมีลูกบ้าไร แต่พอเข้าครึ่งหลัง ปีศาจโผล่ (มากะเมคอัพเยิ้มๆน่าเกียจเต็มพิกัด) หนังกลายเป็นความบ้าคลั่ง ฮาสุดๆ มันบ้าจริงๆ หนังตั้งใจทำอารมณ์แบบหนังเกรดบีโง่ๆ ทุนต่ำ ถ่ายแบบไม่ปราณีต (แบบงานเก่า ของ ผกก คือ เก้าอี้พิศวาส ซึ่งอันนั้นจะดูปราณีต) แต่มันดูแล้วบันเทิงบ้ามาก
ฉากที่น่าจดจำ พระเอกโดนปีศาจ จับ******แบบ ภาพปลอมๆเหมือนใช้ flash!!
[จาก อัลวา ริตศิลา (ผกก.หนังสั้น)]
(3/5)
บาง จังหวะของเรื่องดูช้าเกินไป และในบางจังหวะมันก็เหวอเกินไปเหมือนกับถ่ ายมาไม่ครบ ภาพแสงโดดแบบไม่ตั้งใจเยอะ ซึ่งงานชิ้นต่อมา (เก้าอี้พิศวาส)ก็ทำออกมาได้ดีทีเดียว
[พัชร เอี่ยมตระกูล (ผกก.หนังสั้น / นศ. ม.กรุงเทพ)]
(B)
โดยรวมยังไม่ลงตัวเท่าไหร่ แต่ชอบฉากสุดท้ายมากๆ เป็นการแถเข้ากับชื่อเรื่องที่ได้ใจจริงๆ
[Nanoguy (นักวิจารณ์ภาพยนตร์นิตยสาร Starpics)]
ชอบฉากเครื่องซักผ้า
[merveillesxx ((นักวิจารณ์ นักเขียนไบโอสโคป + ผกก.หนังสั้น + บล๊อกเกอร์ชื่อดัง))]
B+
ฉากเครื่องซักผ้าเยี่ยมมาก นอกนั้นโอเค แต่เสียอยู่ 3-4 จุด ในเรื่องของงานเทคนิคที่น่าจะใช้วิธีทำสดๆ หน้ากล้องมากกว่าโปรแกรม After Effects และแม่ค้าขายไก่ย่างขาวเกินจะเป็นแม่ค้า
[วิชชา สุยะลา ผกก.หนังสั้น]
เดิน เรื่องอืดไปหน่อย อาจเป็นเพราะต้องอธิบายอะไรทางวิชาการหรือ เปล่า (ถ้าผิดพลาดขออภัยด้วยนะครับ) แต่ตอนท้ายๆมันส์ดีครับ ชอบจริงๆ ชอบฉากแอ็คชั่นมาก อยากดูฉากแอ็คชั่นอีกเยอะๆ 5555 ชอบฉากเครื่องซักผ้าาา ชอบคนที่เล่นเป็นปิศาจน้ำแข็งไสด้วย ถึงอารมณ์มากกก
[คุณ jane-jud (นศ.ภาพยนตร์)]
หนึ่งทำหนังตลกเหรอ
5555+
[ปาล์ม รุ่นพี่ต่างคณะ]
โดยรวมแล้ว ก็งง ๆ แต่ก็โอเค คือตอนยังไม่ได้ดูก็พอจะรู้นะ ว่าจะโยงเข้าชื่อเรื่องยังไง
บางฉากก็ตั้งใจไปนะ ชอบที่สุดก็ฉากเครื่องซักผ้าอะ แต่มันก็ยังไม่แรงพอจะเป็นไคลแมกได้
เออ ชอบมุมกล้องแต่ไม่ชอบการเคลื่อนไหวกล้องอะ ดูแล้วปวดหัว
แล้วแสงก็โดดเร็วไป อันที่จิงน่าจะเป็นสีภาพมากกว่านะ เพราะหนึ่งน่าจะใช้เอฟเฟกช่วย ในขณะที่จะทำกลางวันให้เป็นกลางคืน จิงแล้วชอบอารมณ์ภาพอารมณ์เรื่อง ของเก้าอี้พิสวาทมากกว่า อะ
(เจ๊ทิพย์ บอร์ดคริสทิน่า อากิเรล่า)
ถ้าเข้าใจไม่ผิด...หนังแบบนี้ เรืยกว่าหนังคันท์ ใช่ไหมครับ....
แล้วถ้าเข้าใจไม่ผิด...เรื่องนี้ เป็นผลงานก่อนเก้าอี้พิศวาส ใช่ป่ะ....
เพราะถ้าเรื่องนี้ เป็นผลงาน ทีหลังเก้าอี้พิศวาส...
กราฟพัฒนาผลงานของผู้กำกับ คงเป็นติดลบอ่ะครับ...
อนุมานว่า เรื่องนี้ เป็นผลงานก่อนเก้าอี้ แล้วกันนะ...
ข้อบกพร่องหลายๆอย่างของเรื่องนี้ ถูกแก้ไขในเก้าอี้อ่ะ....
ทำให้รู้สึกรักเก้าอี้ มากขึ้น หลังจากที่ดูไสหัวจบ...
สิ่งที่ดีที่สุด 3 อย่างของไสหัว...ก็คือ...
- ฉากเครื่องซักผ้า...คิดได้อ่ะ...ภาพสวยด้วย...
- แม่ค้าไก่ย่าง... แม้ไม่ใช่ตัวเดินเรื่อง แต่พลังของเธอกรุ่นอยู่เต็มเปี่ยมในหนังเรื่องนี้ บดบังนักแสดงทุกคนจนหมด....
- ผีน้ำแข็งไส...ดีไซด์คาแรกเตอร์ได้บรรเจิดดี...คิดว่าถ้ามีงบมากกว่านี้ คงสามารถแสดงศักยภาพทางความคิดสร้างสรรค์ได้เต็มที่กว่าที่เป็นอยู่....
สิ่งที่ไสหัว บกพร่องไป และมันก็ทำให้หนังไม่สนุกอย่างที่ควรจะเป็น (มันสนุกนะ...แต่น่าจะสนุกมากกว่านี้อ่ะ..)
- เสียงของเรื่องครับ...บางช่วงดัง บางช่วงเบา...เบาจนไม่รู้เรื่องว่าพูดเหี้ยไรกัน...
- การตัดต่อ...ขาดๆเกินๆพิกล...เทียบกับเก้าอี้แล้ว เก้าอี้เนียนกว่าเยอะเลย ขนาดมีการรีมาสเตอร์ แล้วฟิล์มไม่เหมือนกันนะ ยังดูเนียนกว่า ไสหัวเลยครับ... บางช่วงของไสหัว ก็หนืดมากๆ...ในขณะที่บางช่วงก็ห้วนสุด...เห็นได้ชัดที่สุด คือฉากต่อสู้กันระหว่างแม่ค้าไก่ย่าง กับ ผีน้ำแข็งไสอ่ะ...
- โครงเรื่อง และบทอ่ะครับ... ตอนต้นอืดมาก... พูดไรกันก็ไม่รู้ เหมือนจะวิพากษ์สังคมพิกล แต่ก็ไม่ค่อยถึงพ๊อยท์เท่าไหร่ (ความเห็นส่วนตัวล้วนๆนะครับ...มองผ่านสายตาของคนที่เรียนสายสังคมมาอ่ะ) แต่ตอนหลังไม่ต้องพูดถึง มันส์ๆๆๆๆ แสดงให้เห็นว่า ตัวผู้เขียนบท ยังขาดการใส่ประเด็นลงไปในเนื้อเรื่อง หรือพยายามใส่แหละ แต่มันยังไม่โดน ถ้าประเด็นนั้น เป็นประเด็นที่ผู้เขียนบทไม่ถนัด ... ฉะนั้น จึงอยากเสนอแนะให้ผู้เขียนบทหาวิธีกระฉากคนดู ให้ติดกับหนังผ่านทางบทให้ได้มากกว่านี้ อาจจะศึกษาประเด็นที่เกี่ยวกับบท ที่ตนไม่ถนัดเพิ่มเติม หรือพัฒนาสกิลด้านนี้ด้วยวิธีอื่นวิธีใดก็แล้วแต่ครับ...
(คุณ PB สมาชิกบอร์ดคริสทิน่า อากิเรล่า / นศ. มช.)
-------------------------------------------------------
เกร็ด:
- นี้เป็นหนังเรื่องแรกของข้าพเจ้าในฐานะผู้กำกับ
- นี้เป็นงานเดี่ยว ที่นักศึกษา ฟิลม์ ลาดกระบัง ต้องทำตอนปี 2 (สำหรับเ้รา เราคิดว่าเป็นอะไรที่ยาก และท้าทายมากอ่ะ เรียนมาไม่กี่ปี ต้องทำงานเดี่ยวแล้ว....)
- ภาพยนตร์ที่เป็นแรงบันดาลใจในการสร้างหนังเรื่องนี้คือ The Hill Have Eyes[remake] / Dawn of the Dead / Suspiria
- ทุกฉากในหนังเรื่องนี้ ถ่ายในเขต ลาดกระบัง ทั้งหมด
- นักแสดงพระเอก คือ เพื่อนคนละสาขา / นางเอก คือ เพื่อนสนิท เรียนมัธยมที่เดียวกัน แต่มหาลัยคนละที่ / เด็กสองคนในเรื่อง คือ ลูกพี่ลูกน้อง / ผู้หญิงอีกคนที่ซักผ้า คือ เพื่อนเอกเดียวกัน
- ถ่าย 6 วัน รวมระยะเวลาตั้งแต่พรีโพรงานจนถึงเสร็จเป็นหนังหมดงบไปประมาณ 5000+
- ถ้าเอาหนังเรื่องนี้มากางออก จาก 20 นาที จะพบว่า แม่งหนังคนละม้วนชัดๆ 10 นาทีแรกซีเรียส และดูเป็นหนังเพื่อสังคม ส่วน 10 นาทีหลังเวอร์และบ้าไปแล้ว
- เป็นความต้องการของผกก. เนื่องจากตอนนั้นยังอ่อนด๋อย กลัวอาจารย์ด่าว่าทำหนังสยอง (อาจารย์ไม่ชอบหนังสยอง) เลยต้องพยายามยัดเยียดประเด็นเพื่อสังคมเข้าไปให้ดูน่าสนใจ ปลอดภัยเวลาพรีเซนต์ แต่ทำไปทำมาชักมันส์มือ เริ่มไม่แคร์ ผลสุดท้ายจึงออกมาเป็น 10 นาทีหลังที่อลังการความเละตุ้มเป๊ะ นั้นแหละ
- อาจารย์เลยประทานเกรด C+ ให้ เพราะความบ้าพิกลพิการแบบตลกแดก แถใส่ไร้เหตุผล รวมทั้งถ่ายออกมาภาพก็ไม่สวย บันทึกเสียงไม่ดี ตัดต่อแย่ จัดแสงห่วย แย่มากกกก.... (ทั้งนี้เพราะตูส่งงานเลทด้วย)
- แต่ผกก. ชอบผลงานเรื่องนี้มากกว่าเก้าอี้พิศวาส เพราะไสหัวไปตายซะ มันอิสระกว่าในการคิด และมันแสดงถึงตัวตนบางอย่างในการทำงานของเราออกมาแบบหน้าด้านๆ
- หนังเรื่องนี้จะออกมาไม่ได้เลยถ้าขาด เพื่อนๆที่มาช่วยกันคนละนิดคนละหน่อย ที่สำคัญคือคุณพ่อ คุณแม่ ที่ออกค่าใช้จ่าย และช่วยขนของ หาพร๊อพมาให้ (โดยเฉพาะรถเข็นไก่ย่าง / รถเข็นน้ำแข็งไส นี้แหละ)
แก้ไขล่าสุด: 8/1/2553 23:45 โดย AguileraAnimato
กร๊ากกกกกกกกกก!! ยังจดจำ ไสหัวไปตายซะได้ดี
แกแถเก่งพอๆกะฉันแหละว้า 555555555+
ไปดูๆๆๆๆๆ ชัวร์ๆ วันอาทิตย์ไปแน่ วันเสารืยังไม่แน่นอน เพราะมีธุระเช้า ถ้าเสร็จธุระไวก็จะไป ใครไปกะหนมปังมั้ย ได้นัดแนะกัน หาเพื่อนไปเดินเหล่ปู้ชายจุฬา กร๊ากๆๆๆ
มะช่าย แบบว่าไปจุฬาแล้วหลง ได้หาคนนำทาง อิอิ
ปีหน้าฉันไปปล่อยของภาพนิ่งมั่งดีฟ่า ดีไม่ดีตรูไม่รู้ ตรูจะปล่อย 5555
แกแถเก่งพอๆกะฉันแหละว้า 555555555+
ไปดูๆๆๆๆๆ ชัวร์ๆ วันอาทิตย์ไปแน่ วันเสารืยังไม่แน่นอน เพราะมีธุระเช้า ถ้าเสร็จธุระไวก็จะไป ใครไปกะหนมปังมั้ย ได้นัดแนะกัน หาเพื่อนไปเดินเหล่ปู้ชายจุฬา กร๊ากๆๆๆ
มะช่าย แบบว่าไปจุฬาแล้วหลง ได้หาคนนำทาง อิอิ
ปีหน้าฉันไปปล่อยของภาพนิ่งมั่งดีฟ่า ดีไม่ดีตรูไม่รู้ ตรูจะปล่อย 5555
อยากดูช่วงนี้ไม่ค่อยว่างเลย
ยังไม่ได้ดู A Neangly Fairytale~BREAKDOWN: side story~ เลยอะ น้ำหนึ่ง
...
เทพมังกรอวยชัยจ้าาา
...
...
เทพมังกรอวยชัยจ้าาา
...

A Neangly Fairytale ~BREAKDOWN: side story~
ฉาย 10 ม.ค.
เวลา 18.00
เรื่องย่อ:
อะไรจะเกิดขึ้น เมื่อโปรเจคถ่ายภาพยนตร์ของข้าพเจ้า ล่มไม่เป็นท่า นี้คือหนังทดลองที่บันทึกเอาความรู้สึก ณ ตอนนั้นไว้
เรื่องนี้ยังไม่มีคอมเมนท์ไรมากเท่าไร เพราะไม่เคยเอาไปฉายงานไหน นอกจากในห้องเรียน (มันเป็นงานส่งคลาสหนังทดลองอ่ะ)
แต่ก็จะมีคอมเมนท์ประมาณว่า
-เฟคว่ะ
-ยาวเกิน ขี้เกียจดู+ฟัง
-มุมกล้องปวดหัวได้อีก
-ถ้าตัดเหลือ 5-10 นาที จะทรงพลังมากๆ นี้มันเวิ่นเว้อเกิน (แต่ก็ดูเป็นตัวคนทำดีนะ)
แต่บางคนที่ชอบก็จะพูดว่า
-เป็นงานทดลองที่น่าสนใจดี มีการนำเสนอที่เข้าใจใช้เรื่องของช่วงเวลามาสนับสนุนกัน
-มันสนุกตรงที่ได้คิดว่าที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องจริง หรือความตอแหล่กันแน่
-เป็นอะไรที่ส่วนตัวมากๆ ถ้าไม่รู้จักไอ้คนในหนัง คงรำคาญและขี้เกียจดูแน่ๆ แต่เผอิญว่าเรารู้จัก เราถึงสนใจจะดูต่อไปจนจบ แล้วมันเพลินมาก เหมือนฟังเพื่อนคนนึงกำลังระบายความในใจให้ฟัง
คงต้องไปตัดสินกันเองล่ะนะ
ย้ำอีกทีว่าทุกเรื่องฉายที่ ห้องประชุม ดร.เทียม โชควัฒนา คณะนิเทศศาสตร์
ใครจะไปก็ไปได้เลยยย ไม่ต้องนัดเราหรอก เพราะเราไปอยู่แล้ว ถ้าเจอกันก็ทักกันนะ เดี๋ยวมา Q&A กันไป หาของอร่อยกินกันไป
ฉาย 10 ม.ค.
เวลา 18.00
เรื่องย่อ:
อะไรจะเกิดขึ้น เมื่อโปรเจคถ่ายภาพยนตร์ของข้าพเจ้า ล่มไม่เป็นท่า นี้คือหนังทดลองที่บันทึกเอาความรู้สึก ณ ตอนนั้นไว้
เรื่องนี้ยังไม่มีคอมเมนท์ไรมากเท่าไร เพราะไม่เคยเอาไปฉายงานไหน นอกจากในห้องเรียน (มันเป็นงานส่งคลาสหนังทดลองอ่ะ)
แต่ก็จะมีคอมเมนท์ประมาณว่า
-เฟคว่ะ
-ยาวเกิน ขี้เกียจดู+ฟัง
-มุมกล้องปวดหัวได้อีก
-ถ้าตัดเหลือ 5-10 นาที จะทรงพลังมากๆ นี้มันเวิ่นเว้อเกิน (แต่ก็ดูเป็นตัวคนทำดีนะ)
แต่บางคนที่ชอบก็จะพูดว่า
-เป็นงานทดลองที่น่าสนใจดี มีการนำเสนอที่เข้าใจใช้เรื่องของช่วงเวลามาสนับสนุนกัน
-มันสนุกตรงที่ได้คิดว่าที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องจริง หรือความตอแหล่กันแน่
-เป็นอะไรที่ส่วนตัวมากๆ ถ้าไม่รู้จักไอ้คนในหนัง คงรำคาญและขี้เกียจดูแน่ๆ แต่เผอิญว่าเรารู้จัก เราถึงสนใจจะดูต่อไปจนจบ แล้วมันเพลินมาก เหมือนฟังเพื่อนคนนึงกำลังระบายความในใจให้ฟัง
คงต้องไปตัดสินกันเองล่ะนะ
ย้ำอีกทีว่าทุกเรื่องฉายที่ ห้องประชุม ดร.เทียม โชควัฒนา คณะนิเทศศาสตร์
ใครจะไปก็ไปได้เลยยย ไม่ต้องนัดเราหรอก เพราะเราไปอยู่แล้ว ถ้าเจอกันก็ทักกันนะ เดี๋ยวมา Q&A กันไป หาของอร่อยกินกันไป

ท่านเมพหายไปไหนมาเนี้ยยยย
หายไปนานเลยนะ
หายไปนานเลยนะ
รู้แค่ว่า "ห้องรกนะ" = ='''
...
...
ว้าว ปีเตอร์ แจ๊คสันของไทย กำเนิดแล้ว
เกินไปนะฮ่ะ....คุณเคราฮึ้ม
ขอเป็นแค่ เจมส์ คาเมร่อน เมืองไทยก็พอ
(พูดจบรองเท้าแตะเปื้อนขี้หมาก็ลอยขึ้นมาโดนหน้า)
เอ๊ย ขอเป็นลูกหลานดาริโอ อาร์เจนโต้ว ก็พอจ้ะ
ขอเป็นแค่ เจมส์ คาเมร่อน เมืองไทยก็พอ
(พูดจบรองเท้าแตะเปื้อนขี้หมาก็ลอยขึ้นมาโดนหน้า)
เอ๊ย ขอเป็นลูกหลานดาริโอ อาร์เจนโต้ว ก็พอจ้ะ
น่าดูแฮะ ^__^
ส่วนตัวนะ
สำหรับเก้าอี้ฯ
เรื่องนี้ภาพสวย ซาวด์ดี ชอบแนวคิดมันอ่ะ ตอนที่อ่านจดหมายหลอนจริงๆ ลุ้นๆอยู่ว่าหนึ่ง(แม่ง) จะเล่นอะไรวะ
555 อันนี้โดยรวมโอเค เอาไปโชว์หน้าม่านได้เลย
สำหรับไสหัวฯ
(ขออนุญาตหยาบนะ) หนังแม่งบ้า หนังคัลท์เกรดบีีบ้าๆบวมๆ แต่มันดูแล้วเห็นหน้าหนึ่งว่ะ (แบบนี้เรียกว่าลายเซนต์ใช่ไหม) ตัวหนังแม่งขาดๆ เกินๆ แต่พี่เสือกชอบว่ะ เอาแบบนี้แหละ ชัดเจนดี ตอนจบแถได้อีก (แม่ง เล่นงี้เลยหรอ กล้าว่ะ 555)
อีกเรื่องไม่ได้ดู ความคิดหนึ่งมันสดว่ะ มันเป็นความคิดดิบๆ อันนี้แหละวัตถุดิบชั้นดี ลองไปเรื่อยๆนะ อยากเห็นผลงานแบบสุดโต่งซักเรื่อง ถ่ายจบแล้วเก็บไว้เลย ใครจะว่าไงช่างเค้า เอาไว้ให้จดจำว่านี่แหละตัวกู ณ ช่วงเวลานั้น สู้ๆ
เป็นกำลังใจให้นะน้อง
สำหรับเก้าอี้ฯ
เรื่องนี้ภาพสวย ซาวด์ดี ชอบแนวคิดมันอ่ะ ตอนที่อ่านจดหมายหลอนจริงๆ ลุ้นๆอยู่ว่าหนึ่ง(แม่ง) จะเล่นอะไรวะ
555 อันนี้โดยรวมโอเค เอาไปโชว์หน้าม่านได้เลย
สำหรับไสหัวฯ
(ขออนุญาตหยาบนะ) หนังแม่งบ้า หนังคัลท์เกรดบีีบ้าๆบวมๆ แต่มันดูแล้วเห็นหน้าหนึ่งว่ะ (แบบนี้เรียกว่าลายเซนต์ใช่ไหม) ตัวหนังแม่งขาดๆ เกินๆ แต่พี่เสือกชอบว่ะ เอาแบบนี้แหละ ชัดเจนดี ตอนจบแถได้อีก (แม่ง เล่นงี้เลยหรอ กล้าว่ะ 555)
อีกเรื่องไม่ได้ดู ความคิดหนึ่งมันสดว่ะ มันเป็นความคิดดิบๆ อันนี้แหละวัตถุดิบชั้นดี ลองไปเรื่อยๆนะ อยากเห็นผลงานแบบสุดโต่งซักเรื่อง ถ่ายจบแล้วเก็บไว้เลย ใครจะว่าไงช่างเค้า เอาไว้ให้จดจำว่านี่แหละตัวกู ณ ช่วงเวลานั้น สู้ๆ
เป็นกำลังใจให้นะน้อง
น่าจะเอามาฉายในห้อง Horror film นะ.....ไม่มีเวลาตามไปดูถึงจุฬา
ปล. ชอบ รัมโป เหมือนกัน
ปล. ชอบ รัมโป เหมือนกัน
เคยดูทั้ง สามเรื่อง แต่ในดู ในยูทูป
ชอบทุกเรื่อง แต่ชอบไสหัวไปตายซะ มากสุด
Function Used time : 0:00:00:00.015