สกู๊ปพิเศษ………..เรื่องเล่าโรงตัดหัวหอมร้างซอย 12 ศรีภูวนารถ

by samara17520 • วันอาทิตย์ที่ 3 มกราคม พ.ศ. 2553 22:29
สกู๊ปพิเศษ………..เรื่องเล่าโรงตัดหัวหอมร้างซอย 12 ศรีภูวนารถ

เป็นเวลานานเกือบ 30 ปีมาแล้วที่เหตุการณ์ในครั้งนั้นยังคงอยู่ในความทรงจำของชาวบ้านซอย 12 ถนนศรีภูวนารถ คุณ พ.(พี่สาว) และคุณ น.(น้องชาย) 2 พี่น้องจากจังหวัดเชียงรายดั้นด้นเดินทางจากดินแดนเกือบเหนือสุดของสยามประเทศ เข้ามาหางานทำในจังหวัดสงขลาอย่างมีความหวัง พี่สาวได้งานขายหมู-ทำเขียงหมูอยู่ที่ตลอดสด(หน้าหอนาฬิกา) ส่วนน้อยชายมาเป็นลูกจ้างโรงตัดหัวหอมในซอยดังกล่าว ทำงานอยู่หลายปีจนกระทั่งอยู่มาวันหนึ่งขณะที่ฝ่ายน้องชายกำลังทำงานอยู่หน้าโรงตัดหัวหอม ยืนอยู่ตรงกลางประตูเหล็กบานใหญ่ทางเข้าออกพอดิบพอดี………ประตูเหล็กกำลังหลุดออกมาจากล็อกของมัน และกำลังจะล้มลงมาทับชายหนุ่มผู้เคราะห์ร้าย เพื่อนๆที่เห็นเหตุการณ์(เพื่อนๆคนใต้)ต่างร้องตะโกนเสียงดัง………..“ ปากตูมันอีหล่นทับหมึงแล๊ว หล๊บเร็วเพื่อน!!! ” (ประตูมันหลุดออกมาแล้ว จะทับคุณแล้วรีบหนีออกมาเร็วๆ) แต่…………….ดูเหมือนว่าหนุ่มชาวเชียงรายจะฟังภาษาใต้ไม่รู้เรื่องเลยได้แต่ยืนทำหน้างงกับคำพูดของเพื่อนๆที่กำลังตะโกนใส่ด้วยสีหน้าตกใจสุดขีดพร้อมกับโศกนาฏกรรมที่ตามมาในไม่ช้า เล่าลือกันว่าร่างของชายคนดังกล่าวแหลก เละ เลือดนองพื้นจนแทบจำโครงเนื้อเดิมไม่ได้ กาลเวลาล่วงเลยผ่านนานมาหลายปีชาวบ้านเขาเล่าลือกันอีกว่าตั้งแต่ชายคนดังกล่าวตาย ในโรงตัดหัวหอมมักมีอะไรแปลกๆ……………จวบจนเกิดภาวการณ์บางอย่างที่ทำให้ต้องปิดโรงตัดหัวหอมดังกล่าวอย่างไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัด(เดาเอาว่าอาจจะมาจากภาวะทางเศรษฐกิจตกสะเก็ดก็เป็นได้) จนครั้งหนึ่งมีพระมาปักกรดอยู่ใกล้ๆกับบริเวณนั้นท่านได้พูดบอกเอาไว้ว่า…….“ข้างในนี้มีบางสิ่งบางอย่างสิงสถิตอยู่ ผู้เกี่ยวข้องควรทำบุญอุทิศส่วนบุญส่วนกุศลไปให้ เขาจะได้ไปเกิดเสียที” แต่ดูเหมือนว่าจะไม่มีใครสนใจกันเสียเท่าไหร่กับคำพูดของท่าน ต่อมาราวปี พ.ศ. 2545(ประมาณ)ปรากฏว่าโรงตัดหัวหอมได้เจ้าของคนใหม่เข้ามาดูแลกิจการ มีการเปิดตัด-เก็บหัวหอม และผลลำไยเหมือนเมื่อคราวอดีต ภายในโรงงานก็เปิดให้ลูกน้อง-คนงานเข้าไปพักอาศัย จนมีเสียงเล่าลือจากคนงาน ปากต่อปากจนแพร่กระจายไปเป็นวงกว้างว่าข้างในโรงตัดหัวหอมแห่งนี้มีผีสิง!!! หลายคนโดนหลอกมาแบบจะๆ หลายคนเจอเข้าฝัน หลายคนมาเข้าห้องน้ำแล้วเจอคนเคาะประตูกลางดึก แต่พอเปิดออกมาก็ไม่เจอใคร หลายคนเจอเงาประหลาดเดินไปมาภายในโรงตัดหัวหอม พอมองให้ดีๆ นานๆ เงาดังกล่าวก็จะหายไป!!! เรื่องไปเข้าหูเจ้าของโรงตัดหัวหอมเข้า……..เขาไม่เชื่อว่าภายในโรงตัดหัวหอมจะมีผีสิงอยู่ เขาและครอบครัวเลยจะลองเข้ามานอนในโรงหัวหอมดูสักคืน!!!
เช้านี้……….แสงทองของดวงตาวันเริ่มถัดทอเป็นสีอ่อนๆให้ได้แย้มเห็น เช้านี้ผู้เขียนต้องรีบตื่นตั้งแต่เช้ามืดเพื่อนเอารายงานการวิจัย-หัวข้อเกี่ยวกับความเชื่อทางพิธีกรรมโบราณไปส่งให้อาจารย์ประจำภาควิชาภาษาตะวันออกท่านหนึ่ง ตื่นขึ้นมาก็อาบน้ำแต่งตัว จัดเอกสารงาน ทานอาหารเช้าและ….ดูทีวี(ข่าวเช้า)เสียสักหน่อยพลางจิบกาแฟแก้วขมแก้วประจำที่ไม่เคยเปลี่ยนภาชนะใส่เลยตลอด 10 ปีที่ผ่านมา เรียกว่าหากถูกใจก็ใช้จนพัง(ฮา) จวบจนเสียงกริ่งประตูดังอยู่ 2-3 ครั้งเลยไปเปิดประตูดูว่าใครมาเยี่ยม(ตอน 6 โมงเช้านี่นะ) ภาพที่ได้เห็นคือคุณยายข้างบ้านมาขอใบกล้วย 2-3 ใบเพื่อเอาไปทำอะไรบางอย่าง ผมจัดแจ้งให้ไปพร้อมกับให้แกไปจัดการตัดหาอาเอง หลังจากแกได้ใบกล้วยแล้วแกเลยเดินดุ่มๆไปทางโรงตัดหัวหอม มาเอะใจอีกทีตอนกลับมาจากเอารายงานไปฝากเพื่อนที่หน้าปากซอย 14 ราวช่วงสายๆได้ยินเสียงสวดมนต์เสียงดัง เลยไปแอบดู เดาเอาเองว่าน่าจะดังมาจากทางโรงตัดหัวหอมแต่ไม่รู้ว่าเป็นงานอะไร(รู้แต่ว่าพระสวดเสียงดังมาก) วันสองวันต่อมาได้เจอยาย(คนเดิม)เลยถามประสาคนขี้สงสัยพอได้ความว่า เจ้าของโรงตัดหัวหอมไม่เชื่อในเรื่องที่ลูกน้อง-คนงานของแกเล่าให้ฟังว่าในโรงตัดหัวหอมมีผีสิง แกเลยพาครอบครัวเข้าไปทดลองนอน-อาศัยในโรงตัดหัวหอมดู ปรากฏในคืนนั้นเอง(ทั้งคืน)ครอบครัวของแกนอนไม่หลับทั้งคืน ทั้งเสียงเคาะประตู เงาประหลาดที่เดินไปมาภายในโรงตัดหัวหอม เสียง กลิ่นแปลกๆที่หาที่มาที่ไปไม่ได้ พอตอนรุ่งเช้าเลยตัดสินใจขอช่วยให้ยายไปนิมนต์พระจากวัดคลองเรียนมาทำพิธีปัดเป่า-ปัดรังควาน สวดมนต์ให้…………….สรุปว่าเมื่อคืนนี้ไม่ธรรมดา!!!
ผ่านไปอีกหลายเดือนปรากฏโรงตัดหัวหอมปิดกิจการลงอีกครั้งหนึ่ง ข่าวแว่วตามลมบนมาว่าเจ้าของโรงตัดหัวหอมไปเกิดเหตุอันไม่พึงประสงค์บางอย่างที่ประเทศมาเลเซีย ทำให้ต้องปิดกิจการลงอีกครั้งหนึ่ง โรงตัดหัวหอมดังกล่าวเลยกลายเป็นโรงตัดหัวหอมร้างแต่บัดนั้นจวบจนปัจจุบัน(3 มกราคม 2553)ถามผู้คนที่มีบ้านพักอาศัยอยู่แถวนั้นต่างก็เคยได้รับฟังเรื่องราวแปลกๆจากโรงตัดหัวหอมร้างมาแทบทั้งสิ้น ถึงบริเวณหน้าโรงตัดหัวหอมร้างจะมีแสงไฟจากเสาไฟฟ้าคอยให้แสงสว่าง แต่ยามดึกบริเวณซอยดังกล่าวก็แทบร้างผู้คน ดูเงียบเหงาวังเวงเป็นยิ่ง ยามใดก็ตามที่ผู้เขียนลงไปเข้าห้องน้ำตอนกลางดึก(ต้องลงจากชั้น 2 ของบ้าน)ก็มักจะหันไปแลมองหน้าต่างซอยฝั่งตรงข้ามเสมอๆ ช่างเงียบวิเวกดีแท้ ในใจก็คิดว่า “เขาอยู่ส่วนเขา-เราอยู่ส่วนเราไม่เบียดเบียนกัน” แค่แอบมองดูนะ……ไม่ต้องมาให้เห็นเป็นตัวเป็นตน อยู่ใกล้ๆกันต่างคนต่างอยู่นะเออ(อะไรประมาณนี้)
*****สุดท้ายนี้ผีมีจริงรึเปล่า?...................นั่นสิเห็นหลายคนอยากรู้กันนักทั้งๆที่ปลายทางแห่งชีวิตนั้นไม่มีใครเลี่ยงหลีกได้ สักวันทุกคนย่อมได้รู้เป็นแน่ชัด ลองคิดดูเล่นๆนะกุ้ง หอย ปู ปลา ที่เราๆท่านๆทั้งหลายทานกันเข้าไปนี่มันก็มีวิญญาณ พอมันตายไปมันก็เป็นผีทั้งหมดทั้งสิ้น หากบนโต๊ะกินข้าวของพวกเราจะมีผีกุ้ง หอย ปู ปลา อยู่บนโต๊ะเต็มไปหมดก็คงไม่แปลก ผี คือสิ่งที่มนุษย์ยังไม่รู้ แต่เชื่อเถอะสักวันก็ต้องได้รู้ ไม่มีอะไรจะเป็นความลับไปได้ตลอดกาล…………..สักวัน?


เขียน-เรียบเรียง-ถ่ายภาพประกอบ : คุณาพร.
เว็บไซต์เพื่อศิลปวัฒนธรรมไทยภาคใต้ www.siamsouth.com
ห้องคุยกับคุณาพร. http://www.siamsouth.com/smf/index.php?board=11.0

Replies (20)

#1samara17520 • 3/1/2553 22:32
อันนี้ถ่ายตอน 4 โมงเย็นวันนี้
attachment
#2samara17520 • 3/1/2553 22:33
เช่นกัน
#3samara17520 • 3/1/2553 22:33
นี่ด้วย
attachment
#4samara17520 • 3/1/2553 22:33
อันนี้ถ่ายตอน 6 โมงเย็น
attachment
#5samara17520 • 3/1/2553 22:34
นี่ถ่ายตอน 1 ทุ่มตรง
attachment
#6samara17520 • 3/1/2553 22:34
นี่ด้วย
attachment
#7samara17520 • 3/1/2553 22:34
ส่วนนี่ถ่ายตอน 4 ทุ่ม โคตรเงียบวังเวงเลยซอยนี้..............ดึกๆนานๆจะมีรถผ่านเข้ามาสักคัน
attachment
#8samara17520 • 3/1/2553 22:35
เอ้อ
attachment
#9samara17520 • 3/1/2553 22:35
จบดีกว่า * _ *
attachment
#10samara17520 • 3/1/2553 22:45
ดึกๆโคตรหลอนเลยยยยยย
#11แว่นจัง • 3/1/2553 23:56
ขออนุญาตเรียบเรียงใหม่ค่ะ

เป็น เวลานานเกือบ 30 ปีมาแล้วที่เหตุการณ์ในครั้งนั้นยังคงอยู่ในความทรงจำของชาวบ้านซอย 12 ถนนศรีภูวนารถ คุณ พ.(พี่สาว) และคุณ น.(น้องชาย) 2 พี่น้องจากจังหวัดเชียงรายดั้นด้นเดินทางจากดินแดนเกือบเหนือสุดของสยาม ประเทศ เข้ามาหางานทำในจังหวัดสงขลาอย่างมีความหวัง พี่สาวได้งานขายหมู-ทำเขียงหมูอยู่ที่ตลอดสด(หน้าหอนาฬิกา) ส่วนน้องชายมาเป็นลูกจ้างโรงตัดหัวหอมในซอยดังกล่าว


ทำงานอยู่หลายปีจนกระทั่งอยู่มาวันหนึ่งขณะที่ฝ่ายน้องชายกำลังทำงานอยู่ หน้าโรงตัดหัวหอม ยืนอยู่ตรงกลางประตูเหล็กบานใหญ่ทางเข้าออกพอดิบพอดี………ประตูเหล็กกำลังหลุด ออกมาจากล็อกของมัน และกำลังจะล้มลงมาทับชายหนุ่มผู้เคราะห์ร้าย เพื่อนๆที่เห็นเหตุการณ์(เพื่อนๆคนใต้) ต่างร้องตะโกนเสียงดัง………..“ ปากตูมันอีหล่นทับหมึงแล๊ว หล๊บเร็วเพื่อน!!! ” (ประตูมันหลุดออกมาแล้ว จะทับคุณแล้วรีบหนีออกมาเร็วๆ)

แต่…………….ดูเหมือนว่าหนุ่มชาวเชียงรายจะฟังภาษาใต้ไม่รู้เรื่องเลยได้แต่ยืนทำหน้างงกับคำพูดของเพื่อนๆที่กำลังตะโกนใส่ด้วยสีหน้าตกใจสุดขีดพร้อมกับ โศกนาฏกรรมที่ตามมาในไม่ช้า เล่าลือกันว่าร่างของชายคนดังกล่าวแหลก เละ เลือดนองพื้นจนแทบจำโครงเนื้อเดิมไม่ได้

กาลเวลาล่วงเลยผ่านนานมาหลายปีชาวบ้านเขาเล่าลือกันอีกว่าตั้งแต่ชายคนดัง กล่าวตาย ในโรงตัดหัวหอมมักมีอะไรแปลกๆ……………จวบจนเกิดภาวการณ์บางอย่างที่ทำให้ต้อง ปิดโรงตัดหัวหอมดังกล่าวอย่างไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัด(เดาเอาว่าอาจจะมาจาก ภาวะทางเศรษฐกิจตกสะเก็ดก็เป็นได้)

จนครั้งหนึ่งมีพระมาปักกรดอยู่ใกล้ๆกับบริเวณนั้นท่านได้พูดบอกเอาไว้ว่า …….“ข้างในนี้มีบางสิ่งบางอย่างสิงสถิตอยู่ ผู้เกี่ยวข้องควรทำบุญอุทิศส่วนบุญส่วนกุศลไปให้ เขาจะได้ไปเกิดเสียที” แต่ดูเหมือนว่าจะไม่มีใครสนใจกันเสียเท่าไหร่กับคำพูดของท่าน

ต่อมาราวปี พ.ศ. 2545(ประมาณ)ปรากฏว่าโรงตัดหัวหอมได้เจ้าของคนใหม่เข้ามาดูแลกิจการ มีการเปิดตัด-เก็บหัวหอม และผลลำไยเหมือนเมื่อคราวอดีต ภายในโรงงานก็เปิดให้ลูกน้อง-คนงานเข้าไปพักอาศัย จนมีเสียงเล่าลือจากคนงาน ปากต่อปากจนแพร่กระจายไปเป็นวงกว้างว่าข้างในโรงตัดหัวหอมแห่งนี้มีผีสิง!!!

หลายคนโดนหลอกมาแบบจะๆ หลายคนเจอเข้าฝัน หลายคนมาเข้าห้องน้ำแล้วเจอคนเคาะประตูกลางดึก แต่พอเปิดออกมาก็ไม่เจอใคร หลายคนเจอเงาประหลาดเดินไปมาภายในโรงตัดหัวหอม พอมองให้ดีๆ นานๆ เงาดังกล่าวก็จะหายไป!!!

เรื่องไปเข้าหูเจ้าของโรงตัดหัวหอมเข้า……..เขาไม่เชื่อว่าภายในโรงตัดหัวหอม จะมีผีสิงอยู่ เขาและครอบครัวเลยจะลองเข้ามานอนในโรงหัวหอมดูสักคืน!!!
เช้านี้……….แสงทองของดวงตาวันเริ่มถัดทอเป็นสีอ่อนๆให้ได้แย้มเห็น เช้านี้ผู้เขียนต้องรีบตื่นตั้งแต่เช้ามืด เพื่อนเอารายงานการวิจัย-หัวข้อ เกี่ยวกับความเชื่อทางพิธีกรรมโบราณไปส่งให้อาจารย์ประจำภาควิชาภาษาตะวันออกท่านหนึ่ง ตื่นขึ้นมาก็อาบน้ำแต่งตัว จัดเอกสารงาน ทานอาหารเช้าและ….ดูทีวี(ข่าวเช้า)เสียสักหน่อยพลางจิบกาแฟแก้วขมแก้วประจำ ที่ไม่เคยเปลี่ยนภาชนะใส่เลยตลอด 10 ปีที่ผ่านมา เรียกว่าหากถูกใจก็ใช้จนพัง(ฮา) จวบจนเสียงกริ่งประตูดังอยู่ 2-3 ครั้งเลยไปเปิดประตูดูว่าใครมาเยี่ยม(ตอน 6 โมงเช้านี่นะ)

ภาพที่ได้เห็นคือคุณยายข้างบ้านมาขอใบกล้วย 2-3 ใบเพื่อเอาไปทำอะไรบางอย่าง ผมจัดแจ้งให้ไปพร้อมกับให้แกไปจัดการตัดหาอาเอง หลังจากแกได้ใบกล้วยแล้วแกเลยเดินดุ่มๆไปทางโรงตัดหัวหอม มาเอะใจอีกทีตอนกลับมาจากเอารายงานไปฝากเพื่อนที่หน้าปากซอย 14 ราวช่วงสายๆได้ยินเสียงสวดมนต์เสียงดัง เลยไปแอบดู เดาเอาเองว่าน่าจะดังมาจากทางโรงตัดหัวหอมแต่ไม่รู้ว่าเป็นงานอะไร(รู้แต่ ว่าพระสวดเสียงดังมาก)

วันสองวันต่อมาได้เจอยาย(คนเดิม)เลยถามประสาคนขี้สงสัยพอได้ความว่า เจ้าของโรงตัดหัวหอมไม่เชื่อในเรื่องที่ลูกน้อง-คนงานของแกเล่าให้ฟังว่าใน โรงตัดหัวหอมมีผีสิง แกเลยพาครอบครัวเข้าไปทดลองนอน-อาศัยในโรงตัดหัวหอมดู ปรากฏในคืนนั้นเอง(ทั้งคืน)ครอบครัวของแกนอนไม่หลับทั้งคืน ทั้งเสียงเคาะประตู เงาประหลาดที่เดินไปมาภายในโรงตัดหัวหอม เสียง กลิ่นแปลกๆที่หาที่มาที่ไปไม่ได้ พอตอนรุ่งเช้าเลยตัดสินใจขอช่วยให้ยายไปนิมนต์พระจากวัดคลองเรียนมาทำพิธี ปัดเป่า-ปัดรังควาน สวดมนต์ให้…………….สรุปว่าเมื่อคืนนี้ไม่ธรรมดา!!!


ผ่านไปอีกหลายเดือนปรากฏโรงตัดหัวหอมปิดกิจการลงอีกครั้งหนึ่ง ข่าวแว่วตามลมบนมาว่าเจ้าของโรงตัดหัวหอมไปเกิดเหตุอันไม่พึงประสงค์ บางอย่างที่ประเทศมาเลเซีย ทำให้ต้องปิดกิจการลงอีกครั้งหนึ่ง โรงตัดหัวหอมดังกล่าวเลยกลายเป็นโรงตัดหัวหอมร้างแต่บัดนั้นจวบจนปัจจุบัน(3 มกราคม 2553)ถามผู้คนที่มีบ้านพักอาศัยอยู่แถวนั้นต่างก็เคยได้รับฟังเรื่องราว แปลกๆจากโรงตัดหัวหอมร้างมาแทบทั้งสิ้น ถึงบริเวณหน้าโรงตัดหัวหอมร้างจะมีแสงไฟจากเสาไฟฟ้าคอยให้แสงสว่าง แต่ยามดึกบริเวณซอยดังกล่าวก็แทบร้างผู้คน ดูเงียบเหงาวังเวงเป็นยิ่ง ยามใดก็ตามที่ผู้เขียนลงไปเข้าห้องน้ำตอนกลางดึก(ต้องลงจากชั้น 2 ของบ้าน)ก็มักจะหันไปแลมองหน้าต่างซอยฝั่งตรงข้ามเสมอๆ ช่างเงียบวิเวกดีแท้

ในใจก็คิดว่า “เขาอยู่ส่วนเขา-เราอยู่ส่วนเราไม่เบียดเบียนกัน” แค่แอบมองดูนะ……ไม่ต้องมาให้เห็นเป็นตัวเป็นตน อยู่ใกล้ๆกันต่างคนต่างอยู่นะเออ(อะไรประมาณนี้)


*****สุดท้ายนี้ผีมีจริงรึเปล่า?...................นั่นสิเห็นหลายคนอยาก รู้กันนักทั้งๆที่ปลายทางแห่งชีวิตนั้นไม่มีใครเลี่ยงหลีกได้ สักวันทุกคนย่อมได้รู้เป็นแน่ชัด ลองคิดดูเล่นๆนะกุ้ง หอย ปู ปลา ที่เราๆท่านๆทั้งหลายทานกันเข้าไปนี่มันก็มีวิญญาณ พอมันตายไปมันก็เป็นผีทั้งหมดทั้งสิ้น หากบนโต๊ะกินข้าวของพวกเราจะมีผีกุ้ง หอย ปู ปลา อยู่บนโต๊ะเต็มไปหมดก็คงไม่แปลก ผี คือสิ่งที่มนุษย์ยังไม่รู้ แต่เชื่อเถอะสักวันก็ต้องได้รู้ ไม่มีอะไรจะเป็นความลับไปได้ตลอดกาล…………..สักวัน?


#12แว่นจัง • 4/1/2553 00:03
ผีแล้วแต่คนจะเชื่อ แต่ผีทะเลมีจริง!

เห็นได้ในเว็บเราเนี่ยแหละคุณพี่

#13knompang • 4/1/2553 00:46
แล้วไมช้านต้องมานั่งอ่านเรื่องผีตอนจะตีหนึ่งด้วยเนี่ย แว้กๆๆ
#14samara17520 • 4/1/2553 02:52
เดี๋ยวลงยายสปีดต่อดีกว่า อิอิ
#15samara17520 • 4/1/2553 02:59
เอ้อ...............ลองลงยายสปีด เเละเรียบเรียงใหม่เเบบน้องเเว่นจังดู อิอิ

ปล. ผมถนัดพิมพ์อย่างเดียว เดี๋ยวลองดู
#16Nespay • 4/1/2553 11:01
พี่ไม่ลองไปนอนดูอ่ะ จะได้รู้ว่ามีจริงหรือเปล่า อิอิ
#17จ้าววายุ • 4/1/2553 21:22
อยากเจอผีกันรึไง
#18แคปซูลสีฟ้า • 5/1/2553 17:33

ตึกนี้ คุ้นๆ แฮะ ประตูยังสีเดิม เห็น นภาลัยเพลส อยู่ใกล้ๆ

#19ยำใหญ่ใส่แหลก • 5/1/2553 21:22
0_0'

จริงดิ!!
#20Poiily • 8/1/2553 21:50
ไอ้หยา -"- !!!

แต่ผู้เขียนก็ยังจะถ่ายรูปให้ดูอยู่นะ 555

เง้อ หลอนจริงๆจุดนี้
Login
Function Used time : 0:00:00:00.017
Go Last