าตกรที่อำมหิตที่สุดในประวัติศาสตร์ Charles Milles Manson

by artist_in • วันอังคารที่ 29 ธันวาคม พ.ศ. 2552 21:52
เรื่องราวของปีศาจฆาตกรที่อำมหิตที่สุดในประวัติศาสตร์ Charles Milles Manson

ชาล์ แมนสัน"เขาคือผู้นำแห่งลัทธิซาตานอดีตนักดนตรีสงร็อคชั้นนำอย่าง"The Monkess"และเขาผู้นี้ ชาลส์ แมนสัน คือผู้แต่งเพลง"I am a Beliver........."ด้วย ซึ่งท่านหลายคนน่าจะรู้จักกันดีในเพลงที่วง "Forever" ของไทยนำมาร้องใหม่

เขาผู้นี้ขึ้นทำเนียบ บัญชีดำฆาตกรที่โหดเ***้ยมที่สุดในประวัติศาสตร์หลังจากคดีของนักตัดบันลือ โลกอย่าง"แจ็ค เดอะ ริ้ปเปอร์" และ คดีพิศวาสฆาตกรรมอย่างคดีชวนอาเจียน ของ อิซซากะ ซากาวะ ทันที

รเวรของนายชาลส์ แมนสัน
"ชาร์ลส์ แมนสัน" เขาคือผู้มีลักษณะของความเป็นผู้นำของลัทธิซาตานเป็นอย่างดี และเทิดทูนมันมาก ยิ่งกว่าที่ชาวคริสต์เตียนเคารพพระยะโฮวาห์เสียอีก

เขามีบริวาร หรือสาวกอยู่ ๔ คน ซึ่งแต่ละคนนี้ก็วนเวียนในโลกมายาของฮอลลิวูดไม่มากก็น้อยครับ อาทิเช่น

-ซูซาน แอตกินส์ ลิตา
-คาสสาเบียน
-เพตริเซีย เครนวิงเกิล
-เทต วัสสัน

เชื่อว่าพวกเขาก่อตั้งลัทธิซาตานและคอยชักชวนนักร้องนักแสดง วัยรุ่นหลายๆคนเพื่อที่พวกเขาจะได้มีสาวกเพิ่มขึ้นมาอีกหลายๆคน และตั้งตัวเป็นศัตรูกับพระยะโฮวาห์

แต่ทว่า.........ดันมีคนมาลองของกับพวกมันจนได้

" โรมัน โปรันสกี้"ผู้กำกับภาพยนตร์ฮอลลิวูดชื่อดัง เชื้อสายโปแลนด์ ผู้เริ่มต้นจากชีวิตโหดร้ายของสงครามโลกครั้งที่ ๒ ด้วยการเข้าโรงเรียนสอนการกำกับภาพยนตร์

ในช่วงนั้นชีวิตของโรมัน โปรันสกี้ ได้อยู่ในช่วงที่กำลังดี มีรายได้จากผลงานการกำกับภาพยนตร์ Rosemary's Baby (๑๙๖๘) และ Chinatown (๑๙๗๔)และได้แต่งงานกับดาราสาวสวย ชารอน เทต ซึ่งใครๆก็คิดว่าเขาเป็นผู้ที่โชคดีมาก

ชาร์ลส แมนสันเกิดเมื่อวันที่ ๑๑ พฤศจิกายน ๑๙๓๔ (ที่บอกว่าวันที่ ๑๒ แต่ก็ไม่แน่ชัด เพราะแม่เขาจำไม่ได้) แม่ชื่อ แคทเธอลีน มาดอกส์ มีอายุเพียง ๑๖ ปี และมีอาชีพเป็นโสเภณี แน่นอนก็มั่วผู้ชายสิ ทำให้ไม่รู้ว่าชาร์ลสมีพ่อชื่ออะไรกันแน่ แต่ตามเอกสารกล่าวว่าพ่อของเขาชื่อคาร์ล สก็อต แต่ก็ไม่มีหลักฐานว่าเขาเป็นพ่อแท้จริงหรือไม่แต่อย่างใด
จากประวัติแม่ ของชาร์ส แคทเธอลีนเป็นเด็กสาวใจแตกที่หนีออกจากบ้าน ตอนที่คลอดชาร์ลสนั้นเธอไม่อยากมีลูกเลยแม้แต่น้อย ทำให้ช่วงระยะเวลหนึ่งที่ชาร์ลสไม่มีชื่อเพราะแม่ไม่คิดจะตั้งชื่อให้ และหลังจากที่เขาได้ชื่อ"ชาร์ลส"มาไม่นานนัก แคทเธอลีนก็แต่งงาน (แต่ก็อยู่ด้วยกันได้ไม่กี่เดือน) เขาจึงใช้นามสกุล"แมนสัน"มานับแต่นั้น
ตอน อายุ ๕ ขวบ ชาร์ลสถูกฝากเลี้ยงไว้กับยายเนื่องจากแม่และพี่ชายถูกจับในคดีปล้มปั๊ม น้ำมันและถูกลงโทษจำคุกเป็นเวลา ๕ ปี และยายก็ขี้เกียจเลี้ยงเขาเหมือนกันทำให้เขาถูกส่งเวียนไปตามบ้านญาติ จนมาหยุดอยู่ที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้า จากนั้นเขาก็หนีออกมาเพื่อเดินทางไปหาแม่ (แคทเธอรีนถูกปล่อยตัวชั่วคราว และอยู่ระหว่างการควบคุมความประพฤติ)
เมื่อแคทเธอลีนเจอหน้าลูก แทนที่จะดีใจ กลับเห็นชาร์ลสเป็นตัวถ่วงและส่งเขากลับไปสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าอีกครั้ง แต่ชาร์ลสหนีออกมาและก่อคดีอีกหลายครั้งจนถูกส่งไปอยู่สถานกักกันเยาวชนเป็น ครั้งแรก
ชาร์ลเมื่ออายุ ๙ ปี และเมื่ออายุ ๑๘ ก็มีชื่อขึ้นบัญชีดำของตำรวจซะแล้ว
ใน ปี ๑๙๕๕ ชาร์ลสอายุ ๒๑ ปีและแต่งงานกับลูกสาวของคนงานเหมือง แต่ไม่นานก็หย่ากัน และหันมาเป็นแมงดาคุมซ่อง และก่อคดีต่างๆ เช่นการขโมยรถยนต์และการปลอมเช็คจนถูกจับจำคุกเป็นเวลา ๗ ปี
ชาร์ลสพ้นโทษในปี ๑๙๖๗ แต่ชีวิตหลังออกจากคุกไม่ดีนัก แถมเป็นโรคจิตอีก
ซึ่งปี ๑๙๖๗ นี้พอดี อเมริกากำลังอยู่ในยุคบุปผาชน สังคมเต็มไปด้วยพวกฮิปปี้หนุ่มสาว LSD และฟรีเซ็กซ์ เซ็กซ์อิสระซะด้วยสิ
ชาร์ ลสเมื่อออกจากคุกก็คิดว่านี้คือภาพลักษณ์ที่ใฝ่ฝัน เขาอยากเป็นฮิปปี้ ด้วเทคนิคในการพูด ฝีมือในการเล่นกีตาร์และ LSD พวกวัยรุ่นซึ่งมีอุดมการณ์สูงแต่ไม่มีเป้าหมายในชีวิตต่างหลงไหลในคำพูดของ ชาร์ลสจึงมารวมตัวกัน

และนี่ก็คือจุดเริ่มต้นของ"แมนสันแฟมิลี่"

พวกแมนสันทิ้งตัวอักษรเลือด "DEATH TO PIGS" ไว้บนกำแพง และเขียน"HEALTER SKELTER"(A เกินมาตัว) ไว้บนตู้เย็น

๑ อาทิตย์ให้หลัง ชาร์ลสและแมนสันแฟมิลี่จำนวน ๒๐ คนถูกจับ แต่ไม่ใช่ในข้อหาฆาตกรรม เป็นข้อหาขโมยรถยนต์ ตำรวจยังไม่สามารถโยงคดีฆาตกรรมทั้งสองเข้ากับแมนสันแฟมิลี่ได้ ข้อหาขโมยรถยนต์ก็มีหลักฐานไม่เพียงพอ พวกแมนสันจึงถูกปล่อยตัวไป

แต่เนื่องจากกฎหมายของแคลิฟอร์เนียว่าด้วยการประหารชีวิตถูกเขียนไว้ไม่ชัดเจน ศาลจึงเปลี่ยนคำตัดสินเป็นการจำคุกตลอดชีวิตแทน
ทุกวันนี้ ชาร์ลส์ แมนสัน ก็ยังใช้ชีวิตอยู่ในคุก ที่แคลิฟอร์เนีย และบรรดาสาวกก็แก่เป็นคุณปู่ คุณยายไปหมดแล้ว
ล่าสุดปี ๒๐๐๕ ชาร์ลส แมนสันยื่นเรื่องขอออกจากคุก แต่มันต้องมีอันตกไปเพราะคดีที่เขาก่อมันร้ายแรงมากจนยากที่จะให้อภัย

attachment

Replies (1)

#1knompang • 29/12/2552 23:42
อย่าออกมานะ!!
Login
Function Used time : 0:00:00:00.035
Go Last