บทรีวิวพิเศษ: The Purge : Anarchy / 2014 / คืนล้างบาป ภาค 2 (ไม่สปอยล์)

ความตายจะคราคลั่งมหานครแห่งนี้ประดุจนรกเดินดิน
มันคือ 12 ชั่วโมงแห่งการปลดปล่อย
มันคือ 12 ชั่วโมงแห่งขุมอเวจี
และจงมีชีวิตรอดให้ถึงรุ่งเช้าของวันพรุ่งนี้……

คือหนังภาคต่อสุดอำมหิต เขียนบทและกำกับโดย James DeMonaco สานต่องานสร้างจากภาคแรกปี 2013 ที่ว่าด้วยเรื่องราวภายในประเทศสหรัฐอเมริกา ณ ช่วงเวลาหนึ่งที่ซึ่งเกิดคดีฆาตกรรมสะเทือนขวัญ-อาชญากรรม-จี้ ปล้น ชิงทรัพย์สูงเป็นประวัติการณ์ นอกจากนี้เศรษฐกิจของประเทศก็ทรุดตัว-ทิ้งดิ่งลงอย่างหนัก สะเทือนถึงคณะรัฐบาลที่ต้องสร้างกระบวนการวิจัยจนได้กรรมวิธีแก้ปัญหาหนักอึ้งครั้งนี้ ด้วยการกำหนดให้ 1 ปีมีเพียง 12 ชั่วโมงสำหรับการล้างบาป ปลดปล่อยทุกอาชญากรรมให้เป็นอิสระ ทุกอาชญากรจะถูกต้องตามกฎหมายเพียง 12 ชั่วโมง จากการทดลองในรอบหลายปีที่ผ่านมา มันได้ผลเกินคาด เมื่ออเมริกามีอัตราการก่อคดีอาชญากรรมต่ำเป็นประวัติการณ์ นอกจากนี้คดีคุกคามทางเพศลดลงจนแทบจะเหลือศูนย์ และเศรษฐกิจของประเทศก็ดีขึ้นเรื่อยๆอย่างน่าประหลาดใจ…..

The Purge : Anarchy / 2014 เล่าเรื่องราว 1 ชั่วโมงก่อนถึงคืนล้างบาปประจำปี ณ เมืองใหญ่แห่งหนึ่ง ผู้คนต่างออกมาซื้ออาหารเพื่อกักตุน และพยายามซ่อมแซมบ้านเรือน เคหสถานของตนให้แข็งแรงที่สุดสำหรับรับมือกับราตรีนรกแตกค่ำคืนนี้ อีกด้าน…. โฆษกของกลุ่มต่อต้านลัทธิการล้างบาปพยายามเจาะรหัสและสัญญาณโทรทัศน์หลายช่องของรัฐบาล เพื่อเผยแพร่ข้อความทั้งภาพและเสียง รวมถึงแนวทางการต่อต้านลัทธิอุบาทว์ของกลุ่มตน ที่ต้องการปิดตายประเพณี “คืนล้างบาปประจำปี” ให้หมดสิ้นไปจากสารบบของประเทศแห่งนี้

หนังโฟกัสไปที่คน 3 กลุ่ม อันมีเหตุบางประการ จึงทำให้คนทั้ง 3 กลุ่มนี้ต้องเดินลงเรือลำเดียวกัน เผชิญชะตากรรมร่วมกัน และช่วยกัน เพื่อผ่านพ้นราตรีสีเลือดภายในค่ำนี้ให้จงได้……

คนแรกเป็นชายวัยกลางคน (Frank Grillo) จ่าตำรวจผู้เชี่ยวชาญศิลปะการต่อสู้ชั้นสูงและชำนาญการใช้อาวุธสงคราม เขาสูญเสียลูกชายสุดที่รักไปจากคืนล้างบาปเมื่อปีก่อนๆโดยฝีมือคนๆหนึ่งที่ซึ่งเขารู้จักดี ตลอดสิบสองเดือนที่ผ่านมาเขาเอาแต่ดื่มแอลกอฮอล์เข้าไปสะสมไว้ในร่างกาย เพื่อผ่อนคลายและให้ลืมความเศร้าในอดีต ลืมความแค้นอันแสนสาหัส แต่จริงๆแล้วมันก็ไม่เคยเลยที่เขาจะลืมได้แม้เพียงเสี้ยววินาทีเดียว จวบจนเขาเริ่มเปลี่ยนความตั้งใจที่จะสงบนิ่ง และนำรถสปอร์ตสีดำคู่ใจมาปรับแต่งให้เป็นรถประจัญบาน-ด้วยกระจกกันกระสุน และติดอาวุธสงครามนานาชนิดไว้ภายใน เตรียมไว้สำหรับค่ำคืนนี้โดยเฉพาะ…..

คนกลุ่มที่สอง เป็นครอบครัวที่อาศัยอยู่ภายในอพาร์ตเมนต์ราคาถูกแห่งหนึ่ง ที่ซึ่งผู้เป็นพ่อตัดสินใจแอบขายตนเองเพื่อเป็นเครื่องเซ่นสังเวยในคืนล้างบาปแก่ครอบครัวเศรษฐีผู้มั่งคั่งตระกูลหนึ่ง ในสนนราคา 100,000 ดอลลาร์สหรัฐ โดยนำเงินจำนวนดังกล่าวมอบแก่สมาชิกในครอบครัวที่เหลือ ให้สามารถล้างหนี้ที่ค้างคาและดำรงชีวิตความเป็นอยู่ที่สุขสบายกว่าแต่ก่อนได้ ค่ำคืนนี้จึงเหลือเพียงสองสาวอย่าง Eva Sanchez (รับบทโดย Carmen Ejogo) เเละCali (รับบทโดย Zoë Soul) ที่นั่งร่ำไห้เศร้าโศกเสียใจในการกระทำของผู้อาวุโสท่านนี้อย่างอาลัยยิ่ง แต่ดูเหมือนความอาลัยยังไม่ทันจางหาย รัศมีแห่งความตายก็ย่างกรายเข้ามาเยือนใกล้เสียทุกที เมื่ออพาร์ตเมนต์ของสองสาวถูกกลุ่มชายลึกลับในชุดทหาร-ติดอาวุธหนักแบบเต็มสูบเข้าโจมตี พวกเธอทั้งสองจึงต้องหนีออกมาชนิด วิ่งลืมตาย…..

คนกลุ่มที่สาม หนุ่มหล่อมาด-ขรึม Shane (รับบทโดย Zach Gilford) และสาวสวย-มาดเซอร์ Liz (รับบทโดย Kiele Sanchez) คู่รักวัยทำงานที่กำลังอยู่ระหว่างเดินทางโดยรถยนต์ เพื่อกลับให้ถึงที่พักโดยเร็วที่สุด ก่อนที่เส้นตายคืนล้างบาปจะมาเยือน แต่ปรากฏว่ารถที่ทั้งคู่ใช้เดินทางกลับถูกคนของ “แก๊งค์พระเจ้า” (แก๊งค์กวนเมืองสุดโหด) แอบลอบตัดสายท่อน้ำมันเชื้อเพลิงจนขาดสะบั้นลง และจอดตายอยู่กลางถนนใหญ่สายหนึ่ง ที่ซึ่งภาพตรงเบื้องหลังของคนทั้งคู่ที่ได้เห็นก็คือ เหล่าสมาชิกของแก๊งค์นรกดังกล่าว ขับรถยนต์และมอเตอร์ไซค์สะกดรอยตามมาห่างๆ เพื่อรอเวลาเปิดเกมล่าคนทั้งคู่อย่างสนุก…..

ความคิดเห็นส่วนตัวของผู้เขียน : The Purge: Anarchy / 2014 หรือในอีกชื่อหนึ่งว่า 12 Horas Para Sobrevivir / 2014 ที่ซึ่งภาคแรกของหนังเรื่องนี้ในปี 2013 (The Purge / 2013) อาจสร้างความคาดหวังในใจของนักดูหนังในสมัยนั้นไว้อย่างสูงลิบ เพราะโครงเรื่องที่แปลก ฉีก และแหวกแนว ก่อให้เกิดความสนใจ และกระแสในเชิงบวกในหมู่นักดูหนังสยองขวัญได้ค่อนข้างมาก แต่…พอคนดูได้รับชมตัวหนังเรื่องนี้จนจบ กลับมีกระแสตอบกลับมา ปรากฏว่าหนังเรื่องนี้เพียง “สอบผ่าน” เท่านั้น พอมาถึงยุคของหนังภาคต่ออย่าง The Purge: Anarchy / 2014 คนดูหลายกลุ่มเลยอาจเกิดอาการ “ร้องยี้” ดังลั่น ว่ามันจะไหวเหรอ? เพราะมันน้อยครั้งเลยทีเดียวที่บรรดาหนังภาคต่อจะสามารถทะยาน พุ่งแซงให้พ้นร่มเงาของหนังภาคต้นได้อย่างสมบูรณ์ (แม้ว่าภาคต้นจะสร้างออกมาได้ไม่ดีมากนักก็ตาม) แต่กลับกัน ใน The Purge: Anarchy / 2014 มันกลับเป็นหนังที่สามารถผ่านพ้นร่มเงาของหนังภาคต้นได้ชนิดที่ “ทิ้งกันแบบไม่เห็นฝุ่น” และมันสร้างออกมาได้ยอดเยี่ยมมากๆ

The Purge: Anarchy / 2014 คือหนังที่เติมเต็มความคาดหวังของคนดูได้อย่างยอดเยี่ยม เพราะหนังเรื่องนี้สามารถนำเสนอในสิ่งที่คนดู “ต้องการจะเห็น” ได้อย่างสมบูรณ์ จากภาคแรกที่ตัวละครในหนังเล่นแมวจับหนู ไล่จับ-ไล่ยิง-ไล่สังหารกันแค่ภายในบ้านหลังหนึ่ง (รวมถึงภายในบริเวณอาคารและลานกว้างข้างเคียง / เมืองเล็กๆ) แต่ภาคต่อกลับปิดเมืองใหญ่ เปิดเกมไล่ล่ากันอย่างถึงพริกถึงขิงถึงเครื่องปรุงรสต้มยำน้ำข้น ชนิดคนดูจะ “สะใจพระเดชพระคุณกันแบบเต็มปอดโดยถ้วนทั่ว” จึงไม่แปลกที่ภายในหนังเรื่องนี้จะบรรจุฉากไล่ล่ากันด้วยศาสตราวุธทันสมัยหลายฉาก ภาพคนไล่ฆ่ากันอย่างสนุกสนาน ภาพเมืองที่วุ่นวาย มีให้เห็นกันแบบ “จัดเต็ม!” ระทึกใจตั้งแต่ฉากต้นไปจนถึงฉากจบ (ไม่ค่อยมีฉากดราม่า-เชื่องช้าน่าเบื่อเป็นเต่าคลานเหมือนในภาคแรก) เป็นหนังที่ผสมผสานมุมกล้องได้อย่างลงตัวสวยงามอลังการ ซึ่งที่กล่าวมาทั้งหมดนี้คงส่งผลให้ The Purge: Anarchy / 2014 น่าจะเป็น “หนึ่งในหนังสยองขวัญที่ดีที่สุดเรื่องหนึ่งในปี 2014 ” ได้ไม่ยาก คนดูที่ต้องการเห็นความมืดบอดภายใต้จิตใจอันถูกซ่อนเร้นของเหล่ามนุษย์ คุณจะได้เห็นการปลดปล่อยแบบสุดขั้ว….ว่ามันจะน่ากลัวสักเพียงไหน!
.
The Purge: Anarchy / 2014 หนังสัญชาติ USA-France แนว Action-Horror-Thriller ความยาวประมาณ 103 นาที ได้รับการจัดเข้าหมวดหมู่ Rated R โดย MPAA (Rated R : Rated R for strong disturbing violence, and for language / Motion Picture Rating / MPAA) หนังสามารถทำรายได้ในอเมริกาได้ราว 68,533,360 ดอลลาร์สหรัฐ (ข้อมูล ณ วันที่ 8 สิงหาคม 2014) สถานที่ถ่ายทำหลักใช้เมือง Los Angeles, และ California ใน USA นำแสดงโดย Frank Grillo, Carmen Ejogo เเละ Zach Gilford