Rigor Mortis ของจูโน่ มัก นั้น เป็นการปลุกผีดิบให้ฟื้นจากโลง หลายคนที่เคยดูผีกัดอย่ากัดตอบแน่นอนว่าต้องคุ้นเคยกับหนังที่ตลก น่ากลัวนิดๆ มีฉากบูี คราวนี้พอมาอยู่ในมือของผู้กำกับรุ่นใหม่เขาจึงเลือกที่จะไปในแบบที่ตัวเองถนัด คือ บรรยากาศมืดอึมครึม เนื้อเรื่องมีความสมจริงมากขึ้น ความสยองเพิ่มขึ้น น่ากลัวกว่าเดิม(เยอะ) มีฉากแหวะๆ นับว่าฉีกแนวจากหนังผีดิบกระโดดหยองหยอยไปเลย

ที่ว่าหนังเรื่องนี้เป็นการอุทิศให้กับหนังผีกัดอย่าตอบ เพราะ มีทีมนักแสดงจากเรื่องผีกัดอย่ากัดตอบมาเกือบยกชุด ทั้ง Chin Siu-ho (เฉินเสี่ยวโหว ที่เล่นเป็นอาโจว ลูกศิษย์หน้าตาดีของหลิน เจิ้งอิง) Anthony Chan (ที่เล่นเป็นนักพรตใส่แว่นตา) Billy Lau (เล่นเป็นตำรวจใส่แว่นชอบทำอะไรเปิ่นๆ) รวมถึง Chung Fat น่าเสียดายที่หลิน เจิ้งอิง และ ริคกี้ ฮุย เสียชีวิตไปก่อนไม่งั้นคงจะได้เห็นทั้งสองคนร่วมแสดงด้วยแน่ๆ

จูโน่ มัก ถ่ายทอดความอึมครึมของบรรยากาศที่เหมือนจะสะท้อนชีวิตที่กำลังตกอับของคนๆหนึ่งได้ดี มีการเล่นกับแสง จากที่ดูมืดมนเหมือนไร้สีสันใดๆในชีวิต พอเนื้อเรื่องเริ่มมีตัวละครอื่นๆโผล่มา สีในหนังก็สว่างขึ้น

ส่วนผีดิบในเวอร์ชั่นนี้ไม่ได้เกี่ยวกับฝังผิดฮวงจุ้ย หรือจู่ๆยันต์หลุดลุกขึ้นมาอาละวาด หรือห่วงสมบัติ มีการเพิ่มความเป็นเหตุเผ็นผลเข้าไป ให้คนดูเข้าใจสาเหตุของการสร้างผีดิบที่เกิดจากการยึดติดของคนเป็น จนยอมฝืนวงจรที่ธรรมชาติสร้างขึ้น

เทรเลอร์

ตัวละครหลักแต่ละตัวในเรื่องมีมิติ มีที่มาว่าทำไมทุกคนถึงเข้ามาพัวพันกับเหตุการณ์แปลกในแฟลตเก่าคร่ำครึแห่งนี้ แต่ละตัวละครมีปฏิสัมพันธ์กันให้สมกับเป็นผู้อยู่ร่วมแฟลตและร่วมชะตากันจนนำไปสู่ตอนท้ายเรื่อง

ผีดิบเวอร์ชั่นนี้ก็ดูดุและสยองขึ้น ดูจากเอฟเฟคตอนหลังที่มีการซูมเน้นสยอง ฉากสยอง ชวนแหวะแบบหนังโหดฮ่องกงสมัยหลังจูโน่ มักก็ไม่พลาดมีใส่มาครบ

ส่วนตัวชอบทั้งเรื่องที่มาของการทำผีดิบ เบื้องหลังของตัวละครหลักแต่ละตัว บรรยากาศในหนัง ชอบที่จูโน่ มัก เลือกที่จะทริบิวต์ให้กับผีกัดอย่ากัดตอบในวิถีคนรุ่นใหม่ ไม่จำเป็นต้องทำแบบเดิม ทำในแบบที่ตัวเองถนัด
มีสอดแทรกสิ่งเล็กๆน้อยๆทั้งจากหนังต้นฉบับ หรือความเชื่อของชาวจีนมาตลอดทั้งเรื่อง ทั้งพิธีกรรม ความเชื่อ เครื่องมือ มาครบ (จริงๆมันเหมือนมีเจ้าสาวผีด้วยนะ เหมือนจะมาจากผีกัดฯแต่ไม่รู้ภาคไหน)


ส่วนสิ่งที่ขาดหายไป ทั้งที่น่าจะมี น่าจะเป็นฉากบู๊กังฟู เนื่องจาก เฉินเสี่ยวโหว ที่รับบทนำ ในเรื่องก็เหมือนกับเขารับบทเป็นตัวเอง (แต่ตลอดทั้งเรื่องไม่มีใครพูดชื่อเขาออกมาเลย นั่งดูตั้งนานเพิ่งสังเกตตอนใกล้จะจบ ) ซึ่งเขาถือว่าเป็นดาราสายบู๊อีกคนเลยทีเดียว แต่ในเรื่องไม่ค่อยได้ออกลายกังฟูเท่าไร สู้สะเปะสะปะพอสมควร แล้วก็มีตัวละครบางตัวที่น่าจะเป็นตัวละครหลักได้กลับโผล่มานิดเดียวแล้วก็หายไปเฉยๆ เสียดายบทของBilly Lauด้วย น่าจะได้เล่นเยอะกว่านี้

สำหรับคนที่เคยดูผีกัดอย่ากัดตอบมาตั้งแต่เด็กๆ Rigor Mortis จะพาคุณสู่โลกของความจริงมากขึ้น นักแสดงที่เคยคุ้นหน้าในอดีตก็อายุก็เพิ่มขึ้นตามกาลเวลา ได้มองผีดิบในอีกมุมมองของคนรุ่นใหม่ สำหรับคนที่ไม่เคยดู หรือ เกิดไม่ทัน ก็จะได้รู้จักหนังสยองในฮ่องกงที่ปกติจะหาดูค่อนข้างยากพอควร

ปกติไม่ถนัดให้คะแนน แต่ถ้าอยากหาหนังผีน่ากลัวปนสยอง โดยเฉพาะสายเอเชีย เรื่องนี้หามาดูก็ไม่เสียหลาย ถือว่าเป็นการกลับมาของผีดิบในแบบของรุ่นใหม่ได้ดีที่เดียว

โหลดไว้ล่ะ เเต่ยังไม่มีเวลาดู // ขอบคุณครับสำหรับบทรีวิว เย้ๆๆ ^_____^

ข้อมูลหนัง

http://www.imdb.com/title/tt2771800/

ในหนังเปิดฉากด้วยเพลง Ghost Bride จากหนังผีกัดอย่ากัดตอบแต่ในเวอร์ชั่นที่ฟังแล้วดูโหยหวนกว่า พร้อมกับความมืดมิดและพื้นแตก

เวอร์ชั่นต้นฉบับ


หาดูได้ตามบิทซีนีม่ามีซับอิงค์พร้อม

ต่อไปของสปอยล์เนื้อเรื่อง ใครมาอยากรู้ไม่ควรเลื่อนมาอ่านต่อ

เปิดฉากมาด้วยตัวเอกนอนอยู่บนพื้นแตกๆ ก่อนจะเล่าเรื่องตั้งแต่ตัวเฉินเสี่ยวโหวเข้ามาอยู่ที่แฟลตพร้อมกับกับกระเป๋าใส่เสื้อผ้าจากหนังที่เคยเล่น ส่วนตาลุงยามก็ทำพิธีเซ่นไหว้ไปตามเรื่อง หลังจากนั้นก็มีผ้าขาวปูบนพื้น เห็นได้ว่าเขาต้องการมาที่ห้องนี้เพื่อฆ่าตัวตาย แต่ดันไม่รู้ว่าห้องนี้มีผีสองตัวอยู่แล้ว พอกำลังจะตายและผีสองตัวกำลังจะเข้าสิงร่างได้แล้ว พี่เหยา(หรืออาจารย์เหยา)รับบทโดยAnthony Chanก็มาช่วยทัน

หลังจากนั้นจะเจอผู้หญิงเสียสติมากินของเซ่นหน้าห้อง ทำท่าหวาดกลัวอะไรซักอย่างในห้อง แล้วหลังจากนั้นก็จะมีคู่ป้าหมุยกับลุงตุง ป้ารับจ้างเย็บผ้าซ่อมแซมเสื้อผ้าของคนส่วนใหญ่ในแฟลต แล้วก็จะเจอเด็กผมขาวๆตัวขาวๆ ซึ่งก็คือลูกของหญิงที่เสียสติคนนั้น

หลังจากนั้นก็จะเกิดเหตุร้ายกับลุงตุงจนป้าหมุยตัดสินใจพึ่งอาจารย์เกาที่เบื้องหน้าทำงานที่ศาลเจ้า แต่เบื้องหลังใช้ศาสตร์มืดในทางไม่ดีบ่อยๆให้ช่วยปลุกลุงตุงให้ฟื้นคืนชีพ แต่สภาพศพลุงที่เห็นในหนังตอนแรกชวนแหวะมากกระดูกสันหลังเลื่อนออกมาแทบทะลุ (อี๋) แต่ก็ยังไม่มีใครรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับลุงตุง และป้าหมุยทำอะไรในห้อง

ระหว่างนั้นเฉินเสี่ยวโหวก็เริ่มสนิทกับเด็กผมขาว และเริ่มรู้ความจริงอันน่าเศร้าของหญิงเสียสติแม่ของเด็กจากการบอกเล่าของลุงยามเฝ้าแฟลตว่า จริงๆแล้วก่อนหน้านี้ Feng Yeung หรือแม่ของเด็กผมขาวเสี่ยวปัก เคยอาศัยอยู่ห้องที่เฉินเสี่ยวโหวอาศัยอยู่มาก่อน สามีของเธอเป็นติวเตอร์สอนพิเศษ ดูเป็นครอบครัวที่อบอุ่นดี จนกระทั่งจู่ๆเขาพยายามข่มขืนเด็กนักเรียนคนหนึ่ง ที่มาเรียนพิเศษที่ห้อง โดยคู่แฝดที่เรียนด้วยกันจึงพยายามช่วยแฝดตัวเอง สุดท้ายกลายเป็นลงมือฆ่า และตัวเองก็ตายด้วย คู่แฝดอีกคนทนไม่ได้จึงฆ่าตัวตายตาม ทิ้งให้Feng Yeungกลับมาบ้านเจอ เลือดนองและศพคนตายสามคน และเสียสติในที่สุด

ผีสาวที่เห็นในห้องทั้งสองตัวตั้งแต่แรกก็คือผีสาวแฝดนั้นเอง

เป็นอะไรที่คาใจมาก ทำไมอิผัวบทหายไปเลยไม่ได้รับกรรมอะไรเลยปล่อยเมียเป็นบ้า ฝาแฝดเป็นผีสิงคาห้องซะงั้น ตรงนี้เสียดายสุดๆ

หลังจากที่เฉินเสี่ยวโหวเริ่มสนิทกับเสี่ยวปักเหมือนจะแทนที่ลูกชายที่ไปอยู่กับเมียได้แล้ว เขาก็เกือบตายอีกรอบเพราะอาจารย์เกาใช้เขาเป็นเหยื่อล่อผีแฝดเพื่อจะเอาร่างไปใช้ สุดท้ายอาจารย์เหยามาช่วย และก็จะรู้ว่าทั้งคู่รู้จักกันมานานตั้งแต่สมัยเด็กๆ ในที่สุดอาจารย์เกาก็ได้ผีแฝดไป และบอกว่าจะเอาไปปราบ ทำให้ห้องที่เฉินเสี่ยวโหวอยู่ไม่มีผีแล้ว แม่ลูกจึงเขามาในห้องได้ตามปกติ

ฟากป้าหมุยก็เริ่มกังวลที่ลุงตุงไม่ฟื้นแถมเริ่มกลายเป็นผีดิบเล็บเริ่มงอกยาวแบบผีดิบต้นฉบับ ป้าเลยนึกถึงคำที่อาจารย์เกาพูดไว้คือ ลุงตุงต้องได้ร่างบริสุทธิ์มากิน สุดท้ายด้วยความที่อยากให้คนรักฟื้นป้าจึงตัดสินใจล่อให้เสี่ยวปักไปเป็นอาหารให้ลุงตุงกิน และหน้ากากที่อาจารย์เกาให้ปิดหน้าลุงตุงไว้ก็หลุดออก (หน้ากากแบบใบปิดหนังนั่นแหละ ดีไซน์ประหลาดดี) และลุงอาละวาด

ฝ่ายอาจารย์เหยาก็เริ่มสังเกตความผิดปกติในฐานะคนไล่ผีเก่า ว่าทำไมทุกคนมีกลิ่นเหมือนอะไรตาย สอบถามก็รู้ว่าป้าหมุยซ่อมเสื้อผ้าให้ทุกคน อาจารย์เหยาะเอะใจ แต่ไม่นึกว่าเรื่องจะร้ายแรง ส่วนเฉินเสี่ยวโหวก็รู้ว่าห้องมีผีแน่ๆหลังจากเคยเกือบตายไปครั้งหนึ่ง เขาก็เริ่มเห็นผีได้ลางๆ (ส่วนแม่ของเสี่ยวปักซึ่งสติไม่ดี เห็นผีอยู่แล้วตามความเชื่อว่าคนบ้ามักเห็นผี หรืออาจจะเพราะผีแฝดแค้นเลยอยากทรมานให้เธอเห็น) และไปหาอาจารย์เหยาที่ห้องให้ช่วย

อาจารย์ก็ปฏิเสธไม่ช่วย แถมยังเย้ยเรื่องที่เฉินเสี่ยวโหวยังตัดใจเรื่องลูกชายไม่ได้ อีกฝ่ายจึงย้อนกลับเรื่องที่อาจารย์ยังทิ้งอาชีพปราบผีไม่ได้ ตรงนี้เราก็จะรู้ว่าบรรพบุรุษของอาจารย์ปราบผีมาตลอด แต่ยิ่งปราบงานก็น้อย เงินก็น้อย จนรุ่นพ่อของอาจารย์มัวแต่หาเงิน จนไม่มีเวลา แถมยังหายตัวไปอีก ทำให้อาจารย์ไม่อยากรับปราบผีอีกแล้ว แต่เมื่อกงจักรเหล็กที่เอาไว้ตรวจจับผี เริ่มทำงานอีกครั้ง อาจารย์เหยาเริ่มรู้ว่าสิ่งที่ตัวเองสงสัยไว้น่าจะไม่ผิด มีผีดิบอาละวาด เขาจึงรับงานอีกครั้ง

ลุงตุงในสภาพผีดิบอาละวาด

พอตามไปถึงต้นตอก็พบเลือดสาดเต็มห้อง แล้วอาจารย์เกาก็เอามือปิดจมูกอาจารย์เหยาไม่ให้หายใจผีดิบลุงตุงจะได้ไม่เห็น แล้วอาจารย์เกาในสภาพร่อแร่ก็สารภาพว่า ตัวเองเป็นคนฟื้นชีวิตลุงตุงเอง ส่วนที่ลุงตุงตายไม่ได้ตั้งใจแค่พลั้งมือไป แถมตัวเองก็ใกล้จะตายจากมะเร็งปอดแต่ยังยื้อตัวเองด้วยการสูบขี้เถ้าของเด็กที่มาจากการทำแท้ง แต่มันยังไม่แรงพอที่จะยื้อชีวิต จึงเอาผีแฝดกะว่าจะเอามาใช้ แต่สุดท้ายผิดแผนเพราะป้าหมุยดันทำลุงตุงหลุดจากออกมาเฮี้ยนกว่าเดิม แถมป้ายังฆ่าลุงยามปิดปากเพราะลุงรู้ความลับ หลังจากนั้นอาจารย์เกาก็หมดลมและทิ้งปัญหาให้อาจารย์เหยาตามแก้

จากนั้นก็เป็นการปราบลุงตุง ซึ่งโหดกว่าต้นฉบับมาก เพราะผีภาคนี้พลังเยอะ แถมมีผีแฝดที่หลุดออกมาอีก เพราะหลังจากอาจารย์เกาจับขังไว้ในตู้แล้ว ตอนที่แม่เสี่ยวปักตามหาลูก นึกว่าลูกอยู่ในตู้เลยเปิดตู้ออกมาไม่เจอ ผีเลยออกมา สุดท้ายก็รู้ว่าลูกตาย และรู้ว่าผีดิบลุงตุงเป็นต้นเหตุเลยจะจัดการแต่ก็สู้ไม่ไหว เละไปเป็นรายที่สอง

ตอนแรกก็ให้เฉินเสี่ยวโหวปราบผีดิบลุงตุงด้วยข้าวเหนียว แต่พอผีดิบลุงได้ผีแฝดมาเข้าร่างคราวนี้อาจารย์เหยาเลยต้องใช้ธาตุทั้งสี่มาสู้ แต่สภาพของเฉินเสี่ยวโหวที่ร่อแร่อีกคน คราวนี้มีเวลาแค่บุหรี่ม้วนหนึ่งดับชี้ชะตาคนกับผี

ที่งงคือตอนผีดิบลุงมาตามกับดับที่อาจารย์เหยาทำไว้ล่อ เหมือนจะมาตามน้ำ?หรืออะไรไม่รู้ รู้แต่พลังเหลือล้นมากๆๆๆๆๆ

แถมนอกจากจะกระโดดไกลกว่าเดิมได้แล้ว ยังกระโดดขึ้นกำแพงแบบผีแฝดได้ด้วย อย่างโหด เฉินเสี่ยวโหวแทบทำอะไรไม่ได้ตอนแรก ตอนหลังๆพอสู้ได้บ้าง

สุดท้ายอาจารย์เหยาใช้กงจักรธาตุจนตัวเองแขนขาด แต่ยังใช้ด้ายปราบผีได้ และตกลงมาจากตึกร่วงมาอยู่กับพื้นแฟลตด้านล่าง พร้อมกับเฉินเสี่ยวโหวที่กระแทกพื้นอย่างจัง โชคดีที่เช้าพอดีผีดิบลุงตุงก็เจอแสงแดดและเริ่มพังทลาย ในที่สุดป้าหมุยก็โผล่มาตัดสินใจจบชีวิตไปพร้อมกัน

แต่ตอนจบยังมีต่อ คราวนี้จะเห็นคล้ายๆฉากตอนที่เฉินเสี่ยวโหวเดินเข้าแฟลต กลับกันคือ เสี่ยวปักกับแม่ใช้ชีวิตเหมือนแม่ลูกทั่วไป เฉินเสี่ยวโหวฆ่าตัวตายสำเร็จ อาจารย์เหยามาช่วยไม่ทัน และคนชันสูตรศพคืออาจารย์เกา คนที่มารับศพก็คือลูกชายของเฉินเสี่ยวโหวที่โตแล้ว ส่วนป้าหมุยก็ไหว้รูปลุงตุงที่ตาย


ตอนจบที่เหมือนจะมีสองตอน คือ ตอนแรกจบตรงที่ตัวละครหลักตายหมด จากเฉินเสี่ยวโหวที่เคยจะจบชีวิตเพราะคิดว่าตัวเองไม่มีอะไรเหลือแล้ว สุดท้ายเขาก็สู้จนตาย จากที่ตอนแรกไม่อยากจะสู้อีกแล้ว

ในขณะที่จบอีกแบบ คือ ฆ่าตัวตายสำเร็จ และชีวิตตัวละครหลักเปลี่ยนไปหมด น่าจะแสดงให้เห็นว่าทุกคนมีสิทธิเลือกว่าชีวิตเราอยากให้เป็นอย่างไร ขึ้นอยู่กับตัวเราเองทั้งสิ้น อย่างอาจารย์เกาเลือกเส้นทางที่ดีก็ไม่ต้องกลายเป็นหมอผีด้านมืด ไม่เป็นมะเร็งปอด ป้าหมุยเลือกยอมรับที่สามีตายได้ ก็ไม่ต้องทนทรมานกับการพยายามฟื้นสิ่งที่ธรรมชาติกำหนด Feng Yeung กับเสี่ยวปัก เธอทำใจ ยอมรับเรื่องที่เกิดขึ้น (ตรงนี้ก็งงๆว่าผัวตายมั๊ย มีผีแฝดมั๊ย เพราะไม่ได้กล่าวถึงในตอนจบแบบที่สอง)


แล้วตกลงจบแบบไหนกันแน่ ส่วนตัวคิดว่าจบแบบที่ตายกันหมดนั้นแหละ ใครดูจบแล้วยังไงก็มาแชร์ความคิดกันได้

http://www.divxstage.eu/video/d7a829c07512a แหล่งดูออนไลน์ซับอิ้งจ้า

ความเห็นส่วนตัวคร้าบบบ

คิดว่าจริงๆแล้วทุกอย่างตั้งแต่ต้นเรื่อง เป็นสิ่งที่ เฉินเสี่ยวโหว มโนไปเอง ก่อนจะขาดใจตาย คือจริงๆไปช่วยไม่ทัน ไม่มีอาจารย์ปราบผี ไม่มีผีดิบ ไม่มีการปราบผี มโนไปเองล้วนๆ

คิดเหมือนท่านเทพฯ คัฟผ๊ม