รวมข่าวสั้นทันหนังโหดประจำวันที่ 25-29 ตุลาคม 2556

by แว่นจัง • วันพุธที่ 30 ตุลาคม พ.ศ. 2556 14:19
Clive Barker และ Doug Bradley เตรียมกลับมาบิดเปิดผีนรก Hellraiser

หลังจากพึ่งลงข่าวไปว่าวันฮาโลวีนนี้จะได้ดู pitch trailer ของ Hellraiser ตอนนี้มีข่าวดีกว่านั้น คือ Clive Barker และ Doug Bradley จะกลับมากับHellraiser แน่นอน

ข่าวดีนี้มาจากเฟซบุ๊คของClive เลยทีเดียว โดยเขาเขียนบอกแฟนๆว่า เมื่อหลายอาทิตย์ก่อน เขาได้คุยกับBob Weinstein บอสใหญ่ของDimension Pictures เรื่องรีเมค Hellraiser ภาคแรก โดยหวังว่าภาครีเมคนี้จะมืดมนกว่าต้นฉบับที่เคยทำไว้

ซึ่งClive ก็ได้บอกต่อว่าตัวเขาได้มารับหน้าที่เขียนบทHellraiser อย่างเป็นทางการแล้ว นอกจากนี้เขาพยายามจะเน้นเมคอัพเอฟเฟคมากกว่าใช้ซีจีเหมือนตอนที่เริ่มกำกับHellraiser ภาคแรก และต่อให้เมคอัพเอฟเฟคเยี่ยมขนาดก็ยังไม่สมบูรณ์เท่ากับการได้Doug Bradley มารับบทพินเฮด ซึ่งหลังจาก Clive เสนอความคิดเห็นไป ทางBob Weinsteinก็เห็นด้วยกับความคิดนี้ ตอนนี้ก็เหลือแต่เรื่องเซ็นสัญญา หากเรียบร้อยเมื่อไรเขาก็จะเดินหน้าเขียนบทเปิดประตูนรกอีกครั้งทันที

ติดตามความคืบโดยตรงจากClive Barker ได้ที่เพจในเฟซบุ๊ค ของแท้ชัวร์ไม่มั่วนิ่ม https://www.facebook.com/officialclivebarker
attachment

Replies (33)

#1แว่นจัง • 30/10/2556 14:20
ZAPATLELA 2 3D ญาติห่างๆของชัคกี้ที่อินเดีย

ใครอยากเปลี่ยนอารมณ์มาดูหนังแนว horror,comedy,romance ลองหาเรื่อง ZAPATLELA 2 3D จากอินเดียมาดู ปล่อยภาค2 แบบ3Dด้วยไม่ใช่ธรรมดาภาคแรกเคยฉายเมื่อปี 1993 ฮิตถล่มทลายในอินเดีย และตุ๊กตาปีศาจก็กลับมาอาละวาดอีกครั้งหลังจากเวลาผ่านไป 20ปี

หนังอินเดียเรื่องนี้มาจากรัฐมหาราษฏระ เป็นหนังอินเดียแต่ใช้ภาษาภาษามราฐี ส่วนเนื้อเรื่องก็แทบจะบอกได้ว่าแสนจะคุ้น เพราะเนื้อหาภาคแรกก็เกี่ยวกับอันธพาลที่ย้ายวิญญาณตัวเองไปใส่ที่ตุ๊กตา

คราวนี้ภาค2มันกลับมากลายเป็นตุ๊กตาหุ่นเชิด โดยพยายามจะกลับมาเข้าร่างมนุษย์เพื่อกลับมาใช้ชีวิตแบบปกติให้ได้อีกครั้ง และทำได้ทุกทางที่จะกำจัดคนที่เข้ามาขวางทาง

เห็นตลกๆแบบนี้ทำรายได้ถล่มทลายแถมมีพากย์เป็นภาษาฮินดีด้วยนะจ๊ะ

เทรเลอร์






และมีฉากร้องเพลงพร้อมเต้นด้วย ขาดไม่ได้



attachment
#2แว่นจัง • 30/10/2556 14:22
แฟนเพจแชร์มา

หลายเรื่องเจ้าตัวอาจลืมไปแล้วว่า เคยเล่นด้วยหรอ

อย่างเจนนิเฟอร์ อนิสตัน ก็เคยเล่น Leprechaun หรือเจอร์ราด บัตเลอร์ ก็เคยเล่น Dracula 2000

http://www.manager.co.th/Entertainment/ViewNews.aspx?NewsID=9560000133001
attachment
#3แว่นจัง • 30/10/2556 14:24
The Knife ผลงานโดย Maria Lujan จากเยอรมนี

ดูภาพเพิ่มเติม http://www.behance.net/gallery/The-knife/3287600

attachment
#4แว่นจัง • 30/10/2556 14:24
ใครชอบฟิกเกอร์หนังสยอง ลองดูเว็บนี้
http://www.retroband.bigcartel.com/products?page=1

มีทั้งจากเรื่อง Creepshow,Night of the creeps
attachment
#5แว่นจัง • 30/10/2556 14:25
โปสเตอร์หนังสยองขวัญจากออสเตรเลียเรื่องใหม่ Throwback เจ้าหน้าที่อุทยานสาว และอดีตนายตำรวจที่มีปัญหาทางจิต ร่วมมือกันตามหาสมบัติที่สาปสูญภายในป่าดงดิบบริเวณตอนเหนือของออสเตรเลียที่เชื่อกันว่ามีสัตว์ประหลาดชื่อ Yowie (คล้ายๆตัวบิ๊กฟุต หรือเยติ) หลบซ่อนอยู่

เคยอ่านบทความที่พูดถึงแนวทางหนังสยองออสเตรเลีย ว่าหนังประเทศนี้ใช้ประโยชน์จากภูมิประเทศของตัวเองคุ้มมาก คือตัวเรื่องมันไม่เท่าไรหรอก แต่ตัวหนังแทบจะกลายเป็นโฆษณาท่องเที่ยวกลายๆ เพราะออสเตรเลียมีภูมิทัศน์ที่ยังครองพรหมจรรย์ทางอารยะธรรมสูง มีพื้นที่ที่เป็นป่า เป็นทะเลทราย ทะเลสาปเป็นจำนวนมาก หนังสยองออสเตรเลียที่ดังๆ เลยมักจะข้องแวะอยู่กับสัตว์ร้ายในพงไพร ฆาตกรรมในอุทยาน อยู่บ่อย เช่น Wolf Creek, Rogue, Black Water, Dying Breed, Long Weekend, The Ruins, Storm Warnings
attachment
#6แว่นจัง • 30/10/2556 14:25
Necropants กางเกงหนังมนุษย์นำโชค


กางเกงที่เห็นในภาพทำมาจากหนังมนุษย์ของจริง แต่คนทำไม่ใช่คนโรคจิต แต่จุดประสงค์ที่แท้จริงของกางเกงนี่ คือ สวมใส่เพื่อความร่ำรวย! กางเกงนี้จัดแสดงที่พิพิธภัณฑ์Strandagaldur ซึ่งจัดแสดงของเกี่ยวกับที่ใช้ในเวทมนตร์คาถาต่างๆของประเทศไอซ์แลนด์

กางเกงหนังมนุษย์ :ผู้ที่สวมใส่กางเกงนี้เชื่อว่า กางเกงจะช่วยทำให้รวย เก็บเงินได้เยอะ แล้วจะรวยยังไง มีวิธีดังนี้

ก่อนอื่นต้องของอนุญาตจากคนเป็นเพื่อขอใช้หนังหลังจากที่ตายแล้ว หลังจากที่เจ้าของอนุญาตและพอตายแล้ว เมื่อศพถูกนำไปฝังเราก็ต้องไปขุดศพนั้นขึ้นมา แล้วแล้วถลกหนังจากศพตั้งแต่บริเวณเอวลงไป ให้เป็นเนื้อเดียวกัน (ไม่มีบอกต่อว่าหนังที่ถลกต้องไปตากแห้งก่อนใส่หรือเปล่า) ตอนที่สวมกางเกงหนังมนุษย์ กางเกงก็จะแนบติดผิวหนัง และต้องมีการใส่เหรียญที่ขโมยจากแม่หม้ายที่มีฐานะยากจนแล้วนำมาใส่ไว้ที่ถุงอัณฑะพร้อมกับNábrókarstafurซึ่งเป็นสัญลักษณ์ทางเวทมนตร์ที่เขียนลงกระดาษคล้ายๆกันยันต์ทางบ้านเรา

เหรียญในถุงอัณฑะจะดึงเงินทองให้เข้ามาอย่างไม่ขาดสาย ตราบเท่าที่เหรียญยังอยู่ในถุงอัณฑะ นอกจากนี้เจ้าของกางเกงดังกล่าวก็ต้องหาคนมารับช่วงต่อก่อนตาย ไม่งั้นวิญญาณของผู้นั้นจะต้องถูกสาปไปตลอดกาล ส่วนมากจะเป็นการสืบต่อจากรุ่นหนึ่งสู่อีกรุ่นหนึ่ง


ใครไปเที่ยวไอซ์แลนด์อยากไปดูของจริงลองดูรายละเอียดที่เว็บไซต์ของพิพิธภัณฑ์ได้เลย

http://www.galdrasyning.is/index.php?option=com_content&task=view&id=212&Itemid=60
attachment
#7แว่นจัง • 30/10/2556 14:29
Baby Pinhead ตุ๊กตาน่ารักเหมาะสำหรับเป็นเพื่อนเล่นคลายเหงาให้ลูกน้อยที่บ้านคุณ
attachment
#8แว่นจัง • 30/10/2556 14:30
แนะนำหนังใหม่ ที่ฟังจากพล๊อตอาจนึกว่าเป็นหนังรณรงค์การมีเพศสัมพันธ์แบบไม่ป้องกันจากกระทรวงสาธารณสุข แต่ขอบอกว่าไม่ใช่นะจ้ะ เพราะอันนี้โหดกว่าเยอะ Contracted เล่าเรื่องาวของซาแมนต้า เลสเบี้ยนสาวที่เผลอวางฉิ่งแล้วไปเป่าขลุ่ยกับชายแปลกหน้าคนหนึ่ง มันเป็นเพียงความสัมพันธ์ชั่วข้ามคืนตามประสาหนุ่มสาวไวไฟ ทว่าสิ่งที่เธอได้รับ ในช้าวันต่อมาคืออาการป่วยประหลาด ในตอนแรกซาแมนต้าคิดว่าเธอติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์ แต่ไปๆมาๆ อาการก็ทรุดหนักเหมือนเธอกำลังเน่าเปื่อยมาจากข้างใน เธอกำลังจะได้รู้ว่าโรคติดต่อบางทีอาจจะยังดีกว่าความตายที่กำลังกลืนกินอยู่ ณ บัดนี้





มีอีกเรื่องThanatomorphose พล๊อตคล้ายกันเดี๊ยะ



#9แว่นจัง • 30/10/2556 14:31
เรียกเจ้าหน้าที่มัลเดอร์ และเจ้าหน้าที่สกัลลีย์โดยด่วน

รูปบ้านที่เจ้าของจัดต้อนรับฮาโลวีน เป็นศพว่าลงทุนแล้ว เจออันนี้ชิดซ้ายไปเลย

จากเพจ Welcome to the Internet
attachment
#10แว่นจัง • 30/10/2556 14:32
คอมมิคTWD ครบ 10 ปี ลองมาดูสารคดีสั้นๆเกี่ยวกับคอมมิคเรื่องนี้กัน



#11แว่นจัง • 30/10/2556 14:33
ใครอยากได้โมเดลสองพี่น้องดาริลกับเมิร์ล ลองไปเล่นกันนะ
attachment
#12แว่นจัง • 30/10/2556 14:40
หรือไมเคิล ไมเยอร์ จะเสื่อมมนต์ขลังลงเสียแล้ว?

ถ้าพูดถึงหนังสยองที่ถูกจารึกในฐานะหนังแห่งวันฮาโลวีน จะมีหนังใดเล่าที่ตราตรึงเป็นสัญลักษณ์ของวันที่ 31 ตุลาคม ได้เท่า Halloween ของจอห์น คาเพนเตอร์ เว็บไซต์ภาพยนตร์ http://movies.yahoo.com/ จึงอยากลองทดสอบให้เด็กรุ่นหลังที่ไม่เคยชมภาพยนตร์คลาสสิคเรื่องนี้มาก่อน โดยคัดเลือกเด็กๆจากทั่วประเทศให้มาเข้าชม พร้อมทั้งขอคะแนนประเมิน และคำวิจารณ์ แต่ผลที่ได้กลับไม่ต่างจากการเอาปังตอไปสับอิฐ
เพราะคะแนนเฉลี่ยที่ออกมาเต็ม 10 อยู่ที่ 5.4 เท่านั้น ซึ่งต่ำจากที่คาดการณ์ไว้อยู่มากโข

"มันโคตรเชยเลยว่ะครับ" ไรอัน เอคลาริน นักศึกษาปี 4 ภาควิชาภาษาอังกฤษจาก UCLA ได้กล่าว "ผมว่ามันดูการ์ตูนเด๋อๆด๋าๆ มากกว่าจะน่ากลัวนะ"

เจสัน เซอริโอ นักศึกษาภาควิชาธุรกิจกล่าวสมทบว่า "ฮาแบบไม่ได้ตั้งใจ นี้เป็นหนึ่งในหนังโคตรห่วยขำขี้แตกที่ผมได้ดูมาช่วงนี้เลย"

ซาวาน่า วอล์เคอร์ จาก University of South Carolina บอกต่อ "บ่อนตงนะคะหนังไม่ได้น่ากลัวเลย ไม่มีฉากไหนหรือตรงไหนของเรื่องทำให้ฉันสะดุ้งได้สักนิด"

ทว่าก็ยังมีกลุ่มผู้คิดต่างอยู่บ้าง "ฉันไม่คิดว่าความระทึกในหนังมันเสื่อมลงหรอกนะ" อีริน คิม นักศึกษาจากนิวยอร์คกล่าว "เสื้อผ้าในหนังอาจตกยุคไปแล้ว แต่ความน่ากลัวของหนังยังตราตรึงไม่เสื่อมคลาย"

"ผมกรี๊ดออกมาเยอะกว่าที่คิดไว้เสียอีก" วิลเลี่ยม เพตติโพน เผย แต่เขาก็ยังสารภาพว่าตัวเองเป็นคนกลัวง่ายอยู่แล้ว "ความระทึกของหนังมันไม่ล้าสมัยเลยจริงๆ"

แคธลิน โรลว์ วัย 20 ปี บอกว่าหนังน่ากลัวพอประมาณ "ฉันตัวสั่นงึกๆยังกะเด็กผู้หญิงเลย"

ริตู ไกยา วัย 19 ปี จาก NYU ให้ความเห็นว่า "ฉากตอนต้นของหนัง รวมไปถึงบางฉากที่คาดไม่ถึงนั้นน่ากลัวดีแท้ แต่ส่วนใหญ่แล้วหนังออกจะเวิ่นเว้อไปหน่อย ซึ่งฉันคิดว่าพอหนังจบ มันก็จบแล้วจบเลย ไม่ได้หลอนอะไรฉันอีก"

โจเซฟ ซีเวลว์ นักศึกษาจิตวิทยาให้ความเห็นถึงการที่ผู้คนยุคนี้ไม่กลัว Halloween ไว้อย่างน่าสนใจ "เพราะมาตรฐานของหนังในยุคนี้ ทำให้ฮาโลวีนดูง่อยไปเลย แต่ถึงกระนั้นผมก็ยังเห็นในส่วนที่ว่าทำไมเมื่อหนังออกฉายครั้งแรก ถึงได้รับเสียงตอบรับดีเช่นนั้น"

"ฉันคิดว่าหนังสยองขวัญในยุคปัจจุบันเรียนรู้เทคนิคการเล่าเรื่องที่ดีมาจากฮาโลวีน นั้นจึงเป็นสาเหตุให้หนังถูกพูดถึง และประสบความสำเร็จ" อีริน คิม นักศึกษาสาวกล่าว

ไทด์ แอทคิน จาก NYU ให้ความเห็นว่าการที่หนังสร้างอิทธิพลอย่างมหาศาลให้กับหนังตระกูลนี้ กลับทำให้ตัวมันเองเสื่อมอิทธิพลลง "หนังหลายเรื่องใช้เทคนิค และวิธีการเดียวกันจนสุดท้ายมันก็กลายเป็นของเฝือ ถ้าผมไม่เคยดูหนังไล่เชือดเรื่องอื่นๆ มาก่อนหน้า ผมคงรู้สึกกลัวมากกว่านี้ แต่ผมเคยเห็นอะไรที่โหดกว่า เลือดสาดกว่ามาแล้ว"

คำติส่วนใหญ่ที่เห็นพ้องต้องกันก็คือ หนังปราศจากความสมจริงทางแง่มุมจิตวิทยาแบบหนังยุคใหม่ และดูเหมือนทั้งเรื่องจะขับเคลื่อนไปด้วยมุกหลอกราคาถูก อย่างเช่นการที่ไมเคิล ไมเยอร์ จู่ๆ เดี๋ยวก็โผล่มาจากความมืดแบบปุ๊บปั๊บๆ

"ฉันคิดว่าหนังสยองยุคนี้พยายามถักทอเรื่องเล่าของตัวเองให้ดูน่าเชื่อสมจริง ซึ่งผิดกับตัวไมเคิล ไมเยอร์ ที่มันดูเวอร์ๆ จนดูไม่น่ากลัวพอ" แคธลิน โรลว์ ให้ความเห็น

แล้วอะไรที่ทำให้หนังน่ากลัว หรือพวกเขากลัวได้ล่ะ เอดัวโร โลเปซ และไทด์ แอทคิน ตอบเหมือนกันเลยว่า "ดนตรีประกอบนั้นแหละที่สร้างบรรยากาศได้เยี่ยม"

อย่างอื่นที่โดนเพ่งเล็งก็คือพฤติกรรมของตัวละคร และความเป็นเหตุเป็นผลโดยรวมของหนัง พวกเขาบอกกันว่า

"ทำไมไม่มีใครคิดจะเปิดไฟสักดวงเลยว่ะ"
"พ่อแม่เด็กหายไปไหนหมด ทำไมปล่อยให้ลูกอยู่บ้านกันเพียงลำพังในวันฮาโลวีน"
"คนในยุค 70's เขาต้องแก้ผ้าทำอาหารกันเพราะกลัวอาหารเปื้อนใส่เสื้องั้นเหรอ"
"ตัวละครลอรี่ ทำไมถึงวางใจว่าฆาตกรสิ้นลมไปแล้วเพียงแค่จัดการมันเพียง 2 ครั้ง"

------------------------------------------------

สำหรับ Halloween นั้น เป็นภาพยนตร์ในปี 1978 ใช้ทุนสร้างเพียง 3 แสนกว่าๆ แต่ทำยอดจำหน่ายตั๋วได้ถึง 47 ล้านในเฉพาะสหรัฐอเมริกา และ 70 ล้านทั่วโลก ซึ่งหากคิดเป็นยอดเงินปัจจุบันเท่ากับว่าหนังทำเงินไป 240 ล้านแล้ว
Halloween ไม่ได้กลายเป็นหนังสยองขวัญที่ฟันกำไรเละเรื่องหนึ่ง แต่ในแง่ของคุณภาพของเนื้อหนัง มันได้สร้างมรดกต่อยอดให้แก่อนุชนคนหวีดรุ่นหลังมากมาย ตั้งแต่แนวทางการเล่าฆาตกรสวมหน้ากาก และวาระดิถีในการเชือดคนตามวันสำคัญ / การก่อกำเนิด The Final Girl (หญิงสาวผู้เหลือรอดคนสุดท้าย) เปิดศักราชให้ผู้หญิงเป็นฝ่ายกู้ชัยชนะ / ศีลธรรมนิยมในหนังสยอง (ครองตัวไร้มลทิน พาชีวินให้พ้นภัย) / และในทุกการจัดอันดับหนังสยองขวัญแทบทุกสำนัก ไม่เคยมีครั้งไหนที่ Halloween และไมเคิล ไมเยอร์ จะหลุดรอดสายตาไปได้

แล้วคุณล่ะคิดยังไงกับหนัง
หรือมีไหมหนังสยองที่ดูตอนเด็กแล้วกลัว พอโตมาแล้วเฉยๆ
หรือหนังเรื่องไหนที่หยิบมาดูตอนไหน ก็ยังขนลุกไม่เสื่อมคลาย มาบอกเล่ากันเถอะ

attachment
#13แว่นจัง • 30/10/2556 14:41
หลังจากเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมาบรู๊ซ แคมเบลว์ ออกมาให้สัมภาษณ์ว่าจะมีการสร้าง Army of Darkness 2 ขึ้นมาแน่ๆ ก็ทำให้มีแฟนหนังทวีตไปถาม Fede Alvarez ผู้กำกับ Evil Dead ฉบับรีเมค ซึ่งปัจจุบันกำลังเร่งเขียนบทภาคต่อผีอมตะอยู่ และเป็นตัวเต็งหมายเลขหนึ่งในการกำกับหนังเรื่องนี้อีกด้วย ทว่าคำตอบของเฟเดกลับกลายเป็นความเซอร์ไพร์ส เพราะเขาทวีตกลับมาว่า "ป๋าแซมจะกำกับเอง"

เอาเป็นว่างานนี้แฟนหนังสยอง เตรียมกรี๊ดได้เลย เพราะนี้จะเป็นการคืนสังเวียนผีอมตะของแซม ไรมี่ ที่เจ้าตัวลงมาจัดการแฟรนไชน์นี้ด้วยตัวเอง หลังจากที่ตัวหนังภาคสุดท้าย Army of Darkness ขึ้นหิ้งคัลท์คลาสสิคไปเมื่อ 21 ปีที่แล้ว ป๋าใหญ่ลงมาคุมเกมส์ด้วยตัวเอง น่าลุ้นว่าจะออกมายิ่งใหญ่แค่ไหน
attachment
#14แว่นจัง • 30/10/2556 14:41
The Following ซีซั่น 2 มาฉายต่อSleepy Hollow เจอกัน วันจันทร์ 20 มกราคม 2014 นี้
attachment
#15แว่นจัง • 30/10/2556 14:44
แฟนเพจแชร์มา

กำลังเป็นที่โจษจันอยู่ ณ เวลานี้มากๆ กับคลิปหลอนที่นำไปสู่เรื่องเขย่าขวัญ อันนี้เป็นสรุปที่เขาเขียนมานะครับ ขอแปะเลยแล้วกัน
"ผู้หญิงคนนี้ชื่อ Elisa Lam เธอเข้ามาในลิฟด้วยท่าทางแปลกๆ แล้วกดลิฟต์แม่งทุกชั้นเลย แต่ลิฟต์ไม่ยอมทำงาน จากนั้นเธอก็มีท่าทางแปลกๆ เหมือนหลบใครอยู่ หรือรอใครอยู่ เดินเข้าๆ ออกๆ ลิฟต์อยู่อย่างนั้น จนถึงนาทีที่ 1.57 (ขนลุกมาก) เธอทำท่าทางน่ากลัว เหมือนกำลังพูดอยู่กับใครซักคนที่มองไม่เห็นอยู่นานสองนาน แล้วเธอก็เดินจากไป แล้วลิฟต์ก็กลับมาทำงานอย่างปกติ !!

....แต่ Elisa หายตัวไปอย่างลึกลับ ไม่มีใครพบเธออีกเลย...

....สองอาทิตย์ต่อมา ทางโรงแรมได้รับเรื่องร้องเรียนว่าน้ำที่ใช้ในโรงแรมมีกลิ่นและมีสีจึงขึ้นไปดูบนแทงค์น้ำของโรงแรม และพบศพของ Elisa Lam อยู่ในแทงค์น้ำและเสียชีวิตมาแล้วประมาณสองอาทิตย์ !!

....คำนวนเวลาแล้ว ราวกับว่า พอเหตุการ์ในคลิปนี้จบ เธอก็ขึ้นไปบนดาดฟ้าเลยทันที และที่น่ากลัวกว่านั้นคือ เจ้าหน้าที่ต้องใช้เลื่อย เลื่อยแทงค์น้ำถึงจะนำศพเธอออกมาได้ แล้วเธอเข้าไปได้อย่างไรกัน ???

ปล.โรงแรมนี้มีประวัติว่าเคยเป็นที่พักของฆาตกรต่อเนื่อง ฉายา Night stalker

ปล.ภาพนี้เป็นภาพจากกล้องวงจรปิดในลิฟต์โรงแรมของจริง ไม่ใช่การแสดง และคดี Elisa Lam ก็มีอยู่จริง เธอเสียชีวิตจริงๆ หลังจากที่ปรากฏตัวในคลิบ"



แก้ไขล่าสุด: 30/10/2556 14:44 โดย แว่นจัง
#16แว่นจัง • 30/10/2556 14:45
ใครอยากดูอะไรฮาๆ มาชมหนังสั้นที่สร้างจากเกมส์ซิมส์กันเถอะ
ผีกรวงโบ๋ 4 พัทยาหลอน ฉายแล้ววันนี้ (18+ นะจ๊ะภาคนี้)
คลิ๊ก เพื่อชม >>>




รับประกันความเสื่อมไปถึงหูรูดโดยเต้ โรเจอร์ เจ้าเก่า Norville Shaggy Roger
#17แว่นจัง • 30/10/2556 14:46
Viking Vampire

เกี่ยวกับรายการเรียลลิตี้ ของนอร์เวย์ ชื่อว่า Valhalla ที่ผู้เข้าแข่งต้องมาอยู่รวมกันเพื่อใช้ชีวิตในแบบไวกิงท่ามกลางความงดงามของฟยอร์ดในนอร์เวย์ หมู่บ้านไวกิ้งในรายการสร้างอยู่บนสถานที่ที่ราชันย์ไวกิ้ง Eirik Bloodtooth เคยปกครองและต่อมาก็ถูกฝังร่างอยู่ที่นั้น แต่ที่ผู้เข้าแข่งขันไม่รู้คือ Eirik Bloodtooth รอเวลาจะเป็นอิสระมากว่าพันปีแล้ว

เมื่อผู้เข้าแข่งขันเข้าไปในสุสานและทำลายเครื่องผนึกที่ตรึงEirik Bloodtooth ไว้ให้อยู่แต่ในโลง ราชันย์ไวกิ้งที่อันตรายที่สุดในประวัติศาสตร์นอร์เวยก็เตรียมกลับมาปกครองนอร์เวย์ให้ชุ่มด้วยเลือดอีกครั้ง
attachment
#18แว่นจัง • 30/10/2556 14:46
ทางเลือกใหม่ของคนคิดต่าง #แชร์ถูกเพจแล้วจ้ะ #เนื้อหาสอดคล้องหัวเพจ

---------------------------------------------------
ดีลเลอร์รถมอเตอร์ไซด์ในพอร์ตแลนด์ โอเรกอน ลองเปลี่ยนบรรยากาศใหม่ ทำภาพนิ่งโฆษณาพรีเซนส์ Ducati 1199 Panigale ซึ่งเวอร์ชั่นเดิมเป็นแฟชั่นเซ็ทหญิงสาวนางแบบหุ่นเซ็กซี่โพสต์กับสองล้อสุดเย้ายวน มากลับด้านใหม่เป็นภาพบรรดาชายหนุ่มมาโพสต์ท่าเซ็กซี่ดูบ้างว่าให้อารมณ์ต่างกันแค่ไหน โดยเซ็ทแฟชั่นหนุ่มทั้งแบบเซ็กซี่และพยายามเซ็กซี่มีกันหลายรูป เลยขอเลือกมาฝากกันหนึ่งรูป
attachment
#19แว่นจัง • 30/10/2556 14:48
อิทธิฤทธิ์ของThe Exorcist เมื่อปี 1974 เคยอ่านผ่านๆรู้สึกว่ามีคนท้องไปดูแล้วกลัวมากจนแท้งลูกด้วย
attachment
#20แว่นจัง • 30/10/2556 14:49
IF YOU'VE GOT A TASTE FOR TERROR... TAKE HORRORCLUB TO CARRIE

Don't You Remember We Got A New Film-Meeting in November

ใครจะไปดู Carrie กับเราบ้างงงงงง
attachment
#21แว่นจัง • 30/10/2556 14:50
ถ้าเกิดเหตุ "ฆาตกรรมในห้องปิดตาย" โดยมี "คุณเป็นเจ้าบ้าน" มีนักสืบ 2 คนอาสาเข้ามาช่วยเท่านั้น คุณคิดว่าจะเลือกใคร

นักสืบคนอื่นๆก็มีนะ ยาคุโมะ เอย์จิ เลือกใครดี

http://pantip.com/topic/31162144

attachment
#22แว่นจัง • 30/10/2556 14:50
attachment
#23แว่นจัง • 30/10/2556 14:52
ขอปรบมือให้คุณพี่ชาวนาจากเนปาลคนนี้ ถูกงูเห่ากัด ก่อนจะไปขอความช่วยเหลือ คุณพี่กลับไปเอาไฟฉายที่บ้านก่อน แล้วก็ไปหางูเห่าตัวที่กัดจนเจอ ก่อนจะกัดงูกลับ และงูตายทันที
attachment
#24แว่นจัง • 30/10/2556 14:53
อย่าปล่อยให้หน้าเหี่ยว ตีนกาเกาะกิน ริ้วรอยมาเยือนก่อนวัยอันควร มาดึงหน้ากับเราสิค่ะ นกกระชับจากกายหยาบไปถึงวิญญาณ ตึงตั้งแต่ชาตินี้ไปจนชาติหน้า #ซีโนไบท์คลีนิก #บิดเปิดผี Hellraiser
attachment
#25แว่นจัง • 30/10/2556 14:54
((mini review)) จะบอกว่าไปดูเรื่องนี้แล้วหลับ คิดเป็นร้อยละ 30 ของหนังทั้งเรื่อง ถึงจะพอรู้เรื่องบ้าง แต่ก็ขาดอรรถรสไปมากโข แอดมินจึงไม่ขอรีวิวเจาะลึกมาก และในส่วนสาเหตุที่แอดมินหลับก็หาใช่ว่าหนังห่วยชวนปิดตาแต่อย่างใด แต่เป็นเพราะแอดมินโดนวางยาก่อนเข้างาน คือเนื่องจากภาพยนตร์เรื่องโอชิน เป็นหนังระดับแกรนด์จากญี่ปุ่น ทำให้งานเปิดตัวรอบปฐมฤกษ์ มีการจัดเลี้ยงอาหาร และเบียร์ เพื่อต้อนรับสื่อมวลชน และบุคคลสำคัญจากญี่ปุ่น เนื่องจากแอดมินคออ่อน พอกระดกเบียร์ไปจนหมดกระป๋อง ก็เริ่มตาลาย จนทำบัตรหาย (ต้องขอบคุณคุณป๊อบสุดสวย พีอาร์สาวที่หาบัตรให้ใหม่) และทำให้การเดินทางไปเยี่ยมชนชีวประวัติแม่หนูโอชินท่ามกลางทิวทัศน์ชนบทในหน้าหนาว ไม่ต่างจากการขึ้นรถไฟไปเที่ยวดอยแม่สลอง บรรยากาศเป็นใจ อากาศหนาว แสงตะวันแสนงาม ส่งผลให้แอดมินล่องลอยอยู่ในภวังค์และเข้าสู่ห้วงนิทราโดยเร็ว

แต่ถึงกระนั้นแอดมินก็พอจะตื่นขึ้นมาปะติดปะต่อเรื่อง และพอจะเล่าให้พวกเราฟังเข้าใจได้
หากประเทศไทยมีวัลลี เจ้าของฉายา หนูน้อยยอดกตัญญู ญี่ปุ่นเองก็มีโอชินนี้แหละ ที่เป็นตัวแทนของความกตัญญูท่ามกลางสภาวะรันทดของฐานะ และชะตากรรม ต่างกันนิดหนึ่งตรงที่ว่า เรื่องของวัลลีเป็นเรื่องจริง ส่วนโอชินนั้นเป็นเรื่องดัดแปลงจากชีวประวัติของคัทสึ วาดะ (มารดาของผู้ก่อตั้งห้างสรรพสินค้าเยาฮัน)

โอชินนั้นถูกสร้างเป็นละครครั้งแรกในปี 1983 โดยสถานี NHK โดยมีจำนวนตอนทั้งหมด 297 ตอน ซึ่งได้รับการบันทึกว่าเป็นหนึ่งในละครที่เรียกเรตติ้ง สร้างกระแสได้ถล่มทลายอย่างที่ไม่เคยมีมา ด้วยความน่ารักของโอชิน ความกตัญญูของเด็กสาว และความรันทดของชีวิต ที่ทำเอาคนญี่ปุ่น รวมไปถึงอีกหลายประเทศทั่วโลกต้องหลั่งน้ำตาให้กับเธอ ส่งผลให้ชื่อของโอชินครองใจผู้คนมานานนับตั้งแต่นั้นมา

สำหรับฉบับภาพยนตร์ในปี 2013 ก็ได้ ฮาชิดะ ซุงาโกะ มือเขียนบทจากสมัยละคร กลับมาเขียนบทให้กับโอชินฉบับจอเงินอีกครั้ง ซึ่งแอดมินคงไม่สามารถเทียบได้ว่าอันไหนดีกว่า ไม่ดีกว่ายังไง เพราะไม่มีโอกาสได้ดูละคร ก็ขอพูดความเห็นทั่วๆไปแล้วกัน
โดยส่วนตัวแล้ว เรื่องความงามของการถ่ายทำ ถือเป็นสิ่งที่คาดหวังได้ และหนังก็กำนัลความอภิรมย์ทางสายตาได้ตลอด เพียงแต่บางทีเราก็รู้สึกว่าหนังมันสวยไป นักแสดงหน้าตาดีไป หน้าผ่องไป ดูไม่รู้สึกถึงความยากจน กันดาร ทุพพลภาพ อะไรเลย เป็นความรู้สึกเหมือนเห็นคนกรุงไปแต่งตัวถ่ายพรีเวดดิ้งทรงเครื่องเป็นคนโบราณ แต่ดูยังไงมันก็เลอเลิศออร่าจับอยู่ตลอด (ฟีลแบบ จัน ดารา หม่อมน้อย) อันที่จริงแอดมินก็ไม่ได้คาดหวังว่าหนังจะต้องเหมือนหนัง neo-realism ของอิตาลียุคหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่จะต้องอัตคัตกันดารเพื่อความสมจริง แต่เราว่าพอหนังมันสวย มันเลยดูลอยๆหลอกๆ พอสมควร หรือจริงๆ มันเป็นความต้องการของผู้กำกับที่รู้ความต้องการคนดูส่วนใหญ่ แต่เราคงเป็นส่วนน้อย เลยไม่ได้เชื่อมโยงกับหนังมากก็เท่านั้น

ในส่วนของพาร์ทอารมณ์ ที่ทุกคนคงคาดหวังว่ามันต้องเศร้าร้องไห้เผาเต่าแน่ๆ สำหรับแอดมิน แอดมินไม่ร้องนะ คือตัวเรื่องมันเศร้าอยู่แล้ว แต่ผู้กำกับก็พยายามที่จะไม่ขยี้เรื่องให้ฟูมฟายจนเกินควร หรือพูดให้ถูกคือมันไม่ได้หดหู่หมดอาลัยตายอยากขนาดนั้น มันอยู่ในระดับที่พอดี เสมือนกับว่าท่ามกลางหิมะที่ขาวโพลน มีแสงตะวันสาดส่องเข้ามาให้เราอบอุ่นได้เสมอ (แต่ก็ไม่แน่ คนอื่นไปดูคงรื้นนัยน์ตา)

ตัวหนังเล่าชีวิตของโอชินแค่ช่วงวัยเด็กเท่านั้น (แน่ล่ะ จะให้เล่ายันแก่ คงได้ดูกันจนตาแฉะ 7 ชั่วโมง) ซึ่งพอหนังมันเล่าแค่ช่วงวัยเยาว์ ประเด็นที่ถูกนำเสนอเลยรัดกุม (เพราะช่วงวัยที่ต่างกัน มันก็จะก่อให้เกิดประเด็นที่มากขึ้น ตามสภาพจิตใจที่เติบโต) เราคิดว่าหัวใจของเรื่องโอชินในภาพรวมคือความกตัญญู แต่หัวใจของเรื่องในช่วงวัยเยาว์น่าจะอยู่ที่บทบาทของการตอบแทนบุญคุณแม่ (เพราะถ้าโตไปมันก็จะกลายเป็นบทบาทของเมียอะไรไป) จุดหักเหสำคัญของเรื่องไม่ได้อยู่ที่การออกจากบ้านไปรับใช้พวกคฤหัสถ์ แต่เป็นตอนที่โอชินเห็นแม่ตัวเองออกมาหาลำไพ่ด้วยการเป็นสาวเพื่อนเที่ยว ซึ่งสำหรับโอชินเอง การเห็นแม่นั่งหน้าดำครำ่เครียดอยู่ในกระท่อมยังดีเสียกว่าเห็นแม่มาตะแล๊ดแต๊ดแต๋อยู่ในเมือง อันนำไปสู่ความรู้สึกสับสนของตัวเธอเอง (ฉันทำงานขนาดนี้ แม่ยังมามีหน้ามาแร่ด แม่นี้ช่างไร้ยางอาย ทำไมแม่ต้องทำขนาดนี้ ชินไม่เข้าใจ!) แล้วหนังก็ตะครุบโอชินกลับด้วยหลักเทศนาโวหาร สาธกโวหาร ในแบบที่ทุกท่านคงเดาได้ นั้นแหละ เมื่อโอชินรู้ว่าแม่ทำไปเพื่ออะไร เพราะแม่รักและห่วงใยครอบครัว เพราะมันคือหน้าที่ของผู้หญิงที่ต้องหาเลี้ยงดูแลตอบแทนบุญคุณ เมื่อเด็กน้อยรู้แจ้งกระจ่างเธอก็ผลิบานด้วยความแจ่มใส และพร้อมสู้ชีวิตต่อไป หนังจบลงด้วยการที่โอชินเข้าใจแม่ เข้าใจตัวเอง เพราะเธอเข้าใจว่าลูกผู้หญิงมีหน้าที่ปฏิบัติเช่นไร สำหรับแอดมิน คิดว่าหนังจบดีนะ คือมันตอบโจทย์โอชินวัยเด็กได้ สรุปครบกระบวนความได้ดี แม้จะเอื่อยๆอืดๆไปบ้าง

สรุปแล้วคุณจะชอบหนังเรื่องนี้
1. ชอบหนังญี่ปุ่น วิวสวยๆ ดราม่าพอประมาณ ไม่อาร์ท ไม่เซอร์ เข้าใจได้ง่าย
2. รักเด็ก รักแม่ รักครอบครัว
3. เป็นคนสู้ชีวิต
4. อยากรู้จักโอชิน หนังเรื่องนี้สร้างความร่วมสมัยให้คุณได้

ฝากทิ้งท้ายอีกนิด - เรื่องเล่าของบุคคลสำคัญ หรือนิทานสอนใจในอดีตที่มักถูกนำกลับมาเล่าซ้ำๆ เหตุผลหนึ่งของมันคือการพยายามปลูกฝังแนวคิด หลักคำสอนในอดีตด้วยการหมุนวนกลับมาเพื่อเล่าใหม่ให้คนรุ่นหลังฟัง แต่ถึงกระนั้นเราก็ควรจะกลับมาทบทวนด้วยว่าข้อคิดอันดีงามเหล่านั้น สามารถนำมาใช้ได้หมดจดหรือไม่ เมื่อมองบริบทของอดีต เทียบกับปัจจุบัน แน่นอนว่าเรื่องเล่าของโอชิน หรือวัลลี มีไว้เพื่อสอนใจให้เด็กกตัญญู แต่เราก็ต้องไม่ลืมด้วยวาการช่วยเหลือผู้อื่น ย่อมไม่ใช่เรื่องปัจเจกของเราเพียงอย่างเดียว แต่เป็นเรื่องที่สังคม สวัสดิการสังคมจะต้องยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือ เรื่องของวัลลีก็ไม่ใช่แค่นั่งฟูมฟายกับการวิ่งตีนเปล่ากลับบ้านตอนพักเที่ยง แต่ต้องถามกลับด้วยว่าสาธารณสุข โรงพยาบาลล่ะไปไหน กองทุนหมู่บ้านมีไหม อย่าจมปลักแค่หยดน้ำตาและคุณธรรมประจำใจจนลืมมองว่าเรามีสิทธ์ที่พึงได้รับอะไรบ้าง ในเรื่องโอชินมันคือศตวรรษที่ 20 คนจนไม่ได้รับการศึกษา คนจนไม่รู้จักการคุมกำเนิด (แม่โอชินตกลูกมา 4-5 คน) และค่านิยมผู้หญิงในยุคนั้นก็สุดแสนจะรันทดถูกเอาเปรียบ เราก็ต้องกลับมาคิดว่าในยุคปัจจุบันเราจะยังเอาค่านิยมแบบนั้นมาใช้ได้ไหม มันควรปรับเปลี่ยนได้ไหม แล้วมันเคยมีการเปลี่ยนแปลงหรือไม่ แต่อย่างใด ฝากไว้ตรงนี้จ้ะ

Mini Review คือรีวิวหนังที่ไม่มีเนื้อหาเกี่ยวกับเพจเรา แต่แอดมินได้รับเกียรติจากค่ายจัดจำหน่ายหนังให้ไปชมรอบสื่อมวลชน ซึ่งจริงๆ จะไม่เขียนถึงก็ได้ เพราะมันไม่เข้ากับเพจอย่างที่บอกไป แต่ถึงกระนั้นทางค่ายหนังก็มักจะใจดีส่งบัตรมาให้เสมอมาทั้งที่มันไปคนละทางกับหนังหน้าเพจ ซึ่งแอดมินก็มักจะสาระแนแหกคอกไปดูบ่อยๆ (ด้วยโลภอยากดูหนังฟรี) ไอ้ครั้นจะดูแล้วกลับมานอนแทะเม็ดแตงโมเฉยๆ ก็ดูจะเป็นการเนรคุณ ประหนึ่งไปเสพทรัพยากรเขามาฟรีๆ ฉะนั้นเราจึงขออุทิศพื้นที่ว่าง 30kb ในการพูดถึงหนังนอกกระแสที่ได้ไปดูบ้าง (แต่รับรองว่าไม่กินเนื้อหาหนังสยองอันเป็นจานหลักของเราหรอก) แต่ถึงจะเป็นของฟรี แอดมินก็หาจะชมดะไปหมด ว่าไปตามเนื้อผ้า (ตอนไปดู The Barren เรายังไม่ชอบเลย ก็บ่นไป) ฉะนั้นจำไว้ว่าเรารับมาแค่บัตร บ่ได้รับเบี้ยมาด้วยนะจ้ะ
attachment
#26แว่นจัง • 30/10/2556 14:55
โฆษณาพิซซ่าPeppes Pizza จากนอร์เวย์ มาในแบบซอมบบบบบบบบี้



#27แว่นจัง • 30/10/2556 14:56
มีใครจำภาคแรกได้บ้างมั้ยน้อ ;)
attachment
#28แว่นจัง • 30/10/2556 14:56
โดนค่อนคอดว่าหลังๆทำเพลงหน่อมแน้มไป หนูวีนเลยขอประกาศศักดาความโหดด้วยการชวนพี่ปอบมาลิลีน มาฟีเจอริ่งในเพลงใหม่ "ชะนีโฉด" เสียเลย จะเป็นอย่างไร ไปฟัง



#29แว่นจัง • 30/10/2556 14:57
เกม Zombies ate my friends ทำมิชชั่นในแต่ละด่าน เช่น หาของมาซ่อมเฮลิคอปเตอร์ หาผู้รอดชีวิต ค้นของจากกล่อง

แต่energyหมดเร็วมาก เล่นแล้วสนุกดี ภาพน่ารัก มีอาวุธตั้งแต่ไม้ กระทะ ปืน ท่อ มีด สุ้กับซอมบี้

มีให้เล่นทั้งในiTunes และ Googleplay แล้ว

http://itunes.apple.com/app/id593969214?mt=8

http://play.google.com/store/apps/details?id=com.glu.zamf1&referrer=mat_click_id%3D020aa6bdf4b3837b59-20131029-2376
attachment
#31แว่นจัง • 30/10/2556 15:00
18 เรื่องที่คุณอาจยังไม่รู้เกี่ยวกับ "The Nightmare Before Christ

https://www.facebook.com/media/set/?set=a.10152022161853993.1073741838.179203673992&type=1

ตัวอย่าง

16. ทิม เบอร์ตัน ปฏิเสธคำขอของดิสนีย์ที่จะทำภาคต่อ โดยเขาให้เหตุผลว่า "หนังบางเรื่องก็ควรปล่อยไว้แบบนั้น ผมคิดว่าการไม่แตะต้องหนังจะทำให้จิตวิญญาณของหนังเหล่านั้นไม่ถูกกระทบกระเทือน"
attachment
#32แว่นจัง • 30/10/2556 15:01
คุณมีเหล้า แต่เรามีเลือด จันทร์หรรษา ทางใครทางมัน!!!
attachment
#33Evilkitten • 30/10/2556 19:36
ฮาคลืปจากความเห็น16มาก เอิ๊กๆ
Login
Function Used time : 0:00:00:00.015
Go Last