ว่าด้วย ประวัติครอบครัว วอร์เรน บ้านปราบผี (ภาค1)

by horrorfever • วันจันทร์ที่ 2 กันยายน พ.ศ. 2556 18:10
THE WARRENS Part [1]

กว่า 50 ปีแล้ว ที่เอ็ดและลอร์เรน วอร์เรน ได้รับการยอมรับในอเมริกาให้เป็นผู้เชี่ยวชาญชั้นแนวหน้าด้านวิญญาณและปีศาจวิทยา อย่างไรก็ตาม พวกเขายังเป็นคนเดิมกับที่เคยเป็นเมื่อ 50 ปีก่อนด้วย ยังคงเป็นผู้เคร่งศาสนาที่ถูกเรียกให้ไปจัดการกับเหล่าปรากฏการณ์ปีศาจที่ควบคุมไม่ได้ในประเทศอยู่เสมอ ทั้งคดีบาทหลวงถูกผีสิง คดีที่ผู้คนถูกทำร้ายร่างกาย คดีผีปรากฏกายและแสดงอำนาจ คดีที่เหยื่อถูกล่วงละเมิดและสิ่งแวดล้อมต่างๆเปลี่ยนที่เปลี่ยนทาง คดีที่ปีศาจไม่เพียงสิงในบ้านเท่านั้น แต่ทำลายมันด้วย

เอ็ด และ ลอร์เรน วอร์เรนอุทิศตนให้แก่งานของพวกเขา และเผยแพร่ทัศนคติที่ได้รับจากงานที่ไม่ธรรมดานี้อีกด้วย งานที่พวกเขาทำนั้นเป็นที่น่าจับตามอง และมั่นใจได้เลย ว่าเขารู้เรื่องแปลกประหลาดต่างๆที่มีอยู่แน่นอน คดีที่พวกเขาเปิดเผยจะเขย่าขวัญคุณ และสิ่งที่พวกเขาพูดแทบจะทำให้คุณล้มได้เลยทีเดียว ยิ่งกว่านั้น ครอบครัววอร์เรนไม่พูดมาก พวกเขารู้ว่ากำลังพูดอะไรอยู่ พวกเขาเคยเจอ เคยจัดการมาหมดแล้ว วอร์เรนได้พูดถึงทั้งกระบวนการ และเหตุจูงใจในกิจกรรมต่างๆของพวกผี และยังพูดถึงว่าแท้จริงแล้ว อะไรคือสิ่งที่ทำลายความสงบสุขในบ้านผีสิง และบอกอย่างแม่นยำว่ามันเกี่ยวกับคุณอย่างไร ทั้งในตอนนี้ และอนาคต

เอ็ด วอร์เรน เป็นนักปีศาจวิทยา ส่วน ลอร์เรน นั้นเป็นร่างทรง แต่คุณคงมองไม่ออก หากคุณเผอิญไปเจอพวกเขาตามถนน พวกเขาไม่ได้ดูลึกลับน่ากลัวเลย เขาดูไม่แปลกประหลาดสักนิด พวกเขาก็เป็นคนธรรมดาที่บังเอิญทำงานที่ไม่ธรรมดาเท่านั้นเอง แต่ครอบครัวนี้ไม่บ่นหรอก พวกเขาปรับตัวได้ด้วยการเคร่งศาสนา ในความจริงแล้ว มันเป็นสิ่งเดียวที่จะทำได้ในงานชนิดนี้ เพราะสิ่งที่พวกเขาเผชิญไม่ใช่ ไอหมอก หรือ เงาตะคุ่ม ที่มาแล้วก็จากไปยามค่ำคืน แต่พลังที่เขาเจอนั้น พวกเขายอมรับเลยว่า พวกมันปรากฏตัวเพื่อขัดขวางการทำงานของพระเจ้าอย่างแท้จริง

ปีศาจทรงพลังมาก พลังงานของมันเป็นนิรันดร และมันก็เผยตัวออกมา ในโลกที่เย้ยหยันเรื่องวิญญาณ และหัวเราะเยาะในเรื่องผิดธรรมชาติ ครอบครัววอร์เรนได้ขวางความคิดนี้ด้วยข้อความที่ว่า

“เทพนิยายเป็นเรื่องจริง ปีศาจมีตัวตน พระเจ้ามีตัวตน และสำหรับเรา มนุษย์ทั้งหลาย โชคชะตาขึ้นอยู่กับว่าเราจะเลือกอยู่ฝ่ายใด”
attachment

Replies (22)

#1horrorfever • 2/9/2556 18:11
ช้าหน่อย (ไม่หน่อยหรอก) นะคะ แปลไปลงไป ลุ้นดี 555555555555555 ยาวมากด้วย *ปาดเหงื่อ*
#2horrorfever • 2/9/2556 20:30
‘The Warrens ยุคเริ่มแรก’

เอ็ด วอร์เรน เติบโตมาในบ้านผีสิง ในคอนเนคติกัต ตั้งแต่อายุ 5 ขวบ จนถึงอายุ 12 เขาคำนึงถึงมันว่า

“พ่อของผมซึ่งตอนนั้นเป็นตำรวจ มักพูดเสมอว่า ‘เอ็ด ทุกอย่างที่เกิดขึ้นในบ้านหลังนี้ต้องมีเหตุผล’ แต่เขาก็ไม่เคยพูดเหตุผลที่ว่านั่นเลย”

“ครอบครัวของเราเข้านอนกันหมด และราวๆตี2-ตี3 บ่อยครั้งที่ผมจะได้ยินเสียงประตูตู้เสื้อผ้าค่อยๆเปิด ตอนแรกผมก็มองไปที่ตู้เสื้อผ้านั้น มีแต่ความมืด และอย่างช้าๆ ผมก็เริ่มมองเห็นแสงไฟเริ่มก่อรูปร่าง จนกลายเป็นทรงกลมเหมือนลูกบาส จากนั้นผมก็เริ่มเห็นเค้าใบหน้าในลูกบอลนั้น มันเรียกว่า ลูกบอลผี (Ghost Globule)

“ในลูกบอลผีนั้น เป็นใบหน้าหญิงแก่ เธอไม่ได้มองหาอะไรเลย ลูกบอลตรงรี่เข้ามองในห้องนอนของผม สิ่งที่ตามมาคือเสียงเดิน และเสียงหายใจหนักๆ ห้องทั้งห้องเย็นเยียบ เป็นความเย็นผิดธรรมชาติ เป็นความเย็นของปีศาจ แล้วผมก็พูดกับตัวเองว่า ‘เอ็ด ทุกอย่างมันมีเหตุผลน่า’ แต่ตอนนั้นผมก็วิ่งออกจากห้องนอน และไปแทรกอยู่ตรงกลางระหว่างพ่อกับแม่ทันที”

เมื่อเอ็ดอายุได้ 16 ปี เขาไปทำงานเป็นพนักงานเฝ้าประตูที่ โรงละคร เดอะ โคโลเนียล ใน บริดจ์พอร์ต คอนเนคติกัต ที่นั่นเอง เขาได้พบ ลอร์เรน ริต้า โมแรน

“ลอร์เรน กับแม่ของเธอจะมาทุกคืนวันพุธ” เอ็ดกล่าว

“ผมเห็นลอร์เรนเข้ามา และเราก็เริ่มคุยกัน จากนั้นก็คบเป็นเพื่อน ตอนนั้นผมและเธออายุ 16 คืนหนึ่งผมเดินไปส่งเธอที่บ้าน และขอเธอเดท นั่นคือจุดเริ่มต้นของทุกสิ่งครับ”

เอ็ด วอร์เรนไปเป็นทหารเรือ ในวันเกิดครบอายุ 17 ปี และ 4 เดือนต่อมา หลังจากที่เรือของเขาจมลงในแอตแลนติกเหนือ เขากลับบ้านเพื่อพักสำหรับผู้รอดชีวิตจากเรืออัปปาง 30 วัน ระหว่างนั้น ทั้งสองได้แต่งงานกัน เมื่อเอ็ดกลับมาหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 เขาและลอร์เรนก็ให้กำเนิดลูกสาว จากนั้นเอ็ดก็เข้าโรงเรียนศิลปะเพอร์รี่ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของมหาวิทยาลัยเยล 2 ปีด้วยกัน

“ผมเศร้ามากครับเรื่องนั้น” เอ็ดพูด “ผมบอกลอร์เรนว่า ‘คุณรู้มั้ย ผมวาดได้ดีกว่าโครงสร้างพวกนี้อีก ที่เขาสอนผมน่ะ มีแต่เรื่องเรขาคณิคกับอะไรก็ไม่รู้ไร้สาระที่ผมไม่อยากจะวาด’ ผมว่างั้น ‘เราต้องทำเรื่องสนุกๆกันบ้าง’

“ผมจึงไปซื้อรถคันนี้มาในราคา 15 ดอลลาร์ ซึ่งผมยังเก็บไว้ในสนาม มันเป็นรถ เชฟวี่ อีเกิล ดีลักซ์ ปี 1933 เจ้าของร้านแถมล้อให้ผมสองล้อด้วย ผมต้องแบ่งจ่ายให้เขา อาทิตย์ละ 5 ดอลลาร์ ผมบอกลอร์เรนว่า ‘รู้มั้ย ถ้าเราย้ายไปอยู่ที่อื่นที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวอย่าง แมสซาชูเซตส์ เวอร์มอนต์ นิวแฮมชายร์ พนันได้เลยว่าผมวาดรูปได้เป็นปึกๆ แล้วก็เอาออกมาวางข้างนอกให้คนเห็น แล้วเขาก็จะซื้อ’”

พวกวอร์เรนมีความสุขกันจริงๆ

“มันกลายเป็นการใช้ชีวิตที่น่าอัศจรรย์ครับ ขายรูปได้ในราคาที่น่าเหลือเชื่อ 3 ดอลลาร์ 4 ดอลลาร์ แต่คุณก็ต้องเข้าใจว่าตอนนั้น ฮอทด็อกอันละ 10 เซนต์ แฮมเบอร์เกอร์อันละ 10 เซนต์ ดูละครครั้งละ 25 เซนต์ แก๊สแกลลอนละ 18 เซนต์ ดังนั้น ถ้าเราได้มา 5 ดอลลาร์สำหรับภาพวาด 1 ภาพ มันก็ไปได้สวย จริงมั้ย?”

ผ่านทางการวาดภาพนี้เอง ที่ทำให้ ครอบครัววอร์เรนเริ่มต้น ‘สืบสวนเรื่องลี้ลับ’ เมื่อเอ็ดได้ข่าวว่าสถานที่ใดออกมาอ้างว่ามีผีสิงอยู่ ไม่ว่าจะเป็นบ้าน หรือพื้นที่ผีสิง เขาก็จะลากลอร์เรนเพื่อไปพิสูจน์ทันที

ลอร์เรนมักจะพูดว่า “โอ้ เอ็ด ผีน่ะไม่มีจริงหรอก” แล้วเอ็ดก็จะเล่าเรื่องที่เขาเจอในบ้านของเขาที่บริดจ์พอร์ตให้ฟัง แล้วลอร์เรนก็จะยอมไป

วิธีการเข้าไปในบ้านผีสิงของครอบครัวนี้ก็น่าสนใจไม่แพ้กัน
“เรายังเด็กมาก ไม่มีใครยอมให้เราเข้าไปหรอก ทำได้ก็แค่อยากรู้อยากเห็นเท่านั้น เรายังไม่ได้เป็น ผู้อำนวยการของ ‘สมาคมวิจัยด้านวิญญาณแห่งนิวอิงแลนด์’เลย”

“ผมจะไปยืนกลางถนน ที่ๆทุกคนมองเห็น แล้วก็เริ่มสเก็ตรูปบ้าน คุณจะเห็นว่าม่านเคลื่อนไหว พวกเขาคงคิดว่า ‘เด็กพวกนั้นมาทำอะไร’ ผมจะวาดรูปบ้านสวยๆ แล้วก็มีรูปผีอยู่ในนั้นด้วย แล้วผมก็จะให้ลอร์เรนไปเคาะประตูบ้าน ด้วยบุคลิกแบบไอริชของเธอ เธอจะพูดว่า ‘โอ้ สามีของฉันชอบวาดรูปบ้านผีสิงมากเลยค่ะ และเขาก็วาดนี่สำหรับคุณ’ ผมวาดเป็นพิเศษให้พวกเขาเลยนะ”

ผ่านทางภาพวาดนี้เองที่ทำให้ครอบครัววอร์เรนเข้าไปในบ้านต่างๆได้ และพวกเขาก็จะคุยกับเจ้าของบ้านรายคน โดยพื้นฐาน เอ็ดแค่อยากจะเห็นว่าสิ่งที่เกิดขึ้นกับเขานั้น ได้เกิดขึ้นกับครอบครัวเหล่านี้หรือไม่ ผ่านทางรูปวาดนี้เองที่ทำให้คู่มหัศจรรย์เกิดขึ้น
attachment
แก้ไขล่าสุด: 3/9/2556 08:23 โดย horrorfever
#3Maya2552 • 2/9/2556 21:11
ไปดู The Conjuring มาแล้ว
ปกติชอบดูหนังประเภทสยองชวัญอยู่แล้ว
ยิ่งเป็น Base on true story ยิ่งชอบเลย

ขอบคุณเรื่องเล่านะคะ จะเข้ามาอ่านอีกเรื่อยๆ
ปกติจะตาม facebook อยู่ค่ะ
#4lovenovice • 2/9/2556 21:13
ติดตามๆ
#5Bullab • 2/9/2556 21:17
ปาดขวา รอ อิอิ
#6ChaChaKoi • 2/9/2556 21:49
ปาดจ้า
#7papapa • 2/9/2556 22:00
รออ่านด้วยจ้าาา

ขอเยอะๆ เลยนะครับ
#8papapa • 2/9/2556 22:00
รออ่านด้วยจ้าาา

ขอเยอะๆ เลยนะครับ
#9horrorfever • 2/9/2556 22:13
เดี๋ยวพรุ่งนี้เย็นๆจะมาต่อนะคะ ขอโทษที่ให้รอค่าา
#10แว่นจัง • 2/9/2556 22:16
30-day survivor's leave

ถ้าเรือที่ลูกเรือประจำการอยู่เกิดอุบัติเหตุจมลง หรือสภาพใช้การไม่ได้อีกต่อไป ก็จะได้รับอนุญาตให้ลาพัก30วัน โดยไม่ได้เงินค่าจ้าง

ลองดู

http://en.wikipedia.org/wiki/Port_Chicago_disaster

http://www.anzacday.org.au/history/ww2/anecdotes/unsung.html

http://www.anzacday.org.au/history/ww2/anecdotes/unsung.html
#11poiily • 3/9/2556 11:03
ปาดรอไว้นะจ๊าา
รอจ้าาา

ขอบคุณสำหรับข้อมูลค่ะอ่านเพลิน
#12kubkew • 3/9/2556 15:32
มาติดตามคนนะคะ

ชอบจังเลยมีคนมาแปลให้อ่าน
#13drugstyle* • 3/9/2556 21:21
ติดตามมมม -...- ขอบคุณค้าบบ
#14horrorfever • 3/9/2556 22:10
‘แง่คิดของครอบครัววอร์เรนต่อสิ่งเหนือธรรมชาติ’

เอ็ด วอร์เรน:

“เมื่อคุณมองไปที่พัดลม ขณะที่มันหยุดนิ่ง คุณจะเห็นใบพัดของมันได้อย่างง่ายดาย แต่ทันทีที่มันเริ่มหมุน คุณจะไม่เห็นอะไรเลย มันล่องหนไปแล้ว วิญญาณก็อยู่ในสถานะแบบนั้น พวกเขาอยู่รอบๆตัวเราตลอดเวลา แค่คุณไม่เห็นเท่านั้น แต่ถ้าคุณเป็นเหมือนลอร์เรน คุณจะเห็นเขาอย่างชัดแจ้ง ได้ยินเสียงเขาอย่างชัดเจน

แต่ผมไม่เห็น และมันไม่ดีเลย เพราะในฐานะนักค้นคว้าแล้ว ใครๆก็คิดว่าผมเป็นเจ้าทึ่มที่เห็นผีลอยไปลอยมา ในขณะที่พวกเขาไม่เห็นอะไร ผมจึงต้อง เห็นมัน รู้สึกถึงมัน ได้ยินเสียงมัน ผมต้องบันทึก ก่อนที่จะยอมรับสิ่งนั้น

ร่างทรงและหมอดูนั้นจำเป็นสำหรับเรามาก เพราะพวกเขาจะบอกเราได้ทันทีถ้ามีสิ่งใดอยู่ตรงนั้น ผมไม่รู้เลย ผมอาจจะเดินอยู่ในบ้านเป็นเดือนๆ และไม่รู้เลยว่ามีอะไรอยู่รึเปล่า ผมสามารถสัมภาษณ์คนที่อยู่ในนั้นได้ และจากความรู้ ผมอาจบอกได้ว่ามีบางสิ่งอยู่ แต่เหล่าหมอดูนั้นคือภาพวาด วิญญาณจะวาดนิมิตลงบนร่างทรงหรือหมอดูอย่างจริงจังแข็งขัน
บ่อยครั้งที่เราใช้หมอดู 3-4คน สำหรับสถานที่เดียว เราพาพวกเขาไปบ้านผีสิงพร้อมกันทีเดียว พวกเขาไม่รู้มาก่อนว่ากำลังไปที่ไหน คดีเกี่ยวกับอะไร แล้วถ้าพวกเขาบอกเราในเรื่องเดียวกันกับที่เรารู้มา ว่าพวกเขาเห็นวิญญาณผู้หญิงในห้องนั่งเล่นหรือ ผู้ชาย หรือเด็ก เราก็จะรู้ว่าเรามาถูกทางแล้ว

ผมค่อนข้างคิดอย่างมีหลักการ พวกเราร่วมงานกับนักวิทยาศาสตร์ด้วย และผมคำนึงถึงทั้งไสยศาสตร์และวิทยาศาสตร์ จะมีพวกต่อต้านพระเจ้าที่ทำตัวเป็นนักสืบขี้สงสัยพูดกันว่า

“ ไม่มีบทพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์ว่า พระเจ้ามีอยู่จริง วิญญาณมีอยู่จริง ว่ามีสิ่งมหัศจรรย์เกิดขึ้นจริง”

เหลวไหล ทุกอย่างมันพิสูจน์ได้ทั้งนั้น ที่นี่ (พิพิธภัณฑ์อ๊อคคัลท์) เรามีวัตถุพยานเป็นร้อยๆชิ้น เราสะสางมาแล้วเป็นพันคดี และยังมีใครอีกมากมายที่พิสูจน์มาแล้วว่า ใต้เงาแห่งความสงสัยพวกนั้น สิ่งเหนือธรรมชาติมีอยู่จริง และเพรโตเนเชอรัล (pre-to-natural) มีอยู่จริงๆ ที่ผมเรียกว่า pre-to-natural เพราะผมกำลังพูดถึงด้านลบ ในขณะที่ Supernatural (สิ่งเหนือธรรมชาติ) เป็นด้านบวก

เราเคยบันทึกภาพเลดี้ไวท์แห่งอีสตัน เราถ่ายติดผีโพลเตอร์ไกส์ที่ทำร้ายผู้คน (T/N โพลเตอร์ไกส์คือผีที่ชอบป่วนในบ้าน เริ่มตั้งแต่ทำให้หมาหอน เคลื่อนย้ายข้าวของ ทำเสียงแปลกๆในห้อง เปิดปิดไฟ แกล้งผู้ที่อยู่อาศัย ไปจนถึงทำร้ายร่างกาย และเอาชีวิต) และเรายังถ่ายภาพติดวิญญาณอีกเยอะแยะเต็มไปหมด

เราทำงานกับพระสงฆ์ที่นิกายของพวกท่านสอนให้รักพระเจ้าและรักผู้อื่น เราไม่โง่ขนาดจะไปคิดว่าเพราะเราเป็นคาธอลิคเราจึงเป็นพวกเดียวที่รอดหรอก นี่เป็นปัญหาที่ไอร์แลนด์กำลังเผชิญอยู่ในทุกวันนี้ และที่อื่นๆด้วย เราทำงานกับทุกคนที่มีความศรัทธา

เรามีรูปผีเป็นพันๆรูป ผมไม่ได้พูดถึงการถ่ายรูปสิ่งเหนือธรรมชาติ แต่ผมกำลังพูดถึงวิญญาณที่ทำให้คุณและผมเข้าใจชัดแจ้งตรงกัน คุณถามหาหลักฐาน เราก็เอาหลักฐานให้คุณดู

เราได้พิสูจน์ให้ศาลเห็นเมื่อปี 1989 ว่า หญิงคนหนึ่งกับลูกของเธอถูกผีขับรถพาออกไปนอกบ้าน เธออาศัยอยู่ที่เฮบรอน ในคอนเนคติกัต เราไปที่ศาลร็อควิลล์ และเราก็ชนะคดี ตัวแทนอสังหาฯที่ขายบ้านหลังนี้ฟ้องร้องเธอถึง 2พันดอลลาร์ เธอขอร้องให้เราไปที่บ้านและหาหลักฐานเพื่อพิสูจน์ว่ามันมีผีอยู่จริงๆ

คราวนี้ คุณจะเดินเข้าไปในศาลเฉยๆแล้วพูดว่า “ศาลที่เคารพ บ้านนั้นมีผีครับ” อย่างนั้นไม่ได้ คุณต้องมีหลักฐาน ทั่วๆไปก็จะใช้รูปภาพ เสียงบันทึก หรือพยานบุคคล นั่นคือสิ่งที่เราใช้ เราชนะคดี พวกเรากลายเป็นตัวอย่างแก่ประเทศนี้

พวกนักวิทยาศาสตร์พากันพูดว่า “คุณไม่เห็นจะพิสูจน์อะไรเลย คุณไม่ได้เอาผีใส่ขวดมาให้เราตรวจสอบซักหน่อย” ปัญญาอ่อน พวกเขาทำเหมือนต้องตรวจสอบทางวิทยาศาสตร์อย่างเดียวว่าพระเจ้ามีอยู่จริง ผีมีอยู่จริง คุณจะมาใช้วิทยาศาสตร์ในโลกเหนือธรรมชาติไม่ได้

ถ้าเราพิสูจน์ให้ศาลเห็นว่าผีมีอยู่จริงได้ และมีบ้านผีสิงจริง ผมว่ามันก็ดีสำหรับทุกคนล่ะนะ
attachment
แก้ไขล่าสุด: 4/9/2556 13:58 โดย horrorfever
#15horrorfever • 3/9/2556 22:11
ขอบคุณพี่แว่นจังสำหรับข้อมูลด้วยค่ะ
#16pea • 4/9/2556 14:22
ไปรีเควสถามประวัติสองคนนี้ในกระทู้ก่อน จขกท.

ก็จิตใจงามทำให้ถามคำขอ ขอบพระคุณมากๆๆๆ
#17horrorfever • 4/9/2556 15:20
‘สมาคมวิจัยด้านวิญญาณแห่งนิวอิงแลนด์’ (The New England Society For Psychic Research)

สมาคมวิจัยด้านวิญญาณแห่งนิวอิงแลนด์ (T/N ต่อจากนี้จะแทนด้วย N.E.S.P.R.) ก่อตั้งเมื่อปี 1952 เป้าหมายในตอนแรก เพียงแค่ต้องการสืบเรื่องน่ากลัวเท่านั้น ต่อมา ราวปี 1965 ครอบครัววอร์เรน ได้ไปที่บ้านหลังหนึ่งซึ่งมีวิญญาณเด็กผู้หญิงนามว่า ซินเธีย พวกเขารับฟังเด็กคนนี้ผ่านทางร่างทรงมืออาชีพคนหนึ่ง เธอบอกว่าเธอกำลังตามหาแม่ เอ็ดคิดในใจว่า “น่ากลัวจริง เด็กคนนี้ยังมีห่วง เธอตามหาแม่ทั้งวันทั้งคืน เราจะช่วยเธอยังไงดี?”

ไม่มีอีกแล้ว แค่สืบหาบ้านผีสิงสนุกๆ พวกวอร์เรนอยากจะช่วย คำถามก็คือ แล้วจะเอาความรู้จากไหนไปช่วยวิญญาณล่ะ? แล้วใครรู้ลึกเกี่ยวกับเรื่องพวกนี้? บาทหลวง? พระสงฆ์? รับไบ? เอ็ดเริ่มพูดคุยกับพระที่มีศรัทธาเป็นโหลๆ แล้วถามพวกเขาว่า “ถ้ามีคนมาบอกว่า บ้านนี้มีผี คุณจะทำอย่างไร?”

บ้างพูดว่า “ผมจะบอกให้เขาไปพบจิตแพทย์” บ้างก็ว่า “ผมจะไปที่บ้านหลังนั้น แล้วสวดมนต์ให้มัน ถ้าไม่ได้ผล ผมจะทำมิสซา ถ้าไม่ได้ผลอีก ผมจะเป็นคนขับไล่มันเอง” แต่บาทหลวงหลายคนที่ผมสัมภาษณ์ ไม่เชื่อแม้กระทั่งว่าปีศาจมีจริง แต่มันก็เป็นสิ่งที่นิกายคาธอลิคสั่งสอน มันอยู่ในไบเบิ้ล แทบจะในทุกๆ 10 คำเลยด้วยซ้ำ ผีสาง จิต วิญญาณ ปีศาจ ทุกอย่างมันอยู่ในพระคัมภีร์ ทุกสิ่งที่เราพูดถึงกัน

งานของ N.E.S.P.R. นั้น อ้างอิงจากศาสนา แต่ก็ใช้วิทยาศาสตร์ด้วย หลายคนพูดกับครอบครัวนี้ว่า “พระเจ้า คุณเดินท่อมๆเข้าไปในบ้านแล้วถามหาผีเนี่ยนะ!” แล้วเอ็ดก็ยอมรับว่า “ใช่เลย ผมมองหาผีนี่แหละ แล้วผมก็มองหาอย่างอื่นด้วย และผมก็มีนักวิทยาศาสตร์ไปด้วยนะ พวกเขาก็มองหาอย่างอื่นเหมือนกัน พวกเราไปด้วยกัน คุยกัน ทำทุกอย่างตรงไปตรงมา ไม่มีใครหน้าไหนจะหลอกเราไปที่บ้านพวกนั้นแล้วปั่นหัวเราได้หรอกครับ คุณจะบอกว่าบ้านคุณมีผี แล้วก็ไล่เราออกไปแค่นั้นไม่ได้ ผมนี่ขี้สงสัยมาก ผมต้องเห็นมัน ได้ยินเสียงมัน สัมผัสถึงมันได้ด้วยประสาทสัมผัสทั้ง5”

หมอ นักวิจัย ตำรวจ พยาบาล นักศึกษา และแม่บ้าน เหล่านี้คืออาสาสมัครที่อุทิศตนมาเพื่องานของ N.E.S.P.R พวกเขาไม่เรียกค่าจ้าง ขอเพียงให้จ่ายค่าใช้จ่ายที่ครอบคลุมในงานเท่านั้น
attachment
#18horrorfever • 4/9/2556 15:21
@คุณ pea มีคนรออยากอ่านก็ดีใจค่ะ :D
#19horrorfever • 4/9/2556 16:06
‘พวกขี้สงสัย’

หลายคนพูดกันว่า “เอ็ด วอร์เรน ซ่อนอยู่หลังความเชื่อคาธอลิคของเขา” แต่เขาพูดว่าเขาใช้มัน เขาไม่เคยหลบลับหลังอะไร “และผมก็รู้ว่า (ความเชื่อในพระคัมภีร์) มันเป็นความจริง เพราะผมเห็นมัน รู้สึกมัน ได้ยินเสียงของมันมาแล้ว ทุกสิ่งที่พูดมา”

ใครต่อใครพูดกันว่า เอ็ด วอร์เรนเพี้ยน เพราะเขาเชื่อเรื่องผี “ใช่สิ ผมเชื่ออยู่แล้ว” เขาตอบ “ผมเรียนรู้จากมันเหมือนเด็ก และพิสูจน์ว่ามันมีจริงเหมือนผู้ใหญ่ ท่ามกลางความสงสัย ถ้าคุณไม่อยากเรียกมันว่าผี วิญญาณ คุณเรียกมันว่าความชั่วร้ายก็ได้ ไม่สนหรอกว่าคุณจะเรียกอะไร ศาสนาเป็นเรื่องที่มนุษย์คิดขึ้น แต่จิตวิญญาณไม่ใช่”

“จากวันที่ผมเข้าไปอยู่ในบ้านผีสิง ผมก็อยากจะสื่อให้ทุกคนรู้เรื่องมัน แต่ทุกคนกลับประณามผมเรื่องนั้น เขาพูดกันว่า ‘เอ็ด วอร์เรนน่ะอยากจะขึ้นหน้าหนังสือพิมพ์ เขาอยากจะมีหนังสือ อยากจะเล่นหนัง อยากจะดังระเบิด’ คุณพูดโคตรถูกเลย ทั้งหมดที่ผมคิดก็คือทำให้ทุกคนรู้จักผี ปีศาจ สังคมที่ขี้ระแวงเป็นเกราะป้องกันที่ดีของพวกมัน และผมต้องทำให้แน่ใจว่าผมทำให้พวกมันเป็นที่รู้จักในทุกๆทางที่ผมทำได้ เขาว่ากันว่าพวกผมได้เงินมากมายก่ายกองจากงานนี้ กว่าเราจะได้เงินมานั้นแสนจะยากลำบาก เพราะพวกหนังสือและข้อความอย่างนั้น เราไม่ได้หาเงินกันง่ายๆ และเงินนั้น เราก็สมควรที่จะได้รับ เราไม่เคยคิดค่าจ้างเกินจริง แต่ถ้าคุณอยากให้เราบินไปอริโซน่าล่ะก็ คุณก็ต้องจ่ายส่วนต่างนะ”

----------------------------------------------------

จบภาค 1 นะคะ ลากยาวตั้งสามวัน = = รอต่อภาคสองเนอะ ครอบครัวนี้เรื่องเยอะจริงๆ
ติชมได้นะคะ ถ้าผิดพลาดประการใดก็ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย
ที่มาทั้งหมดมาจาก
http://www.warrens.net/Warrens-Bio.html

อ่านให้สนุกนะคะ :D

ปล. รูปนี้ถ่ายได้ที่ Amityville ค่ะ 1 ในเคสที่ทำให้วอร์เรนเป็นที่รู้จัก ว่ากันว่าเป็นเด็กผู้ชายในรูปค่ะ
attachment
แก้ไขล่าสุด: 4/9/2556 16:07 โดย horrorfever
#20iaiwarin • 4/9/2556 17:23
ขอบคุณมากนะคะ

^^ แปลมาอีกนะ
#21Maya2552 • 4/9/2556 17:52
อ่านแล้ว น่าสนใจมากค่ะ

#22ท่านเทพฯ • 5/9/2556 00:07
รอตอนต่อไปจ้าาา
...
attachment
Login
Function Used time : 0:00:00:00.015
Go Last