เรื่องจริงจากThe Conjuring รวมเกร็ดเล็กเกร็ดน้อย [มีspoil]

by แว่นจัง • วันพุธที่ 28 สิงหาคม พ.ศ. 2556 14:54
พอหนังเรื่องไหนขึ้นว่าBased on a true story คนดูหลายๆคนก็ต้องไปหาข้อมูลเบื้องหลังมาอ่านกัน เรื่องThe Conjuring เช่นกัน พอบอกมาจากเรื่องจริง ก็ต้องไปหาข้อมูลมาอ่านกันเลย แต่หนังก็คือหนัง เอามาจากเรื่องจริงก็จริง แต่ว่ามันก็ต้องผสมเรื่องแต่งบ้าง ไม่งั้นหนังอาจจะยืดยาน ไม่กระชับ ไม่ตื่นเต้นได้

พอไปอ่านก็มีข้อมูลน่าสนใจ แต่มีสปอยล์เหมาะสำหรับคนไปดูแล้วมากกว่า อาจจะทำให้เข้าใจเนื้อเรื่องได้ดีขึ้น และเข้าใจเรื่องจริงมากขึ้น

เอาเป็นว่ามาดูกันเลยดีกว่าเรื่องจริงๆเป็นยังไง
attachment

Replies (69)

#1แว่นจัง • 28/8/2556 15:04
รูปด้านซ้ายนักแสดง ด้านขวาตัวจริง

คุณยายลอเรน วอเรน ยังมีชีวิตอยู่ในวัย86ปี ส่วนคู่ชีวิตเอ็ด วอเรน เสียชีวิตไปแล้วตั้งแต่ปี 2006

สังเกตว่าVera Farmiga ได้รับบทแม่บ่อยมาก และทั้งVeraและPatrick ก็เล่นหนังสยองบ่อยทีเดียว (มีเวลาจะลงประวัติPatrickนะ)
attachment
#2แว่นจัง • 28/8/2556 15:08
ตระกูลเพอร์รอน
attachment
#3แว่นจัง • 28/8/2556 15:10
บ้านนี้มีลูกสาว 5 คน 5 ดรุณีกันเลยทีเดียว
attachment
#4แว่นจัง • 28/8/2556 15:12
ส่วนหนูMackenzie Foy หลายคนอาจจะได้จากบทRenesmee Carlie Cullen ลูกสาวของเอ็ดเวิร์ดและเบลล่าจากเรื่อง ทไวไลท์
attachment
#5แว่นจัง • 28/8/2556 15:18
รูปถ่าย ลูกสาว5คนของตระกูลเพอร์รอน ปัจจุบันอายุอานามก็ประมาณ40-50 ปลายๆกันหมดแล้ว

ถ่ายคู่กับนักแสดงวัยใสในเรื่อง

แถวบ้านตัวจริง แถวล่างนักแสดงที่รับบทในหนัง Cindy Perron และ Mackenzie Foy, Nancy Perron และ Hayley McFarland, April Perron และ Kyla Deaver, Christine Perron และ Joey King, Andrea Perron และ Shanley Caswell
attachment
#6แว่นจัง • 28/8/2556 17:10
เริ่มต้นความหลอน

สองสามีภรรยาโรเจอร์และแคโรลิน เพอร์รอนต้องการให้ลูกสาวทั้ง 5 คนเติบโตในสภาพแวดล้อมที่ดีในชนบท ทั้งสองจึงตัดสินใจซื้อบ้านในฝันในช่วงฤดูหนาว ปี 1970

สถานที่แห่งนี้มีชื่อว่าอาร์โนลด์ เอสเตท มีขนาด 200 เอเคอร์ (น่าจะประมาณ 500 ไร่ได้ ไม่แน่ใจเรื่องตัวเลข) ซึ่งพื้นที่เพาะปลูกนี้มีการสำรวจที่ดินโดย จอห์น สมิธ ชาวอาณานิคมเมื่อปี1680 และโฉนดที่ดินนี้ต่อมาตกเป็นของโรเจอร์ วิลเลียมส์เพื่อการพัฒนารัฐโรดไอส์แลนด์

ตัวที่ดินอยู่ที่ถนนราวด์ท็อป เมืองแฮร์ริสวิลล์ รัฐโรดไอส์แลนด์ ตัวบ้านสร้างขึ้นเมื่อปี1736 มี10ห้อง(แต่บางข้อมูลก็บอก14ห้อง) แนนซี่และคริสติน นอนห้องเดียวกัน ซินดี้และแอพริล ก็นอนห้องเดียวกัน ส่วนพี่สาวคนโตสุดแอนเดรียมีห้องเป็นของตัวเอง

เอาแผนที่มาให้ดูใครอยากดูว่าแฮร์ริสวิลล์อยู่ส่วนไหน ถนนอยู่ตรงไหน ก็ไปดูในกูเกิ้ล

สรุปคือบ้านที่ครอบครัวเพอร์รอนตัดสินใจซื้อเป็นบ้านเก่าแก่ประมาณ234ปี มีขนาด10-14 ห้อง มีโรงนา พื้นที่200เอเคอร์ (ไม่น่าจะตัดแบ่งขายเหมือนในหนัง)
attachment
#7แว่นจัง • 28/8/2556 17:48
จริงๆแล้วบ้านนี้ก็ฉายแววความเฮี้ยนมาตั้งแต่วันแรกที่เข้ามาอยู่กันเลยทีเดียว ในรัฐโรดไอส์แลนด์ไม่มีกฎหมายแบบญี่ปุ่นที่คนอาศัยอยู่ก่อน ถ้ามีคนตายในบ้านก็ต้องแจ้งให้คนที่จะมาอยู่ต่อทราบเรื่อง

ในความเป็นจริงไอ้พวกที่ดินตกทอด ก็พอจะเข้าใจอยู่ว่าปู่ย่าตายายทวด ต้นตระกูลก็ตายกันในบ้านเป็นธรรมดา พอๆกับไทยใครอยู่บ้านเดิมเก่าแก่จะรุ้ว่าคนเมื่อก่อนไม่นิยมไปตายที่โรงพยาบาลกัน หรือถ้าตายนอกบ้าน มีฐานะก็จะตั้งศพไว้ในบ้าน

ต่อมาภายหลังทั้งโรเจอร์และแคโรลีนก็รู้ว่าบ้านหลังใหม่ของพวกเขา มีคนตายมาแล้วถึง8รุ่นด้วยกัน ทว่าตายด้วยสาเหตุผิดธรรมชาติก็มี เช่น คุณนายจอห์น อาร์โนลด์ แขวนคอตายที่ขื่อโรงนาด้วยวัย 93 ปี (ตรงนี้ที่งงเพราะหลายเว็บบอกว่าเป็นผู้หญิง แต่พออ่านมาเรื่อยๆบอกว่าเป็นผู้ชายเอาเป็นว่า เป็นคนแก่ละกัน) แต่ก็ไม่ใช่รายเดียวที่ฆ่าตัวตาย ยังมีรายอื่นๆที่จบชีวิตด้วยการฆ่าตัวตาย กินยาตาย มีสองคนจมน้ำตายที่ลำธารใกล้ๆกัน อีกสี่คนตัวแข็งตาย แล้วก็มีสาวน้อยถูกข่มขืนและถูกฆ่าตายอีกด้วย

โดยตอนย้ายเข้าบ้านคนขายก็แนะนำว่าตอนกลางคืนให้เปิดไฟทิ้งไว้

เรื่องจริง : บ้านไม่ได้สองชั้นแบบในหนัง เป็นบ้านชั้นเดียว มีโรงนาอยู่ด้านข้าง

attachment
แก้ไขล่าสุด: 29/8/2556 00:29 โดย แว่นจัง
#8kitkom • 28/8/2556 19:23
ผมว่าลิลลี่ เทยเลอร์น่ากลัวกว่าผีอีกนะ -_-
แถมฝาแฝดนาง -_-
attachment
#9แว่นจัง • 28/8/2556 20:02
นางคือครายยยยยไม่รู้จักอ่ะ
#10แว่นจัง • 28/8/2556 20:29
บ้านใหญ่ขนาด10ห้องนอน แถมที่ดินกว้างขวางขนาดนั้น เงินที่โรเจอร์กับแคโรลินนำมาซื้อก็คงเป็นจำนวนมากทีเดียว ตอนแรกพวกเขาก็ไม่เชื่อเรื่องเหล่านี้ จนกระทั่งเจอผีรับน้อง หลอนกันตั้งแต่วันแรกที่เข้าบ้าน

ในหนังมีผีหลักๆ ได้แก่ ผีประมาณ 4 ตนที่ได้ออกหน้ากล้อง แต่ในหนังกล่าวว่าที่ดินขนาด 200 เอเคอร์ได้แบ่งขายใครที่มาซื้อต่อก็จะต้องโดนคำสาปของเบธชีบาม่องเท่งกันไปหมด

ส่วนเรื่องจริงมีผีวิญญาณใครบ้าน ตามที่สามีภรรยาวอร์เรนสำรวจไว้ ก็จะมีค่อนข้างเยอะ แต่แบ่งได้เป็นมาดีกับมาร้าย

วิญญาณบางตนก็มีกลิ่นหอมดอกไม้ บางตนก็จะจูบลาส่งเด็กๆตอนนอน อีกตนก็เป็นเด็กผู้ชายที่มักจะเล่นรถของเล่นทำให้เด็กๆเห็นรถของเล่นวิ่งได้ไปรอบห้อง

อีกตนก็อาจจะเป็นผีคนใช้หรือผีรักความสะอาด แต่ที่แน่ๆมาดี เพราะครอบครัวเพอร์รอนมักจะได้ยินเสียงกวาดพื้นดังมาจากห้องครัว พอเข้าไปดูที่มาของเสียง ก็จะเห็นไม้กวาดถูกย้ายไปอยู่อีกที่ในห้องครัว แถมมีกองพวกเศษฝุ่นสกปรกต่างๆมากองไว้อยุ่เหมือนวิญญาณจะกวาดให้แล้วรอคนมากวาดทิ้งถังเอง

ส่วนวิญญาณที่ลูกสาวของบ้านนี้ชอบกันมากๆก็คือ วิญญาณที่ชื่อ "แมนนี่" ซึ่งเชื่อกันว่าเป็นวิญญาณของจอห์น อาร์โนล์ด (เอาเป็นว่าเป็นวิญญาณคนแก่วัย93แล้วกันไม่แน่ใจว่าเพศไหน) ที่ผูกคอตายเมื่อช่วงยุคศตวรรษที่18 แมนนี่มักจะยืนเงียบๆมองเด็กๆเล่นกันในบ้าน แต่ถ้ามีใครสบตาเมื่อไร แมนนี่จะหายตัวไปทันที

นอกจากวิญญาณก็มีปรากฎการณ์แปลกๆเช่น เตียงลอยได้ แถมลอยสูงจากพื้นเยอะด้วย พอมีคนเข้ามาให้ห้องหูโทรศัพท์ก็จะยกขึ้นมาแล้วลงมากระแทกกับตัวโทรศัพท์เอง ของกลิ้งไปมา แม้กระทั่งมีของเหลวสีส้มๆไหลหายไปในกำแพง

สภาพบ้านตอนกลางวัน
attachment
แก้ไขล่าสุด: 29/8/2556 00:29 โดย แว่นจัง
#11แว่นจัง • 28/8/2556 20:41
อันนี้น่าจะเป็นขื่อในโรงนาที่จอห์น อาร์โนลด์ผูกคอตาย

แต่ในเว็บเดียวกันในรูปดันบอกห้องใต้ดิน เอาเป็นโรงนานะเพราะดูภาพแล้วข้างบนเป็นมุงหลังคา = = เว็บอื่นก็เลยตามไปด้วย
attachment
แก้ไขล่าสุด: 28/8/2556 20:48 โดย แว่นจัง
#12แว่นจัง • 28/8/2556 21:11
ส่วนวิญญาณมาร้ายที่ทำให้เกิดเรื่องราวจนกลายเป็นหนัง ก็มี

วิญญาณที่จะมาดึงขาเด็กๆตอนกลางดึก แล้วก็มีมาเคาะประตูหน้า แถมเคาะแรงจนบ้านสั่นไปหมด

ประตูปิดเอง หรือไม่ก็เปิดประตูไม่ออกไม่ว่าจะออกแรงขนาดไหนก็ตาม แล้วก็มีวิญญาณที่จะตะโกนร้องกลางดึกว่า "แม่จ๋าาาาาาาาา แม่จ๋าาาาาา!" ดังลั่นบ้าน ส่วนซินดี้ลูกสาวคนที่4 ก็มักจะได้วิญญาณมาบอกเธอซ้ำแล้วซ้ำเล่าว่า "มีทหาร7นายถูกฝังในกำแพง" ครอบครัวเพอร์รอนก็ยังจำได้ว่ามีวิญญาณเด็กน้อยวัย 4 ขวบเดินร้องไห้หาแม่ทั่วบ้าน

และวิญญาณที่ร้ายกาจมากๆก็มี ทั้งครอบครัวก็ไม่มีใครปริปากบอกว่าผีร้ายทำอะไรบ้าง แต่แอนเดรียพี่สาวคนโตได้เขียนเล่าประสบการณ์เผชิญหน้าวิญญาณไว้ในหนังสือ House of Darkness House of Light
บอกใบ้ว่าผีร้ายอาจจะเป็นผีลามก ลวนลามพวกเธอสมัยเด็กๆด้วย

“พูดเลยว่ามีวิญญาณของผู้ชายที่ร้ายกาจเอามากๆอยู่ในบ้านกับเด็กสาวตัวเล็กๆห้าคน”

จากรูปสุสานครอบครัวอาร์โนลด์

attachment
#13แว่นจัง • 28/8/2556 21:32
เหนือฟ้ายังมีฟ้า เหนือผีร้ายธรรมดายังมีผีที่โคตรจะร้ายกาจ เดาออกแล้วใช่ไหม คือ ผีตัวไหน เบธชีบา นั่นเอง (ประหนึ่งบอสในเกม)

เบธชีบา มีชื่อจริงๆว่า เบธชีบา เชอร์แมน ที่ว่ากันว่าเป็นแม่มดและบูชาซาตาน เธอผูกคอตายกับต้นไม้หลังโรงนา เบธชีบามันจะเล่นงานแคโรลินผู้เป็นแม่อยุ่บ่อยครั้ง ส่วนสาเหตุที่ครอบครัวเพอร์รอนโดนเบธชีบาเล่นงานบ่อยครั้งและรุนแรง เนื่องจากครอบครัวนี้ไม่ใช่ครอบครัวเคร่งศาสนา จึงไม่ได้ศรัทธาในพระเจ้านัก

ในบรรดาคนที่อาศัยในที่ดินผืนนี้มีแค่นักเทศน์เท่านั้นที่ไม่ได้รายงานประสบการณ์แปลกในบ้านหลังนี้ให้โบสถ์ทราบ โดยลอเรน วอร์เรนอธิบายว่า

“พวกคุณมีเพียงแค่ศรัทธาเป็นเครื่องป้องกัน แต่ดิฉันมีศรัทธาอยู่เสมอ พระเจ้าปกป้องดิฉันและทำให้ดิฉันทำสิ่งนี้ได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเวลานี้ครอบครัวเพอร์รอน ไม่มีศาสนา ซึ่งเป็นสิ่งที่อันตรายมาก”

ป้ายหลุมศพเป็นสิ่งที่บอกว่าเบธชีบามีตัวตนจริง
attachment
แก้ไขล่าสุด: 28/8/2556 21:39 โดย แว่นจัง
#14แว่นจัง • 28/8/2556 23:38
เบธชีบา เชอร์แมน เธอคือแม่มดจริงๆหรือ?

ไม่มีรูปถ่ายว่าเธอหน้าตาประมาณไหน แต่สิ่งที่บอกกันต่อๆมา เล่นเอาซะไม่รู้หน้าตายังเหลือความเป็นคนอยู่หรือเปล่า ซึ่งว่ากันว่าเบธชีบาเป็นหญิงชั่วร้าย เป็นสิ่งมีชีวิตน่ากลัว มีใบหน้าละม้ายคล้ายกับ"รังผึ้งตากแห้ง"ที่มีหยากไย่เต็มไปหมด ไม่มีส่วนไหนเป็นมนุษย์เลย นอกจากนั้นเหมือนจะมีพวกหนอนพวกแมลงออกมาจากรอยเหี่ยวย่นบนใบหน้า

ศีรษะเธอมีลักษณะกลม ผมสีเทา เวลานั่งก็เอียงไปข้างหนึ่ง ราวกับว่าคอหัก แถมเวลาเธออยู่ในห้องไหนก็จะมีกลิ่นเหม็นคลุ้งอีกด้วย

ตอนเกิดเธอมีชื่อว่า เบธชีบา ธาเยอร์ (Bathsheba Thayer ) เกิดเมื่อปี 1812 ที่รัฐโรดไอส์แลนด์ และแต่งงานกับหนุ่มโรดไอส์แลนด์ด้วยกัน คือ จัดสัน เชอร์แมน ( Judson Sherman) ซึ่งอายุมากกว่าเธอหนึ่งปี เมื่อวันที่ 10 มีนาคม 1844 ที่เมืองทอมป์สัน รัฐคอนเนตติกัต

เบธชีบารับหน้าที่เป็นแม่บ้าน ในขณะที่สามีก็เป็นชาวไร่มีที่ดินของตัวเอง ฐานะจัดได้ว่ามีอันจะกินเลยทีเดียว ทั้งคู่มีลูกชายด้วยกันหนึ่งคน ชื่อว่า เฮอร์เบิร์ต แอล.เชอร์แมน (Herbert L. Sherman) เกิดเมื่อเดือนมีนาคม 1849 ตอนเบธชีบาอายุ37ปีเข้าไปแล้ว บางข้อมูลก็บอกเธอมีลูกอีก3คน แต่อายุสั้น ไม่เกิน4-7ขวบก็ตายกันหมด

สมัยยังมีชีวิตอยู่ เบธชีบาใช้ชีวิตอย่างสันโดษ เป็นคนที่สังคมไม่ยอมรับ ซึ่งสาเหตุน่าจะมาจากเธอถูกกล่าวหาว่าฆ่าลูกน้อยของตัวเองเพื่อบูชาซาตาน ศพเด็กมีร่องรอยเหมือนถูกของมีคมแทงเข้าที่หัว แต่เนื่องจากไม่มีหลักฐาน ข้อกล่าวหาจึงตกไป

นอกจากนี้บางข้อมูลยังบอกว่าเบธชีบาชอบทารุณคนงานในฟาร์ม เช่น ให้อดอาหาร ทุบตี เป็นการลดโทษจากการกระผิดเล็กๆน้อยๆ

เบธชีบา เสียชีวิตเมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม 1885 ด้วยร่างกายซูบผอม และตัวแข็งราวกับว่าร่างเธอกลายเป็นหิน

จริงๆเบธชีบาอาจไม่ได้เป็นแม่มดก็ได้ ไม่มีรูปยืนยันว่าหน้าตาสมัยสาวๆเป็นยังไง หรือสามีเธอหน้าตายังไง ส่วนเรื่องลูกที่ตายก็ไม่มีหลักฐาน คือไม่มีหลักฐานว่าเธอมีลูกอีกสามคนแล้วตายตั้งแต่เล็ก หรือมีลูกคนเดียว แล้วชาวบ้านที่ไม่ชอบหน้าเธอก็เอาไปแต่งเรื่องเพิ่ม อย่าลืมว่าสมัยก่อนเด็กก็มักอายุไม่ยืน เพราะ เรื่องการแพทย์ที่ยังไม่ก้าวหน้า

หรือเธออาจจะป่วยด้วยโรคที่สมัยนั้นยังไม่มีคำอธิบายทำให้สังคมรังเกียจ ร่างกายไม่แข็งแรง ลูกเลยไม่แข็งแรง และชาวบ้านเลยไม่ชอบและคิดว่าเป็นแม่มดก็ได้

แต่อย่างน้อยก็รู้ว่าเธอก็อายุยืนยาวจนถึง 73 ปีเลย

นอกจากแคโรลีนผู้เป็นแม่จะโดนเบธชีบาคุกคามอย่างหนัก ลูกสาวคนที่สี่ ซินดี้ก็โดนไม่ใช่น้อยเช่นกัน นอกจากนี้ที่ไม่มีในหนังคือ เบธชีบามีท่าจะอยากจะงาบโรเจอร์หัวหน้าครอบครัวเพอร์รอนมากๆ สมัยที่ยังทนอยู่บ้านนี้กัน ข้าวของในบ้านมันเสียหาย พังเอาดื้อๆ โรเจอร์จึงต้องเอาข้าวของที่พังไปซ่อมที่ห้องใต้ดิน เขาจะรู้สึกว่าเบธชีบากำลังจับต้องตัวเขา ลูบไล้คอ และเอามือลูบไล้หลัง ในขณะที่เบธชีบาพิศวาสโรเจอร์มาก ตรงกันข้ามเธอก็เกลียดแคโรลินมากๆ จึงน่าจะพอรู้แล้วว่าทำไมจึงต้องคุกคามเอาให้แคโรลินอยู่ไม่ได้

หวิดจะเป็นเรื่องผีแย่งผัวแล้วมั๊ยล่ะ

หนังสือพิมพ์ท้องถิ่น Providence Journal เคยลงเรื่องนี้ไว้เมื่อปี 1977 ว่า

“คุณนายเพอร์รอนบอกว่ามีอยู่วันหนึ่งเธอตื่นขึ้นมาก่อนเช้ามืด แล้วเจอผีโผล่มาข้างเตียงเธอ หัวของผีหญิงชราก็ห้อยอยู่ข้างๆชุดสีเทาของมัน และมีเสียงดังก้องว่า "ออกไป ออกไปซะ ข้าจะไล่แกออกออกไปด้วยความตายและความโศกเศร้า"

จากรูปซ้ายไปขวา มีคนแอบเข้าไปในสุสานแฮร์ริสวิลไปทำลายป้ายหลุมศพของเบธชีบาเมื่อช่วงเดือนมิถุนายนปีหน้า พอช่วงกรกฎาคมพนักงานดับเพลิงที่ฝั่งเยื้องๆกับสุสานก็ไปซ่อมป้ายให้ รูปขวาสุดคือภาพเมื่อ 10 สิงหาคม เห็นว่าพอหนังฉายคนก็แห่กันมาดูหลุมศพกัน

http://www.findagrave.com/cgi-bin/fg.cgi?page=gr&GRid=59524410

สังเกตว่าฝรั่งเก็บข้อมูลแผนผังตระกูลไว้ดีมาก บางตระกูลสามารถสืบหาไปยังบรรพบุรุษต้นตระกูลได้เลยทีเดียว อย่างหลุมศพนี่ก็ร้อยปีขึ้นก็ยังอยู่ มีข้อมูลพร้อม
attachment
แก้ไขล่าสุด: 28/8/2556 23:42 โดย แว่นจัง
#15แว่นจัง • 28/8/2556 23:54
แคโรลินเลยโดนเบธชีบาคุกคามเริ่มจาก หยิก ตบ โยนของใส่ พอรู้ว่าแคโรลินกลัวไฟมาก เลยใช้ไฟมาคุกคามด้วย โดยหวังว่าจะไล่ผู้หญิงคนนี้ออกไปจากบ้านให้ได้

แต่ยิ่งแคโรลินทนอยู่ เบธชีบาก็หาทางหลอกหลอนหนักและรุนแรงขึ้น มีอยู่ครั้งหนึ่งที่แคโรลินนอนหลับอยู่บนโซฟา แล้วตื่นขึ้นมาเพราะรู้สึกเจ็บที่น่อง พอดูที่น่องก็พบว่าน่องเหมือนโดนเข็มเย็บผ้าเล่มใหญ่ทิ่มจนเลือดออก พอใช้วิธีไหนก็ไล่แคโรลินออกไปไม่ได้

เบธชีบาจึงเริ่มโจมตีแคโรลินจากภายใน นั่นคือ เข้าสิงนั่นเอง และเมื่อเชื่อว่าไม่ใช่แคโรลินคนเดิม ครอบครัวเพอร์รอนจึงการความช่วยเหลือกับผู้เชี่ยวชาญด้านนี้อย่างด่วน
#16แว่นจัง • 29/8/2556 00:13
ทั้งเอ็ดและลอเรน วอเรน เป็นนักสืบเรื่องเหนือธรรมชาติมาเป็นเวลานานนับสิบๆปีแล้ว ครอบครัวเพอร์รอนเมื่อเริ่มเชื่อว่าแคโรลินถูกผีเข้าสิง จึงเริ่มหาคนช่วยจนได้ยินชื่อของสองสามีภรรยาคู่นี้ และเมื่อได้ยินเรื่องราวอันน่าสะพรึงกลัวมีหรือที่เอ็ด วอเรนจะปฏิเสธ

แอนเดรีย เพอร์รอนจำคืนที่มีการไล่ผีในบ้านเธอได้ดี

"คืนที่ชั้นคิดว่าชั้นเห็นแม่ตายคงเป็นคืนที่น่าสะพรึงกลัวที่สุด แม่พูดด้วยน้ำเสียงที่พวกเราไม่เคยได้ยินมาก่อน และพลังงานที่ไม่ใช่ของโลกนี้โยนแม่สูงกว่า 20 นิ้วไปยังอีกห้องหนึ่ง"

แต่โชคไม่เข้าข้างเพราะเรื่องจริงไม่ได้จบแบบสวยงามฟ้าสดใส แคโรลินย้อนระลึกถึงคืนนั้นว่าเป็น"คืนที่น่าสยดสยอง" และอธิบายด้วยว่าถึงพวกวอร์เรนจะมีความตั้งใจดีจะมาช่วยครอบครัวของเธอ แต่พอยิ่งไล่ผีเรื่องยิ่งแย่ลง สถานการณ์เริ่มควบคุมไม่ได้ โรเจอร์จึงสั่งให้ทั้งเอ็ดและวอร์เรนออกจากบ้านไปทันที
attachment
แก้ไขล่าสุด: 3/9/2556 03:31 โดย แว่นจัง
#17แว่นจัง • 29/8/2556 00:23
ครอบครัวเพอร์รอน เรื่องจริงน่าตกใจกว่าในหนัง คือ ลูกคนโตสุดพึ่งอายุ 12 เองนอกนั้นก็ยังเด็กๆกันอยู่เลย ไม่ได้โตเป็นสาวรุ่นแบบในหนัง
attachment
#18แว่นจัง • 29/8/2556 00:48
แล้วครอบครัวเพอร์รอนก็มารู้ว่าทุกคนที่เคยอาศัยในบ้านหลังนี้ ยกเว้นครอบครัวของนักเทศน์ได้เจอปรากฏการณ์เหนือธรรมชาติกันถ้วนหน้า

และคนที่อยู่ก่อนหน้าครอบครัวเพอร์รอนก็เคยจ้างผู้รับเหมามาซ่อมแซมบ้าน ในขณะที่ผู้รับเหมาผู้โชคร้ายคนดังกล่าวกำลังวุ่นกับการซ่อมแซมบ้าน จู่ๆเขาก็หยุดทำงานและหนีออกจากบ้านหลังดังกล่าว มีรายงานว่าเขาออกจากบ้านพร้อมกรีดร้อง และทิ้งเครื่องมือ และรถไว้อีกด้วย เจ้าของบ้านก็ไม่เคยมาอยู่ที่บ้านและปล่อยว่างไว้หลายปีจนครอบครัวเพอร์รอนไปเจอว่าบ้านนี้ประกาศขาย (ซวยชะมัด)

หลายคนคงสงสัยโดนผีหลอกกันหัวโกร๋น โดนสิง แถมไล่ผีก็ไม่ไป แล้วทำไมไม่รีบๆย้ายหนีผีล่ะ ถ้าในหนังเอ็ดกับลอเรน บอกว่าหนีไปไหนผีก็เกาะติดตามด้วย

แต่ในเรื่องจริงสถานะทางการเงินของครอบครัวทำให้จำต้องลงหลักปักฐานอยู่ที่บ้านในฝันสุดหลอนเป็นเวลาถึง 10 ปีด้วยกัน จะหนีไปไหนก็ไม่ได้ไม่มีเงินพอ เลยต้องทนอยู่กับผีทั้งดีและร้ายไป จนปี1980พอสถานะการทางการเงินของครอบครัวเริ่มดีขึ้น แคโรลินก็ยืนกรานว่ายังไงก็ต้องย้าย ในที่สุดทั้งหมดก็เลยย้ายหนีผีไปอยู่รัฐจอร์เจีย ทางใต้ จนถึงปัจจุบัน


ไปไกลมากกะให้ผีตามกันไปไม่ถูกเลย

บ้านจากไกลๆมุมมองด้านข้าง
attachment
#19แว่นจัง • 29/8/2556 01:02
รูปประตูสู่ห้องใต้ดินที่บ้านตระกูลเพอร์รอน
attachment
#20แว่นจัง • 29/8/2556 01:06
ภาพห้องใต้ดิน ต่างจากในหนัง ของจริงยาวตามทรงบ้าน
attachment
#21แว่นจัง • 29/8/2556 01:09
ภาพในบ้าน
attachment
#22แว่นจัง • 29/8/2556 01:15
มุมนี้บ้านดูน่าอยู่มากๆ ถ้าไม่มีผี
attachment
#23แว่นจัง • 29/8/2556 01:22
เดี๋ยวพรุ่งนี้มาต่อมีพวกคำถามเกี่ยวกับเรื่องจริงและหนัง และเรื่องวุ่นๆหลังจากหนังแล้วเจ้าของบ้านปัจจุบันกลับมานั่งปวดหัวเพราะเจอคนบุกรุกเข้ามาลองของกันเลยทีเดียว
#24Maya2552 • 29/8/2556 01:48
สุดยอดเลย น่าสนใจมาก
ไม่ทราบว่าคุณแว่นได้โพสต์ไว้ในพันทิปด้วยหรือเปล่าคะ
#25แว่นจัง • 29/8/2556 01:58
ไม่ได้โพสจ้า
#26CaplicoMiNi • 29/8/2556 02:56
หว่านั่งอ่านดึกๆ หลอนไปเองว่ามีคนแอบมองอยู่ T^T
#27Maya2552 • 29/8/2556 10:19
งั้นรอให้คุณแว่นโพสต์ที่นี่ให้เสร็จก่อน
แล้วขอเอาไปโพสต์ในพันทิปต่อนะคะ

ใส่เครดิต : แว่นจัง http://horrorclub.net/ForumDetails.aspx?ForumID=2964
#28Maya2552 • 29/8/2556 11:27
อ้าว ไปเจอทู้นี้ มีคนไปโพสต์เรื่องที่คล้ายกันไปแล้ว

http://pantip.com/topic/30857629
แก้ไขล่าสุด: 29/8/2556 11:32 โดย Maya2552
#29Maya2552 • 29/8/2556 11:28
>
แก้ไขล่าสุด: 29/8/2556 11:30 โดย Maya2552
#30แว่นจัง • 29/8/2556 11:42
เพราะเอามาจากเว็บเดียวกันจ้าาาาาา

มันมีไม่กี่เว็บนอกนั้น เว็บอื่นข้อมูลมันจะซ้ำๆกันหมด
#31แว่นจัง • 29/8/2556 12:05
คำถามจากเรื่อง เหมือนจะสรุปคำถามที่คำดูหนัง หรืออ่านเรื่องนี้จะถามกันบ่อยๆ

ครอบครัวเพอร์รอนอาศัยอยู่ที่บ้านหลังนี้กี่ปี แล้วทำไมมีผีไม่ยอมย้ายออกตั้งแต่แรก?

ประมาณ 10 ปี ย้ายเข้าอยู่ตอนฤดูหนาวปี 1970 ย้ายออกช่วงปี 1980 ที่ไม่ได้ย้ายออกทันทีเพราะว่าเรื่องเงิน เนื่องจากใช้เงินทั้งซื้อบ้านและซ่อมแซมไปเยอะอยู่จึงยังมีเงินไม่พอที่จะย้ายใหม่ เลยต้องทนอยู่ไป จนพอจะมีเงินแล้ว ทั้งครอบครัวจึงย้ายไปรัฐจอร์เจีย ทางใต้เลย

ลอเรน วอเรน กับครอบครัวเพอร์รอนตัวจริงได้สนับสนุนในการสร้างหนังเรื่องนี้หรือไม่?

แน่นอน ทั้งลอเรนและครอบครัวเพอร์รอนต่างก็สนับสนุนหนังเรื่องนี้ ลอเรนได้เป็นที่ปรึกษาของผู้กำกับเจมส์ วาน และเคยไปเยี่ยมกองถ่ายที่เมืองวิลมิงตัน รัฐนอร์ธแคโรไลนาด้วย ตัวหนังจะได้รับแรงบันดาลใจจากแฟ้มข้อมูลและบันทึกต่างๆจากกรณีของครอบครัวเพอร์รอน

ส่วนแอนเดรีย ลูกสาวคนโตก็ออกหนังสือ House of Darkness House of Light เล่าถึงประสบการณ์สุดสยองตลอดสิบปีในบ้านหลังนั้น เมื่อปี2011 และนอกจากนี้สมาชิกหลายคนในครอบครัวเพอร์รอนก็ยังเป็นเพื่อนกับโปรดิวเซอร์ โทนี่ เดอโรชา-กรันด์ และก็เคยไปเยี่ยมกองถ่ายแล้วเหมือนกัน แอนเดรียเปรียบเสมือนกระบอกเสียงของครอบครัวที่ออกมาพูดถึงเรื่องราวต่างๆที่เกิดขึ้น ส่วนคริสตินเป็นคนที่ไม่อยากพูดถึงประสบการณ์ในครั้งนั้นมากที่สุด

#32แว่นจัง • 29/8/2556 12:22
มีรูปถ่ายของเบธชีบาตัวจริงไหม

ไม่มี มีแต่รูปนี้ซึ่งเป็นรูปที่อยู่ในวิดีโอที่ใช้โปรโมตหนังสือของแอนเดรีย ผู้หญิงที่สวมชุดตารางอยู่ตรงกลางๆอาจจะเป็นเบธชีบา ซึ่งถ่ายไว้ช่วงปี1885 สงสัยกันว่าผู้หญิงคนนี้อาจสวมผ้าปิดปากกันเชื้อโรค แต่อาจจะเป็นเพราะคุณภาพของรูปที่ไม่ชัด อาจทำให้เหมือนสวมผ้าปิดปาก

อันที่จริงไร่ของครอบครัวเชอร์แมนอยู่ข้างๆไร่ของครอบครัวอาร์โนลด์ อ้าวแล้วเบธชีบามาเกี่ยวอะไรกับครอบครัวอาร์โนลด์ล่ะ??? นั่นนะสิ แต่ถ้าเป็นผีก็ไม่มีเหตุผลอยู่แล้ว อีกอย่างรูปนี้ถ่ายปี1885ที่ เบธชีบาอาจจะตายไปแล้วก็ได้

สรุปคือ รูปนี้อาจจะไม่ใช่เบธชีบา แค่รูปต้องสงสัยว่าอาจเป็นเธอ อีกอย่างเบธชีบาเป็นเพื่อนบ้าน แถมสังคมละแวกนั้นก็ไม่ชอบ และช่วงนั้นอาจจะตายไปแล้ว ผู้หญิงคนนี้จึงมีโอกาสเป็นเบธชีบาน้อยมากกกกกก
attachment
#33แว่นจัง • 29/8/2556 12:37
จริงในหนังเรื่องนี้เจมส์ วานก็เลือกคนที่เคยทำInsidious ด้วยกันมาร่วมงานด้วยนะ ทั้ง แพทริค วิลสัน และ โจเซฟ บิชารา ซึ่งคนหลังเนี่ยเป็นคนทำดนตรีในหนังInsidious และรับบทปีศาจหน้าลิปสติก(ที่เหมือนดาร์ธ มอล ในสตาร์วอร์ไง) ใน The Conjuring โจเซฟมารับบทเป็นเบธชีบา

(ชอบตอนกระโดดลงจากตู้มาก)

รูปตัวจริงกับตอนแต่งหน้า ไปหาเบธชีบาเจอแล้ว เชิญชม
attachment
แก้ไขล่าสุด: 29/8/2556 13:55 โดย แว่นจัง
#34แว่นจัง • 29/8/2556 12:50
เบธชีบาเป็นแม่มดจริงๆ หรือเปล่า แล้วฆ่าลูกจริงเปล่า

ไม่มีหลักฐานทั้งสิ้น ร่วมถึงเรื่องลูกด้วยเช่นกัน เรื่องความเลวร้ายทั้งหมดอาจเป็นแค่ตำนาน หรือข่าวลือทางอินเตอร์เนต สมัยนั้นการสำรวจสำมะโนประชากร หรือ หลักฐานต่างๆยังไม่ดีเท่าปัจจุบัน ข้อมูลที่น่าเชื่อถือจึงไม่ค่อยมี ส่วนเรื่องลูกนอกจาก เฮอร์เบิร์ตที่เกิดปี 1849 ก็ยังมีลูกอีกสามคนตามที่กล่าวอ้างกัน คือ จูเลีย เกิดปี 1845 เอ็ดเวิร์ด เกิดปี 1847และ จอร์จ เกิดปี 1853 ตายหมดเหลือแต่เฮอร์เบิร์ตที่อยู่รอดและมีครอบครัว โดยจัดสันสามีของเบธชีบา เสียชีวิตเมื่อปี1881 ปีเดียวกับที่ลูกชายคนเดียวแต่งงานกับคู่หมั้นแอนนา เฮอร์เบิร์ตก็เป็นชาวไร่ตามแบบพ่อ ส่วนเบธชีบาผู้เป็นแม่เสียชีวิตเมื่อปี1885 ซึ่งที่บอกว่าตอนเสียชีวิตร่างเธอแข็งเหมือนหินอาจเป็นอาการอัมพาตอย่างหนึ่ง ซึ่งหมอในยุคนั้นไม่รู้จัก

สรุป ไม่มีหลักฐาน มีแค่ตำนานที่เล่าต่อๆกันมา
#35แว่นจัง • 29/8/2556 13:19
บ้านที่ใช้ถ่ายหนังกับบ้านของครอบครัวเพอร์รอนหลังเดียวกันหรือเปล่า?

คนละหลัง หลังจริงตอนนี้ยังอยู่ที่เมืองแฮร์ริสวิลล์ รัฐโรดไอส์แลนด์ ส่วนหลังในหนังเป็นบ้านที่สร้างขึ้นมาเพื่อถ่ายหนังโดยที่เมืองเมืองวิลมิงตัน รัฐนอร์ธแคโรไลนา

ส่วนบ้านInsidious ถ่ายกันที่แอลเอ กับโรงพยาบาลชุมชนลินดา วิสต้าที่ขึ้นชื่อเรื่องความหลอน

ตอนที่ครอบครัวเพอร์รอนอยู่ และข้าวของเริ่มพัง เช่น ท่อน้ำระเบิด ทำบ้านเสียหาย ก็เลยตัดใจแบ่งที่ดินขาย จาก 200 เอเคอร์ เหลือเพียง 8.5 เอเคอร์ ประมาณ 500 ไร่ เหลือ 21 ไร่

ส่วนชื่อนอกจากจะมีชื่อว่าอาร์โนลด์ เอสเตท ยังมีชื่อว่า โอลด์ บรู๊ค ฟาร์ม แล้วก็ เดกซ์เตอร์ ริชาร์ดสัน เฮ้าส์ ส่วนใหญ่ก็ตั้งตามครอบครัวที่เคยอยุ่

เจ้าของคนปัจจุบันชื่อ นอร์มา ซัทคลิฟฟ์กับ เจอร์รี่ เนลฟรีช (Norma Sutcliffe และ Gerry Nelfrich)

บ้านสองชั้นในรูปเป็นบ้านใช้ในหนัง ส่วนรูปล่างของจริงเมื่อช่วงปี70
attachment
#36kubkew • 29/8/2556 13:38
แล้วแบบนี้เจ้าของบ้านใหม่ยังเจออยู่มั้ยน๊า

ชอบจังเรื่องแบบนี้^^
#37แว่นจัง • 29/8/2556 13:46
มีคนตายในที่ดินนี้กี่คนกัน?

แอนเดรียให้ข้อมูลว่า "มี8รุ่นด้วยกัน และอีก 1 ครอบครัว ก่อนที่พวกเราจะมาอยู่"

หนังสือThe Black Book of Burrillville ซึ่งเคยใช้เป็นบันทึกเรื่องราวต่างๆของเมืองเบอร์ริวิลล์ บอกไว้ว่าที่ดินพื้นนี้ มีแขวนคอตาย กินยาตาย และพรูเดนซ์ อาร์โนลด์ วัย 11 ปี ก็ถูกข่มขืนแล้วฆ่าน่าจะเป็นฝีมือของคนงานในฟาร์ม อีกสองคมจมน้ำ และสี่คนตัวแข็งตาย

แอนเดรียกล่าวไว้ในหนังสือว่าตามบันทึกสาเหตุการเสียชีวิต ความตายที่เกิดขึ้นในฟาร์มนี้เกิดขึ้นกับคนในตระกูลอาร์โนลด์ทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นคุณนาย จอห์น อาร์โนลด์ ฮาร์โมนี่ และพรูเดนซ์ แม้แต่เบธชีบาก็เป็นคนตระกูลอาร์ดโนลด์เช่นกัน

แต่กรณีของหนูพรูเดนซ์มีบันทึกสาเหตุการเสียชีวิตว่า เธอเสียชีวิตที่เมืองอัซบริดจ์ รัฐแมสซาชูเซทส์ ไม่ใช่ที่ฟาร์มแห่งนี้ และเสียชีวิตเพราะถูกปาดคอซึ่งผู้บันทึกใช้ชื่อย่อคนทำว่า W.E.K. ก็ตรงข้ามกับในบันทึกของเมืองเบอร์ริวิลล์เลย

attachment
#38AguileraAnimato • 29/8/2556 13:48
ไม่ได้อวยนะ แต่กระทู้แว่นจังแปลละเอียดกว่า
#39แว่นจัง • 29/8/2556 15:20
เจ้าของบ้านคนก่อนๆเคยเจอแบบครอบครัวเพอร์รอนบ้างมั๊ย

แอนเดรีย เพอร์รอนพี่สาวคนโต เคยกล่าวกับTallapoosa-Journal.com ด้วยคำถามที่คล้ายๆกัน เรื่องที่มีผู้รับเหมาสติแตกวิ่งกรี๊ดออกมาจากบ้านแล้วไม่กลับมาอีกเลย แอนเดรียบอกว่าวิ่งหนีไปทั้งที่ผ้าผ่อนไม่มีติดตัวด้วย ส่วนเจ้าของบ้านคนก่อนๆก็รู้หมดว่าบ้านหลังนี้มีอะไร ซึ่งเหตุการณ์ผู้รับเหมาวิ่งหนีออกมาทำให้เจ้าของบ้านซึ่งเป็นเจ้าของที่ดินผืนติดกัน ไม่เคยมาอยู่บ้านหลังนี้ และปล่อยวางมาหลายปี

เจ้าของบ้านคนปัจจุบัน คือ นอร์มา ซัทคลิฟฟ์กับ เจอร์รี่ เนลฟรีช สองสามีภรรยาวัยประมาณ60กับ70ปี บอกว่ายังเจอปรากฏการณ์ประหลาดอยู่เนืองๆ ทั้งประตูปิดเอง เสียงคนคุยกัน เสียงคนเดินแล้วเปิดประตู เก้าอี้หมุนเอง แต่ที่เคยเห็นชัดๆกับตาก็มีแค่แสงสีน้ำเงินลอยในห้องนอน ซึ่งนอร์มาบอกว่าสามีของเธอเคยนึกว่าเป็นหมอกในบ้าน

จริงๆเคยมีวิดีโอแอนเดรียไปสัมภาษณ์นอร์มาด้วย แต่แอนเดรียดันตั้งคลิปในยูทูปเป็นส่วนตัวดูไม่ได้ ลองหาดูในรายการGhost Hunters ซีซั่นสอง ตอนเจ็ด Child Hunting/Sutcliff House http://www.tv.com/shows/ghost-hunters/child-haunting-sutcliffe-house-457002/ (จริงๆอยากให้Ghost Adventures ไปมากกว่า เพราะสำรวจละเอียดกว่ามีล็อกดาวน์ปิดใส่กุญแจ เข้าไปแค่สามคนไม่มีคนนอก)

ภาพบ้านเมื่อปี2000 เจ้าของปัจจุบันอยู่มาตั้งแต่ช่วงปี1983
attachment
แก้ไขล่าสุด: 29/8/2556 15:25 โดย แว่นจัง
#40แว่นจัง • 29/8/2556 15:39
กว่าจะเป็นThe Conjuring ใช้เวลานานมั๊ย

ใช้เวลาประมาณ 20 ปีตั้งแต่ตอนที่โปรดิวเซอร์โทนี่ เดอโรชา-กรันด์ได้ฟังเทปสัมภาษณ์แคโรลิน เพอร์รอนที่เอ็ดและลอเรน วอร์เรนเปิดให้ฟัง ซึ่งเทปดังกล่าวอัดมาตอนที่สองสามีภรรยาไปสำรวจที่บ้านของครอบครัวเพอร์รอน โดยระหว่างฟังเทปดังกล่าวโปรดิวเซอร์ก็ได้อัดเทปตอนที่สองสามีภรรยาเล่นเทปให้ฟัง ซึ่งก็มีการคุยกันว่า "ถ้าเราทำเรื่องนี้ให้เป็นหนังไม่ได้ ผมก็ไม่ทราบว่าเราจะทำอะไรได้อีก" และโทนี่ก็ได้คุยกับเอ็ดเกี่ยวกับรายละเอียดที่จะทำหนัง

ลูกเขยของเอ็ดก็เคยพูดไว้ว่าเหตุการณ์ของครอบครัวเพอร์รอนเป็นเรื่องที่พ่อตาอยากให้นำมาทำหนังมากที่สุด ตัวโทนี่ก็พูดถึงเทปสัมภาษณ์ว่า "มันสีขาวหรือไม่ก็สีดำ ผู้หญิงคนนี้อาจมีปัญหาทางจิตอย่างรุนแรง แต่ก็ไม่ใช่ หรือเธอแค่กลัวแทบตาย ซึ่งจริงๆแล้วเธอหวาดกลัวเอามากๆ"

ซึ่งตอนนี้ฝันของเอ็ดก็เป็นจริงแล้ว และแว่วๆว่ามีภาคสองแน่ๆด้วย

โทนี่ เดอโรชา-กรันด์ โปรดิวเซอร์ผู้ทำให้ฝันของเอ็ดเป็นจริง
attachment
#41แว่นจัง • 29/8/2556 15:55
หลังจากครอบครัวเพอร์รอนย้ายออกจากบ้านสุดหลอน

ครอบครัววอร์เรน

เอ็ดเสียชีวิตเมื่อปี 2006 แต่ลอเรน วอร์เรนซึ่งตอนนี้ก็เป็นคุณยายแล้วก็ยังสืบเรื่องเหนือธรรมชาติต่อไป และยังตั้งพิพิธภัณฑ์รวมของลี้ลับไว้ที่หลังบ้านของเธอในเมืองมอนโรว์ รัฐคอนเนตติกัตด้วย และได้ลูกเขย โทนี่ สแปรา มาช่วยดูแล พิพิธภัณฑ์เปิดให้คนทั่วไปเข้าชม(เก็บค่าเข้า) มีเพจเฟซบุ๊คด้วย https://www.facebook.com/pages/The-Warrens-Occult-Museum/126070474135029

ลูกเขยกับแอนนาเบลตุ๊กตาสื่อวิญญาณร้าย

attachment
#42แว่นจัง • 29/8/2556 16:03
มีแบบคลิปพาทัวร์



แก้ไขล่าสุด: 29/8/2556 16:05 โดย แว่นจัง
#43แว่นจัง • 29/8/2556 16:25
ครอบครัวเพอร์รอน

ย้ายหนีผีไปอยู่ไกลถึงรัฐจอร์เจียจนถึงปัจจุบัน แอนเดีย เพอร์รอน ตัดสินใจเขียนหนังสือ House of Darkness House of Light ขึ้นมาเล่าถึงประสบการณ์อยู่กับผีในบ้านถึง10ปี หลังจากย้ายมาจอร์เจียได้เจ็ดปี แอนเดรียก็รู้สึกว่ารัฐนี้ไม่เหมาะกับเธอ เลยย้ายกลับไปอยู่ที่รัฐโรดไอส์แลนด์อีกครั้ง พร้อมกับฝึกฝีมือเป็นนักเขียน แต่ปัจจุบันกลับมาอยู่ที่จอร์เจียกับครอบครัวแล้ว

หนังสือที่เธอเขียนออกมาสองเล่มแล้ว เล่มที่สามจะออกตามมาเร็วๆนี้

ใครสนใจลองเข้าไปดูในเว็บ มีรูปครอบครัว รูปบ้านปัจจุบัน รูปที่ไปงานเปิดตัวหนัง สมาชิกทุกคนในบ้านยังมีชีวิตอยู่ครบ

http://www.houseofdarknesshouseoflight.com/
attachment
แก้ไขล่าสุด: 29/8/2556 21:14 โดย แว่นจัง
#44แว่นจัง • 29/8/2556 16:33
จุดศูนย์กลางที่เกิดปรากฏการณ์เหนือธรรมชาติ

ส่วนใหญ่เกิดที่ห้องนอนของแคโรลิน และห้องทำงานที่อยู่ใต้ห้องนอนแคโรลิน และที่ห้องใต้ดินจุดที่ตรงกับทั้งสองห้องมีบ่อน้ำเก่าๆอยู่ ซึ่งจะทำให้มีปรากฏการณ์ประหลาดๆเกี่ยวกับน้ำ ทั้งชักโครกกดเอง เครื่องซักผ้าเปิดเอง ก๊อกน้ำเปิดน้ำเอง ก็เลยสงสัยกันว่าในอดีตบ่อน้ำนี้อาจเกี่ยวข้องกับเรื่องไม่ดีแน่ๆ แต่ก็ยังไม่มีหลักฐานว่ามีอะไรเกิดขึ้นกับบ่อน้ำนี้ในอดีต

#45kubkew • 29/8/2556 17:10
ละเอียดมากกก มากๆจริงๆค่ะ

ขอบคุณนะคะ
#46แว่นจัง • 29/8/2556 17:12
เจ้าของปัจจุบันต้องเผชิญกับคนที่อยากบุกเข้าเจอผีในบ้าน!


อันนี้จากข่าวในเว็บเลย เจ้าของบ้านแชร์บนเฟซบุ๊คแล้วให้ทุกคนช่วยแชร์ (เลยไม่ได้เซนเซอร์ชื่อ)ว่าเรื่องในหนังคนละอย่างกับในหนังสือ เหมือนเป็นการดูถูกครอบครัวเพอร์รอน เจ้าของบ้านคนปัจจุบันบอกว่ารักบ้านหลังนี้มากอยู่มายี่สิบกว่าปีแล้ว สถานที่แห่งนี้มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ และหวังว่าไม่มีใครจะคิดว่าฉากในหนังจะเป็นของจริง หนังสือเป็นเรื่องของครอบครัวเพอร์รอนไม่ใช่เรื่องของครอบครัวเรา

เคยอ่านที่แอนเดรียให้สัมภาษณ์เธอก็บอกว่าหนังเรื่องนี้สร้างมาจากเรื่องจริง ไม่ใช่สร้างมาจากสถานที่จริง และหนังก็คือหนังไม่ได้เป็นจริง100% ข้อมูลส่วนใหญ่มาจากข้อมูลฝั่งครอบครัววอร์เรน หนังใช้เวลาเพียงสองชั่วโมงจึงต้องมีปรับเนื้อหาให้กระชับน่าสนใจ ถ้าจะเอาเรื่องจริงๆ เก็บทุกรายละเอียดคงต้องถ่างตาดูกัน 19ชั่วโมง

ส่วนเรื่องบ้าน ส่วนตัวเห็นว่าที่คนรู้จัก เพราะแอนเดรียก็เขียนหนังสือ และกูเกิ้ลก็ช่วยให้คนหาข้อมูลได้ง่ายและรวดเร็วขึ้น ทำให้เจ้าของบ้านถูกรบกวนได้ง่ายมากๆ หลีกเลี่ยงลำบากจริงๆ


นอร์มา ซัทคลิฟฟ์ ยังบอกว่าในอินเตอร์เน็ตก็ยังมีเรื่องน่าตกใจ ที่มีคนบอกว่า "มันจะสนุกมั๊ยนะที่จะบุกเข้าไปในบ้านนั้น" นอร์มาบอกต่ออีกว่าพวกเด็กๆอาจจะแอบเข้ามา เอาเทียนมาทำพิธีเรียกวิญญาณแล้วทำโรงนาไหม้ ซึ่งโรงนานั้นก็มีสภาพไม่แข็งแรงอยู่แล้ว

นอร์มาบอกว่าเธอก็อายุ60ปลายๆ สามีก็อายุ70แล้ว ต้องตื่นมาตอนตีสองเพราะแสงไฟฉายของคนที่บุกเข้ามาในสนามหญ้า บางครั้งก็ต้องมารับโทรศัพท์ของคนโทรมากวน และที่เธอโกรธ คือ คนประชาสัมพันธ์หนังดันเอารูปบ้านเธอไปใช้ ทั้งๆที่เธอไม่ได้เกี่ยวข้องหรือได้รับเงินรายได้จากหนัง และยังไม่ได้ค่าชดใช้จากความเดือดร้อนที่มีคนบางกลุ่มบุกรุกเข้ามาสร้างความรำคาญด้วย

ตัวเธอได้ไปปรึกษาทนายความว่าจะทำยังไงกับบริษัทหนังดี แต่ก็ได้รับคำแนะนำว่าบริษัทหนังคงเตรียมตัวป้องกันบริษัทตัวเองจากการฟ้องร้องแน่ๆ

นอร์มาบอกว่าไม่ได้ต้องการเงินอะไรทั้งสินของแค่พวกชอบบุกรุกให้หยุดเข้ามาในที่ดินของครอบครัวเธอเสียที
attachment
#47แว่นจัง • 29/8/2556 17:33
มาถึงเรื่องแอนนาเบล

หลายคนคงงงไอ้ตุ๊กตาผีเกี่ยวกับหนังนี้หรอออออออ ไม่เกี่ยวแล้วมาทำมายยยย จริงๆเกี่ยวกับแค่ครอบครัววอร์เรน ใส่มาในหนังเพื่อทำให้เห็นว่า เวลาเอ็ดกับลอเรนไปช่วยใคร คนที่อยู่ข้างหลัง ที่สองคนเป็นห่วงมักได้รับหางเลข แอนนาเบลเป็นแค่ตุ๊กตาที่ซวยโดนเป็นสื่อความชั่วร้ายของพวกอมนุษย์(ตามในหนัง)

ส่วนที่มาของแอนนาเบลจริงๆ มีดังนี้

นักเรียนพยาบาลคนนึงนามว่า ดอนน่าได้ตุ๊กตาเป็นของขวัญวันเกิดจากแม่ หลังจากนั้นไม่นานดอนน่าและเพื่อนร่วมห้อง แองจี้ สังเกตว่าตุ๊กตาเหมือนจะย้ายที่ไปมาในอพาร์ตเมนต์ได้เอง และทั้งคู่ก็เริ่มเห็นว่ามีลายมือเด็กๆเขียนบนกระดาษ ซึ่งไม่มีใครอื่นจะทำแบบนั้น จึงน่าจะเป็นฝีมือของตุ๊กตาหนิเอง

ลู เพื่อนผู้ชายมาค้างที่อพาร์ตเมนต์ของสองสาวเขาก็บอกว่าตุ๊กตาผีพยายามจะบีบคอเขา และพอเขาจะไปดูว่ามีเสียงอะไรมาจากห้องดอนน่าจู่ที่หน้าอกก็มีรอยข่วนเลือดซิบๆขึ้นมาเอง

เพื่อจะแก้ไขปัญหาว่าอะไรคือต้นตอของความหลอนกันแน่ จึงมีการจัดพิธีเชิญวิญญาณมา และได้รับคำตอบว่า ตุ๊กตาผมแดงมีวิญญาณหนูน้อยแอนนาเบลวัยเจ็ดขวบสิงอยู่ ซึ่งหนูน้อยคนนี้เคยอาศัยอยู่ที่นี้ตั้งแต่ก่อนอพาร์ตเมนต์จะมาสร้าง และพบร่างไร้วิญญาณเธออยู่บนทุ่งที่ปัจจุบันกลายเป็นอพาร์ตเมนต์

เอ็ดและลอเรนมาตรวจสอบหลังจากได้รับแจ้งเรื่องตุ๊กตาผีจากนักบวชที่ดอนน่าไปติดต่อไว้ และจึงมีพิธีไล่ดวงวิญญาณตามคำแนะนำของสามีภรรยาตระกูลวอร์เรน หลังจากนั้นดอนน่าก็ขอร้องให้ทั้งสองคนช่วยจัดการกับตุ๊กตา ทั้งคู่จึงพาแอนนาเบลกลับไปอยู่ในพิพิธภัณฑ์ นั่งอยู่ในตู้จนถึงปัจจุบัน

ส่วนสาเหตุที่ไม่ใช้แอนนาเบลมาถ่ายหนัง เพราะลอเรนบอกว่าตุ๊กตาเฮี้ยนมากไม่ควรไปยุ่ง และถ้าทำเลียนแบบ หน้าตาก็แบ๊วเสียเหลือเกินจึงต้องทำเวอร์ชั่น แอนนาเบลโตเป็นสาวแล้วค่า(แบบยุ้ย ญาติเยอะ) ให้ดูหน้าตาหลอนๆ ไม่งั้นคนดูคงไม่เชื่อว่ามันเป็นตุ๊กตาผี
attachment
#48แว่นจัง • 29/8/2556 17:48
เพิ่มเติมเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยเกี่ยวกับหนัง

ของที่เห็นในฉากที่เป็นบ้านวอร์เรน ทำขึ้นมาใหม่หมด เว้นแต่รูปวาดของเอ็ด เพราะเอ็ดชอบวาดรูปมาก ผู้กำกับเจมส์ วานก็เห็นว่ารูปของเอ็ดที่วาดไว้เยอะมากเข้ากับฉากได้ดีเลยเอามาประกอบฉากซะเลย

ตอนแรกหนังจะใช้ชื่อว่า “The Warren Files” เพราะสตูดิโอผู้สร้างเล็งว่าต้องมีภาคต่อแน่ๆ

ตอนที่เหตุการณ์จริงเกิดขึ้นแอนเดรีย เพอร์รอนลูกสาวคนโตสุดอายุแค่12ขวบเอง ตอนนี้นอกจากจะเขียนหนังสือเล่าถึงประสบการณ์สยองแล้ว เธอมียูทูป ชาเนลด้วยนะ http://www.youtube.com/user/HODHOL?feature=watch

มีการสัมภาษณ์ทั้งทีมงานและนักแสดงว่าระหว่างอยู่ในกองถ่ายเจออะไรแปลกๆได้ไหม คำตอบคือเจอ

มีหลายคนที่จู่ๆก็ตื่นขึ้นมาระหว่างช่วงตีสามถึงตีสี่ (ช่วงที่เบธชีบาในหนังบอกว่าไปผูกคอตายที่ต้นไม้)





attachment
#49แว่นจัง • 29/8/2556 18:17
ปีเตอร์ ซาฟราน โปรดิวเซอร์หนังอีกคนก็เล่าว่าส่งบทหนังไปให้วีร่า ฟาร์มิกาช่วงเดือนธันวาคม ช่วงนั้นเธออยู่ที่นิวยอร์ก ส่วนเจมส์ วานอยู่ที่แอลเอ

วีร่าอ่านบททันทีและติดต่อกลับมาทางทีมงาน บอกว่าชอบบทมากและอยากคุยกับเจมส์ทางโทรศัพท์หรือไม่ก็สไกป์ภายในพรุ่งนี้ และเธอก็ไปนอน พอตื่นมาเพื่อจะคุยกับผู้กำกับ ปรากฏว่าจู่ๆหน้าจอคอมพิวเตอร์ของวีร่าก็มีรอยข่วนขึ้นมาเฉยๆทั้งที่ก่อหน้านี้ยังไม่มีแม้แต่รอยเดียว


เนื้อหาภาคต่อที่น่าจะเป็นไปได้คือสองสามีภรรยาไปสำรวจเรื่องลี้ลับที่อังกฤษหรือไม่ก็ไอร์แลนด์

ทั้งแพทริค วิลสัน และวีร่า ฟาร์มิกา เดินทางไปหาลอเรน วอร์เรนที่คอนเนตติกัตเพื่อเตรียมเก็บข้อมูลใช้ในหนัง แพทริคไปดูพิพิธภัณฑ์ของลอเรน ส่วนวีร่าไม่กล้าไปดู

ตอนที่แคโรลิน เพอร์รอนและครอบครัวไปเยี่ยมกองถ่ายที่รัฐนอร์ธ แคโรไลนา เธอล้มจนสะโพกหัก

ต้นไม้ที่เบธชีบาแขวนคอตายมาจากจินตนาการของผู้กำกับ

เจมส์ วานนำเอาอารมณ์หลอนจากหนังต้นฉบับThe Hauntingมาปรับใส่ในหนังThe Conjuringด้วย

และเขายังพยายามใช้เทคนิคถ่ายหนังแบบยุค70อีกด้วย

ตอนแรกทีมงานอยากได้บ้านไร่แบบต้นฉบับมาถ่ายทำ แต่ในที่สุดก็ได้บ้านสองชั้นมาแทน

ครอบครัวเพอร์รอนต้องเจอกับประสบการณ์สุดหลอนมากขึ้นหลังจากเปิดใช้เตาผิงและห้องใต้ดิน

ทางวาติกันให้สองสามีภรรยาวอร์เรนสืบหาข้อเท็จจริงว่ากรณีใดมีปีศาจเกี่ยวข้อง ถ้ามีปีศาจเมื่อไรทางวาติกันถึงจะเข้าไปจัดการ

attachment
#50แว่นจัง • 29/8/2556 18:17
มีพร็อพที่ใช้ในหนังมากฝาก

http://hollywoodmoviecostumesandprops.blogspot.com/2013/07/the-conjuring-screen-used-props-on.html
attachment
#52แว่นจัง • 29/8/2556 18:27
เคยลงกระทู้ๆแนวๆผีๆหลอนๆ เชิญไปอ่าน

http://horrorclub.net/ForumDetails.aspx?ForumID=1839

ใครชอบเดินสาย
http://horrorclub.net/ForumDetails.aspx?ForumID=1029

รวมเครื่องมือล่าท้าผี

http://horrorclub.net/ForumDetails.aspx?ForumID=999

Chernobyl Diaries เปิดบันทึกเมืองมรณะ ตามรอยเที่ยวไปในเชอร์โนบิล และ ปรีเปี้ยต
http://horrorclub.net/ForumDetails.aspx?ForumID=2234
#53ผู้ไม่ประสงค์ออกนาม • 29/8/2556 19:39
ระทึกใจเเทนจริงๆ เขียนได้เห็นภาพเลย

ว่าเเต่ตุ๊กตาเเอนนาเบลเเบบในหนังถ้าใครให้ผมมา ผมซัดกลับใส่หน้าคนให้เลยนะเเสสส ... ใครจะรับลง
#54kubkew • 29/8/2556 19:41
คุณยายแคโรลิน เพอร์รอนทำไมเค้าถึงได้โชคร้ายอย่างี้เน้ออ


#55ounzaa • 29/8/2556 19:55
ขอบคุณนะคะ กระทู้ดีๆ ต้องชมเชย เยี่ยม!!!
#56plaplapla • 29/8/2556 19:59
ชอบมาก ข้อมูลดีมากๆ เลยค่ะ คุณภาพจริงๆ คลับนี้
#57ChaChaKoi • 29/8/2556 20:00
แอนนาเบลหน้าหลอนกว่าเบธชีบาหลายขุมเลย
#58แว่นจัง • 29/8/2556 20:07
จริงๆลืมไปอีกข้อ อ่านผ่านๆลอเรนเล่าว่าหลังจากเธอและเอ็ดไปสืบคดีหนึ่ง หลังจากกลับมาจู่ๆเอ็ดก็ปวดเป็นโรคหัวใจ ร่างกายอ่อนแอลง

ส่วนเรื่องราวของสองสามีภรรยาตามล่าผี เรื่องยาวๆมากเพราะไปกันหลายที่ ไปนอกอเมริกาก็เคย แต่ที่ดังสุดก็คือ บ้านAmittyville ซึ่งหลายคนบอกว่าไม่มีปีศาจอะไรทั้งสิ้น มีคนกุขึ้นเพื่อเหตุผลทางธุรกิจ แต่คนที่มาอาศัยต่อหลังจากครอบครัวถูกฆ่า ก็เปิดปากเล่ามาว่าเห็นเงาทะมึนดำอยู่ในบ้าน แล้วก็ไม่พูดอะไรอีกปัจจุบันบ้านหลังดังกล่าวก็ยังมีอยู่ แต่ตกแต่งใหม่ซะสวยเชียว
แก้ไขล่าสุด: 30/8/2556 13:38 โดย แว่นจัง
#59Gothiclady • 29/8/2556 21:55
ขอถามอะไรหน่อยนะคะ ตามความจริง เอ็ดและลอเรน ทั้งคู่มีลูกด้วยกันเหมือนในหนังรึเปล่าคะ สงสัยมากค่า ยังไงก็รบกวนด้วยนะคะ ><
#60แว่นจัง • 29/8/2556 22:19
มีลูกสาวคนนึงชื่อจูดี้ สแปร่า แต่งงานกับผู้ชายที่ถ่ายรุปคู่กับแอนนาเบล(ด้านบน) ลูกเขยมาช่วยแม่ยายดูแลพิพิธภัณฑ์ มีหลานอีก2 เหลนอีก4

มีรูปให้ดูhttp://www.flickr.com/photos/nespirit/4766052097/
#61wittywit • 30/8/2556 11:49
ชอบมากเลย ละเอียดยิบ
#62SuperKate • 30/8/2556 11:55
คือ สงสัยว่า ตกลง Bathsheba เค้าตายยังไงอ่ะคะ ผูกคอตายหรือเค้าแก่ตาย
#63แว่นจัง • 30/8/2556 13:37
ในหนังผูกคอตาย จะได้ดูเฮี้ยนๆมีเหตุมีผลที่จะชั่วร้าย

ส่วนเรื่องจริงตายตอน73ปี แต่ไม่รู้ว่าป่วยก่อนตายหรือเปล่า เพราะหมอบอกตัวแข็งเหมือนหิน อาจจะเป็นอาการอัมพาตอย่างนึง
#64samara17520 • 30/8/2556 16:35
ตามอ่านกันตาลาย ข้อมูลเเน่นมากๆ ขอบคุงงับๆๆ ^___^
#65Bullab • 31/8/2556 18:00
อ่านเพลินมาก ขอบคุณค่ะ
#66ป่านฉะนี้เธออยู่ดีไฉน • 2/9/2556 13:45
แว่นจังแปลได้สนุกมาก

คือจริง ๆ แล้วผีป้าเบ็ธหวังเคลมลุงโรเจอร์แค่นั้นใช่ป่ะ จากที่อ่าน - -*
#67แว่นจัง • 3/9/2556 02:00
เรื่องจริงคงเป็นแค่ผีแย่งผัว ในหนังไม่ได้กล่าวไว้เลย เป็นแค่ผีแม่มดงกที่ดินแทน
#68Murphy • 14/10/2556 10:59
ถ้าหากว่านำไปแปะในเว็บผมได้ไหมครับ ท่านแว่นจัง ขอบคุณครับ
#69แว่นจัง • 10/11/2556 21:41
พึ่งเห็น เอาข้อมูลไปลงทั้งลิงค์ได้จ้า ขอเครดิตด้วยจ้ะ
Login
Function Used time : 0:00:00:00.020
Go Last