เส้นทางรถไฟ สาย Trans-Siberian เส้นสีน้ำเงิน
จากประเทศไทย ก็ นั่งรถไปได้นะ ไปขึ้น รถไฟที่เวียดนาม

ชอบตรงที่หนัง มันดูเหมือนจะเป็นสถานการณ์จริง Plot ของหนังมันเป็นเรื่องจริงได้นี่แหล่ะ จากการเดินเรื่อง ณ จุดเริ่มต้น
จนกระทั่งเหตุการณ์บนรถไฟ การดำเนินเรื่องที่เข้มขึ้นเมื่อแวะพักระหว่างทางในสถานีต่างๆ จนถึงจุดจบของเรื่อง
Transsiberian นำเสนอ ชีวิต ความรู้สึกและอารมณ์ด้านหนึ่งของคนที่เปลี่ยนแปลงได้ การหลอกล่อและวางแผนลับๆของแต่ละคน
ขบวนการค้ายาเสพติดข้ามชาติ การชิงไหวชิงพริบ จนนำไปสู่การฆาตกรรม เปรียบเสมือนเป็น เส้นทางรถไฟ....สายระทึก ที่ผู้โดยสารรถไฟขบวนนี้ต้องสะพรึงกลัว
-----------------------------------------------------------
การเดินเรื่องของหนัง เกี่ยวข้องกับตัวละครหลัก 5 คน ที่เกิดขึ้นระหว่างเดินทางด้วยรถไฟขบวนนี้
Emily Mortimer (Jessie)
Jessie ผู้หญิงที่มีอดีตเป็นเด็กกร้านโลก หนีออกจากบ้านตั้งแต่ อายุ 16 เร่ร่อนไปทั่ว นอนคุก เข้าบำบัดเลิกยา
จนมาพบกับ Roy โดยอุบัติเหตุบังเอิญ ที่มาทำให้ชีวิตของเธอเปลี่ยนไป
เค้าทั้งคู่ได้แต่งงานกัน ขณะที่ Roy ต้องการ ลูก เพื่อสร้างครอบครัว แต่ Jessie ยังไม่พร้อมและปฏิเสธเรื่องนี้ตลอด
หลังจากเสร็จภารกิจที่เมืองจีนเค้าทั้งสองได้เดินทางจากปักกิ่งไปเที่ยวมอสโค โดยทางรถไฟ สายไซบีเรีย ซึ่ง Jessie ไม่ค่อยพอใจนัก
แต่เพราะงานอดิเรก Jessie เป็นช่างภาพมือสมัครเล่น เธอจึงยอมเดินทางเพื่อเก็บภาพสวยงาม ของทางรถไฟสายนี้

Woody Harrelson (Roy)
Roy ผู้ชายคนนี้ เป็นอาสาสมัครมิชชันนารี่ เผยแพร่ศาสนาคริสต์ มีอารมณ์ขัน ร่าเริงมองโลกในแง่ดีอยู่เสมอ
การเดินทางสู่ไซบีเรียเพราะเขาที่คลั่งการผจญภัยแบบไร้ขีดจำกัด แสวงหาความสุขและสีสรรกับชีวิตร่วมกับ Jessie คนรัก
เขาผูกมิตรได้กับทุกคนบนขบวนรถไฟสายนี้ และด้วยการเป็นมิตรไปกับทุกคน Roy จึงเปิดใจพูดเรื่องของ Jessie
ให้ Carlos ฟัง ซึ่งเป็นไหวพริบของ Carlos ที่ต้องการล้วงลูก เพื่อหาวิธี ใช้ Jessie เป็นตัวช่วยขนยาเสพติด

ลุงแคป..ไอ้ที่ชอบน่ะ..ขาวอวบมากกว่ามั้ง
...
เทพมังกรอวยชัยจ้าาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา
...

และดูเหมือนว่า Roy จะคลั่งรถไฟมากเป็นพิเศษ กระโดดโลดเต้น เมื่อได้แวะ ดู รถไฟเก่าๆ ใน เมือง Irkutsk
เรื่องแปลกๆ เริ่มเกิดขึ้น เมื่อ Jessie พบว่า Roy ไม่ได้อยู่ใน ขบวนรถไฟ หลัง ขบวนรถ ออกจาก สถานี Irkutsk

ทำให้ Jessie ต้อง แวะ ที่ สถานี BuenoQue เพื่อขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่รัสซียและรอ Roy
Carlos และ Abby รู้เรื่องการตรวจสัมภาระที่เข้มงวดของเจ้าหน้าที่บนขบวนรถ เลยอาสาลงไปเป็นเพื่อนพร้อม Jessie

แวะมาชม
plot น่าสนใจดีค่ะ

โอว เป็นสายรถไฟที่น่านั่งมาก ๆ
เมืองหิมะขาว ๆ ไปถึงยุโรปเลยอ่ะ

555555555555 ลุงเทพฯ ชอบอะไร ที่มัน ขาวโพลนไปทั้งจอเหมือนกันใช้ม๊า กร๊ากๆๆๆๆ
-------------------------------------------------------------------
Abby และ Carlos ผู้ร่วมเดินทางที่มีพฤติกรรมแปลกๆ
โดย Jessie และ Roy รู้แต่เพียงว่า ผู้ร่วมเดินทางตู้นอนกับเขาเป็นครูสอนภาษาในหลายประเทศ และ เดินทางไปทั่วเพราะ Carlos รักการเดินทาง

Jessie จะมอง Abby เป็นสาวน้อยไร้เดียงสา และ ย้ำๆ อยู่เสมอ ว่า Abby เป็นเด็กดี เธอน่าจะมี ชีวิตที่ดีกว่านี้
Abby ก็บอกความฝันของเธอที่อยากจะมีกระท่อมริมทะเลสาบ ที่แคนาดา ที่ๆเธอเคยอยู่ ไม่อยากเร่ร่อนอีกแล้ว
เพียงแต่เธอ ไม่มีเงินที่จะทำให้ฝันเธอเป็นจริง และที่เธอต้องเป็นอยู่ตอนนี้เพราะเธอรัก Carlos

Carlos หนุ่มสเปน ที่เป็นหนุ่มหล่อดูดี และพยายามกะลิ้มกะเหลี่ย Jessie เมื่อมีโอกาส
และ จากเหตุการณ์ ที่ Jessie ต้องรอ Roy เพราะพลาดรถไฟ และรู้ว่า Jessie ชอบถ่ายภาพ
เขาจึงพยายามชักชวน Jessie ออกไปเที่ยวโบสถ์ร้าง ที่ต้องนั่งรถบัสออกจากเมืองไป
ที่โบสถ์ร้าง เพราะฟีโรโมนของทั้งคู่ Jessie พลั้งเผลอใจไป แต่ สวรรค์ไม่เป็นใจ เศษไม้เก่าๆ หล่นลงมาขัดจังหวะ
Jessie เริ่มไม่ต้องการสิ่งที่เกิดขึ้น แต่ Carlos กลับไม่ยอมพอ กลับถูก Jessie เอาท่อนไม้กระหน่ำตีศีรษะจนตาย
ก่อนจะนั่งร้องไห้ อยู่ข้างศพ Carlos ( ตรงนี้ ผมรู้สึกขัดใจหน่อยๆ ว่าความจริงแล้ว ที่ อุณหภูมิ -23 ในตอนนั้น คนเราจะมีน้ำตาไหลออกมาเป็นน้ำได้เหรอ???)
และเธอ ก็ ขึ้นรถบัส กลับมารอจนพบกับ Roy เสมือนหนึ่งว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น

Sir Ben Kingsley (Grinko)
ผู้ร่วมเดินทางคนต่อไป Grinko ที่อ้างตัวเองกับ Roy และ Jessie เสมอว่า เป็นตำรวจประจำหน่วยปราบปรามยาเสพติด
ผู้ซึ่งจับอารมณ์ที่ไม่ปกติของ Jessie ได้ และจับตาดูเธออยู่ตลอดเวลา

Jessie รู้สึกกดดัน จนต้องเปิดเผย เรื่อง เฮโรอีน กับ Roy ในตุ๊กตาของฝาก ที่ Carlos แอบยัดใส่กระเป๋าเธอไว้
Roy พา Jessie และเฮโรอีนที่พบ ไปคุยกับ Grinko
แต่ทว่า .... เรื่องมันไม่จบ
เพราะมันมีแค่ ผงเฮโรอีน 2 กิโลกรัม (ไม่มีเงิน 20 ล้าน ที่เขาตามหาอยู่)

สิ่งที่ Grinko อยากรู้มากกว่าคือ Carlos อยู่ที่ไหน จึงกดดัน Jessie เพราะเขารู้ว่าเธอ อยู่กับ Carlos เป็นคนสุดท้าย
แต่ Jessie โกหกไม่เปิดเผยความจริงแก่ใคร
เรื่องแปลกก็เกิดขึ้น เมื่อ Jessie และ Roy พบว่า ขบวนรถไฟที่พวกเขาโดยสารอยู่นั้น มีเพียงเธอ และ Grinko กับ ผู้ติดตามเขาเท่านั้น
ขบวนรถหยุดเดินทาง Jesssie และ Roy ถูกจับถอดถุงมือและรองเท้า เดินไปบนหิมะ อากาศ -23 องศา
พบว่า Grinko ได้จับ Abby มาทรมาน เพื่อต้องการทราบที่อยู่ ของ Carlos

โอ้ววว!! เจอท่านเทพมาสอยมุกไปซะแล้ว

แ้่ป่วเลยเรา... ^^

Grinko ทรมาน Abby โดยใช้มีดกรีดไปตามตัว แขนและขา และ ต้องการฆ่า Jessie กับ Roy แต่มีเจ้าหน้าที่ทหารรัสเซียมาช่วยไว้ได้ทัน
Grinko เลยพลิกสถานการณ์ทำให้ตัวเองเป็นผู้มาช่วยตัวประกันชาวอเมริกันที่โดนจับมา ก่อนที่จะแอบเดินหนีเข้าป่าไป
Jessie พยายามบอก เจ้าหน้าที่ทหารรัสเซีย เป็นภาษาอังกฤษ ว่า Grinko เป็นคนทำ แต่ ไม่มีใครเข้าใจที่เธอพูด

{SPOIL} ตอนจบ ใครไม่อยากอ่าน ข้ามไปเลย

จนมาถึง ที่ มอสโค เจ้าหน้าที่สืบสวนถึงได้รู้ว่า จากภาพถ่ายที่ Jessie ถ่ายไว้ ระหว่างที่ Grinko ส่งตุ๊กตา ให้กับพรรคพวกนั้น
ที่แท้ Grinko เป็นพวกค้ายาเสพติดข้ามชาติ ที่ทางการรัสเซียกำลังติดตามตัว
ก่อนที่จะเตือน Jessie และ Roy ว่า " อย่าไปคุยกับคนแปลกหน้า"
Carlos เป็นพวก หัวขโมย ทำร้ายผู้หญิง และงานใหม่คือ ส่งยา
ส่วน Abby ไม่สามารถสืบประวัติได้ รู้เพียงแต่ว่า ที่อยู่สุดท้ายคือ ซีแอตเติ้ล

แต่ Jessie เชื่อว่า Abby เป็นเด็กดี เธอจึง ไปพบกับ Abby ที่กำลังนอนพักรักษาที่โรงพยาบาลในมอสโค อีกครั้ง
และ บอกบางอย่างแก่ Abby

Abby เมื่อหายดี ก็ออกไปตามหา Carlos ( Jessie คนเดียวที่รู้ว่า Carlos อยู่ที่ไหน) จนกระทั่งพบกับ Carlos ที่สิ้นลมอยู่ใต้หิมะ
และ ความฝันของเธอก็เป็นจริง

ส่วน Jessie และ Roy หลังเรื่องราวครั้งนี้ ทำให้ทั้งสองรักกันมากขึ้นและพร้อมที่จะมีความสุขเป็นคู่ชีวิตที่ดีต่อกัน

ดูเรื่องนี้แล้ว สรุปได้ว่า
1. อยากนั่งรถไฟ สาย Trans-Siberian นี่จัง โครตชอบบรรยากาศ เพราะฉากแต่ละฉาก สวยมากกกกกก ขาววววววว
2. จากใบแปะของฝรั่ง มีคำพูดของ Grinko ต่อ Jessie ว่า
"With lies you can always go forward, but you can never go back."
คุณโกหก คุณก็ไปที่ใหนก็ได้ในโลกนี้ แต่คุณต้องไม่กลับมาอีก
แล้วผมจะไปอยู่ที่ไหนล่ะเนี่ยะ
3.แค่การนั่งรถไฟ จาก สถานี หนึ่ง ไปอีก สถานีหนึ่ง ก็ เอามาทำเป็นหนังระทึกขวัญได้
4. ตกลง Abby นั่น เธอ ไร้เดียงสาจริงรึเปล่า แล้ว Carlos เอายากับเงินพวกนั้นมาจากไหน ใช่จากคนตายที่ Grinko ไปเจอศพ รึเปล่า
5.คนเราร้องไห้เป็นหยดน้ำตา ที่ อุณหภูมิ -23 ได้
6. กล้อง Canon รุ่นนั้น ทำงานที่อุณหภูมิติดลบมากขนาดนั้นได้ด้วย
---------------------------------------------------------------------
มีดีวีดี ออกวางจำหน่ายแล้วนะครับ บ้านเราปกแบบนี้ หามาดูกันได้

ถ้าแคปคุงกับท่านเทพได้นั่งดูหนังที่มีหิมะขาวโพลนเรื่องนี้กับสาวขาวอวบสักคนล่ะก็......
(เติมคำในช่องว่างเองนะจ๊ะ หุหุ)

//น่าดูมากๆ เลยค่ะแคปคุง ท่าทางจะชิงไหวชิงพริบกันน่าดู

น่าดูๆ~

น่าดูสุดๆเลยค่า!~

อยากดูๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ


ชอบ หิมะ หิมะๆๆ เหมือนกันเลย คร่า

เดี๋ยวจะไปสอยไว้ด้วย

ภาพหนังสวยมากเลยค่ะ ถ่ายได้ดีจริงๆ

เคยเช่ามาดูล่ะ เพราะเห็นหน้าแกหิมะดูลึกลับดี อิอิ

พี่หนมอยากดูป่ะ เด๋วเอาแผ่นไปให้ แอบไรท์มา โหะๆ

#8 ร้องได้ค่ะ เคยลองมาแล้ว อิอิ

โอ้วเรื่องนี้นี่เองๆ

อยากเห็นหยดน้ำตา ที่ อุณหภูมิ ลบ23

สนุก อ่ะ !