มีใครไปดู "สิงหาต้องสับ Texas Chainsaw 3D" มาเเล้วบ้างครับ เป็นยังไงกันบ้างเอ่ย ??
by ผู้ไม่ประสงค์ออกนาม • วันศุกร์ที่ 11 มกราคม พ.ศ. 2556 16:24
เรื่องความโหด ความสยอง ตวามระทึกเหมือนกับภาคก่อนหน้ามีมาให้เห็นเยอะน้อยเเค่ไหน ผิดหวังหรือสมหวังกับภาค 3D นี้กันเปล่า ผมจะไปดูวันพรุ่งนี้ เเต่อยากทราบเสียงของคนที่ไปดูมาเเล้วก่อน ว่าคุ้มค่าไหมกับค่าตั๋ว

Replies (7)
ไปดูมาตะกี้เอง
ส่วนตัวแล้ว เฉยๆกับภาคนี้(มัน3dตรงไหนวะหรือต้องมีนัยยะอะไรมากมายรึเปล่า) หนังเล่าจากต้นฉบับที่มีเซลลี่ หนีรอดออกมาได้คนเดียว แล้วก็ต่อเนื่องของภาคนี้เป็นเหตุการณ์ต่อจากนั้นเลยว่าเกิดอะไรขึ้นมีเด็กรอดมาได้คือนางเองโดนเอาไปเลี้ยงโตขึ้นมามารับสมบัติแล้วก็มาเจอสุดหล่อของเรา. มาแค่นี้ก็ไม่มีอะไรใหม่ละสำหรับตัวหนัง เข้าสูตรสำเร็จเลย มีพี่มืด1คน สาวอวบอึ๋มร่านสวาทที่เอาแต่กรี๊ดสติแตกตลอดเวลา และนางเอกขาวสวยหุ่นดีที่ดูจงใจพยายามโชว์นมโดยไม่ค่อยมีเหตุผลเท่าไหร่
อาจเป็นเพราะผมดูหนังแนวนี้มาเยอะเลยไม่มีอะไรใหม่สำหรับผม เลยเฉยๆแต่ไม่ถึงกับง่วงหลับ(saw ภาคหลังๆนี่ก็หลับไปเลย)
แต่พอมาลองดูนัยยะแฝงที่เกี่ยวกับเรื่องของศีลธรรมกับความถูกต้องกฎหมู่อยู่เหนือกฎหมาย คนที่สังคมตัดสินว่าเลวร้ายเขาอาจมีเหตุผลหรือถูกยัดเยียดให้เป็นแบบนั้น พ่อพระผู้นำที่มองกันว่าแสนดีก็อาจไม่ได้ดีอย่างที่นำเสนอ ปมพวกนี้ก็มีอยู่แล้วทั้งในหนังเรื่องอื่นๆและโลกแห่งความจริง และนั้นอีกเหมือนกัน ดูมาเยอะเลยเดาได้หมด และในภาคนี้(จริงๆต้องบอกว่าในหนังสยองขวัญทุกเรื่อง) ตัวละครต้องมีการกระทำโง่ๆอย่างน่าประหลาดใจเสมอ
ส่วนตัวให้ คะแนน 7/10 อยู่ในะรับดีใช้ได้สำหรับคนที่ดูหนังแนวนี้ไม่ค่อยเยอะ แต่จะเหลือ4/10 ทันทีสำหรับคนกร้านโลก 55555
สรุปไปดูเถอะอย่างน้อยหนังก็พยายามเล่าอีกด้านหนังของไอ้หน้าหนังให้เรารู้บ้าง
จบ
ปล. มีฝรั่งหล่อล่ำมาดูรอบเดียวกะผมอยู่เบาะข้างหลังผม เตะเบาะผมบ่อยมากจนผมต้องย้ายไปนั่งถัดไปอีกเบาะนึง. คราวนี้พี่แกเอาเท้าพาดทะลุมาข้างหน้าเลย. ไม่ว่ากันหรอกถ้าตีนมันไม่เหม็น. เราเลยหันไปส่งสายตาเชือดเฉือนเปล่งรังสีอำมหิตระดับ10ชั้นบรรยากาศ. แม่มกรูยิ่งหงุดหงิดหาที่ลงไม่ได้อยู่นะมึงมึงมากันสองคนก็เหอะ. หาที่ตายก่อนตัวละครในหนังรึไงวะ .... ส่งข้อความทางสายตาไปแบบนั้นจนมันเอาขาหดออกไป. สักพักพอฉากตกใจ ฝรั่งหล่อล่ำสองคนนั้นก้ส่งเสียง. แอร๊ยยยยยยยยยส์. ออกมา. 55555555กลั้นหัวเราะแทบไม่ทัน. ตอนหนังจบไฟสว่างเลยหันไปดู. เขาหลบตาแล้วรีบเดินหนีไปเลย. หึหึหึหึหึหึหึหึ
ส่วนตัวแล้ว เฉยๆกับภาคนี้(มัน3dตรงไหนวะหรือต้องมีนัยยะอะไรมากมายรึเปล่า) หนังเล่าจากต้นฉบับที่มีเซลลี่ หนีรอดออกมาได้คนเดียว แล้วก็ต่อเนื่องของภาคนี้เป็นเหตุการณ์ต่อจากนั้นเลยว่าเกิดอะไรขึ้นมีเด็กรอดมาได้คือนางเองโดนเอาไปเลี้ยงโตขึ้นมามารับสมบัติแล้วก็มาเจอสุดหล่อของเรา. มาแค่นี้ก็ไม่มีอะไรใหม่ละสำหรับตัวหนัง เข้าสูตรสำเร็จเลย มีพี่มืด1คน สาวอวบอึ๋มร่านสวาทที่เอาแต่กรี๊ดสติแตกตลอดเวลา และนางเอกขาวสวยหุ่นดีที่ดูจงใจพยายามโชว์นมโดยไม่ค่อยมีเหตุผลเท่าไหร่
อาจเป็นเพราะผมดูหนังแนวนี้มาเยอะเลยไม่มีอะไรใหม่สำหรับผม เลยเฉยๆแต่ไม่ถึงกับง่วงหลับ(saw ภาคหลังๆนี่ก็หลับไปเลย)
แต่พอมาลองดูนัยยะแฝงที่เกี่ยวกับเรื่องของศีลธรรมกับความถูกต้องกฎหมู่อยู่เหนือกฎหมาย คนที่สังคมตัดสินว่าเลวร้ายเขาอาจมีเหตุผลหรือถูกยัดเยียดให้เป็นแบบนั้น พ่อพระผู้นำที่มองกันว่าแสนดีก็อาจไม่ได้ดีอย่างที่นำเสนอ ปมพวกนี้ก็มีอยู่แล้วทั้งในหนังเรื่องอื่นๆและโลกแห่งความจริง และนั้นอีกเหมือนกัน ดูมาเยอะเลยเดาได้หมด และในภาคนี้(จริงๆต้องบอกว่าในหนังสยองขวัญทุกเรื่อง) ตัวละครต้องมีการกระทำโง่ๆอย่างน่าประหลาดใจเสมอ
ส่วนตัวให้ คะแนน 7/10 อยู่ในะรับดีใช้ได้สำหรับคนที่ดูหนังแนวนี้ไม่ค่อยเยอะ แต่จะเหลือ4/10 ทันทีสำหรับคนกร้านโลก 55555
สรุปไปดูเถอะอย่างน้อยหนังก็พยายามเล่าอีกด้านหนังของไอ้หน้าหนังให้เรารู้บ้าง
จบ
ปล. มีฝรั่งหล่อล่ำมาดูรอบเดียวกะผมอยู่เบาะข้างหลังผม เตะเบาะผมบ่อยมากจนผมต้องย้ายไปนั่งถัดไปอีกเบาะนึง. คราวนี้พี่แกเอาเท้าพาดทะลุมาข้างหน้าเลย. ไม่ว่ากันหรอกถ้าตีนมันไม่เหม็น. เราเลยหันไปส่งสายตาเชือดเฉือนเปล่งรังสีอำมหิตระดับ10ชั้นบรรยากาศ. แม่มกรูยิ่งหงุดหงิดหาที่ลงไม่ได้อยู่นะมึงมึงมากันสองคนก็เหอะ. หาที่ตายก่อนตัวละครในหนังรึไงวะ .... ส่งข้อความทางสายตาไปแบบนั้นจนมันเอาขาหดออกไป. สักพักพอฉากตกใจ ฝรั่งหล่อล่ำสองคนนั้นก้ส่งเสียง. แอร๊ยยยยยยยยยส์. ออกมา. 55555555กลั้นหัวเราะแทบไม่ทัน. ตอนหนังจบไฟสว่างเลยหันไปดู. เขาหลบตาแล้วรีบเดินหนีไปเลย. หึหึหึหึหึหึหึหึ
^
^
^
เจอคนไร้มารยาทเเบบนั้นหนักใจเหมือนกันนะครับ โชคดีที่เราไม่เจอสักครั้งที เคยมีเเต่นั่งใกล้คู่เกย์สองคนเเล้วนั่งจีบกันตั้งเเต่ต้นเรื่องยันหนังจบ .. เอิ่มนะ.. คิดว่าดีก็ทำต่อไป ^^
^
^
เจอคนไร้มารยาทเเบบนั้นหนักใจเหมือนกันนะครับ โชคดีที่เราไม่เจอสักครั้งที เคยมีเเต่นั่งใกล้คู่เกย์สองคนเเล้วนั่งจีบกันตั้งเเต่ต้นเรื่องยันหนังจบ .. เอิ่มนะ.. คิดว่าดีก็ทำต่อไป ^^
แอร๊ยยยย 555555

.
.
.
.
.
.
.
.


.
.
.
.
.
.
.
.

พึ่งกลับมาฮะ เชื่อว่าออกมาจากโรงทุกคนจะรู้สึกว่าความน่ากลัว ความโหด วิปริต ของภาคออริจินัลรวมไปถึงภาครีเมคลดลงไปกว่าครึ่ง (ไหนอีตา Tobe Hooper บอกว่า terrifying follow up to original ไงฟระ) หนังพยายามถ่ายทอดออกมาให้เห็นอีกแง่มุมของความวิปริตออกมาในด้านของครอบครัว (ซึ่งโผล่ออกมาจากไหนไม่รู้เยอะแยะ)
ออกมาได้เบสิคมากๆ พูดตรงๆว่าหนังมีแก่นสารอยู่นิดเดียวเท่านั้นเอง ดูถึุงครึ่งเรื่องก็เดาทางถูกจนจบแล้ว
ดีกรีความโหดของหนัง เข้าขั้นดีครับ ถึงฉากหวาดเสียวๆจะน้อยไปหน่อย แต่ดูแล้วเป็นธรรมชาติและสมจริงกว่าหนังโหด 3D ทั่วๆไป
พูดถึงหนังประเภทนี้สิ่งที่คนดูส่วนใหญ่หวังไว้ก็คือการได้เห็นหนุ่มสาวกำลังพยายามดิ้นรนเอาชีวิตรอดทุกวิถีทาง ในบริเวณที่จำกัด และบรรยากาศของความสิ้นหวัง อย่างน้อยก็หวังว่าจะกดดันกว่าออริจินัล ภาคนี้แทบหาไม่ได้เลยครับ
ให้ 4/10 ครับผม ถึงจะผิดหวังเล็กน้อย แต่เข้าใจว่าคอหนังเรื่องนี้จริงๆถึงยังไงก็ต้องดูให้ได้
ออกมาได้เบสิคมากๆ พูดตรงๆว่าหนังมีแก่นสารอยู่นิดเดียวเท่านั้นเอง ดูถึุงครึ่งเรื่องก็เดาทางถูกจนจบแล้ว
ดีกรีความโหดของหนัง เข้าขั้นดีครับ ถึงฉากหวาดเสียวๆจะน้อยไปหน่อย แต่ดูแล้วเป็นธรรมชาติและสมจริงกว่าหนังโหด 3D ทั่วๆไป
พูดถึงหนังประเภทนี้สิ่งที่คนดูส่วนใหญ่หวังไว้ก็คือการได้เห็นหนุ่มสาวกำลังพยายามดิ้นรนเอาชีวิตรอดทุกวิถีทาง ในบริเวณที่จำกัด และบรรยากาศของความสิ้นหวัง อย่างน้อยก็หวังว่าจะกดดันกว่าออริจินัล ภาคนี้แทบหาไม่ได้เลยครับ
ให้ 4/10 ครับผม ถึงจะผิดหวังเล็กน้อย แต่เข้าใจว่าคอหนังเรื่องนี้จริงๆถึงยังไงก็ต้องดูให้ได้
ไปดูมาแล้วจ้า สนุกดีรีวิวเลย เยี่ยมจริง (y)
ดูรายได้หนังเรื่องนี้ในไทย กับ รายได้ในอเมริกา คนละเรื่องกันเลย
ที่อเมริกาได้เงินถล่มทลาย แต่ในไทยกลับรายได้เล็กๆน้อยๆกว่าที่คิด
แต่ก็ไม่แปลกใจเท่าไหร่ เพราะคนไทยไม่ค่อยรู้จัก Leatherface เมื่อเทียบกับ เฟรดดี้ หรือ เจสัน
เพราะหนังชุด สิงหาสับ มันไม่ได้มีการสร้างแบบต่อเนื่อง เหมือนพวก เฟรดดี้ เจสัน (เว้นระยะแต่ละภาคนานมาก)
แถมตัว Leatherface ในแต่ละภาค ดันเป็นคนละตัวกันอีก ตัวละครเลยไม่ได้เป็นอมตะ เหมือนพวก เฟรดดี้ เจสัน
ภาค2 (1986) ภาค3 (1990) ภาค4 (1994) ก็ไม่ได้ฉายในไทย (ลงเป็นวีดีโอเลย)
ภาค1 (1974) คนก็จำไม่ได้แล้ว คนที่จำได้ก็แก่งั่กหมดแล้ว วัยรุ่นปัจจุบันได้ดูน้อย
พึ่งจะมีแค่ภาครีเมค (2003) กับ ภาคบีกินนิ่ง (2006) ที่ได้ฉายในไทย
ตรงข้ามกับพวกฝรั่ง ที่ผูกพันกับ Leatherface มากกว่าคนไทย เพราะเห็นหน้ากันตลอด
คนไทยเลยรู้สึกว่า สิงหาสับ คือหนังสยองอีกเรื่องนึง ที่ดูก็ได้ ไม่ดูก็ได้ เพราะไม่ได้ผูกพัน
หลังจากดู Texas Chainsaw 3D จบไป ก็รู้สึกว่า
1. ไม่เห็นจำเป็นต้องทำ 3D เลย
2. ธีมหลักของเรื่องเปลี่ยนไป ไม่ใช่แนวสยองไล่ฆ่า ที่ต้องเอาใจช่วยนางเอก
ซึ่งแบบนี้ เหมือนดาบสองคม คนที่ชอบก็จะชอบ คนที่เกลียดก็จะเกลียดไปเลย
3. ยังงงๆกับความรู้สึกตัวเอง ว่าควรรู้สึกยังไงกับตัวร้ายในเรื่อง
ควรจะเห็นใจฝ่ายไหนหว่า ควรเอาใจช่วยไหม หรือไม่ต้องก็ได้หว่า
กล่าวคือ มันดันเป็นการต่อสู้ของ "ความเลว" ปะทะ "ความชั่ว"
4. ภาคต้นฉบับ ฉันเห็นครอบครัวนี้มันมีกันอยู่แค่ 4 ตัว
แต่ฉากเปิดเรื่องของภาคนี้ มันโผล่มาจากไหนอีกยุบยับเลยวะ
5. มีคนดูหลายคนบ่น ว่าภาคนี้ไม่โหดเท่าไหร่ แต่ฉันกลับรู้สึกว่า นี่ก็โหดแล้วล่ะเธอ
คือ ถ้ามองในแง่หนังตระกูลสิงหาสับ มันก็โหดไม่มากไม่น้อยประมาณนี้แหละ ถูกต้องแล้ว
ไม่ควรเอามาเปรียบกับหนังสยองยุคปัจจุบันเรื่องอื่นๆ ที่โหดกันสุดชีวิต ฆ่ากันระเบิดเถิดเทิง
6. ขำประเด็นเรื่อง "สร้อยประจำตระกูล" แบบว่ามุขละึครไทยมาก
อุ้ย! ที่แท้เธอคือทายาทของบ้านทรายทอง ที่หายสาปสูญไปน่ะเอง
ที่อเมริกาได้เงินถล่มทลาย แต่ในไทยกลับรายได้เล็กๆน้อยๆกว่าที่คิด
แต่ก็ไม่แปลกใจเท่าไหร่ เพราะคนไทยไม่ค่อยรู้จัก Leatherface เมื่อเทียบกับ เฟรดดี้ หรือ เจสัน
เพราะหนังชุด สิงหาสับ มันไม่ได้มีการสร้างแบบต่อเนื่อง เหมือนพวก เฟรดดี้ เจสัน (เว้นระยะแต่ละภาคนานมาก)
แถมตัว Leatherface ในแต่ละภาค ดันเป็นคนละตัวกันอีก ตัวละครเลยไม่ได้เป็นอมตะ เหมือนพวก เฟรดดี้ เจสัน
ภาค2 (1986) ภาค3 (1990) ภาค4 (1994) ก็ไม่ได้ฉายในไทย (ลงเป็นวีดีโอเลย)
ภาค1 (1974) คนก็จำไม่ได้แล้ว คนที่จำได้ก็แก่งั่กหมดแล้ว วัยรุ่นปัจจุบันได้ดูน้อย
พึ่งจะมีแค่ภาครีเมค (2003) กับ ภาคบีกินนิ่ง (2006) ที่ได้ฉายในไทย
ตรงข้ามกับพวกฝรั่ง ที่ผูกพันกับ Leatherface มากกว่าคนไทย เพราะเห็นหน้ากันตลอด
คนไทยเลยรู้สึกว่า สิงหาสับ คือหนังสยองอีกเรื่องนึง ที่ดูก็ได้ ไม่ดูก็ได้ เพราะไม่ได้ผูกพัน
หลังจากดู Texas Chainsaw 3D จบไป ก็รู้สึกว่า
1. ไม่เห็นจำเป็นต้องทำ 3D เลย
2. ธีมหลักของเรื่องเปลี่ยนไป ไม่ใช่แนวสยองไล่ฆ่า ที่ต้องเอาใจช่วยนางเอก
ซึ่งแบบนี้ เหมือนดาบสองคม คนที่ชอบก็จะชอบ คนที่เกลียดก็จะเกลียดไปเลย
3. ยังงงๆกับความรู้สึกตัวเอง ว่าควรรู้สึกยังไงกับตัวร้ายในเรื่อง
ควรจะเห็นใจฝ่ายไหนหว่า ควรเอาใจช่วยไหม หรือไม่ต้องก็ได้หว่า
กล่าวคือ มันดันเป็นการต่อสู้ของ "ความเลว" ปะทะ "ความชั่ว"
4. ภาคต้นฉบับ ฉันเห็นครอบครัวนี้มันมีกันอยู่แค่ 4 ตัว
แต่ฉากเปิดเรื่องของภาคนี้ มันโผล่มาจากไหนอีกยุบยับเลยวะ
5. มีคนดูหลายคนบ่น ว่าภาคนี้ไม่โหดเท่าไหร่ แต่ฉันกลับรู้สึกว่า นี่ก็โหดแล้วล่ะเธอ
คือ ถ้ามองในแง่หนังตระกูลสิงหาสับ มันก็โหดไม่มากไม่น้อยประมาณนี้แหละ ถูกต้องแล้ว
ไม่ควรเอามาเปรียบกับหนังสยองยุคปัจจุบันเรื่องอื่นๆ ที่โหดกันสุดชีวิต ฆ่ากันระเบิดเถิดเทิง
6. ขำประเด็นเรื่อง "สร้อยประจำตระกูล" แบบว่ามุขละึครไทยมาก
อุ้ย! ที่แท้เธอคือทายาทของบ้านทรายทอง ที่หายสาปสูญไปน่ะเอง
แก้ไขล่าสุด: 18/1/2556 02:27 โดย demonbug1
ไม่ค่อยชอบเท่าตัวเก่านะ อันนี้ให้แค่ หกคะแนนเต็มสิบค่ะ
Function Used time : 0:00:00:00.014