เปิด 38 ฉากแห่งตำนานสะท้านขุมนรกหนังต้องสาป ( 8 สิงหาคม 2555 )

by samara17520 • วันพุธที่ 8 สิงหาคม พ.ศ. 2555 15:11
เปิด 38 ฉากแห่งตำนานสะท้านขุมนรกหนังต้องสาป ( 8 สิงหาคม 2555 )

******หมายเหตุ******
บทความชุดนี้ดัดแปลงจากงานเขียนชุด “ เปิด 19 ฉากแห่งตำนานสะท้านขุมนรกหนังต้องสาป ” และ “ ฉากแห่งตำนานสะท้านขุมนรกหนังต้องสาป / ฉบับเปิดดินแดนอันไร้แสงแห่งดวงตาวันสาดส่อง ” ใน “ เปิดกรุหนังต้องห้าม (Prohibited Films) ”


(อ่านบทความชุดเต็ม ////// เปิดกรุหนังต้องห้าม : Prohibited Films ////// http://www.siamsouth.com/smf/index.php?topic=19768.0 )


ณ ดินแดนหนึ่ง อ้างว้าง โดดเดี่ยว เศร้าหมอง
ระทมทุกข์ มีเพียงเสียงกรีดร้องอย่างยะเยือก
หนึ่งเหยื่อ รอวันปลดพันธนาการจากตรวนโซ่
หยาดหยดโลหิต แดงฉาน หลั่งไหล นองพื้น
ใครเพียงบางผู้ ยืนจดจ้อง แลมอง หวาดหวั่น
ประตูบานนั้น เปิดอ้า รอรับ………..สู่อเวจี


ณ ห้วงดินแดนอันเงียบสงบ ราบเรียบประหนึ่งทะเลคืนไร้คลื่นสาด
มุมมืดมิดยังคงสงัด ว้าเหว่ เดียวดาย เศร้าหมอง
แสงตาวันยังมิอาจผยองหยิ่ง สาดส่อง มายัง บ้านหลังนั้น ซึ่ง
มืด แสนมิดชิด ดำประดุจก้นเหว ไร้เสียง แสง กลิ่น รสเย้ายวน
หยาดหยดโลหิตแดงฉาน ไหลนอง หลั่งริน ณ แดนลับแล
ใครบางผู้กวักมือ ร้องเรียกหา เจ้าแกะน้อย เดินย่างเข้ามา
พลันประตูเปิดอ้า ท้าทาย ภายในมีเสียงดังแว่ว………..
ณ ที่นี้คือ อเวจี…………….…………………………..?

………………………………………………………………………………………………………………

ก่อนจะอ่านบทความชุดนี้แนะนำท่านผู้อ่านให้ไปหาหนังดังมีรายชื่อต่อไปนี้มาดูเสียก่อน หรือไม่ก็อ่านจนจบแล้วค่อยไปหามาดูทีหลังก็ได้ เพื่อท่านจะได้ไม่ต้องเกิดอาการงง (Funny games/1997, Hantu Puncak Datang Bulan, The Texas Chain Saw Massacre/1974, hostel, Schramm, Nek Romantik 2, Ichi the Killer, Irreversible, The Untold Story, Martyrs, Haute Tension, red room 2, Cannibal Holocaust/1980, Snuff 102, August Underground's Mordum, Guinea Pig : Devils Experiment, Guinea Pig : Flower of Flesh and Blood, Fando & Lis, Salo the 120 Days of Sodom ของ Pier Paolo Pasolini) และ ฯลฯ

นิยามความหมายเอาว่า “ฉากแห่งตำนานสะท้านขุมนรกหนังต้องห้ามสาป” ที่จะกล่าวกันในวาระต่อไปข้างหน้านี้ หมายถึง “ฉากในหนังสยองขวัญ/หนังติดเรต-อันตราย ฉากในหนังอันเป็นที่จดจำ ตรึงตาตรึงใจ รุนแรง วิปริต จิตตกแบบสุดขีด มักกระทำการเป็นครั้งแรก แปลกใหม่ ช็อคอารมณ์คนดูอย่างจัง และ/หรือเป็นที่กล่าวขวัญกันในหมู่นักดูหนังแนวเขย่าขวัญสั่นประสาทระดับตัวจริงเสียงจริง” โดยหลายๆฉากที่เป็นที่เล่าลือ กล่าวขานกัน นักดูหนังสยองระดับ Hardcore ยกยอปอปั้นให้เป็น “ฉากแห่งตำนานสะท้านขุมนรกหนังต้องสาป” นั้น เท่าที่ทราบมามีอยู่ประมาณ 38 ฉาก ดังต่อไปนี้


1. ฉากรีโมทนรก ในหนังเรื่อง Funny games ฉบับออริจินัลปี 1997 ของผู้กำกับ Michael Haneke : โจรร้าย สองคน(อ้วน-ผอม)ได้เข้ามาขอยืมไข่ไก่เพื่อนำไปปรุงเป็นอาหารมือเย็น สุดท้ายเผยธาตุแท้ออกมา จับครอบครัวอันแสนน่ารักครอบครัวนั้นไว้เป็นเครื่องเล่นบำเรอความสุขสนุกของตน ต่อมาครั้งสองโจรเผลอ นางเอกของเรื่องได้แย่งปืนลูกซองมายิงโจรอ้วนที่บุกเข้ามาภายในบ้านของเจ้าหล่อนตายไปอย่างสยดสยอง เลือดสาด และสะใจคนดูเป็นที่สุด ปรากฏเจ้าโจรผอมคู่หู หาสิ่งหนึ่งอย่างหน้าตาลนลาน รีโมททีวีนั่นเองที่เจ้าโจรผอมหาจนเจอ เลยกดซะเพื่อย้อนเวลากลับ ย้อนฉากไปก่อนหน้าที่เจ้าโจรอ้วนคู่หูจะถูกนางเอกยิงตาย รู้แล้วแหล่ะว่านางเอกของเรื่องจะใช้ปืนลูกซองยิงเพื่อนคู่หู แค่แย่งปืนมาให้ได้ก่อนเธอ แค่นี้ก็ไม่มีวันแพ้แล้ว……อย่าคิดนะว่าคุณธรรมจะอยู่ค้ำฟ้า ฉากนี้ล่ะที่ทำให้ใครหลายคนเหมือนตกอยู่ในขุมนรก แค้นผู้กำกับ Michael Haneke มาก



2. ฉากเซ็กส์ โป๊เปลือยวาบหวาน ตลกหยาบโล้น ในหนังเรื่อง Hantu Puncak Datang Bulan (ผีทับระดูแห่งปุนจัก)ในปี 2010 ของผู้กำกับ Steady Rimba จากประเทศอินโดนีเซีย ทุ่มทุนสร้างโดย K2K อินโดนีเซีย หนังเรื่องนี้มีดาราคุณภาพระดับแม่เหล็กอย่าง แอนดี โสรายา นำแสดง เนื่องจากหนังเรื่องนี้อุดมไปด้วยฉากเซ็กซ์ ตลกหยาบโล้นอย่างรุนแรง ทำให้องค์กรมุสลิมนาม Islamic Defenders Front (FPI) ประกาศก้องว่า “ถ้ายังมีโรงหนังไหนกล้าฉายหนังเรื่อง Hantu Puncak Datang Bulan พวกเขาจะบุกเข้าไปพังโรงหนังโรงนั้นให้ดู!!! ” แค่นี้ต้องห้ามและน่ากลัวพอรึยัง?

3. ฉากเชือดเหยื่อภายในบ้านอย่างสุดวิปริต และฉากควงเลื่อยไฟฟ้าของเลทเธอร์เฟซในตอนจบ ในหนังเรื่อง The Texas Chain Saw Massacre ปี 1974 (สิงหาสับ)ผลงานการกำกับของ Tobe Hooper ถือว่าได้สร้างความวิบัติแก่คนดูหนังแนวนี้อย่างแท้จริง ด้วยฉากการไล่ล่า ฆ่าอย่าวิปริตในหนัง(หลายฉากมาก) บวกการนำเสนอด้วยภาพของหนังในโทนสีที่ดูดิบ จึงเป็นเรื่องไม่ยากที่หนังเรื่องนี้เคยสร้างปรากฏการณ์ในปี 1974 ว่ามีคนดูอ้วกแตกคาโรงหนังมาแล้ว โดยเฉพาะฉากที่นางเอกถูกจับมัดคาเก้าอี้ ต้องทนดูครอบครัววิปริตนั่งรับประทานเนื้อคนกันอย่างเอร็ดอร่อย ฉากเหยื่อถูกหักคอจนหมุนได้รอบ ซึ่งโหดร้ายมาก(ในสมัยนั้นไม่มีใครกล้าทำฉากแบบนี้)หรือฉากจบที่เลทเธอร์เฟซควงควงเลื่อยไฟฟ้าไล่ล่าผู้หลบหนี นอกจากนี้จากการให้สัมภาษณ์ของผู้กำกับ Tobe Hooper เขาต้องการให้หนังเรื่องนี้ได้เรต PG (Parental Guidance)ซึ่งอนุญาตให้ทุกคนร่วมถึงเด็กๆเข้าชมได้……มันจะบ้ากันไปใหญ่แล้ว!!!


4. ฉากจบในห้องน้ำ ในเรื่อง Hostel (นรกรอชำแหละ ภาค 1-2)หนังสุดอื้อฉาวจากผลงานการกำกับของ Eli Roth อำนวยการสร้างและควบคุมดูแลโดย Quentin Tarantino นรกรอชำแหละเล่าเรื่องเกี่ยวกับการล่อลวงเหยื่อด้วยหญิงสาวสวยนางนกต่อ จนในที่สุดไปจบลงที่การชำแหละร่างของเหยื่อผู้เคราะห์ร้ายออกเป็นชิ้นๆอย่างวิปริตผิดมนุษย์ ณ โรงงานนรกแห่งหนึ่งในเมือง Bratislava ประเทศสาธารณรัฐสโลวัก ถ้าคุณรักในการฆ่า ชำแหละ Sadism และกระเป๋าหนักพอ มาสิ ฝันของคุณจะเป็นจริง หนังเรื่องนี้หลายฉากวิปริตมาก อาทิ ฉากที่หนุ่มใหญ่นายหนึ่งใช้มีดตัดชิ้นส่วนของเหยื่อผู้น่าสงสารมาตั้งไว้บนจานอาหารเคล้าเพลงคลาสสิค จากนั้นเขาก็เริ่มใช้มีดหั่นเจ้าสิ่งที่วางอยู่บนจานออกเป็นชิ้นๆพอคำ ใช้ส้อมจิ้มเอาเข้าปาก รับประทานอย่างเอร็ดอร่อย(Hostel 2) แต่ฉากในตำนานที่เป็นที่กล่าวขานของหนังเรื่องนี้อยู่ตรงนี้ต่างหากเล่า มันคือฉากจบของหนังเรื่องนี้ในภาคแรกนั่นเอง พระเอกของเรื่องหนีรอดมาได้และไปเจอกับชายแก่คนหนึ่งที่เป็นสมาชิกของลัทธิ “หมาล่าเนื้อ” เข้าในห้องน้ำชายสถานีรถไฟแห่งหนึ่ง ด้วยแรงไฟสุมแค้นอยู่ภายในอก พระเอกของเราจึงจับชายแก่คนดังกล่าวมาสะกำซะจนตายคาโถชักโครกอย่างสาสม ฉากนี้แหล่ะที่เล่นเอาซะจนคนดูหนังตกใจว่า ผู้กำกับกล้าให้ถ่ายทำกันถึงขนาดนี้เชียวหรือ(แต่ก็เชื่อว่ามีคนดูหลายคนแอบสะใจอยู่อย่างลึกๆเช่นกัน)


5. ฉากเอาค้อนและตะปูมาตอกจู๋ ในหนังเรื่อง Schramm (จิตวิปริต)ผลงานการกำกับของ Jörg Buttgereit ในปี 1993 ผู้กำกับนำเสนอโลก และการดำเนินชีวิตของฆาตกรโรคจิตคนหนึ่ง ที่มีโลกส่วนตัวค่อนข้างแปลกประหลาดและวิปริตมาก เริ่มตั้งแต่ทาสีบ้านอยู่พักใหญ่ เดินไปเดินมาจนคนดูชวนเวียนหัว มีอะไรๆกับตุ๊กตายาง และที่ถือเป็นฉากเด็ดเล่นเอาคุณผู้ชายที่ดูหนังเรื่องนี้ร้องซี๊ดดดดกันเป็นแถวก็คือ พ่อเจ้าพระคุณทูนหัว พอพี่แกเคลิ้มได้ที่ เลยไปหยิบเอาค้อนและตะปูมาอย่างละ 1 อย่าง ร่างคุณพี่ท่านที่เปลือยเปล่าล่อนจ้อนอยู่ภายในห้อง หยิบเจ้าน้องชาย(จู๋)ขึ้นมาวางพาดไว้บนขอบโต๊ะ ตะปูวางไว้ตรงกลางท่อนลำ แล้วค้อนก็ตอกลงไป หลายคน(คุณผู้ชาย)บอกเห็นฉากนี้แล้วอยากเป็นลม


6. ฉากการมีเพศสัมพันธ์แบบสุดวิปริตของนางเอกสาวกับชู้สุดหล่อ(ที่ไร้หัว) ในหนังเรื่อง Nek Romantik 2 (ศพ-ร่วม-รัก 2) หนังเยอรมันผลงานการกำกับของ Jörg Buttgereit ในปี 1991 หนังเล่าเรื่องเกี่ยวกับนางเอกที่ซึ่งเธอกำลังเกิดอาการเหงา-ขาดรัก จากคู่ชู้ชื่นที่จากไปอย่างไม่มีวันหวนกลับ คิดได้ดังนั้นแล้วเธอจึงบุกไปยังสุสาน แล้วขุดเอาร่างที่ไร้วิญญาณของอดีตสามีรักมาเล่นจ้ำจี้อย่างสนุกสนาน แต่ที่ถือเป็นฉากแห่งตำนานของหนังเรื่องนี้อย่างแท้จริงนั่นก็คือ ฉากที่นางเอกสาวของเรื่อง Monika(Monika M.)หลอกล่อให้ชายชู้สู่สวาทคนใหม่ของเธอ Mark(Mark Reeder)นักพากษ์หนังโป๊มาเล่นจ้ำจี้มะเขือเปาะกับเธอที่บ้านสองต่อสอง ก่อนที่เธอ(และเขา)จะมาร่วมมีอะไรกันภายในห้องนอน Monika แอบตัดศีรษะของสามีสุดรัก(คนก่อน)แอบไว้ใต้เตียงนอน สุดท้ายระหว่างที่ Monika และ Mark มีอะไรกันอยู่บนเตียงนั้นเอง สาวหน้าหวานอุปนิสัยสุดโหดของเราก็จัดการควงมีดสับลงไปที่ลำคอของคู่ขาอย่างจังจนคอขาดกระเด็ด เลือดละเลงไหลกระฉูดอย่างน่าเวทนา Monika เธอรีบนำหัวของสามีสุดรักคนก่อนที่แอบซ่อนไว้ขึ้นมาต่อเข้ากับร่างที่ไร้วิญญาณของ Mark และเล่นจ้ำจี้มะเขือเปาะต่ออย่างเป็นสุข……แค่นี้วิปริตพอรึยัง?

7. ฉากการทรมานยากูซ่าปากพล่อย ในหนังเรื่อง Ichi the Killer (นักฆ่าอิจิ) หนังญี่ปุ่นผลงานการกำกับของ Takashi Miike เจ้าพ่อหนังอาบเลือดแห่งเกาะญี่ปุ่น หนังออกฉายในปี 2001 ซึ่งในโรงหนังมีบริการแจกถุงสำหรับอ้วกทุกที่นั่ง(นัยว่าหากคนดูทนไม่ไหวสามารถอ้วกใส่ถุงได้ทันท่วงที) ส่วนฉากที่เป็นที่กล่าวขวัญกันนั้นก็คือ ฉากที่ Kakihara ไปจับยากูซ่าคนหนึ่งมาเค้นหาข้อมูลการหายตัวไปของหัวหน้าอันเป็นที่เคารพรักของตน(ความจริง Kakihara ติดใจในรสกามรมณ์ยามมีอะไรกับหัวหน้าแบบ Sadomasochism มากกว่า) ด้วยฉากอันเป็นที่เลื่องลือนี้เอง คนดูจะได้เห็น Kakihara ลงมือทรมานเหยื่อ เค้นความลับที่ต้องการด้วยวิธี จับเหยื่อแขวนไว้กับเส้นลวดโลหะที่มีปลายสำหรับเกี่ยวเนื้อหนังอย่างเจ็บปวด ใช้เหล็กแหลมทิ่มแทงไปตามร่างกายอย่างทุกข์ทรมาน สุดท้ายคือทีเด็ด เอาน้ำมันที่เหลือจากการทอดกุ้งเทมปุระมาเทราดลงบนหลังของเหยื่อผู้เคราะห์ร้ายอย่างโรคจิตสุดขั้ว นอกจากนี้ที่กล่าวขวัญกันอีกฉากในหนังเรื่องนี้ก็คือ “ฉากตัดลิ้น” ที่ Kakihara ใช้ของมีคมตัดลิ้นตัวเองจนขาดอย่างน่าหวาดเสียวสุดขีด


8. ฉากข่มขืนนางเอกอย่างสุดแสนวิปริต ในหนังเรื่อง Irreversible (กุหลาบขาวเปื้อนคาวเลือด)หนังฝรั่งเศสผลงานการกำกับของ Gaspar Noé ในปี 2002 กับฉากที่คนดูในโรงหนังอึดอัดจนทนแทบไม่ไหวต้องลุกเดินออกจากโรงอย่างคนเสียสติ เล่าลือกันว่าในการฉายหนังเรื่อง Irreversible ในปี 2002 ในช่วงแรกๆของการฉาย ฉากที่คนดูหลายๆคนทนรับไม่ได้เลยก็คือ ฉากที่นางเอกของเรื่องถูกหนุ่มเกย์ตามมาฉุดกระชาก ลากไปข่มขืนอย่างสุดแสนวิปริต ทารุณ เรียกว่าข่มขืนไปกระทืบไปก็คงไม่ผิด และที่สำคัญเธอกำลังตั้งท้องอ่อนๆกับพระเอกของเรื่องอยู่ด้วย ยิ่งสร้างความสงสารและเวทนาให้บังเกิดแก่ผู้ชมเป็นทวีคูณ ผู้กำกับหนัง Gaspar Noé เล่นถ่ายฉากนี้แบบ Long Shot แช่กล้องยาวนานนับสิบนาที มันเป็นภาพที่ชวนทุกข์เวทนาอย่างถึงที่สุดมากกว่าที่จะปลุกเร้าให้เกิดอารมณ์ทางด้านเพศ จนนักวิจารณ์ชั้นแนวหน้าหลายคนในประเทศฝรั่งเศสถึงกับให้ความเห็นอย่างรุนแรงต่อหนังเรื่องนี้ว่า “ไอ้คนที่มันสามารถทนดูหนังเรื่องนี้จนจบเเล้วมีความสุขได้นี่ มันต้องเป็นคนวิปริต-บ้าเต็มขั้นอย่างแน่นอนที่สุด”


9. ฉากฆ่าเด็ก รวมถึงฉากข่มขืนแล้วใช้ตะเกียบทั้งกำมือเสียบลงไปยังสามเหลี่ยมทองคำ คือฉากในตำนานของหนังเรื่อง The Untold Story ผลงานการกำกับของ Herman Yau Lai-To หนังออกฉายในปี 1993 ซาลาเปาเนื้อคน คือหนังฆาตกรรมสุดโหดของประเทศฮ่องกงที่เดี๋ยวนี้เข้าขั้นเป็นระดับหนังในตำนานไปแล้ว สร้างจากเรื่องจริงที่มีการฆาตกรรมแล้วชำแหล่ะเนื้อมนุษย์ผสมเข้าไปในซาลาเปาไส้หมู แล้วเอามาขายให้ลูกค้ารับประทาน กระแสของหนังเรื่องนี้แรงมากๆจนผู้คนในประเทศฮ่องกงหลายคนเลิกรับประทานซาลาเปาไปนานหลายเดือน ฉากแห่งตำนานของหนังเรื่องนี้ก็คือ ฉากที่ฆาตกรโหดจับเด็กตัวเล็กๆมาฆ่าโดยการสับคออย่างไร้ความปราณี(ปัจจุบันทางการฮ่องกงห้ามเด็ดขาด ไม่ให้มีการสร้างฉากแบบนี้แล้วเพราะผิดศีลธรรมอย่างร้ายแรง)ส่วนอีกฉากก็คือ ฉากที่ฆาตกรคลั่งลงมือข่มขืนเหยื่อแล้วใช้ตะเกียบทั้งกำมือ เสียบลงไปยังสามเหลี่ยมทองคำทุ่งหญ้านาผืนน้อย(ตรงนั้น)อย่างวิปริต


10. ฉากฆ่าล้างครัวอันแสนวิปริต ในหนังเรื่อง Martyrs (ศรัทธาอำมหิต)ของผู้กำกับ Pascal Laugier (ปาสกาล โอล์กิแยค์) หนังฝรั่งเศสในปี 2008 ที่สร้างกระแสเกรี้ยวกราดรุนแรงได้อย่างน่าสะพรึง หนังเปิดเรื่องแห่งกาลปฐมบทได้อย่างน่ารัก ด้วยภาพครอบครัวที่แสนจะอบอุ่น พ่อ แม่ ลูกชาย ลูกสาว พลันแสงสว่างแห่งความอบอุ่นหมดไป กลายกลับเป็นนรกที่มาเยือน กับฉากการฆ่าล้างครัวที่แสนอำมหิตแห่งตำนาน ผู้มาเยือนกับปืนลูกซอง กระสุนครบมือ ไล่ยิงสมาชิกในบ้านทีละคน ทีละคน ไม่รับฟังเสียงสวดอ้อนวอน เป็นฆาตกรรมด้วยกระสุนโหดล้างครัวอย่างวิปริตผิดมนุษย์ เป็นหนังทำร้ายจิตใจคนดู(เข้าขั้นรุนแรงมากๆ) หนังเสื่อม อันตราย จิตตก แต่ฆ่ากันอย่างมีเหตุผล และมีนัยแฝงเร้นอย่างศรัทธาบ้าคลั่ง หนังเรื่องนี้เคยฉายในเทศกาลหนังแห่งหนึ่ง ปรากฏว่าฉายไปได้เพียง 30 นาที……..คนดูเดินออกเกือบหมดโรง!!!


Replies (14)

#1samara17520 • 8/8/2555 15:12
11. ฉากควงปืนลูกซองไล่ยิงเด็กอายุ 5 ขวบ และฉากสังหารอันหฤโหดในห้องนอน ในหนังเรื่อง Haute Tension/Switchblade Romance (สับ สับ สับ) หนังฝรั่งเศสปี 2003 กำกับโดย Alexandre Aja เรื่องราวเกี่ยวกับฆาตรกรโรคจิต 2 บุคลิกที่ชื่นชอบการฆ่า หั่น เชือด ในประเทศฝรั่งเศส ที่มักออกล่าเหยื่อในยามค่ำคืนอย่างอำมหิต หนังเรื่องนี้ได้รับการกล่าวขานว่าโหดที่สุดตั้งแต่มีการสร้างหนังแนวเขย่าขวัญของประเทศฝรั่งเศสมาเลยทีเดียว หลายคนที่มีโอกาสได้ดูหนังเรื่องดังกล่าวนี้ยอมรับว่าไม่สามารถทนดูให้จบได้ ส่วนที่ถือเป็นตำนานของหนังเรื่องนี้ก็คือ ฉากที่ฆาตกรใจโฉดควงปืนลูกซองไล่ยิงเด็กชายอายุราว 5 ขวบในไร่ข้าวโพด ซึ่งเป็นฉากที่สะเทือนใจมาก ส่วนอีกฉากหนึ่งก็คือ ฉากที่แม่ของนางเอกถูกฆาตกรโหดเชือดด้วยมีดจนคอแทบหลุดออกมาจากบ่า เลือดไหลนองพื้นห้องนอน(เชื่อว่าหลายคนไม่กล้าดูฉากนี้)


12. ฉากซดอ้วกสดๆหนึ่งกะละมังใหญ่ ในหนังเรื่อง red room 2 (ห้องแดงมรณะ2/เกมวิปริตเปิดไพ่ราชา 2) หนังญี่ปุ่นผลงานการกำกับของ Daisuke Yamanouchi หนังปี 2008 เกี่ยวกับเวทีการแข่งขันในโลกใต้ดินในญี่ปุ่น ใครชนะจะได้เงินรางวัลมากมายเป็นสินล่อใจ ส่วนผู้แพ้ตายสถานเดียว การต่อสู้ในห้องสีแดงแคบๆพร้อมลูกกรง ให้เลือกไพ่สีเขียวขึ้นมา 1 ใบ ใครเป็น king ถือเป็นผู้กำหนดเกม ฝ่ายที่เป็นเบี้ยต้องทำตามคำสั่ทุกอย่าง โหด มันส์ ฮา มีหลายฉาก บางฉากก็เลือดสาดจนแทบไม่กล้ามอง ส่วนบางฉากก็แทบปิด TV ทิ้งเพื่อไม่ต้องทนดู โดยเฉพาะฉากแห่งตำนาน ฉากซดอ้วกสดๆ 1 กะละมังใหญ่ อ้วกที่เพื่อนคนข้างๆเพิ่งสำรอกออกมาสดๆ กล้าดื่ม-กิน หรือเปล่าล่ะ ถ้าไม่กินให้หมดในเวลา…..แพ้นะ!!!


13. ฉากฆ่าตะพานน้ำขนาดใหญ่เพื่อกินหัวใจแบบสดๆ และฉากการข่มขืน ฆ่าเสียบไม้ ในหนังเรื่อง Cannibal Holocaust (เปรตเดินดินกินเนื้อคน) ในปี 1980 หนังของ Ruggero Deodato ผู้กำกับหัวรุนแรงชาว Italy หนังเรื่องนี้สร้างกระแสอย่างเกรี้ยวกราดในการเปิดฉายรอบปฐมทัศน์ในหลายๆประเทศ กับฉากมุมมองผ่านกล้อง Home Video ของวัยรุ่นหนุ่มสาวอเมริกันชนกับการเดินทางเข้าไปถ่ายทำสารคดีป่ากินคน-ชนเผ่ากินคนในป่าอเมซอน ฉากที่เป็นที่กล่าวขานกันว่าช็อคคนดูทั่วโลกจนถึงกับมีคนตั้งคำถามขึ้นว่า “สิ่งที่พวกเขาได้เห็นอยู่ตรงหน้านี้ มันเป็นเพียงหนังหรือเรื่องจริง?” ส่วนฉากในตำนานของหนังเรื่องนี้ อันเป็นที่กล่าวขานกันในหลายประเทศ(รวมถึงในประเทศไทยด้วย)ว่ามันเป็นเรื่องจริง หรือเป็นเพียงเรื่องแหกตา ฉากนั้นก็คือ ฉากการฆ่าตะพาบน้ำขนาดใหญ่ ลากขึ้นมาจากในแม่น้ำ พลิกท้องแล้วทุบจนกระดองล่างแตกละเอียด เสร็จสรรพจึงควักหัวใจตะพาบน้ำออกมากินอย่างน่าสลดหดหู่ใจเป็นที่สุด(ฉากนี้ของจริงครับ) ส่วนอีกฉากในตำนานก็คือ ฉากที่หญิงสาวชาวป่าถูกหนุ่มชาวเมืองรุมข่มขืนและบันทึกภาพไว้เป็นวีดีโอ จากนั้นจึงฆ่าและพาร่างอันไร้วิญญาณมา เอาไม้ปลายแหลมเสียบเข้าทางปากมดลูกทะลุถึงปาก(ฉากนี้แหกตาครับ) อย่างไรก็ดีหลังจากหนังเรื่อง Cannibal Holocaust ออกฉายได้ไม่นาน Ruggero Deodato ถูกต่อต้านจากกลุ่มคนรักสัตว์และกลุ่มนักอนุรักษ์เป็นการใหญ่ในข้อหาทรมานสัตว์ และฆ่าสัตว์เพื่อถ่ายทำสารคดี

14. ฉากการฆาตกรรมวิปริตหญิงสาวสามนางอย่างบ้าคลั่งเพื่อใช้ถ่ายทำสนัฟฟ์ฟิลม์ ในหนังเรื่อง Snuff 102 (อเวจี 102) หนังจากประเทศอาร์เจนตินาในปี 2007 ผลงานการกำกับของ Mariano Peralta กับเรื่องราวการฆาตกรรม-ทรมานหญิงสาวทั้งสามนางอย่างบ้าคลั่งวิปริต เหยื่อรายที่ 100, 101 และ 102 ใครกันแน่ที่จะหลุดรอดจากอเวจีในครั้งนี้ หนังถ่ายทำด้วยภาพขาว-ดำ สลับกับภาพสีแบบดิบสุดขีด ช่วยสร้างบรรยากาศการรับชมหนังเรื่องนี้ให้คนดูแทบอ้วกแตกคาโรง ส่วนฉากที่กล่าวขานว่าเป็นตำนานแห่งหนังเรื่องนี้ได้แก่ ฉากที่ฆาตกรโหดกระทำการฆาตกรรมเหยื่อรายที่ 100 และ 101 อย่างโหดเหี้ยมแล้วอัดม้วนวีดีโอไว้ขายในตลาดมืด ไล่ตั้งแต่การฆาตกรรมหญิงท้องอย่างทรมาน บีบคอ ใช้สิ่วเหล็กและค้อนกระทุ้งซี่ฟันของเหยื่อจนหมดปาก และหั่น เฉือนอวัยวะที่ทำได้อย่างสมจริง ฉากการมีเพศสัมพันธ์กับศพอย่างวิปริตในตอนท้ายเรื่อง และ ฯลฯ เกินสุดที่จะพรรณนาออกมาเป็นคำพูดได้จบ สุดท้ายหนังเรื่องนี้ได้รับเกียรติให้ฉายในเทศกาลหนัง Mar del Plata International Film Festival 2007 ปรากฏว่าหลังจากหนังฉายไปได้เพียงไม่นานก็เกิดความโกลาหลขึ้นในเทศกาลหนังครั้งนั้นอย่างรุนแรง เมื่อฝูงชนเป็นจำนวนมากต่างวิ่งกรูกันเข้ามาเพื่อทำร้ายผู้กำกับหนัง เพราะเชื่อว่าฉากบางฉากในหนังเรื่องนี้ “เป็นของจริง”


15. ฉากเชือดคู่รักสาวเลสเบี้ยน ลงมือเชือดไป อ้วกใส่หน้า และจับอ้วกยัดใส่ปาก ในหนังเรื่อง August Underground ในภาค August Underground's Mordum (สิงหาคลั่ง) ในปี 2003 หนังของ Jerami Cruise, Fred Vogel และทีมงาน เรื่องราวในหนังเกี่ยวกับการฆาตกรรมในบ้านสุดวิปริตหลังหนึ่ง กับกลุ่มคนสามคน ชายสอง หญิงหนึ่ง และบทบาทการแสดงที่ชวนนรกแตก ฉากในตำนานที่เป็นที่กล่าวขานในหนังตอนนี้ก็คือ ฉากที่หนึ่งในสามตัวเอกของเรื่องคือสาว Cristie Whiles สาวโรคจิต ได้ทำการเชือดคู่รักเลสเบี้ยนคู่หนึ่งอย่างสุดวิปริต ทุบตี เอามีดมาเฉือน นอกจากนี้ยังใช้มือล้วงลงไปในลำคอของคนทั้งคู่(รวมทั้งของตนเอง)อ้วกออกมา แล้วเก็บตักก้อนอ้วกที่ออกมารวมกันนั้น แบ่งปันกันกินทั้งสามคนอย่างสนุกสนาน(พระเจ้าช่วย) ส่วนอีกฉากหนึ่งที่วิปริตไม่แพ้ฉากในตำนานก็คือ ตอนที่ตัวเอกในเรื่องอีกตัว(คราวนี้เป็นผู้ชายร่างเล็ก ไว้หนวดเครารุงรัง)ได้มีเพศสัมพันธุ์กับศพของหญิงสาวนางหนึ่ง โดยการจับน้องชายยัดเข้าไปตรงช่องท้องที่ถูกผ่าชำแหละเป็นรูพรุนอย่างน่าสยดสยอง ชายคนนี้กำลังมีความสุขแบบวิตถารเป็นที่สุด


16. ฉากใช้เหล็กแหลมจิ้มแทงจนทะลุลูกนัยน์ตาอย่างเหี้ยมโหด ในหนังเรื่อง Guinea Pig : Devils Experiment (ปีศาจ/ศิลปะแห่งมาร) หนังญี่ปุ่นปี 1985 ผลงานการกำกับของ Satoru Ogura เรื่องราวเกี่ยวกับการทดสอบถึงขีดจำกัดของมนุษย์ ว่าจะสามารถทานทนต่อความตายได้นานขนาดไหน องค์กรชั่วแห่งหนึ่งจึงจับหญิงสาวมากักขังไว้ พร้อมทรมานเธอต่างๆนานา ไล่ตั้งแต่ ซ้อมเธอจนกระอักเลือด ใช้คีมหนีบ บิด จนผิวหนังและกล้ามเนื้อบวมเป่ง หมุนเก้าอี้ที่เธอนั่งจนเกิดอาการงวยงง(หมุน 200 รอบ)ให้ฟังเสียงดนตรีที่ดังมากอยู่นานร่วม 5 ชั่วโมง ตัด-ดึง อวัยวะบางส่วนของร่างกายออกจากกันอย่างสยดสยอง จากนั้นใช้น้ำมันร้อนราดไปตามลำตัว แขน-ขา ทุบด้วยค้อนปอนด์ เฉือนสร้างบาดแผลตามร่างกายด้วยมีดที่คมกริบ สุดท้ายคือฉากในตำนาน ใช้เหล็กแหลมจิ้มแทงจนทะลุนัยน์ตาของเหยื่อผู้เคราะห์ร้ายอย่างบ้าคลั่งเหี้ยมโหด(หลายคนไม่สามารถทนดูฉากนี้ให้จบได้)


17. ฉากการฆาตกรรม และชำแหละร่างอันไร้สติของหญิงสาว ในหนังเรื่อง Guinea Pig : Flower of Flesh and Blood (ดอกไม้โลหิต/ดอกไม้เลือด/ดอกไม้แห่งเลือด) หนังญี่ปุ่นในปี 1985 ผลงานการกำกับของ Hideshi Hino เรื่องราวใน Guinea Pig : Flower of Flesh and Blood หรือภาค 2 ของหนังในตระกูล Guinea Pig เกี่ยวกับการใช้ยาสลบจับหญิงสาวนางหนึ่งมาชำแหละอย่างสยดสยอง ชายโรคจิตในชุดซามูไรสีดำ กับสถานที่พักพิงที่เปรียบประหนึ่งขุมนรกสำหรับผู้มาเยือน คอลเลคชั่นของสะสมส่วนตัวภายในตู้โชว์ ท่อนแขน ขา ศีรษะ เศษอวัยวะมนุษย์ถูกจัดแสดงอย่างสุดสยอง ฉากในตำนานคือ ตอนที่ซามูไรโรคจิตในชุดดำใช้ยาชาบางตัวฉีดเข้าไปในตัวของเหยื่อสาวแสนสวย เพื่อไม่ต้องมีความรู้สึกและขัดขืนขณะลงมือปฏิบัติการนรกแตก จากนั้นจึงกระทำการสับ หั่น ชำแหละเหยื่ออย่างวิปริตสุดขีดขณะที่เธอยังมีลมหายใจอยู่ และด้วยฉากการชำแหละเหยื่อในตำนานฉากนี้นี่เอง ทำให้หลายต่อหลายคนที่มีโอกาสได้ชมถึงกับหน้าถอดสี ตกตะลึง คิดว่ามันเป็นของจริง สมจริงซะจนดารา Hollywood Charlie Sheen ซึ่งได้มาดูเข้า และเชื่อว่าสิ่งที่ได้เห็นในหนังเป็นเรื่องจริง!!! เลยทำการวิ่งโร่ไปแจ้งความกับ FBI ตั้งทนายฟ้องร้อง เดินทางไปประเทศญี่ปุ่นแจ้งตำรวจจับกุมดำเนินคดีกับทีมงานผู้สร้าง จนในที่สุดพิสูจน์ได้ว่าเป็นเพียงหนังเรื่องหนึ่งที่สร้างได้สมจริงมาก(หน้าแหกกระจาย)กลายเป็นข่าวดังในหน้าหนังสือพิมพ์ไปหลายสัปดาห์ ผู้กำกับหนังเรื่องนี้ Hideshi Hino เเละทีมงานสร้างจึงรอดคุกไปเเบบฉิวเฉียด โดยหนังเรื่องนี้ได้เป็นแรงจูงใจให้ฆาตกรต่อเนื่องสุโตมุ มิยาซากิ กระทำการฆาตกรรมเหยื่อไปหลายราย ในญี่ปุ่นจึงจัดหนังเรื่องนี้เป็นหนังอันตรายและให้งดสร้างภาคต่อหนังเรื่องนี้โดยเด็ดขาด


18. ฉากวิปลาสเหนือจริงชวนสติแตก และเจ็บป่วยทางจิต ในหนังเรื่อง Fando & Lis (ฟันโด และลิส) ในปี 1968 ของผู้กำกับ Alejandro Jodorowsky เนื้อหาของหนังเรื่องนี้เกี่ยวกับการเดินทางของ Fando หนุ่มหน้าเด๋อ และ Lis สาวขาพิการ กับการเดินทางไปยังดินแดนที่มีชื่อว่า Tar หนังเรื่องนี้สร้างออกมาได้วิปลาส-วิปริต ดูแล้วชวนอาเจียนอ้วกแตก-เจ็บป่วยทางจิตเป็นที่สุด ฉากวิปริตในหนังเรื่องนี้ที่กล่าวขานในตำนาน อาทิ ฉากการกระแทกอารมณ์ของนักแสดงทั้งฟันโด และลิสเข้าใส่กันคล้ายอาการของคนเสียสติ ฉากกระเทยแต่งหญิงกับการแสดงอันแสนวิปริต(สมัยปี 1968 ไม่มีใครกล้าทำ) ฉากการทรมานหญิงสาวขาพิการด้วยการกระทืบ ฉุดกระชากลากเธอไปกับพื้นกรวดหยาบอย่างเจ็บปวดแสนสาหัส การเปลือยกายของนักแสดงในหนัง(ที่แสดงกันอย่างท้าทายสายตาผู้ชมสุดขีด) ฉากการข่มขืนแบบวิปริต-วิปลาส หนังเรื่องนี้ได้รับเกียรติให้ฉายในเทศกาลหนัง Acapulco ปี1968 ด้วย ปรากฏหลังจาก Fando & Lis ฉายยังไม่ทันจบ Alejandro Jodorowsky ผู้กำกับจอมวิปริตต้องรีบวิ่งหนีตายออกมาจากสถานที่จัดงานเพราะถูกกลุ่มคนดูหนังรุมทำร้าย ปาก้อนหินเข้าใส่ และเกือบถูกรุมกระทืบติดดิน(เคราะห์ดีที่ Alejandro Jodorowsky รีบวิ่ง และคลานหนีออกมาจากงาน วิ่งไปขึ้นรถได้ทัน) เล่าลือกันว่ามีกลุ่มคนดูเป็นจำนวนมากที่รับไม่ได้กับฉากบางฉากในหนังเรื่องนี้ เพราะเชื่อกันว่ามันเสื่อมศีลธรรมอย่างเข้าขั้นร้ายแรงบัดซบ หลังจากนั้นไม่นานหนังได้เข้าโรงฉายอยู่พักหนึ่ง ก่อนเกิดการแบนหนังเรื่องนี้ไปทั่วทั้งประเทศเพราะหนังไปขยี้หัวใจของคนดูเข้าอย่างแรง กลายเป็นหนังต้องห้ามที่กล่าวขานในตำนานอีกเรื่องหนึ่ง


19. ฉากกินขี้ ในหนังเรื่อง Salo the 120 Days of Sodom (สุขนาฏกรรมอเวจี/120 วันในโซดอม)หนังร่วมทุนสร้างระหว่างประเทศอิตาลี และฝรั่งเศส ผลงานการกำกับของ Pier Paolo Pasolini ผู้กำกับหนังเรื่องนี้ดัดแปลง-สร้างหนังมาจากบทนิยายอันลือลั่นต่อศีลธรรมของ มาร์กีส์ เดอ ซาด (Marquis De Sade Marquis De Sade) เรื่อง Les Cent-Vingt Journees De Sodome หรือ I' Ecole du libertinage (โรงเรียนของผู้รักอิสระ) เรื่องราวเกี่ยวกับเกมของผู้ทรงอำนาจ ณ บ้านหลังหนึ่งที่สมมุติว่าเป็นโลก กับหนุ่มสาวหน้าตาดีจำนวนหนึ่งที่จับมา การทรมานแบบวิปริตผิดมนุษย์จึงเริ่มเปิดฉากขึ้น Salo the 120 Days of Sodom (สุขนาฏกรรมอเวจี/120 วันในโซดอม) เล่าเรื่องเกี่ยวกับผู้ปกครองระบอบฟาสซิสต์นายทหารผู้เรืองอำนาจทั้ง 4 ได้ออกคำสั่งให้จับวัยรุ่นหญิง-ชาย ลูกชนชั้นกลางหน้าตาดี 18 คนมาคุมขังไว้ยังคฤหาสน์ใหญ่หลังหนึ่งที่เรียกชื่อว่า Salo ซึ่งมันก็คือโลกส่วนตัวของผู้ยิ่งใหญ่ทั้ง 4 ประหนึ่งวิมารหลังน้อยที่พวกเขาและเธอจะสามารถกระทำย่ำยีอย่างไรก็ได้กับบรรดาเหยื่อผู้เคราะห์ร้ายทั้งหลาย สร้างเป็นนรกในวงวนแห่งความหายนะทั้งสาม

ฉากในตำนาน ฉากกินขี้ใน “วงวนแห่งอุจจาระ” หรือ Circle of Shit ฉากเด่นอันแสนชวนอาเจียนในตอนนี้ก็คือฉากกินอุจจาระของผู้ปกครองระบอบฟาสซิสต์นายทหารผู้เรืองอำนาจทั้ง 4 เหยื่อวัยรุ่นหนุ่ม-สาว และบรรดานายทหารน้อยใหญ่ทั้งหลาย อุจจาระ(ขี้)ของเหยื่อถูกตักมาจากภาชนะรองรับ นำเข้ามาในครัวเพื่อทำอาหารเลี้ยงรับรองชั้นเลิศ ซึ่งฉากนี้เองถือเป็นฉากในตำนานของหนังเรื่อง Salo the 120 Days of Sodom ที่กล่าวขานกันไปทั้งโลกในเรื่องของความวิปริตแบบสุดขั้ว ปรากฏหลังจากหนังเรื่องนี้ออกฉายได้ไม่นาน Pier Paolo Pasolini ผู้กำกับถูกขู่ฆ่าจากคนที่เคร่งศาสนาศีลธรรม หนังสร้างความไม่พอใจเป็นวงกว้างไปทั่วโลก จนในที่สุด Pier Paolo Pasolini ถูกกลุ่มคนที่ไม่พอใจที่มีการสร้างหนังเรื่องนี้ฆ่าตาย(เชื่อว่าเป็นคนของกลุ่มนิยมฟาสซิสต์)ในวันที่ 2 พฤศจิกายน ปี ค.ศ.1975 ปิดชีวิตผู้กำกับจอมฉาวลงในที่สุด


20. ฉากกินสมองมนุษย์ ใน Hannibal / ฮันนิบาล (ปี 2001) ฉากนี้เองที่ ดร.ฮันนิบาล เลคเตอร์ ใช้มีดผ่ากะโหลกสมองของเหยื่อรายหนึ่งในห้องครัว หลังจากผ่าส่วนกะโหลกเสร็จ เปิดออกมา ปรากฏเป็นภาพมันสมองที่ไหลเยิ้มอยู่ภายในอย่างน่าสยดสยองพองขน ดร.ฮันนิบาล เลคเตอร์ หยิบ / ตักมันสมองเพียงส่วนหนึ่งออกมาใส่ในกระทะ บรรจงทอดด้วยไฟอ่อนๆ ตักเข้าปากเหยื่อ (ที่ถูกเล็มเนื้อสมองออกมา) กินอย่างเอร็ดอร่อยเป็นยิ่ง ฉากนี้เล่นเอาคนดูในโรงหนังหลายคนถึงกับเอามือปิดตาเพื่อไม่ต้องทนรับกับภาพชวนจิตตกดังกล่าว กลายเป็นฉากในตำนานอีกฉากหนึ่งที่กล่าวขานเล่าลือถึงความวิปริตตราบปัจจุบัน หนังในตระกูล Hannibal นี้เท่าที่ทราบสร้างมาจากหนังสือหน้าปกแดงทั้ง 3 เล่มอันได้แก่ Red Dragon, The Silence of the Lambs และ Hannibal (ต่อมาจึงมีการเขียนภาคต่อขึ้นเป็นภาคที่ 4 ให้เป็นตอนกำเนิดแห่ง ดร.ฮันนิบาล เลคเตอร์ ว่า Hannibal Rising)

อนึ่ง เชื่อว่า ดร.ฮันนิบาล เลคเตอร์ เป็นหนึ่งในกลุ่มคนที่ได้รับการขนานนามว่า Bad Blood ทั้งนี้ต่างเชื่อกันว่า ดร.ฮันนิบาล เลคเตอร์ มีบุคลิกแบบเดียวกับ ชาร์ลส์ โสภราช ซึ่งคนทั้งคู่มีบุคลิกแบบไซโคพาธิก (Psychopathic Personality) หรือบุคลิกต่อต้านสังคม / Antisocial ซึ่งแน่นอนว่าไม่ใช่วิกลจริต (ริชาร์ด เนวลิส และ จูลี่ คลาร์ก จากหนังสือ Bad Blood)

ความหมายเฉพาะ psychopathic personality; personality, antisocial, บุคลิกภาพต่อต้านสังคม (แพทยศาสตร์ 6 ส.ค. 2544)

ฟิลิปป์ พิเนล จิตแพทย์ผู้ปฏิวัติโรงพยาบาลโรคจิตในฝรั่งเศส เรียกกลุ่มผู้ป่วยบุคลิกร้ายๆ ซึ่งคงใกล้เคียงในแบบ ดร.ฮันนิบาล เลคเตอร์ (ปรากฏในหนัง) ว่า Manic Sans De’lire (1745-1826)

เจมส์ ปริชาร์ด เรียกคนกลุ่มพฤติกรรมแบบ ดร.ฮันนิบาล เลคเตอร์ ว่า “ผู้มีจิตป่วยในคุณธรรม” หรือ Moral Insanity ปัจจุบันทางจิตวิทยาเรียกพวกนี้ว่า “พวกต่อต้านสังคมและจิตใจเสื่อม” หรือ Antisocial Personality and Psychopathy จากการสำรวจกว้างๆในอเมริกา พบว่ามีชายร้อยละ 3 และหญิงร้อยละ 1 ของประชากรมีบุคลิกภาพต่อต้านสังคม (กิติกร มีทรัพย์ อ้างถึง เจมส์ ปริชาร์ด ใน ซีโนโฟเบีย กลัวคนแปลกหน้า / 2548)

กิติกร มีทรัพย์ แสดงทัศนะเกี่ยวกับบุคลิกของ ดร.ฮันนิบาล เลคเตอร์ และ ชาร์ลส์ โสภราช เอาไว้อย่างน่าสนใจว่า คือ พฤติกรรมฝ่าฝืนกฎหมาย ก้าวร้าวรุนแรง คดโกง สุรุ่ยสุร่าย หุนหันพลันแล่น โกหกเป็นไฟ กระทำการชั่วร้าย และโหดเหี้ยม ฆ่าเหยื่ออย่างเลือดเย็น มอมยา จุดไฟเผา และกดน้ำ ทั้งนี้โดยไม่มีความรู้สึกละอายต่อการกระทำของตน แล้งอารมณ์ทั้งทางบวกและทางลบ มีปฏิกิริยากับเหยื่ออย่างกับเหยื่อไร้ชีวิตจิตใจ มีท่าทีลีลาหล่อแบบฉาบฉวย เจ้าเล่ห์ กะล่อน ปฏิบัติต่อใครๆเพื่อหวังกำไรของตนเพียงฝ่ายเดียว โดยไม่คำนึงถึงหายนะผู้อื่น และไม่เคยเรียนรู้บทเรียนใดๆจากความผิดของตน (กิติกร มีทรัพย์ กล่าวถึง ชาร์ลส์ โสภราช ใน ซีโนโฟเบีย กลัวคนแปลกหน้า / 2548)

ดร.กุลยา ตันติผลาชีวะ กล่าวถึงพฤติกรรม Bad Blood เอาไว้ว่าในหนังสือชื่อ ทำไมเด็กก้าวร้าวรุนแรง ตอน ก้าวร้าวโดยกำเนิด สรุปความได้ว่า ความก้าวร้าวเป็นลักษณะของบุคลิกภาพที่เชื่อว่าติดตัวมาแต่กำเนิด คนโบราณเชื่อว่าเป็นสายพันธุ์ แต่ปัจจุบันยังค้นหาเชิงทฤษฎีว่า ทำไมจึงมีคนก้าวร้าวโดยกำเนิด ซึ่งลักษณะของความก้าวร้าวเป็นแบบควบคุมได้และควบคุมไม่ได้

กลุ่มที่ไม่สามารถควบคุมความก้าวร้าวของตนเองได้ จะสังเกตเห็นพฤติกรรมแบบง่ายๆ จากการพูดและการกระทำ ที่จะแสดงถึงอำนาจบาตรใหญ่มาโดยกำเนิด เช่น ชอบพูดข่มขู่ พูดก่อกวน ทำร้ายผู้อื่น โต้เถียง โกรธง่าย ไม่นับถือสิทธิผู้อื่น และชอบเอาเปรียบ กลุ่มพวกนี้พร้อมแสดงความก้าวร้าวทันทีที่มีสิ่งเร้ากระตุ้น

กลุ่มที่สองเป็นกลุ่มที่สามารถควบคุมความก้าวร้าวของตนเองได้ เมื่อมีสิ่งเร้ามากระตุ้น กลุ่มนี้จะไม่แสดงออกทันที แต่เก็บฝังความก้าวร้าวไว้ในจิตใจ เมื่อถึงวันดีคืนดี พวกนี้จะถ่ายความก้าวร้าวออกมาอย่างรุนแรงและโหดร้าย ประเภทเก็บกด เมื่อแสดงออกจะรุนแรงผิดปกติ

ความก้าวร้าวโดยกำเนิดนี้เชื่อว่าเป็นการถ่ายทอดทางยีน เมื่อมีโครโมโซมผิดปกติแล้วทำให้เกิดความก้าวร้าว โบราณเรียกว่า “เลือดชั่ว” ซึ่งจะติดตัวมาเสมอถ้าพ่อหรือแม่เป็นคนก้าวร้าวมาก่อน (ดร.กุลยา ตันติผลาชีวะ ในหนังสือชื่อ ทำไมเด็กก้าวร้าวรุนแรง 2551)

จากทัศนะของนักวิชาการดังกล่าวมาข้างต้นจึงอาจสรุปพฤติกรรมเเบบ ดร.ฮันนิบาล เลคเตอร์ ได้ว่ามีลักษณะเเบบเดียวกับ ชาร์ลส์ โสภราช หนึ่งในกลุ่มคนที่ได้รับการขนานนามว่า Bad Blood ผู้มีบุคลิกแบบไซโคพาธิก (Psychopathic Personality) หรือบุคลิกต่อต้านสังคม / Antisocial บ้างก็เรียกบุคลิกดังกล่าวว่า Manic Sans De’lire ปัจจุบันทางจิตวิทยาเรียกพวกนี้ว่า “พวกต่อต้านสังคมและจิตใจเสื่อม” หรือ Antisocial Personality and Psychopathy พฤติกรรม Bad Blood เป็นลักษณะความก้าวร้าวโดยกำเนิด โบราณเรียกว่า “เลือดชั่ว” ซึ่งจะติดตัวมาเสมอถ้าพ่อหรือแม่เป็นคนก้าวร้าวมาก่อน Bad Blood จะปฏิบัติต่อใครๆเพื่อหวังกำไรของตนเพียงฝ่ายเดียว โดยไม่คำนึงถึงหายนะผู้อื่น และไม่เคยเรียนรู้บทเรียนใดๆจากความผิดของตน (ผู้เขียนสรุปความจาก : ริชาร์ด เนวลิส และ จูลี่ คลาร์ก / แพทยศาสตร์ 6 ส.ค. 2544 / ฟิลิปป์ พิเนล / เจมส์ ปริชาร์ด / กิติกร มีทรัพย์ และ ดร.กุลยา ตันติผลาชีวะ)

#2samara17520 • 8/8/2555 15:13
21. การปรากฏกายครั้งแรกของมนุษย์ตะขาบและบางสิ่งที่กำลังหลั่งไหลมาสู่? (Human Centipede / 2009) เป็นฉากการปรากฏกายครั้งแรกของมนุษย์ตะขาบ ที่ถูกนายแพทย์วิปริต บ้า หมกมุ่นในเรื่องแฝดสยาม นำเอาเหยื่ออันเคราะห์ร้ายทั้ง 3 มายึดติดเข้าด้วยกัน(ปากเย็บติดรูทวารหนัก ต่อเข้ากัน 3 คน) หลังจากเหยื่อทั้ง 3 พื้นจากฤทธิ์ยาสลบ-ตื่นขึ้น ฝันร้ายของพวกเขา(เธอ)ก็เป็นจริงขึ้นมา ชมภาพบาดตาบาดใจชวนเจ็บปวดทรมานเป็นที่สุด กับฉากที่คนทั้งสามถูกพันธนาการร่างติดเข้าไว้ด้วยกัน กับของเสียของใครคนหนึ่งซึ่งกำลังถูกถ่ายโอนลงสู่ปากของใครอีก 2 คน……ช่างน่าสยดสยองชวนอ้วกแตกดีแท้ จนนักดูหนังหลายคนที่ทราบเรื่องย่อของหนังเรื่องนี้ ถึงกับเอ่ยปากเอาไว้ล่วงหน้าว่า “ไม่มีทางซะล่ะ ที่ผม/เธอ จะดูหนังเรื่องนี้ มันนรกชัดๆ” The Human Centipede หนังวิปลาสชวนอ้วกแตก ฉายครั้งแรกในปี 2009 ผลงานการกำกับและเขียนบทโดย Tom Six กับปรากฏการณ์วิปริตชวนอ้วกแตกที่จะกลายมาเป็นตำนานบทใหม่ประดับวงการหนังเขย่าขวัญ หมอโรคจิตผู้ลุ่มหลงในตำนานเเห่งแฝดสยามได้จับตัว 2 หญิงเเละ 2 ชาย(แต่ตายซะ 1 ก่อนเย็บเป็นตัวตะขาบ)มาทำการผ่าตัดนรกเพื่อให้คนกลุ่มดังกล่าว ช้ระบบย่อยอาหารร่วมกัน(ผ่าตัดเอาปากเย็บติดรูทวารหนักของอีกคนหนึ่งให้ติดกันทั้งสามคน) ทั้งสาม…….กำลังจะเจอนรกของจริง หนังเรื่องนี้หลังจากฉายไปได้ไม่นานในหลายประเทศ ปรากฏว่าเกิดเหตุการณ์ “ดูไม่จบ” เเละ “อ้วกเเตกคาโรง” มาแล้วมากมาย ซึ่งดูเหมือนว่าจะเป็นที่ถูกอกถูกใจของทางผู้กำกับเป็นอย่างมาก พร้อมเข็น The Human Centipede / full sequence (คนตะขาบวิปลาส / ฉบับเต็ม) ออกมาให้คนดูได้ยลโฉมกันในไม่ช้านี้ สานงานสุดวิปลาสชวนอ้วกแตก กับภาคต่อของ The Human Centipede สู่ The Human Centipede / full sequence ครั้งนี้เหยื่อมีจำนวนเพิ่มมากขึ้นถึง 2 เท่าตัว พร้อมมีข่าวลอยแว่วตามลมบนมาว่า ผู้ชมส่วนใหญ่เกิดอาการ “อ้วกแตก-ดูไม่จบ” รวมถึงหนังถูกแบนห้ามฉายไปแล้วในหลายประเทศทั่วโลก!!!



22. ฉากผ่าท้อง ในหนังเรื่อง Inside (ครรภ์-คลั่ง-ฆ่า) ฉากที่ได้รับการกล่าวขานกันว่าเป็นระดับ “ฉากแห่งตำนาน” จากหนังเรื่องนี้คือ จากจบ(ฉากผ่าท้อง) ตอนที่นางเอกถูกสาวชุดดำใช้กรรไกรผ่าท้อง เพื่อล้วงเอาลูกในครรภ์ของนางเอกออกมาเชยชม ฉากนี้เองที่หวาดเสียว วิปริต ชวนจิตตกเป็นยิ่ง Inside (ครรภ์-คลั่ง-ฆ่า) สาวชุดดำ กรรไกร และค่ำคืนอันแสนหฤโหด!!! คือหนังโหดของประเทศฝรั่งเศสที่ได้รับการกล่าวขานกันว่า “โหดที่สุดในรอบหลายปีที่ผ่านมา”รุนแรง โรคจิต ดิบ เถื่อน แหวะ บ้าคลั่ง ชวนจิตตกอ้วกแตก คือนิยามแห่งหนังเรื่องนี้ Inside ครรภ์ คลั่ง ฆ่า หนังที่เน้นเนื้อหาทั้งภาพและเสียงสุดรุนแรง ผู้ชมจะพบปรากฏการณ์เลือดสูบฉีดเร็ว หัวใจเต้นรัวเป็นกลองศึก ตื่นเต้นทุกอณูแห่งเนื้อหนัง Inside ผลงานการกำกับหนังเรื่องแรกในชีวิตของสองคู่หูผู้กำกับ Alexandre Bustillo เเละ Julien Maury หนังสยองสัญชาติฝรั่งเศส ความยาวประมาณ 112 นาที ออกฉายครั้งแรกในประเทศบ้านเกิดในวันที่ 13 มิถุนายน ปี ค.ศ.2007 คือหนังสยองขวัญสุดโหดที่มิใช่ขายพียงแค่ฉากสยองขวัญ แต่ยังมีเนื้อเรื่องที่ลึกซึ้ง เกี่ยวพัน จนนำมาซึ่งเหตุการณ์สุดวิปริตเขย่าโสตประสาทให้แตกกระเจิงขวัญหนีดีฝ่ออย่างชวนขนลุกขนพอง


23. ฉากการถ่ายทำหนังประเภท Snuff Film ด้วยการชำเราเหยื่อ สุดท้ายชำแหละร่างออกเป็นชิ้นๆทั้งเป็น!!! ในหนังเรื่อง Niku Daruma (ตุ๊กตาไม้ลอย/ตุ๊กตาคนเป็น) หนังแนว Snuff Film (แบบเทียม)ในปี 1998 เรื่องราวสุดสยองชวนสะเทือนใจใน Niku Daruma (ตุ๊กตาไม้ลอย)เริ่มจากกล้องแอบถ่ายตัวหนึ่งกำลังบันทึกภาพเคลื่อนไหวของทีมงานรับสมัครนักแสดงหนังแนว AV (AV หรือ Adult Video หมายถึง หนังโป๊/หนังผู้ใหญ่)ซึ่งทีมงานเองกำลังยุ่งอยู่กับการสัมภาษณ์นักแสดงชาย-หญิงเพื่อคัดเอามาเล่นหนัง ณ สถานที่แห่งหนึ่ง ปรากฏว่ามีชาย-หญิงคู่หนึ่งสอบผ่านและตอบตกลงรับเงินจากทางทีมงานเป็นที่เรียบร้อย ถึงกำหนดนัดหมายทั้งคู่และทีมงานจึงนั่งรถตู้ออกไปยังสถานที่ถ่ายทำ ณ บ้านหลังหนึ่งซึ่งตั้งอยู่ค่อนข้างห่างไกลผู้คน จวบจนทำความคุ้นเคยกันบนเตียงของคู่หนุ่มสาว หลายสิ่งหลายอย่างคงดำเนินไปอย่างราบรื่นเหมือนที่การถ่ายทำหนังแนวดังกล่าวพึงกระทำกัน กระทั้งการถ่ายทำช่วงหนึ่งนักแสดงชายต้องเล่นบทซาดิสต์ตามที่ผู้กำกับสั่ง คราวนี้ผิดคาดเมื่อนักแสดงหญิงไม่เล่นด้วย เพราะรับไม่ได้ที่ทางทีมงานจะเอาเข็มฉีดยาขนาดยักษ์ฉีดเข้าไปในอวัยวะบางส่วนของเจ้าหล่อน การถ่ายทำจึงมีอันยกเลิกไปพร้อมกับอาการหัวเสียแบบสุดขีดของทางทีมงานและผู้กำกับหนัง ระหว่างที่นางเอกของหนังเรื่องนี้ (Kanako Ooba)กำลังนั่งใส่รองเท้าอยู่ตรงบริเวณหน้าประตูทางเข้าบ้านนั้นเอง ผู้กำกับก็ทุบเธอจากข้างหลังด้วยไม้เบสบอลจนสลบ เลือดนองพื้น และลากนางเอกสาวดารา AV ผู้โชคร้ายของเราขึ้นไปยังชั้น 2 ของบ้าน ด้วยความกลัว(และอยากได้เงิน)นักแสดงชายคู่ขาจึงจำต้องยอมเล่นหนังตามที่ผู้กำกับจอมซาดิสต์สั่ง จวบจนวินาทีนรกแตกเดินย่างเข้ามาเยือน เมื่อทางผู้กำกับและทีมงานช่วยกันรุมทุบตี ฆ่านักแสดงทั้งสองทิ้งด้วยการหั่นทั้งคู่ออกเป็นชิ้นๆ โดยขณะกำลังฆ่าสองหนุ่ม-สาวผู้โชคร้ายพวกเขาได้ถ่ายเทปวีดีโอเก็บไว้เพื่อสำหรับขายในตลาดใต้ดิน ดำเนินการตามแบบฉบับของการสร้างหนังแนว Snuff Film แบบในตำนานอีกด้วย


24. ฉากที่ตัวเอกในเรื่อง In My Skin (แล่เนื้อเถือหนัง) กระทำการชำเราตนเองจนร่างพรุนอย่างน่าหวาดเสียวที่สุด จากหนังเรื่อง In My Skin / 2002 (แล่เนื้อเถือหนัง) เล่าลือกันว่านี่คือหนังแนว มาโซคิสม์ (Masochism)ที่ดีที่สุดในโลก เรื่องราวเกี่ยวกับสาวผมดกดำหน้าตาแปลก Esther สาวสังคมผู้มีฐานะทางการเงินและหน้าที่ทางการงานค่อนข้างมั่นคง มีหน้ามีตาในวงสังคม การงานที่ทำอยู่กับบริษัทโฆษณาประชาสัมพันธ์บริษัทใหญ่แห่งหนึ่งกำลังไปได้สวย ใกล้จะได้เลื่อนขั้นเป็นระดับหัวหน้างาน ชีวิตครอบครัว Esther มีแฟนหนุ่มหล่อ มาดแมนนามว่า Vincent คอยเป็นห่วงเป็นใยเฝ้าดูแลอยู่ไม่ห่าง เรียกว่า Esther เธอเป็นผู้หญิงที่มีพร้อมเสียทุกอย่างจนใครหลายคนแอบอิจฉา จวบจนมีจุดผกผันในชีวิตของเธออย่างแรง ทำให้เธอเปลี่ยนไปจนยากที่จะเป็น Esther คนเดิมได้ คงเป็นเพียงมีดปอกผลไม้เล่มหนึ่งที่ใช้ทิ่มแทงฝ่ามือของฉันอย่างเชื่องช้า ฉันเฝ้ามองดูเลือดไหลหลั่งออกจากร่างอย่างแสนเจ็บปวดทรมาน แววตาหม่นหมองเศร้าสร้อย แต่แฝงเร้นไปด้วยประกายแห่งความเปี่ยมสุข เมื่อฉันขบ กัด ฉีก เฉือน ขยี้ ชำเราจนร่างพรุน ฉันมีความสุขอย่างเหลือล้นประหนึ่งลอยล่องสู่สรวงสวรรค์ชั้นฟากฟ้าก็มิปาน ริมฝีปากสะแหยะยิ้มรับ เบิกบาน แช่มชื่น เลือดไหลโชกตัว มาสิ……มามีความสุขด้วยกัน


25. ฉากความเจ็บป่วยทางจิตแบบสุดขั้ว / รูปแบบต่างๆใน Visitor Q (ครอบครัวโรคจิต) เรื่องราวใน Visitor Q หรือครอบครัวโรคจิต เกี่ยวกับการดำเนินชีวิตประจำวันแบบอปกติของครอบครัวๆหนึ่งในประเทศญี่ปุ่น ประกอบไปด้วย พ่อ-แม่-ลูกสาว-ลูกชาย ทั้ง 4 ดำเนินชีวิตที่แสนวิปริต-เจ็บป่วยทางจิต (เจ็บป่วยทางจิตเข้าขั้นรุนแรง) จนอยู่มาวันหนึ่งเหตุการณ์เปลี่ยนไปเมื่อมีผู้มาเยือนปริศนา ชายหนุ่มชื่อ Q ผู้มีเสน่ห์และแรงดึงดูดอย่างแปลกประหลาด พ่อ (Ken'ichi Endô) มีอุปนิสัยขี้ขลาด หัวหน้าครอบครัวที่มีอาชีพเป็นนักถ่ายทำรายการสารคดีเกี่ยวกับชีวิตวัยรุ่น วันๆบ้าแต่งาน ทำงานจนลืมครอบครัว แม่ (Shungiku Uchida) เป็นแม่บ้านในครอบครัวนี้ อุปนิสัยเป็นคนเงียบๆ ไม่ค่อยพูดค่อยจา บางวันถูกลูกชายซ้อมจนเลือดอาบ จึงต้องหาทางระบายด้วยการออกไปขายบริการทางเพศในเวลากลางวันเพื่อนำเงินมาซื้อยาเสพติด(เฮโรอีน)เสพให้หลุดพ้นจากโลกที่เป็นอยู่ ลูกสาว (Fujiko) มีนิสัยชอบเที่ยวกลางคืน เมื่อต้องการเงินใช้ เธอจึงออกมาขายบริการทางเพศให้แก่ทุกๆคนที่เธอเจอ ไม่เว้นแม้กระทั่งพ่อบังเกิดเกล้าของตัวเอง เเละลูกชาย (Jun Mutô) เด็กนักเรียนโรงเรียนแห่งหนึ่งมีนิสัยค่อนข้างเก็บตัว อ่อนแอ จึงมักถูกเพื่อนๆที่โรงเรียนกลั่นแกล้งอยู่เป็นประจำ เมื่อกลับถึงบ้านในตอนเย็นจึงมาลงที่การซ้อมแม่ของตัวเองเป็นการระบายแค้น


26. ฉากตัดอวัยวะตัวเองเพื่อหลุดพ้นจากพันธนาการแห่งกับดักของจอมวายร้ายจิ๊กซอ จากหนังเรื่อง Saw เกม ตัด ต่อ ตาย (ภาคแรก) เป็นฉากเปิดเรื่องที่เหยื่อทั้งหลายตื่นขึ้นมาจากฤทธิ์ยาสลบ และพบว่าตนเองถูกพันธนาการร่างกายไว้ด้วยโซ่ล่ามขนาดใหญ่ พร้อมรอเวลาที่กับดักมรณะเตรียมทำงาน พวกเขา(เธอ)ต้องแลกชีวิตกับอวัยวะบางส่วนเพื่อความอยู่รอด กล้าหรือเปล่าล่ะ? ที่จะหยิบเลื่อยขนาดเหมาะมือมาเลื่อยขา-มือ ของตนเอง เป็นฉากหวาดเสียงที่ทำให้ใครหลายคนที่ได้ดูหนังเรื่องนี้ถึงกับยอมหลับตา เพื่อไม่ต้องทนเห็นสิ่งที่ปรากฏในหนัง Saw เกม ตัด ต่อ ตาย ผลงานการกำกับของ James Wan ในปี 2004 ร่วมเขียนบทโดย Leigh Whannell เเละ James Wan


27. ฉากกรีดหน้าแล้วเอาเกลือโรยลงไปในซอกแผลของเหยื่ออย่างแสนเจ็บปวด คือฉากการโชว์วิปริตจากหนังเรื่อง Invitation Only (โชว์สยองสนองซาดิสม์) สำหรับฉากที่ได้รับการกล่าวขานกันในหนังเรื่องนี้ที่สุดก็คือ ฉากที่ตัวแสดงเอกคนหนึ่ง(ผู้หญิง)ถูกจับขึ้นสู่เวทีการโชว์วิปริต และวินาทีอำมหิตก็มาเยือนเมื่อชายหนุ่มร่างกำยำใช้มีดกรีดใบหน้าของเหยื่อสาวช้าๆ จนปรากฏแผล-เลือดไหลนองพื้น จากนั้นจึงใช้เกลือโรยลงไปเพื่อให้เหยื่อได้รับความเจ็บปวดทรมานเป็นที่สุด เสียงหวีดร้องด้วยความเจ็บปวดอย่างสาหัส คือความบันเทิงเริงใจของผู้ชม ณ สถานที่แห่งนี้กระมัง? Invitation Only หนังโหดจากประเทศไต้หวันในปี 2009 ของผู้กำกับ Kevin Ko บทหนังโดย Kevin Ko เเละ Carolyn Lin เป็นหนังสยองขวัญเรื่องแรกของเจ้าแม่หนัง AV มิยาบิ เกี่ยวกับเกมโชว์ ณ สถานที่ลับแห่งหนึ่งที่ผู้เข้าร่วมเกมโชว์ดังกล่าวต้องแลกการแสดงด้วยชีวิต เรื่องนี้มีฉากอาบเลือดเยอะมากๆ


28. ฉากข่มขืนเด็กทารกแรกเกิดอย่างสุดวิตถาร ในหนังเรื่อง A Serbian Film (2010) เป็นฉากที่ Milos ตัวเอกในเรื่องเดินทางเพื่อเข้าไปเจรจาเกี่ยวกับการแสดงหนังใต้ดินเรื่องหนึ่งที่บ้านบิ๊กบอสผู้กำกับ ผู้กำกับจึงชวน Milos ดูหนังในแนวทางที่จะสร้าง เป็นฉากที่เคยถ่ายมาก่อนแล้ว ทั้ง 2 กำลังนั่งดูฉากๆหนึ่งที่กล่าวขานกันว่าเป็น “ฉากแห่งตำนาน” กล่าวคือ ชายร่างใหญ่ หัวล้าน กำลังทำคลอดให้หญิงสาวท้องแก่รายหนึ่ง พอเอาตัวเอกทารกเพศหญิงออกมาจากครรภ์มารดาได้ ชายสติแตก (คนดังกล่าว) ก็จัดการสำเร็จโทษทารกน้อยอย่างสุดวิปริตท่างกลางเสียงเชียร์ของผู้เป็นมารดาอย่างบ้าคลั่ง A Serbian Film (2010) หนังสัญชาติเซอร์เบีย เกี่ยวกับคนชื่อ Milos ซึ่งกำลังประสบกับปัญหาทางด้านการเงินอย่างรุนแรง กับการชักชวนของกลุ่มคนลึกลับให้มาเล่นหนังอาร์ตเพื่อเงินก้อนโต โดย Milos หารู้ไม่ว่าหนังเรื่องที่รับเล่นคือ Snuff Film สุดอันตราย กระชากจิตทางด้านมืดแบบสุดกู่ เสื่อม จิตตก อันตราย ปลุกสัญชาตญาณดิบในตัวให้ลุกโชตช่วง (หนังอันตราย : ไม่เหมาะสำหรับคนจิตอ่อนหรือเชื่อมั่นยึดมั่นทางศีลธรรมอย่างแรงกล้า)


29. ฉากการตอนผู้ชายของสาว Hayley Stark ใน Hard Candy / 2005 (ใช้ชื่อภาคภาษาไทยว่า : กับดักลวงเลือด / อย่าไว้ใจทางอย่าวางใจเด็ก) ฉากนี้เองที่ Hayley Stark (รับบทโดย Ellen Page)ทำการตอนหนุ่มใหญ่นาม Jeff Kohlver (รับบทโดย Patrick Wilson) หนุ่มใหญ่จอมล่าเด็กสาวอายุน้อยๆ(โลลิ) คุณผู้ชายหลายคนที่ได้ดูมาจนถึงฉากนี้คงรู้สึกอึดอัด ทรมาน และอยากขอให้ผ่านฉากดังกล่าวไปโดยไว


30. ฉากที่ Divine กินขี้หมาใน Pink Flamingo ของผู้กำกับ / และเขียนบทหนังโดย John Water ในปี 1972 ซึ่งฉากนี้เองทำเอาคนดูหนังถึงกับอ้วกแตกคาโรงมาแล้ว เป็นการถ่ายแบบ Long Shot ที่ทำร้ายจิตใจคนดูได้อย่างเป็นเลิศ นำพาความวิบัติแบบสุดขั้วมาสู่กลุ่มผู้ชมอย่างถึงพริกถึงขิง เรียกว่าดูแล้วต้องจำไปจนวันตายก็มิปาน Pink Flamingo เล่าเรื่องเกี่ยวกับชีวิตของสาว (ไซส์ใหญ่)นาม Divine กับครอบครัวสุดป่วนคือ คุณแม่ของเธอ(หญิงร่างยักษ์ในชุดชั้นในนอนในเปลเด็กทารก) เจ้าคุกกี้ส์ลูกชายสุดเพี้ยน และค็อตต้อนเพื่อนสาวร่างผอมจอมแสบ-ซ่าส์ ทั้งหมดได้ย้ายเข้ามาสู่อ้อมกอดของบ้านสีชมพูสีสุดแปร๋น มีรูปปั้นนก Flamingo เด่นสง่าอยู่ตรงหน้าบ้าน พร้อมเรื่องราวสุดเพี้ยน ถ่อย ไร้ศีลธรรมแบบหลุดโลก หนังเรื่องนี้ได้นักแสดงคุณภาพเยอะมาก(คุณภาพประเภทหลุดโลก) อาทิเช่น Divine, David Lochary, Mary Vivian Pearce, Mink Stole, Danny Mills, Edith Massey, Channing Wilroy, Cookie Mueller เเละ Paul Swift

#3samara17520 • 8/8/2555 15:13
31. ฉากสาวน้อยหน้าใส-ปีกนางฟ้า และกล่องแห่งความลับสีม่วงอันแสนงดงาม จากหนังAction-Drama-Thriller เรื่อง Oldboy / 2003 (เคลียร์บัญชีแค้นจิตโหด) หนังเกาหลีจิตตกผลงานของผู้กำกับ Chan-wook Park ทุกสิ่งทุกอย่างอันน่าสะพรึง ตั้งแต่ต้นจนจบ จะถูกเปิดเผยออกมา ณ จุดนี้ สาวน้อยหน้าใส-ปีกนางฟ้า และกล่องแห่งความลับ……ที่ซึ่งซ่อนงำความวิปริตบางอย่างเก็บไว้แต่ครั้งอดีต ผู้เปิดออกดูอาจเป็นบ้าได้ !!! (รับประกันอาการจิตตก)



32. ฉากพระเอกในเรื่อง THE MIST (2007) ฆ่าครอบครัวด้วยปืนอย่างสุดสยดสยอง THE MIST (2007) หรือมฤตยูหมอกกินมนุษย์ หนังของ Frank Darabont ซึ่งดัดเเปลงมาจากงานเขียนของ Stephen King เกี่ยวกับเมืองๆหนึ่งที่โดนจู่โจมโดยหมอกมรณะกินคนเป็นอาหาร กับฉากการไล่ล่า-หลบหนีของพระเอกและครอบครัว ในรถยนต์คันหนึ่งที่ซึ่งมีเสียงประหลาดกำลังใกล้เข้ามาอย่างช้าๆ เมื่อจนตรอก พระเอกตัดสินใจที่จะปลิดชีวิตคนในครอบครัวด้วยน้ำมือตนเอง…..คงจะดีกว่าถูกสัตว์ร้ายในม่านหมอกรุมกัดแทะกินอย่างทรมาน ปัง ปัง ปัง….เสียงปืนสงบลง ทุกคนในรถตายหมดสิ้น ยกเว้นพระเอกที่กำลังจะฆ่าตัวตายตามครอบครัวไป พลันเห็นที่มาของเสียงประหลาด มันคือเสียงจากรถถัง และรถหุ้มเกราะของทหารที่กำลังกรีฑาทัพเข้าช่วยพลเมืองผู้รอดชีวิตในเมืองแห่งนั้นนั่งเอง……หัวใจพระเอกแทบแตกสลาย และจิตตกพร้อมหนังที่จบลงอย่างเชื่อช้า


33. ฉากการทดลองทางการทหาร “จับแมลงสาบยัดใส่จิ๋ม” ในหนังเรื่อง Philosophy of a Knife (ค่ายนรกนานกิง) หนังปี 2008 ของผู้กำกับ Andrey Iskanov เรื่องราวถอดแบบมาจาก Men Behind The Sun เพราะโครงเรื่องเดียวกัน ตัวหนังเกี่ยวกับการทดลองทางวิทยาศาสตร์กับนักโทษในสมรภูมินานกิงของหน่วยปฏิบัติการ 731 นำเสนอข้อเท็จจริงและหลักฐานที่ไม่เคยเปิดเผยที่ไหนมาก่อน ตื่นตะลึงกับความโหดร้ายของมนุษย์ รุนแรง บาดใจ จนใครหลายคนไม่กล้าดู ซึ่งในหนังเรื่องนี้แผ่นแรกตอนช่วงท้าย ( 2 DVD) เป็นฉากทหารญี่ปุ่นจับเชลยสาวชาวรัสเซียมาทรมานและทดลองทางการทหารด้วยการนำแมลงสาบขนาดยักษ์(ที่น่าจะมีพิษร้ายแรง)จัดยัดใส่เข้าไปในจิ๋มของสาวสวยจากแดนหมีขาวแล้วปิดปากถ้ำปล่อยให้แมลงสาบนรกวิ่งชอนไชไปมาภายในร่างของสาวน้อยอย่างชวนสยดสยองเป็นยิ่ง


34. ฉากฆ่าเด็กใน Man Bites Dog (1992) Man Bites Dog หนังภาพขาว-ดำปี 1992 ผลงานการกำกับของ Rémy Belvaux, André Bonzel และทีมงาน เรื่องราวการดำเนินชีวิตตามปกติของนักฆ่าคนหนึ่งที่ถูกถ่ายทำเป็นหนังขาว-ดำกึ่งสารคดีโดยทีมงานที่ใจถึงแบบสุดสุด ดูการกระทำเลวทราม(แบบสุดขีด)และไร้ซึ่งศีลธรรมของตัวเองในเรื่อง ยิง ปล้น ฆ่า ข่มขืน ครบ กับฉากจบที่ทุกคนเฝ้ารอคอย หนังเรื่องนี้ ได้รับการกล่าวขวัญในหมู่นักดูหนังแนวนอกกระแสนิยมความรุนแรงว่า Man Bites Dog เป็นหนังที่มีดีกรีความถ่อย ดิบ และท้าทายต่อหลักศีลธรรมสูงจนน่าตกใจ สมจริงด้วยภาพเเละเสียงในระดับแถวหน้าเรื่องหนึ่งในโลก โดยในหนังเรื่องนี้มีฉากหนึ่งที่ติดตาตรึงใจผู้ชมอย่างมิรู้ลืมคือ ฉากที่ตัวเอก Ben (Benoît Poelvoorde) บุกบ้านของครอบครัวๆหนึ่ง ฆ่าสาวใหญ่เจ้าของบ้าน หักคอสามีของสาวใหญ่นางนั้นในห้องอาบน้ำ และไล่จับเด็กชาย(ลูกของสองสามี-ภรรยา)มาเพื่อฆ่าทิ้งโดยการใช้หมอนปิดหน้าเพื่อให้ขาดอากาศหายใจตายลงไปต่อหน้า ฉากนี้เองที่ทำให้นักดูหนังหลายคนถึงกับส่ายหน้า-จิตตกมาแล้วนับไม่ถ้วน


35. ฉากหมาเห่า และพฤติกรรมการล้างสมองแบบสุดขั้วภายในอาณาบริเวณ ณ บ้านหลังหนึ่งในหนังเรื่อง DOGTOOTH / 2009 ผลงานการกำกับของ Giorgos Lanthimos หนังเล่าเรื่องเกี่ยวกับสภาพความเป็นอยู่ของครอบครัวสุดแปลกแยกครอบครัวหนึ่งในสังคมกรีกชน ประกอบไปด้วยพ่อ-แม่(วัยผู้ใหญ่อายุราว 45-55 ปี) และลูกๆอีก 3 คน(พี่สาว, น้องชาย รวมถึงน้องสาวคนสุดท้อง / อายุทั้งสามน่าจะไล่เลี่ยกันที่ 20 ต้นๆ) ด้วย Character ของพ่อที่โดดเด่นสามารถขีดสร้างอำนาจสำแดงการตัดสินใจในทุกๆเรื่อง และทุกๆคนในครอบครัวก็ต้องเข้าใจรวมถึงปฏิบัติตามในสิ่งที่พ่อสั่งอย่างเคร่งครัด พ่อสร้างบ้านหลังน้อยของตนเองให้กลายเป็นวิมานใน Control ของตนอย่าสมบูรณ์ รวมทั้งสร้างกรอบ-กฎขึ้นมาดั่งใจปรารถนา ภรรยา-แม่ของลูกๆถูกขีดกรอบให้อยู่อาศัยแต่ในบริเวณบ้านห้ามออกไปไหนนอกบริเวณจนกว่าจะได้รับคำสั่ง ลูกๆทั้งสามถูกขีดเส้นให้มีชีวิตอยู่แต่ภายในรั้วบ้านหลังน้อย โดยมีพ่อและแม่เป็นผู้กรอกข่าวสารฝังหัวทั้งสามว่า “ข้างนอกมีแต่อันตราย สิ่งต่างๆล้วนอันตราย จงเชื่อฟังผู้ปกครองแล้วจะมีชีวิตอยู่อย่างปลอดภัย”
ครั้งหนึ่งลูกชายคนกลางที่กำลังวิ่งเล่นอยู่ในสวนหลังบ้านและพบแขกแปลกหน้าผู้มาเยือนเป็นแมวบ้านหน้าตาน่ารักน่าเอ็นดู ด้วยความที่สามพี่น้องถูกหัวหน้าครอบครัวเลี้ยงดูแบบกักบริเวณมาทั้งชีวิต เด็กหนุ่มอายุ 20 ต้นๆในชีวิตไม่เคยพบเจอแมวมาก่อน พี่สาวและน้องสาวต่างวิ่งเข้าไปอยู่ในบ้าน กอดกันตัวสั่นเพราะไม่เคยเจอแมว คิดว่าสิ่งมีชีวิตตนนี้มีอันตรายอย่างใหญ่หลวงกับชีวิต น้องชายใช้มีดตัดหญ้าฆ่าแมวน้อยตายคาสนามหญ้าหน้าบ้านด้วยความหวาดกลัวว่า “แมวคือศัตรู” ผู้เป็นพ่อเมื่อรู้ว่าบุตรชายคนกลางฆ่าแมวในสนามหญ้าหน้าบ้านตายอย่าชวนสยดสยองจึงรีบขับรถกลับจากสถานที่ทำงาน ถึงบ้านก็เอาน้ำแดงราดตัวแล้วบอกกับลูกๆทั้งสามว่า “พี่ชายคนที่พ่อขับไล่ออกไปจากบ้านเพราะไม่เชื่อฟังคำสั่งของพ่อนั้น บัดนี้ได้ถูกแมวฆ่าตายที่หน้าบ้านเสียแล้ว เลือดของพี่ชายลูกเลอะเต็มตัวพ่อ พ่อพยายามแล้วแต่ช่วยพี่ของลูกๆไว้ไม่ทัน เพราะฉะนั้นลูกๆทั้งสามต้องเรียนรู้ที่จะสู้กับภัยที่จะเข้ามาหาในภายภาคหน้า ข้างนอกนั้นอันตรายมาก ถ้าเชื่อฟังคำสั่งของพ่อแล้วลูกทั้งสามจะปลอดภัย” ปรากฏลูกๆทั้ง 3 ต่างร้องไห้กับระงม และเชื่อในสิ่งที่พ่อสั่งไว้ทุกประการ.........“จงเห่าสิ เห่าให้เป็นหมา เห่าให้ดังๆ เเล้วพวกเจ้าจะปลอดภัย !!!”


36. ฉากใช้คีมหนีบเหล็กตัดเอ็นข้อเท้าเหยื่อให้หมดการเคลื่อนไหวเพื่อหลบหนี ใน Frontier(s) (อำมหิตสุดขอบ/คลั่ง) หนังโหดสายลัทธินาซีปี 2007 ผลงานการกำกับของ Xavier Gens หนังโหดของทางประเทศฝรั่งเศส กับผู้กำกับ Xavier Gens (เซเวียร์ เจ็นส์) เล่าเรื่องกลุ่มโจรที่หนีเหตุการณ์เคลื่อนไหวทางการเมือง และตำรวจมายังนอกเมืองเพื่อกบดาน พวกเขาได้เข้าพักในโรงแรมเล็กๆแห่งหนึ่ง ที่ซึ่งพวกเขาจะได้เจอกับฝันร้ายที่ไม่มีวันลืมไปชั่วชีวิต!!! เรื่องของครอบครัววิปริต ที่บ้า-คลั่งลัทธินาซียุคใหม่ และพร้อมนำพาผู้ต่อต้านไปสู่หายนะ ฉากใน Frontier(s) ที่เป็นอันกล่าวขานกันในเรื่องความโหดเหี้ยมนั้น อาทิ ฉากที่สาวหลงทางนางหนึ่งพยายามจะหนีออกไปจากคุกของครอบครัวนาซีหลงยุค แต่ปรากฏว่าเจ้าหล่อนหนีไม่พ้น ถูกจับได้ เลยถูกหัวหน้าลัทธิสำเร็จโทษด้วยการใช้คีมสำหรับหนีบเหล็กตัดตรงบริเวณเอ็นข้อเท้าจนขาดวิ่น เลือดไหลทะลัก ไม่สามารถเดิน-หลบหนีได้อีกต่อไป (ฉากนี้นักดูหนังสยองขวัญหลายคนบอก….แทบลมใส่ !!!)



37. ฉากทรมานคู่รักอย่างสุดแสนวิปริตใน Grotesque / 2009 Grotesque เล่าเรื่องเกี่ยวกับชายวัยกลางคนๆหนึ่งกับพฤติกรรมสติแตกแบบสุดขั้ว ชายคนดังกล่าวคล้ายว่าจะเป็นนายแพทย์ผู้ไร้ศีลธรรม หรือชายโรคจิตได้จับคู่ชายหญิงคู่หนึ่งมาให้รักกันในเกมที่เขากำหนด ก่อนเจอบทลงโทษที่ดับความหวังแห่งการอยู่รอดของพวกเขาทีละน้อย หญิงสาวนางนั้นที่ถูกจับมาเธอมีชื่อว่า Aki(Tsugumi Nagasawa) กับชายคนรัก Kazuo(Hiroaki Kawatsure)ทั้งสองถูกชายโรคจิตโปะยาสลบ ณ ทางสายเปลี่ยนแห่งหนึ่ง จวบจนได้สติกลับคืนมา ทั้งคู่กำลังเผชิญอันตรายครั้งใหญ่ร่วมกัน ทั้งคู่ถูกพันธนาการด้วยเชือก-สายรัดข้อมือ ข้อเท้า และใส่ Mouth Gag(แก๊กปาก-อุปกรณ์สำหรับถ่างปากให้อ้าออก)ให้คนทั้งคู่ สิ่งที่ชายโรคจิตต้องการจากคนทั้งคู่ในเวลานี้ก็คือ เพื่อให้ทั้งสองมาเล่นเกมพิสูจน์รักแท้สนองตัณหาของตนเอง เกมอันแสนวิปริต ไม่ว่าจะเป็นการที่ชายโรคจิตช่วยสำเร็จความใคร่ให้ทั้งชายและหญิง(ต่อหน้าคนทั้งสอง) ต่อด้วยกระบวนการเหยียดหยามความเป็นมนุษย์ต่างๆนาๆ เริ่มจากตัดนิ้ว ตัดแขนด้วยเลื่อยไฟฟ้า เอาเข็มทิ่มลูกตาอย่างสยดสยอง ตอนอวัยวะสืบพันธุ์ หั่นร่างกายอีกหลายส่วน และควักอวัยวะภายในออกมาเชยชม ฯลฯ พร้อมกับถ้อยคำถามที่ตามมาจากปากชายโรคจิตว่า “คุณพร้อมหรือยอมตายแทน เพื่อคนที่คุณรักได้ไหม? ”


38. ฉากปืนจ่อรูทวาร….และอัดห่ากระสุนใส่ ใน Baise-Moi / 2000 Baise-Moi คือเรื่องราวประสบการณ์ชีวิตด้านมืดของสองสาว(สวย)ชาวฝรั่งเศสอันมีจุดหักเหในชีวิตให้ต้องมามีเส้นทางเดินร่วมกัน สาวแรก Nadine สาวร่างใหญ่สวยสง่า ทำอาชีพโสเพณี และค้ายาเสพติด หนีจากคดีฆาตกรรมเพื่อนร่วมอพาร์ทเม้นท์ สาวที่สอง Manu สาวน้อยหน้าตาสวยใสวัยซน ฆ่าพี่ชายตายคาบ้านพัก สาวหนึ่งกำลังหลบหนีคดีพร้อมหาลู่ทางส่งยานรกบริเวณชายแดน อีกสาวขาดความอบอุ่นและต้องการทำเรื่องอะไรบางอย่างที่ชวนให้ลืมเรื่องของพี่ชาย สู่การเปิดฉากเส้นทางเดินด้านมืดของคนทั้งคู่ เซ็กส์ ยาเสพติด ปล้น ฆ่า ครบ ฉากอันเป็นที่จดจำใน Baise-Moi อาทิ ฉากปืนจ่อรูทวารเหยื่อชายรายหนึ่งของสาว Manu (Raffaëla Anderson) และอัดห่ากระสุนใส่ในช่วงตอนท้ายๆเรื่อง ฉากนี้เองหลายคนถึงกับร้องซี๊ดดดดดด!!!




บทความโดย : samara17520

#4kittman • 8/8/2555 16:15
โหดจริงๆ......T T
#5bloodygloomy • 8/8/2555 16:27
ยอมรับเลยว่า เคยกรอผ่านฉากเหล่านี้มา ดูผ่านๆก็พอออออออ 555555555
#6คนขายหนังโป๊ • 8/8/2555 16:28
ฉากผ่าท้องใน inside ติดตามาก ..
#7jzyjjx • 8/8/2555 17:14
อูยยยยยยยยยยย

มีหลายเรื่องที่ยังไม่ได้ดูเลยยยย
#8chaisoandtipawan • 8/8/2555 17:20
กรี๊สสสสส..... 16 ฉากที่ยังขาดไป รีบหามาดูด่วน!!!
#9zacker • 8/8/2555 17:22
โอ้วพระเจ้าจอร์จมันยอกมากเลยซาร่า(เอ๊ย ซามาร่า)
ขอบคุณท่านซามาร่าที่ทำให้หวนคิดถึงคืนวานที่แสนจะจิตตก
#10masokissme • 8/8/2555 17:29
อ่านเพลิน ขอบคุณมากๆค่ะ
#11Darkside Fairy • 8/8/2555 19:54
ขอบคุณมากค่ะ :)
#12xiongwawa • 9/8/2555 02:58
ฮือออ ฉากเข็มจิ้มเล็บจิ้มตา เรื่อง imprint ไม่ติดอันดับ~>_<~
ฉากในดวงใจเลย ดูแล้วกำมือเกร็งเท้าแน่นปึ้กกกกกกก

Dogtooth ไม่คุ้นเลย ต้องหามาชมแล้วว

ขอบคุณมากๆนะคะ ^^
#13alsemo • 16/8/2555 02:13
ฉากข่มขืนเด็กแรกเกิด โดยแม่ของเด็กนอนดูแล้วยิ้มนี่แหละ สะเทือนอารมณ์ ดิบเถื่อนได้ใจมาก
#14natt_666 • 21/8/2555 23:36
เอา 9 กะโหลกเลยคับสำหรับ Review ชอบเรื่อง Grotesque มากคับ ภาพสวย แสงดี บทเยี่ยม
Login
Function Used time : 0:00:00:00.016
Go Last