หนึ่งในผู้กำกับที่มีลายเซนต์ด้านภาพชัดเจนที่สุดคนนึงของวงการภาพยนตร์คงหนีไม่พ้น ทิม เบอร์ตัน ผกก.วัย 54 ปี ที่มีแฟนหนังมากที่สุดคนนึงของโลก
แต่อย่างนึงที่นักวิจารณ์หลายคนกล่าวกันก็คือ ผลงานในยุคหลังๆของทิม เบอร์ตัน ช่างไม่ค่อยน่าอภิรมณ์เสียเท่าไรเลย
ราวกับว่าที่เค้ายังหยัดยืนอยู่ได้ก็เพราะบารมีในช่วงยุค 90's บวกกับงานอาร์ท เท่านั้นแหละ (ประหนึ่งหนังหม่อมน้อย ที่คนเลือกจะเข้าไปดูฉาก มากกว่าสนเนื้อเรื่อง)



หลังจากล้มเหลวกับ Dark Shadow ลุงทิมก็ขอกลับมาแก้มือกับหนังใหม่ ที่หลายคนภาวนาให้มันนำเขากลับคืนสู่ยุครุ่งเรืองได้เสียที หนังใหม่เรื่องนี้ Frankenweenie เป็นอนิเมชั่น สต๊อปโมชั่น สามมิติที่ดัดแปลงมาจากหนังสั้นของเค้าอีกทีในปี 1984

เรื่องราวของวิคเตอร์ หนุ่มน้อยนักประดิษฐ์ที่ตัดสินใจชุบชีวิต สปาร์กี้ หมาน้อยของเค้าที่เสียชีวิตลงให้กลับมามีชีวิตอีกครั้ง แม้ผลของมันจะสำเสร็จ เด็กน้อยได้เพื่อนรักกลับคืนมา แต่บรรดาเพื่อนบ้างต่างก็วิตกกังวลกับเรื่องที่เกิดขึ้น และพยายามขับไล่สปาร์กี้ออกไป

แน่นอนว่าแค่อ่านเรื่องย่อ หลายคนคงเดาได้แล้วว่า ทิม ได้แรงบันดาลใจมาจากวรรณกรรมคลาสสิคเรื่อง แฟรงเคนสไตล์ นั้นเอง



ความเป็นมาของหนังเรื่องนี้ก็น่าสนใจ ตรงที่ว่าในฉบับหนังสั้นนั้น เป็นผลงานที่เค้าทำขึ้นภายใต้สตูดิโอของดิสนี่ย์ ซึ่งในทีแรกทางสตูดิโอว่าจ้างให้ทิมสร้างหนังสั้นเรื่องนึงไว้ฉายควบกับ พิน็อกคิโอ ที่จะนำกลับมาฉายใหม่ในโรง แต่ครั้นเมื่อหนังเสร็จ และมีการทดลองฉาย เด็กๆส่วนใหญ่กลับไม่ชอบหนังเอาซะเลย ผลก็คือเฮียทิมถูกดิสนี่ย์ไล่ออก ด้วยเหตุผลที่ว่าทิมผลาญงบประมาณมากเกินไปสำหรับหนังหนึ่งเรื่อง และหนังก็น่ากลัวเกินไป ไม่ใช่แค่ตัวเค้าถูกเด้ง แต่หนังอันเป็นที่รักเรื่องนี้ก็โดนถอดออกจากโปรแกรมไปลงแผงวิดีโอแทน (ปัจจุบันหนังเรื่องนี้เป็น special feature ในดีวีดีเรื่อง A Nightmare Before Christmas) ผ่านไปหลายปี ผู้กำกับตกอับคนนี้ก็ค่อยๆสร้างบารมีจากหนังฮิตหลายเรื่องทั้ง Beetlejuice, Batman, Batman Returns, Edward Scissorhands , Sleepy Hollow จนในวันนึงดิสนี่ย์ก็ทาบทามให้ทิมเซ็นสัญญาสร้างหนังสามมิติให้สองเรื่อง ซึ่งทิมก็จัดการไปแล้วหนึ่งนั้นคือ Alice in Wonderland ซึ่งสร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำทั่วโลก (ส่วนตัว เราไม่ชอบหนังเอาซะเลย)
และก็ถึงเรื่องเวลาทำเรื่องที่สอง แน่นอนว่ามันจะเป็นเรื่องอะไรไปไม่ได้ ถ้าไม่ใช่เพื่อนเก่าอย่าง Frankenweenie ซึงบัดนี้มีอายุห่างจากเวอร์ชั่นเดิมถึง 28 ปี

มีคำถามนึงที่นักข่าวถามทิม ในงาน Comic Con ว่าคิดยังไงกับการแก้แค้นสตูดิโอในครั้งนี้ หลังจากเค้าเฉดหัวหนังคุณไปในอดีต

แต่ทิมกล่าวเพียงแค่ว่า ผมไม่คิดว่านี้เป็นเรื่องของการแก้แค้นอะไร โปรเจคนี้เป็นโปรเจคที่มีความหมายกับผมมาก และผมหวังว่าจะได้ขยายเรื่องราวของเด็กๆ สัตว์ประหลาดให้มากขึ้น ถึงแม้ว่าตัวหนังสั้นจะผ่านไปนานแล้ว แต่ผมยังรู้สึกสดใหม่กับการได้ใช้ไอเดียคิดกับหนังเสมอ

เมื่อนักข่าวถามว่าในเวอร์ชั่นนี้จะดูน่ากลัวแบบของเดิมไหม ทิมปฏิเสธกลายๆด้วยเหตุผลว่าในเวอร์ชั่นก่อนก็น่าจะเพียงพอแล้ว เวอร์ชั่นใหม่นี้จึงน่าจะผ่อนคลายไปในอีกแบบนึง
ทิมยังให้สัมภาษณ์ว่า ตัวเค้าเองเป็นคนรักหมา หมาเป็นสิ่งมีชีวิตที่พิเศษ มันสื่อและรับรู้ความรู้สึกเจ้าของ
และการที่หมาเค้าตายลงไป ก็เป็นเหตุผลนึงที่เค้าอยากกลับมาทำหนังเรื่องนี้

Frankenweenie จะเข้าฉายในเดือนตุลาคมนี้
นี้คือหนังอนิเมชั่นขาวดำสามมิติเรื่องแรกที่จะฉายในระบบ IMAX3D โดยได้ทีมงานจาก Corpse Bride มาสร้างสรรค์อนิเมชั่น
และนี้ยังเป็นการพบกันอีกครั้งระหว่างเค้ากับอดีตดาราสาวชื่อดัง วิโนน่า ไรเดอร์
และเป็นครั้งแรกในหลายรอบปีที่หนังเรื่องนี้ไม่มี จอนนี่ เด๊ป และเฮเลน่า บอนแฮม คาร์เตอร์ มาร่วมหอลงโลง

หนังเรื่องนี้ไม่ใช่แค่การรำลึกความทรงจำของคนกับสัตว์เลี้ยง
หรือการถวิลหาบรรยากาศโรแมนติกของคนกับตัวประหลาดอย่าง Edward Scissorhands (หนึ่งในหนังที่เจ้าตัวชอบมากที่สุด)
แต่สำหรับแฟนหนัง และทิม เบอร์ตัน นี้คือการย้อนวันวานอันบริสุทธิ์ของสิ่งที่เรารักและศรัทธา ว่าอย่างน้อยมันอาจจะกลับมามีชีวิตชีวาได้อีกครั้งนึงบนโลกหม่นๆใบนี้

ไปดูหนังสั้นต้นฉบับในระหว่างรอหนังเวอร์ชั่นใหม่กัน