Chernobyl Diaries เปิดบันทึกเมืองมรณะ ตามรอยเที่ยวไปในเชอร์โนบิล และ ปรีเปี้ยต

by แว่นจัง • วันพฤหัสบดีที่ 7 มิถุนายน พ.ศ. 2555 17:47
ไปเที่ยวเชอร์โนบิลกันเถิด รู้ไว้ใช่ว่าถึงจะไปหรือไม่ไปดูหนังเรื่องนี้ก็ตามที่ เผอญอ่านไปเจอรูปเกี่ยวกับเชอร์โนบิลก็เลยเอาลงมาให้อ่านกันก่อนไปดูหนัง ว่าแล้วก็เกาะกลุ่มตามกันมาเลย


เรื่องโรงไฟฟ้านิวเคลียเชอร์โนบิลกลับมาเป็นที่สนใจของชาวโลกอีกครั้ง(หลายคนอาจรู้จักจากเกมCall of Duty 4:Chernobyl) หลังจากเกิดเหตุสึนามิที่ส่งผลกระทบต่อโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟุกุชิมะ ซึ่งถึงแม้จะอยู่ในระดับ7 ซึ่งเป็นอุบัติเหตุทางนิวเคลียร์ที่ร้ายแรงที่สุด (ประกาศโดยทบวงการพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศหรือ IAEA) แต่ในกรณีของเชอร์โนบิลนั้นร้ายแรงกว่า

ดังนั้นในหนังเราอาจจะเจอตัวประหลาด แต่ในเชอร์โนบิลของจริงปัจจุบันไม่ถึงกับเป็นเมืองร้างเลยซะทีเดียวแต่ยังมีเจ้าหน้าที่ทำงานอยู่ภายในโรงไฟฟ้าดังกล่าว เพราะ เตาปฏิกรณ์ไม่สามารถปิดได้ทันทีเหมือนสวิตช์ไฟบ้าน จึงต้องค่อยๆทำไป

แถมตอนหลังทางยูเครนเริ่มมีเปิดทัวร์ในเขตเชอร์โนบิลแล้ว ซึ่งเริ่มมาช่วงปี2001 จึงมีนักท่องเที่ยวเข้ามาเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ แต่เป็นไปเช้าเย็นกลับ เพราะไม่ได้ไกลจากกรุงเคียฟ เมืองหลวงของยูเครนเท่าใดนัก ส่วนใครอ่านแล้วอยากไปเที่ยวก็ได้ แต่ยังไม่สามารถเข้าดูในโรงไฟฟ้าได้ ยังเป็นเขตอันตรายอยู่ ได้แต่ถ่ายรูปในระยะไกลๆ

ขอเปิดตัวการท่องเชอร์โนบิลด้วยสารคดี
THE BATTLE OF CHERNOBYL








Replies (140)

#1AguileraAnimato • 7/6/2555 17:55
อันนี้มีต่อป่ะ รอลงให้ครบก่อน เดี๋ยวอ่านต่อ
#2แว่นจัง • 7/6/2555 18:13
มาจะกล่าวบทไปถึงเชอร์โนบิล ก็ควรจะเปิดหนังสือวิชาสังคมควบคู่ไปด้วย เพื่อจะลืมทิศทางข้อมูลกันไปแล้ว

เชอร์โนบิลเป็นเมืองตั้งอยู่ทางตอนเหนือของประเทศยูเครนซึ่งอยู่ในทวีปยุโรปทางตะวันออก มีพรหมแดนติดกับเบลารุสทางทิศเหนือ ส่วนทิศตะวันตกติดกับสโลวาเกีย,โปแลนด์ และ ฮังการี ส่วนทางตะวันตกเฉียงใต้ติดกับโรมาเนีย และ มอลโดวา

ถ้ายังพอจำกันได้หลายๆประเทศทางยุโรปตะวันออกเคยอยู่ภายใต้การปกครองของสหภาพโซเวียตมาก่อนทั้งสิ้นตั้งแต่ปี1921-1991 หรือตั้งแต่ปี พ.ศ. 2464-2534 เป็นระยะเวลา 70 ปีด้วยกันที่อยู่หลังม่านเหล็ก หรือที่อดีตประธานธิบดีสหรัฐโรนัลด์ เรแกนเรียกว่าEvil Empire

เพื่อให้เข้าใจที่มาของปัญหาโรงไฟฟ้านิวเคลียร์เชอร์โนบิลเลยต้องปูทางด้านสังคมเยอะหน่อยนะ ชาวคณะทัวร์หนังโหด แต่ด้านวิทยาศาสตร์ขอสรุปย่อๆเพราะไม่เก่งวิทย์ฮร่ะ

แผนที่ยูเครน

จะเห็นว่าเมืองเชอร์โนบิล นั้น อยู่ห่างจากพรหมแดนประเทศเบลารุสเพียง16ก.ม. และอยู่ห่างกรุงเคียฟ เมืองหลวงของยูเครน 110 ก.ม.
attachment
#3แว่นจัง • 7/6/2555 18:28
ส่วนเมืองที่ใกล้ที่สุดคือเมืองปริเปี้ยต Prypiat หรือสะกดPripyat ซึ่งตั้งตามชื่อแม่น้ำ Pripyat แม่น้ำสายนี้มีความยาว710ก.ม. ไหลมาจากยูเครนวกไปเบลารุสและไหลกลับมายูเครนอีกทีก่อนจะไหลไปรวมที่แม่น้ำนีเปอร์ (dnieper) หลังจากเกิดเหตุระเบิดทำให้มีซีเซียม137ไหลไปปะปนในแม่น้ำด้วย

โดยทั้งเมืองปริเปี้ยตและเมืองเชอร์โนบิลนั้นตั้งอยู่ในจังหวัดKiev Oblast ที่มีศูนย์กลางอยู่ที่กรุงเคียฟ เมืองหลวงของประเทศนั้นเอง

จากรูป สองเมืองนี้ห่างกันเพียง18 ก.ม.
attachment
#4แว่นจัง • 7/6/2555 19:33
ในสมัยที่ยูเครนยังร่วมกับรัสเซีย เป็นส่วนหนึ่งของสหภาพโซเวียต โดยเป็นผลมาจากช่วงยุคสงครามเย็นที่เกิดขึ้นในช่วงปลายสงครามโลกครั้งที่สอง ราวๆปี1947-1991 ซึ่งเป็นช่วงที่ทางสหรัฐและสหภาพโซเวียตแข่งขันกันเพื่อประกาศความยิ่งใหญ่ทั้งในด้านทหาร อาวุธ จารกรรม เศรษฐกิจ และ เทคโนโลยีทางอากาศ(ที่มีการส่งยูริ กาการิน มนุษย์คนแรกของโลกที่ขึ้นไปโคจรรอบโลก กับเจ้าหมาไลก้า แล้วสหรัฐจึงส่งนีล อารม์สตรองไปเหยียบดวงจันทร์ และเราก็มีเกมTetris ฮ่า)

เมื่อมีการแข่งขันกันทุกด้าน ทางสหภาพโซเวียตจึงต้องการขยายสาธารณูปโภคพื้นฐานด้วย ดังนั้นจึงเป็นที่มาของการริเริ่มใช้ไฟฟ้าจากโรงไฟฟ้านิวเคลียร์

โรงไฟฟ้านิวเคลียร์แห่งแรกของโลก คือ Obninsk APS-1 ตั้งอยู่ที่เมืองออบนิสค์ซึ่งเป็นเมืองด้านวิทยาศาสตร์ของรัสเซีย อยู่ห่างจากกรุงมอสโกไปทางตะวันตกเฉียงใต้110 ก.ม.

เริ่มใช้งานครั้งแรก26 มิ.ย. 1954 และเลิกใช้งานเมื่อ 29 เมย 2002

แผนการที่จะขยายการใช้โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ไม่เป็นไปตามแผน เพราะ ต้องใช้งบประมาณจำนวนมาก และเทคโนโลยีเตาปฏิกรณ์แบบRBMK นั้นก็ยังไม่ได้ปลอดภัยเหมือนเตาสมัยหลังๆทำให้โรงไฟฟ้าหลายแห่งจำเป็นต้องฝืนอายุใช้งาน

เช่นโรงไฟฟ้าออบนิสค์ที่ต้องปิดตัว1984 ต้องยืดเวลามาถึง18ปี

จากรูปโรงไฟฟ้าออบสนิสค์

http://zyalt.livejournal.com/131563.html

attachment
แก้ไขล่าสุด: 7/6/2555 19:34 โดย แว่นจัง
#5แว่นจัง • 7/6/2555 19:57
จะพาไปเรื่อยๆ รู้สึกข้อมูลเยอะนะฮร่ะชาวคณะ

เตาปฏิกรณ์ที่ใช้ในโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ออบสนิคส์ถือเป็นต้นแบบที่ทำให้เกิดเตารุ่น RBMK (Reaktor Bolshoy Moshchnosti Kanalniy หรือแปลว่า High Power Channel-type Reactor")

โดยมีการหล่อเย็นด้วยน้ำ และมีแชเนลแกรไฟต์ ซึ่งในช่วงยุคปลาย1979-1990 ระบบนี้มีการใช้อย่างแพร่หลายมาก นั้นคือรุ่น RBMK-1000 เป็นรุ่นเดียวกันที่ระเบิดไปในโรงไฟฟ้านิวเคลียร์เชอร์โนบิล


จากรูปเตาแบบRBMK
attachment
#6แว่นจัง • 7/6/2555 20:36
ศัพท์ยากเราพักไว้ก่อน

มาดูเรื่องเมืองเชอร์โนบิลกันดีกว่า

คำว่าเชอร์โนบิล เป็นภาษายูเครนที่แปลว่า ต้นwormwood ซึ่งเริ่มเป็นเมืองตั้งแต่ปี1193เรื่อยมาในช่วงก่อนศตวรรษที่19 บริเวณเมืองนี้เป็นที่อยู่อาศัยของชาวยูเครน ชาวโปแลนด์ที่มีฐานะยากจนบางส่วน และมีชาวยิวอาศัยอยู่ด้วยเป็นจำนวนมาก ก่อนจะถูกกวาดล้างในช่วงยึดครองโดยนาซี

และต่อมาช่วงปี1964 ทางสหภาพโซเวียตเลือกเชอร์โนบิลเป็นที่ตั้งของโรงไฟฟ้านิวเคลียร์เป็นแห่งแรกในยูเครน

โดยเมืองเชอร์โนบิลใช้เป็นที่ตั้งโรงไฟฟ้า ส่วนเจ้าหน้าที่และพนักงานก็จะไปพักที่เมืองปริเปี้ยต


จากรูป โรงไฟฟ้าเชอร์โนบิลสมัยยังทำงานได้อยู่
attachment
#7nikkishi • 7/6/2555 20:52
ขอบคุนงับ สำหรับ สาระความรู้
#8แว่นจัง • 7/6/2555 21:19
อีกเมืองที่เราควรจะรู้จักก็คือ ปริเปี้ยต

เมืองนี้จะแตกต่างจากเมืองเชอร์โนบิล คือ เป็นเมืองที่สร้างใหม่ในปี1970 เพื่อให้เจ้าหน้าที่ที่ทำงานในโรงไฟฟ้านิวเคลียร์เชอร์โนบิลมาอาศัยอยู่

ตอนนี้คงมีคนสงสัยว่ากะอีแค่โรงไฟฟ้านิวเคลียร์พี่โซเวียตต้องลงทุนสร้างเมืองใหม่ มีทุกอย่างพร้อมเลยหรือ ต้องให้ย้อนกลับไปนึกถึงช่วงสงครามเย็น ซึ่งแข่งขันกันทุกด้านกับอเมริกา

ประชากรจำนวนมากในสหภาพโซเวียตจำต้องใช้ทรัพยากรจำนวนมาก โซเวียตเห็นว่านิวเคลียร์นั้นราคาถูกและปลอดภัย จึงมีการนำมาใช้ในการผลิตไฟฟ้า ยุคก่อนเหตุการณ์เชอร์โนบิล สโลแกนว่า"Peaceful Atom"หรือ mirnyj atom หรือปรมาณูเพื่อสันติ

การนำพลังงานปรมาณูที่เคยปลิดชีพชาวเมืองฮิโรชิม่า และ นางาซากิ มาปรับใช้ในด้านสันติ ซึ่ง2ประเทศมหาอำนาจสมัยนั้นก็แข่งกัน ในช่วงแรกของสงครามเย็นจะสังเกตได้ว่าสหภาพโซเวียตก้าวนำหน้าอเมริกาในทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีอยู่1ก้าว ความสำเร็จของโรงไฟฟ้านิวเคลียร์จึงเป็นชัยชนะด้านวิศวกรรมศาสตร์ของโซเวียตด้วย





ดูจากคลิปส่องประกายโซเวียตมากๆ ดูเป็นเมืองในฝันจริงๆ
แก้ไขล่าสุด: 8/6/2555 23:09 โดย แว่นจัง
#9jzyjjx • 7/6/2555 21:29
ได้สาระและความรู้ไปด้วยเลย ;)
#10แว่นจัง • 7/6/2555 21:48
เมืองนี้เนื่องจากไม่ใช่เมืองสำคัญทางการทหารจึงไม่ใช่เขตหวงห้าม นอกจากนี้ยังเป็นทางรถไฟสายหลักและการขนส่งทางน้ำที่สำคัญของภาคเหนือของยูเครนด้วย

เมืองปริเปี้ยตเป็นเมืองอย่างเป็นทางการปี1979หรือ7ปีก่อนการระเบิดเท่านั้น ถนนหลายสายส่วนใหญ่ตั้งชื่อตามบุคคลสำคัญในยูเครน หรือตามวัฒนธรรมท้องถิ่น รวมถึงมีถนนชื่อ Igor Kurchatov ที่ตั้งชื่อตามบิดาแห่งระเบิดปรมาณูชาวโซเวียต

เลยเลือกรูปหล่อๆของคุณทวดมาลง คนนี้แหละเป็นส่วนหนึ่งในการคิดค้นโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ของโซเวียต
attachment
#11แว่นจัง • 7/6/2555 22:12
ในปริเปี้ยตมีทุกอย่างทั้งโรงหนัง สระว่ายน้ำ สภาเมือง ร้านอาหาร ห้างสรรพสินค้า โรงเรียน

ในระยะเวลาไม่ถึง20ปี เมืองนี้มีประชากรถึง49,400 คนโดยประมาณ ในพื้นที่ทั้งหมด658,700 ตรม. มีอพาร์เมนท์13,414 หลัง (โฮ้!)แบ่งเป็น160บล็อก
ซึ่งมีแยกเป็นที่พักชายโสดถึง18อาคาร พักได้โดยประมาณ7,621คน

และสำหรับคู่แต่งงานอีก8อาคาร

นับว่ามหึมามากๆสำหรับเมืองที่เพิ่งเริ่มเมื่อปี1970


รูปของเมืองสมัยเริ่มก่อตั้ง จากเว็บpripyat.com
attachment
แก้ไขล่าสุด: 8/6/2555 23:12 โดย แว่นจัง
#12แว่นจัง • 7/6/2555 22:18
คู่แต่งงานใหม่ถ่ายรูป
attachment
#13แว่นจัง • 7/6/2555 22:19
แล่นเรือก็มี
attachment
#14แว่นจัง • 7/6/2555 22:51




ชาวคณะทัวร์คงมีคำถามในใจว่าช่วงก่อนระเบิดไม่ถึง20ปี ทำไมเมืองนี้มีประชากรเกือบ5หมื่นคน

คำตอบ คือ มีโรงไฟฟ้าเชอร์โนบิลที่เป็นแหล่งงานหลักๆของคนที่เมืองนี้ที่มีอายุเฉลี่ยคือประมาณ 26 ปี

นอกจากนี้ยังมีโรงเรียนประถม 15 แห่งที่รองรับนักเรียนถึง5พันคน โรงเรียนมัธยม 5 แห่ง และโรงเรียนฝึกอาชีพอีก 1 แห่ง

ยังมีร้านค้าและห้างสรรพสินค้าร่วมกันถึง25แห่ง และยังมีแหล่งงานอีกคือโรงงาน4แห่ง

ที่ออกกำลังกายพักผ่อนหย่อนใจมีพร้อม นับเป็นเมืองเล็กๆที่คนโซเวียตหลายคนเฝ้าถวิลหา นอกจากจะทันสมัยเพรียบพร้อม เงินเดือนยังดีอีกต่างหาก


ในคลิปบอกว่าที่นี้เป็นแหล่งรวมตัวของคนที่เก่งที่สุดของที่สุด ไม่ว่าจะเป็นนักวิทยาศาสตร์ นักดนตรี และอีกหลายอาชีพ


แก้ไขล่าสุด: 7/6/2555 22:51 โดย แว่นจัง
#15แว่นจัง • 7/6/2555 22:55
รูปเมืองสมัยก่อนระเบิดหายาก คาดว่าเป็นเพราะตอนอพยพทางการบอกว่าไม่นานก็จะได้กลับหลายคนจึงเก็บของไปไม่มาก ภาพต่างๆเลยไม่ค่อยมี



#16pea • 7/6/2555 23:01
อ่านเรื่องย่อเรื่องChernobyl Diariesแล้วก็ไม่อินเท่าไหร่

ที่บอกว่าพวกตัวละคร ไปทัวร์ไกด์เถื่อนแอบลักลอบเข้าไปในเมือง

เพราะเคยดูสารคดี เกี่ยวกับChernobylคือเปิดให้เข้าไปทัวร์ในเมือง

เป็นการท่องเที่ยวเก็บเงินได้เป็นล้ำเป็นสัน ไม่ได้น่ากลัวซักนิดเลยอะ ^^
#17แว่นจัง • 7/6/2555 23:03
โรงแรมPolissya ก่อนและหลังจากการระเบิดของเตาปฏิกรณ์ เปรียบเทียบกันดู

โรงแรมนี้เป็นโรงแรมแห่งเดียวและยังเป็นตึกที่สูงที่สุดในเมือง เป็นที่พักของผู้มาเที่ยวเมืองและคณะกรรมการพรรคคอมมิวนิสต์ของโซเวียต

เห็นว่าอยู่ในcall of dutyด้วย
attachment
แก้ไขล่าสุด: 7/6/2555 23:03 โดย แว่นจัง
#18แว่นจัง • 7/6/2555 23:08
@pea ตอนนี้เปิดหลายทัวร์มาก จริงๆเมืองนี้ไม่น่ากลัวอย่างที่บอกในจั่วหัวอะจ๊ะ คนทำงานในโรงไฟฟ้ายังมี นักท่องเที่ยวมีแต่ไม่ได้ค้างคืน ตอนนี้ดีขึ้นเพราะมีการครอบโรงไฟฟ้าแล้ว ในเขตกักกันก็ยังมีคนกลับมาอยุ่ส่วนใหญ่เป็นคนแก่ประมาณ70-80ปีขึ้น ประมาณไม่กลัวตาย เพราะใกล้ตายอยู่แล้ว แต่จะอยู่ในเมืองรอบๆปริเปี้ยตหรือชายแดนเบลารุส

ภาพงานในสมัยยังรุงเรือง
attachment
#19samara17520 • 7/6/2555 23:12
ปาดขวาๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
เข้ามาติดตามด้วยคนจ๊ะ ชอบๆๆๆๆๆ
อยากไปเที่ยวจังๆๆๆๆๆๆ Chernobyl
#20แว่นจัง • 7/6/2555 23:16
กลับมาดูที่โรงไฟฟ้ากันอีกดีกว่า

แรกเริ่มเดิมที่ทางโซเวียตจะให้สร้างโรงไฟฟ้าใกล้เมืองเคียฟ แต่ทางคณะกรรมการฝั่งยูเครนเห็นว่าอาจไม่ปลอดภัยหากสร้างใกล้เมืองหลวง จึงหาที่ที่อยู่ไม่ใกล้ไม่ไกล หวยจึงมาตกที่เมืองเชอร์โนบิลระยะเวลาเพียงแค่2ชั่วโมง จากเคียฟถึงเมืองเชอร์โนบิล

ตัวเมืองปริเปี้ยตเริ่มสร้างตั้งแต่ปี1970 ส่วนตัวโรงงานและเตาปฏิกรณ์หมายเลข1เริ่มใช้ในปี1977 ซึ่งทำให้โรงงานแห่งนี้เป็นการใช้เตาปฏิกรณ์รุ่น RBMK-1000 เป็นโรงที่ 3 นับจากโรงไฟฟ้านิวเคลียร์Leningrad และ Kursk

attachment
แก้ไขล่าสุด: 7/6/2555 23:18 โดย แว่นจัง
#21samara17520 • 7/6/2555 23:17
ผมเคยดูสารคดีนำเที่ยว Chernobyl ด้วยนะเเว่นจัง มีหลายคลิปด้วยล่ะ หนุกหนานมากกกกกกกกกกกก

ปอลิง. พูดเเล้วอยากดูหนังเร็วๆๆๆๆๆๆ ^^

http://www.youtube.com/watch?v=101OEaksU0s&feature=fvwrel
#22แว่นจัง • 7/6/2555 23:21
@samara17520 จริงๆอยากไปยูเครนกับรัสเซีย แต่ทัวร์แพงงงงงงง จำได้ว่าตอนประถมอ่านเรื่องนี้ในนิตยสารเล่มหนึ่ง แล้วเห็นภาพเด็กๆอายุไล่เลี่ยกันพิการ ร้องไห้โฮเลย ปวดใจมาก

เตาหมายเลข2สร้างเสร็จปี1978 หมาย3ปี1981 และเตาหมายเลข4 ปี1983
attachment
#23แว่นจัง • 7/6/2555 23:24
ส่วนเตาหมายเลข5และ6 ก็สร้างอยู่ โดยเตาหมายเลข5มีกำหนดแล้วเสร็จและเปิดใช้วันที่7 พฤศจิกายน 1986 เสร็จไปกว่า70%แล้ว

แต่ก็หยุดการสร้างไว้ในวันที่ 1 มกราคม 1988เป็นโครงการค้างเติ่งและคงไม่มีใครการทำต่อด้วย
attachment
#24แว่นจัง • 7/6/2555 23:25
มีต่อนะ ไปพักก่อน
#25samara17520 • 7/6/2555 23:28
จ๋าจ๊ะๆๆๆ รออ่านพรุ่งนี้ง่าๆๆๆๆ ง่วงเเย้วว อิอิ ^^
#26LittleBuff-studio • 8/6/2555 03:08
รอฟังบรรยายพรุ่งนี้น้า เราชอบเรื่ืองเชอร์โนบิลมาก

เสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นมาก คนมากมายต้องล้มตายและป่วยเพราะโดนรังสี น่าสงสารมากอ่าเห็นภาพแล้วอย่างสลด

แต่ในขณะเดียวกันก็เป็นบทเรียนที่ดีสำหรับมนุษยชาติเรื่องการใช้นิวเคลียร์ให้ปลอดภัยขึ้น

แต่ก็นะ ขนาดญี่ปุ่นที่ขึ้นชื่อเรื่องความปลอดภัย เจอภัยธรรมชาติอย่างสึนามิไป ป้องกันขนาดไหนก็เอาไม่อยู่
#27แว่นจัง • 8/6/2555 12:08
กำลังจะมาต่อ เนื่องจากความรู้ด้านวิทย์เท่าหางลูกอ๊อด ใครเรียนด้านนี้มา จะช่วยอธิบายก็ดีนะฮร่ะ

-----------------------------------
พยายามหาภาพในโรงไฟฟ้านิวเคลียร์เชอร์โนบิลก่อนเกิดการระเบิด ไม่ค่อยมี งั้นเอาที่ใกล้เคียงไปดูกันนะ

โรงงานนิวเคลียร์ครุสค์ (Kursk) เป็นเมืองที่เคยเป็นสนามรบรถถังอันดุเดือดมากในช่วงสงครามโลกครั้งที่2ระหว่างเยอรมันกับรัสเซีย นอกจากนี้ยังเรือดำน้ำพลังงานนิวเคลียร์ที่จมในทะเลก็ตั้งชื่อตามเมืองนี้ (จำข่าวได้ป่าว ตายเย็นยกลำเลยที่ทะเลเบเรนต์ สาเหตุน่าจะมาจากตอร์ปิโดท้ายเรือ)

ห้องที่เก็บไฟฟ้านิวเคลียร์ มีประตูเหล็กกั้น

attachment
แก้ไขล่าสุด: 8/6/2555 23:15 โดย แว่นจัง
#28แว่นจัง • 8/6/2555 13:14
มีไฟด้วย
attachment
#29แว่นจัง • 8/6/2555 13:20
แต่นแต๊น โฉมหน้าเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์รุ่นRBMK-1000

attachment
#30แว่นจัง • 8/6/2555 13:30
ดูเหมือนของเล่นมากๆ

จุดฟ้า คือ neutron sources
จุดเหลือง คือ แท่งควบคุมที่สอดข้างใต้เตา
จุดสีเทา คือ แท่งความดัน
จุดสีเขียว คือ แท่งควบคุม
และ สีแดง คือ แท่งควบคุมอัตโนมัติ

คือความหมายของจุดสีบนเตา
attachment
#31แว่นจัง • 8/6/2555 13:33
อันนี้น่าจะเป็นกระบอกเชื้อเพลิง สีเหลืองๆ
attachment
แก้ไขล่าสุด: 8/6/2555 13:35 โดย แว่นจัง
#32แว่นจัง • 8/6/2555 13:36
ที่อยู่ใต้เตาคือแกรไฟต์ แล้วมีน้ำและทรายล้อมรอบด้วย
attachment
#33แว่นจัง • 8/6/2555 13:47
เตาปฏิกรณ์RBMK-1000,1500

ถือว่าเป็นรุ่นเดียวกับเจ้าเตาที่4 ที่ระเบิดที่เชอร์โนบิล

ปัจจุบันโรงฟ้านิวเคลียร์ที่ครุสค์ เลนินกราด และ สโมเลนสค์ ก็ยังใช้งานอยู่


ส่วนสาเหตุที่หลายแห่งยกเลิกการก่อสร้างไป คือ งบประมาณไม่พอ เนื่องจากหลังจากเหตุการณ์เชอร์โนบิลไม่นานโซเวียตก็ล่มสลาย
attachment
แก้ไขล่าสุด: 8/6/2555 13:48 โดย แว่นจัง
#34แว่นจัง • 8/6/2555 13:55
มีเครื่องตรวจรังสีด้วย
attachment
#35แว่นจัง • 8/6/2555 13:56
ห้องควบคุม

attachment
#36แว่นจัง • 8/6/2555 14:11
มาดูอีกที่ โรงไฟฟ้าสโมเลนสค์

เป็นโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ขนาดใหญ่ที่สุดในภาคตะวันตกเฉียงเหนือของรัสเซีย

และเป็นแหล่งงานของคนในเมืองเดสโนกอรสค์ (Desnogorsk) ว่ากันว่า3ใน4ของประชากรในเมืองทำงานในโรงไฟฟ้าแห่งนี้
attachment
#37แว่นจัง • 8/6/2555 14:12
กระดาษดักฝุ่น แบบเดียวกับที่โรงงานหลายๆแห่งในบ้านเราใช้
attachment
#38แว่นจัง • 8/6/2555 14:12
มื้ออาหารในโรงไฟฟ้า
attachment
#39แว่นจัง • 8/6/2555 14:14
มีงานสถาปัตยฯสมัยโซเวียตยังรุ่งเรืองของในรูป คือ
วลาดิเมียร์ เลนิน
attachment
#40แว่นจัง • 8/6/2555 14:26
พาไปอ้อมหลายที่กลับมาที่เชอร์โนบิลจังกันอีกรอบ

หลังจากพูดถึงว่าเตาหมายเลข4สร้างเสร็จเมื่อปี1983

และเตา5และ6จะตามในปี1986

หารูปได้เพิ่มจากเว็บpripyat.com เพิ่งเจอแบบภาษาอังกฤษ

รูปนี้ยังกับมาถ่ายแบบลงนิตยสาร
attachment
แก้ไขล่าสุด: 8/6/2555 14:27 โดย แว่นจัง
#41แว่นจัง • 8/6/2555 14:36
ในห้องควบคุมที่เชอร์โนบิล
attachment
#42แว่นจัง • 8/6/2555 14:52
นอกจากจะมีโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ใช้เองในสหภาพโซเวียตแล้ว พี่เบิ้มโซเวียตยังมีแผนออกเงินให้คิวบาสร้างโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฮัวรากัวด้วย

หลังจากวิกฤตการนิวเคลียร์ที่ทำให้ความสัมพันธ์คิวบากับอเมริกาอยู่ในสภาพตึงเครียดมาตลอด พี่เบิ้มโซเวียตจึงเสนอโครงการโรงไฟฟ้าในยุค70 โครงการนี้เริ่มสร้างในปี1983 ในตอนแรกมีแผนว่าจะเปิดทำการในต้นยุค90 โดยมีโซเวียตคอยหาวัตถุดิบให้ แต่ก็เลื่อนโครงการไปเรื่อยๆจนปี1995 เมื่อไม่แน่ใจว่าโรงไฟฟ้าจะเปิดทำการได้เมื่อไร รัฐบาลจึงยุติโครงการดังกล่าว

สาเหตุหลักๆ คือ โซเวียตล่มสลายไม่มีเงินทุน

โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฮัวรากัว
attachment
แก้ไขล่าสุด: 8/6/2555 23:17 โดย แว่นจัง
#43แว่นจัง • 8/6/2555 15:01
การก่อสร้างเชอร์โนบิล เป็นช่วงปลายๆยุคสงครามเย็นแล้วทั้งอเมริกาและโซเวียตต่างหมดเงินไปมากกับโครงการทางวิทยาศาสตร์ต่างๆบ้างก็สำเร็จ บ้างก็ล้มเหลว ซึ่งแต่ละโครงการต้องใช้งบประมาณประเทศเป็นจำนวนมาก
attachment
แก้ไขล่าสุด: 8/6/2555 23:22 โดย แว่นจัง
#44แว่นจัง • 8/6/2555 15:07
ปัจจุบันในรัสเซียก็ยังใช้โรงไฟฟ้านิวเคลียร์อยู่นอกจากรุ่นRBMKแล้วยังมีรุ่นVVER หรือWWER (Vodo-Vodyanoi Energetichesky Reactorภาษาอังกฤษ Water-Water Power Reactor)

เตาปฏิกรณ์ที่ใช้พลังน้ำ ซึ่งรุ่นนี้ใช้ในฮังการี จีน ฟินแลนด์ อินเดีย ยูเครน บัลกาเรีย โรมาเนีย อาร์เมเนีย และสาธารณรัฐเช็ค


attachment
แก้ไขล่าสุด: 8/6/2555 23:24 โดย แว่นจัง
#45แว่นจัง • 8/6/2555 15:19
ก่อนหน้าการระเบิดของเตา4ในปี1986 ก็เคยมีอุบัติเหตุมาแล้วกับที่เชอร์โนบิล

ปี1982 เกิดการหลอมละลายบางส่วนของแกนกลางที่เตาหมายเลข1 ข่าวถูกปิดเป็นความลับจนซ่อมเตาที่1เสร็จและกลับมาใช้งานปกติอีกครั้งในปี1985

ก่อนจะเกิดเหตุร้ายแรงที่สุดในประวัติศาสตร์ของมวลมนุษยชาติในอีกประมาณ1ปีถัดมา...
#46แว่นจัง • 8/6/2555 15:27




ภาพจำลองการระเบิดในเตาหมายเลข4
#47แว่นจัง • 8/6/2555 15:45
ส่วนเรื่องที่จะเกิดขึ้นต่อไปคิดว่าหลายคนคงอ่านผ่านตามาแล้ว ขอสรุปสั้นตามประสาคนไม่สันทัดเรื่องวิทย์

ต้นเหตุก่อนการระเบิดที่เกริ่นไปตั้งแต่หัวเรื่อง และพูดซ้ำย้ำบ่อยๆ คือ รัฐบาลโซเวียตต้องการพัฒนาพลังงานงานนิวเคลียร์อย่างมาก จึงมีการเร่งให้สร้างโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ให้ผุดขึ้นมาอย่างดอกเห็ดในช่วงตั้งแต่ทศวรรษที่1970เป็นต้นมา การสร้างโรงไฟฟ้าก็ไม่ยาก แต่ที่ยากคือการสร้างเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์ที่ได้มาตรฐานในเวลาจำกัด เจ้าเตารุ่นRBMKนั้นพัฒนามาจากตัวต้นแบบที่โรงไฟฟ้าออบนิสค์ การจะนำอะไรมาใช้นอกจากออกแบบแล้วยังต้องมีการทดสอบเพื่อหาข้อผิดพลาด แก้ไขข้อผิดพลาด ทว่ารุ่นนี้กลับมีข้อผิดพลาดและผลของการรีบนำมาใช้จนขาดการทดสอบและตรวจสอบอย่างละเอียด ส่งผลร้ายต่อทุกคนที่เกี่ยวข้องอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

จุดอ่อนสำคัญ คือ ระบบไฟฟ้าสำรองในกรณีฉุกเฉินของระบบหล่อเย็น

โรงไฟฟ้านิวเคลียร์เชอร์โนบิลในปัจจุบันมองจากตึกที่เมืองปริเปี้ยต
attachment
แก้ไขล่าสุด: 8/6/2555 23:27 โดย แว่นจัง
#48แว่นจัง • 8/6/2555 16:02
ระบบหล่อเย็นต้องทำงานตลอดเวลา ถ้าไฟฟ้าดับจะมีการใช้เครื่องปั่นไฟดีเซล3ตัวมาปั่นไฟแทนไฟฟ้าที่ได้จากโรงไฟฟ้า แต่กว่าจะปั่นไฟให้ได้กำลังพอที่ระบบหล่อเย็นจะใช้ กลับใช้เวลานานถึง60-75 วินาที ทั้งที่จริงควรใช้เวลา15วินาที

ช่องว่างที่ห่างถึง1นาที ทำให้ต้องคิดวิธีแก้ปัญหาซึ่งมีการเสนอว่าควรใช้พลังงานจากกังหันที่ยังมีการหมุนอยู่ นำพลังดังกล่าวมาใช้แทนประมาณ45วินาที ก่อนที่เครื่องปั่นไฟดีเซลจะทำงานได้เต็มกำลัง

แนวคิดดังกล่าวเป็นแค่ทฤษฎีในการแก้ปัญหายังไม่มีการทดสอบจริงๆว่าใช้ได้ผลหรือไม่

และการทดสอบครั้งแรกในปี1982 ก็ล้มเหลวเนื่องจากพลังงานจากังหันไม่เพียงพอจึงมีการทดสอบซ้ำอีกปี1984 และครั้งที่3 ในปี1985 แต่ไม่ประสบความสำเร็จซักครั้ง

จึงมีการทดลองอีกครั้งปี1986 กับเตาปฏิกรณ์หมายเลข4ที่ปิดซ่อมแซมอยู่
#49แว่นจัง • 8/6/2555 16:50
ในวันเสาร์ที่ 26 เมษายน 1986

จะมีการทดสอบกันอีกครั้งในรอบที่ 4 ตอนช่วงเช้ามืด แต่ว่าเกิดปัญหาที่สถานีไฟฟ้าของเคียฟ จึงเลื่อนการทดสอบไปก่อน

ปกติแล้วการทำการทดสอบจะเป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่กะกลางวัน ในขนาดที่กะกลางคืนมีหน้าที่ดูแลระบบหล่อเย็นของความร้อนจากการสลายตัว และการปิดเครื่อง

และต่อมาเกิดกระแสไฟกระชาก จนปิดเครื่องไปแล้ว1รอบ ก่อนจะทดสอบใหม่ช่วงเวลาตี1 แต่การที่Coreเพิ่งปิดไป เปิดใหม่ยังไม่เสถียร ระบบหล่อเย็นไม่สามารถควบคุมอุณหภูมิให้คงที่ได้ มีการเลื่อนแท่นควบคุมลงมาสุดเพื่อไม่ให้เกิดปฏิกริยานิวเคลียร์ แท่นดันกล่าวมีแกรไฟต์อยู่บริเวณหัวและเคลื่อนที่ได้ช้าจึงทำให้อุณหภูมิเพิ่มขึ้น

ส่งผลให้สารหล่อเย็นระเหยจนหมดและเกิดไอน้ำพลังมหาศาลพวยพุ่งดันจนฝาเตาปฏิกรณ์หนัก2พันตันออกไป ส่วนตัวเตาไม่มีอาคารครอบคลุมขนาดหนาแต่อย่างใด กัมมันตภาพรังสีจึงออกมาโดยตรงและต่อมาเพียงแค่2วินาที ก็เกิดระเบิดครั้งที่สองซึ่งมาจากปฏิกริยานิวเคลียร์ และหายนะก็เริ่มทำหน้าที่นับแต่นั้นเป็นต้นมา

ไม่มีใครรู้ว่าทำไมถึงต้องทำการทดลองในกะกลางคืน
ไม่มีใครรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นก่อนการระเบิด

เนื่องจากคนที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ดังกล่าวโดยตรงเสียชีวิตทันทีหลังจากการระเบิด และอีกหลายคนเสียชีวิตตามมาในเวลาไม่กี่วัน


ภาพแผงควบคุมเตาปฏิกรณ์หมายเลข4ถ่ายเมื่อ14 เมษายน ปี1998
attachment
แก้ไขล่าสุด: 8/6/2555 23:31 โดย แว่นจัง
#50แว่นจัง • 8/6/2555 17:04
ภาพถ่ายทางอากาศของโรงไฟฟ้าแรงระเบิดถึงกับทำลายโรงไฟฟ้าที่ติดตั้งเตาหมายเลข4ซะเละเทะ
attachment
แก้ไขล่าสุด: 8/6/2555 17:05 โดย แว่นจัง
#51แว่นจัง • 8/6/2555 18:13
หลังจากเกิดการระเบิดขึ้นหน่วยดับเพลิงประจำโรงไฟฟ้าเชอร์โนบิลเป็นหน่วยแรกที่มาถึงที่เกิดเหตุ นำทีมโดยร้อยโทVolodymyr Pravik

ในตอนที่ไปถึงอาคารเตาปฏิกรณหมายเลข4 ทีมของร้อยโทปราวิกนึกว่าเป็นแค่ไฟไหม้ธรรมดา หารู้ไม่ว่าพวกเขาเป็นคนเป็นๆกลุ่มแรกที่สัมผัสกัมมันตภาพรังสีอย่างรุ่นแรง "ผมไม่รู้ว่านั้นคือเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์ ไม่มีใครบอกพวกเราเลย"

รูปร้อยโทโวโลดิเมียร์ ปราวิก

เขาขึ้นไปดับไฟบนหลังคายูนิตซี เลเวล71 เพื่อดับไฟที่ลุกไหม้แก่นของเตาปฏิกรณ์

ผลคือทีมดับเพลิงของเขาทุกคนเสียชีวิตจากเหตุการณ์นี้ทุกคน ตัวเขาถูกส่งตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลในกรุงมอสโค ว่ากันว่าตาสีน้ำตาลของเขาเปลี่ยนเป็นสีฟ้าเนื่องจากได้รับรังสีโดยตรงในปริมาณมาก
เขาเสียชีวิตด้วยอาการเจ็บป่วยจากการได้รับรังสีอย่างเฉียบพลัน

และได้ยกย่องให้เป็นวีรบุรุษแห่งสหภาพโซเวีตย ซึ่งถือเป็นเหรียญกล้าหาญสูงสุดที่จะสามารถมีได้

ถ้าจำไม่ผิดในทีมนี้ เคยดูสารคดีเล่าว่าทุกคนรู้สึกได้ถึงรสชาติของเหล็กเต็มปาก หลังจากนั้นใบหน้าเริ่มชาเหมือนถูกเข็มนับพันเล่มทิ่มแทง...

attachment
#52แว่นจัง • 8/6/2555 18:28
ร้อยโทปราวิกอายุเพียง24ปีเท่านั้นในวันที่เขาเสียชีวิต โดยอาการก่อนเสียชีวิตนั้นทรมานมาก ตัวของเขาและคนอื่นๆในทีม มีอาการผิวหนังไหม้จากการสัมผัสรังสีโดยตรง และยังส่งผลต่อต่อมน้ำลายทำให้มีอาการปากและคอแห้งผากอยู่ตลอดเวลา และยังมีอาการปวดร่างกางอย่างมากถึงขนาดฉีดมอร์ฟีนยังไม่สามารถระงับอาการปวดได้

เมื่อเสียชีวิต ศพเขาถูกฝังอยู่ในโลงปิดอย่างแน่หนา

ในรูปเป็นแม่กับญาติของเขา เมื่อวันครบรอบเหตุการณ์เชอร์โนบิลปีที่แล้วที่กรุงมอสโค
attachment
#53แว่นจัง • 8/6/2555 18:42
ตารางเวลาที่เกิดเหตุ
เวลา
ตี 1.26 – สัญญาณไฟไหม้ดัง
ตี 1.28 – หน่วยดับเพลิงประจำโรงไฟฟ้ามาถึง(ทีมของร้อยโทปราวิก)
ตี 1.35 – หน่วยดับเพลิงจากเมืองปริเปี้ยตมาถึง
ตี 1.40 – หัวหน้าหน่วยดับเพลงประจำโรงไฟฟ้ามาถึง
ตี 2.10 – ดับเพลงที่หลังคาห้องใบพัดได้สำเร็จ
ตี 2.30 – ควบคุมเพลิงบนหลังคาเตาหลักไว้ได้
ตี 3.30 – หน่วยดับเพลิงจากกรุงเคียฟมาถึง
ตี 4.50 – ควบคุมเพลิงได้เกือบหมด
6.35 – ดับไฟได้หมด

แต่ไฟยังไหม้ในตัวเตาหมายเลข4 เป็นเวลาหลายวัน
#54แว่นจัง • 8/6/2555 18:54
ยอดผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ดังกล่าวโดยตรงจากทั้งได้รับรังสีมีประมาณ36คน รวมถึงเหตุการณ์เฮลิคอปเตอร์ตกหลังจากบินชนสายเคเบิลด้วย เช่น

Alexander Akimov วิศวกรผู้ควบคุมงานซึ่งในตอนแรกให้เป็นแพะรับบาปหายนะทั้งหมดที่เกิดขึ้น จากการสอบสวนพบว่าAnatoly Dyatlov ซึ่งเป็นหัวหน้าทีมวิศวกรซึ่งเป็นหัวหน้าใหญ่สั่งให้ตัวเขาทำการทดสอบเตาหมายเลขที่4 ทั้งที่เขาเห็นว่าทำไปอาจเกิดอุบัติเหตุได้ หลังจากเกิดระเบิดตัวอาคิมอฟและทีมพยายามควบคุมเตาที่4 และตัวเขาเสียชีวิตจากอาการป่วยที่ได้รับรังสีมากเกินไป หลังจากนั้น2สัปดาห์
#55แว่นจัง • 8/6/2555 18:59




เฮลิคอปเตอร์พร้อมเจ้าหน้าที่4นายที่ส่งไปดับไฟในตัวเตาที่4 ตกเพราะชนสายเคเบิ้ลไม่ใช่เพราะรังสี
#56แว่นจัง • 8/6/2555 19:21
นอกจากนี้ยังมีฮีโร่อีก3คนที่กล้าหาญที่สุดในการปฏิการแก้ไขวิกกฤตเชอร์โนบิล คือ 3 คนที่อาสาดำน้ำไปเปิดประตูระบายน้ำเพื่อให้น้ำที่อยู่ใต้เตาปฎิกรณ์ที่4ระบายออกมา มิเช่นนั้นถ้าน้ำมีอุณหภูมิสูงอาจเกิดระเบิดขึ้นอีก

งานนี้ไม่ง่าย โอกาสรอดริบหรี่เต็มทนแต่พวกเขาก็ทำ น้ำที่ขังอยู่เต็มไปด้วยกัมมันตภาพรังสีที่รั่วออกมา ชุดที่ใส่ก็เป็นแค่ชุดประดาน้ำธรรมดา

ชายทั้ง3คน คือ Alexei Ananenko, Valeri Bezpalov และ Boris Baranov

ไม่มีรายละเอียดที่ตรงกันว่าพวกเขาทำหน้าที่อะไรในโรงไฟฟ้าอ่านบางอันก็บอกว่าตัวอเล็กซ์ซี กับ วาเลรี เป็นวิศวกร บ้างก็ว่าคนควบคุมเครื่องจักร ส่วนบอริสบ้างก็ว่าเป็นทหาร หรืออีกอันบอกเป็นคนงาน

สิ่งที่เขา3คนทำคือ ต้องเปิดประตูระบายน้ำออกมาให้ได้ โดยบอริสจะค่อยส่องไฟที่ใช้ใต้น้ำ แต่ว่าเมื่อลงไปไฟดับทันทีพวกเขาเลยต้องคลำทางไปอย่างมืดๆ ในน้ำกัมมันตภาพรังสี และพวกเขาทำสำเร็จ

ไม่มีรูปถ่ายให้ดูว่า3วีรบุรุษหน้าตาเป็นอย่างไร หาข้อมูลมาก็ไม่ตรงกัน เช่น พอเปิดประตูได้ พวกเขาก็ตายบริเวณนั้นทันทีจากร่างกายที่โดนรังสีเผาไหม้แล้วศพก็ถูกฝังอยู่ในตัวโรงงานที่4ที่ถูกครอบทับ

บ้างก็ลงว่ากลับออกมาได้แต่พอขึ้นมาก็ตาย หรือไปตายที่โรงพยาบาล

แต่ผลสรุปคือเสียชีวิตทั้ง3คน ในช่วงน่าจะระหว่างวันที่26เมษายน-1 พฤษภาคม 1986





ภาพจากหนังมีคนแต่งเพลงให้ด้วย

แก้ไขล่าสุด: 9/6/2555 00:43 โดย แว่นจัง
#57LittleBuff-studio • 8/6/2555 22:02
ข้อมูลเยอะมาก รออ่านต่อนะจ๊ะ
#58แว่นจัง • 9/6/2555 01:21
จริงๆแล้วผู้เสียชีวิตทุกคน และคนที่ป่วยจากการทำหน้าที่เพื่อจะจัดการเชอร์โนบิลจังเตาที่4นั้น ต่างเป็นวีรบุรุษ...แต่จริงๆในใจของทุกคนก็เห็นว่าเชอร์โนบิลเป็นบ้านของพวกเขา จึงทำทุกอย่างเท่าที่จะทำได้

อีกคนนึง คือ ช่างภาพชาวยูเครนvladimir shevchenko เขาเป็นช่างภาพที่มีชื่อเสียงในโซเวียตมาก และงานนี้ก็มีเขาเพียงคนเดียวที่ได้รับอนุญาตจากทางรัฐบาลให้เก็บภาพ

และก็เหมือนกับคนทั่วไป ที่ไม่รู้ว่ารังสีนั้นร้ายแรงขนาดไหน เขาทั้งตระเวนถ่ายรูปทั่วทั้งเมืองรวมทั้งบริเวณโรงไฟฟ้าและบนหลังคาที่เสียหายจากการระเบิดของเตาหมายเลข4

ทำให้เห็นว่าคนงานจำนวนมากไม่ได้มีเครื่องป้องกันที่เหมาะสม แม้แต่ของวลาดิเมียร์เอง ก็มีแค่หน้ากากทั่วๆไป และเตรียมตัวมาน้อยนิด

แน่นอนหลังจากกลับจากเมืองเชอร์โนบิล เขาเริ่มป่วย สุขภาพทรุดลงเรื่อยๆทั้งต่อมไทรอยด์และมะเร็ง เสียชีวิตในปี1987

ก่อนจะสิ้นลมเขาบอกว่าเรื่องที่ยังกังวล คือ ถ่ายภาพเมืองไว้ไม่ทั่ว

กล้องถ่ายรูปถูกฝังพร้อมกับร่างไร้วิญญาณในโลงศพที่ปิดแน่นสนิทด้วย เนื่องจากปนเปื้อนกัมมันตภาพรังสี



#59แว่นจัง • 9/6/2555 02:02
ระเบิดที่โรงไฟฟ้านิวเคลียร์เชอร์โนบิล หรือชื่อย่อ CHnpp (Chernobyl Nuclear Power plant) ก็คล้ายๆระเบิดนิวเคลียร์เพียงแต่ที่ไม่ราพณาสูรเท่าตอนสงครามโลกครั้งที่2แบบที่เกิดกับญี่ปุ่นก็เพราะปฏิกริยาลูกโซ่นั้นไม่ครบ

แต่มันก็คงได้ส่งส่วนที่เหลือจากการระเบิด หรือ Nuclear Fallout ไปทั่วยุโรป

โดยลมพาเจ้าเมฆกัมมันตรังสีลอยตุ๊บป่องๆไปทั่วทวีปยุโรปภายใน2วัน
attachment
แก้ไขล่าสุด: 9/6/2555 11:41 โดย แว่นจัง
#60แว่นจัง • 9/6/2555 11:43
แผนภาพปริมาณรังสีในยุโรปช่วงหลังเกิดการระเบิด
attachment
#61แว่นจัง • 9/6/2555 12:37
ชาวคณะทัวร์เชอร์โนบิลสงสัยกันอีกมั๊ยว่าแล้วโลกรู้ข่าวเชอร์โนบิลได้อย่างไร 25ปีก่อนมือถือและอินเตอร์เนตไม่เป็นที่แพร่หลายอยู่แล้ว และปกติชีวิตในสหภาพโซเวียต หรือหลังม่านเหล็ก เรามักจะได้เห็นแต่วิวสวยๆ รูปสวยๆ นั้นคือโฆษณาชวนเชื่อสไตล์โซเวียต

แน่นอนว่าโซเวียตไม่มีทางออกมาบอกถึงอันตรายนี้แน่ๆ ประเทศที่รู้เป็นประเทศแรก คือ สวีเดน แถมรู้หลังจากเกิดเหตุไปแล้ว2วัน!

มีบทสัมภาษณ์อดีตนักเคมีประจำโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟอสมาร์ค ตั้งอยู่ที่เมืองฟอสมาร์ค เขตปกครองอุปซอลา ห่างจากเมืองหลวงสต็อคโฮม ไปทางเหนือประมาณ 80 กม.และห่างจากจุดเกิดที่เชอร์โนบิลประมาณเกือบ1500 กม.

บทสัมภาษณ์Cliff Robinson คนแรกที่บอกให้โลกรู้ถึงหายนะในเชอร์โนบิล http://sverigesradio.se/sida/artikel.aspx?programid=2054&artikel=4468603
attachment
แก้ไขล่าสุด: 9/6/2555 12:38 โดย แว่นจัง
#62แว่นจัง • 9/6/2555 13:22
"ผมไม่ได้เป็นคนค้นพบมันหรอก ผมแค่ไปอยู่ที่นั้นเท่านั้นเอง" คลิฟฟ์ โรบินสันบอกกับเรดิโอสวีเดนที่บ้านของเขาในอุปซอลา

ก่อนที่โลกจะรู้ถึงอุบัติเหตุครั้งใหญ่ที่เชอร์โนบิล
โรบินสันรู้ว่ามีสิ่งผิดปกติเกิดขึ้น ตอนนั้นเขาเป็นนักเคมีอยู่ที่โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟอสมาร์ค อยู่ทางตอนเหนือของกรุงสต็อคโฮม ระยะห่างประมาณ2ชั่วโมง

ในเช้าตรู่ของวันจันทร์ที่ 28 เมษายน ปี 1986 เขาทานอาหารเช้าอยู่ที่ห้องดื่มกาแฟในโรงไฟฟ้า และเข้าห้องน้ำเพื่อไปแปรงฟัน โดยห้องน้ำตั้งอยู่ระหว่างเขตควบคุมและเขตไม่ควบคุมในโรงงาน และตอนที่จะเข้าห้องล็อกเกอร์ต้องเดินผ่านเครื่องตรวจจับรังสี

เมื่อเดินผ่านเครื่องตรวจก็ส่งสัญญาณเตือน


"มันแปลกมาก เพราะผมยังไม่ได้เดินเข้าไปในเขตควบคุมเลย" โรบินสันบอก

เขาจึงลองเดินผ่านอีก2ครั้ง และในครั้งที่3สัญญาณก็ไม่ดัง ตัวเขาและคนที่ควบคุมจอของเครื่องตรวจจับคิดว่าน่าจะต้องตั้งข้อมูลเจ้าเครื่องตรวจรังสีเสียใหม่

งานของโรบินสันคือคอยดูกัมมันตภาพรังสีภายในโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟอสมาร์ค เขาเล่าย้อนถึงตอนที่เขากลับมาที่ตัวเครื่อง มีแถวพนักงานต่อคิวกันยาวรออยู่ที่เครื่องตรวจ ไม่มีใครผ่านไปได้ เขาบอกว่า เครื่องมันส่งเสียงเตือนตลอด

โรบินสันขอยืมรองเท้าของคนที่ยืนต่อแถวอยู่มา1ข้าง นำเข้าเครื่องตรวจวัดรังสีแบบเจอร์เมเนียมในห้องแล็บ

"แล้วผมก็ได้เห็นสิ่งที่ผมไม่มีวันลืม" เขากล่าว "รองเท้าข้างดังกล่าวปนเปื้อนรังสีสูงมาก ผมเห็นสเปรคตรัมขึ้นสูงมากอย่างรวดเร็ว และที่น่าประหลาดคือองค์ประกอบของรังสีที่พบนั้น ตามปกติเราไม่สามารถพบในน้ำหล่อเย็นที่ฟอสมาร์คได้แน่นอน"

โรบินสันกล่าวต่อว่า "ผมจำได้คร่าวๆว่าผมคิดว่าอาจมีระเบิดนิวเคลียร์ระเบิดขึ้นที่ไหนซักแห่ง"

แก้ไขล่าสุด: 10/6/2555 00:19 โดย แว่นจัง
#63แว่นจัง • 9/6/2555 14:10
เขาจึงเรียกหัวหน้าเพื่อบอกถึงสิ่งที่เกิดขึ้น โดยหัวหน้าให้เขาไปตรวจสอบปล่องของโรงไฟฟ้าเพื่อดูว่าเป็นไปได้หรือไม่ที่โรงไฟฟ้าแห่งนี้จะปล่อยรังสีดังกล่าวออกมา

ทันใดนั้นเองเขาได้ยินเสียงสัญญาณเตือนดังขึ้น แต่คราวนี้เป็นสัญญาณให้พนักงานอพยพ

โรบินสันยังอยู่ในโรงไฟฟ้าเขากำลังวิเคราะห์ตรวจอย่าง "ในโรงไฟฟ้าฟอสมาร์คไม่มีสิ่งใดทำงานผิดปกติ เพียงแต่สิ่งแวดล้อมโดยรอบปนเปื้อนรังสีอย่างมาก" เขายังบอกอีกว่า "ผมจำได้ว่าผมเครียดมาก ไม่ว่าผมกำลังทำอะไรอยู่ทุกสิ่งทุกอย่างมันผ่านไปช้ามาก"

สหภาพโซเวียตยอมรับอุบัติเหตุที่เกิดขึ้น

ลีฟ โมเบิร์ก ทำงานอยู่ที่องค์การความปลอดภัยทางรังสีแห่งสวีเดน ซึ่งในตอนนั้นเขากำลังทำวิจัยเกี่ยวกับนิวเคลียร์ เขาจำได้ว่าเช้าวันจันทร์ที่รับโทรศัพท์จากโรงไฟฟ้าฟอสมาร์ค

ในตอนแรกโมเบิร์กคิดว่าเป็นไปได้ที่โรงไฟฟ้าฟอสมาร์คมีรังสีรั่วไหล แต่อีก2ชั่วโมงต่อมาเห็นได้ชัดว่าโรงไฟฟ้าดังกล่าวไม่มีรังสีรั่วไหลแต่อย่างใด

ความคิดเริ่มแรกคือรังสีดังกล่าวอาจมาจากระเบิดนิวเคลียร์ แต่การวิเคราะห์ทางเคมีทำให้ขีดฆ่าสาเหตุนี้ออกไป

ทางองค์การได้รับรายงานกัมมันตภาพรังสีในปริมาณสูงจากโรงไฟฟ้านิวเคลียร์อื่นๆด้วยเช่นกัน พวกเขาเลยตรวจสอบทิศทางลมและพบว่าพัดมาจากทางตะวันเฉียงใต้ และเชอร์โนบิลก็บนแผนที่นั้นด้วย

แล้วเหตุการณ์เริ่มเปลี่ยนจากสวีเดนรู้ถึงความผิดปกติจนในที่สุดโลกทั้งใบรู้ถึงเหตุการณ์ดังกล่าวได้อย่างไร

ในวันเดียวกันนั้นเองนักการทูตชาวสวีเดนได้ติดต่อกับทางมอสโคว่ามีอุบัติทางนิวเคลียร์เกิดขึ้นที่นั้นหรือไม่
ทางมอสโคบอกว่าไม่มี ทางสวีเดนจึงเตือนว่าพวกเขาจะยืนหนังสือเตือนอย่างเป็นทางการไปยังทบวงการพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศ และตอนนั้นเองที่โซเวียตยอมรับว่าเกิดอุบัติเหตุขึ้นที่เมืองเชอร์โนบิล

แก้ไขล่าสุด: 10/6/2555 00:17 โดย แว่นจัง
#64แว่นจัง • 9/6/2555 15:18
โมเบิร์กกล่าวว่าตอนนั้นทางองค์การเป็นกังวลมากเนื่องจากไม่ทราบว่าการปนเปื้อนขยายไปเท่าไรแล้ว

กัมมันตภาพรังสีส่งผลกระทบต่อสวีเดน

เมฆกัมมันตภาพรังสีลอยมาตามลมจากเชอร์โนบิลถึงสวีเดนเหมือนกับมังกรที่มองไม่เห็น เจ้ามังกรตัวนี้ไม่ได้พ่นไฟ แต่พ่นน้ำฝนแทนและเมื่อฝนตกลงมา มันก็มาพร้อมกับกัมมันตภาพรังสีด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งทางภาคเหนือและตอนกลางของสวีเดน เช่นที่อุปซอลา เยฟเลอะ เวสเตอร์บอตเตน และที่อื่นๆ

การเก็บอาหารไม่ให้ปนเปื้อนก็เป็นปัญหาในบางพื้นที่เช่นกัน

ทางตอนเหนือของสวีเดนดูดซึมรังสีซีเซียม-137ไว้5%จากรังสีที่เชอร์โนบิลปล่อยมาในอากาศ ซึ่งก็ทำให้เพิ่มโอกาสเป็นโรคมะเร็งด้วย

รังสีได้เข้าไปผสมกับไลเคนที่กวางเรนเดียร์กิน หลังจากมีการฆ่ากวางเรนเดียร์เพื่อนำเนื้อไปขาย พบว่า80%ของเนื้อกว่านั้นปนเปื้อนรังสีมากเกินกว่าจะนำไปขายได้

ผู้เลี้ยงกวางเรนเดียร์ต้องปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการเลี้ยง โดยต้องฆ่ากวางเรนเดียร์ในช่วงต้นปีก่อนที่พวกมันจะไปกินมอส

เจ้าหน้าที่ของสวีเดนต้องยกระดับรังสีที่อญสตให้มีได้ในสัตว์ที่ถูกล่าเพื่อการกีฬา ปลาน้ำจืด ลูกเบอร์รี่ป่า และเห็ด โดยดูว่าสิ่งเหล่าใช้ประกอบในการทำอาหารในสวีเดนจำนวนไม่มากแม้กระทั่งปัจจุบันยังกวางเรนเดียร์บางส่วนที่ขายไม่ได้เนื่องจากพวกมันมีกัมมันตภาพรังสีอยู่มากเกินไป

25ปีผ่านไป สิ่งที่หลงเหลือจากเชอร์โนบิล คือ ในอาหารและร่างกายของคนเรางั้นหรือ? ลีฟ โมเบิร์กจากองค์การความปลอดภัยทางรังสีแห่งสวีเดน กล่าวว่าจำนวนรังสีตอนนี้อยู่ในระดับครึ่งชีวิตแล้ว แต่ไม่ใช่สำหรับซีเซียม-137ซึ่งสร้างปัญหาให้กวางเรนเดียร์ เพราะครึ่งชีวิตของซีเซียม-137 คือ 30ปี นั้นหมายความว่าอีกกว่าครึ่งหนึ่งของซีเซียม-137 ยังคงเหลืออยู่ในสวีเดน

แต่ว่ารังสีปริมาณมากที่ฝังตัวในดินเหนียว ซึ่งหมายความว่าไม่ปลอดภัยสำหรับใช้ปลูกพืช และเห็ดก็สามารถมีอนุภาคของรังสีอยู่ในปริมาณที่สูง แต่ถ้าไม่ได้บริโภคอาหารจำพวกนี้ในปริมาณที่มากเกินไปก็ไม่ต้องไปกังวลอะไร

โมเบิร์กบอกว่าเชอร์โนบิลไม่ส่งผลต่ออัตราการป่วยเป็นมะเร็งและอัตราการตายในสวีเดน
#65แว่นจัง • 9/6/2555 16:50
ผลกระทบถาวร?

ในท้ายที่สุด เป็นการยากที่จะบอกว่าเชอร์โนบิลส่งผลกระทบมากเพียงใดต่อสวีเดน

ในแง่นโยบายก็ไม่มาก การละลายบางส่วนที่เกิดขึ้นที่โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ทรีไมล์ในอเมริกาเพียงไม่กี่ปีก่อนเชอร์โนบิลทำให้ชาวสวีเดนลงมติหยุดการใช้พลังจากนิวเคลียร์

แต่เชอร์โนบิลได้จุดประเด็นในการพูดคุยว่าจะทำอย่างใดให้คนงานในโรงไฟฟ้าทำงานด้วยความปลอดภัยมากขึ้น

มีพิพิธภัณฑ์แห่งหนึ่งในสวีเดนเตรียมฝังบันทึกที่สวีเดนมีต่อเหตุการณ์เชอร์โนบิล

มันจะนานอีกเท่าไรที่ฝุ่นจากเชอร์โนบิลจะถูกชำระล้างได้หมดสิ้นในความหมายตรงตามตัวอักษรและเปรียบเทียบ(เปรียบเทียบถึงความทรงจำเหตุการณ์ดังกล่าว)

คลิฟ โรบินสัน นักวิทยาศาสตร์ผู้ทำให้เครื่องตรวจรังสีดังเมื่อ25ปีก่อน ยอกว่าเหตุการณ์เชอร์โนบิลไม่ได้หลอกหลอนเขาด้วยตัวของมันเอง แต่มันก็ยังอยู่ในใจของเขาเป็นครั้งคราว

"เมื่อตอนที่ผมได้ข่าวจากญี่ปุ่นเช่นทุกวันนี้ แล้วข่าวนั้นก็ทำให้ผมนึกถึงเชอร์โนบิล" เขากล่าวทิ้งท้าย
#66แว่นจัง • 9/6/2555 17:11
ในวันที่ 28 เมษายน นอกจากสวีเดนจะตรวจจับรังสีปริมาณมหาศาลที่รั่วออกมาแล้ว นอร์เวย์ ฟินแลนด์ ต่างก็ตรวจจับรังสีได้เช่นกัน

อีกประมาณ5ชั่วโมงต่อมา ทางเครมลินจึงให้ออกข่าวผ่านทางรายการทีวีของโซเวียตชื่อ"วเรเมีย"(Вре́мя)ที่ออกข่าวว่า เกิดอุบัติที่โรงไฟฟ้าเชอร์โนบิล หนึ่งในเตาปฏิกรณ์ได้รับความเสียหาย มีการออกมาตรการเพื่อใช้แก้ไขเหตุการณ์ดังกล่าวแล้ว และมีการให้ความช่วยเหลือสำหรับผู้ได้รับผลกระทบ ทางรัฐบาลได้ตั้งคระกรรมการสอบสวนถึงอุบัติเหตุดังกล่าว



#67แว่นจัง • 9/6/2555 17:31
หลังจากนั้นก็แทบไม่มีข่าวออกมาอีกเลยว่าสถานการณ์ที่เชอร์โนบิลเป็นอย่างไรบ้าง แม้แต่ผู้อยู่ในยูเครนก็ไม่สามารถรู้ถึงชะตากรรมของประเทศตน พวกเขาเลยต้องหันมาพึ่งสถานีวิทยุต่างชาติในการรับฟังข่าวสาร เช่น Voice of America, Radio Liberty เป็นต้น

ในวันถัดมา ทางเครมลินได้ออกข่าวแจ้งอีกว่าอุบัติเหตุที่เชอร์โนบิลมีผู้เสียชีวิต2คน ตอนนี้สถานการณ์สงบและสามารถควบคุมได้แล้ว ทุกคนที่ได้ข่าวนี้ต่างก็รู้สึกถึงความผิดปกติ และไม่มีใครเชื่อรัฐบาลโซเวียตอีกต่อไป ในวันที่ 30 เมษายน กัมมันตภาพรังสีจากแถบสแกนดิเนเวียนพัดกลับมาที่เบลารุสและยูเครน และดาวเทียมอเมริกาถ่ายภาพเห็นความเสียหายของโรงไฟฟ้าเชอร์โนบิลและยังเห้นว่าเตาปฏิกรณ์หมายเลข4 ยังมีไฟลุกไหม้อยู่
ตอนนี้ทางอเมริกาได้เสนอความช่วยเหลือมายังยูเครนแต่ทางเครมลิมปฏิเสธความช่วยเหลือดังกล่าวทั้งจากรัฐบาลอเมริกาและองค์กรอาสาสมัครต่างๆจากอเมริกา

ในตอนนั้นสื่อต่างทั้งCNNและCBS ออกข่าวที่ได้รับมาจากแหล่งข่าว เช่น ชายชาวนิวยอร์กที่มีน้องชายทำงานในโรงพยาบาลที่ยูเครนที่บอกว่ามีคนตายนับร้อย และมีจำนวนเพิ่มขึ้นเรื่อยๆจนโรงพยาบาลแทบรับไม่ไหว ส่วนนักเรียนชาวฝรั่งเศสที่เที่ยวอยู่ในยูเครนบอกว่ามีคนเสียชีวิตกว่า500คน

เวลาผ่านไป4วัน ทางเครมลินก็ยังบอกสบายๆ


ภาพที่สวีเดนกำลังเคลียร์ฟางที่ปนเปื้อนกัมมันตภาพรังสีออก
attachment
#68แว่นจัง • 9/6/2555 18:14
จนกระทั่งวันแรงงาน มิกาอิล กอร์บาชอฟ ผู้นำสหภาพโซเวียตออกมาพบปะประชาชนที่จัตุรัสแดง

ส่วนที่กรุงเคียฟ ยูเครน ทางโซเวียตได้สั่งให้จัดงานฉลองวันแรงงานอย่างเต็มที่ ทั้งเดินขบวนพาเหรด เด็กๆออกมาเต้น

หลังจากนั้นทางโซเวียตก็พยายามปิดกั้นสื่อต่างชาติ ข่าวต่างๆจากนอกโซเวียต ไม่ให้เข้ามา และไม่ให้ข่าวรั่วออกไปจากเมืองเคียฟ

ในวันที่6พฤษภาคมทางเจ้าหน้าที่ในกรุงเคียฟได้ออกประกาศให้ชาวบ้านปิดหน้าต่าง และอยู่แต่ภายในบ้าน และมีการจำกัดการเดินทางในเคียฟ

ส่วนการอพยพประชาชนในเมืองปริเปี้ยตเริ่มตั้งแต่วันที่ 28 เมษายน 1986 โดยทางโซเวียตจัดรถมาบัสมารับจำนวน2พันคน โดยให้เวลาประชาชนเก็บของใช้ส่วนตัวเป็นเวลา2ชั่วโมง โดยบอกว่าเป็นการอพยพชั่วคราวไม่นานก็จะได้กลับบ้านทั้งที่จริง...ไม่มีใครได้กลับมาอีกเลย

ประชาชนกลุ่มแรกที่อพยพไปเป็นจำนวน 33,000คน ส่วนนักวิทยาศาสตร์ ทหาร และเจ้าหน้าที่ของทางรัฐบาลยังคงอยู่ในเมืองต่อไป

รูปงานฉลองวันแรงงานบนถนนเครสชาติก ในกรุงเคียฟ
attachment
แก้ไขล่าสุด: 9/6/2555 18:15 โดย แว่นจัง
#69แว่นจัง • 9/6/2555 18:35
ในวันที่ 1 พฤษภาคม มีการอพยพรอบสอง จากเขตกักกัน หรือรัสมี30กม.จากโรงงาน ซึ่งในตอนนั้นรังสีแพร่กระจายไปถึงฝรั่งเศสและเยอรมนีแล้ว


ภาพรถบัสอพยพ
attachment
#70แว่นจัง • 9/6/2555 18:51




คลิปบางส่วนจากการอพยพคนออกจากเมืองปริเปี้ยต
#71แว่นจัง • 9/6/2555 19:00
มีการสร้างเมืองใหม่แทนปรีเปี้ยต นั้นคือ เมืองชื่อว่า สลาวูติค (Slavutych) โดยเริ่มสร้างเมืองในช่วงเดือนตุลาคมปี1986 แล้วเสร็จในปี1988 ปัจจุบันมีประชากรประมาณเกือบ 25,000 คน

มีการอพยพอดีตชาวเมืองปรีเปี้ยตมาอาศัยที่เมืองนี้ ในเมืองยังพบอนุเสาวรีย์ที่สร้างให้ผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ที่เชอร์โนบิลอยุ่


ภาพเมืองสลาวูติค
attachment
#72แว่นจัง • 9/6/2555 19:37
เมืองสลาวูติค จะมีสถาปัตยกรรมที่ดูแปลกตามากกว่าเมืองอื่นๆในยูเครน เพราะเป็นเมืองที่สร้างรวมกันของ8ประเทศภายใต้การปกครองของโซเวียต ได้แก่ รัสเซีย ยูเครน ลัตเวีย ลิธัวเนีย เอสโตเนีย จอร์เจีย อาร์เมเนีย และ อาร์เซอร์ไบจัน

ผู้ที่อาศัยหลายคนยังทำงานอยู่ที่โรงไฟฟ้านิวเคลียร์เชอร์โนบิลโดยการเดินทาง คือ นั่งรถไฟสายนานาชาติข้ามมายังพรหมแดนเบลารุสก่อนวกกลับเข้ายูเครน

เมืองนี้อยู่ห่างเชอร์โนบิลเพียงแค่50กม. แต่ที่เลือกสถานที่นี้เพราะมีรางรถไฟอยู่แล้ว แถมยังอยู่ใกล้แม่น้ำนีเปอร์ ซึ่งสะดวกในการขนส่งของในการก่อสร้าง

บ้านสวยดี
attachment
แก้ไขล่าสุด: 9/6/2555 19:40 โดย แว่นจัง
#73แว่นจัง • 9/6/2555 20:03
เมืองนี้ตอนแรกที่สร้างถูกวาดฝันให้เป็นเมืองแห่งศตวรรษที่21(นึกถึงโดราเอมอน)มีมาตรฐานของการครองชีพดีกว่าเมืองโดยมากในยูเครน มีสระว่ายน้ำ โรงเรียนอนุบาล มีศูนย์เยาวชน

ประชาชนเกือบ9พันคน หรือครึ่งของประชากรวัยผู้ใหญ่ที่ทำงานในโรงไฟฟ้าเชอร์โนบิล ต่อมาเมื่อมีการปิดเตาปฏิกรณ์ตัวสุดท้ายเมื่อปี2001 ทำให้คนกว่าตกงานจำนวนมาก ตอนนี้เหลือทำงานอยู่ในโรงไฟฟ้าประมาณ3พันคน ค่าใช้จ่ายต่างๆของเมืองมาจากบริษัทที่ทำหน้าที่บริหารโรงไฟฟ้า เมื่อเตาปิดลง คนตกงานเศรษฐกิจก็ย่ำแย่ลงตามไปด้วย ทำให้ทางรัฐบาลต้องตั้งเมืองนี้เป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษ เพื่อดูแลคนที่ตกงานโดยเฉพาะ

แต่หลายคนก็ออกจากเมืองนี้เพื่อไปหางานทำที่เมืองอื่น

ใจกลางเมือง ดูเงียบๆ
attachment
#74แว่นจัง • 9/6/2555 20:03
โรงเรียนอนุบาล ดูแปลกๆแต่สวยดี
attachment
#75แว่นจัง • 9/6/2555 20:04
อนุสรณ์แก่เหยื่อเชอร์โนบิล น่าแปลกว่ามีภาษาอังกฤษอยู่ด้วย เป็นเหมือนการต่อต้านสัญลักษณ์ความเป็นโซเวียตอยู่ในตัว
attachment
#76แว่นจัง • 9/6/2555 21:23
อนุสรณ์ที่ระลึกนักดับเพลิงกลุ่มแรกที่ขึ้นไปบนหลังคาและชีวิตทั้งหมด
attachment
#77แว่นจัง • 9/6/2555 21:24
ทางเข้าเมืองปริเปี้ยตในปัจจุบัน
attachment
แก้ไขล่าสุด: 9/6/2555 21:26 โดย แว่นจัง
#78แว่นจัง • 9/6/2555 21:26
อนุสรณ์ที่ระลึกครบรอบ20ปี(2006)โดยอุทิศแก่คนที่มีส่วนช่วยสร้างอาคารครอบเตาหมายเลข4ไว้ ซึ้งเป็นคอนกรีตขนาดหนาเพื่อกั้นไม่ให้ รังสีที่ยังอยู่แพร่กระจายออกมา

ด้านหลังคือเตาปฏิกรณ์หมายเลข4 ซึ่งถ้าจะเข้าไปภายในนั้นแทบไม่มีโอกาส เพราะยังอันตรายมากคนที่ใส่ชุดป้องกันเข้าไปอยู่ได้ไม่เกิน2นาที บางครั้งจะมีการส่งหุ่นยนต์เข้าไปเก็บภาพแทน
attachment
แก้ไขล่าสุด: 10/6/2555 00:41 โดย แว่นจัง
#79แว่นจัง • 10/6/2555 00:44
จารึกเป็นภาษาอังกฤษด้วย
attachment
#80แว่นจัง • 10/6/2555 01:15
"โปรดฟัง ชาวเมืองปริเปี้ยตทุกท่าน! สภาเมืองขอแจ้งให้ท่านทราบถึงอุบัติเหตุที่โรงไฟฟ้าเชอร์โนบิล ในเมืองปริเปี้ยตสภาพของกัมมันตภาพรังสีเห็นได้ชัดว่ากำลังอ่อนกำลังลง ทางเจ้าหน้าที่และทหารของพรรคคอมมิวนิสต์กำลังใช้มาตราการสำคัญในการจัดการปัญหานี้ แต่อย่างไรก็ตามเรามีแนวคิดที่จะให้ประชาชนมีความปลอดภัยและสุขภาพที่ที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เด็กๆนั้นมีความสำคัญสูงสุด เราจึงจำเป็นต้องอพยพประชาชนชั่วคราวไปยังเมืองต่างๆที่ใกล้เคียงในเขตเคียฟ โอบาลสต์ ด้วยสาเหตุที่กล่าว การอพยพจะเริ่มวัน27 เมษายน 1986 เวลา บ่ายสองโมง โดยอพาร์เมนท์แต่ละบล็อกจะมีรสบัสประจำอยู่ มีตำรวจและเจ้าหน้าที่เมืองเป็นคนคอยควบคุม แนะนำให้ท่านเตรียมเอกสารสำคัญ ของมีค่าส่วนบุคคล และอาหารจำนวนหนึ่ง นำติดตัวไปด้วย ผู้บริหารของโรงงานแต่ละแห่งจะเป็นผู้ตัดสินรายชื่อว่าพนักงงานคนใดจำเป็นต้องอยู่ในเมืองปรีเปี้ยตเพื่อปฏิบัติหน้าที่ต่อไป ตำรวจจะมีหน้าที่ดูแลบ้านทุกหลังในช่วงอพยพ สหาย,ท่านจงละทิ้งบ้านไว้ชั่วคราว โปรดแน่ใจว่าท่านได้ปิดไฟ อุปกรณ์ไฟฟ้าต่างๆ ปิดน้ำและหน้าต่าง เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โปรดอยู่ในความสงบและปฏิบัติตามคำสั่งนี้ในการอพยพชั่วคราว"

และนี้เป็นคำประกาศอพยพชาวเมืองที่ไม่มีหน้าที่ในโรงไฟฟ้าเชอร์โนบิล การอพยพเริ่มจริงๆในช่วง28 เมษายน 1986



ภาพงานระลึกครบรอบ26ปีของหายนะเชอร์โนบิล เมื่อวันที่ 26 เมษายนที่ผ่านมา ที่เมืองสลาวูติค โดยมีพนักงงานในโรงไฟฟ้าร่วมไว้อาลัยผู้กล้าที่เสียสละชีวิต
attachment
#81แว่นจัง • 10/6/2555 01:51
ต่อพรุ่งนี้เรื่องคนเบื้องหัลงอีกกลุ่มหนึ่ง (กลุ่มใหญ่มาก) พวกเขา คือ Liquidators (ตามที่ทางโซเวียตเรียก) หรือ กลุ่มคนที่ทำหน้าที่เก็บกว่าเศษซากหายนะ

พวกเขามีความสำคัญมาก ทางองค์การอนามัยโลกบอกว่าในช่วงปี1986-1987 มีคนกว่า 2แสน4หมื่นคนถูกเรียกมารับหน้าที่นี้ และมีผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางอีกกว่า6แสนคน มาทำงานนี้ด้วยเช่นกัน

ภาพเหรียญที่ให้ลิควิดเดเตอร์
attachment
แก้ไขล่าสุด: 10/6/2555 01:56 โดย แว่นจัง
#82แว่นจัง • 10/6/2555 23:56
ใครบ้างคือเหล่าลิควิดเดเตอร์ เช่น

นักดับเพลิงทั้งหมด40ชีวิต รวมถึงชุดแรกที่ขึ้นไปดับไฟบนหลังคาตรงบริเวณเตาหมายเลข4

เจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานที่อาคารเตาหมายเลข4 มีรอดกันมา คือ Yuri Korneev, Boris Stolyarchuk และ Alexander Yuvchenko ส่วน Anatoly Dyatlov เสียชีวิตไปเมื่อปี1995 ด้วยอาการหัวใจวาย

หน่วยแพทย์

กองป้องกันภัยพลเรือนจากเมืองเคียฟ

ทหาร

พนักงานขับรถขนส่งคนเข้าไปทำงาน

คนงานเหมืองถ่านหินที่ใช้ประสบการณ์มาสูบน้ำออกเพื่อไม่ให้น้ำปนเปื้อนรังสีปนกับน้ำบาดาล

ทีมเจ้าหน้าที่และทหารที่ทำความสะอาดพื้นที่

ผู้เชี่ยวชาญในสาขาที่เกี่ยวข้อง

อัตราของลิควิดเดเตอร์ผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์นี้ไม่แน่นอน อย่างเช่น สถานทูตยูเครตในเบลเยี่ยมนับจำนวนได้25,000คน

หรือแพทย์ชาวเบลารุสที่ทำงานในบริเวณเตาหมายเลข4บอกว่า จำนวนลิควิดเดเตอร์ทั้งหมด1ล้านคน เสียชีวิตไป1แสนคน

ในขนาดที่องค์การอนามัยโลกประมาณว่า4พันคน โดยบางคนที่เสียชีวิตหลังจากทำงานไม่กี่เดือน ในขณะที่บางคนอาการเพิ่งแสดงและเสียชีวิตลงหลังจากเหตุการณ์ผ่านไปแล้วถึง18ปีก็มี

โดยลิควิดเดเตอร์เป็นชาวโซเวียตทั้งหมดที่ถูกเกณฑ์มาช่วยงาน หลายคนไม่รู้ถึงพิษสงอันร้ายกาจของเจ้ารังสี และต้องเสียชีวิตในเวลาต่อมาอย่างทรมาน ในขณะที่หลายคนรอดมาได้แต่ก็พิการไปตลอดชีวิตก็มี

แนะนำให้ดูเว็บนี้รูปเยอะมาก มีภาพแผลจากรังสีด้วยหนังลอกออกมา แผลพุพองน่ากลัว http://www.corbisimages.com/ImageGroup/5/1308769#p=1&s=25&sort=0

จากภาพเป็นชุดทำงานของทหารลิควิดเดเตอร์ชุดสีเขียวเข้มเป็นผ้าธรรมดาแล้วห่อด้วยแผ่นตะกั่วหนาเพียง2-4 มม.เท่านั้น

attachment
แก้ไขล่าสุด: 10/6/2555 23:58 โดย แว่นจัง
#83แว่นจัง • 11/6/2555 00:06
มีต่อ พรุ่งนี้
#84แว่นจัง • 11/6/2555 13:09
http://www.euronews.com/2011/11/01/chernobyl-liquidators-try-to-storm-parliament/

เรื่องที่น่าเศร้าสำหรับเหยื่อเชอร์โนบิลทุกคนไม่ว่าจะเป็นผู้ที่เคยอยู่ในปรีเปี้ยต หรือ เชอร์โนบิล เบลารุส หรือเมืองอื่นๆนอกเขตกักกัน30กม.ที่ทุกวันนี้ยังมีผู้เจ็บปวด พิการแต่กำเนิด อยู่เป็นจำนวน และแต่ละประเทศไม่มีเงินสำหรับพวกเขาทีใช้ในการรักษา

หลายคนรอความตายไปวันๆ


ภาพของเหล่าลิควิดเดเตอร์ ซึ่งนำมาใช้แทนหุ่นยนต์จากเยอรมนีตะวันตก ญี่ปุ่น และรัสเซียที่ไม่สามารถทนต่อกัมมันตภาพรังสีบริเวณเตาหมายเลข4ที่รุนแรงมาก ทางการโซเวียตเลยส่งลิควิดเดเตอร์ไปแทน และเรียกว่า BIOROBOT

attachment
แก้ไขล่าสุด: 11/6/2555 13:13 โดย แว่นจัง
#85แว่นจัง • 11/6/2555 13:55
ถึงแม้ไม่มีจำนวนที่แน่ชัดว่ามีลิควิดเดเตอร์เสียชีวิตจากเหตุการณ์นี้เท่าไร ที่แน่ๆหลายคนตอนนี้ก็ยังต้องรักษาอย่างต่อเนื่อง ไม่ใช่แค่ป่วยด้วยโรคมะเร็ง ยังมีโรคอื่นๆอีกด้วย

ตั้งแต่ปี1989 จะมีการจัดเชอร์โนบิลเวย์ เป็นการวิ่งเพื่อเป็นการระลึกถึงเหตุการณ์เชอร์ดนบิล และการหาเงินสนับสนุนใช้ในการรักษาผู้ป่วยและคนพิการจากเหตุการณ์ดังกล่าว จัดขึ้นทุกวันที่26 เมษายนของทุกปีที่เบลารุส

อนุเสาวรีย์แก่เหล่าลิควิดเดเตอร์"To those who saved the world"
attachment
แก้ไขล่าสุด: 11/6/2555 13:58 โดย แว่นจัง
#86แว่นจัง • 11/6/2555 14:23
ใครอยากดูภาพเพิ่มเติมในปัจจุบันเชิญเลย http://www.flickr.com/photos/tonisihvonen/4808763266/

โดยเตารุ่น1-4 จะมีปล่อง รุ่น5-6จะคล้ายๆภูเขา โดยหลังจากเกิดเหตุก็ยังมีการดำเนินการสร้างเตา5-6ต่อจนหยุดไปในปี1988 และก็ยังมีการส่งกระแสไฟให้ใช้งานในเขตKiev Oblastจนเตาสุดท้ายปิดทำงานเมื่อปี2001 และรอการแยกชิ้นส่วนเตา ซึ่งทางรัฐบาลยูเครนประกาศว่าจะทำเสร็จให้เรียบร้อยภายในปี2065 ส่วนเชอร์โนบิลจะอยู่ให้ปลอดภัยหมายถึง เก็บหญ้า กินผัก ใช้น้ำได้ตามเดิมต้องรอไปอีก24,000 ปี ข้างหน้า ในตอนนี้ยุโรปที่เคยได้รับผลกระทบ บางที่ยังไม่ให้เก็บของป่ากินเลยนะ

เพราะครึ่งอายุของซีเซียมมันคือ30ปี ตอนนี้ยังไม่ถึงเลยจ้า แค่26ปีเท่านั้น


บ้านในเขตปรีเปี้ยตต้องมีเลขกำกับ ซึ่งทำในช่วงอพยพคนออก
attachment
#87แว่นจัง • 11/6/2555 14:25
โครงการสร้างที่ครอบบริเวณเตาที่4 ครอบทับของเดิมจะเป็นอาคารที่เคลื่อนที่ได้ที่ใหญ่ที่สุดในโลก
attachment
#88แว่นจัง • 11/6/2555 14:28
ภาพโมเดลอาคารเตาหมายเลข4
attachment
#89แว่นจัง • 11/6/2555 14:29
ภาพภายในอาคาร บางส่วนคนถ่าย บางส่วนหุ่นยนต์ถ่าย
attachment
#90แว่นจัง • 11/6/2555 14:30
"เท้าช้าง" ไม่แน่ใจว่าคือลาวาจากสารกัมมันตภาพรังสีที่ไหลออกมาตั้งแต่ตอนระเบิดหรือเปล่า
attachment
#91แว่นจัง • 11/6/2555 14:31
ในห้อง305
attachment
#92แว่นจัง • 11/6/2555 14:32
ห้อง805 ห่อของไว้หมด
attachment
แก้ไขล่าสุด: 11/6/2555 14:32 โดย แว่นจัง
#93แว่นจัง • 11/6/2555 14:35
ภาพปั๊มของเตาหมายเลข4
attachment
แก้ไขล่าสุด: 11/6/2555 14:36 โดย แว่นจัง
#94แว่นจัง • 11/6/2555 14:38
สภาพความเสียหายของอาคารทางตอนเหนือ
attachment
#95แว่นจัง • 11/6/2555 14:40
ภาพห้องควบคุมเตาหมายเลข4


บางคนอาจเคยเห็นภาพที่ถ่ายโดยวลาดิเมียร์ เชฟเชงโก

(น่าจะใช่คนนี้) เป็นภาพที่เหมือนมีฝุ่นเกาะในรูป ฝุ่นคือฝุ่นรังสีทั้งหมด
attachment
#96แว่นจัง • 11/6/2555 14:42
วัสดุกำบังรังสี

ในเตาหมายเลข4 ยูนิตเอเลน่า
attachment
#97แว่นจัง • 11/6/2555 15:29
และส่วนสำคัญที่สุดที่ลืมไม่ได้ คือ Chernobyl Nuclear Power Plant sarcophagus หรือ อาคารครอบเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์หมายเลข4

แล้วทำไมเรียกว่าซาร์โคฟากัส หรือโลงหิน มาจากภาษากรีคที่แปลว่า"กินเนื้อสด" “sarkophagus” ซึ่งหมายถึงหินปูที่บรรจุศพไม่ให้เน่าสลายไปได้ http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B9%82%E0%B8%A5%E0%B8%87%E0%B8%AB%E0%B8%B4%E0%B8%99

โลงหินที่เราคุ้นเคยมาจากอียิปต์
attachment
#98แว่นจัง • 11/6/2555 16:32
เจ้าเตา4มีชื่อภาษารัสเซียอย่างเป็นทางการด้วยว่า ukrytiye คำว่าอูกรีเทียฟ แปลว่า ที่พักอาศัย
รังสีในอาคารดังกล่าวมีทั้งคอเรียม พลูโตเนียม และ ยูเรเนียม ฝุ่นปนเปื้อนรังสี

ในปี1996 มีความพยายามจะซ่อมแซมสภาพภายในเจ้าซาร์โคฟากัสแต่ด้วยรังสีที่มีปริมาณมากถึง 1หมื่นเรินต์เกนต่อชั่วโมง (Röntgen) หรือRoentgen ในภาษาอังกฤษ ตามปกติแล้วจะแค่30-50 ไมโครเรินต์เกนต่อชั่วโมงเท่านั้น
เริ่มออกแบบเมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม 1986 เริ่มสร้างจริงเดือนมิถุนายน และเสร็จปลายเดือนพฤศจิการยน ใช้เวลาก่อสร้าง206วัน

ก่อนจะสร้างต้องเริ่มจากการสร้างตัวหล่อเย็นใต้เตาก่อนเพื่อป้องกันไม่ให้เชื้อเพลิงนิวเคลียร์ปะทุเผาไม้ขึ้นมาอีกครั้ง

เลยมีการส่งคนงานเหมืองถ่านหินจำนวน400คน ลงไปสูบน้ำออกมาและขุดอุโมงความยาว168เมตร แต่เนื่องจากรังสีที่มีอยู่มากทำให้ไม่สามารถทำงานเชื่อมที่เกิดประกายไฟใดๆได้ทั้งสิ้น จึงต้องใช้หุ่นยนต์เข้าช่วย

อาคารนี้ไม่ได้ปิดแน่นทึบหมดแต่อย่างใด ขั้นตอนในการสร้างมี8ขั้นตอน ซึ่งแต่ละขั้นก็มีทั้ง

-เก็บกวาดและลงฐานคอนกรีตบริเวณรอบๆยูนิตที่4
-สร้างกำแพงคอนกรีตเสริมเหล็กรอบๆ
-สร้างกำแพงคอนกรีตเสริมเหล็กแบ่งระหว่างยูนิต3และ4
-สร้างกำแพง
-สร้างที่ค้ำยันกำแพง
-ปิดห้องturbine hall
-สร้าง ค้ำยัน และปิดส่วนต่างๆของยูนิต
-ทำระบบระบายอากาศ


http://www.flickr.com/photos/flat4/5783193613/in/photostream/รูปโรงไฟฟ้า
attachment
#99แว่นจัง • 11/6/2555 18:18
นักวิทยาศาสตร์โซเวียตได้ออกมาบอกไว้เมื่อวันที่ 22 ธันวาคม 1988 ว่าเจ้าตัวอาคารครอบมีอายุใช้งานเพียง20-30ปีเท่านั้น ด้วยความช่วยเหลือของธนาคารเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาแห่งยุโรป จึงมีการสร้างอาคารครอบหลังใหม่ขึ้นมาแทน คาดว่าปี2015นี้น่าจะได้ใช้ และอยู่ไปได้อีกประมาณ100ปีข้างหน้า



อธิบายการก่อสร้างอาคารหลังใหม่
แก้ไขล่าสุด: 11/6/2555 18:29 โดย แว่นจัง
#100แว่นจัง • 11/6/2555 18:28
#101แว่นจัง • 11/6/2555 18:45
ส่วนเรื่องที่น่าเศร้าอีกเรื่องสุดๆ เช่นกัน คือ ผลกระทบต่อชีวิตและสุขภาพ

จำนวนผู้เจ็บป่วบ พิการ และพิการแต่กำเนิด หลังจากเหตุการณ์เชอร์โนบิลเยอะมาก หลายคนเกิดมาพิการก็ถูกทิ้งให้รัฐเลี้ยง ส่วนใหญ่จะมีอาการปัญญาอ่อน อวัยวะผิดปกติ เป็นมะเร็งต่อมไทรอยด์ หรือลูคีเมียก็เป็นจำนวนมาก

อย่างเช่นมะเร็งต่อมไทรอยด์จะมีคำเรียกว่า Chernobyl Necklaceเนื่องจากพอผ่าต่อมไทรอยด์จะถึงรอยไว้ เช่นในรูป
attachment
แก้ไขล่าสุด: 11/6/2555 18:47 โดย แว่นจัง
#102แว่นจัง • 11/6/2555 18:56
ตอนนี้หลายๆประเทศที่เคยอยู่ในสหภาพโซเวียตมีแยกออกมาแล้ว ยังเป็นประเทศยากจนไม่มีเงินในการรักษาผู้ป่วย รวมถึงบุคลากรทางการแพทย์ที่จะรักษา จึงมีองค์กร มูลนิธิต่างๆยื่นมือช่วยเหลือ แต่ก็ยังไม่พอ ในขณะที่ผู้ป่วยบางรายอาจมีอาการเมื่อเวลาผ่านไปหลายปี

เช่น สติลิยัง เปตรอฟ อดีตกัปตันทีมแอสตัน วิลล่าที่ป่วยเป็นลูคีเมีย ซึ่งตอนเด็กเขามาจากโปแลนด์ ในตอนนั้นกว่าที่โซเวียตจะบอกชาวโลกถึงกัมมันตภาพรังสีก็ช้าไปเกือบ2วัน ทำให้เด็กๆได้รับรังสีมากมาย แม้จะไม่ตรวจเจอในตอนนั้น แต่อาจส่งผลเมื่อเป็นผู้ใหญ่ขึ้น อย่างในกรณีของดารา ปรียานุช ปานประดับ ซึ่งเคยไปเรียนที่รัสเซียถึง2ปีก็อาจเป็นไปได้ที่เธออาจจะได้รับกัมมันตภาพรังสี บวกกับสาเหตุต่างๆทำให้เธอป่วยด้วยสารพัดโรคมารุมเร้า

จะว่าไปเพื่อนของแม่จขกท.ก็มีลูกที่น่าจะเสียชีวิตทา
อ้อมจากเจ้าเชอร์โนบิลเหมือนกัน เพราะเกิดที่เยอรมันและอยู่ข้างนอกในช่วงที่กัมมันตภาพรังสีพัดมาแถบเยอรมันในช่วงก่อน1ขวบ และป่วยเป็นโรคเลือดเสียชีวิตหลังจากที่ป่วยไม่กี่วัน


จากภาพ คิวบาก็รับเด็กๆที่ได้รับผลกระทบจากรังสีไปรักษา หลายคนต้องรักษามาตั้งแต่เด็กจนเป็นผู้ใหญ่ และคงต่อไปเรื่อยๆ
attachment
#103แว่นจัง • 11/6/2555 18:57
สารคดี


#104แว่นจัง • 11/6/2555 19:16
พักเรื่องเศร้าๆมาถึงเรื่องที่หลายคนอยากรู้และอยากไป

ตามรอยเที่ยวไปในเชอร์โนบิล และ ปรีเปี้ยต

ตอนนี้ประชากรในเขตอันตรายน่าจะมีราวๆ3พันคน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นพนักงานในโรงงาน จะทำงานเป็นกะ 75%ของพนักงาน จะทำงานกะ4-3 คือ 4วันทำงาน 3 วันหยุด ส่วนอีก25% จะทำงาน15วัน และหยุดอีก15วัน โดยปกติแล้วจะไม่มีใครอาศัยอยู่ ส่วนมากจะอาศัยที่เมืองสลาวูติคแล้วนั่งรถไฟข้ามเบลารุส แล้ววกกลับมาทำงานที่เชอร์โนบิล

คนที่ทำงานต้องได้รับการตรวจสุขภาพอย่างสม่ำเสมอ ส่วนใครจะทำงานหยุดแบบไหนขึ้นอยู่กับสุขภาพของคนเหล่านั้นด้วย


ป้ายเข้าเมืองเชอร์โนบิล
attachment
แก้ไขล่าสุด: 11/6/2555 19:19 โดย แว่นจัง
#105แว่นจัง • 11/6/2555 19:50
การเข้าไปเที่ยวในเมืองปรีเปี้ยตและเชอร์โนบิล น่าจะเริ่มครั้งแรกจริงๆราวๆปี2001

แต่เริ่มพูดกันในหมู่ผู้ใช้อินเตอร์เน็ตตั้งแต่ปี2004เป็นต้นมาเมื่อ Elena Filatova (ชื่อในเนตKid of Speed และ Gamma Girl)สาวช่างภาพที่ขี่มอไซค์ไปปรีเปี้ยตและเชอร์โนบิล แล้วกลับมาลงรูปเล่าเรื่องราวที่เธอไปดูมา จึงเป็นที่ของคำว่า Chernobyl stalker หรือแอบย่องย่ำเที่ยวเชอร์โนบิล

แต่ภายหลังมีไกด์ทัวร์นามว่าYuri Tatarchuk อ้างว่าเอเลน่านั้นจองทัวร์เหมือนคนอื่นทั่วไป ไม่ได้ขี่มอไซค์ แค่ใส่แจ็กเกตมอไซค์มาเท่านั้น

อย่างไรก็ตามนอกจากนี้กระแสเกมS.T.A.L.K.E.R.: Shadow of Chernobyl และ Call of Duty 4: Modern Warfare ยิ่งทำให้ทัวร์ไปปรีเปี้ยตและกับเชอร์โนบิลยิ่งคึกคัก ก่อนที่คนทั้งโลกกลับมาพูดถึงเมืองนี้อีกครั้งหลังจากเหตุการณ์โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ที่ฟุกุชิมะ

ท่อส่งน้ำต้องยกขึ้นเพราะดินปนเปื้อน
attachment
#106แว่นจัง • 11/6/2555 19:50
สถาปัตยกรรมแบบโซเวียต สังเกตว่าเหมือนพึ่งซ่อมแซมใหม่
attachment
#107แว่นจัง • 11/6/2555 19:51
มีต่อนะ
#108AguileraAnimato • 12/6/2555 00:19
แว่นจัง เราแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ในหว้ากอนะ กิ๊ฟล้นหลาม คนอ่านล้นเหลิม
#109แว่นจัง • 12/6/2555 12:05
ของเราให้กิ๊ฟท์ไม่ได้อะ เป็นมือถือ ฮ่าๆๆ
#110แว่นจัง • 12/6/2555 13:56
อยากไปเที่ยวก็ไม่ต้องแอบเข้าไปนะ ไกด์เถื่อนก็ไม่ต้องเชื่อ เสียเงินแล้วจ่ายให้ไกด์ดีกว่า จะเอาตื่นเต้นแอบเข้าไปจะได้แบกรังสีกลับออกมาน่ากลัวยิ่งกว่ามีผีเกาะหลังอีก

สาเหตุที่ไม่ต้องลำบากแอบเข้าไป เพราะตรงทางเข้าเมืองจะมีเช็คพอยท์เพื่อจะรับday pass หากว่าไปโดยไม่มีทัวร์ต้องยุ่งยากมาก ไปกับทัวร์สะดวกกว่าเพราะเขาจัดการให้หมด

แล้วถ้าแอบเข้าไปจับได้เสี่ยงตะรางไม่พอรังสีติดตัวมาอีกยุ่งตาย

มีป้ายเตือนไว้แล้ว
attachment
#111แว่นจัง • 12/6/2555 15:25
ถ้าจะไปเที่ยวดูหนังแล้วกระหายอยากไปสัมผัสเชอร์โนบิลและปรีเปี้ยตทำไงบ้าง


1มีงบประมาณพร้อมแล้ว
2หาบริษัททัวร์ในกูเกิ้ล
3ติดต่อและ ทำพาสปอร์ต

ที่เน้นคือไปกับทัวร์จะสะดวกในเรื่องทำบัตรผ่านต่างๆให้เนี่ยแหละสำคัญสุด

ที่สะดวกสุด เพราะ เขตที่เราต้องเข้าไปเป็นเขตกักกัน30กิโลเมตร และจะเข้าไปได้ต้องมีบัตรDay Pass และจะให้ง่ายๆไม่ยุ่งยาก เพราะเจ้าหน้าที่อาจไม่ถนัดภาษาอังกฤษ คือ ติดต่อบริษัททัวร์ส่วนใหญ่จะอยู่ในเคียฟให้พาไปเที่ยวจัดรถให้ หาที่พักให้ ติดต่อเรื่องบัตรผ่านให้ง่ายที่สุดแล้ว

ตัวเมืองปรีเปี้ยตอยู่ห่างจากเชอร์โนบิลเพียง3กิโลเมตรเท่านั้น

ส่วนคนที่อยากไปเที่ยวแต่งบไม่มีดูรูปไปแทนก่อน

ในนี้มีแนะนำการท่องเที่ยวอยู่

http://wikitravel.org/en/Chernobyl

checkpoint ทางเข้าเชอร์โนบิล
attachment
#112[email protected] • 12/6/2555 15:32
ขอบคุณสำหรับสาระดีๆ
attachment
#113แว่นจัง • 12/6/2555 16:51
ค่าใช้จ่ายส่วนใหญ่อยู่ราวๆ150-300 เหรียญสหรัฐ ถูกหน่อยคือไปเป็นกลุ่ม แต่ถ้าอยากไปคนเดียวก็300แพงหน่อย

ตั้งแต่ช่วงปลายปี2011ทางยูเครนได้ออกกฎห้ามไม่ให้รถบัสทัวร์เข้ามาในเชอร์โนบิล จึงมีการปรับให้เป็นกลุ่มเล็กๆแทน ส่วนจะเข้าไปสำรวจอาคาร บ้าน ร้าง ทางการอาจไม่อนุญาตเนื่องจากสภาพชำรุดทรุดโทรมจนอาจจะเกิดอันตรายได้

และต้องขออนุญาตเข้ามาในเขตกักกันก่อน10วัน ส่วนคนที่อยากเข้าไปดูภายในอาคารโรงไฟฟ้ายกเว้นโรงที่เตาหมายเลข4ตั้งอยู่ ก็ต้องไปขออนุญาตอีกรอบ

รูปนี้ลองทายดูว่ารูปอะไรเป็นอาคารที่อยู่นอกโรงไฟฟ้า
attachment
แก้ไขล่าสุด: 12/6/2555 17:31 โดย แว่นจัง
#114tanyamaniac • 12/6/2555 17:03
กดไลค์ไม่ได้แฮะ ... โฮะๆๆๆ
#115แว่นจัง • 12/6/2555 18:17
หลายคนคงอยากไปดูเจ้าเตาหมายเลข4ในเห็นกันเต็มๆตา

คนทั่วไปเข้าใกล้ที่สุดแค่200เมตรจากตัวอาคาร ถ้าอยากเข้าไปข้างในจริงๆจะต้องเป็นนักวิทยาศาตร์ที่ดูแลด้านนี้อยู่ หรือ ถ้าจะไปถ่ายหนังก็ต้องทำเรื่องขออนุญาตอีกที ซึ่งผู้ที่จะเข้าไปคงต้องตรวจสุขภาพและเตรียมเครื่องมือป้องกันเต็มที่

มีง่ายกว่านี้ เป็นศุนย์สำหรับนักท่องเที่ยวมีข้อมูลพร้อมรูปพร้อมและปลอดภัยกว่าในอาคาร

attachment
#116แว่นจัง • 12/6/2555 18:57
ทัวร์ส่วนใหญ่มักพามาให้อาหารปลาที่ระบบหล่อเย็นหมุนเวียนใต้สะพานรถไฟใกล้อาคารอำนวยการ

ว่ากันว่าปลาตัวใหญ่มาก คงเพราะไม่มีคนจับด้วย หรือไม่ก็มันโดนรังสีหรือเปล่านะ ต้องไปหารูปเก่าๆมาเทียบ

ก่อนหน้าเหตุระเบิดบริเวณนี้เป็นแหล่งตกปลายอดนิยมของชาวเมืองปรีเปี้ยต
attachment
#117แว่นจัง • 12/6/2555 18:58




ใหญ่มากๆ
แก้ไขล่าสุด: 12/6/2555 18:58 โดย แว่นจัง
#118แว่นจัง • 12/6/2555 19:19
ที่เชอร์โนบิลยังมีสถานีรถไฟไว้ขนส่งพนักงานที่อยู่เมืองสลาวูติคมาทำงานในเชอร์โนบิลด้วย ชื่อ Semikhody ถึงแม้จะผ่านเข้าประเทศเบลารุส แต่จะไม่มีการหยุดที่เบลารุส ดังนั้นจึงไม่ต้องใช้บัตรผ่านแดน(Border Pass)และเมื่อลงจากรถไฟแน่นอนมีการตัวสัมภาระ แสกนหารังสีกันอีกด้วย



เริ่มจากสลาวูติค
attachment
#119แว่นจัง • 12/6/2555 19:19
ทางรถไฟ
attachment
#120แว่นจัง • 12/6/2555 19:19
สำหรับผู้ที่จะประสงค์เข้าไปชมภายในตัวอาคารโรงไฟฟ้าสามารถส่งจดหมายโดยแฟกซ์ไปถึงผู้อำนวยการดรงไฟฟ้าIgor Gramotkin โดยแนะนำว่ากลุ่มของเราเป็นใคร ทำไมถึงอยากเข้ามาดู และอยากดูอะไรบ้าง
(ถ้าไปทัวร์ ทัวร์คงติดต่อให้)

ก่อนเข้าไปก็จะมีให้เปลี่ยนชุดใส่เป็นชุดสีขาว เปลี่ยนรองเท้า ตรวจรังสี อนุสรณ์ของValery Khodemchuk เป็นวิศวกร(บ้างก็ว่าช่างเครื่อง)ที่ไม่มีคนพบศพ ซึ่งคาดว่าน่าจะโดนระเบิดกัมมันตภาพรังสีเต็มๆ แล้วก็มีพาไปดูห้องควบคุมต่างๆ


ที่ระลึกถึงValeri Khodemchuk
attachment
แก้ไขล่าสุด: 13/6/2555 20:18 โดย แว่นจัง
#121แว่นจัง • 13/6/2555 20:26
จะเปลี่ยนชุดเป็นแบบเดียวกับที่พนักงานใส่
attachment
#122แว่นจัง • 13/6/2555 20:50
คลิปนี้อธิบายว่าKhodemchuk เสียชีวีตทั้งเป็นโดยโดนฝังอยู่ในห้องที่เป็นปั้มของเตาหมายเลข4



#123แว่นจัง • 14/6/2555 15:01
ปกติช่วงก่อนปี2008 ทัวร์ชอบพาไปเที่ยวหมู่บ้านRossokha ซึ่งเป็นสุสานรถที่ใช้ในการกู้เตาปฏิกรณ์หมายเลข4 ในนั้นจะมีทั้งรถ รถพยาบาล รถบรรทุก หรือแม้แต่เฮลิคอปเตอร์ แต่ช่วงปี2008เป็นต้นมาทั้งรัฐบาลยูเครนห้ามไม่ให้เข้าไปในสุสานรถนี้อีก เนื่องจากว่ายังมีอันตรายจากรังสีในปริมาณสูงอยู่

ทัวร์ก็เลยพาไปดูเรือที่จอดทิ้งไว้ในอู่ต่อเรือและแม่น้ำแทน

สุสานรถที่รอชโชก้า
attachment
#124แว่นจัง • 14/6/2555 15:27
สุสานเรือก็ยังจอดอยู่ริมแม่น้ำปริเปี้ยต เนื่องจากรังสีสูงเกินไปจนอันตรายที่จะใช้งาน เลยจอดทิ้งอยู่แบบนี้

ดูจากคลิป


แก้ไขล่าสุด: 14/6/2555 15:27 โดย แว่นจัง
#125แว่นจัง • 14/6/2555 16:46
และที่ไม่มีทัวร์ใดจะพลาดกับการพาไปชมสวนสนุกร้างที่ดังที่สุดในโลก

prypiat fun park เป็นสวนสนุกที่ทางการเตรียมไว้เปิดเฉลิมฉลองวันแรงงาน ลองนึกย้อนไปถ้าเชอร์โนบิลไม่ระเบิด สวนสนุกนี้คงเป็นที่ชื่นชอบของเด็กๆชาวเมืองเป็นอย่างแน่แท้

สวนสนุกแห่งนี้ตั้งอยู่กลางเมือง และว่ากันวันมีการเปิดให้เล่นในก่อนเตรียมอพยพด้วย
attachment
แก้ไขล่าสุด: 14/6/2555 16:47 โดย แว่นจัง
#126แว่นจัง • 14/6/2555 16:55
ภาพเพิ่มเติม

http://www.artificialowl.net/search/label/.Ukraine
attachment
#127แว่นจัง • 14/6/2555 17:27
เรื่องอาหารการกิน ไม่ต้องห่วงเพราะทัวร์มักพาไปกินที่โรงอาหารภายในโรงไฟฟ้า

แต่ถ้าใครมีอาหารติดตัวไปก็ต้องปิดในมิดชิด เพราะถ้าเอามากินกลางแจ้งปิคนิคกันอาจจะได้บริโภครังสีอีกรอบ
ส่วนน้ำก็พกไปจากเคียฟซึ่งมีทั้งน้ำขวดและน้ำแร่ ส่วนแหล่งน้ำทั่วไปของปรีเปี้ยตและเชอร์โนบิลปนเปื้อนรังสี


รูปมื้ออาหารสไตล์ยูเครนในโรงอาหารที่โรงไฟฟ้า นอกจากเจ้าหน้าที่ยังมีนักท่องเที่ยวมาบ่อย
attachment
#128แว่นจัง • 14/6/2555 17:56
แล้วถ้าอยากค้างทำได้หรือเปล่า

ที่จริงก็ทำได้โดยให้ทัวร์ติดต่อไปที่ ChornobylInterinform Agency Hotel ได้เลย โดยต้องจองล่วงหน้าและวางแผนให้ดี

อาคารที่พักก็ไม่ถึงกับหรูหราแต่ก็ไม่ทรุดโทรมจนเป็นโรงแรมผีสิง เป็นอาคารประกอบสำเร็จตั้งภายหลังเหตุระเบิดดังนั้นก็พอไว้วางใจได้

รูปโรงแรม เขายังมีบริการนำเที่ยวด้วยนะเห็นว่าChernobylInform เป็นองค์กรที่วางแผนและจัดเที่ยวในเชอร์โนบิล
attachment
แก้ไขล่าสุด: 14/6/2555 18:06 โดย แว่นจัง
#129แว่นจัง • 14/6/2555 18:19
ห้องพักส่วนใหญ่เป็นห้องชุด บางห้องก็ใหญ่กว่าห้องอื่น ถ้าโชคดีหน่อยบางห้องจะมีอุปกรณ์อำนวยความสะดวกให้เช่น ตู้เย็น โต๊ะกินข้าว โซฟา หรือ จาน ในห้องพักมีห้องน้ำและฝักบัว น้ำก็อกดื่มได้(เพราะใช้น้ำคนละแหล่งกับที่ปนเปื้อน) ไม่มีWi-Fi ไม่มีแอร์

ที่ต้องระวังมากที่สุด คือ แขกของโรงแรมทุกคนห้ามเดินไปไหนมาไหนนอกโรงแรมโดยไม่มีไกด์ตามไปด้วยเด็ดขาด แม้ว่าจะเดินห่างจากโรงแรมไม่เกิน500เมตร เพื่อไปซื้อของก็ตามที เพราะถ้าไปเดินคนเดียวอาจจะโดนตำรวจจับได้

เรื่องอาหารในโรงแรมมีจัดให้ที่ห้องอาหารชั้นล่าง 10เหรียญสหรัฐสำหรับมื้อเที่ยง หรือ มื้อค่ำ สำหรับคนที่จองห้องไว้ แต่ถ้าจะไปสั่งทานเลยราคาสูงกว่านี้แน่ๆ

ห้องอาหารของโรงแรม เสริฟ์อาหารยูเครน
attachment
แก้ไขล่าสุด: 14/6/2555 18:21 โดย แว่นจัง
#130แว่นจัง • 14/6/2555 19:00
ที่ต้องระวัง คือ การเดินสำรวจในปรีเปี้ยตและเชอร์โนบิล

พวกหญ้า ไลเค่น มอส ต้นไม้ พุ่มไม้ต่างๆก็ยังมีรังสีหลงเหลืออยู่ในปริมาณมาก ดังนั้นอย่าเดินไปไหนสุ่มสี่สุ่มห้าโดยเฉพาะที่มีป้ายปักเป็นสัญลักษณ์รังสี ก็อย่าเข้าไป

การเดินเข้าไปในอาคารส่วนใหญ่ตอนนี้จะห้ามเพราะตัวอาคารหลายแห่งทรุดโทรมลงมาก พวกรังสีก็ยังมีอยู่ตามข้าวของต่างๆ

DUGA-3 เป็นเสาดักจับมิสไซล์ เลิกใช้ปี1989 ตามที่สำคัญในเมืองปรีเปี้ยตยังพบซากหน้ากากกันแก๊สพิษคาดว่าเพื่อป้องกันอเมริกาโจมตีสมัยสงครามเย็น

มีอีกทีหนึ่งแถวๆไซบีเรีย
attachment
#131แว่นจัง • 14/6/2555 19:02
แถมอีก มีสถาปิกArina Ageeva เชื่อว่าตอนนี้เชอร์โนบิลไม่ใช่สถานที่อันตรายสำหรับคนปัจจุบันต่อไป จึงมีการออกแบบโครงการฟื้นฟูให้เป็นแหล่งท่องเที่ยว มีโมโนเรล พิพิธภัณฑ์ ศูนย์ธรรมชาติ

ตามโครงการฟื้นฟูเชอร์โนบิล http://englishrussia.com/2011/11/04/revitalizing-chernobyl/ ดูต่อตามลิงค์
attachment
แก้ไขล่าสุด: 14/6/2555 19:03 โดย แว่นจัง
#132แว่นจัง • 14/6/2555 19:12
ข้อมูล/ภาพ แปลและเรียบเรียงจาก

http://felisal.smugmug.com/Other/Chernobyl/15445951_nzKyN/23/1156527518_KVXY6#!i=1156492165&k=sfZhH



http://wikitravel.org/en/Chernobyl

http://en.wikipedia.org/wiki/Chernobyl_disaster

http://englishrussia.com/page/3/?s=chernobyl&x=12&y=5


http://www.abandon.dk/Prypiat_Ukraine/

http://www.flickr.com/photos/vornaskotti/sets/72157624494301854/

http://chornobyl.in.ua/chernobyl-zvezda-polyn.html

http://kiev2010.com/tag/chornobylinterinform/

http://www.firesuite.com/chernobyl-exclusion-zone-page-2-|-cooling-towers-and-the-bridge-of-death.html

http://www.nationalreview.com/corner/265612/remembering-soviet-response-chornobyl-robert-mcconnell#

http://totallycoolpix.com/2011/04/chernobyl-25-years-later-then-and-now/

http://topicstock.pantip.com/wahkor/topicstock/2012/04/X11949445/X11949445.html

http://www.thetimechamber.co.uk/Sites/Chernobyl/Pripyat/pripyat.php

wikipedia.org

google.co.th

youtube.com

http://forums.filefront.com/s-t-l-k-e-r-soc-general-discussion/379832-my-trip-chernobyl-pictures-56k-ultra-death.html


รูปDay pass
attachment
แก้ไขล่าสุด: 14/6/2555 19:14 โดย แว่นจัง
#133แว่นจัง • 14/6/2555 19:21
จบแล้วจ้า~
attachment
#134madwolf • 14/6/2555 20:17
ได้ความรู้แน่นปึ้กเลยครับ ถ้าให้ผมไปก็ไม่กล้าไปครับ กลัวรังสีอ่ะ
#135bloodynite • 15/6/2555 01:19
ขอบคุณมากๆคะ
#136zadoong • 15/6/2555 18:18
ขอบคุณมากค่ะ คุณแว่นจัง.. อยากไปสักครั้งจังเลย.. ^^
#137lcf58 • 17/6/2555 00:23
ขอบคุณมากๆครับ ได้ความรู้เพิ่มขึ้นอีกเพียบเลย
#138jzyjjx • 20/6/2555 16:35
ขอบคุณค่ะ
#139doraemon99 • 12/7/2555 13:42
สุดยอดอ่านแล้วได้ความรู้ไปเพียบ ขอบคุณมากๆเลยจ้า
#140Herobrine • 15/7/2555 08:31
holy....crap......- -
Login
Function Used time : 0:00:00:00.019
Go Last