มารู้จัก Edgar Allen Poe และผลงานเด่นๆของเค้า กันเถอะ
by AguileraAnimato • วันพฤหัสบดีที่ 19 เมษายน พ.ศ. 2555 15:16
เนื่องด้วยภาพยนตร์เรื่อง The Raven เตรียมจ่อคอหอยเข้าฉายที่บ้านเรา
หนังเล่าเรื่องของฆาตกรโรคจิตที่ก่อเหตุฆ่าต่อเนื่อง โดยนำวิธีการสังหารเหยื่อเลียนแบบจากเรื่องสั้นของ นักเขียนชื่อดัง Edgar Allen Poe
ฉะนั้น ถ้าพวกเราอยากดูหนังเรื่องนี้ให้สนุก ก็ต้องรู้ก่อนว่า เอ็ดก้า อลัน โป เป็นใคร และผลงานที่เด่นๆของเค้ามีเรื่องอะไรกันบ้าง
Edgar Allen Poe คือกวี นักเขียน นักวิจารณ์ ที่มีชีวิตในช่วง ค.ศ. 1809-1849 ช่วงยุคการเคลื่อนไหวของศิลปะแนว romanticism ในประเทศอเมริกา
ผลงานของโปมักจะเป็นแนวฆาตกรรม เรื่องลึกลับ เหนือธรรมชาติ รวมถึงยังเป็นนักเขียนคนสำคัญที่ร่วมบุกเบิกนิยายแนววิทยาศาสตร์ซึ่งเป็นของใหม่ในเวลานั้นให้เกิดการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง นอกจากนั้นเค้ายังได้ชื่อว่าเป็นนักเขียนคนแรกที่เขียนเรื่องแนวรหัสคดี หรือสืบสวนอีกด้วย
เกร็ดน่ารู้เกี่ยวกับ เอ็ดการ์ อัลเลน โพ
• โพ เกณฑ์ทหารในปี 1827 โดยโกหกเรื่องอายุและชื่อของตัวเอง ระหว่างประจำการ เขาก็ได้รับการตีพิมพ์กลอนที่เขาแต่งขึ้นเป็นครั้งแรก โดยเขาปลดประจำการด้วยยศจ่าสิบเอก
• ก่อนที่ โพ จะแต่งงานกับ เวอร์จิเนีย ญาติห่างๆวัย 13 ปีของเขา เธอเคยทำหน้าที่เป็นคนส่งจดหมายรัก ที่เขาเขียนให้กับผู้สาวหลายคนที่เขาเคยมีความสัมพันธ์
• โพ เป็นผู้สร้างกฏเหล็กของการเขียนเรื่องสั้น ที่ทุกอย่างควรจะเกิดขึ้นภายในวันเดียว ที่เดียว และเหตุการณ์เดียว
• โพ มีความสนใจในเรื่องของรหัส การสร้างและแปลรหัส เขามีความภาคภูมิใจในรหัสลับที่เขาคิดค้นขึ้นมา โดย โพ มักจะท้าทายนักอ่าน ให้ลองส่งปริศนามาให้เขาไข ซึ่งทุกครั้งเขาก็จะสามารถถอดรหัสของคนอ่านทางบ้านได้
• ถึงแม้ โพ จะเป็นนักเขียนที่มีอิทธิพลที่สุดคนหนึ่งในโลกวรรณกรรม แต่ความใฝ่ฝันของเขาในการเปิดสำนักพิมพ์เป็นของตัวเองก็ไม่เคยเกิดขึ้น
• โพ เคยพบกับนักประพันธ์ชาวอังกฤษ ชาร์ลส์ ดิกเกนส์ ในขณะที่เขาเดินทางมาบรรยายที่อเมริกา ซึ่ง ดิกเกนส์ สัญญาว่าจะนำผลงานของ โพ มาตีพิมพ์ในอังกฤษ ซึ่งน่าเสียดายว่ามันไม่เกิดขึ้นในระหว่างที่ โพ มีชีวิตอยู่
• โพ เขียนบทกลอนเพื่ออุทิศให้กับผู้หญิงทุกคน ที่มีความสำคัญในชีวิตของเขา
• โพ ถือเป็นเคสตัวอย่างสำหรับกฏหมายเรื่องลิขสิทธิ์นานาชาติ เพราะถึงแม้ผลงานของเขาจะถูกตีพิมพ์มากมายหลายครั้งในช่วงที่เขามีชีวิต แต่เขาก็ไม่เคยได้รับเครดิตหรือค่าลิขสิทธิ์เลย
• บ้านของ โพ และพิพิธภัณฑ์ที่รวบรวมผลงานต้นบับของเขาในบัลติมอร์ กำลังสุ่มเสี่ยงที่จะถูกปิดในช่วงกลางปี 2012 เนื่องจากการตัดงบประมาณ โดยทางเมืองก็ได้ยกเลิกเงินบำรุงพิพิธภัณฑ์ไปตั้งแต่ปี 2010
หนังเล่าเรื่องของฆาตกรโรคจิตที่ก่อเหตุฆ่าต่อเนื่อง โดยนำวิธีการสังหารเหยื่อเลียนแบบจากเรื่องสั้นของ นักเขียนชื่อดัง Edgar Allen Poe
ฉะนั้น ถ้าพวกเราอยากดูหนังเรื่องนี้ให้สนุก ก็ต้องรู้ก่อนว่า เอ็ดก้า อลัน โป เป็นใคร และผลงานที่เด่นๆของเค้ามีเรื่องอะไรกันบ้าง
Edgar Allen Poe คือกวี นักเขียน นักวิจารณ์ ที่มีชีวิตในช่วง ค.ศ. 1809-1849 ช่วงยุคการเคลื่อนไหวของศิลปะแนว romanticism ในประเทศอเมริกา
ผลงานของโปมักจะเป็นแนวฆาตกรรม เรื่องลึกลับ เหนือธรรมชาติ รวมถึงยังเป็นนักเขียนคนสำคัญที่ร่วมบุกเบิกนิยายแนววิทยาศาสตร์ซึ่งเป็นของใหม่ในเวลานั้นให้เกิดการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง นอกจากนั้นเค้ายังได้ชื่อว่าเป็นนักเขียนคนแรกที่เขียนเรื่องแนวรหัสคดี หรือสืบสวนอีกด้วย
เกร็ดน่ารู้เกี่ยวกับ เอ็ดการ์ อัลเลน โพ
• โพ เกณฑ์ทหารในปี 1827 โดยโกหกเรื่องอายุและชื่อของตัวเอง ระหว่างประจำการ เขาก็ได้รับการตีพิมพ์กลอนที่เขาแต่งขึ้นเป็นครั้งแรก โดยเขาปลดประจำการด้วยยศจ่าสิบเอก
• ก่อนที่ โพ จะแต่งงานกับ เวอร์จิเนีย ญาติห่างๆวัย 13 ปีของเขา เธอเคยทำหน้าที่เป็นคนส่งจดหมายรัก ที่เขาเขียนให้กับผู้สาวหลายคนที่เขาเคยมีความสัมพันธ์
• โพ เป็นผู้สร้างกฏเหล็กของการเขียนเรื่องสั้น ที่ทุกอย่างควรจะเกิดขึ้นภายในวันเดียว ที่เดียว และเหตุการณ์เดียว
• โพ มีความสนใจในเรื่องของรหัส การสร้างและแปลรหัส เขามีความภาคภูมิใจในรหัสลับที่เขาคิดค้นขึ้นมา โดย โพ มักจะท้าทายนักอ่าน ให้ลองส่งปริศนามาให้เขาไข ซึ่งทุกครั้งเขาก็จะสามารถถอดรหัสของคนอ่านทางบ้านได้
• ถึงแม้ โพ จะเป็นนักเขียนที่มีอิทธิพลที่สุดคนหนึ่งในโลกวรรณกรรม แต่ความใฝ่ฝันของเขาในการเปิดสำนักพิมพ์เป็นของตัวเองก็ไม่เคยเกิดขึ้น
• โพ เคยพบกับนักประพันธ์ชาวอังกฤษ ชาร์ลส์ ดิกเกนส์ ในขณะที่เขาเดินทางมาบรรยายที่อเมริกา ซึ่ง ดิกเกนส์ สัญญาว่าจะนำผลงานของ โพ มาตีพิมพ์ในอังกฤษ ซึ่งน่าเสียดายว่ามันไม่เกิดขึ้นในระหว่างที่ โพ มีชีวิตอยู่
• โพ เขียนบทกลอนเพื่ออุทิศให้กับผู้หญิงทุกคน ที่มีความสำคัญในชีวิตของเขา
• โพ ถือเป็นเคสตัวอย่างสำหรับกฏหมายเรื่องลิขสิทธิ์นานาชาติ เพราะถึงแม้ผลงานของเขาจะถูกตีพิมพ์มากมายหลายครั้งในช่วงที่เขามีชีวิต แต่เขาก็ไม่เคยได้รับเครดิตหรือค่าลิขสิทธิ์เลย
• บ้านของ โพ และพิพิธภัณฑ์ที่รวบรวมผลงานต้นบับของเขาในบัลติมอร์ กำลังสุ่มเสี่ยงที่จะถูกปิดในช่วงกลางปี 2012 เนื่องจากการตัดงบประมาณ โดยทางเมืองก็ได้ยกเลิกเงินบำรุงพิพิธภัณฑ์ไปตั้งแต่ปี 2010
Replies (7)
ปัจจุบันผลงานของโปถูกนำไปดัดแปลงเป็นบทกวี ละครโทรทัศน์ ละครเวที และภาพยนตร์มากๆ เราจะขอยก 6 ผลงานที่น่าสนใจของเค้ามาให้ชาวคลับได้รู้จักกัน
ผลงานที่น่าสนใจ
The Masque of the Red Death (1842)
พรอสเพอโร ขุนนางผู้สูงศักดิ์ ดินแดนของเขาถูกคุกคามโดยโรคระบาดที่เรียกว่า "มัจจุราชแดง" เขาเชื้อเชิญเพื่อนฝูงผู้ร่ำรวยมาหลบภัยในคฤหาสน์หลังโต และปล่อยให้ชาวบ้านเผชิญหน้ากับชะตากรรมภายนอก
ระหว่างงานบอลรูมธีมหน้ากาก บุคคลลึกลับสวมผ้าคลุมก็ผ่านบุกเข้ามาในคฤหาสน์ พรอสเพอโร เข้าใจว่านี่คือแขกที่ไม่ได้รับเชิญ และเผชิญหน้ากับบุคคลลึกลับ แต่แล้วเขาก็ค้นพบว่านี่คือตัวตนของ "มัจจุราชแดง" ทั้ง พรอสเพอโร และแขกเหรื่อของเขาทุกคนต่างล้มป่วยและเสียชีวิตในเวลาไม่ช้า ภายในเกราะกำลังที่ป้องกันไว้แน่นหนาจากโลกภายนอก
Berenice (1835)
เรื่องราวของผู้ชายที่ชื่อ อีเกอัส ที่แต่งงานกับญาติห่างๆของเขา เบเรนีซ ผู้หญิงที่งดงามที่สุดคนหนึ่ง อย่างไรก็ตามโรคร้ายที่หาสาเหตุไม่ได้ ก็ทำให้สุขภาพของเธอแย่ลงเรื่อยๆ แต่มีเพียงส่วนเดียวที่ยังแข็งแรงก็คือฟันของเธอ
อีเกอัส เริ่มถูกอวัยวะนั้นเข้าครอบงำ เขาคิดถึงฟันของเธอตลอดเวลา แม้กระทั่งจินตนาการว่าเขาถือฟันและพินิจพิเคราะห์มันจากทุกมุม ไม่นานนัก เบเรนีซ ก็สิ้นลมและถูกฝัง
จนกระทั่งวันหนึ่งเขาตื่นขึ้นมาด้วยความรู้สึกที่แปลก พร้อมกับคนใช้ในบ้านที่ส่งเสียงกรีดร้องว่า หลุมศพถูกบุกรุกและ เบเรนีช ยังมีลมหายใจอยู่ อีเกอัส พบว่าเสื้อผ้าของตัวเองเต็มไปด้วยดินโคลนและเลือด และที่ข้างตัวของเขาก็มีกล่องเหล็ก ซึ่งบรรจุไปด้วยฟันสีขาวดั่งงาช้างเปรอะเลือด... ทั้งหมด 32 ซี่
A Cask of Amontillado (1846)
เรื่องราวเกิดขึ้นในเมืองแห่งหนึ่งในยุโรป มงเทรซอร์ มีความบาดหมางอย่างรุนแรงกับ ฟอร์ตูนาโต้ เขามีเวลาว่างมากเกินไปในการคิดค้นหาวิธีแก้แค้น
มงเทรซอร์ รอคอยจนกระทั่ง ฟอร์ตูนาโต้ เมาได้ที่ในเทศกาลคาร์นิวัล ก่อนที่จะล่อเขาให้เข้าไปในห้องเก็บไวน์ ด้วยคำสัญญาว่าจะให้ดื่มไวน์เชอร์รี่ชั้นดีจากสเปน จากนั้นเขาก็ได้ล่าม ฟอร์ตูนาโต้ ที่เริ่มสร่างเอาไว้กับกำแพง ก่อนที่จะก่ออิฐขังไว้ในห้องเก็บไวน์ เพื่อที่ ฟอร์ตูนาโต้ จะได้ “พักผ่อนตลอดกาล”
The Tell Tale Heart(1843)
เรื่องราวเล่าโดยให้ผู้อ่านเป็นบุรุษที่ 2 ซึ่งต้องฟังเรื่องราวจากผู้บรรยาย เสมือนว่าเขากำลังเล่าเรื่องให้เราฟัง ผู้บรรยายพยายามพิสูจน์ว่าตัวเองไม่ได้เสียสติ หลังจากที่เขาก่อฆ่าเพื่อนร่วมห้องวัยชราด้วยอาการคลุ้มคลั่ง ซึ่งเกิดมาจากดวงตาของชายชราที่เขาคิดว่าเหมือน “อีแร้ง”
ผู้บรรยายซ่อนศพเอาไว้ใต้พื้นห้อง จากนั้นตำรวจก็มาถึงสถานที่เกิดเหตุและสอบปากคำเขา ผู้บรรยายก็เริ่มได้ยินเสียงหัวใจที่กำลังเต้น เล็ดรอดมาจากช่องว่างระหว่างไม้บนพื้นห้อง เขาสารภาพความผิดต่อหน้าทุกคน และเล่าถึงเรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้น
The Pit and the Pendulum (1842-1843)
เล่าเรื่องผ่านสติสัมปัชชัญญะของชายคนนึง โดยถ่ายทอดความรู้สึกก่อนตายของเค้า เมื่อต้องทนทุกข์ทรมานจากการไต่สวนของสเปน ในความผิดที่ไม่ระบุ เขาจึงถูกทรมานในห้องมืดที่ตัวเขาถูกนอนมัด อยู่ใต้แพนโดลัม ใบมีดขนาดยักษ์แกว่งไปมาและเคลื่อนตัวลงมาเรื่อยๆ นี่คือเรื่องราวที่มีความพิเศษ ที่ถ่ายทอดสัญชาตญาณของความกลัว เมื่อทุกอย่างถูกเล่าผ่านเพียงแค่มุมมองของนักโทษ ที่ความตายกำลังเคลื่อนเข้ามาใกล้ทุกขณะ
The Raven (1845)
โป เขียนบทกวีชิ้นนี้หลังจากที่แฟนของเค้าตายลง มันจึงเต็มไปด้วยความสิ้นหวัง และหดหู่ และกลายเป็นหนึ่งในผลงานที่มีชื่อเสียงที่สุดของเค้ามาจนถึงทุกวันนี้ บทกวีเล่าถึงชายผู้เศร้าโศกจากการจากไปของภรรยาที่ชื่อ Lenore เค้านั่งอยู่ในคฤหาสน์ด้วยความโศกเศร้าในยามค่ำคืน โดยมีอีกาพูดได้ตัวนึงซึ่งเชื่อว่าเป็นผู้ส่งสารจากโลกหน้า มาเกาะอยู่ข้างๆเค้า ชายคนนั้นเริ่มจมลงในห้วงแห่งความเศร้า เค้าเริ่มสติหลอนสัมผัสได้ถึงการปรากฎตัวของภรรยาที่กลับมาหาเค้า แต่ในขณะเดียวกันเจ้าอีกาก็ได้แต่พร่ำร้องว่า Nevermore (ไม่อีกแล้ว) อยู่ร่ำไป
* รู้ไหมว่าศิลปินเจพ๊อพชื่อดังอย่าง Utada Hikaru ก็เคยแต่งเพลงชื่อ Kremlin Dusk โดยได้แรงบันดาลใจ และยกเอาบางส่วนของบทกวี The Raven มาใช้
"All along I was searching for my Lenore
In the words of Mr. Edgar Allan Poe
Now I'm sober and "Nevermore"
Will the Raven come to bother me at home"
ภาพยนตร์เรื่อง The Raven จะเข้าฉายวันที่ 19 เม.ย.
ผลงานโดย James McTeigue (V for Vendetta) นำแสดงโดย John Cusack (1408, High Fidelity, Con Air)
เรียบเรียงข้อมูลจาก สหมงคลฟิลม์ อินเทอร์เนชั่นแนล
ผลงานที่น่าสนใจ
The Masque of the Red Death (1842)
พรอสเพอโร ขุนนางผู้สูงศักดิ์ ดินแดนของเขาถูกคุกคามโดยโรคระบาดที่เรียกว่า "มัจจุราชแดง" เขาเชื้อเชิญเพื่อนฝูงผู้ร่ำรวยมาหลบภัยในคฤหาสน์หลังโต และปล่อยให้ชาวบ้านเผชิญหน้ากับชะตากรรมภายนอก
ระหว่างงานบอลรูมธีมหน้ากาก บุคคลลึกลับสวมผ้าคลุมก็ผ่านบุกเข้ามาในคฤหาสน์ พรอสเพอโร เข้าใจว่านี่คือแขกที่ไม่ได้รับเชิญ และเผชิญหน้ากับบุคคลลึกลับ แต่แล้วเขาก็ค้นพบว่านี่คือตัวตนของ "มัจจุราชแดง" ทั้ง พรอสเพอโร และแขกเหรื่อของเขาทุกคนต่างล้มป่วยและเสียชีวิตในเวลาไม่ช้า ภายในเกราะกำลังที่ป้องกันไว้แน่นหนาจากโลกภายนอก
Berenice (1835)
เรื่องราวของผู้ชายที่ชื่อ อีเกอัส ที่แต่งงานกับญาติห่างๆของเขา เบเรนีซ ผู้หญิงที่งดงามที่สุดคนหนึ่ง อย่างไรก็ตามโรคร้ายที่หาสาเหตุไม่ได้ ก็ทำให้สุขภาพของเธอแย่ลงเรื่อยๆ แต่มีเพียงส่วนเดียวที่ยังแข็งแรงก็คือฟันของเธอ
อีเกอัส เริ่มถูกอวัยวะนั้นเข้าครอบงำ เขาคิดถึงฟันของเธอตลอดเวลา แม้กระทั่งจินตนาการว่าเขาถือฟันและพินิจพิเคราะห์มันจากทุกมุม ไม่นานนัก เบเรนีซ ก็สิ้นลมและถูกฝัง
จนกระทั่งวันหนึ่งเขาตื่นขึ้นมาด้วยความรู้สึกที่แปลก พร้อมกับคนใช้ในบ้านที่ส่งเสียงกรีดร้องว่า หลุมศพถูกบุกรุกและ เบเรนีช ยังมีลมหายใจอยู่ อีเกอัส พบว่าเสื้อผ้าของตัวเองเต็มไปด้วยดินโคลนและเลือด และที่ข้างตัวของเขาก็มีกล่องเหล็ก ซึ่งบรรจุไปด้วยฟันสีขาวดั่งงาช้างเปรอะเลือด... ทั้งหมด 32 ซี่
A Cask of Amontillado (1846)
เรื่องราวเกิดขึ้นในเมืองแห่งหนึ่งในยุโรป มงเทรซอร์ มีความบาดหมางอย่างรุนแรงกับ ฟอร์ตูนาโต้ เขามีเวลาว่างมากเกินไปในการคิดค้นหาวิธีแก้แค้น
มงเทรซอร์ รอคอยจนกระทั่ง ฟอร์ตูนาโต้ เมาได้ที่ในเทศกาลคาร์นิวัล ก่อนที่จะล่อเขาให้เข้าไปในห้องเก็บไวน์ ด้วยคำสัญญาว่าจะให้ดื่มไวน์เชอร์รี่ชั้นดีจากสเปน จากนั้นเขาก็ได้ล่าม ฟอร์ตูนาโต้ ที่เริ่มสร่างเอาไว้กับกำแพง ก่อนที่จะก่ออิฐขังไว้ในห้องเก็บไวน์ เพื่อที่ ฟอร์ตูนาโต้ จะได้ “พักผ่อนตลอดกาล”
The Tell Tale Heart(1843)
เรื่องราวเล่าโดยให้ผู้อ่านเป็นบุรุษที่ 2 ซึ่งต้องฟังเรื่องราวจากผู้บรรยาย เสมือนว่าเขากำลังเล่าเรื่องให้เราฟัง ผู้บรรยายพยายามพิสูจน์ว่าตัวเองไม่ได้เสียสติ หลังจากที่เขาก่อฆ่าเพื่อนร่วมห้องวัยชราด้วยอาการคลุ้มคลั่ง ซึ่งเกิดมาจากดวงตาของชายชราที่เขาคิดว่าเหมือน “อีแร้ง”
ผู้บรรยายซ่อนศพเอาไว้ใต้พื้นห้อง จากนั้นตำรวจก็มาถึงสถานที่เกิดเหตุและสอบปากคำเขา ผู้บรรยายก็เริ่มได้ยินเสียงหัวใจที่กำลังเต้น เล็ดรอดมาจากช่องว่างระหว่างไม้บนพื้นห้อง เขาสารภาพความผิดต่อหน้าทุกคน และเล่าถึงเรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้น
The Pit and the Pendulum (1842-1843)
เล่าเรื่องผ่านสติสัมปัชชัญญะของชายคนนึง โดยถ่ายทอดความรู้สึกก่อนตายของเค้า เมื่อต้องทนทุกข์ทรมานจากการไต่สวนของสเปน ในความผิดที่ไม่ระบุ เขาจึงถูกทรมานในห้องมืดที่ตัวเขาถูกนอนมัด อยู่ใต้แพนโดลัม ใบมีดขนาดยักษ์แกว่งไปมาและเคลื่อนตัวลงมาเรื่อยๆ นี่คือเรื่องราวที่มีความพิเศษ ที่ถ่ายทอดสัญชาตญาณของความกลัว เมื่อทุกอย่างถูกเล่าผ่านเพียงแค่มุมมองของนักโทษ ที่ความตายกำลังเคลื่อนเข้ามาใกล้ทุกขณะ
The Raven (1845)
โป เขียนบทกวีชิ้นนี้หลังจากที่แฟนของเค้าตายลง มันจึงเต็มไปด้วยความสิ้นหวัง และหดหู่ และกลายเป็นหนึ่งในผลงานที่มีชื่อเสียงที่สุดของเค้ามาจนถึงทุกวันนี้ บทกวีเล่าถึงชายผู้เศร้าโศกจากการจากไปของภรรยาที่ชื่อ Lenore เค้านั่งอยู่ในคฤหาสน์ด้วยความโศกเศร้าในยามค่ำคืน โดยมีอีกาพูดได้ตัวนึงซึ่งเชื่อว่าเป็นผู้ส่งสารจากโลกหน้า มาเกาะอยู่ข้างๆเค้า ชายคนนั้นเริ่มจมลงในห้วงแห่งความเศร้า เค้าเริ่มสติหลอนสัมผัสได้ถึงการปรากฎตัวของภรรยาที่กลับมาหาเค้า แต่ในขณะเดียวกันเจ้าอีกาก็ได้แต่พร่ำร้องว่า Nevermore (ไม่อีกแล้ว) อยู่ร่ำไป
* รู้ไหมว่าศิลปินเจพ๊อพชื่อดังอย่าง Utada Hikaru ก็เคยแต่งเพลงชื่อ Kremlin Dusk โดยได้แรงบันดาลใจ และยกเอาบางส่วนของบทกวี The Raven มาใช้
"All along I was searching for my Lenore
In the words of Mr. Edgar Allan Poe
Now I'm sober and "Nevermore"
Will the Raven come to bother me at home"
ภาพยนตร์เรื่อง The Raven จะเข้าฉายวันที่ 19 เม.ย.
ผลงานโดย James McTeigue (V for Vendetta) นำแสดงโดย John Cusack (1408, High Fidelity, Con Air)
เรียบเรียงข้อมูลจาก สหมงคลฟิลม์ อินเทอร์เนชั่นแนล
แก้ไขล่าสุด: 19/4/2555 15:56 โดย AguileraAnimato
สมัยเรียนชอบหลายเรื่องของโพ
จัดได้ว่าเป็นหนึ่ในกลุ่มนักเขียนแนวDark Romanticism หรือ บางครั้งก็เกี่ยวข้องกับนิยายแนวgothic(Victorian Gothic) จุดเด่นของกลุ่มนี้ คือ พูดถึงเรื่องเกี่ยวกับความตาย การทำลายล้าง และมีการรูปแบบของปีศาจ มาอยู่ในรูปซาตาน หมาป่า แวมไพร์ สัตว์ประหลาด ประกอบกับยุคนั้นเป็นยุคปฏิวัติอุตสาหกรรม วรรณกรรมในยุคนั้น จึงออกมาในแนวทึมๆ เกี่ยวกับด้านวิทยาศาสตร์ การทดลอง การตั้งคำถามเกี่ยวกับจิตใจมนุษย์
นักเขียนเด่น ก็เช่น
Mary Shelley ที่เขียนเรื่องFrankenstein
Lord Byron
Robert Louis Stevenson เรื่อง Strange Case of Dr Jekyll and Mr Hyde
Bram Stroker Dracula
จัดได้ว่าเป็นหนึ่ในกลุ่มนักเขียนแนวDark Romanticism หรือ บางครั้งก็เกี่ยวข้องกับนิยายแนวgothic(Victorian Gothic) จุดเด่นของกลุ่มนี้ คือ พูดถึงเรื่องเกี่ยวกับความตาย การทำลายล้าง และมีการรูปแบบของปีศาจ มาอยู่ในรูปซาตาน หมาป่า แวมไพร์ สัตว์ประหลาด ประกอบกับยุคนั้นเป็นยุคปฏิวัติอุตสาหกรรม วรรณกรรมในยุคนั้น จึงออกมาในแนวทึมๆ เกี่ยวกับด้านวิทยาศาสตร์ การทดลอง การตั้งคำถามเกี่ยวกับจิตใจมนุษย์
นักเขียนเด่น ก็เช่น
Mary Shelley ที่เขียนเรื่องFrankenstein
Lord Byron
Robert Louis Stevenson เรื่อง Strange Case of Dr Jekyll and Mr Hyde
Bram Stroker Dracula
อีกเรื่องนึงที่อยากแนะนำ คือ A rose for Emily ของ William Faulkner แนวSouthern Gothic
เป็นเรื่องของหญิงสาวที่คนในเมืองปฏิบัติต่อเธอราวกับเป็นประชากรกิติมศักดิ์ หลังจากพ่อเธอตายและคนรักเธอหายไป เธอก็เริ่มทำตัวแปลก จนกระทั่งวันที่เธอตายความจริงอันน่าเศร้าก็ปรากฎขึ้น
วงMCRยังเคยเอาเรื่องนี้ไปร้องเป็นเพลง
เป็นเรื่องของหญิงสาวที่คนในเมืองปฏิบัติต่อเธอราวกับเป็นประชากรกิติมศักดิ์ หลังจากพ่อเธอตายและคนรักเธอหายไป เธอก็เริ่มทำตัวแปลก จนกระทั่งวันที่เธอตายความจริงอันน่าเศร้าก็ปรากฎขึ้น
วงMCRยังเคยเอาเรื่องนี้ไปร้องเป็นเพลง
แก้ไขล่าสุด: 19/4/2555 17:05 โดย แว่นจัง
เขาใช่คนเดียวกันกับตัวละครในซีรี่ยส์ master of horror 2 ที่ใช้ชื่อตอนว่า black cat หรือเปล่าครับ จำได้ลางๆว่าตัวละครในเรื่องก็ใช้ชื่อนั้น แล้วภรรยาก็เป็นญาติของเขาที่แต่งงานด้วยเหมือนกัน แล้วเขาก็เขียนนิยายด้วยเหมือนกัน
ถ้าผมจำผิดพลาดก็ขออภัยด้วยนะ
ถ้าผมจำผิดพลาดก็ขออภัยด้วยนะ
คห.4 ใช่แล้วครับ
และ black cat ก็เป็นผลงานเรื่องนึงของโปด้วยครับ
และ black cat ก็เป็นผลงานเรื่องนึงของโปด้วยครับ
รู้จัก The Raven จาก Treehouse of Horror ตอนแรกของ The Simpsons อย่างฮา เห็นด้วยกับไอ้บาร์ทว่าไม่มีความสยองเลยสักนิด
ชอบเรื่อง black cat ค่ะ
Function Used time : 0:00:00:00.039