ประมวลเสียงคัดค้าน หลังหนังไทย "เชคสเปียร์ต้องตาย" ถูกคำสั่ง "ห้ามฉาย"



หลังจากภาพยนตร์เรื่อง "เชคสเปียร์ต้องตาย" ได้รับเรต "ห" หรือ "ห้ามฉาย" จากคณะกรรมการพิจารณาภาพยนตร์และวีดิทัศน์ กรมส่งเสริมวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม เมื่อวันที่ 3 เมษายนที่ผ่านมา

รายงานความคืบหน้าล่าสุดจากเฟซบุ๊ก "Shakespeare Must Die" ระบุว่าผู้สร้างได้เริ่มกระบวนการยื่นอุทธรณ์ผลการพิจารณาของคณะกรรมการฯ ชุดดังกล่าวแล้ว

มติชนออนไลน์ขออนุญาตประมวลความคิดเห็นของผู้ที่แสดงจุดยืนคัดค้านการ"ห้ามฉาย"ภาพยนตร์เรื่องนี้ มาเผยแพร่ ดังนี้

เกษียร เตชะพีระ
อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
(เฟซบุ๊กส่วนตัว)

เชคสเปียร์เด็ก ๆ แมคเบธชิดซ้ายเมื่อเจอพี่ไทย

คือไอ้ที่เกิดขึ้นในบ้านเราสี่ห้าปีหลังนี้ไม่ว่าความมักใหญ่ใฝ่สูงต่ำทรามของสันดานบ้าอำนาจโหดเหี้ยม หักหลัง แย่งชิง โกหกหลอกลวง ปล่อยข่าวเท็จ ป้ายสี ใส่ร้าย ข่มขู่ ทำร้าย อุ้มหาย ลอบสังหาร ฆ่าหมู่กลางเมือง ฯลฯลฯลฯลฯลฯ มันน่าสยดสยองและทำลายศีลธรรมอันดีของมนุษยชาติยิ่งกว่าในหนังเชคสเปียร์ต้องตายไม่รู้กี่เท่าต่อกี่เท่า จนฝรั่งห้ามทัวริสต์เข้าไทยก็ตั้งหลายรอบ ดังนั้น หนังเรื่องนี้ก็ "เด็ก ๆ" นะครับ พี่ไทยเราโหดกว่าแมคเบธเยอะ ดังนั้นที่บอกว่ากลัวคนดูจะแยกแยะเรื่องจริงกับเรื่องแต่งไม่ออกน่ะ เฮ้ย พวกท่านไปอยู่ไหนมา? เมืองไทยนะเว้ยเมืองไทย ศรีเชคสเปียร์ ชิดซ้ายไปเลย

สมศักดิ์ เจียมธีรสกุล
อาจารย์ประจำภาควิชาประวัติศาสตร์ คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
(เฟซบุ๊กส่วนตัว)

โอเค พอรู้แล้วครับ เรื่อง "เช็คสเปียร์ต้องตาย" มันออกมายังไง





อ้างอิงข้อมูลข่าวจาก : http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1333538454&grpid=&catid=08&subcatid=0804

อ่านคอมเม้นจากหลายๆคนลิ้งนี้นะ http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1333538454&grpid=&catid=08&subcatid=0804

มานิตอุทธรณ์เชคสเปียร์ต้องตายห้ามฉายไทย
ไฮไลท์บันเทิง วันอังคารที่ 3 เมษายน พ.ศ.2555 19:13น.


มานิต ศรีวานิชภูมิ เตรียมยื่นอุทธรณ์ หลังคณะกรรมการเซ็นเซอร์สั่งแบน "เชคสเปียร์ต้องตาย" ติดเรท "ห้ามฉายในราชอาณาจักรไทย" ยันเนื้อหาไม่รุนแรง
จากเหตุการณ์เมื่อปี 2553 คณะกรรมการพิจารณาภาพยนตร์และวิดีทัศน์ พิจารณาไม่อนุญาตให้ฉายภาพยนตร์เรื่อง "Insects in the Backyard" ซึ่งกำกับโดย ธัญญ์วาริน สุขะพิสิษฐ์ เพราะมีเนื้อหาขัดต่อมาตรา 29 ใน พ.ร.บ.ภาพยนตร์ พ.ศ. 2551 ด้วยเหตุผลที่ว่า หนังมีเนื้อหาทำลาย และขัดต่อความสงบเรียบร้อย หรือศีลธรรมอันดีของประชาชน หรืออาจกระทบกระเทือนต่อความมั่นคงของรัฐ และเกียรติภูมิของประเทศไทย เช่น บางฉากมีภาพลามกอนาจาร จึงมีความเห็นว่าไม่อนุญาตให้ฉาย

กระทั่งในวันนี้ (3 เม.ย.) ทีมงานผู้ผลิตภาพยนตร์ "เชคสเปียร์ต้องตาย" (Shakespeare Must Die) ได้ออกมาเปิดเผยทางเฟซบุ๊กว่า ภาพยนตร์เรื่องนี้ไม่ผ่านความเห็นชอบจากคณะกรรมการฯ ให้เผยแพร่ ซึ่งก็คือการได้รับ "ติดเรท" หรือ "ห้ามฉาย" นั่นเอง โดยทีมงานเขียนผ่านสเตตัสว่า "หนังเรื่องนี้ไม่ได้รับความเห็นชอบ "ให้ฉาย" จากกรรมการเซ็นเซอร์ จำนวน 7 คน เพราะเกรงว่าคนดูจะแยกไม่ได้ว่าอันไหน "เรื่องจริง" หรือ "เรื่องแต่ง" ก่อนที่จะระบุว่า "เราไม่ได้รับอนุญาตให้ฉายในราชอาณาจักรไทย" ทั้งที่ก่อนหน้านี้ภาพยนตร์ดังกล่าวได้รับการสนับสนุนงบประมาณจากกระทรวงวัฒนธรรม

ซึ่งภายหลังมีมติจากคณะกรรมการเซ็นเซอร์ ให้ระงับการฉายภาพยนต์เรื่องนี้ นายมานิต ศรีวานิชภูมิ ผู้ที่มีส่วนร่วมและกำกับหนังเรื่องกล่าวว่า ตนไม่สามารถรับในการตัดสินครั้งนี้ได้ เพราะเชื่อว่าหนังเรื่องนี้ไม่ได้มีเนื้อหารุนแรงอะไร ทั้งยังเคยนำบทประพันธ์เรื่องไปทำเป็นละครเวที ก็มีผู้คนสนใจมากมาย ซึ่งหลังจากนี้คุณมานิตกล่าวว่าจะดำเนินการให้ถึงที่สุด เพื่อให้คนใทยได้รับชมภาพยนต์เรื่องนี้ อีกทั้งตนเตรียมยื่นอุทธรณ์พร้อมกับเตรียมแถลงข่าวถึงเรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้นต่อไป




ที่มาของข่าว : http://www.innnews.co.th/shownews/show?newscode=370073

ในวันนี้ (3 เม.ย.) ทีมงานผู้ผลิตได้ออกมาเปิดเผยทางเฟซบุ๊กว่าภาพยนตร์เรื่อง "เชคสเปียร์ต้องตาย" (ShakespeareMustDie) ไม่ผ่านความเห็นชอบจากคณะกรรมการฯให้เผยแพร่ภาพยนตร์เรื่องนี้ ซึ่งก็คือการได้รับ "เรต ห" หรือ"ห้ามฉาย" นั่นเอง


อ่านข่าวนี้เพิ่มเติมที่ : http://www.clipmass.com/story/%E0%B8%84%E0%B8%93%E0%B8%B0%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%A3%E0%B8%A1%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B9%80%E0%B8%8B%E0%B9%87%E0%B8%99%E0%B9%80%E0%B8%8B%E0%B8%AD%E0%B8%A3%E0%B9%8C%E0%B8%AA%E0%B8%B1%E0%B9%88%E0%B8%87%E0%B9%81%E0%B8%9A%E0%B8%99-%E0%B9%80%E0%B8%8A%E0%B8%84%E0%B8%AA%E0%B9%80%E0%B8%9B%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%A3%E0%B9%8C%E0%B8%95%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%95%E0%B8%B2%E0%B8%A2-%E0%B8%95%E0%B8%B4%E0%B8%94%E0%B9%80%E0%B8%A3%E0%B8%97-%E0%B8%AB%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%89%E0%B8%B2%E0%B8%A2-%E0%B9%80%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%87-%E0%B8%81%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%84%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%82%E0%B8%B1%E0%B8%94%E0%B9%81%E0%B8%A2%E0%B9%89%E0%B8%87%E0%B9%83%E0%B8%99%E0%B8%8A%E0%B8%B2%E0%B8%95%E0%B8%B4---43990

หัวค่ำวันนี้ "เชคสเปียร์ต้องตาย" (ShakespeareMustDie) ออกสกู๊ปพิเศษทางช่อง TPBS อย่างละเอียด ทำให้ผมทราบข้อมูลอีกหลายๆด้านที่ยังไม่มีโอกาสรับรู้มาก่อน


ปล. ว่าเเต่ถึงกับได้เรต ห นี่เเรงไปป่าว T T"

คุณซามาร่าจำได้ไหมครับ

ว่าผกก. คนนี้คือคนเดียวกับที่สร้างหนังที่เคยโดนแบนมาก่อน "คนกราบหมา"



เรื่องนี้เพื่อนเราได้ดูแล้ว เค้าชอบนะ เป็นหนังการเมืองที่แสบ เจ็บ ไม่ไว้หน้ามากๆ....

^

^

^

เห็นว่าบางฉากในหนังใช้ภาพจากเหตุการณ์จริงด้วยใช่ป๊ะคุงหนึ่ง

ปล. จะมีใครเเอบเอาลงบิททอเร้นให้โหลดป่าวนี่...อยู่บ้านนอก สงสัย อดดู T T"

อดดูไปอีกเรื่อง ...

เนื้อเรื่องมันเป็นยังไงอ่า จขกท.เอาลงหน่อยดิ ;P

เอาจากที่เพื่อนเราเขียนไว้นะ มันได้ดูแล้ว
..
....
......
........


'เชคสเปียร์ต้องตาย' เล่าเรื่องทับซ้อนสองเส้น
เส้นหนึ่งว่าด้วยผู้นำประเทศนาม 'เมฆเด็ด'
กับหนทางสู่อำนาจของเขา ซ้อนทับเข้ากับเส้นเรื่องของละครเวที 'แม็คเบธ'
ที่ผู้กำกับคนหนึ่งจัดแสดงขึ้น เพื่อเป้าประสงค์ทางการเมืองอย่างไม่อ้อมค้อม
ก่อนที่สภาพของเวทีละครจะกลายเป็นแหล่งสังหารหมู่
เมื่อสารทางการเมืองของมันกระทำการได้สัมฤทธิ์ผลในท้ายที่สุด

จริงๆแล้ว ในกลุ่มผู้กำกับหนังไทยทั้งหลายก็คุยกันเรื่องนี้เหมือนกัน

ไม่อยากให้ผู้กำกับเรื่องนี้ "แอ๊บแบ๊ว" บอกว่าไม่ได้เสียดสีหรือวิจารณ์ใคร
โดยอ้างว่า แค่ทำหนังที่ดัดแปลงจากวรรณกรรมของ "เชคสเปียร์" เท่านั้น

เพราะจากองค์ประกอบต่างๆ เช่น เสื้อผ้าหน้าผม ฉาก ภาพ การแสดง ฯลฯ
รวมทั้งเนื้อหา แสดงให้เห็นชัดว่า ต้องการหมายถึงใคร และต้องการเสียดสีใคร

ถ้าให้พูดตรงๆก็คือ หนังต้องการสื่อว่า

"อดีตนายกฯ" กับ "ภรรยาอดีตนายกฯ" ต้องการเป็นใหญ่
จึงวางแผน "ล้มสถาบัน" แล้วยกตัวเองขึ้นมาเป็น "กษัตริย์" เสียเอง
แต่พอได้เป็นแล้ว กลับไม่มี "บารมี" มากพอ สุดท้ายก็พบความวิบัติ

แน่นอนว่า มันคือหนังที่ "เลือกข้าง" อย่างชัดเจน โดยได้ทุนจากกระทรวงวัฒนธรรม
ในสมัยประชาธิปัตย์เป็นรัฐบาล (ซึ่งมีผู้กำกับบางคนที่เป็นเสื้อเหลือง ก็ได้รับทุนนี้)

แน่นอนว่า ด้วยฉากและเครื่องแต่งกายที่ใกล้เคียงกับ "กษัตริย์ไทย" จริงๆเสียเหลือเกิน
จึงปฏิเสธไม่ได้ว่า ผู้สร้างสื่อถึง "สถาบันพระมหากษัตริย์ไทย" และ "สถานการณ์ปัจจุบัน"

แต่ด้วยความที่เป็นหนังเสียดสี ว่าด้วยการฆ่าเพื่อขึ้นมาเป็นใหญ่
จึงมีสิทธิถูกตีความไปได้ถึงเรื่อง "พระเจ้าตาก" หรือว่า "...."
ซึ่งจะทำให้เรื่องบานปลายไปกันใหญ่ กลายเป็นกรณีพิพาทได้

ไม่เห็นด้วยเรื่องที่ผกก.แอ๊บแบ๊วนะครับ

เราว่าอิ๋ง เค ป้าแกชัดเจน และแรงแบบตรงๆมากเลยนะ
เค้าก็ออกมาเขียนแถลงการณ์อยู่นะว่าเค้าไม่ชอบระบบทักษิณ ต่อต้านเรื่องพวกนี้อยู่

ถ้าเคยดูงานเก่าของเค้าเรื่อง พลเมืองจูหลิง ก็จะยิ่งเห็นเลยว่าเธอวิพากษ์วิจารณ์ทักษิณมาตลอด ในกรณีปัญหาเรื่องตากใบตอนนั้นอ่ะครับ

ป.ล. ใครที่ไม่เห็นด้วยกับการเซนเซอร์หนังไปช่วยลงชื่อคัดค้านกันนะครับ

ตามนี้เลย




เรียนทุกท่าน,

ขอเชิญร่วมลงชื่อ หยุดแบนภาพยนตร์ไทย หยุดปิดกั้นเสรีภาพ ไม่เป็นประชาธิปไตย

ด้วยการเขียนชื่อ – ที่อยู่ อาชีพ และความเห็นสั้นๆ(ถ้าต้องการ)

ลงบนอีเมล์และส่งกลับมายัง

[email protected]

โดยเราจะ Print out อีเมล์ของท่านแนบท้ายจดหมายคัดค้าน

ซึ่งจะนำส่งนายกรัฐมนตรีในวัน ๑๗ เมษายนนี้



รบกวนช่วยส่งต่อไปยังเพื่อนๆคนรักหนัง คนรักเสรีภาพ ผู้สนใจจะร่วมลงชื่อด้วยครับ



ขอขอบคุณทุกท่านที่สนับสนุนการรณรงค์ครั้งนี้ ซึ่งมีความหมายกับเรามาก

หากเราไม่คัดค้าน ไม่ต่อสู้ในครั้งนี้ การแบนหนังก็ยังคงเกิดขึ้นอีกกับเรื่องต่อไป ครั้งแล้วครั้งเล่าไม่จบสิ้น



ด้วยความนับถือ

มานิต ศรีวานิชภูมิ

ผู้อำนวยการสร้าง ‘เชคสเปียร์ต้องตาย’

คือ ที่บอกว่า ไม่อยากให้ผู้กำกับแอ๊บแบ๊ว ไม่ได้หมายความว่า ผู้กำกับคนนี้กำลังแอ๊บนะ

ระดับผู้กำกับแรงๆขนาดนี้ คงไม่แอ๊บแบ๊วกันแล้วล่ะ (เว็บ manager ก็เชียร์สุดๆ)

แต่ที่พูดขึ้นมา หมายถึง อยากบอกให้ผู้กำกับทุกๆคนที่โดนแบนหนัง พูดความจริงทั้งหมด
เพราะที่ผ่านมา ผู้กำกับบางคนที่หนังโดนแบน พูดไม่หมด หรือพูดอ้อมๆ หรือ พูดคนละเรื่อง
ทำให้บางครั้ง คนมองคณะกรรมการจัดเรท กลายเป็นเหมือน "ตัวร้าย" ระดับสุดยอดไปเลย

อันที่จริงแล้ว ถือเป็นความซวยของผู้กำกับคนนี้

เพราะได้ทุนสร้างมาตอนรัฐบาลประชาธิปัตย์ แต่หนังดันเสร็จตอนรัฐบาลเพื่อไทย
แต่ถึงได้ฉายตอนรัฐบาลประชาธิปัตย์ ก็มีสิทธิโดนกลุ่มเสื้อแดงเฮโลเผาโรงหนังได้

กระนั้น ข้าพเจ้าอยากจะบอกว่า คนใหญ่ๆในแวดวงหหนังนอกกระแส หลายคนเป็น "แดงตัวพ่อตัวแม่" กันเลยนะ

ดังนั้น ก็อาจยากอยู่เหมือนกัน ที่หนังเรื่องนี้จะได้รับความช่วยเหลือจากคนใหญ่ๆโตๆในแวดวงหนังนอกกระแส 100%

แต่นั่นก็อาจเป็นการ "คิดในแง่ร้ายไปเองของข้าพเจ้า" ความจริงอาจไม่เป็นอย่างนั้นก็ได้

สิ่งที่ข้าพเจ้าอยากเห็นจริงๆก็คือ การที่หนังเรื่องนี้จะได้รับความช่วยเหลือจากคนในแวดวงหนังนอกกระแสเต็มที่
ถ้าได้รับความช่วยเหลือ 100% ก็ถือว่าเป็นนิมิตรหมายที่ดีในการ "สมานฉันท์" โดยไม่มีเรื่องสีเสื้อเข้ามาเกี่ยว

เมื่อใดที่ข้าพเจ้าเห็น หนึ่งในผู้ออกมาประท้วงให้หนังเรื่องนี้ได้ฉาย เป็น "ผู้กำกับเสื้อแดง" ข้าพเจ้าลุกขึ้นปรบมือให้เลย

เอาจริงๆนะ

คณะกรรมการจัดเรทหนังไทย ก็มีอะไรแปลกๆเยอะ

เช่น

คุณทราบหรือไม่ว่า หนังที่มีฉากการฆ่าโหดๆ ตายกันเป็นเบือ ฆ่ากันจะๆ อย่างเรื่อง "407 เที่ยวบินผี"

หนังเรื่องนี้ได้เรท "ท" (สามารถชมได้ทุกเพศทุกวัย)

คุณแมลงปิศาจครับ

พวกสายอินดี้ทั้งหลาย เค้าก็ไม่ได้สะใจที่หนังโดนแบนนะครับ (ถ้าคุณจะบอกว่าผกก.+นักวิจารณ์ ที่เสรีนิยม เสื้อแดงทั้งหลาย ชอบใจที่ผลออกมาเป็นแบบนี้)

อันที่จริงคนกลุ่มนี้แหละที่มักจะออกมาเรียกร้อง แสดงออก ต่อต้านการเซนเซอร์บ่อยๆ เพราะถ้าคุณเลือกจะเป็นเสรีนิยม มันก็ไม่สมควรที่จะเงียบเฉยต่อการเซนเซอร์ทุกประการ... หลายคนเค้าก็ช่วยแชร์การลงชื่อคัดค้านการเซนเซอร์นะครับ

คือไม่ใช่ว่าจะต้องมาช่วยกันเฉพาะพวกตัวเอง อย่าง insect in the backyard หรือ เจ้ย อย่างเดียวสักหน่อย

เพื่อนเราคนนึงก็บอกว่า เค้าต่อต้านการเซนเซอร์ แม้ว่าสื่อนั้นๆ จะคิดคนละข้างกับเค้าก็คาม จะยืนอยู่บนอุดมการณ์คนละแบบกับเค้า....


ป.ล. แต่เอาจริงๆ อิ๋ง เค ก็ไม่อาจนับได้ว่าเป็นเสื้อเหลืองร้อยเปอร์เซนต์ เพราะถึงแม้เธอจะเกลียดทักษิณมาก แต่เธอก็ไม่ชอบสถาบันพอกัน....

เอ่อ... ยังไม่ได้พูดสักคำเลยนะ ว่าผู้กำกับสายอินดี้ สะใจหรือชอบใจที่ผลออกมาแบบนี้

ก็คุณพูดว่าไม่เห็นสายอินดี้ออกมาเรียกร้องอะไรให้หนัง

ตอนนี้เค้าก็กำลังล่ารายชื่อกันอยู่ ไม่มีใครเค้าคิดจะอยู่นิ่งเฉยหรอก ต่อให้พวกเค้าไม่ได้เห็นด้วยกับแนวคิด ผกก. ก็ตาม
เพราะถ้าคนนึงโดนได้ วันนึงเราก็อาจจะกลายเป็นเหยื่อการเซนเซอร์เช่นกัน

เอ่อ... ยังไม่ได้พูดสักคำอ่ะ ว่าไม่เห็นสายอินดี้ออกมาเรียกร้องอะไรให้หนัง

อย่าว่ายังงั้นยังงี้เลยนะ
13 เกมหยอง, ชิงหมาเตอะ และ อีกหลายเรื่องที่พาดพิงทรท. ยังได้ฉายตอนรัฐบาลทักกี้บริหารประเทศอยู่เลย

เหตุผลที่ คนกราบหมา กับเรื่องนี้ห้ามฉายหน้าจะเป็นเพราะไปพาดพิงกับ "บุคคลคนนั้นนั่นแหละ แกเองก็รู้จัก ไม่ต้องแกล้งลืมแล้วมาถามฉันนะว่ามันเป็นใคร" มากกว่านะคับ

คห.21 ก็น่าจะจริงอ่ะครับ เพราะอิ๋ง เค แกไม่ได้แค่แอนตี้ทักษิณ....

สำหรับผมแล้ว หนังมันน่าสนใจมากเลยนะครับ

ส่วนเรื่องของมุมกล้องนั้นจะออกมาดี หรือ ไม่ดียังไงไม่ทราบได้ ...

ส่วนเนื่อเรื่องนั้นก็เสียดสีแน่นอนครับ ไม่รู้ว่ามากหรือน้อย ..

แต่สำหรับผมเองก็ไม่ซีเรียสซักเท่าไหร่นะ .. แต่ว่าอย่างน้อย ก็อยากให้หนังนั้นทำออกมาแบบฉบับ ใต้ดิน ก็ได้ ครับ

ไม่ควรจะกำจัดเสรีภาพจนเกินไป ....

เพราะหนังหลายเรื่องเลยทีเดียวที่ทำออกมาใต้ดิน แต่กลับปลุกกระแสให้คนกลุ่มหนึ่งมีแนวคิด และ ถกเถียงกันถึงเรื่องที่เกิดขึ้น จริง ไม่จริง หรือ ควรจะแก้ หรือ นำไปใช้ หรือ ควรจะแบน หรือ ไม่..

มันมีหนังหลาย ๆเรื่องในต่างประเทศที่ทำออกมา ใต้ดินแล้วแจ้งเกิด ...

เพราะเค้าไม่จำกัดสิทธิเสรีภาพจนเกินไป !!

แต่ก็อย่างว่าละครับ ถ้าเป็นผมละก็ควรให้ทำออกมาให้เสร็จ และดี ไปเลย อาจจะให้ออกฉาย หรือ ไม่ออกฉายนั้นอีกเรื่องนึง ...

แต่กับสิ่งที่คิดว่า ทำแล้ว คุ้มค่า และน่านำมาเปิดเผย มิใช่ปลุกกระแส หรือ เบี่ยงเบนประเด็น หรือ สร้างชนกลุ่มที่ให้นิยมเกิดความแตกแยก...

อันนี้ผมไม่เห็นด้วยแน่ ๆ ...

เพราะการเสพหนังก็เหมือนกับการเสพความรู้ เสพความบันเทิง เสพ แนวคิด และนำไปต่อยอดในการใช้ชีวิตประจำวันได้ ครับ...

แต่ผมเป็นแค่คนตัวเล็ก ๆคนนึงในสังคม คงจะพูดหรือออกความเห็นอะไรได้ เพียงเท่านี้ ... ที่เหลือก็แล้วแต่ พวก เพื่อน ๆหละครับ ..

หากว่า เรื่องนี้ได้รางวัล ระดับสากล อะไรขึ้นมา คนอยากดู มากๆ มันก็จะได้ดูเองแหละ เราว่านะการทำแบบนี้ อะ เหมือน PR ชั้นดีให้หังเรื่องนี้เลยนะ

เปิดใจเนาะมองเป็นงานศิลป์ มันเป็นเรื่องที่แต่งขึ้น

ถ้าเกิดมันเกี่ยวกับเรื่องสถาบันอันนี้ก็สนับสนุนให้แบนจ้ะ !!

ขอค้านคห. 21 นิดนึง ในยุคทักกี้หนังเรื่อง "ยอดชายนายโอ๊กอ๊าก" เจอเล่นงานจนต้องไปหั่นมาใหม่เลย และอย่าว่าแต่หนังเลยแม้แต่ข่าวก็โดนหั่นไปเยอะมาก (ตอนน้องปูนี่ก็ไม่ต่างกันเท่าไหร่ ใคพูดขัดใจโดนไล่ล่าหมด นักข่าวที่ถามตรงๆ แรงๆ โดนเล่นไปหลายคนแล้ว)

ส่วนหนังเรื่องนี้หากมีส่วนที่พาดพิงเบื้องสูงก็เห็นด้วยที่ห้ามฉาย ปกติไม่เคยเห็นด้วยกับการเซนเซอร์ไม่ว่าสื่อประเภทไหนแต่ในฐานะคนไทยก็ควรจะแยกแยะว่ามีเรื่องที่ "ควรเล่น" และ "ไม่ควรเล่น" เหมือนกัน หากหนังพาดพิงเบื้องสูงได้ฉายออกไปน่าจะทำให้เกิดความขัดแย้งในสังคมมากขึ้น และยิ่งกระแสล้มเจ้ากำลังมาแรงจึงไม่เห็นด้วยอย่างยิ่งที่จะห้ามหนังที่มีประเด็นสุ่มเสี่ยงออกฉายช่วงนี้


ปล. ไม่ได้อยากโยงการเมืองเลย แต่พอมีเรื่องเกี่ยวกับเบื้องสูงมันก็เป็นเรื่องที่แยกจากกันไม่ได้แฮะ

ปล. 2 ที่พิมพ์คือตัดสินแค่จากข้อมูลในกระทู้ ตัวหนังจริงๆ หากไม่ได้เกี่ยวกับเบื้องสูงก็ขออภัยทางทีมผู้สร้างที่ด่วนวิจารณ์ไปก่อน ณ ที่นี้