Fando y Lis : บันทึกการเดินทางแห่งรักวิปลาส

by แคปซูลสีฟ้า • วันอาทิตย์ที่ 4 ตุลาคม พ.ศ. 2552 10:14
จากคำพูดของปู่ Jodorowsky "Most directors make films with their eyes. I make films with my cojones."
น่าจะเป็นสิ่งที่การันตีได้ว่าปู๋แก คงติ๊สแตกไม่ใช่เล่น

สืบประวัติหนังเรื่องนี้จาก IMDB ก็พบว่า
ผู้กำกับ Jodorowsky ถึงกับถูกขับไล่จนถึงขนาดต้องหลบหนีจากโรงหนังและคลานขึ้นรถกลับจากการนำภาพยนต์เรื่องนี้ไปฉาย
ในเทศกาลหนัง Acapulco Film Festival 1968 กลุ่มคนที่ไม่พอใจต่างรุมขว้างก้อนหินใส่รถเขา และถูกรัฐบาลเม็กซิโกแบนหนังไปในที่สุด
ก็แหงล่ะคับ ในเมื่อปู่ท่านเล่นทำหนังที่สุดแสนจะป่วย อย่างกับผู้สร้างลืมกินยา ยังรักษาโรคประสาทไม่หายขาด
แต่กลับได้ผลงานที่น่าจะเรียกได้เลยว่า เป็น Masterpiece ของปู่ท่าน จากที่ผมได้ดูหนังของปู่มารวมแล้ว 3 เรื่อง คือ Santa Sangre , Holy Moutain และ Fando y Lis

Fando y Lis (To Tar..... So close and yet so far)

หนังเล่าถึงบันทึกการเดินทางแห่งรักที่วิปลาสของเขาและเธอที่ออกเดินทางไปยังเมือง Tar เมืองที่เล่ากันว่าที่นั่น มีแต่ความสุขสำราญ ดุจดั่งดินแดนในฝัน
เขา คือ Fando ชายหนุ่มรูปหล่อร่างผอม เธอ คือ Lis หญิงสาวแสนสวยผมทองขาพิการ
Fando พา Lis นั่งบนรถเข็น และเข็นพาเธอไปพร้อมกับเครื่องเล่นจานเสียงโบราณ ตุ๊กตา และ กลองแต๊ก
การเดินทางสู่ ทาร์ ไม่มีแผนที่ ไม่มีป้ายบอก ไม่มีถนน พวกเขาต้องออกเดินทางไปตามดินแดนประหลาดที่แห้งผากไร้ซึ่งดอกไม้และต้นไม้
มีเพียงแต่ ทราย กรวด และก้อนหิน ภูเขาสูงชัน ไม่ต่างจาก แกรนด์แคนยอน มิหนำซ้ำระหว่างเดินทางพวกเขาต้องพบกับอุปสรรคและเรื่องประหลาดมากมาย
ทั้งจากผู้คนที่พวกเขาเดินทางผ่าน และจากพวกเขาด้วยกันเอง พร้อมกับจุดจบที่ทำให้คนดูไม่อาจจะรับได้

หนังเล่าเรื่องเป็นบทเพลงแต่ล่ะบท แต่ละฉากดูไร้ที่มาที่ไป ไม่ต้องมีเหตุผล จบฉากนั้นด้วยตัวมันเอง ก่อนที่จะเริ่มฉากใหม่ตามแบบฉบับของปู่ Jodorowsky
แต่ก็พอเอาเรื่องราวมาสานต่อให้พอคิดตามหนังอยู่พอได้บ้าง ไม่ได้สุดโต่งไปเสียทีเดียว
-------------------------------------------------------
ระหว่างดูและเมื่อดูจนจบ สิ่งที่เกิดขึ้นคือ ความรู้สึกกลัวกับสิ่งที่พวกเขาต้องเผชิญ ความสงสารและเวทนา ความโกรธเกลียด กับสิ่งที่เขาทำลงไป
และ ยิ่งไปกว่านั้น ฉากจบที่สุดสะพรึงกลัวอยากให้ คนๆนั้นเป็น Jodorowsky
นี่มันสุดแสน วิปลาส วิปริต ดู Antichrist ยังไม่รู้สึกขนาดนี้ มันก็น่าสมควรแล้ว ที่ Jodorowsky ถูกคนในเทศกาลหนังในปีนั้นอยากเข้าไปรุมกระทืบ


เอาไปเลยครับสำหรับความป่วยสุดขีด 10/10
attachment

Replies (9)

#1แคปซูลสีฟ้า • 4/10/2552 10:27
ภาพเคลื่อนไหวบางส่วนจากหนัง





กดที่นี่เพื่ออ่านข้อความ SPOIL


หนังเล่าเรื่องเป็นบทเพลงแต่ล่ะบท แต่ละฉากดูไร้ที่มาที่ไป ไม่ต้องมีเหตุผล จบฉากนั้นด้วยตัวมันเอง ก่อนที่จะเริ่มฉากใหม่ตามแบบฉบับของปู่ Jodorowsky
แต่ก็พอเอาเรื่องราวมาสานต่อให้พอคิดตามหนังอยู่พอได้บ้าง ไม่ได้สุดโต่งไปเสียทีเดียว

1.First Chant: The Tree Sought Refuge In The Leaf
หนังเปิดฉากด้วย Lis กำลังค่อยๆกินดอกกุหลาบทีล่ะกลีบ อย่างบรรจง หากดอกกุหลาบเป็นสัญลักษณ์ของความรัก
นั่นเหมือน Lis กำลังกลืนกินความรักเข้าไป เธอกำลังหิวโหยหาความรัก
หนังกล่าวถึงเมืองทาร์ ผ่านรูปวาดที่สยดสยอง สวนทางกับการเล่าเรื่องที่บอกว่าเมืองทาร์นี้มีแต่ความสุขสำราญ
ทำให้เรารู้สึกแปลกใจตั้งแต่เริ่มดูว่าที่จริงแล้วการเดินทางครั้งนี้ เขาจะไปดินแดนในฝันหรือดินแดนแห่งความตายกันแน่
Fando พา Lis นั่งบนรถเข็น และเข็นพาเธอไปพร้อมกับเครื่องเล่นจานเสียงโบราณ ตุ๊กตาที่ Lis กอดไว้ในอกตลอดเวลา และ กลองแต๊กสุดรักของ Fando
เรื่องประหลาดแรก ที่พวกเขาเดินทางผ่านไปพบ คือ บาร์แจ๊สที่มีนักเล่นเปียโนเล่นจนไฟลุก พร้อมกับพวกคนชั้นสูงเต้นรำบนฟลอร์ ท่ามกลางซากปรักหักพังและสุสานรถเก่า
การเดินทางของทั้งคู่เป็นเหมือนบททดสอบความสัมพันธ์ เพราะ Lis ซึงขาพิการจะอยู่ไม่ได้หากไม่มี Fando ในขณะที่ Fando เองก็รับปากว่าเขาจะไม่ทิ้งเธอ
Fando ถูกผูกผ้าปิดตา กลับทนความยั่วเย้าไม่ไหวจากการสัมผัสของหญิงเปลือยให้จูบปากกับคนหนุ่ม ก่อนที่พวกชั้นสูงจะให้เศษเงินกับ Fando เพื่อเป็นค่าตอบแทนในความสนุกสนาน
เป็นเหมือนการล่อลวงให้นอกใจจาก Liz และเป็นเหมือนย้ำว่าพวกชั้นสูงซึ่งมอง Fando ต่ำกว่าพวกเธอและเห็นเป็นของเล่น
ในขณะที่ Lis นั่งกรีดร้องบนรถเข็นเพราะโดนรุมสัมผัสเล่น
มีฉากย้อนอดีตไปถึงวัยเด็ก ที่ Lis อยู่ในคณะละครหุ่นเชิด ที่ตัวเธอเหมือนถูกละเมิดสัมผัสร่างกาย และถูกข่มขืนตั้งแต่ยังเด็ก
ส่วน Fando เมื่อยังเด็กเขามีของเล่นที่เป็นโมเดลหุ่นทหารมากมาย นี่อาจเป็นตัวบอก
ว่า ภายในจิตใจ Fando ของเขาอาจเป็นคนที่ใฝ่หาอำนาจเหนือทุกอย่าง และบทสนทนากับพ่อในตอนต้น ที่ใช่ว่าเขาจะจดจำใครได้ง่ายๆ
ก่อนที่พ่อจะแนะนำให้ Fando ค้นหาเมืองอัศจรรย์ นามว่า ทาร์ หากเขาเคยรู้สึกเหงาและโดดเดี่ยวเกินไป
ที่สุสานหลุมศพ Lis พร่ำร้องเพลงถึงความตาย จะไม่ใครจดจำเธอแต่ Fando บอกว่าเขาจะไปพร้อมกับหมาและดอกไม้
ต่อด้วยฉากที่ทั้งคู่เล่นสนุกแบบวิปริตพร้อมบทเพลงในสุสาน ( ดูเหมือนฉากนี้จะโรแมนติกที่สุดในหนัง )
จบด้วยการฝังตุ๊กตาที่เป็นตัวแทนของ Lis และ Fando ได้ไปเยี่ยม แต่เป็นการถ่ายภาพแบบ รีเพลย์ย้อนกลับ
นะบทนี้ หาก Lis เป็นต้นไม้ Fando ก็คงเป็นใบไม้ที่เป็นร่มเงาคอยให้ความคุ้มครองต้นไม้ต้นนั้น

2.Second Chant : And Tar Was Inside His Head
ทุกอย่างดูเหมือนจะยุ่งยากและลำบากมากขึ้น เมื่อหนทางไม่ได้ราบรื่นอย่างที่คิด หุบเขาหินและเหวลึก ที่พวกเขาต้องข้ามไป
เป็นอีกบททดสอบ ที่ Fando จะพา Lis ไปได้อย่างไร
Fando จับ Lis แบกไพล่หลังเอวไว้ และ Lis ก็ จัดวางร่างกายแข็งทื่อเป็นเส้นตรงขนานกับพื้นดิน (เป็นท่าแบกที่เท่ห์มาก)
"คำตอบมีอยู่เสมอ ต่อให้มันจะเหนื่อยยากแค่ไหน" Fando ย้ำกับ Lis ให้ เราคิดถึง เมือง ทาร์ เอาไว้
เมื่อพบทางตันเขาได้รับการช่วยเหลือจากชายแก่ที่ออกจะหื่นไปซะหน่อยกับรูปปั้นหุ่นวีนัส ภาพที่ชายแก่กำลังสวมกอดหญิงอ้วนเปลือยท่อนบน
ซึ่งงดงามต่างจากวีนัสโดยสิ้นเชิง Fando ได้รับการชี้ทาง ไปสู่เมือง ทาร์
พวกเขาต้องผ่านฝูงคน ที่กำลังเกลือกกลิ้งอยู่ในบ่อโคลน ก่อนที่จะลุกขึ้นมาเริงร่าเต้นระบำไปตามเสียงกลอง ที่เป็นสัญลักษณ์นี่คือกลางคืน
(แต่ดูอย่างไร มันก็คือกลางวัน)
เรื่องราวของทั้งคู่ ดูจะน่ารักมากขึ้น เมื่อ Fando แกล้งปล่อย Lis อยู่ในบ่อโคลน และทำว่าหนีไป
Lis ได้แต่พร่ำร้อง อย่าทิ้งเธอๆ ก่อนที่ Fando จะกลับมารับเธอและเดินทางต่อ กับคำพูดที่ว่า " เมื่อถึง ทาร์เขาจะซื้อเรือให้ Lis นั่ง และเขาจะมีลูกกับเธอหลายๆคน"
จากการเดินทางที่ลำบากผ่านก้อนหินและทราย ไม่มีแม้ดอกไม้ให้ชื่นชม Fando เริ่มอารมณ์แปรปรวนให้ Liz ชม ดอกไม้ว่าสวยไหม (ทั้งที่จริงเป็นแค่หินที่เรียงกันคล้ายดอกไม้)
แต่ Lis ไม่เห็นดอกไม้ และเริ่มร้องไห้ ไปทาร์ ไปทาร์ จน Fando ลากเธอลงจากรถ และลากเธอไปกับพื้นที่เต็มไปด้วยกรวดและหินแหลม พร้อมสบถที่ Lis เอาแต่ร้องไห้
แต่เขาสิต้องทำทุกอย่างเหนื่อยและลำบาก
Fando ทิ้ง Lis และออกเดินไปตามทางของเขา พบกับ สาวชั้นสูง 3 คน ตั้งโต๊ะเล่นไพ่โดยมี ทาสชายนอนเปลือยสวมกางเกงในตั้งเตียงนอนข้างๆ
พวกเขาพนันกันด้วยลูกพุทรากระป๋อง และผลัดกันป้อนพุทราให้ทาสชายกิน แลกกับการจุมพิตปาก เมื่อทั้งสามเห็น Fando ก็พยายามเสนอพุทราให้เขากิน
เมื่อ Fando ไม่รับ ก็ถูกพวกนั้นเรียกว่า "อีกะเทย"
Fando ลูกโบว์ลิ่งมรณะที่ถูกโยนใส่ครั้งแล้วครั้งเล่า อย่างกับว่าเขาเป็นลูกพิน ทุกครั้งที่ล้มจะมี สาวผิวดำมือถือแส้คอยไล่ฟาด และฟาด
ก่อนที่ Fando จะพบหลุมศพพ่อ และ พ่อขึ้นมาไล่พวกนั้นไป
Fando เห็นภาพชายร่างใหญ่ กำลังเอามีดผ่าตรงอวัยวะเพศของตุ๊กตาจนเป็นรูกว้าง และจับงู ยัดใส่ลงไปในรูนั้น
เขารีบวิ่งกลับไปที่ ที่ทิ้ง Lis ไว้คนเดียว พบเธอกำลังนั่งร้องไห้ ฝ่าเท้าเต็มไปด้วยเลือด Fando ค่อยๆเอาลิ้นตวัดเลียเลือด
ที่เท้าของ Lis และเธอมีสีหน้าเคลิบเคลิ้มมีความสุข


3.Third Chant : The Solitary Man Is Always Accompanied
ความหวานชื่นเริ่มมาหาทั้งคู่อีกครั้ง ทั้งคู่พร่ำบอกรักกัน โดยมีฝูงแพะดำแกะขาวเป็นพยานอยู่โดยรอบ
เมื่อเดินทางต่อ พวกเขาพบกับกลุ่มสาวประเภทสอง จับพวกเขาถอดเสื้อผ้า แต่งตัวสลับกัน
Fando เป็น Lis และ Lis เป็น Fando ทำให้เราได้เห็นถึงความรักที่พวกเขามีต่อกันเมื่อมีภาพย้อนอดีต
ที่ Fando คร่อมตัวทับร่างของ Lis และเขียนชื่อเขาไว้ทั่วร่างเปลือยตัวของเธอ และ Lis (เดินได้แฮะ แสดงว่าขามาพิการทีหลัง)
เดินเขียนชื่อ Fando ไปทั่วผนัง จากนั้นทั้งห้องก็เจิ่งนองไปด้วยสีที่พวกเขาพากันละเลงอย่างสนุกสนาน
ระหว่างที่นั่งพัก พวกเขาพบกับคนตาบอดและหมอ เข้ามาอ้อนวอนขอเลือดสักถ้วยสำหรับความรักจากพระเจ้าให้คนตาบอดที่น่าสงสาร
Fando รู้สึกปราณีแต่กลับพยักหน้าให้ เอาเลือดจากแขน ของ Lis ( ดูมันทำ ) แต่หมอกลับดื่มเลือดนั้นซะหมดถ้วยเอง
เหลือเพียงแต่คราบค้างให้คนตาบอดเลียให้สะอาด
Fando เมื่อเห็นความสุขของหมอและคนตาบอด จึงดื่มเลือดจากแขน Lis บ้าง
ฉากปรากฏตัวของแม่ Fando ซึ่งเป็นนักแสดงมีชื่อเสียงบนรถเข็นที่เต็มไปด้วยสายน้ำเกลือระโยงระยาง เทียน ประดับด้วยขนนก
พร้อมกับไข่ต้ม ภาพย้อนอดีตถึง Fando ในวัยเด็กที่เห็นแม่ใกล้ตาย เธอสั่งให้คนไล่ฆ่าสามีเธอและกรีดเอานกออกจากหัวใจสามี
ให้สาวใช้ในบ้านกิน!!! Fando ระลึกถึงเรื่องนี้ได้ขณะเอาไม้เสียบทะลุตัวแมงมุมและเผามันทั้งเป็น
Fando ใช้ปอยผมแม่รัดคอแม่จนตาย ก่อนที่แม่จะเดินลงหลุมศพ และขอบใจที่ Fando ช่วยฆ่าเธอพร้อมกับเอานกจากหัวใจให้แก่ Fando


4.Fouth Chant : And When I Wanted To Separate Myself From Her
Fando เริ่มเห็น Lis เป็นเพียงสิ่งของสิ่งหนึ่ง เขาจับ Lis ถอดเสื้อผ้า และตีกลอง เรียกคนเข้ามา เพื่อเสนอราคาขาย มีชายหลายคนเข้ามารุม
ลูบไล้ร่างกายของ Lis รวมถึง Fando แต่กลับไม่มีใครสนใจที่จะซื้อ Fando จึงจำต้องเข็นรถพา Lis ไปยัง ทาร์ต่อไป
เมื่อมาทางชันที่ไม่สามารถปีนป่ายขึ้นไปได้ Fando เริ่มกระวนกระวายอารมณ์ร้ายและแปรปรวน ส่วน Lis ก็ ได้แต่บอกว่า Fando
เรายังไม่ได้ไปไหนเลย เหมือนเรายังอยู่ที่เดิม
ฉากงานเลี้ยงโต๊ะอาหารคล้ายกับ ที่สาวกพระเยซูร่วมรับประทานมื้อสุดท้ายของพระเยซู ปรากฏขึ้น
เหมือนชะตากรรมของพวกเขาใกล้จะสิ้นสุดลง Fando ล่ามโซ่เท้าของ Lis ไว้ และพยายามใส่กุญแจมือเธอ เอาลากเธอออกจากรถเข็น
จับเธอถอดเสื้อผ้า ลากไปตามพื้นกรวดหิน Lis ร้องไห้เพราะเจ็บปวด และ ขอให้ Fando พาเธอไป ทาร์ Fando ยิ่งลากเธอไป
Lis ระเบิดอารมณ์โดยจับกลองของ Fando ขว้างทิ้งไป จนแผ่นหนังกลองขาด Fando เมื่อเห็นของรักถูกทำลาย เขารู้สึกเหมือนตายไปด้วย
นำมาซึ่งฉากจบที่สุดสะพรึง เมื่อ Fando ใช้เท้ากระทืบ Lis ซ้ำแล้วซ้ำเล่า จนตาย
Fando แบกร่างที่ไร้ลมหายใจของ Lis ไว้บนหลัง และพาเธอไปฝัง ที่นั่น เขาพาดอกไม้และหมาไปที่หลุมศพเธอ
เขาเศร้าโศกและเสียใจอย่างมาก อ้อนวอนให้ Lis ตื่นขึ้นมาและคุยกับเขา

5. Final Chant : When The Reflection Faded Away In The Mirror, It Gave Way To The Word 'Freedom'
The End
ความตายทำให้เรารู้จักความรักที่แท้จริง


------------------------------------
attachment
แก้ไขล่าสุด: 4/10/2552 10:28 โดย แคปซูลสีฟ้า
#2pakoros • 4/10/2552 12:44
เข้ามาแล
#3AguileraAnimato • 4/10/2552 18:27
น่าสนใจครับ เดี๋ยวมีเวลาว่างจะลองดู....

ว่าแต่เรื่องนี้ก็โครงสร้างตามหา utopia เหมือน holy mountain เหมือนกันเลยเนอะ
#4Nespay • 4/10/2552 20:22
อยากดูอ่ะ มีคนเอามาฉายมะ
#5yuiyui • 4/10/2552 22:29
ลุงแคปได้ใจไปอีกแล้วอ่ะ ^^
#6แว่นจัง • 4/10/2552 23:35
แค่holy mountainก็เล่นเอาเซไปแล้ว
#7tanyamaniac • 5/10/2552 14:54
ไม่ฉายเหรอ...
#8tibby-bibty • 8/10/2552 00:01
เด็ด
#9knompang • 8/10/2552 00:39
เอามาดูม่างงงงงงงงงงงง
Login
Function Used time : 0:00:00:00.015
Go Last