{กระทู้มีสาระบ้างไม่มีสาระบ้างปนๆไป}Necrophilia เมื่อ รัก-ร่วม-ศพ

by แว่นจัง • วันเสาร์ที่ 5 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554 00:20
ฮา-โหล-ฮร้า

ช่วงนี้ติดเกาะอยู่ ที่จริงตั้งใจจะกล่าวถึงเรื่องนี้นานแล้วละตั้งแต่สมัยนู้นน (นานมากแล้วจนหยากไย่เกาะ) กะว่าจะพิมพ์ไปเรื่อยๆ แล้วแต่ว่าติดอะไรหรือไม่

เอาละเมื่อพูดถึงNecrophilia หรือการมีเพศสัมพันธ์กับศพ หนังที่ทุกคนต้องนึกถึง ไม่พ้นNekromantikแน่นอน

โดยคำว่า necrophilia หรืออาจเรียกว่า thanatophilia หรือ necrolagnia เป็นคำที่ใช้แบ่งประเภทของกามวิตถารที่สมาคมจิตเวชศาสตร์สหรัฐอเมริกาใช้อยู่ ส่วนรากศัพท์มาจากภาษากรีคโบราณ
necro ที่แปลว่า ศพ หรือเกี่ยวกับความตาย νεκρός (nekros หรือ "dead") ส่วนphilia แปลว่า รัก φιλία (philia หรือ "love") ซึ่งคำนี้ใช้คำแรกในงานของKrafft-Ebingปี1886 ที่ชื่อว่า Psychopathia Sexualis
attachment

Replies (17)

#1แว่นจัง • 5/11/2554 00:32
ถ้าถามว่าผิดกฎหมายไหม ก็ดูเป็นแห่งๆไป เช่นใน อเมริกา ก็อาจจะมีเป็นแค่บางรัฐที่กำหนดไว้

มาวันนี้ก็เลยอยากพูดถึงเรื่องรัก-ร่วม-ศพ ที่ค่อนข้างดังเลยทีเดียวเชียว เป็นเรื่องของCarl Tanzlerที่รักผู้หญิงคนหนึ่งจนแม้แต่ตายกลายเป็นศพก็ยังรักอยู่



จากรูปของวิกิพีเดีย โฉมหน้าคุณทวดCarl Tanzler
แก้ไขล่าสุด: 5/11/2554 01:50 โดย แว่นจัง
#2แว่นจัง • 5/11/2554 00:48
Carl Tanzler หรือ Georg Karl Tänzler หรือ Carl Tanzler von Cosel หรือ Count Carl Tanzler von Cosel (หลายชื่อมากกกกก) เกิดเมื่อวันที่ 8 กพ 1877 ที่เมืองเดรสเดน เยอรมนี ก่อนจะย้ายไปอยู่ออสเตรเลียในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1 และย้ายกลับมาเยอรมนี และในที่สุดย้ายไปอยู่ฟลอริด้า เป็นการถาวร

ในช่วงปี1920 แทนซเลอร์ แต่งงานและมีลูก2คน ก่อนจะนั่งเรือมาฟลอริด้ามาอาศัยกับน้องสาวที่เมืองเซเฟอร์ฮิล ฟลอริด้า ในปี1926 โดยภรรยากับลูกสาวตามาภายหลัง และปีถัดมา1927 เขาก็ได้งานเป็นนักรังสีวิทยาในโรงพยาบาลทหารเรือที่เมืองคีย์เวสต์ ฟลอริด้า แต่ใช้ชื่อว่า คาร์ล ฟอน โคเซล

ในหนังสืออัตชีวประวัติของเขา ได้กล่าวถึงวัยเด็กในขณะที่เขาเดินทางจากเยอรมันเพื่อไปเมืองเจนัว ในอิตาลี ซึ่งเขาอ้างว่าบรรพบุรุษของเขานามว่า Countess Anna Constantia von Cosel มาหาเขา และนั้นเป็นจุดเริ่มต้นที่เขาหลงใหลในผู้หญิงผมดำ
#3แว่นจัง • 5/11/2554 01:03
รักข้างเดียวของแทนซเลอร์ เกิดขึ้นราวเดือนเมษายน ปี 1930 ขณะที่เขาทำงานในโรงพยาบาลทหารเรือในคีย์เวสต์ เขาได้พบกับสาวอเมริกันเชื้อสายคิวบานามว่า Maria Elena Milagro de Hoyos หรือ Helen ซึ่งแม่ของเธอพามาพบหมอที่โรงพยาบาลแห่งนี้ การที่เขาได้เจอเฮเลนซึงเหมือนกับลักษณะบรรพบุรุษของเขาที่เคยเจอ(ผี) นั้นก็แน่นอนว่า เขาไม่สามารถละสายตาไปจากเธอได้เลย

ในช่วงปี1920ถึงราวๆปี1950ปลายๆ เป็นช่วงที่วัณโรคเป็นโรคร้ายแรงรักษาไม่หายและคร่าชีวิตคนจำนวนมากในอเมริกา จนถึงขนาดต้องตั้งโรงพยาบาลรักษาวัณโรคโดยเฉพาะและมีการแยกผู้ป่วยนี้จากโรคอื่นๆ มีคนป่วยมากจนถึงขนาดโรงพยาบาลบางแห่งในช่วงที่มีผู้ป่วยมากสุด รับผู้ป่วยเกือบ2-5 พันคน ทั้งๆที่ ความจุจริงๆในดรงพยาบาลขนาดใหญจุได้เพียงพันเตียงเท่านั้น แต่ส่วนใหญ่กับรับคนไข้เรื่อยๆเพราะรู้ว่ายังไงก็ไม่หาย ตายสถานเดียว

แน่นอนว่าโรคที่เฮเลนเป็นนั้นคือ วัณโรค ซึ่งคร่าชีวิตคนในตระกูลของเธอไปเกือบหมด และก็เข้าทางแทนซเลอร์ เขาเสนอวิธีการรักษาต่างๆนานา รวมถึงนำอุปกรณ์รักษาต่างไปให้เฮเลนถึงที่บ้าน และยังให้ของขวัญรวมถึงเสื้อผ้าให้เฮเลนด้วย แต่ไม่มีหลักฐานที่บ่งชี้แน่ชัดว่า เฮเลนรู้สึกยังไงกับชายคนนี้



รูปของเฮเลน
#4แว่นจัง • 5/11/2554 01:25
ซึ่งความพยายามของแทนซเลอร์ไม่เป็นผล ในที่สุดเฮเลนก็สิ้นลม จากโลกนี้ไปเมื่อวันที่ 25 ตุลาคม 1931 ด้วยวัยเพียง 22 ปีเท่านั้น และเขาเป็นธุระจัดการจ่ายเงินค่าทำศพรวมถึงทำสุสานเก็บศพให้เฮเลนด้วย

ทุกคืนแทนซเลอร์จะไปหา(ศพ)เฮเลนจนกระทั่งเดือนเมษายน ในปี 1933 เขาจัดการนำศพเธอออกมาและกับไปอยู่บ้านกับเขา โดยใช้รถลากเด็กเล่นบรรทุกศพไปตอนกลางคืน ซึ่งเขาอ้างว่าวิญญาณของสาวเฮเลนตามมาอยู่กับเขาและร้องเพลงเป็นภาษาสเปนให้ฟังด้วย

ในความจริงตายไป2ปีแล้ว ร่างกายก็เน่าหมดแล้ว แต่แทนซเลอร์เขาใช้กรรมวิธีประกอบร่างดังนี้

-ประกอบกระดูกเข้าด้วยกรรมโดยใช้ลวดและไม้แขวนเสื้อ
-ลูกตาใช้แก้วตาปลอม
-หนังใช้ผ้าไหมชุบด้วยขี้ผึ้งให้เปียกโชกและปูนปลาสเตอร์ด้วย
-ส่วนผม ทำจากวิกซึ่งเขาได้ผมมาจากแม่ของเฮเลนที่เก็บไว้และมอบให้เขาหลังจากฝังเฮเลนในปี1931ได้ไม่นาน
-ส่วนช่วงท้อง และอก ใช้ผ้ายัดไว้ให้คงรูป
และจับเธอแต่งตัวด้วยชุดกระโปรง เครื่องประดับ ถุงมือ ตามสมัยนิยม แล้วนำเธอนอนบนเตียง หลังจากนั้นเขาก็ฉีดน้ำหอม ของน้ำยารักษาศพ เพื่อไม่ให้กลิ่นโชย


สุสานเก็บศพเฮเลน





แบบมีชุด


แก้ไขล่าสุด: 5/11/2554 02:56 โดย แว่นจัง
#5แว่นจัง • 5/11/2554 01:48
ความแตกเมื่อปี1940 เมื่อน้องสาวของเฮเลนได้ข่าวว่าแทนซเลอร์อยู่กับศพพี่สาวตัวเอง จึงแจ้งเจ้าหน้าที่ให้เข้าตรวจค้นและพบศพพี่สาวนอนอยู่บนเตียง และแทนซเลอร์ถูกจับในข้อหาทำลายหลุมศพและย้ายศพออกมาโดยไม่ได้รับอนุญาต แต่ก็ถูกปล่อยตัวไปเนื่องจากหมดอายุความ

ในตอนที่มีการพบศพ ทางเจ้าหน้าที่ได้ชันสูตรศพและพบท่อกระดาษในบริเวณช่องคลอดของศพเพื่อให้สามารถมีเพศสัมพันธ์กับศพได้ แต่การชันสูตรดังกล่าวไม่ได้เปิดเผยและแพทย์ที่ชันสูตรศพของเฮเลนได้ออกมาพูดในปี1972 ซึ่งคดีหมดอายุความไปแล้ว ทำให้ยังมีคำถามค้าคาว่าตกลงเขามีอะไรกับศพจริงหรือไม่

หลังจากชันสูตรศพของเฮเลนแล้ว มีการนำกลับไปฝังในหลุมศพที่ไม่มีป้ายอย่างลับๆ เพื่อไม่ให้เกิดเหตุซ้ำสองขึ้นมาอีก

ส่วนคาร์ล แทนซเลอร์ก็ย้ายไปอยู่ใกล้กับเมืองเซฟเฟอร์ฮิล และเสียชีวิตเมื่อวันที่3 กรกฎาคม 1952 เมื่ออายุ75ปี



ถือว่าเป็นอีกหนึ่งตำนานรัก-ร่วม-ศพ ที่ดังพอควร

http://www.examiner.com/travel-photography-in-miami/images-of-museum-display-of-maria-elena-milagro-de-hoyospicture?slide=8362696#slide=8362696 ในคีย์เวสต์มีพิพิธภัณฑ์Martello Gallery-Key West Art and Historical จัดแสดงเรื่องราวของ1คนกับ1ศพด้วย ดูตัวอย่างได้ตามลิงค์
#6แว่นจัง • 5/11/2554 02:20
ด้วยความขี้เกียจ ข้อก็อปข้อมูลเก่าที่ตนเองเคยพิมพ์ไว้นานแล้วววววว มาละกัน "Paraphilia(Sexual Deviation) หรือเรียกกันว่ากามวิตถาร

ข้อมูลจากรายงานเรื่อง "พฤติกรรมทางเพศและความปลอดภัย" ของ อ.อุษา ฮกยินดี จากมหาวิทยาลัยบูรพา ระบุว่า คำจำกัดความของ "ความผิดปกติทางเพศ" หรือ "Sexual Deviation" หมายถึง การมีความรู้สึก ทัศนคติ และค่านิยม รวมไปถึงพฤติกรรมทางเพศที่แสดงออกไปไม่เหมาะสม เบี่ยงเบนไปจากบุคคลทั่วไปในสังคมนั้นๆ

โดยความเป็นจริงแล้วกามวิตถาร เป็นการเบี่ยงเบนทางเพศในลักษณะบุคคลิกภาพที่ผิดปกติ(Personality disorder)ไม่ใช่โรคจิต(Mental Disorder)ฉะนั้นผู้ได้กระทำพฤติกรรมดังกล่าวจนสร้างความเดือดร้อน หรือเป็นอันตรายต่อบุคคลส่วนรวม จะต้องถูกส่งดำเนินคดี"

สรุปง่ายๆ คือพวกพาราฟีเลีย เช่น ถ้ำมอง พวกS&M ชอบโชว์ หรือ ชอบมีอะไรกับเด็ก ไม่ได้ผิดปกติ เป็นแค่การเบี่ยงเบนทางรสนิยมในการปลุกเร้าอารมณ์ทางเพศ ถ้าควบคุมตัวเองได้ไม่ทำให้คนอื่นเดือดร้อน ก็ยังใช้ชีวิตอยู่ในสังคมได้ แต่ถ้า ถ้ำมองชาวบ้าน รัดคอคู่ขาจนตาย หรือซื้อประเวณีเด็ก อันนี้ติดคุกแน่นอน เพราะถือว่าขณะทำผู้กระทำรู้ตัว มีสำนึกอ้างไม่ได้นะว่าป่วยทางจิต

#7แว่นจัง • 5/11/2554 02:41
ส่วนnecrophilia หรือ มีอารมณ์ทางเพศกับศพ จรู้สึกมีอารมณ์ทางเพศ เมื่อได้เห็นศพ เช่น เห็นคนแล้วห่อเหี่ยวแต่จะสู้ศึกได้เมื่อจินตนาการว่ามีเพศสัมพันธ์กับศพ หรือชอบมีอะไรกับศพที่พึ่งตายใหม่ เช่น ฆ่าแล้วข่มขืน เป็นต้น หรือบางรายมีความสุขได้อยู่กับศพ ได้กินศพแล้วอ้างว่าแข็งแรง ก็จัดในพวกรักศพย่อมได้

ในประเทศไทยยังไม่มีรายละเอียดว่ามีจำนวนคนรัก-ร่วม-ศพมากขนาดไหน ส่วนใหญ่จะมารู้เมื่อเกิดคดีแล้ว ในต่างประเทศพวกรักศพดังก็เช่น Ed Gein,Tsutomu Miyazaki

จำนวนที่ไม่สามารถระบุได้ว่ามีคนรักศพหรือรัก-ร่วม-ศพ อยู่มากแค่ไหน เนื่องจากคนกระทำ หรือ คนที่รู้สึกดังกล่าว ยังสามารถควบคุมตัวเองได้ หรือ อาจยังไม่มีใครจับได้ในกรณีมีอะไรกับศพจริงๆ บางคนอาจหาทางออกด้วยการจินตนาการแทน

โดยที่มาของอาการรักศพนั้น ทางจิตวิทยายังหาคำตอบแน่ชัดไม่ได้ แต่ส่วนใหญ่ที่มาจะเหมือนโรคจิตเวชหลายๆโรค คือ ปมวัยเด็ก ซึ่ง หลายราย ทั้งฆาตกรต่อเนื่องเช่น เอ็ด กีน นั้นมีแม่ที่เคร่งศาสนา ดังนั้น การกินศพ การอยู่กับศพ หรือ การมีอะไรกับศพ ย่อมหมายถึงว่าผู้กระทำดังกล่าวมีความพยายามจะให้มีอำนาจเหนือผู้อื่นอยู่

ถ้าใครมีอาการดังกล่าวก็อาจไปพบแพทย์ก็ได้ จะได้มีการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม

ใครคิดว่ายังไงก็บอกกันได้ มาแชร์ความเห็นกัน ขอทิ้งท้ายด้วยเพลงจากA7X คาดว่าเป็นเพลงโปรดของชาวคลับหลายๆคน



แก้ไขล่าสุด: 5/11/2554 02:42 โดย แว่นจัง
#8stynx • 5/11/2554 07:10
ภรรยาและลูกของ Tanzler ไม่รู้เรื่องเลยหรือ ...

อ่านแล้วรู้สลดยังไงไม่รู้
#9แว่นจัง • 5/11/2554 11:02
น่าจะไม่รู้เรื่อง มารู้เอาตอนเป็นข่าวแล้ว เพราะแทนซเลอร์ให้ลูกเมียอยู่ที่เซฟเฟอร์ฮิล ส่วนตัวเองมาอยู่คียเวสต์ ไม่แน่ว่าหย่ากันหรือเปล่า เพราะแต่งตอนอยู่เยอรมันแล้วย้ายมาอยู่ฟลอริด้าก็ยังไม่ได้เป็นพลเมืองอเมริกันเต็มขั้น จนกระทั่งปี1950 (มันน่าจะหย่าไม่ได้มั๊ง) แต่ที่แน่ๆ อาจได้รับผลกระทบชัวร์ๆ
#10pea • 5/11/2554 11:54
อ่านแล้วกลับรู้สึกอย่างนึงว่า ชีวิตในวัยเด็กนี้สำคัญนะ

เพราะฆาตกรหรือใครที่มีอาการทางจิต แทบทุกคน

จะต้องมีปมอะไรบางอย่าง จากชีวิตวัยเด็กทั้งนั้นเลย

ว่าแล้วนึกถึงหนังสือ เลี้ยงลูกอย่างไรไม่ให้เป็นฆาตกร

ขึ้นมาทันที ...
#11stynx • 5/11/2554 12:20
จากคุณ : pea

ว่าแล้วนึกถึงหนังสือ เลี้ยงลูกอย่างไรไม่ให้เป็นฆาตกร

ขึ้นมาทันที ...

=============

เคยอ่านเหมือนกัน เมื่อนานมาแล้ว
#12หนูเดซี่ค่ะ • 5/11/2554 14:23
ก่อนอื่นต้องขอบอกก่อนนะครับว่า จากที่ผมได้ดูหนังเรื่อง NEKRomantik ทั้ง 2 ภาคแล้ว ทำให้ผมคิดได้ว่าโรคจิตแต่ล่ะโรค เชื่อเถอะว่าคนที่เป็นก็จะมีความสุขในตรงจุดนั้น และมีน้อยคนครับที่จะไปรักษา ผมดูมาหลายเรื่องแล้วแหละหนังโป๊แนวกามวิตถารอ่ะ ไม่ว่าจะ Sadism,Animal,Family หรือแม้แต่แนว Scat ผมก็ดูนะ ก็เห็นว่าขณะที่พวกเขาทำ เขาก็มีความสุขในสิ่งที่เขาเป็น ในอารมณ์ตรงนั้น

เพียงแต่ในเมื่อเรารู้ตัวว่าเราไม่เหมือนคนอื่น และไม่คิดที่จะรักษาเพราะเราคิดว่าเราเป็นตัวของเราแบบนี้เราก็มีความสุขดี ก็อย่าไปสร้างความเดือดร้อนให้ใครจนเกิดเรื่องเกิดราว จะโรคจิตก็โรคจิตไปคนเดียวพอ

ผมอยากจะบอกสักนิดนะว่าหนังเรื่อง NEKRomantik เป็นหนังดีมากๆเลย ถึงแม้ว่าจะทำศพไม่ค่อยเหมือนและเอฟเฟคอะไรดูไม่ค่อยสบายตา จากการดำเนินเรื่องและตอนจบที่แสนสุดสะเทือนใจ ก็เพียงพอที่ผมจะให้คะแนน 8/10 เลยแหละครับ
แก้ไขล่าสุด: 5/11/2554 14:27 โดย หนูเดซี่ค่ะ
#13yummyjung • 5/11/2554 22:33
ชอบกระทู้แบบนี้มากเลย สยอง+ได้ความรู้
#14yummyjung • 5/11/2554 22:33
++ซ้ำ - -'' ++
แก้ไขล่าสุด: 7/11/2554 19:31 โดย yummyjung
#15brockenjozy • 5/11/2554 22:57
อิอิ คิดถึงเพลง a little piece of heaven ต้อง the rev เรย จัดไป
attachment
#16samara17520 • 6/11/2554 09:52
ความรู้เเน่นดี....ชอบครับ ^^
#17แว่นจัง • 6/11/2554 10:39
ของA7X แชร์บ่อยในเพจFBของเว็บ ลองตามดูนะจ๊ะ
Login
Function Used time : 0:00:00:00.016
Go Last