เกมปีศาจตอน 3 : เกมถอดตะขอหนีใบเลื่อย
by หนูเดซี่ค่ะ • วันจันทร์ที่ 24 ตุลาคม พ.ศ. 2554 13:50
นิยายเรื่องนี้แต่งขึ้นเพื่อให้ความบันเทิงเท่านั้น อาจจะมีคำหยาบคาย เสียดสี หรือ หมิ่นการเมือง ก็ขอจงโปรดเข้าใจว่าเป็นเพียงนิยาย ไม่ใช่เรื่องจริงแต่อย่างใด ^^"

Replies (12)
...The DEVIL GAMES...เ ก ม ปี ศ า จ...
...วันๆหนึ่งคุณทำอะไรให้เป็นประโยชน์ต่อโลกบ้าง...
ตอนที่ 3 : เกมถอดตะขอหนีใบเลื่อย
ณ.ห้องประชุมในสถานีตำรวจ
“จากหลักฐานที่เราได้มา พบว่ามันคล้ายกับภาพยนตร์สยองขวัญเรื่องหนึ่ง” สารวัตรจักรกล่าว
“หนังสยองขวัญเหรอ” จนท.ตำรวจทุกระดับชั้นในห้องประชุมอุทานพร้อมกัน
“ใช่ครับ มันคล้ายๆซอว์” เขากล่าวต่อ
“ซอว์เหรอ” จนท.วินัยพูดตามพร้อมกับเกาหัว
“ก็หนังสยองขวัญไง ลูกสาวผมดูอยู่บ่อยๆ” จนท.ชิตเสริม
“เจ้าฆาตกรรายนี้ เลียนแบบการกระทำของตัวละครในหนังสยองขวัญ และมีแนวโน้มความเป็นไปได้สูงว่านิสัยของมันจะเหมือนกับฆาตกรในหนังเรื่องนี้ด้วย” สารวัตรจักรกล่าวขึ้นพร้อมหยิบหนังซีดีเรื่องซอว์ที่ซื้อมาจากตลาดเมื่อนานมาแล้ว
“เดี๋ยวๆนะ นี่เรากำลังพูดถึงฆาตกร ไม่ใช่มาโปรโมทหนังสยองขวัญนะ” จนท.วินัยออกความเห็นพร้อมกับยกมือค้าน
“พอเถอะพวกนาย” พลโท ผู้บังคับบัญชาสูงสุดในที่ประชุมสั่งให้ทั้งสามหยุดโต้เถียง ก่อนจะกล่าวต่อ “ในตอนนี้เรายังทำอะไรไม่ได้มาก เพราะจากที่รายงาน ฆาตกรลงมือไม่ซ้ำสถานที่ แถมสถานที่แต่ล่ะที่ที่มันก่อคดี ก็เกินอำนาจที่ฝ่ายเราจะเข้าไปข้องแวะ หลักฐานที่มันทิ้งไว้ให้ก็น้อยนิด และไม่สามารถสาวไปถึงใครได้เลย”
“เดี๋ยวก่อนครับ” สารวัตรจักรยกมือค้าน
ผู้บังคับบัญชามองหันหน้าไปที่เขา
“ผมว่าจากเหยื่อรายที่ 3 มีภาพที่ไม่ชอบมาพากลอยู่ภาพหนึ่ง ผมขอยืมเครื่องฉายหน่อยนะครับ”
สารวัตรจักรเดินไปกลางห้องพร้อมเปิดเครื่องฉายภาพ พร้อมกับชี้แจง
“ดูที่รูปนี้สิ” เขาชี้ไปที่กุญแจดิจิตอลสีทองซึ่งเป็นเหยื่อรายก่อนหน้า
“เราพบว่าด้านหลังของมันมีตัวอักษรประหลาด สลักไว้ คล้ายกับเป็นชื่อของใครบางคน และคนๆนั้นก็น่าจะเป็นเจ้าของกุญแจนี้” สารวัตรจักรเอานิ้วชี้ไปที่อักษรประหลาดของกุญแจที่ภาพฉาย
ซึ่งมีอักษรประหลาดคำว่า “Siriwat”
จนท.ในห้องต่างหันไปมองหน้ากัน
“คุณกำลังจะบอกว่า ชื่อที่อยู่บนรูปกุญแจ นอกจากจะเป็นเจ้าของแล้ว ยังเป็นฆาตกรที่เราต้องการตัว” ผู้บังคับบัญชาถาม
“ใช่ ผมคิดว่าน่าจะเป็นอย่างนั้น” สารวัตรจักรตอบ ก่อนที่สารวัตรวินัยจะยกมือค้านต่อ
“เดี๋ยวนะ ถ้าสมมุติเจ้าของกุญแจนี้เป็นฆาตกรจริง แล้วทำไมเจ้าตัวถึงจงใจสลักชื่อไว้หลังกุญแจในสภาพที่เห็นชัดด้วยล่ะ” สารวัตรวินัยถามกลับด้วยความสงสัย ในขณะที่สารวัตรจักรได้แต่นิ่งอึ้ง
“เอาไว้แค่นี้กันก่อนแล้วกันนะทุกคน ตอนนี้ก็ดึกมากแล้ว ไว้วันพรุ่งนี้เราค่อยมาหารือกันต่อแล้วกัน” ผู้บังคับบัญชาตัดบทสนทนาของทั้งคู่ พร้อมกับยกเลิกการประชุมที่ยังไม่มีทีท่าว่าจะจบ
ขณะเดียวกัน เวลา 5 ทุ่ม 10 นาที
ณ.สถานที่แห่งหนึ่งห่างไกลผู้คน
หญิงสาวคนหนึ่งลืมตาขึ้นช้าๆ เสียงน้ำจากบนเพดานหยดใส่หน้าเธอเป็นจังหวะ ภาพเลือนรางจะอาการตื่นนอนค่อยๆชัดขึ้น และเธอก็พบว่าเธอกำลังห้อยหัว
เธอรู้สึกเจ็บจี๊ดที่ด้านบนก่อนที่จะมองย้อนขึ้นไป และพบว่าสองเท้าของเธอถูกเกี่ยวไว้ด้วยตะขอตัวใหญ่ยึดติดกับเพดานด้านบนอย่างน่าใจหาย ในสภาพขาถ่าง ตรงกลางมีใบเลื่อยขนาดใหญ่ที่ตั้งตระหง่านกลางเป้าของหญิงสาว
“กรี๊ดดด!!!” เธอร้องลั่น “ใครก็ได้ช่วยด้วย” เธอโวยวายขอความช่วยเหลือ ก่อนที่สายตาสองข้างจะบรรจบกับกระดาษข้อความแผ่นหนึ่งใจความว่า
“สวัสดีคุณนุ่น ชีวิตในวัยสาวของคุณช่างมีความสุขจนน่าอิจฉาจริงๆ คุณหากินด้วยช่องประตูตรงหว่างขาของคุณ ซึ่งเป็นช่องทางที่สกปรก วันนี้ผมจะยื่นอิสรภาพและความบริสุทธิ์ของคุณกลับมาอีกครั้ง คุณเห็นใบเลื่อยด้านบนที่อยู่ตรงกลางหว่างขาคุณไหม นั่นแหละมันจะช่วยให้คุณเล่นเกมได้สนุกมากขึ้น วิธีการเอาตัวรอดก็คือ คุณต้องทำยังไงก็ได้ให้ขาทั้งสองข้างหลุดจากการเกี่ยวขอตะขอให้เร็วที่สุด ก่อนที่ใบเลื่อยอันคมกริบจะค่อยๆเลื่อนลงมาช้าๆและหั่นตัวคุณเป็นสองซีก ขอให้สนุกกับเกมนะ”
ทันทีจากอ่านข้อความจบ เสียงใบเลื่อยที่ถูกติดตั้งด้วยอุปกรณ์จับเวลาบางอย่างก็เดินเครื่องทันที
“วี๊ด!!!!!” เสียงเลื่อยไฟฟ้าซึ่งหมุนด้วยความเร็วสูงค่อยๆเลื่อนลงมาสู่หว่างของนุ่นอย่างช้าๆ
เธอพยายามม้วนตัวขึ้นไปเป็นรูปตัววี จนจับน่องขาตัวเองสำเร็จ
สองมือพยายามจับตะขอที่เกี่ยวกับขาตัวเองด้วยสีหน้าไม่สู้ดี น้ำตาทั้งสองข้างไหลอาบแก้มจนเปรอะมาสคาร่าใต้ขอบตาจนไหลเป็นทาง
เธอใช้เรี่ยวแรงทั้งหมด กลั้นหายใจ และดึงตะขออันแรกที่เกี่ยวขอเท้าขวาจนสำเร็จ ก่อนจะปล่อยร่างกายลงมาห้อยหัวตามเดิม
ทว่า! ความรวดเร็วในการเอาตะขอที่เกี่ยวอยู่ตรงข้อเท้าที่ตอนนี้ที่เหลือเพียงข้างซ้ายยังไม่ไวเท่ากับใบเลื่อยที่พุ่งตรงมาที่หว่างขวาเธอ
“วี๊ดดดดดดดดด!!!!!!!!!” ใบมีดของเลื่อยถูกกดมาที่เป้าของเธอเป็นที่เรียบร้อย มันค่อยๆเลื่อนลงมาเรื่อยๆ
นุ่นร้องด้วยความเจ็บปวด ตั้งแต่อวัยวะเพศของเธอ เรื่อยจนมาถึงลำไส้กองลงมาที่พื้นข้างล่าง เลือดไหลทะลักออกทางปากเธอจนอาเจียนเป็นสายฝน ก่อนที่ทุกอย่างจะสงบลง
ร่างของนิดในสภาพถูกตัดเป็น 2 ท่อน จากเป้าเรื่อยลงมาถึงหน้าออก ขาซ้ายที่ยังไม่ทันได้แกะตะขอที่เกี่ยวข้อเท้ายังคงทำให้ศพเธอห้อยไปมาอยู่ด้านบนอย่างน่าอนาถใจ
เสียงประตูเหล็กเปิดออกอย่างช้าๆ ชายในชุดแจ็คเก็ตแถบดำแถบแดงปรากฏตัวขึ้น พร้อมกับหยิบสมุดเล่มหนึ่งพร้อมปากกาขึ้นจดเหยื่อรายที่ 5 ของเขา
“บัดนี้เธอคือสาวบริสุทธิ์แล้ว!” เขาพูดเสียงราบเรียบก่อนเดินจากไป พร้อมกับปิดประตูเหล็ก
...วันๆหนึ่งคุณทำอะไรให้เป็นประโยชน์ต่อโลกบ้าง...
ตอนที่ 3 : เกมถอดตะขอหนีใบเลื่อย
ณ.ห้องประชุมในสถานีตำรวจ
“จากหลักฐานที่เราได้มา พบว่ามันคล้ายกับภาพยนตร์สยองขวัญเรื่องหนึ่ง” สารวัตรจักรกล่าว
“หนังสยองขวัญเหรอ” จนท.ตำรวจทุกระดับชั้นในห้องประชุมอุทานพร้อมกัน
“ใช่ครับ มันคล้ายๆซอว์” เขากล่าวต่อ
“ซอว์เหรอ” จนท.วินัยพูดตามพร้อมกับเกาหัว
“ก็หนังสยองขวัญไง ลูกสาวผมดูอยู่บ่อยๆ” จนท.ชิตเสริม
“เจ้าฆาตกรรายนี้ เลียนแบบการกระทำของตัวละครในหนังสยองขวัญ และมีแนวโน้มความเป็นไปได้สูงว่านิสัยของมันจะเหมือนกับฆาตกรในหนังเรื่องนี้ด้วย” สารวัตรจักรกล่าวขึ้นพร้อมหยิบหนังซีดีเรื่องซอว์ที่ซื้อมาจากตลาดเมื่อนานมาแล้ว
“เดี๋ยวๆนะ นี่เรากำลังพูดถึงฆาตกร ไม่ใช่มาโปรโมทหนังสยองขวัญนะ” จนท.วินัยออกความเห็นพร้อมกับยกมือค้าน
“พอเถอะพวกนาย” พลโท ผู้บังคับบัญชาสูงสุดในที่ประชุมสั่งให้ทั้งสามหยุดโต้เถียง ก่อนจะกล่าวต่อ “ในตอนนี้เรายังทำอะไรไม่ได้มาก เพราะจากที่รายงาน ฆาตกรลงมือไม่ซ้ำสถานที่ แถมสถานที่แต่ล่ะที่ที่มันก่อคดี ก็เกินอำนาจที่ฝ่ายเราจะเข้าไปข้องแวะ หลักฐานที่มันทิ้งไว้ให้ก็น้อยนิด และไม่สามารถสาวไปถึงใครได้เลย”
“เดี๋ยวก่อนครับ” สารวัตรจักรยกมือค้าน
ผู้บังคับบัญชามองหันหน้าไปที่เขา
“ผมว่าจากเหยื่อรายที่ 3 มีภาพที่ไม่ชอบมาพากลอยู่ภาพหนึ่ง ผมขอยืมเครื่องฉายหน่อยนะครับ”
สารวัตรจักรเดินไปกลางห้องพร้อมเปิดเครื่องฉายภาพ พร้อมกับชี้แจง
“ดูที่รูปนี้สิ” เขาชี้ไปที่กุญแจดิจิตอลสีทองซึ่งเป็นเหยื่อรายก่อนหน้า
“เราพบว่าด้านหลังของมันมีตัวอักษรประหลาด สลักไว้ คล้ายกับเป็นชื่อของใครบางคน และคนๆนั้นก็น่าจะเป็นเจ้าของกุญแจนี้” สารวัตรจักรเอานิ้วชี้ไปที่อักษรประหลาดของกุญแจที่ภาพฉาย
ซึ่งมีอักษรประหลาดคำว่า “Siriwat”
จนท.ในห้องต่างหันไปมองหน้ากัน
“คุณกำลังจะบอกว่า ชื่อที่อยู่บนรูปกุญแจ นอกจากจะเป็นเจ้าของแล้ว ยังเป็นฆาตกรที่เราต้องการตัว” ผู้บังคับบัญชาถาม
“ใช่ ผมคิดว่าน่าจะเป็นอย่างนั้น” สารวัตรจักรตอบ ก่อนที่สารวัตรวินัยจะยกมือค้านต่อ
“เดี๋ยวนะ ถ้าสมมุติเจ้าของกุญแจนี้เป็นฆาตกรจริง แล้วทำไมเจ้าตัวถึงจงใจสลักชื่อไว้หลังกุญแจในสภาพที่เห็นชัดด้วยล่ะ” สารวัตรวินัยถามกลับด้วยความสงสัย ในขณะที่สารวัตรจักรได้แต่นิ่งอึ้ง
“เอาไว้แค่นี้กันก่อนแล้วกันนะทุกคน ตอนนี้ก็ดึกมากแล้ว ไว้วันพรุ่งนี้เราค่อยมาหารือกันต่อแล้วกัน” ผู้บังคับบัญชาตัดบทสนทนาของทั้งคู่ พร้อมกับยกเลิกการประชุมที่ยังไม่มีทีท่าว่าจะจบ
ขณะเดียวกัน เวลา 5 ทุ่ม 10 นาที
ณ.สถานที่แห่งหนึ่งห่างไกลผู้คน
หญิงสาวคนหนึ่งลืมตาขึ้นช้าๆ เสียงน้ำจากบนเพดานหยดใส่หน้าเธอเป็นจังหวะ ภาพเลือนรางจะอาการตื่นนอนค่อยๆชัดขึ้น และเธอก็พบว่าเธอกำลังห้อยหัว
เธอรู้สึกเจ็บจี๊ดที่ด้านบนก่อนที่จะมองย้อนขึ้นไป และพบว่าสองเท้าของเธอถูกเกี่ยวไว้ด้วยตะขอตัวใหญ่ยึดติดกับเพดานด้านบนอย่างน่าใจหาย ในสภาพขาถ่าง ตรงกลางมีใบเลื่อยขนาดใหญ่ที่ตั้งตระหง่านกลางเป้าของหญิงสาว
“กรี๊ดดด!!!” เธอร้องลั่น “ใครก็ได้ช่วยด้วย” เธอโวยวายขอความช่วยเหลือ ก่อนที่สายตาสองข้างจะบรรจบกับกระดาษข้อความแผ่นหนึ่งใจความว่า
“สวัสดีคุณนุ่น ชีวิตในวัยสาวของคุณช่างมีความสุขจนน่าอิจฉาจริงๆ คุณหากินด้วยช่องประตูตรงหว่างขาของคุณ ซึ่งเป็นช่องทางที่สกปรก วันนี้ผมจะยื่นอิสรภาพและความบริสุทธิ์ของคุณกลับมาอีกครั้ง คุณเห็นใบเลื่อยด้านบนที่อยู่ตรงกลางหว่างขาคุณไหม นั่นแหละมันจะช่วยให้คุณเล่นเกมได้สนุกมากขึ้น วิธีการเอาตัวรอดก็คือ คุณต้องทำยังไงก็ได้ให้ขาทั้งสองข้างหลุดจากการเกี่ยวขอตะขอให้เร็วที่สุด ก่อนที่ใบเลื่อยอันคมกริบจะค่อยๆเลื่อนลงมาช้าๆและหั่นตัวคุณเป็นสองซีก ขอให้สนุกกับเกมนะ”
ทันทีจากอ่านข้อความจบ เสียงใบเลื่อยที่ถูกติดตั้งด้วยอุปกรณ์จับเวลาบางอย่างก็เดินเครื่องทันที
“วี๊ด!!!!!” เสียงเลื่อยไฟฟ้าซึ่งหมุนด้วยความเร็วสูงค่อยๆเลื่อนลงมาสู่หว่างของนุ่นอย่างช้าๆ
เธอพยายามม้วนตัวขึ้นไปเป็นรูปตัววี จนจับน่องขาตัวเองสำเร็จ
สองมือพยายามจับตะขอที่เกี่ยวกับขาตัวเองด้วยสีหน้าไม่สู้ดี น้ำตาทั้งสองข้างไหลอาบแก้มจนเปรอะมาสคาร่าใต้ขอบตาจนไหลเป็นทาง
เธอใช้เรี่ยวแรงทั้งหมด กลั้นหายใจ และดึงตะขออันแรกที่เกี่ยวขอเท้าขวาจนสำเร็จ ก่อนจะปล่อยร่างกายลงมาห้อยหัวตามเดิม
ทว่า! ความรวดเร็วในการเอาตะขอที่เกี่ยวอยู่ตรงข้อเท้าที่ตอนนี้ที่เหลือเพียงข้างซ้ายยังไม่ไวเท่ากับใบเลื่อยที่พุ่งตรงมาที่หว่างขวาเธอ
“วี๊ดดดดดดดดด!!!!!!!!!” ใบมีดของเลื่อยถูกกดมาที่เป้าของเธอเป็นที่เรียบร้อย มันค่อยๆเลื่อนลงมาเรื่อยๆ
นุ่นร้องด้วยความเจ็บปวด ตั้งแต่อวัยวะเพศของเธอ เรื่อยจนมาถึงลำไส้กองลงมาที่พื้นข้างล่าง เลือดไหลทะลักออกทางปากเธอจนอาเจียนเป็นสายฝน ก่อนที่ทุกอย่างจะสงบลง
ร่างของนิดในสภาพถูกตัดเป็น 2 ท่อน จากเป้าเรื่อยลงมาถึงหน้าออก ขาซ้ายที่ยังไม่ทันได้แกะตะขอที่เกี่ยวข้อเท้ายังคงทำให้ศพเธอห้อยไปมาอยู่ด้านบนอย่างน่าอนาถใจ
เสียงประตูเหล็กเปิดออกอย่างช้าๆ ชายในชุดแจ็คเก็ตแถบดำแถบแดงปรากฏตัวขึ้น พร้อมกับหยิบสมุดเล่มหนึ่งพร้อมปากกาขึ้นจดเหยื่อรายที่ 5 ของเขา
“บัดนี้เธอคือสาวบริสุทธิ์แล้ว!” เขาพูดเสียงราบเรียบก่อนเดินจากไป พร้อมกับปิดประตูเหล็ก
แก้ไขล่าสุด: 24/10/2554 14:52 โดย หนูเดซี่ค่ะ
แต่งเก่งมากเลยค่ะ ให้อารมณ์ประมาณว่าดูหนังอยู่มากกว่าเป็นนิยายเสียอีก
สนุกดีค่ะ เป็นกำลังใจให้นะคะ
สนุกดีค่ะ เป็นกำลังใจให้นะคะ
โปสเตอร์ของตอน 3 นะครับ

โหดมาก ปรบมือให้เลย ยังกะ JAMES WAN มาทำเอง
แต่เหยื่อที่ชื่อนุ่น นี่ ชื่อเหมือนเพื่อนผมเด๊ะเลย ที่สวนกุหลาบนนท์นะ ให้ผมชวนเพื่อนคนนั้นมาดูเรื่องสั้นเรื่องนี้ไหม
แต่เหยื่อที่ชื่อนุ่น นี่ ชื่อเหมือนเพื่อนผมเด๊ะเลย ที่สวนกุหลาบนนท์นะ ให้ผมชวนเพื่อนคนนั้นมาดูเรื่องสั้นเรื่องนี้ไหม
โหดดีครับ ณ ตอนนี้
ป.ล. แอบฮาโปสเตอร์ตอนนี้
ป.ล. แอบฮาโปสเตอร์ตอนนี้
โหดมากๆ เห็นภาพเลย O_O;;
ใน ค.ศ. ที่ 3000
โลกมนุษย์ในยุคนี้ พัฒนาการเทคโนโลยีเกือบจะเป็นชั้นสูงเกือบซะหมด โลกของเราสามารถติดต่อกับมนุษย์ต่างดาวได้ หรือที่เราเรียกว่า “พวกเอเลี่ยน” นั่นเอง แต่นั่นมันไม่ใช่เรื่องที่ดีเลย
...โลกของเราใน ค.ศ. ที่ 3000 เกิดหายนะครั้งใหญ่ พวกเอเลี่ยนที่ก้าวหน้าทางเทคโนโลยีสูงกว่าของเรา เกิดคิดที่จะเชื่อมผสานระหว่างโครโมโซมของมนุษย์ และของพวกมันรวมเป็นหนึ่งเดียวกัน และแพร่พันธุ์สัตว์ประหลาดที่มีต้นกำเนิดเชื้อ ซึ่งก็คือ มนุษย์ เพื่อยึดของโลกของเราอย่างสมบูรณ์
Horror Club Present …
3000 สงครามเอเลี่ยนบุกโลก
“ยิงแม่งเลย!” เสียงของฮาโรลด์ตะโกนอย่างบ้าคลั่ง ทั้งสองมือก็จับปืน M 16 A 1 ที่รัฐบาลแจกให้กราดใส่ฝูงเอเลี่ยนอย่างเมามันส์
“ใจเย็นฮาโรลด์” ลอร์ดวิ่งมาตบไหล่เพื่อนร่างยักษ์เบาๆ ก่อนที่จะชี้ไปยังเป้าหมาย “ นั่น! เราต้องวิ่งไปที่ตึกนั่น”
ฮาโรลด์เพื่อนร่างยักษ์พยักหน้าโดยไม่หันไปมอง ขณะที่ลอร์ดวิ่งนำหน้า และฮาโรลด์ยิงคุ้มกัน
“ไปตายซะไอ้พวกบ้า” สองมือของเขายังคงกราดกระสุนที่มีเยี่ยงช้างตกมัน
“วี้ๆ!” ฝูงเอเลี่ยนตะโกนร้องด้วยความเจ็บระงม
“เร็วเข้า!” ลอร์ดกวักมือเรียกเพื่อนให้เข้ามาที่ประตูเหล็กของตึกแห่งหนึ่ง
ทั้งคู่ช่วยกันเลื่อนประตูขนาดใหญ่จนปิดสนิทก่อนที่จะปล่อยให้ฝูงเอเลี่ยนที่ตามมาเคาะประตูเรียกอยู่ด้านนอกด้วยความกระหาย
“แม่งเอ้ย! มันกัดฉัน” ฮาโรลด์ร้องด้วยความเจ็บปวด
“ใจเย็น! นายต้องไม่ตาย” ลอร์ดตะโกนปลอบใจหวังสงบอารมณ์ของเพื่อนซี้
“ฉันยังไม่ติดเชื้อใช่ไหม?” ฮาโรลด์หันหน้าไปมองลอร์ด ใบหน้าแสดงน้ำตาที่ไหลอาบแก้ม
“ไม่!” ลอร์ดพูดพร้อมส่ายหัว “มันแพร่เชื้อทางแผลนายไม่ได้ มันจะแพร่ทางการผสมพันธุ์ หรือการฟักไข่ใส่ผิวหนังของนาย”
คำพูดของลอร์ดทำให้ฮาโรลด์สงบลงได้
“ปังๆ!” เสียงพวกมันที่ใช้หัวกระแทกประตูยังคงดังอยู่ด้านนอกไม่ขาดสาย หวังจะเข้ามาเพื่อบดขยี้เขาทั้งสอง
“ไม่ได้การแล้ว ฮาโรลด์ตอนนี้กระสุนนายเหลือกี่นัด” ลอร์ดหันไปถามเพื่อนซี้
“ฉันไม่แน่ใจ แต่ฉันว่ามันคงเหลืออยู่ไม่ถึง 10” ฮาโรลด์ตอบด้วยน้ำเสียงไม่สู้ดี
ลอร์ดพยักหน้าหนึ่งครั้งก่อนที่จะค่อยๆพยุงร่างเพื่อนให้ลุกขึ้นมา “ไปกัน เราต้องขึ้นไปชั้นบน” ลอร์ดออกความเห็น
ทั้งคู่ค่อยพยุงตัวกันขึ้นบันไดจนไปถึงชั้นสองอย่างช้าๆไม่ต่างจากเต่าคลาน
ขณะที่กำลังจะก้าวถึงชั้น 2 นั่นเอง...
เอเลี่ยนตัวหนึ่งก็โผล่มา หน้าตาของมันคล้ายกับสุนัขที่มีลิ้นแยกออกมาเป็น 3 แฉกได้ น้ำลายไหลออกมาเป็นเมือกเหนียวๆที่พื้น พร้อมกับเสียงขู่ฝ่อๆอย่างน่าขนลุก
“บ้าเอ้ย!” ลอร์ดหยิบปืนพกที่เหน็บไว้ที่เอวอย่างลุกลีลุกลน ทว่า! เจ้าเอเลี่ยนหมาก็โดดเข้ากัดที่ข้อมือซ้ายของลอร์ดอย่างจัง
“อ้า!” เขาร้องด้วยความตกใจ ก่อนที่จะลงไปนอนกับพื้น ในขณะที่เจ้าเอเลี่ยนก็สะบัดฟันมันไปมาอย่างหิวกระหาย
“ไอ้เวรเอ้ย! เอานี่ไปกินซะมึง” ลอร์ดรวบรวมสติในวินาทีนั้นหยิบปืนพกขึ้นมา และกดไปที่หัวของเจ้าเอเลี่ยนหมาในระยะจ่อกะโหลก
“เปรี้ยง! เปรี้ยง!” เสียงปืนดังสนั่นไปทั่วอาคาร เลือดสีแดงดำเหนียวข้นกระเด็นใส่หน้าลอร์ด ก่อนที่ฟันของสุนัขเอเลี่ยนที่งับข้อมือของเขาจะค่อยๆคลายออกอย่างช้าๆ
ลอร์ดรีบลุกขึ้นมาด้วยความสะบักสะบอม
“เป็นไงบ้างเพื่อน” ฮาโรลด์ยื่นมือไปให้ลอร์ดจับ ก่อนที่ลอร์ดจะพยุงตัวลุกขึ้นมา
“ไม่เป็นไร แต่มันกัดฉันเหมือนกัน” ลอร์ดยกข้อมือซ้ายขึ้นมาพร้อมกับโชว์แผลซึ่งมีรอยฟันหลายสิบซี่ขนาดใหญ่ส่งผลให้เลือดไหลเป็นทาง
“ไอ้พวกนี้มันไวนัก” ฮาโรลด์บ่น
“ต่อไปเราคงต้องระวังมากกว่านี้” ลอร์ดพูดขณะเอาปืนพกเก็บไว้ที่เอวเหมือนเดิม
“วี๊ด!” เสียงแหลมชวนขนลุกบ่งบอกว่ายังมีพวกมันอยู่
ในอาคารแห่งนี้อีก
“ตอนนี้เราต้องรีบหายาเพื่อรักษาแผลก่อน” ลอร์ดออกความเห็นก่อนที่จะช่วยพยุงซึ่งกันและกันหาห้องที่มียารักษา
ติดตามตอนต่อไป > เอาตอนสั้นๆมาโปรโมทก่อน ระหว่าง The Dvil Games กับเรื่อง 3000 อันไหนสนุกกว่ากันครับ ^^”
โลกมนุษย์ในยุคนี้ พัฒนาการเทคโนโลยีเกือบจะเป็นชั้นสูงเกือบซะหมด โลกของเราสามารถติดต่อกับมนุษย์ต่างดาวได้ หรือที่เราเรียกว่า “พวกเอเลี่ยน” นั่นเอง แต่นั่นมันไม่ใช่เรื่องที่ดีเลย
...โลกของเราใน ค.ศ. ที่ 3000 เกิดหายนะครั้งใหญ่ พวกเอเลี่ยนที่ก้าวหน้าทางเทคโนโลยีสูงกว่าของเรา เกิดคิดที่จะเชื่อมผสานระหว่างโครโมโซมของมนุษย์ และของพวกมันรวมเป็นหนึ่งเดียวกัน และแพร่พันธุ์สัตว์ประหลาดที่มีต้นกำเนิดเชื้อ ซึ่งก็คือ มนุษย์ เพื่อยึดของโลกของเราอย่างสมบูรณ์
Horror Club Present …
3000 สงครามเอเลี่ยนบุกโลก
“ยิงแม่งเลย!” เสียงของฮาโรลด์ตะโกนอย่างบ้าคลั่ง ทั้งสองมือก็จับปืน M 16 A 1 ที่รัฐบาลแจกให้กราดใส่ฝูงเอเลี่ยนอย่างเมามันส์
“ใจเย็นฮาโรลด์” ลอร์ดวิ่งมาตบไหล่เพื่อนร่างยักษ์เบาๆ ก่อนที่จะชี้ไปยังเป้าหมาย “ นั่น! เราต้องวิ่งไปที่ตึกนั่น”
ฮาโรลด์เพื่อนร่างยักษ์พยักหน้าโดยไม่หันไปมอง ขณะที่ลอร์ดวิ่งนำหน้า และฮาโรลด์ยิงคุ้มกัน
“ไปตายซะไอ้พวกบ้า” สองมือของเขายังคงกราดกระสุนที่มีเยี่ยงช้างตกมัน
“วี้ๆ!” ฝูงเอเลี่ยนตะโกนร้องด้วยความเจ็บระงม
“เร็วเข้า!” ลอร์ดกวักมือเรียกเพื่อนให้เข้ามาที่ประตูเหล็กของตึกแห่งหนึ่ง
ทั้งคู่ช่วยกันเลื่อนประตูขนาดใหญ่จนปิดสนิทก่อนที่จะปล่อยให้ฝูงเอเลี่ยนที่ตามมาเคาะประตูเรียกอยู่ด้านนอกด้วยความกระหาย
“แม่งเอ้ย! มันกัดฉัน” ฮาโรลด์ร้องด้วยความเจ็บปวด
“ใจเย็น! นายต้องไม่ตาย” ลอร์ดตะโกนปลอบใจหวังสงบอารมณ์ของเพื่อนซี้
“ฉันยังไม่ติดเชื้อใช่ไหม?” ฮาโรลด์หันหน้าไปมองลอร์ด ใบหน้าแสดงน้ำตาที่ไหลอาบแก้ม
“ไม่!” ลอร์ดพูดพร้อมส่ายหัว “มันแพร่เชื้อทางแผลนายไม่ได้ มันจะแพร่ทางการผสมพันธุ์ หรือการฟักไข่ใส่ผิวหนังของนาย”
คำพูดของลอร์ดทำให้ฮาโรลด์สงบลงได้
“ปังๆ!” เสียงพวกมันที่ใช้หัวกระแทกประตูยังคงดังอยู่ด้านนอกไม่ขาดสาย หวังจะเข้ามาเพื่อบดขยี้เขาทั้งสอง
“ไม่ได้การแล้ว ฮาโรลด์ตอนนี้กระสุนนายเหลือกี่นัด” ลอร์ดหันไปถามเพื่อนซี้
“ฉันไม่แน่ใจ แต่ฉันว่ามันคงเหลืออยู่ไม่ถึง 10” ฮาโรลด์ตอบด้วยน้ำเสียงไม่สู้ดี
ลอร์ดพยักหน้าหนึ่งครั้งก่อนที่จะค่อยๆพยุงร่างเพื่อนให้ลุกขึ้นมา “ไปกัน เราต้องขึ้นไปชั้นบน” ลอร์ดออกความเห็น
ทั้งคู่ค่อยพยุงตัวกันขึ้นบันไดจนไปถึงชั้นสองอย่างช้าๆไม่ต่างจากเต่าคลาน
ขณะที่กำลังจะก้าวถึงชั้น 2 นั่นเอง...
เอเลี่ยนตัวหนึ่งก็โผล่มา หน้าตาของมันคล้ายกับสุนัขที่มีลิ้นแยกออกมาเป็น 3 แฉกได้ น้ำลายไหลออกมาเป็นเมือกเหนียวๆที่พื้น พร้อมกับเสียงขู่ฝ่อๆอย่างน่าขนลุก
“บ้าเอ้ย!” ลอร์ดหยิบปืนพกที่เหน็บไว้ที่เอวอย่างลุกลีลุกลน ทว่า! เจ้าเอเลี่ยนหมาก็โดดเข้ากัดที่ข้อมือซ้ายของลอร์ดอย่างจัง
“อ้า!” เขาร้องด้วยความตกใจ ก่อนที่จะลงไปนอนกับพื้น ในขณะที่เจ้าเอเลี่ยนก็สะบัดฟันมันไปมาอย่างหิวกระหาย
“ไอ้เวรเอ้ย! เอานี่ไปกินซะมึง” ลอร์ดรวบรวมสติในวินาทีนั้นหยิบปืนพกขึ้นมา และกดไปที่หัวของเจ้าเอเลี่ยนหมาในระยะจ่อกะโหลก
“เปรี้ยง! เปรี้ยง!” เสียงปืนดังสนั่นไปทั่วอาคาร เลือดสีแดงดำเหนียวข้นกระเด็นใส่หน้าลอร์ด ก่อนที่ฟันของสุนัขเอเลี่ยนที่งับข้อมือของเขาจะค่อยๆคลายออกอย่างช้าๆ
ลอร์ดรีบลุกขึ้นมาด้วยความสะบักสะบอม
“เป็นไงบ้างเพื่อน” ฮาโรลด์ยื่นมือไปให้ลอร์ดจับ ก่อนที่ลอร์ดจะพยุงตัวลุกขึ้นมา
“ไม่เป็นไร แต่มันกัดฉันเหมือนกัน” ลอร์ดยกข้อมือซ้ายขึ้นมาพร้อมกับโชว์แผลซึ่งมีรอยฟันหลายสิบซี่ขนาดใหญ่ส่งผลให้เลือดไหลเป็นทาง
“ไอ้พวกนี้มันไวนัก” ฮาโรลด์บ่น
“ต่อไปเราคงต้องระวังมากกว่านี้” ลอร์ดพูดขณะเอาปืนพกเก็บไว้ที่เอวเหมือนเดิม
“วี๊ด!” เสียงแหลมชวนขนลุกบ่งบอกว่ายังมีพวกมันอยู่
ในอาคารแห่งนี้อีก
“ตอนนี้เราต้องรีบหายาเพื่อรักษาแผลก่อน” ลอร์ดออกความเห็นก่อนที่จะช่วยพยุงซึ่งกันและกันหาห้องที่มียารักษา
ติดตามตอนต่อไป > เอาตอนสั้นๆมาโปรโมทก่อน ระหว่าง The Dvil Games กับเรื่อง 3000 อันไหนสนุกกว่ากันครับ ^^”

แก้ไขล่าสุด: 24/10/2554 19:06 โดย หนูเดซี่ค่ะ
สนุกเหมือนกันเลย ได้อารมณ์คนละแนว
ผมว่าแต่งให้ซีรี่ส์ the devil games ให้จบก่อน แล้วต่อด้วย 3000 ขุนศึกพันธ์สะท้านโลก!!!!
ผมว่าแต่งให้ซีรี่ส์ the devil games ให้จบก่อน แล้วต่อด้วย 3000 ขุนศึกพันธ์สะท้านโลก!!!!
#7 ...
ชอบโปสเตอร์เป็นที่สุด ... เป็นตัวของตัวเองดีมาก
ชอบโปสเตอร์เป็นที่สุด ... เป็นตัวของตัวเองดีมาก
ฝีมือการวาดภาพ อย่างเทพ น้องแบงค์สู้ๆ
เอเลี่ยนในโปสเตอร์น่ารักอ่ะ 55
ปล. The devil game ตอนนี้โหดนิ
ปล. The devil game ตอนนี้โหดนิ
ชอบเอเลี่ยนสามตาอะตัวเอง 5555555555555
(อ้าว ดันมาพูดถึงโปสเตอร์ซะงั้น)
(อ้าว ดันมาพูดถึงโปสเตอร์ซะงั้น)
Function Used time : 0:00:00:00.016