อ่อ เราพึ่งรู้มาว่าคนสร้างซีรี่ย์นี้คือ Ryan Murphy

ซึ่งเค้ากำลังมีซีรี่ย์ใหม่ฉายตอนนี้เรื่อง American Horror Story

แล้วหลายคนตอนแรก จะงงมาก เพราะทุกคนจะไปจดจำเค้าได้ในฐานะผู้สร้าง GLEE ก็แบบ เป็นไปได้หรอ ที่คนทำซีรี่ย์น่ารักๆแบบนั้น จะมาทำซีรี่ย์ผีเคลือบเซ็กซ์

นี้ไง มันเลยต้องผ่าให้ลึกลงไปว่า ก่อนไรอันจะมาทำ กลี เค้าก็ทำ NIP TUCK มาก่อน

แล้วไอ้ความเป็นเกย์ของเค้า มันก็แฝงอยู่ในรสนิยมประดิษฐ์ประดอย การตกแต่งฉากที่จัดจ้าน บรรยากาศที่ดูไม่น่าไว้วางใจของแสงและเงา การจับคู่ของอะไรที่ดูแปลกเปื้อนป๊อบ.... คือเรารู้สึกว่ามันดูแฟนซีด้วยทั้งทางเพศ และความน่ากลัว อย่างไอ้ผีชุดหนัง หรือท่าโพสวิริสมาหราอะไรพวกนี้นะ

หรือแม้แต่การพยายามจับกระแสคนชายขอบมาเข้ากับวัฒนธรรมพ๊อพๆ แบบ GLEE หรือ NIP TUCK นิก็น่าใช้ เพราะเป็นเรื่องคนที่อยากศัลยกรรม ซึ่งก็เหมือนมีความแปลกแยกจากสังคมส่วนนึง หรือรู้สึกแปลกปลอมกับร่างกาย พื้นที่ของตัวเอง

พอโพสถึงเรื่องศัลยกรรมกับหนังสยอง แล้วก็นึกถึงหนังอีกเรื่องที่รอดูเลยแหะ เพราะน่าจะแฝงประเด็นคล้ายๆกัน



คือผิวหนัง มันเป็นส่วนที่ห่อหุ้มร่างกาย ก็เหมือนอาภรณ์อย่างนึง เป็นเครื่องแบบที่ให้ร่างกายเราสวมใส่ เครื่องแบบ/เปลือกนอก มันคืออะไร มันคือการบ่งบอกตัวตนของเรา สิ่งที่เราเป็น เชื้อชาติ สังกัด ซึ่งร่างกายหากปราศจากการมีอยู่ของผิวหนังก็ไม่อาจดำรงตนอยู่ในสังคมได้ แต่ในขณะเดียวกันไอ้เครื่องแบบหรือผิวหนังนี้เองก็อาจจะเป็นเหมือนการกักขังระหว่างตัวตนที่แท้จริงของเราก็เป็นได้

หนังเล่าเรื่องของศัลยแพทย์มือดีคนนึงที่กำลังทำการทดลองปลูกถ่ายผิวหนังเทียมเพื่อผ่าตัดให้กับภรรยาของเค้าที่ประสบอุบัติเหตุไฟไหม้ และในขณะเดียวกันเค้าก็ยังวางแผนที่จะแก้แค้นให้กับลูกสาวที่ถูกข่มขืนอีกด้วย

โดยตัวหนังจะเล่าเรื่องสลับไปมาระหว่างอดีต ปัจจุบัน ผ่านตัวละครในคฤหาสน์ ที่มีศัลยแพทย์ ภรรยา ลูกสาว แม่บ้าน ผู้ร้ายข่มขืน ถึงเรื่องราวและความสัมพันธ์สลักซับซ้อนเหล่านั้น....

คือมานั่งนึกลิงค์ๆไปแล้ว เปรโด อัลมาโดวาร์ ผกก. คนนี้ก็เป็นเกย์อีก แล้วไอ้จริตจกร้านแบบนี้มันก็อบอวลอยู่ในหนังนะ การ decorate อะไรต่อมิอะไร - - หรือแม้แต่แทนที่ถ้าเป็นผกก. สายหนังสยอง (ซึ่งเป็นโลกของผู้ชายเป็นหลัก) ถ้าทำเนี้ย คงจะ gore ได้เลย เพราะพูดถึงการผ่าตัดผิวหนัง มันเอื้อประโยชน์ให้ทำอะไรหวาดเสียวไส้ลูกตามากๆ แต่พออยู่ในมือผกก.ที่ดูเป็นเพศเข้าอกเข้าใจผู้หญิง และก็บ้าคลั่งการประดิษฐ์ประดอยองค์ประกอบหนัง (คือเปรโด ก็มาจากสายผกก. ดราม่า แล้วหนังก็จะฉูดฉาด โครงสร้างเมโลดราม่า แต่ก็จะแหกคอกใส่อะไรโป๊ๆเรื่องเพศเข้าไป) หนังมันเลยดูตกแต่งไปอีกแบบนึง เราจะเห็นว่าผิวหนังเทียมในหนังก็ถูกออกแบบมาเหมือนชุดรัดรูปใส่ลดความอ้วน หรือมีลักษณะที่ไปในทางของ costume มากกว่า organic เป็นอวัยวะหรือผิวจริงๆ เป็นแฟนซี....

แต่ว่าอย่างไอ้หน้าพลาสติกที่ครอบไว้ อันนี้เข้าใจว่าป้าแกน่าจะได้แรงบันดาลใจจากหนังเยอรมันขาวดำ เรื่อง Eyes without a face

อันนี้ไม่แน่ใจ แต่เดาเอา เพราะเปโดรเป็นผกก.ที่เวลาทำหนังอะไรจะชอบมี reference ถึงหนังเก่าๆเสมอๆ แล้วพอมันเห็นเทรลเลอร์ skin i live in มันก็เดจาวูเลย






ก็ว่าด้วยพ่อที่เป็นศัลยแพทย์ที่พยายามจะผ่าตัดหน้าให้ลูกสาวด้วยการจับคนมาเป็นหนูทดลอง

NIP TUCK ผมเคยดูทาง UBC เมื่อก่อน สนุกมาก ช่วงนั้นไม่ค่อยได้ดูอะไรดรามา ดูแต่บัฟฟี่กับซิทคอม พอได้ดูเรื่องนี้เข้าเลยประทับใจมั่ก ๆ ... ใจจริงอยากหามาดูต่อมาก ๆ แต่ติดตรงที่มีอีกหลายเรื่องเหมือนกันที่อยากดู คงต้องหาเวลาว่าง ๆ มานั่งดูให้จบ

จุดที่ไม่ชอบเลยก้คือลูกชายตัวเอกหน้าเหมือน MJ เกินไป ... 555+

ปล. คนขวานะ ลูกชายพระเอกที่พูดถึง ... คนซ้ายนี่ระวังหน่อย ดุ้นชัด ๆ

ถ้าอาทบอกว่าหนุก ก็ไว้ใจได้ล่ะ555+

ป.ล. เราว่าหน้าไม่เหมือน MJ นะ

กิ้วเพิ่งดูNIP TUCK ไปค่ะ ทนไม่ไหวเลิกดูไปแล้วรำคาญ หมอแมคนามาร่า คนที่มีครอบครัวแล้วอ่ะค่ะ
เลยกลับไปดูหมอบ้านต่อ ถึงหมอบ้านจะนิสัยเสียแต่ก็แต่ก็เลวแบบเปิดเผยและภูมิใจ5555

NIP TUCKก็สนุกค่ะ มีผ่า มีเฉือนบวกกับดราม่าด้วย ฉากเซ็กซ์ค่อนข้างชัดเจน เลือดเป็นเลือด ถลกเป็นถลก(ฮา) เดี๋ยวไม่มีอะไรจะดูแล้วเดี๋ยวจะกลับไปดูอีก เพราะจริงๆแล้วสนุกนะคะ

อ้อ หน้าเหมือนMJจริงๆค่ะ ขอยืนยัน5555

หนีบทุกข์ ตอนที่เปิดดูครั้งแรกนี่
นี่มันหนังโหดเลือดสาดชัดๆ !


พูดถึงลูกชายของหมอแมคแล้ว
ก็ต้องเป็นตอนที่พยายามจะขลิบนี่แหละ !

โอว 5 5 5 5