(ถามไม่หน่อย) ถ้าจัดworkshopหรือเสวนา อยากให้มีหัวข้ออะไร หรือ ทำอะไร ขอความคิดเห็นหน่อย
by แว่นจัง • วันจันทร์ที่ 5 กันยายน พ.ศ. 2554 22:00
มันจุดประกายตอนเห็นงานเสวนา งานคอมมิค คอน งาน อะไรต่างๆเกี่ยวกับหนังโหด นั่งคิดในเมืองไทยแบบนี้คงมีน้อยมากถึงไม่มี
แน่นอนคงไม่ได้ทำช่วงนี้เพราะต้องขอเวลาวางแผน+ งานยุ่งโคตร อย่างไรก็อยากเห็นช่วยกันเสนอแนะหน่อยว่าทำหัวข้ออะไรดี เรื่องอะไรดี จัดสถานที่ไหนดี ใครมีประสบการณ์ก็แชร์เลย
ที่คิดๆไว้มี
workshop ได้ความคิดจากลุงเคราว่า
น่าจะสอนทำเลือด แผลปลอม หรืออื่นๆ แต่เก็บเงินนะ
จัดเสวนา แต่ว่าคงต้องหาแม่เหล็กมาเป็นตัวชูโรงในการพูดคุย
ใครมีหัวข้ออะไรแนะนำ อยากให้เปิดworkshopอะไร เชี่ยวชาญด้านไหนอยากแชร์ความรู้ เคยทำworkshopมาก่อน อันนี้แนะนำเลย ความคิดเห็นทุกท่านสำคัญมากกกกกกกกก
สำหรับคนไม่กล้าไปกินโหดด้วยกัน ในอนาคตเราอาจได้ไปเจอกันในงานนี้ จ๊ะ
แน่นอนคงไม่ได้ทำช่วงนี้เพราะต้องขอเวลาวางแผน+ งานยุ่งโคตร อย่างไรก็อยากเห็นช่วยกันเสนอแนะหน่อยว่าทำหัวข้ออะไรดี เรื่องอะไรดี จัดสถานที่ไหนดี ใครมีประสบการณ์ก็แชร์เลย
ที่คิดๆไว้มี
workshop ได้ความคิดจากลุงเคราว่า
น่าจะสอนทำเลือด แผลปลอม หรืออื่นๆ แต่เก็บเงินนะ
จัดเสวนา แต่ว่าคงต้องหาแม่เหล็กมาเป็นตัวชูโรงในการพูดคุย
ใครมีหัวข้ออะไรแนะนำ อยากให้เปิดworkshopอะไร เชี่ยวชาญด้านไหนอยากแชร์ความรู้ เคยทำworkshopมาก่อน อันนี้แนะนำเลย ความคิดเห็นทุกท่านสำคัญมากกกกกกกกก
สำหรับคนไม่กล้าไปกินโหดด้วยกัน ในอนาคตเราอาจได้ไปเจอกันในงานนี้ จ๊ะ
Replies (19)
ความเห็นส่วนตัวนะครับ ผมว่าน่าจะจัดฉายหนังสยองขวัญ โดยให้ตั้งหัวข้อของการฉายนั้นๆ สมมุติว่าเป็นหัวข้อ Silent Horror แล้วก็เลือกหนังที่โดดเด่นในช่วงนั้นและก็หนังที่ทางผู้จัดคิดว่าน่าสนใจ (ด้วยเหตุผลส่วนตัวหรืออะไรก็ตาม) หลังจากฉายเสร็จก็ค่อยมีการเสวนา หรือ สนทนา ก็ตามแต่ (เสวนาเดี๋ยวจะดูวิชาการไป) โดยอาจมีวิทยากรร่วมบรรยาทพร้อมกับการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับผู้ชม โดยมีการเก็บค่าตั๋วในการเข้าร่วมงานเพื่อจะได้เอารายได้เป็นทุนในการจัดครั้งต่อไป
ผมอยากไป้เข้าร่วมมากเลย แต่พ่อแม่ผมคงรับไม่ได้ ฮือๆ ที่จริงงานแบบนี้ผมชอบนะครับ อยากไปเข้าร่วมมากๆ เพราะออาจจะได้เจอหนังโหดในดวงใจ ว่าแต่ว่าถ้าจัดขึ้นจริงๆ จะมีการจำหน่ายและฉายหนังแนว Fake Snuff หรือเปล่าครับ
เอาจากประสบการณ์เวิร์คชอปของตัวเองมาดัดแปลง
น่าจะมีฉายหนังสยองขวัญต้องห้ามทั้งหลายที่หาดูยากๆ
แล้วก็มีจัดนิทรรศการหนังในตำนาน หรือหนังต้นแบบสยองขวัญทั้งหลาย หรือพวกหนังหวีดที่มีหลายๆ ภาค ขนมาแบบครบชุด
ส่วนเรื่องการฉาย ถ้าจัดงานหลายวันน่าจะแบ่งเป็นวันค่ะ
เช่นวันนี้ ของผู้กำกับคนนี้ วันนี้ของผู้กำกับอีกคนนึง แล้วมีวนกลับมารีรันใหม่สำหรับคนที่พลาดการฉายในวันนั้นๆ
เอาคร่าวๆ แค่นี้ก่อนค่ะ เดี๋ยวคิดออกจากมานำเสนอใหม่
น่าจะมีฉายหนังสยองขวัญต้องห้ามทั้งหลายที่หาดูยากๆ
แล้วก็มีจัดนิทรรศการหนังในตำนาน หรือหนังต้นแบบสยองขวัญทั้งหลาย หรือพวกหนังหวีดที่มีหลายๆ ภาค ขนมาแบบครบชุด
ส่วนเรื่องการฉาย ถ้าจัดงานหลายวันน่าจะแบ่งเป็นวันค่ะ
เช่นวันนี้ ของผู้กำกับคนนี้ วันนี้ของผู้กำกับอีกคนนึง แล้วมีวนกลับมารีรันใหม่สำหรับคนที่พลาดการฉายในวันนั้นๆ
เอาคร่าวๆ แค่นี้ก่อนค่ะ เดี๋ยวคิดออกจากมานำเสนอใหม่
ผมไม่ค่อยสนใจ workshop ซักเท่าไรนัก เพราะดูว่าการทำแผลปลอม เลือดปลอมมันเป็นเรื่องไกลตัวสำหรับผม แต่อาจจะเหมาะกับคนที่กำลังเรียนอยู่ด้านนิเทศ หรือภาพยนต์ ... และเห็นด้วยกับที่คุณ Skull Terror บอก คือนำหนังมาฉาย ภายใต้หัวข้อใดหัวข้อหนึ่ง แต่ต้องเป็นหนังที่ rare จริง ๆ แบบว่า หาดูไม่ได้ง่าย ๆ แล้วต้องมีการเก็บค่าตั๋วเพื่อรับชม (ในราคาที่ไม่สูงมากนัก) เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ของผู้จัดงาน
ส่วนที่ผมเคยบอกในเพซไปว่า อยากให้มีการสัมมนาเรื่องหนังโหดแหวะกับวัยรุ่นนั้น คิดไปคิดมา มันเป็นหัวข้อสัมนาแบบไม่รู้จบ ... คือถ้าคนมัน anti ยังไงมันก็ไม่เห็นด้วยตลอดอยู่แล้ว ดังนั้นประเด็นนี้ยกเลิกไปน่าจะดีกว่า ไม่งั้นอาจเกิดการตีกันระหว่าง คลับหนังโหด กับ สมาคมผู้ปกครองได้ (55+)
ส่วนที่ผมเคยบอกในเพซไปว่า อยากให้มีการสัมมนาเรื่องหนังโหดแหวะกับวัยรุ่นนั้น คิดไปคิดมา มันเป็นหัวข้อสัมนาแบบไม่รู้จบ ... คือถ้าคนมัน anti ยังไงมันก็ไม่เห็นด้วยตลอดอยู่แล้ว ดังนั้นประเด็นนี้ยกเลิกไปน่าจะดีกว่า ไม่งั้นอาจเกิดการตีกันระหว่าง คลับหนังโหด กับ สมาคมผู้ปกครองได้ (55+)
รึเราจะเสวนาเรื่อง ... "หนังโหดอย่างไหนที่คนไทยโปรดปราน" อิอิ ...
เอาแบบรวมกลุ่มแชร์ประสบการณ์โหดๆ ที่อยากเอามาทำเป็นหนังที่สะท้อนสังคมในบัจจุบัน (เอ? รึว่าดูข่าวหน้า่หนึ่งก็โหดพออยู่แล้ว อิอิ )
เอาแบบรวมกลุ่มแชร์ประสบการณ์โหดๆ ที่อยากเอามาทำเป็นหนังที่สะท้อนสังคมในบัจจุบัน (เอ? รึว่าดูข่าวหน้า่หนึ่งก็โหดพออยู่แล้ว อิอิ )
ดูเค้าแล้ว...น่าจะไม่มี Fake Snuff ฮือๆๆๆๆๆ
หาสถานที่อยู่ด้วยละ ตอนนี้ คือถ้าฉายหนังยังไม่ค่อยเท่าไร ถ้าเจ้าของสถานที่จะโอเคไม๊กับการฉายหนังโหด
อาจจะต้องหาหัวข้อสำหรับเสวนา คนดูหนังโหด เริ่มตั้งแต่วัยรุ่นขึ้นมา ต้องจัดเรตไม๊?
อยากให้น้องๆวัยรุ่นมาอยากฟังความคิดเห็นวัยรุ่นบ้าง
ว่าแต่มีหนังrareอันไหนน่าไปหามาฉายอีก
อาจจะต้องหาหัวข้อสำหรับเสวนา คนดูหนังโหด เริ่มตั้งแต่วัยรุ่นขึ้นมา ต้องจัดเรตไม๊?
อยากให้น้องๆวัยรุ่นมาอยากฟังความคิดเห็นวัยรุ่นบ้าง
ว่าแต่มีหนังrareอันไหนน่าไปหามาฉายอีก
#7 ...
สงสัยอย่างนึง การที่เราจะนำหนังมาฉายนี่ จำเป็นต้องติดต่อเจ้าของหนัง หรือผู้กำกับ ผู้จัดจำหน่ายอะไร เพื่อขออณุญาตินำหนังมาฉายก่อนไหม ... ?
สงสัยอย่างนึง การที่เราจะนำหนังมาฉายนี่ จำเป็นต้องติดต่อเจ้าของหนัง หรือผู้กำกับ ผู้จัดจำหน่ายอะไร เพื่อขออณุญาตินำหนังมาฉายก่อนไหม ... ?
ตามหลักและมารายาทแล้วควรติดต่อ ว่าเราจะนำหนังของเขามาฉายนะ บางคนอาจจะขอให้ส่งเบเปอร์เพราะว่าบางทีเขาก็ไม่ยอมให้ฉายหนังของเขาเดี่ยวๆ เพราะเขาจะมองว่าเป็นการค้า ควรซื้อลิขสิทธิ์ไปจะดีกว่า เขาก็จะต้องการหัวข้อของการฉายนี่ละครับแล้วก็จะมีหนังอะไรร่วมอยู่บ้างองค์กรใดเป็นผู้จัด บรา บรา ไป ตามแบบการเขียนโครงงานนั่นละ แต่ถ้าไม่ขอเขาก็ไม่รู้หรอกครับ แต่มันก็จะไม่เกิดประโยชน์อะไรนอกจากได้ฉาย ผมว่าการติดต่อกันเป็นสิ่งที่ดี มันทำให้เขารู้ว่าประเทศเราก็มีกลุ่มหนึ่งที่สนใจหนังแบบนี้ ทำกิจกรรมที่เป็นจริงเป็นจัง
ส่วนสถานที่ผมว่าเงินสำคัญกว่าหนังอะไรจะฉายนะผมว่า 555 เพราะยังไงเราคงไม่ได้ฉายด้วย film อยู่แล้ว
เท่าที่อ่านตามเว็บของฝรั่งมันก็ไม่เห็นจัดเรทนะ ยกเว้นเทศการหนังโป๊
ความคิดเห็นที่ 6
ดูเค้าแล้ว...น่าจะไม่มี Fake Snuff ฮือๆๆๆๆๆ
ผมว่าเขายังไม่มีข้อสรุปใดๆในตอนนี้ อาจจะมีในครั้งแรก หรือไม่มี หรือมีในครั้งต่อๆไปก็ได้ครับ
ผมว่าขั้นแรกต้องยืนให้ได้มากกว่าที่จะคิดว่าเราจะเดินท่าไหน
ส่วนสถานที่ผมว่าเงินสำคัญกว่าหนังอะไรจะฉายนะผมว่า 555 เพราะยังไงเราคงไม่ได้ฉายด้วย film อยู่แล้ว
เท่าที่อ่านตามเว็บของฝรั่งมันก็ไม่เห็นจัดเรทนะ ยกเว้นเทศการหนังโป๊
ความคิดเห็นที่ 6
ดูเค้าแล้ว...น่าจะไม่มี Fake Snuff ฮือๆๆๆๆๆ
ผมว่าเขายังไม่มีข้อสรุปใดๆในตอนนี้ อาจจะมีในครั้งแรก หรือไม่มี หรือมีในครั้งต่อๆไปก็ได้ครับ
ผมว่าขั้นแรกต้องยืนให้ได้มากกว่าที่จะคิดว่าเราจะเดินท่าไหน
เอาใจช่วยครับ สู้ๆ
ขอแยกเป็นประเด็นนะ
สัมนา กับ เวิร์คช๊อป
เราคิดว่าเวิร์คช๊อปไม่เวิร์คอ่ะ... คือเราว่ามันเป็นกิจกรรมที่ทำได้แป๊บเดียว ทำเสร็จแล้วก็ไม่ได้ไปต่อยอด อะไรเลย มันไม่เหมือนการทำอาหาร ที่ทุกคนได้ทำ มีโต๊ะเป็นของตัวเอง มีพื้นที่ของตัวเอง และได้ทำเอง.... มันจะกลายเป็นการไปดูนั่งคนทำเฉยๆแล้วกลับบ้าน
โอเค แต่ถ้าคิดจะทำแบบให้ผู้เข้าร่วมได้ทำกัน มีอุปกรณ์ให้ อะไรแบบนี้ก็น่าสนใจดีนะ
แต่ทีนี้เรามองว่า ไอ้การทำเวิร์คช๊อป มันไม่สามารถจัดได้อย่างสม่ำเสมอนะสิ... เหมือนกับถ้าเดือนแรกจัดแต่งหน้าผี เดือนสองจัดทำเลือดปลอม
แล้วต่อไปจะมีอะไรให้ทำอีกไหม... ในระยะยาวเราจะไม่มีอะไรเหลือให้ทำ
เพราะสำหรับเรา เราอยากให้กิจกรรมที่พวกเรา(อาจจะ)ได้จัดขึ้น มีการจัดขึ้นเป็นประจำทุกเดือน เดือนละครั้ง
เราอยากให้มันออกมาในรูปแบบสัมนามากกว่า หรือพูดให้ดูไม่เป็นทางการก็คือ ดูหนังแล้วคุยกัน ในแบบที่เรียบง่าย ไม่เป็นพิธีรีตอง ไม่ใช่แบบเช่าห้องประชุม เอาโต๊ะมาตั้งในห้องปูพรม ดูหนังแล้วเสวนา... เราว่ามันใหญ่ไป
เราอยากให้มันได้อารมณ์แบบ film club ตามมหาลัย หรือกลุ่มฉายหนังเล็กๆ พวก third class citizen (ในเครือไบโอสโคป)หรือกลุ่ม filmvirus... คือคุณดูไป นอนไป กินขนมไป ดูจบก็คุยกันถึงประเด็นหนัง นั่งเก้าอี้ล้อมวง แบ่งปันความคิด
ส่วนเรื่องเงิน
ถึงเราฉายฟรียังไำง มันก็หาเรื่องได้
ฉะนั้นเราควรฉายหนังที่ไม่ค่อยเป็นที่แพร่หลาย (อาจจะเป็นหนังฮอลลีวู้ดก็ได้ แต่เก่าแล้ว และเราอยากให้คนรุ่นใหม่ๆมาดูกัน)ถ้าไม่มีลิขสิทธิ์ในไทยเลยจะดีมาก
เราเชื่อว่ามีหนังอีกมากมายที่ไม่มีร่างกายอยู่ในประเทศไทย แต่เป็นวิญญาณลอยวนเวียนในภพภูมิยุโรป อเมริกา
เช่นหนัง rubber / the human centipede 2 / anguish / possesion / kill list /
ทีนี้ถ้าจะทำแบบ horror film club เราว่าก็ต้องคิดว่าจะทำแบบไหน
ระหว่าง
1. ฉายแหลก เอามันส์ เลือกหนังสยองแบบที่ดูง่าย ตลาด โหดสนุก เป็น popcorn movie
2. ฉายหนังแบบมีการตั้งประเด็นต่อหนังเรื่องนั้น หนังอาจจะไม่แมส อาจจะไม่ใช่หนังดีเลิศ แต่เป็นหนังที่มีอะไรให้พูดถึง
เช่น antichrist การตีความศาสนาคริสตร์ผ่านความสัมพันธ์ชายหญิง และการทับซ้อนอำนาจของสตรีในธรรมชาติ (ชื่อประเด็นดูวิชาการมาก 555+)
Female Trouble มองจอนห์ วอเทอร์ ผ่านการตบหัวคว่ำสังคมอเมริกัน
Repulsion + Poseesion อาการสติแตกของผู้หญิง
ซึ่งอยากให้มีจัดกันทุกเดือนนะ แต่ละเดือนก็จะได้ลุ้นว่า เราจะมาดูหนังอะไรกัน
ซึ่งเราว่าเราชอบแบบหลังนะ คือมันเปิดขอบเขตให้การดูหนังสยองมีมิติทางความรู้ วิชาการ มากกว่าจะดูเอามันส์ (แต่จริงๆดูเอามันส์ แม่งก็สนุกจริงๆนั้นแหละ เพราะการดูหนังแล้วได้อารมณ์มันเป็นฟังค์ชั่นลำดับต้นๆของสื่อภาพยนตร์เล่าเรื่องเลย)
แนะนำว่าถ้าจะทำ ควรมีสปอนเซอร์นะ เอาไว้จ่ายค่าสถานที่ ซึ่งแน่นอนก็ต้องคิดด้วยว่าจะหาสถานที่ที่ไหนจัด....
สัมนา กับ เวิร์คช๊อป
เราคิดว่าเวิร์คช๊อปไม่เวิร์คอ่ะ... คือเราว่ามันเป็นกิจกรรมที่ทำได้แป๊บเดียว ทำเสร็จแล้วก็ไม่ได้ไปต่อยอด อะไรเลย มันไม่เหมือนการทำอาหาร ที่ทุกคนได้ทำ มีโต๊ะเป็นของตัวเอง มีพื้นที่ของตัวเอง และได้ทำเอง.... มันจะกลายเป็นการไปดูนั่งคนทำเฉยๆแล้วกลับบ้าน
โอเค แต่ถ้าคิดจะทำแบบให้ผู้เข้าร่วมได้ทำกัน มีอุปกรณ์ให้ อะไรแบบนี้ก็น่าสนใจดีนะ
แต่ทีนี้เรามองว่า ไอ้การทำเวิร์คช๊อป มันไม่สามารถจัดได้อย่างสม่ำเสมอนะสิ... เหมือนกับถ้าเดือนแรกจัดแต่งหน้าผี เดือนสองจัดทำเลือดปลอม
แล้วต่อไปจะมีอะไรให้ทำอีกไหม... ในระยะยาวเราจะไม่มีอะไรเหลือให้ทำ
เพราะสำหรับเรา เราอยากให้กิจกรรมที่พวกเรา(อาจจะ)ได้จัดขึ้น มีการจัดขึ้นเป็นประจำทุกเดือน เดือนละครั้ง
เราอยากให้มันออกมาในรูปแบบสัมนามากกว่า หรือพูดให้ดูไม่เป็นทางการก็คือ ดูหนังแล้วคุยกัน ในแบบที่เรียบง่าย ไม่เป็นพิธีรีตอง ไม่ใช่แบบเช่าห้องประชุม เอาโต๊ะมาตั้งในห้องปูพรม ดูหนังแล้วเสวนา... เราว่ามันใหญ่ไป
เราอยากให้มันได้อารมณ์แบบ film club ตามมหาลัย หรือกลุ่มฉายหนังเล็กๆ พวก third class citizen (ในเครือไบโอสโคป)หรือกลุ่ม filmvirus... คือคุณดูไป นอนไป กินขนมไป ดูจบก็คุยกันถึงประเด็นหนัง นั่งเก้าอี้ล้อมวง แบ่งปันความคิด
ส่วนเรื่องเงิน
ถึงเราฉายฟรียังไำง มันก็หาเรื่องได้
ฉะนั้นเราควรฉายหนังที่ไม่ค่อยเป็นที่แพร่หลาย (อาจจะเป็นหนังฮอลลีวู้ดก็ได้ แต่เก่าแล้ว และเราอยากให้คนรุ่นใหม่ๆมาดูกัน)ถ้าไม่มีลิขสิทธิ์ในไทยเลยจะดีมาก
เราเชื่อว่ามีหนังอีกมากมายที่ไม่มีร่างกายอยู่ในประเทศไทย แต่เป็นวิญญาณลอยวนเวียนในภพภูมิยุโรป อเมริกา
เช่นหนัง rubber / the human centipede 2 / anguish / possesion / kill list /
ทีนี้ถ้าจะทำแบบ horror film club เราว่าก็ต้องคิดว่าจะทำแบบไหน
ระหว่าง
1. ฉายแหลก เอามันส์ เลือกหนังสยองแบบที่ดูง่าย ตลาด โหดสนุก เป็น popcorn movie
2. ฉายหนังแบบมีการตั้งประเด็นต่อหนังเรื่องนั้น หนังอาจจะไม่แมส อาจจะไม่ใช่หนังดีเลิศ แต่เป็นหนังที่มีอะไรให้พูดถึง
เช่น antichrist การตีความศาสนาคริสตร์ผ่านความสัมพันธ์ชายหญิง และการทับซ้อนอำนาจของสตรีในธรรมชาติ (ชื่อประเด็นดูวิชาการมาก 555+)
Female Trouble มองจอนห์ วอเทอร์ ผ่านการตบหัวคว่ำสังคมอเมริกัน
Repulsion + Poseesion อาการสติแตกของผู้หญิง
ซึ่งอยากให้มีจัดกันทุกเดือนนะ แต่ละเดือนก็จะได้ลุ้นว่า เราจะมาดูหนังอะไรกัน
ซึ่งเราว่าเราชอบแบบหลังนะ คือมันเปิดขอบเขตให้การดูหนังสยองมีมิติทางความรู้ วิชาการ มากกว่าจะดูเอามันส์ (แต่จริงๆดูเอามันส์ แม่งก็สนุกจริงๆนั้นแหละ เพราะการดูหนังแล้วได้อารมณ์มันเป็นฟังค์ชั่นลำดับต้นๆของสื่อภาพยนตร์เล่าเรื่องเลย)
แนะนำว่าถ้าจะทำ ควรมีสปอนเซอร์นะ เอาไว้จ่ายค่าสถานที่ ซึ่งแน่นอนก็ต้องคิดด้วยว่าจะหาสถานที่ที่ไหนจัด....
แก้ไขล่าสุด: 7/9/2554 00:48 โดย AguileraAnimato
เห็นดีด้วย กะ ฉายหนังนั่งคุย
เรื่องสถานที่น่าจะเป็นหัวข้อใหญ่
...
เรื่องสถานที่น่าจะเป็นหัวข้อใหญ่
...

ตอนเรียน เคยพูดเรื่องความรุนแรงกับเรื่องเพศและก็พฤติกรรมกับจิตวิทยา ในหนังไป
ล่าสุดอพวชมี นิทรรศการ "สุขภาวะทางเพศ"ด้วยละ ชื่อโคตรดูวิชาการจริงๆ มันก็เรื่องเพศศึกษาละนะ
สปอนเซอรืกำลังมองหา ใครเชี่ยวๆAE น่าจะให้คำตอบได้ พวกนิตยสารหนัง? นิตยสารเพลงร็อคหรือเมทัล เพราะ2กลุ่มนี้ น่าจะชอบพวกนี้เยอะ
สถานที่เนี่ยนะสิ คือแบบไม่ดูเป็นทางการเกินไป TK PARK?
ล่าสุดอพวชมี นิทรรศการ "สุขภาวะทางเพศ"ด้วยละ ชื่อโคตรดูวิชาการจริงๆ มันก็เรื่องเพศศึกษาละนะ
สปอนเซอรืกำลังมองหา ใครเชี่ยวๆAE น่าจะให้คำตอบได้ พวกนิตยสารหนัง? นิตยสารเพลงร็อคหรือเมทัล เพราะ2กลุ่มนี้ น่าจะชอบพวกนี้เยอะ
สถานที่เนี่ยนะสิ คือแบบไม่ดูเป็นทางการเกินไป TK PARK?
อันนี้เป็นของกลุ่ม Third Class Citizen
http://thirdclasscitizen.exteen.com/
กลุ่มนี้จะเน้นไปที่การฉายหนังสั้น และมีเสวนาเกี่ยวกับพวกหนังทดลอง...
เราชอบอารมณ์แบบนี้นะ มันดูไม่เป็นทางการ เหมาจะคุยกัน ดูหนังด้วยกัน
ลองกดไปดูรูปได้ตรงส่วน photostock
ที่ third class
เค้าเคยจัดที่ออฟฟิสไบโอสโคป
แล้วก็ย้ายมาเป็นตรงห้องสมุดจิม ทอมสัน
จนตอนนี้ย้ายไปอยู่ในร้าน ร้าน Eat@Double U โรงภาพยนตร์เอสเอฟเวิลด์ เซ็นทรัลเวิลด์ แล้ว
ถ้าพวกเราอยากจะลองทำ ก็เดี๋ยวจะได้แบ่งกันไปหาที่
(คือต้องยอมรับว่า third class ค่อนข้างมีชื่อเสียงในกลุ่มคนดูหนัง นั้นเพราะคนจัด ก็เป็นหนึ่งในทีมงานของไบโอสโคป เลยมีเครดิตพอสมควร) พวกเราถ้าอยากทำก็ต้องเริ่มทำ proposal อะไรแบบนี้ก่อนแหละ... อยากให้ลองหาร้านที่มีห้องดูหนังเป็นสัดเป็นส่วน ขนาดรองรับคนได้ประมาณ 10-20 คน
(เราเชื่อว่าคนไม่น่าเกินจากนี้ จากการประมาณการณ์)
มีอีกที่ที่น่าสนใจก็ Kyo The Reading Room ตรงสีลม มันเป็นห้องสมุดที่อยู่ในตึกแถว ชั้นสามจะมีห้องดูหนัง ฉายลงโปรเจคเตอร์
http://thirdclasscitizen.exteen.com/
กลุ่มนี้จะเน้นไปที่การฉายหนังสั้น และมีเสวนาเกี่ยวกับพวกหนังทดลอง...
เราชอบอารมณ์แบบนี้นะ มันดูไม่เป็นทางการ เหมาจะคุยกัน ดูหนังด้วยกัน
ลองกดไปดูรูปได้ตรงส่วน photostock
ที่ third class
เค้าเคยจัดที่ออฟฟิสไบโอสโคป
แล้วก็ย้ายมาเป็นตรงห้องสมุดจิม ทอมสัน
จนตอนนี้ย้ายไปอยู่ในร้าน ร้าน Eat@Double U โรงภาพยนตร์เอสเอฟเวิลด์ เซ็นทรัลเวิลด์ แล้ว
ถ้าพวกเราอยากจะลองทำ ก็เดี๋ยวจะได้แบ่งกันไปหาที่
(คือต้องยอมรับว่า third class ค่อนข้างมีชื่อเสียงในกลุ่มคนดูหนัง นั้นเพราะคนจัด ก็เป็นหนึ่งในทีมงานของไบโอสโคป เลยมีเครดิตพอสมควร) พวกเราถ้าอยากทำก็ต้องเริ่มทำ proposal อะไรแบบนี้ก่อนแหละ... อยากให้ลองหาร้านที่มีห้องดูหนังเป็นสัดเป็นส่วน ขนาดรองรับคนได้ประมาณ 10-20 คน
(เราเชื่อว่าคนไม่น่าเกินจากนี้ จากการประมาณการณ์)
มีอีกที่ที่น่าสนใจก็ Kyo The Reading Room ตรงสีลม มันเป็นห้องสมุดที่อยู่ในตึกแถว ชั้นสามจะมีห้องดูหนัง ฉายลงโปรเจคเตอร์
เราไม่คิดว่า TK PARK เหมาะ...
TK PARK จะเน้นกิจกรรมไปเพื่อเยาวชน เด็ก เป็นหลัก
คือเวลามันมีงานฉายหนังอะไรเนี้ย ที่เราเห็นๆว่าจัดที่ TK PARK เนี้ย มันจะเป็นโครงการหนังเพื่อเยาวชน / สอนเด็กทำหนัง
ทั้งนั้น
แล้วคนที่จะมาเข้าร่วมกิจกรรม TK ก็มักจะมีแต่เยาวชวนเป็นส่วนใหญ่ - - ซึ่งงานเรามันคงมีแต่ผู้ใหญ่เป็นหลัก
การที่เราจะขอพื้นที่เค้าฉายหนังสยอง คือต่อให้จะพูดบังหน้าว่า อ่อ ให้ความรู้แก่เด็กๆนะค่ะพี่... เราว่ายังไงก็ไม่รอด โปรเจคโดนฟันทิ้งชัวร์
---------
ไอ้เรื่องหัวข้อการฉาย จริงๆไม่ต้องตั้งชื่อให้เป็นวิชาการแบบที่เรายกตัวอย่างก็ได้ เพราะเราอยากให้อารมณ์งาน มันออกมาแบบ คุยกันมันส์ๆ คุยกันชิลว์ๆ (ปกติในกระทู้ ก็ไม่ค่อยมีคนตอบอะไรอยู่แล้ว เหตุผลใหญ่ๆเลย คนมักบอกว่า ชอบอ่านอย่างเดียว ตอบไปก็ไม่เก่งเท่าคนอื่น ไม่ตอบดีกว่า... ขอฟังเฉยๆ ขออ่านไม่แสดงความเห็น) พอเป็นแบบนี้ มันเลยไม่้เกิดพลวัตทางความคิดไง คนพูดก็พูดคนเดียว คนพิมพ์ก็พิมพ์ไป ไม่มีคนตอบ...
เราอยากให้งานนี้ นอกจากจะได้ดูหนังแล้ว ยังละลายพฤติกรรม ให้คนกล้าพูด กล้าแสดงความเห็น ถึงไม่อยากจัดแบบห้องประชุมที่ดูโอ่อ่า ทางการรรร แบบนั้น
อยากให้เราได้นั่งพื้น นั่งล้อมวง แล้วประเด็นก็อาจไม่ต้องตั้งให้ดูเหมือนไปโครงการก็ได้
อาจจะแบบ
Antichrist ดูแล้วมาแล่กัน... พร้อมแขกรับเชิญ นักวิจารณ์ บลาๆๆๆ
อยากให้มันมีความเป็น film club / book lover club แบบนี้อ่ะ
จริงๆที่ มธ. ก็มีฉายหนังบ่อยนะ ของอ.ทรงยศ แววหงส์ อ่ะ
ดูกันทุกวันพฤหัส (รึเปล่า) ดูจบก็เม้าธ์มอยกันไป
TK PARK จะเน้นกิจกรรมไปเพื่อเยาวชน เด็ก เป็นหลัก
คือเวลามันมีงานฉายหนังอะไรเนี้ย ที่เราเห็นๆว่าจัดที่ TK PARK เนี้ย มันจะเป็นโครงการหนังเพื่อเยาวชน / สอนเด็กทำหนัง
ทั้งนั้น
แล้วคนที่จะมาเข้าร่วมกิจกรรม TK ก็มักจะมีแต่เยาวชวนเป็นส่วนใหญ่ - - ซึ่งงานเรามันคงมีแต่ผู้ใหญ่เป็นหลัก
การที่เราจะขอพื้นที่เค้าฉายหนังสยอง คือต่อให้จะพูดบังหน้าว่า อ่อ ให้ความรู้แก่เด็กๆนะค่ะพี่... เราว่ายังไงก็ไม่รอด โปรเจคโดนฟันทิ้งชัวร์
---------
ไอ้เรื่องหัวข้อการฉาย จริงๆไม่ต้องตั้งชื่อให้เป็นวิชาการแบบที่เรายกตัวอย่างก็ได้ เพราะเราอยากให้อารมณ์งาน มันออกมาแบบ คุยกันมันส์ๆ คุยกันชิลว์ๆ (ปกติในกระทู้ ก็ไม่ค่อยมีคนตอบอะไรอยู่แล้ว เหตุผลใหญ่ๆเลย คนมักบอกว่า ชอบอ่านอย่างเดียว ตอบไปก็ไม่เก่งเท่าคนอื่น ไม่ตอบดีกว่า... ขอฟังเฉยๆ ขออ่านไม่แสดงความเห็น) พอเป็นแบบนี้ มันเลยไม่้เกิดพลวัตทางความคิดไง คนพูดก็พูดคนเดียว คนพิมพ์ก็พิมพ์ไป ไม่มีคนตอบ...
เราอยากให้งานนี้ นอกจากจะได้ดูหนังแล้ว ยังละลายพฤติกรรม ให้คนกล้าพูด กล้าแสดงความเห็น ถึงไม่อยากจัดแบบห้องประชุมที่ดูโอ่อ่า ทางการรรร แบบนั้น
อยากให้เราได้นั่งพื้น นั่งล้อมวง แล้วประเด็นก็อาจไม่ต้องตั้งให้ดูเหมือนไปโครงการก็ได้
อาจจะแบบ
Antichrist ดูแล้วมาแล่กัน... พร้อมแขกรับเชิญ นักวิจารณ์ บลาๆๆๆ
อยากให้มันมีความเป็น film club / book lover club แบบนี้อ่ะ
จริงๆที่ มธ. ก็มีฉายหนังบ่อยนะ ของอ.ทรงยศ แววหงส์ อ่ะ
ดูกันทุกวันพฤหัส (รึเปล่า) ดูจบก็เม้าธ์มอยกันไป
เคยไปนอนดูในห้องสมุดเรวัติ ละ นอนๆนั่งๆ หลับยาว
แล้วหอศิลป์ล่ะ ? .. ไหวมั้ย?
สรุปก็คือตอนนี้จะฉายหนังโดยตั้งหัวข้อการฉายพร้อมกับสนทนาเกี่ยวกับประเด็นนั้นๆ ก่อนจะหาสถานที่ผมว่าตอนนี้มันมีอยู่สองรูปแบบที่เสนอกันมาคือ
คุณ AguileraAnimato เสนอในรูปแบบของสมรม มีการฉายอย่างสม่ำเสมอ อีกแบบคือเป็น fest เล็กๆ (เป็นงานเกี่ยวกับหนังไม่รู้เรียกว่าอะไรนะครับ ถ้าเป็นดนตรีจะเรียกว่า gig คือเล็กกว่า fest)
ผมว่าถ้าเป็นอย่างแรก หอศิลป์ ห้องสมุด TK PARK อะไรพวกนี้คงไม่เหมาะ เพราะสถานที่พวกนี้ต้องเขียน project ไปขอ แล้วถ้าฉายทุกเดือนมันเหมือนเป็นการยึดพื้นที่ของเขาซึ่งเขาคงไม่ให้แน่ๆและคุณต้องเขียน project ไปเสนอทุกครั้งที่มีการใช้พื้นที่อ๊วกแน่นอนครับ แต่มันอาจจะเหมาะกับอีกแบบ ซึ่งเราอาจจะจัดขึ้นปีละครั้งถ้าแบบแรกได้ผลตอบรับที่ดี อย่างของ filmvirus สมัยก่อนนู้นนนนนนนนตอนที่ยังฉายในนามของดวงกมลฟิล์มเฮ้าท์เคยจัดที่ซีคอน แล้วก็ย้ายมาที่ห้องสมุดเรวัติ ม.ธ. อันนี้น่าจะมาจากความรู้จักส่วนตัว ผมว่าเราต้องหาสถานที่แบบนี้คือรู้จักเป็นการส่วนตัวกับเจ้าของสถานที่ หรือเป็นเจ้าของสถานที่ซะเอง ซึ่งเราคงไม่ต้องคำนึกถึงเครื่องไม้เครื่องมือในการฉายมากนัก เพราะยังไงเราก็ไม่ได้ฉายด้วยฟิล์มอยู่แล้ว โปรเจ็กเตอร์เล็กสักตัวก็อยู่แล้วครับกับจำนวนนับสิบ แล้วถ้ามันประสบความสำเร็จ คือมันสามารถหล่อเลี้ยงตัวเองได้คนเก่าที่มาดูก็ไม่จางหายคนใหม่ๆก็พอมาบ้าง ค่อยจัดในแบบที่เป็นทางการขึ้นมาหน่อยแล้วค่อยเลือกสถานที่พวกนั้น อาจจะสักปีละครั้ง
ถ้ากลัวคนที่มาดูไม่ค่อยแสดงความเห็นก็แจก beer สักคนละขวด รับลองพูดเป็นต่อยหอย 555
ส่วนเรื่องสปอนเซอร์นี่ผมเห็นต่างนะครับ ทั้งสองที่คุณแว่นจังเสนอเขาอาจจะช่วยโปรโมทได้ อย่างนิยสารเพลงเมทัลนี่เขาก็คงไม่มีทุนมาสนับสนุนอย่างต่อเนื่องเพราะพวกเขาไม่ได้อยู่ด้วยรายได้ เขาอยู่รอดได้ด้วยวัฒนธรรมของเขากัน คนเล่นคือคนดู คนดูคือคนเล่น ฯ ผมว่าก็เก็บค่าเข้าชมนั่นละครับอาจจะไม่ต้องมากนัก อย่างแรกที่ผมเราต้องอยู่ได้ด้วยตัวของเรา สร้างวัฒนธรรมเล็กๆขึ้นมา เติบโตอย่างช้าๆแต่มั่นคง
ใครมีสถานที่ก็ยอมเสียสละไปครับ หรือใครรู้จักใครเป็นการส่วนตัวลองเสนอดูครับ
ผมว่าพยายามทำแบบที่ไม่ต้องมีรายจ่ายมากนักจะได้ไม่เจ็บตัวครับ
คุณ AguileraAnimato เสนอในรูปแบบของสมรม มีการฉายอย่างสม่ำเสมอ อีกแบบคือเป็น fest เล็กๆ (เป็นงานเกี่ยวกับหนังไม่รู้เรียกว่าอะไรนะครับ ถ้าเป็นดนตรีจะเรียกว่า gig คือเล็กกว่า fest)
ผมว่าถ้าเป็นอย่างแรก หอศิลป์ ห้องสมุด TK PARK อะไรพวกนี้คงไม่เหมาะ เพราะสถานที่พวกนี้ต้องเขียน project ไปขอ แล้วถ้าฉายทุกเดือนมันเหมือนเป็นการยึดพื้นที่ของเขาซึ่งเขาคงไม่ให้แน่ๆและคุณต้องเขียน project ไปเสนอทุกครั้งที่มีการใช้พื้นที่อ๊วกแน่นอนครับ แต่มันอาจจะเหมาะกับอีกแบบ ซึ่งเราอาจจะจัดขึ้นปีละครั้งถ้าแบบแรกได้ผลตอบรับที่ดี อย่างของ filmvirus สมัยก่อนนู้นนนนนนนนตอนที่ยังฉายในนามของดวงกมลฟิล์มเฮ้าท์เคยจัดที่ซีคอน แล้วก็ย้ายมาที่ห้องสมุดเรวัติ ม.ธ. อันนี้น่าจะมาจากความรู้จักส่วนตัว ผมว่าเราต้องหาสถานที่แบบนี้คือรู้จักเป็นการส่วนตัวกับเจ้าของสถานที่ หรือเป็นเจ้าของสถานที่ซะเอง ซึ่งเราคงไม่ต้องคำนึกถึงเครื่องไม้เครื่องมือในการฉายมากนัก เพราะยังไงเราก็ไม่ได้ฉายด้วยฟิล์มอยู่แล้ว โปรเจ็กเตอร์เล็กสักตัวก็อยู่แล้วครับกับจำนวนนับสิบ แล้วถ้ามันประสบความสำเร็จ คือมันสามารถหล่อเลี้ยงตัวเองได้คนเก่าที่มาดูก็ไม่จางหายคนใหม่ๆก็พอมาบ้าง ค่อยจัดในแบบที่เป็นทางการขึ้นมาหน่อยแล้วค่อยเลือกสถานที่พวกนั้น อาจจะสักปีละครั้ง
ถ้ากลัวคนที่มาดูไม่ค่อยแสดงความเห็นก็แจก beer สักคนละขวด รับลองพูดเป็นต่อยหอย 555
ส่วนเรื่องสปอนเซอร์นี่ผมเห็นต่างนะครับ ทั้งสองที่คุณแว่นจังเสนอเขาอาจจะช่วยโปรโมทได้ อย่างนิยสารเพลงเมทัลนี่เขาก็คงไม่มีทุนมาสนับสนุนอย่างต่อเนื่องเพราะพวกเขาไม่ได้อยู่ด้วยรายได้ เขาอยู่รอดได้ด้วยวัฒนธรรมของเขากัน คนเล่นคือคนดู คนดูคือคนเล่น ฯ ผมว่าก็เก็บค่าเข้าชมนั่นละครับอาจจะไม่ต้องมากนัก อย่างแรกที่ผมเราต้องอยู่ได้ด้วยตัวของเรา สร้างวัฒนธรรมเล็กๆขึ้นมา เติบโตอย่างช้าๆแต่มั่นคง
ใครมีสถานที่ก็ยอมเสียสละไปครับ หรือใครรู้จักใครเป็นการส่วนตัวลองเสนอดูครับ
ผมว่าพยายามทำแบบที่ไม่ต้องมีรายจ่ายมากนักจะได้ไม่เจ็บตัวครับ
แก้ไขล่าสุด: 7/9/2554 20:18 โดย skull terror
อยู่หาดใหญ่......อดไปตามระเบียบ ^^
Function Used time : 0:00:00:00.015