((กระทู้ฉายหนังหวีด)) Fear Itself ตอน In Sickness and in Health
by AguileraAnimato • วันอังคารที่ 2 สิงหาคม พ.ศ. 2554 22:07
กลับมาอีกครั้งกับกระทู้ฉายหนังโหด แต่งวดนี้ไม่โหดมาก
เอาใจคนชอบดูหนังระทึกๆ popcorn movie

แนะนำกันก่อน Fear Itself เป็นซีรี่ย์จบในตอน แบบเดียวกับ Tales from the crypt, Masters of Horror, บันทึกกรรม 555+ (เราถือว่าบันทึกกรรมก็เป็นละครระทึกขวัญนะ)
โดย FI ได้ผู้สร้างคนเดียวกับ Masters of Horror นั้นคือ Mick Garris (น้าคนนี้ อาจจะไม่ค่อยดังเท่าไร เพราะกำกับหนังทีวีเป็นส่วนใหญ่ เช่นซีรี่ย์ The Shining เป็นซีรี่ย์นะ ไม่ใช่หนัง หรือซีรี่ย์ The Stand เป็นต้น)
หลังจาก Masters of Horror 2 แป้ก แต่น้ายังไม่ถอดใจ คิดวิธีขายของใหม่ด้วยการสร้างซีรี่ย์ชุดใหม่ขึ้นมาเลย ทั้งที่จริง Fear Itself มันก็ไม่ได้ต่างจาก Masters of Horror มากหรอก แค่คนละชื่อ ประมาณว่าชื่อเดิมขายไม่ออกแล้ว...
แต่ผลที่ได้ก็คือ Fear Itself แป้กยิ่งกว่าเสียอีก
เป็นเรื่องน่าเศร้านะครับ เพราะถ้าเทียบกันแล้ว ซีรี่ย์ชุดนี้ ดีกว่า MoH มากๆ
เราคิดว่า MoH อาจจะได้จุดขายอันเป็นจุดแข็งที่กวาดต้อนเจ้าพ่อขาโหดแห่งวงการหนังสยองมาทำหนังทีวีได้ก็จริง แต่เนื้อเรื่อง การลำดับภาพ ความสนุก มันอ่อนกันมากจริงๆ จนไม่น่าเชื่อว่านี้หรือคือ Master
กลายเป็นว่าสิ่งเดียวที่เชิดชูให้ซีรี่ย์ MoH โด่งดังได้ คือการที่มันสามารถขายความโหด ความรุนแรงในระดับเดียวกับ "ภาพยนตร์" ลงสู่ "จอโทรทัศน์" ได้ก็เท่านั้น
เพราะหลายตอนยอมรับเลยว่าโป๊ และโหด เกินกว่าจะเป็นหนังทีวี... แต่นั้นแหละ ต่อให้แรงแค่ไหน ถ้าไม่สนุก มันก็ไม่น่าพึงพอใจหรอก
Fear Itself ไม่โหดเท่า แต่รับประกันเลยว่าดูสนุกทุกตอน น่ากลัว ลุ้น ระทึกแบบหนังฝรั่ง เหมาะกับคนอยากดูละครสั้นสยองๆ แบบที่ไม่ต้องคิดมาก และไม่ต้องการความราคาถูกเกิน Fear itself เป็นอะไรที่เหมาะกับคุณ
Fear Itself อาจจะไม่ได้มีเจ้าพ่อมาประทับองค์กำกับ แต้ก็คละเคล้ากันไปทั้งตัวพ่อ ตัวอ่อน ปนๆกัน ซีรี่ย์ชุดนี้มีทั้งหมด 13 ตอน ครับ แต่โชคร้ายที่มันได้ฉายเพียง 8 ตอนเท่านั้น แล้วก็ระงับการออกอากาศ
เหตุผลเพราะในขณะที่ฉายตอนที่ 8 จบไป ตอนนั้นสถานี NBC ที่ทำการออกอากาศ มีความจำเป็นต้องถ่ายทอดงาน Summer Olympics ปี 2008 ทำให้หนังตอนที่ 9-13 ต้องถูกเลื่อนออกไปก่อน และมันกลายเป็นว่าพอกีฬาจบ ละครผีของเราก็ถูกเลื่อนแล้วเลื่อนเล่าไม่มีกำหนดฉาย คาดว่าเรตติ้งตอนก่อนๆก็ไม่ได้ดีอะไรมาก พอถูกเว้นวรรคนานเข้ากระแสก็ดับ แถมเป็นข้ออ้างให้ถูกลืมเข้าไปอีก ผลสุดท้ายซีรี่ย์จึงถูกถอดออกจากโปรแกรมในที่สุด และออกขายในรูปแบบดีวีดีแทน...
ซึ่งในบ้านเราตามเว็บขายหนัง ก็จะมีขายเฉพาะตอนที่ 1-8 เท่านั้น คาดว่าคนโหลดมาขายคงนึกว่าหนังมีทั้งหมด 8 ตอน
ฉะนั้นถ้าใครอยากดูตอนที่เหลือก็ต้องเข้าบิทไปโหลดต่อครับ
เราจะมาแนะนำ และรีวิวสั้นๆถึง 8 ตอนนี้ก่อน (ส่วน 5 ตอนหลัง ยังไม่ได้ดูครับ)
01. The Sacrifice - Breck Eisner (ผกก. The Crazies เวอร์ชั่นรีเมค)
- โจร 4 คนหลบหนีการตามล่าของตำรวจ ระหว่างทางรถพวกเค้ายางแบน นั้นทำให้พวกเค้าไปขอความช่วยเหลือจากป้อมปราการที่ตั้งอยู่ใกล้ๆ ที่ซึ่งมีสามสวยสามคนอาศัยอยู่ ทั้งสี่ไม่รู้เลยว่าพี่น้องทั้งสามนั้นรอคอยการมาของมนุษย์เพื่อจับมาสังเวยให้แก่ผีดิบที่พวกเธอขังไว้ในปราการ....
: ตอนนี้โปรดัคชั่นอลังการดี เนื้อเรื่องก็สนุก ลุ้นด้วย น่ากลัวด้วย ตอนจบแอบเศร้าๆน่าเสียดาย...
02. Spooked - Brad Anderson (ผกก. The Machinist / Vanishing on 7th Street )
- อดีตนายตำรวจจอมโหด ที่ปลดระวางตัวเองมาเป็นนักสืบเอกชน ได้รับการว่าจ้างจากหญิงแปลกหน้าให้ซุ่มสังเกตพฤติกรรมสามีของเธอที่เชื่อว่ากำลังนอกใจ เธอ โดยที่เค้าจะต้องบันทึกภาพเพื่อใช้เป็นหลักฐานจากบ้านร้างฝั่งตรงข้ามที่แอบซ่อนอยู่ ทว่าดูเหมือนว่าบ้านหลังนี้จะไม่ใช่บ้านธรรมดา เพราะมันมีชีวิตและพร้อมจะปลุกความกลัวภายในใจของเค้าให้ตื่นออกมา
: บรรยากาศของหนังน่ากลัวดี ดูมันหลอกหลอนสมกับชื่อมากๆ แล้วปมของตัวละครในเรื่องก็น่าสนใจมาก เรื่องความผิดในอดีต การไถ่ถอนบาป และการแบกรับทัณฑ์ไว้จนระทมชีวิต แต่เรากลับไม่ชอบช่วงท้ายๆที่มันจะแฟนตาซีโท่งๆไปหน่อย อย่างไรก็ดีถือว่าเป็นตอนที่สอบผ่าน เอาอยู่ครับ
03. The Family Man - Ronny Yu (ผกก. Bride of Chucky / Freddy VS. Jason)
- ไม่มีใครจะมีชีวิตที่น่าอิจฉาเท่า เดนนิส เค้าคือสามีที่ดี และพ่อผู้น่ารัก ของครอบครัวที่แสนอบอุ่น แต่แล้วทุกอย่างก็กลับตาลปัตรเมื่อวันนึงเค้าประสบอุบัติเหตุ และทำให้วิญญาณของเค้าลับร่างกับฆาตกรโรคจิต บัดนี้ฆาตกรร้ายยักย้ายเข้าสู่ร่างของเค้า และมันพร้อมจะจัดการเมีย และลูกของเค้า เดนนิสจะจัดการอย่างไร เมื่อตอนนี้เค้าต้องตกอยู่ในร่างของฆาตกรเสียเอง
: ตอนนี้ดูเพลินๆ ไม่น่ากลัว เอาแต่ลุ้นว่าตัวเอกจะจัดการปัญหายังไง แต่ก็สนุกนะ ไม่น่าเบื่อเลย เพลิงพรหมมาก
04. In Sickness and in Health - John Landis (ผกก. An American Werewolf in London)
- เจ้าสาวแสนสวยที่ควรจะมีความสุขในงานแต่งที่กำลังจะเริ่มขึ้นในไม่ช้า กลับต้องหวาดผวาเมื่อเธอได้รับจดหมายลึกลับที่เขียนมาว่า "คนที่คุณกำลังจะแต่งงานด้วยคือฆาตกร" ตายห่า เธอจะทำยังไงดีล่ะ
: เป็นตอนที่ tricky มากๆ คือเจ้าเล่ห์ แสนกล เต็มไปด้วยอุบายล่อลวง หลอกล่อ แล้วปั่นหัวเรา คือหนังมันได้บรรยากาศของหนัง slasher เราไม่รู้เลยว่าจะไว้ใจใครได้ มันระทึกไปหมด เหมาะกับคนชอบอ่านเรื่องสั้นคุณสรจักร เรื่องนี้เป็นตอนที่เราชอบที่สุด
05. Eater - Stuart Gordon (ผกก. Re-Animator)
ตำรวจสาวแสนสวยต้องเผชิญค่ำคืนสุดหฤโหด เมื่อเธอต้องเฝ้าฆาตกรโรคจิตรายนึงที่มีนิสัยชอบกินมนุษย์เป็นอาหาร ฝันร้ายของเธอเริ่มขึ้นเมื่อมันหลุดออกมาจากห้องขังได้ และบัดนี้มันพร้อมจะไล่ล่าเหยื่อของมันแล้ว!
: เป็นไฮไลท์ของซีรี่ย์ชุดนี้เลยสำหรับตอนนี้ และก็น่าจะเป็นตอนโปรดของใครหลายคน รวมทั้งเราด้วย บรรยากาศแบบเกมส์แมวไล่จับหนู การหลบหนีภายในพื้นที่จำกัด ความวังเวงของสถานีตำรวจในคืนฤดูหนาว และฆาตกรสุดโหด สนุก จนแทบลืมหายใจ
06. New Year's Day - Darren Lynn Bousman (ผกก. Saw II - III - IV)
สาวสวยที่ตื่นจากการสลบไสลหลังจากเมามายไม่ได้สติเพราะฉลองวันปีใหม่หนักไปหน่อย ต้องพบกับความสยองเมื่อจู่ๆคนทั้งเมืองก็กลายเป็นซอมบี้ เธอพยายามกู้ความทรงจำของตัวเองว่าคืนก่อนหน้านั้นเกิดอะไรขึ้น และอย่างเดียวที่เธอจำได้คือ เธอต้องเดินทางข้ามเขตเพื่อไปหาแฟน ท่ามกลางดงซอมบี้หิวกระหายในสภาพที่เมาๆนั้นแหละ
: เราคิดว่าตอนนี้เป็นตอนที่อ่อนที่สุด คือไอ้ความเป็นซอมบี้ของหนังมันเป็นอะไรที่ซ้ำซากมากๆ แล้วหนังก็ไม่ได้แสดงให้เห็นถึงความแปลกใหม่ที่ต่างไปจากหนังแนวเดียวกันอีกนับสิบเลย อย่างเดียวที่หนังตอนนี้เด่นคือการถ่ายด้วยลักษณะ hand held ผสมกับช๊อตstatic ที่สื่อให้เห็นอาการแฮงค์โอเวอร์ของหญิงสาว สลับไปกับการตัดต่อที่กระฉับ รวดเร็ว ประหนึ่งหนังเจสัน บอนด์ รวมไปถึงการย้อมภาพด้วยแสงสีประหนึ่งดูมิวสิควิดีโอก็ทำให้หนังดูเด่นแบบพร้อมจะเวียนหัวตลอดเวลา
07. Community - Mary Harron
ความฝันของชาวอเมริกันทุกคนคือการมีบ้านเป็นของตัวเอง มีเพื่อนบ้านที่น่ารัก มีประกันสังคมที่ดี นั้นคือแบบฉบับอเมริกันดรีมแบบเดียวกับที่ตัวละคร บ๊อบบี้ และเทรซี่ มองหา... คู่รักข้าวใหม่ปลาตัดสินใจลงหลักปักฐานที่ the Commons ชุมชนแห่งนึงที่อยู่กันอบอุ่น ปลอดภัย... ทุกอย่างก็ดูเหมือนจะเป็นไปได้สวยกับบ้านใหม่ จนกระทั่งพวกเค้าสังเกตว่าชุมชนนี้แอบติดกล้องวงจรปิดไว้ในบ้านทุกหลัง ราวกับจะคอยสอดส่องพฤติกรรม ไปๆมาๆ กลายเป็นว่าพวกเค้าดันหลงมาอาศัยในดินแดนของพวกขวาจัดอนุรักษ์นิยมที่เชิดชูศีลธรรมจนคลั่ง และพร้อมจะกำจัดคนบาปที่พวกเค้าตัดสินเอาเองด้วยความคิดแบบเผด็จการนิยม!
: เป็นตอนที่สะท้อนสังคมได้แบบหดหู่จริงๆ ดูจบแล้วรู้สึกแย่555+ คือมันล้อกับความฝันของอเมริกัน ดรีม ไอ้แบบชีวิตเพอร์เฟค ทุกคนน่ารัก สดใส แบบหนังอเมริกันยุค 50's - 60's แม่บ้าน พ่อบ้านที่ดี เพื่อบ้านที่ดี แต่มันเลยกลับกลายเป็นการกดขี่และพยายามจุ้นจ้านเสือกสาระแนความเป็นอยู่ของประชากร ด้วยการควบคุมพลเมืองแบบบ้าคลั่ง... และสุดท้ายก็กลายเป็นว่าถ้าคุณอยากมีชีวิตที่ดี คุณก็อาจจะต้องยอมแลกกับอิสรภาพของตัวเอง เพื่อให้สังคมเป็นไปในทิศทางเดียวกับที่ผู้ปกครองเบ็ดเสร็จความคิดและอำนาจไว้ เป็นตอนที่เลือดเย็นมากครับ
08. Skin and Bones - Larry Fessenden
เมื่อผู้เป็นพ่อผลัดหลงไประหว่างการปีนเขา ท่ามกลางพายุหิมะอันหนาวเหน็บ บรรดาแม่และลูก รวมถึงสมาชิกคนอื่นในครอบครัวต่างก็เป็นกังวลใจ แต่แล้วเค้าก็กลับมาปรากฎตัวอีกครั้งในสภาพผอมอิดโรย ดูเหมือนว่าทุกอย่างจะแฮปปี้ แต่มันไม่เป็นเช่นนั้น ถ้าพ่อไม่ได้ถูกตัว Wendigo เข้าสิง และบัดนี้มันหิวกระหายพร้อมจะออกล่าเนื้อสดจากคนในครอบครัวกินแล้ว (Wendigo ปีศาจใจตำนาจของชาวAlgonquian อเมริกาท้องถิ่นเหนือ ที่มีลักษณะคล้ายปอบบ้านเรา เป็นปีศาจที่สามารถแปลงร่างเป็นมนุษย์หรือเข้าสิงคนเพื่อออกไล่ฆ่าหาเนื้อสดมากินเป็นอาหาร)
: เป็นอีกตอนที่น่ากลัวมากๆ แค่ภาพตัวละครถูกปีศาจสิงก็สยองแล้ว ไม่นับเรื่องที่ห้อมล้อมด้วยบรรยากาศแบบ native america บ้านไม้ซุง พายุหิมะ ภูเขาที่ขาวโพลน แต่เต็มไปด้วยบรรยากาศเหี้ยมโหดเมื่อมีปีศาจออกไล่ฆ่าคน หนังตอนนี้น่ากลัวได้ใจจริง และพร้อมจะทำให้คุณเผลอกรีดร้องอย่างไม่รู้ตัว เว้นเสียแต่หัวตุณหลุดจากบ่าไปแล้ว

เอาล่ะ สำหรับตอนที่เราจะฉายคือตอนที่ 3 นะครับ
In Sickness and in Health
พักสักครู่เดี๋ยวมา (เกริ่นนานมากกรู)
เอาใจคนชอบดูหนังระทึกๆ popcorn movie

แนะนำกันก่อน Fear Itself เป็นซีรี่ย์จบในตอน แบบเดียวกับ Tales from the crypt, Masters of Horror, บันทึกกรรม 555+ (เราถือว่าบันทึกกรรมก็เป็นละครระทึกขวัญนะ)
โดย FI ได้ผู้สร้างคนเดียวกับ Masters of Horror นั้นคือ Mick Garris (น้าคนนี้ อาจจะไม่ค่อยดังเท่าไร เพราะกำกับหนังทีวีเป็นส่วนใหญ่ เช่นซีรี่ย์ The Shining เป็นซีรี่ย์นะ ไม่ใช่หนัง หรือซีรี่ย์ The Stand เป็นต้น)
หลังจาก Masters of Horror 2 แป้ก แต่น้ายังไม่ถอดใจ คิดวิธีขายของใหม่ด้วยการสร้างซีรี่ย์ชุดใหม่ขึ้นมาเลย ทั้งที่จริง Fear Itself มันก็ไม่ได้ต่างจาก Masters of Horror มากหรอก แค่คนละชื่อ ประมาณว่าชื่อเดิมขายไม่ออกแล้ว...
แต่ผลที่ได้ก็คือ Fear Itself แป้กยิ่งกว่าเสียอีก
เป็นเรื่องน่าเศร้านะครับ เพราะถ้าเทียบกันแล้ว ซีรี่ย์ชุดนี้ ดีกว่า MoH มากๆ
เราคิดว่า MoH อาจจะได้จุดขายอันเป็นจุดแข็งที่กวาดต้อนเจ้าพ่อขาโหดแห่งวงการหนังสยองมาทำหนังทีวีได้ก็จริง แต่เนื้อเรื่อง การลำดับภาพ ความสนุก มันอ่อนกันมากจริงๆ จนไม่น่าเชื่อว่านี้หรือคือ Master
กลายเป็นว่าสิ่งเดียวที่เชิดชูให้ซีรี่ย์ MoH โด่งดังได้ คือการที่มันสามารถขายความโหด ความรุนแรงในระดับเดียวกับ "ภาพยนตร์" ลงสู่ "จอโทรทัศน์" ได้ก็เท่านั้น
เพราะหลายตอนยอมรับเลยว่าโป๊ และโหด เกินกว่าจะเป็นหนังทีวี... แต่นั้นแหละ ต่อให้แรงแค่ไหน ถ้าไม่สนุก มันก็ไม่น่าพึงพอใจหรอก
Fear Itself ไม่โหดเท่า แต่รับประกันเลยว่าดูสนุกทุกตอน น่ากลัว ลุ้น ระทึกแบบหนังฝรั่ง เหมาะกับคนอยากดูละครสั้นสยองๆ แบบที่ไม่ต้องคิดมาก และไม่ต้องการความราคาถูกเกิน Fear itself เป็นอะไรที่เหมาะกับคุณ
Fear Itself อาจจะไม่ได้มีเจ้าพ่อมาประทับองค์กำกับ แต้ก็คละเคล้ากันไปทั้งตัวพ่อ ตัวอ่อน ปนๆกัน ซีรี่ย์ชุดนี้มีทั้งหมด 13 ตอน ครับ แต่โชคร้ายที่มันได้ฉายเพียง 8 ตอนเท่านั้น แล้วก็ระงับการออกอากาศ
เหตุผลเพราะในขณะที่ฉายตอนที่ 8 จบไป ตอนนั้นสถานี NBC ที่ทำการออกอากาศ มีความจำเป็นต้องถ่ายทอดงาน Summer Olympics ปี 2008 ทำให้หนังตอนที่ 9-13 ต้องถูกเลื่อนออกไปก่อน และมันกลายเป็นว่าพอกีฬาจบ ละครผีของเราก็ถูกเลื่อนแล้วเลื่อนเล่าไม่มีกำหนดฉาย คาดว่าเรตติ้งตอนก่อนๆก็ไม่ได้ดีอะไรมาก พอถูกเว้นวรรคนานเข้ากระแสก็ดับ แถมเป็นข้ออ้างให้ถูกลืมเข้าไปอีก ผลสุดท้ายซีรี่ย์จึงถูกถอดออกจากโปรแกรมในที่สุด และออกขายในรูปแบบดีวีดีแทน...
ซึ่งในบ้านเราตามเว็บขายหนัง ก็จะมีขายเฉพาะตอนที่ 1-8 เท่านั้น คาดว่าคนโหลดมาขายคงนึกว่าหนังมีทั้งหมด 8 ตอน
ฉะนั้นถ้าใครอยากดูตอนที่เหลือก็ต้องเข้าบิทไปโหลดต่อครับ
เราจะมาแนะนำ และรีวิวสั้นๆถึง 8 ตอนนี้ก่อน (ส่วน 5 ตอนหลัง ยังไม่ได้ดูครับ)
01. The Sacrifice - Breck Eisner (ผกก. The Crazies เวอร์ชั่นรีเมค)
- โจร 4 คนหลบหนีการตามล่าของตำรวจ ระหว่างทางรถพวกเค้ายางแบน นั้นทำให้พวกเค้าไปขอความช่วยเหลือจากป้อมปราการที่ตั้งอยู่ใกล้ๆ ที่ซึ่งมีสามสวยสามคนอาศัยอยู่ ทั้งสี่ไม่รู้เลยว่าพี่น้องทั้งสามนั้นรอคอยการมาของมนุษย์เพื่อจับมาสังเวยให้แก่ผีดิบที่พวกเธอขังไว้ในปราการ....
: ตอนนี้โปรดัคชั่นอลังการดี เนื้อเรื่องก็สนุก ลุ้นด้วย น่ากลัวด้วย ตอนจบแอบเศร้าๆน่าเสียดาย...
02. Spooked - Brad Anderson (ผกก. The Machinist / Vanishing on 7th Street )
- อดีตนายตำรวจจอมโหด ที่ปลดระวางตัวเองมาเป็นนักสืบเอกชน ได้รับการว่าจ้างจากหญิงแปลกหน้าให้ซุ่มสังเกตพฤติกรรมสามีของเธอที่เชื่อว่ากำลังนอกใจ เธอ โดยที่เค้าจะต้องบันทึกภาพเพื่อใช้เป็นหลักฐานจากบ้านร้างฝั่งตรงข้ามที่แอบซ่อนอยู่ ทว่าดูเหมือนว่าบ้านหลังนี้จะไม่ใช่บ้านธรรมดา เพราะมันมีชีวิตและพร้อมจะปลุกความกลัวภายในใจของเค้าให้ตื่นออกมา
: บรรยากาศของหนังน่ากลัวดี ดูมันหลอกหลอนสมกับชื่อมากๆ แล้วปมของตัวละครในเรื่องก็น่าสนใจมาก เรื่องความผิดในอดีต การไถ่ถอนบาป และการแบกรับทัณฑ์ไว้จนระทมชีวิต แต่เรากลับไม่ชอบช่วงท้ายๆที่มันจะแฟนตาซีโท่งๆไปหน่อย อย่างไรก็ดีถือว่าเป็นตอนที่สอบผ่าน เอาอยู่ครับ
03. The Family Man - Ronny Yu (ผกก. Bride of Chucky / Freddy VS. Jason)
- ไม่มีใครจะมีชีวิตที่น่าอิจฉาเท่า เดนนิส เค้าคือสามีที่ดี และพ่อผู้น่ารัก ของครอบครัวที่แสนอบอุ่น แต่แล้วทุกอย่างก็กลับตาลปัตรเมื่อวันนึงเค้าประสบอุบัติเหตุ และทำให้วิญญาณของเค้าลับร่างกับฆาตกรโรคจิต บัดนี้ฆาตกรร้ายยักย้ายเข้าสู่ร่างของเค้า และมันพร้อมจะจัดการเมีย และลูกของเค้า เดนนิสจะจัดการอย่างไร เมื่อตอนนี้เค้าต้องตกอยู่ในร่างของฆาตกรเสียเอง
: ตอนนี้ดูเพลินๆ ไม่น่ากลัว เอาแต่ลุ้นว่าตัวเอกจะจัดการปัญหายังไง แต่ก็สนุกนะ ไม่น่าเบื่อเลย เพลิงพรหมมาก
04. In Sickness and in Health - John Landis (ผกก. An American Werewolf in London)
- เจ้าสาวแสนสวยที่ควรจะมีความสุขในงานแต่งที่กำลังจะเริ่มขึ้นในไม่ช้า กลับต้องหวาดผวาเมื่อเธอได้รับจดหมายลึกลับที่เขียนมาว่า "คนที่คุณกำลังจะแต่งงานด้วยคือฆาตกร" ตายห่า เธอจะทำยังไงดีล่ะ
: เป็นตอนที่ tricky มากๆ คือเจ้าเล่ห์ แสนกล เต็มไปด้วยอุบายล่อลวง หลอกล่อ แล้วปั่นหัวเรา คือหนังมันได้บรรยากาศของหนัง slasher เราไม่รู้เลยว่าจะไว้ใจใครได้ มันระทึกไปหมด เหมาะกับคนชอบอ่านเรื่องสั้นคุณสรจักร เรื่องนี้เป็นตอนที่เราชอบที่สุด
05. Eater - Stuart Gordon (ผกก. Re-Animator)
ตำรวจสาวแสนสวยต้องเผชิญค่ำคืนสุดหฤโหด เมื่อเธอต้องเฝ้าฆาตกรโรคจิตรายนึงที่มีนิสัยชอบกินมนุษย์เป็นอาหาร ฝันร้ายของเธอเริ่มขึ้นเมื่อมันหลุดออกมาจากห้องขังได้ และบัดนี้มันพร้อมจะไล่ล่าเหยื่อของมันแล้ว!
: เป็นไฮไลท์ของซีรี่ย์ชุดนี้เลยสำหรับตอนนี้ และก็น่าจะเป็นตอนโปรดของใครหลายคน รวมทั้งเราด้วย บรรยากาศแบบเกมส์แมวไล่จับหนู การหลบหนีภายในพื้นที่จำกัด ความวังเวงของสถานีตำรวจในคืนฤดูหนาว และฆาตกรสุดโหด สนุก จนแทบลืมหายใจ
06. New Year's Day - Darren Lynn Bousman (ผกก. Saw II - III - IV)
สาวสวยที่ตื่นจากการสลบไสลหลังจากเมามายไม่ได้สติเพราะฉลองวันปีใหม่หนักไปหน่อย ต้องพบกับความสยองเมื่อจู่ๆคนทั้งเมืองก็กลายเป็นซอมบี้ เธอพยายามกู้ความทรงจำของตัวเองว่าคืนก่อนหน้านั้นเกิดอะไรขึ้น และอย่างเดียวที่เธอจำได้คือ เธอต้องเดินทางข้ามเขตเพื่อไปหาแฟน ท่ามกลางดงซอมบี้หิวกระหายในสภาพที่เมาๆนั้นแหละ
: เราคิดว่าตอนนี้เป็นตอนที่อ่อนที่สุด คือไอ้ความเป็นซอมบี้ของหนังมันเป็นอะไรที่ซ้ำซากมากๆ แล้วหนังก็ไม่ได้แสดงให้เห็นถึงความแปลกใหม่ที่ต่างไปจากหนังแนวเดียวกันอีกนับสิบเลย อย่างเดียวที่หนังตอนนี้เด่นคือการถ่ายด้วยลักษณะ hand held ผสมกับช๊อตstatic ที่สื่อให้เห็นอาการแฮงค์โอเวอร์ของหญิงสาว สลับไปกับการตัดต่อที่กระฉับ รวดเร็ว ประหนึ่งหนังเจสัน บอนด์ รวมไปถึงการย้อมภาพด้วยแสงสีประหนึ่งดูมิวสิควิดีโอก็ทำให้หนังดูเด่นแบบพร้อมจะเวียนหัวตลอดเวลา
07. Community - Mary Harron
ความฝันของชาวอเมริกันทุกคนคือการมีบ้านเป็นของตัวเอง มีเพื่อนบ้านที่น่ารัก มีประกันสังคมที่ดี นั้นคือแบบฉบับอเมริกันดรีมแบบเดียวกับที่ตัวละคร บ๊อบบี้ และเทรซี่ มองหา... คู่รักข้าวใหม่ปลาตัดสินใจลงหลักปักฐานที่ the Commons ชุมชนแห่งนึงที่อยู่กันอบอุ่น ปลอดภัย... ทุกอย่างก็ดูเหมือนจะเป็นไปได้สวยกับบ้านใหม่ จนกระทั่งพวกเค้าสังเกตว่าชุมชนนี้แอบติดกล้องวงจรปิดไว้ในบ้านทุกหลัง ราวกับจะคอยสอดส่องพฤติกรรม ไปๆมาๆ กลายเป็นว่าพวกเค้าดันหลงมาอาศัยในดินแดนของพวกขวาจัดอนุรักษ์นิยมที่เชิดชูศีลธรรมจนคลั่ง และพร้อมจะกำจัดคนบาปที่พวกเค้าตัดสินเอาเองด้วยความคิดแบบเผด็จการนิยม!
: เป็นตอนที่สะท้อนสังคมได้แบบหดหู่จริงๆ ดูจบแล้วรู้สึกแย่555+ คือมันล้อกับความฝันของอเมริกัน ดรีม ไอ้แบบชีวิตเพอร์เฟค ทุกคนน่ารัก สดใส แบบหนังอเมริกันยุค 50's - 60's แม่บ้าน พ่อบ้านที่ดี เพื่อบ้านที่ดี แต่มันเลยกลับกลายเป็นการกดขี่และพยายามจุ้นจ้านเสือกสาระแนความเป็นอยู่ของประชากร ด้วยการควบคุมพลเมืองแบบบ้าคลั่ง... และสุดท้ายก็กลายเป็นว่าถ้าคุณอยากมีชีวิตที่ดี คุณก็อาจจะต้องยอมแลกกับอิสรภาพของตัวเอง เพื่อให้สังคมเป็นไปในทิศทางเดียวกับที่ผู้ปกครองเบ็ดเสร็จความคิดและอำนาจไว้ เป็นตอนที่เลือดเย็นมากครับ
08. Skin and Bones - Larry Fessenden
เมื่อผู้เป็นพ่อผลัดหลงไประหว่างการปีนเขา ท่ามกลางพายุหิมะอันหนาวเหน็บ บรรดาแม่และลูก รวมถึงสมาชิกคนอื่นในครอบครัวต่างก็เป็นกังวลใจ แต่แล้วเค้าก็กลับมาปรากฎตัวอีกครั้งในสภาพผอมอิดโรย ดูเหมือนว่าทุกอย่างจะแฮปปี้ แต่มันไม่เป็นเช่นนั้น ถ้าพ่อไม่ได้ถูกตัว Wendigo เข้าสิง และบัดนี้มันหิวกระหายพร้อมจะออกล่าเนื้อสดจากคนในครอบครัวกินแล้ว (Wendigo ปีศาจใจตำนาจของชาวAlgonquian อเมริกาท้องถิ่นเหนือ ที่มีลักษณะคล้ายปอบบ้านเรา เป็นปีศาจที่สามารถแปลงร่างเป็นมนุษย์หรือเข้าสิงคนเพื่อออกไล่ฆ่าหาเนื้อสดมากินเป็นอาหาร)
: เป็นอีกตอนที่น่ากลัวมากๆ แค่ภาพตัวละครถูกปีศาจสิงก็สยองแล้ว ไม่นับเรื่องที่ห้อมล้อมด้วยบรรยากาศแบบ native america บ้านไม้ซุง พายุหิมะ ภูเขาที่ขาวโพลน แต่เต็มไปด้วยบรรยากาศเหี้ยมโหดเมื่อมีปีศาจออกไล่ฆ่าคน หนังตอนนี้น่ากลัวได้ใจจริง และพร้อมจะทำให้คุณเผลอกรีดร้องอย่างไม่รู้ตัว เว้นเสียแต่หัวตุณหลุดจากบ่าไปแล้ว

เอาล่ะ สำหรับตอนที่เราจะฉายคือตอนที่ 3 นะครับ
In Sickness and in Health
พักสักครู่เดี๋ยวมา (เกริ่นนานมากกรู)
Replies (175)
โอวววว
หาจากที่ไหนครับ (*-*)
มานั่งรอ ฉายหนัง
ปล. อยากดูที่เป็น zombie มากๆ
หาจากที่ไหนครับ (*-*)
มานั่งรอ ฉายหนัง
ปล. อยากดูที่เป็น zombie มากๆ
แก้ไขล่าสุด: 2/8/2554 22:16 โดย นักหลับ
มาแวะดูแล้วก็ขอบคุณสำหรับข้อมูลหนังครับจะได้ไปหาซื้อ
ไม่ยักรู้พี่ AguileraAnimato อ่านหนังสือของเฮียสรจักรเหมือนกันด้วย ผมนะ เก็บสะสม หนังสือเรื่อง ศพใต้เตียง ศพท้ายรถ ศพข้างบ้านอ่ะ ชอบทุกเล่มหักมุมทุกตอนเลยอ่ะ Saw ยังเทียบไม่ติด ถ้ามาอ่านนิยายสั้นของพี่แกนะ ไอ้ที่เราอ่านแล้วเข้าใจว่าเกิดจากการกระทำของผีน่ะเหรอ ที่จริงไม่ใช่หรอก คนเราเองนี่แหละ หรือ วิธีการฆาตกรรม กลบเกลื่อนหลักฐาน อุบาย สเน่ห์หา จิตวิทยา ทุกอย่างรวมอยู่ในหนังสือนิยายสั้นของพี่แกหมด เรียกว่าอ่านแล้วจะติดใจจนวางไม่ลงเลย ฮ่าๆ
กรี๊ดดดด น่ากลัวจังค่ะ
/me โผไปซบอกหนุ่ม
/me โผไปซบอกหนุ่ม

ไอ้ตอนนั้นผมไปซื้อจากซีเอ็ดบุ๊คเซ็นเตอร์มา 3 เล่มครบเลย ทีนี้มีเพื่อนผู้หญิงผมคนหนึ่งมันบอกว่าอ่านเข้าไปได้ไงนิยายโรคจิตแบบนี้ ผมเลยบอกว่า ลองเอาไปอ่านดูไหมแล้วจะติดใจ วันต่อมาผมถามมันว่าหนังสือเราที่ให้ยืมล่ะ มันบอกว่าสนุกดี ขอนะ แม่งขอกันหน้าด้านๆเลยอ่ะ แล้วก็หายเงียบไป วันไหนเราทวงมันก็บอกว่าเดี๋ยวพรุ่งนี้เอามาคืนนะ จนทึกวันนี้ผมยังไม่เห็นเศษหนังสือผมเลย ครั้นจะไปหาซื้อตามร้านซีเอ็ดก็ไม่มีวางขายแล้ว เจ็บใจนัก
พี่ชอบเรื่องสั้นคุณสรจักรมากๆ ภาษาสวย ดำเนินเรื่องดี มีทักษาะทางการเขียน สนุกมาก อ่านแล้ววางไม่ลง แล้วได้รับเกร็ดความรู้เรื่องต่างๆที่สอดแทรกไปด้วย^^
โอเคจะฉายล่ะ แต่ก่อนอื่นขอโฆษณาหนังตัวอย่างก่อน
อย่าล้อเล่น อย่าโกง และอย่าหนี เพราะคุณไม่มีทางหนีความตายพ้น Final Destination 5
18 สิงหาคมนี้ ความตายจะแนบใกล้ยิ่งกว่าทุกครั้ง
ตำนานความรักอมตะของไทย ที่แม้แต่ความตายก็มิอาจพรากจาก กำลังจะกลับมาใหม่ในรูปแบบสามมิติ เลอค่ายิ่งนัก 1 กันยายนนี้!!!!!!
โอเคจะฉายล่ะ แต่ก่อนอื่นขอโฆษณาหนังตัวอย่างก่อน
อย่าล้อเล่น อย่าโกง และอย่าหนี เพราะคุณไม่มีทางหนีความตายพ้น Final Destination 5
18 สิงหาคมนี้ ความตายจะแนบใกล้ยิ่งกว่าทุกครั้ง
ตำนานความรักอมตะของไทย ที่แม้แต่ความตายก็มิอาจพรากจาก กำลังจะกลับมาใหม่ในรูปแบบสามมิติ เลอค่ายิ่งนัก 1 กันยายนนี้!!!!!!
เริ่มแล้วจ้า
แนะนำว่าเรื่องนี้ ควรจะอ่านละเอียดนะ เพราะมีหลุมพราง ไม่งั้นตอนจบอาจจะไม่เข้าใจว่าตกลงมันเป็นแบบนี้ได้ไง.... เรื่องนี้อาจจะไม่มีฉากสยองเลย แต่มันน่ากลัวด้วยบรรยากาศชวนน่าสงสัย ฉะนั้นต้องค่อยๆอ่านไป นึกสะว่าอ่านเรื่องสั้นหักมุมเรื่องนึง
ณ โบสถ์แห่งนึง ณ รัฐฟิลาเดเฟีย
วันนี้กำลังจะมีเหตุการณ์สำคัญเกิดขึ้น
แนะนำว่าเรื่องนี้ ควรจะอ่านละเอียดนะ เพราะมีหลุมพราง ไม่งั้นตอนจบอาจจะไม่เข้าใจว่าตกลงมันเป็นแบบนี้ได้ไง.... เรื่องนี้อาจจะไม่มีฉากสยองเลย แต่มันน่ากลัวด้วยบรรยากาศชวนน่าสงสัย ฉะนั้นต้องค่อยๆอ่านไป นึกสะว่าอ่านเรื่องสั้นหักมุมเรื่องนึง
ณ โบสถ์แห่งนึง ณ รัฐฟิลาเดเฟีย
วันนี้กำลังจะมีเหตุการณ์สำคัญเกิดขึ้น

แก้ไขล่าสุด: 3/8/2554 15:33 โดย AguileraAnimato
อั้ยหยาา เสื่อผืน หมอนใบ รอดู ~
นั้นคืองานแต่งงานของคู่บ่าวสาวนั้นเอง
บัดนี้พนักงานกำลังจัดแต่งสถานที่ให้สวยงามเพื่อสร้างความพึงพอใจให้แก่คู่รัก และแขกเหรื่อในงานนี้
เพราะนี้คืองานมงคล ทุกอย่างจึงต้องสดสวยและสดใส
บัดนี้พนักงานกำลังจัดแต่งสถานที่ให้สวยงามเพื่อสร้างความพึงพอใจให้แก่คู่รัก และแขกเหรื่อในงานนี้
เพราะนี้คืองานมงคล ทุกอย่างจึงต้องสดสวยและสดใส

เด็กน้อยหองสังข์ทั้งสอง ในชุดกระโปรงขาวซาร่า และชุดสูทท่านเจ้าคุณ กำลังวิงเล่นส่งเสียงเจี๊ยวจ๊าว คงไม่ต่างอะไรกับคู่บ่าวสาวเจ้าของงานนี้ ที่อีกไม่นานจะต้องอลหม่าน และกรีดร้องยิ่งกว่าเด็กสองคนนี้
ผิดกันที่ว่าเด็กๆนั้นร้องด้วยความสนุก...
ผิดกันที่ว่าเด็กๆนั้นร้องด้วยความสนุก...

และเจ้าสาวของเราไปอยู่ที่ไหนกัน
แน่นอนว่าเธอกำลังแต่งหน้า ทำผม อยู่ในห้องแต่งตัวนั้นเอง
เธอชื่อ สมศรี และเจ้าบ่าวของเธอคือสมศักดิ์ ไม่ใช่แค่ทั้งคู่มีชื่อคล้ายกันเท่านั้น แต่ทั้งคู่ยังหน้าตาดีเหมือนกันด้วย
ตอนนี้สมศรีกำลังแต่งหน้าอยู่ โดยมีเพื่อนรักทั้งสอง สมัยเรียนปวช.เพาะช่าง คอยปรนนิบัติพัดวีอยู่ข้างๆ สาวผมบลอนด์ ลูกปลา และสาวผมดำ น้ำหวาน
แน่นอนว่าเธอกำลังแต่งหน้า ทำผม อยู่ในห้องแต่งตัวนั้นเอง
เธอชื่อ สมศรี และเจ้าบ่าวของเธอคือสมศักดิ์ ไม่ใช่แค่ทั้งคู่มีชื่อคล้ายกันเท่านั้น แต่ทั้งคู่ยังหน้าตาดีเหมือนกันด้วย
ตอนนี้สมศรีกำลังแต่งหน้าอยู่ โดยมีเพื่อนรักทั้งสอง สมัยเรียนปวช.เพาะช่าง คอยปรนนิบัติพัดวีอยู่ข้างๆ สาวผมบลอนด์ ลูกปลา และสาวผมดำ น้ำหวาน

เกือบมาไม่ทัน ขอดูด้วยคับ
สามสาวเพื่อนรักเริ่มคุยกัน
"ชุดเธอสวยมากๆเลยนะสมศรี" ลูกปลามองขณะจับลงบนผ้ากระสอบที่เอามาตัดเป็นชุด
"ฉันจะแต่งหน้าแกให้สวยยิ่งกว่าน้องจ๊ะ วงเทอร์โบอีก" น้ำหวานบอกขณะโป๊ะกวนอิมลงบนหน้าสมศรี
สมศรียิ้มแล้วหันมาคุยกับเพื่อนๆ
"พวกเธอเห็นสมศักดิ์กันไหม" สมศรีถาม
"ไม่นิ เค้าอาจจะวุ่นๆก็ได้มั้ง ผู้ชายมักจะไม่ค่อยมีวินับเท่าไร พวกเค้าชอบทำไรอะไรจวนตัวๆเสมอ" น้ำหวานบอก
"ชุดเธอสวยมากๆเลยนะสมศรี" ลูกปลามองขณะจับลงบนผ้ากระสอบที่เอามาตัดเป็นชุด
"ฉันจะแต่งหน้าแกให้สวยยิ่งกว่าน้องจ๊ะ วงเทอร์โบอีก" น้ำหวานบอกขณะโป๊ะกวนอิมลงบนหน้าสมศรี
สมศรียิ้มแล้วหันมาคุยกับเพื่อนๆ
"พวกเธอเห็นสมศักดิ์กันไหม" สมศรีถาม
"ไม่นิ เค้าอาจจะวุ่นๆก็ได้มั้ง ผู้ชายมักจะไม่ค่อยมีวินับเท่าไร พวกเค้าชอบทำไรอะไรจวนตัวๆเสมอ" น้ำหวานบอก

"ให้ตายเถอะ ทำอะไรจวนตัวเหรอ แบบนี้ฉันก็เป็นเหมือนกันนะ" สมศรีแหว...
เพื่อนรักทั้งสองมองหน้ากันอย่างเป็นกังวล
"นิแกเริ่มกังวลเป็นเหมือนกันเหรอ" น้ำหวานถาม
"บ้านะ ฉันพูดเล่น" สมศรีแก้ตัว แต่ด้วยใบหน้าที่เคร่งเครียด บวกกับท่าเสยผม อันเป็นท่าประจำตัวของหญิงสาวเวลาเครียดๆ ทำให้เพื่อนทั้งสองมองออก
"ถ้าแกมั่นใจกับสมศักดิ์ พวกเราก็ยินดีด้วยจ้ะ" น้ำหวานบอก ที่เธอพูดเช่นนั้น เพราะทั้งสมศักดิ์ และสมศรีตกลงจะแต่งงานกัน ทั้งที่รู้จักกันไม่นาน เป็นเรื่องที่คนรอบข้างประหลาดใจกันมาก
เพื่อนรักทั้งสองมองหน้ากันอย่างเป็นกังวล
"นิแกเริ่มกังวลเป็นเหมือนกันเหรอ" น้ำหวานถาม
"บ้านะ ฉันพูดเล่น" สมศรีแก้ตัว แต่ด้วยใบหน้าที่เคร่งเครียด บวกกับท่าเสยผม อันเป็นท่าประจำตัวของหญิงสาวเวลาเครียดๆ ทำให้เพื่อนทั้งสองมองออก
"ถ้าแกมั่นใจกับสมศักดิ์ พวกเราก็ยินดีด้วยจ้ะ" น้ำหวานบอก ที่เธอพูดเช่นนั้น เพราะทั้งสมศักดิ์ และสมศรีตกลงจะแต่งงานกัน ทั้งที่รู้จักกันไม่นาน เป็นเรื่องที่คนรอบข้างประหลาดใจกันมาก

เมื่อเห็นเจ้าสาวเริ่มเครียด เพื่อนทั้งสองจึงลุกขึ้นแล้วบอกว่า
"งั้นเดี๋ยวพวกเราออกไปตามหาแฟนแกให้แล้วกันนะ" ลูกปลาบอก
สมศรียิ้ม แล้วเธอก็เรียกเพื่อนทั้งสอง จับมือทั้งคู่อย่างอบอุ่นใจ เธอสูดหายใจลึกๆ พยายามสะกดความเครียดในตัว แล้วยิ้มกับเพื่อนที่แสนดี
"รู้ไหมว่าฉันดีใจที่เรายังมีเรา พวกเธอเป็นเพื่อนที่ดีกับฉันมากๆ ในวันสำคัญแบบนี้ ฉันดีใจที่พวกเธออยู่ที่นี้ด้วย" สมศรีบอก
"เธอไม่กลัวว่าสมศักดิ์จะหนีไปใช่ไหม" ลูกปลาถาม เธอเข้าใจว่าผู้ชายมักต้องการอิสระ และพวกเค้าไม่อยากจะใช้ชีวิตมีพันธะเร็วเกินไป เธอกลัวว่าเจ้าบ่าวคนนี้จะชิ่งหนีงานแต่งของเพื่อนเธอ
"ไม่หรอก ฉันเชื่อมั่นในตัวเค้า"สมศรียิ้ม
"งั้นเดี๋ยวพวกเราออกไปตามหาแฟนแกให้แล้วกันนะ" ลูกปลาบอก
สมศรียิ้ม แล้วเธอก็เรียกเพื่อนทั้งสอง จับมือทั้งคู่อย่างอบอุ่นใจ เธอสูดหายใจลึกๆ พยายามสะกดความเครียดในตัว แล้วยิ้มกับเพื่อนที่แสนดี
"รู้ไหมว่าฉันดีใจที่เรายังมีเรา พวกเธอเป็นเพื่อนที่ดีกับฉันมากๆ ในวันสำคัญแบบนี้ ฉันดีใจที่พวกเธออยู่ที่นี้ด้วย" สมศรีบอก
"เธอไม่กลัวว่าสมศักดิ์จะหนีไปใช่ไหม" ลูกปลาถาม เธอเข้าใจว่าผู้ชายมักต้องการอิสระ และพวกเค้าไม่อยากจะใช้ชีวิตมีพันธะเร็วเกินไป เธอกลัวว่าเจ้าบ่าวคนนี้จะชิ่งหนีงานแต่งของเพื่อนเธอ
"ไม่หรอก ฉันเชื่อมั่นในตัวเค้า"สมศรียิ้ม

ลูกปลาเดินออกไปก่อน น้ำหวานกำลังจะตามไป แต่สมศรีรั้งแขนเธอไว้
"หวาน แกบอกฉันมาตามตรงเลยนะ คนอื่นเค้าคิดยังไงกับงานแต่งงานครั้งนี้"
"อ่า.. คือจริงๆพวกเค้าบอกว่ามันกะทันหันไปไหม แกกับสมศักดิ์พึ่งรู้จักกันไม่นานเองนะ คือหลายคนเค้าเป็นห่วงว่าแกยังรู้จักเค้าไม่ดีพอ ยังไม่น่ารีบตกลงปลงใจกันเลย" น้ำหวานบอกตามที่ได้ยินคนเม้าธ์กัน...
"หวาน แกบอกฉันมาตามตรงเลยนะ คนอื่นเค้าคิดยังไงกับงานแต่งงานครั้งนี้"
"อ่า.. คือจริงๆพวกเค้าบอกว่ามันกะทันหันไปไหม แกกับสมศักดิ์พึ่งรู้จักกันไม่นานเองนะ คือหลายคนเค้าเป็นห่วงว่าแกยังรู้จักเค้าไม่ดีพอ ยังไม่น่ารีบตกลงปลงใจกันเลย" น้ำหวานบอกตามที่ได้ยินคนเม้าธ์กัน...

"โอ๊ะ" สมศรีอุทาน คำตอบเป็นเหมือนกับที่เธอนึกไว้แล้ว
"ว่าแต่งานสำคัญแบบนี้ เธอไม่ชวนพี่ชายเธอมาด้วยเหรอ" น้ำหวานถาม
"เค้างอนฉันอยู่ เรื่องที่ฉันจะย้ายออกนั้นแหละ แต่ช่างเถอะ เดี๋ยวก็คงหาย"
"ว่าแต่งานสำคัญแบบนี้ เธอไม่ชวนพี่ชายเธอมาด้วยเหรอ" น้ำหวานถาม
"เค้างอนฉันอยู่ เรื่องที่ฉันจะย้ายออกนั้นแหละ แต่ช่างเถอะ เดี๋ยวก็คงหาย"

"ว่าแต่แกรู้จักกับสมศักดิ์มานานเท่าไรแล้วว่ะ" น้ำหวานถาม
สมศีเดินไปหน้าโต๊ะเครื่องแป้ง แล้วเกล้าผมด้วยกิ๊ฟสีงาช้าง จากนั้นจึงเริ่มต้นตอบ
"สำคัญอะไรกันล่ะว่าคนเราต้องรู้จักกันนานแค่ไหน ถึงจะมั่นใจใช้ชีวิตคู่กันนะ" สมศรีตอบหน้าตึงๆ
"ที่ถามก็เพราะเป็นห่วงแกนะ เพราะแฟนเก่าแกแต่ละคนก็ชอบทำเรื่องไม่ดีใส่แก แล้วเป็นไงล่ะ ตอนหลังก็เปิดตูดหายหัวไปทุกคน" น้ำหวานบอก
สมศีเดินไปหน้าโต๊ะเครื่องแป้ง แล้วเกล้าผมด้วยกิ๊ฟสีงาช้าง จากนั้นจึงเริ่มต้นตอบ
"สำคัญอะไรกันล่ะว่าคนเราต้องรู้จักกันนานแค่ไหน ถึงจะมั่นใจใช้ชีวิตคู่กันนะ" สมศรีตอบหน้าตึงๆ
"ที่ถามก็เพราะเป็นห่วงแกนะ เพราะแฟนเก่าแกแต่ละคนก็ชอบทำเรื่องไม่ดีใส่แก แล้วเป็นไงล่ะ ตอนหลังก็เปิดตูดหายหัวไปทุกคน" น้ำหวานบอก

"เจอแล้วจ้ะ สมศักดิ์แฟนเธออยู่ที่ห้องโถงนะ" ลูกปลาเดินเข้ามา พร้อมหนมจีบซาลาเปาในมือที่พึ่งแอบเด็ดมาจากโต๊ะบุฟเฟ่ต์
สมศรียิ้ม เธอมั่นใจว่าผู้ชายคนนี้จะไม่ทิ้งเธอไป
"อ๋อ ตะกี้หลวงพ่อฝากจดหมายมาให้ฉันด้วย หลวงพ่อบอกว่ามีผู้หญิงคนนึงฝากแกมาให้เธอนะสมศรี" ลูกปลาบอก พร้อมยื่นจดหมายฉบับนึงให้สมศรี
สมศรียิ้ม เธอมั่นใจว่าผู้ชายคนนี้จะไม่ทิ้งเธอไป
"อ๋อ ตะกี้หลวงพ่อฝากจดหมายมาให้ฉันด้วย หลวงพ่อบอกว่ามีผู้หญิงคนนึงฝากแกมาให้เธอนะสมศรี" ลูกปลาบอก พร้อมยื่นจดหมายฉบับนึงให้สมศรี

"ว่าแต่ผู้หญิงคนไหนเหรอที่ฝากจดหมายมาให้ฉัน" สมศีถาม
"ไม่รู้ดิแก เห็นหลวงพ่อบอกว่าเป็นผู้หญิงโพกผ้าสีแดง เห็นหน้าไม่ชัด เค้าบอกเลยนะว่าต้องรีบให้แก" ลูกปลาเล่า...
"แหม สงสัยจะเป็นเงิน" สมศียิ้ม ดีใจที่จะมีคนช่วยค่างานแต่งที่เธอพึ่งกู้กองทุนหมู่บ้านมาจัด
"ไม่รู้ดิแก เห็นหลวงพ่อบอกว่าเป็นผู้หญิงโพกผ้าสีแดง เห็นหน้าไม่ชัด เค้าบอกเลยนะว่าต้องรีบให้แก" ลูกปลาเล่า...
"แหม สงสัยจะเป็นเงิน" สมศียิ้ม ดีใจที่จะมีคนช่วยค่างานแต่งที่เธอพึ่งกู้กองทุนหมู่บ้านมาจัด

"ตื่นเต้นว่ะแก เออฉันขอไปห้องน้ำก่อนนะ" สมศรีบอกแล้วสวมเสื้อคลุมเดินออกไปจากห้องแต่งตัว เธอหยิบจดหมายไปด้วย...
สมศรีมองดูมันอย่างพิเคราะห์ ใครกันนะที่ยื่นจดหมายนี้มาให้เธอ ซองกระดาษสีเต้าหู้ไข่ไก่ ภายในมีกระดาษโน๊ทเล็กๆสอดอยู่...
สมศรีมองดูมันอย่างพิเคราะห์ ใครกันนะที่ยื่นจดหมายนี้มาให้เธอ ซองกระดาษสีเต้าหู้ไข่ไก่ ภายในมีกระดาษโน๊ทเล็กๆสอดอยู่...

"คุณพระ!" สมศรีอุทานเมื่อเห็นเนื้อความในจดหมาย
"บุคคลที่ท่านกำลังจะแต่งงานด้วยเป็นฆาตกรต่อเนื่อง"
"บุคคลที่ท่านกำลังจะแต่งงานด้วยเป็นฆาตกรต่อเนื่อง"

สมศรีตกใจ หน้าดำคร่ำเครียด
ใจของเธอลงไปกองอยู่ที่ตาปลา นี้มันอะไรกันนี้?!
ใจของเธอลงไปกองอยู่ที่ตาปลา นี้มันอะไรกันนี้?!

กระทู้ฉายหนังโหดภูมิใจเสนอ Fear Itself ตอน In Sickness and in Health วิวาห์อลเวง เพลงพ่าย ตายแน่มึง!
สมศรีประหวั่นพรั่นพรึงในดวงหทัย...
เธอข่มความหวาดกลัวไว้ในทรวงอก แล้วตัดสินใจเดินไปที่ห้องแต่งตัวของเจ้าบ่าว
เห็นทีคงต้องพูดกัน
เธอข่มความหวาดกลัวไว้ในทรวงอก แล้วตัดสินใจเดินไปที่ห้องแต่งตัวของเจ้าบ่าว
เห็นทีคงต้องพูดกัน

เพื่อนเจ้าบ่าวเดินมาเปิดประตู
"ขอฉันพบสมศักดิ์หน่อยได้ไหม" สมศรีถาม
"มึง แฟนมึงเค้าอยากพบอ่ะ" เพื่อนเจ้าบ่าวหันหน้ากลับเข้าไปในห้องแล้วถามเจ้าบ่าวที่กำลังแต่งตัวอยู่
"ให้เธอเข้ามาสิ" สมศักดิ์บอก
"ขอฉันพบสมศักดิ์หน่อยได้ไหม" สมศรีถาม
"มึง แฟนมึงเค้าอยากพบอ่ะ" เพื่อนเจ้าบ่าวหันหน้ากลับเข้าไปในห้องแล้วถามเจ้าบ่าวที่กำลังแต่งตัวอยู่
"ให้เธอเข้ามาสิ" สมศักดิ์บอก

สมศรีเดินเข้ามาด้วยความเคร่งเครียด
"ผมขอโทษที่มาช้า รถผมน้ำมันหมด กระเป๋าตังค์ผมก็หาย ถ้าผมไม่ได้คนช่วยผมต้องแย่แน่ๆ ผมผิดเองที่ประมาทในวันสำคัญแบบนี้" สมศักดิ์แก้ตัว พลางส่งสีหน้าหมาหงอยขอความเห็นใจจากสมศรี
"ผมขอโทษที่มาช้า รถผมน้ำมันหมด กระเป๋าตังค์ผมก็หาย ถ้าผมไม่ได้คนช่วยผมต้องแย่แน่ๆ ผมผิดเองที่ประมาทในวันสำคัญแบบนี้" สมศักดิ์แก้ตัว พลางส่งสีหน้าหมาหงอยขอความเห็นใจจากสมศรี

แก้ไขล่าสุด: 3/8/2554 00:16 โดย AguileraAnimato
ดูไปไม่กี่ตอนติดใจมาก ดูแล้วขนลุก
สมศรียิ้มกับความซื่อของผู้ชายของเธอ
"คุณกังวลอะไรเหรอ" สมศักดิ์ถาม
"ฉันแค่อยากแน่ใจว่าคุณยังอยู่ในนี้" สมศรีบอก
"คุณกังวลอะไรเหรอ" สมศักดิ์ถาม
"ฉันแค่อยากแน่ใจว่าคุณยังอยู่ในนี้" สมศรีบอก

สมศักดิ์ดึงตัวสมศีมากอดใกล้ๆ ให้เธอได้อุ่นใจ
"คุณรู้ไหมว่าเราทำกันตรงนี้เลยก็ได้นะ" สมศักดิ์พูดแล้วยิ้ม
สมศรีสะดุ้ง
"ผมหมายถึงเรามาปฏิญาณตนกันตรงนี้เลยไง" สมศักดิ์มองเข้าไปในกระจกเงาที่สะท้อนเงาของทั้งสอง
"คุณรู้ไหมว่าเราทำกันตรงนี้เลยก็ได้นะ" สมศักดิ์พูดแล้วยิ้ม
สมศรีสะดุ้ง
"ผมหมายถึงเรามาปฏิญาณตนกันตรงนี้เลยไง" สมศักดิ์มองเข้าไปในกระจกเงาที่สะท้อนเงาของทั้งสอง

ในกระจกเงา สะท้อนร่างบ่าว-สาว ที่ยืนกอดกัน พวกเขาดูมีความสุข
"คุณรู้ไหมว่าเราจะรักกัน เราจะให้คำมั่นสัญญาต่อกัน จริงๆนะ ผมว่าเราไม่ต้องไปสนพิธี บาทหลวง ช่อดอกไม้หรอก... เราจะมีกันและกัน ไม่ว่าจะยามป่วยหรือสุขสบาย ตราบจนวันตาย..." สมศักดิ์พูด
สมศรขนลุกเมื่อได้ยินคำว่าตาย
"คุณรู้ไหมว่าเราจะรักกัน เราจะให้คำมั่นสัญญาต่อกัน จริงๆนะ ผมว่าเราไม่ต้องไปสนพิธี บาทหลวง ช่อดอกไม้หรอก... เราจะมีกันและกัน ไม่ว่าจะยามป่วยหรือสุขสบาย ตราบจนวันตาย..." สมศักดิ์พูด
สมศรขนลุกเมื่อได้ยินคำว่าตาย

สมศรีผละออกจากอ้อมกอดของสมศักดิ์
"คุณเป็นอะไรนะ" สมศักดิ์ถาม
"ฉันไม่เข้าใจ ทำไมเราต้องพูดถึงความตายกันในวันมงคลด้วยนะ" สมศรีบอก ตอนนี้เธอเครียดยิ่งกว่าเดิม
"นั้นสินะ ทำไมในคำปฏิญาณถึงต้องมีคำว่า ตาย อยู่ด้วย ผมว่าเราน่าจะบอกให้บาทหลวงแก้ประโยคตอนท้ายนิดหน่อย คุณเห็นด้วยไหม" สมศักดิ์ถาม
"จ้ะ"
"คุณเป็นอะไรนะ" สมศักดิ์ถาม
"ฉันไม่เข้าใจ ทำไมเราต้องพูดถึงความตายกันในวันมงคลด้วยนะ" สมศรีบอก ตอนนี้เธอเครียดยิ่งกว่าเดิม
"นั้นสินะ ทำไมในคำปฏิญาณถึงต้องมีคำว่า ตาย อยู่ด้วย ผมว่าเราน่าจะบอกให้บาทหลวงแก้ประโยคตอนท้ายนิดหน่อย คุณเห็นด้วยไหม" สมศักดิ์ถาม
"จ้ะ"

แอบมาดึกๆดื่นๆ
.
.
.
ช่วงเน้น้อง conc. มิดเทอมอยู่ เลยแวะมาให้กำลังใจเค่อะ
ฮิ้วววววววววววววววววววววววว!!!!!!!!!!!!!!!!!><
.
.
.
ช่วงเน้น้อง conc. มิดเทอมอยู่ เลยแวะมาให้กำลังใจเค่อะ
ฮิ้วววววววววววววววววววววววว!!!!!!!!!!!!!!!!!><
แล้วสมศักดิ์ก็จูบสมศรีด้วยความรัก....

สมศักดิ์ดึงลิ้นออกมาจากริมฝีปากสมศรี
"ทำไมคุณไม่จูบผมกลับล่ะ" เค้าถามแบบงงๆ
สมศรีหัวหมุน "ฉันคงเครียดนะ จริงๆการที่เจ้าสาวแว่บมาหาาเจ้าบ่าวก่อนเริ่มพิธีนิก็แย่พอแล้ว โบราณว่ามันเป็นลางไม่ดี" สมศรีลุกลี้ลุกลน เธอไม่แน่ใจว่าควรจูบชายผู้นี้รึเปล่า
สมศักดิ์เหลือบไปเห็นจดหมายที่ซอกเสื้อในของสมศรี
"อะไรนะ" เค้าถาม
"ว๊าย นี้เหรอ คอลัมน์ตอบปัญหากับหมอนพพร ฉันตัดมาเก็บไว้อ่านนะ เขินนะ" สมศรีแก้ตัวแล้วรีบพลุนพลันออกไป
"ทำไมคุณไม่จูบผมกลับล่ะ" เค้าถามแบบงงๆ
สมศรีหัวหมุน "ฉันคงเครียดนะ จริงๆการที่เจ้าสาวแว่บมาหาาเจ้าบ่าวก่อนเริ่มพิธีนิก็แย่พอแล้ว โบราณว่ามันเป็นลางไม่ดี" สมศรีลุกลี้ลุกลน เธอไม่แน่ใจว่าควรจูบชายผู้นี้รึเปล่า
สมศักดิ์เหลือบไปเห็นจดหมายที่ซอกเสื้อในของสมศรี
"อะไรนะ" เค้าถาม
"ว๊าย นี้เหรอ คอลัมน์ตอบปัญหากับหมอนพพร ฉันตัดมาเก็บไว้อ่านนะ เขินนะ" สมศรีแก้ตัวแล้วรีบพลุนพลันออกไป

สมศักดิ์ยิ้มขณะที่มองเจ้าสาวแสนสวยเดินออกจากห้องไป

ในโบสถ์พิธีกำลังจะเริ่ม แขกเหรื่อเริ่มทยอยเดินเข้ามากันทีละคนสองคน

แก้ไขล่าสุด: 3/8/2554 01:36 โดย AguileraAnimato
แต่ในใจของสมศรีกลับวิ่งวุ่นร้อนใจ เธอรีบเดินฉับๆไปที่ประตูหลังของห้องพิธี พร้อมลากลูกปลาไปด้วย
"แกเดินช้าๆหน่อยได้ไหม มีอะไรนะ" ลูกปลาถาม
"ฉันต้องการพบผู้หญิงที่เอาจดหมายยี้มาให้ฉัน" สมศรีบอก เธออยากรู้ว่าใครกันแน่ที่เป็นคนบอกเธอเรื่องนี้
"แกเดินช้าๆหน่อยได้ไหม มีอะไรนะ" ลูกปลาถาม
"ฉันต้องการพบผู้หญิงที่เอาจดหมายยี้มาให้ฉัน" สมศรีบอก เธออยากรู้ว่าใครกันแน่ที่เป็นคนบอกเธอเรื่องนี้

สมศรีพาลูกปลามาหลบอยู่หลังรูปปั้นแท่นบรรทมของพระเยซู
"แกชี้ให้ฉันดูหน่อยสิว่าผู้หญิงคนนั้นคือคนไหน" สมศรีถามขณะสอดสายตาไปยังกลุ่มแขกในงาน
"ฉันไม่รู้ว่ะ บางทีเค้าอาจจะถอดผ้าโพกหัวออกแล้วก็ได้" ลูกปลาบอก
สมศรีรู้สึกกระวนกระวายหนัก
"งั้นแกบอกมาได้ไหมว่าผู้หญิงคนนั้น บอกหลวงพ่อว่ายังไงบ้าง"
"ก็บอกว่าให้เอามาให้เธอ... แต่แกก็อย่าไปอะไรกับหลวงพ่อแกนักเลย แกก็รู้ว่าหลวงพ่อหูไม่ค่อยดี" ลูกปลาตอบ เธอเริ่มงงๆที่เห็นเพื่อนรักของตัวเองดูสติแตกด้วยเหตุผลแปลกๆ
"แกชี้ให้ฉันดูหน่อยสิว่าผู้หญิงคนนั้นคือคนไหน" สมศรีถามขณะสอดสายตาไปยังกลุ่มแขกในงาน
"ฉันไม่รู้ว่ะ บางทีเค้าอาจจะถอดผ้าโพกหัวออกแล้วก็ได้" ลูกปลาบอก
สมศรีรู้สึกกระวนกระวายหนัก
"งั้นแกบอกมาได้ไหมว่าผู้หญิงคนนั้น บอกหลวงพ่อว่ายังไงบ้าง"
"ก็บอกว่าให้เอามาให้เธอ... แต่แกก็อย่าไปอะไรกับหลวงพ่อแกนักเลย แกก็รู้ว่าหลวงพ่อหูไม่ค่อยดี" ลูกปลาตอบ เธอเริ่มงงๆที่เห็นเพื่อนรักของตัวเองดูสติแตกด้วยเหตุผลแปลกๆ

"ว่าแต่แกดูแปลกๆไปนะ มีอะไรเกิดขึ้นกันแน่" ลูกปลาถาม
"เอาเถอะ อย่าพึ่งถามเลย ตอนนี้เราไปหาหลวงพ่อกันก่อนได้ไหม" สมศรีบอก และเธอทั้งสองก็ออกไปนอกโบสถ์ พยายามมองหาหลวงพ่อ
แต่ทันใดนั้น พวกเธอก็เห็น...
"เอาเถอะ อย่าพึ่งถามเลย ตอนนี้เราไปหาหลวงพ่อกันก่อนได้ไหม" สมศรีบอก และเธอทั้งสองก็ออกไปนอกโบสถ์ พยายามมองหาหลวงพ่อ
แต่ทันใดนั้น พวกเธอก็เห็น...

ผู้หญิงในผ้าโพกผมสีแดง!
ผู้หญิงคนนั้นนะเอง เธอกำลังโบกเรียกแท็กซี่
ผู้หญิงคนนั้นนะเอง เธอกำลังโบกเรียกแท็กซี่

ลูกปลาพยายามตะโกน "คุณๆๆๆ หยุดก่อนค่ะ"
แต่เสียงเธอก็มิอาจดังไปถึง หรือหากถึงผู้หญิงลึกลับคนนั้นก็อาจจะไม่อยากหยุดมอง
เธอขึ้นแท็กซี่ไป ท่ามกลางหญิงสาวสองคนที่พยายามร้องเรียกให้เธอหันมา
แต่เสียงเธอก็มิอาจดังไปถึง หรือหากถึงผู้หญิงลึกลับคนนั้นก็อาจจะไม่อยากหยุดมอง
เธอขึ้นแท็กซี่ไป ท่ามกลางหญิงสาวสองคนที่พยายามร้องเรียกให้เธอหันมา

สองสาวเดินเข้ามาในโบสถ์อีกครั้ง สมศรีออกอาการตื่นตระหนกอย่างเห็นได้ชัด
"แกเป็นอะไรนะ มันก็แค่ข้อความๆเดียวเท่านั้น" ลูกปลาพยายามปลอบ
"แกเป็นอะไรนะ มันก็แค่ข้อความๆเดียวเท่านั้น" ลูกปลาพยายามปลอบ

"ข้อความเดียวเหรอ แกรู้ได้ไง แกแอบเปิดอ่านเหรอ" สมศรีจ้องตาเขม็ง
"เอ่อะ... ฉันก็เดานะ ก็จดหมายมันเล็กแบบนั้น มันก็ต้องมีข้อความสั้นๆอยู่แล้ว" ลูกปลาบอก
"อีกอย่างแกก็เห็นว่าซองปิดสนิทเลยนะ" เธอกำชับ
สมศรีพยายามถอนหายใจให้คลายกังวล เธออยากแน่ใจว่าเพื่อนของเธอจะไม่เห็นข้อความที่ชี้ชวนว่าเจ้าบ่าวเธออาจเป็นฆาตกร
"ถามจริง ในนั้นมันเขียนถึงเรื่องไม่ดีๆของสมศักดิ์เหรอ" ลูกปลาถามเสียงแข็ง
"เอ่อะ... ฉันก็เดานะ ก็จดหมายมันเล็กแบบนั้น มันก็ต้องมีข้อความสั้นๆอยู่แล้ว" ลูกปลาบอก
"อีกอย่างแกก็เห็นว่าซองปิดสนิทเลยนะ" เธอกำชับ
สมศรีพยายามถอนหายใจให้คลายกังวล เธออยากแน่ใจว่าเพื่อนของเธอจะไม่เห็นข้อความที่ชี้ชวนว่าเจ้าบ่าวเธออาจเป็นฆาตกร
"ถามจริง ในนั้นมันเขียนถึงเรื่องไม่ดีๆของสมศักดิ์เหรอ" ลูกปลาถามเสียงแข็ง

แก้ไขล่าสุด: 3/8/2554 02:12 โดย AguileraAnimato
สมศีอึกอัก...
ลุกปลาสงสัยมากขึ้น จะเป็นอะไรไปได้ที่ทำให้เพื่อนเธอตื่นตระหนกได้แบบนี้ เจ้าสาวที่กำลังจะแต่งงานกับผู้ชายที่เธอยังรู้จักเค้าไม่ดีพอ คงมีผู้หวังดีส่งข้อความมาบอกความลับอันชั่วร้ายของเค้า เช่นเป็นเอดส์ เคยทำผู้หญิงท้อง มีครอบครัวแล้ว หรือเป็นเกย์
ลุกปลาสงสัยมากขึ้น จะเป็นอะไรไปได้ที่ทำให้เพื่อนเธอตื่นตระหนกได้แบบนี้ เจ้าสาวที่กำลังจะแต่งงานกับผู้ชายที่เธอยังรู้จักเค้าไม่ดีพอ คงมีผู้หวังดีส่งข้อความมาบอกความลับอันชั่วร้ายของเค้า เช่นเป็นเอดส์ เคยทำผู้หญิงท้อง มีครอบครัวแล้ว หรือเป็นเกย์

สมศรีไม่รู้จะตอบว่ายังไง ก็พอดีกับที่น้ำหวานวิ่งมาพอดี
"เค้าตามเธอกันอยู่นะ มัวแต่เอ้อระเหยลอยชายอะไร งานจะเริ่มแล้วนะ" น้ำหวานบอก
"ดีเลยงั้นพวกเธอไปช่วยฉันแต่งตัวหน่อยนะ" สมศรีรีบตัดบท ปั้นหน้ายิ้มอย่างรวดเร็ว แล้วจูงมือเพื่อนทั้งสองเข้าห้องแต่งตัวไป
"เค้าตามเธอกันอยู่นะ มัวแต่เอ้อระเหยลอยชายอะไร งานจะเริ่มแล้วนะ" น้ำหวานบอก
"ดีเลยงั้นพวกเธอไปช่วยฉันแต่งตัวหน่อยนะ" สมศรีรีบตัดบท ปั้นหน้ายิ้มอย่างรวดเร็ว แล้วจูงมือเพื่อนทั้งสองเข้าห้องแต่งตัวไป

ที่พิธีแต่งงานหลวงพ่อกำลังกล่าวให้พรแก่ทั้งสอง
บ่าว-สาว มองหน้ากันด้วยความสุข
"สมศรีเจ้าจะยอมรับสมศักดิ์เป็นสามีหรือไม่" หลวงพ่อถาม
บ่าว-สาว มองหน้ากันด้วยความสุข
"สมศรีเจ้าจะยอมรับสมศักดิ์เป็นสามีหรือไม่" หลวงพ่อถาม

สมศรีมองไปที่เจ้าบ่าวของเธอ ฉับพลันเธอก็เกิดนิมิตรมารหวาดวิตก เห็นใบหน้ามัจจุราชซ้อนทับกับหน้าสามีในอนาคตของเธอ
"แว้กกก" เธอออุทานเบาๆ
"แว้กกก" เธอออุทานเบาๆ

แก้ไขล่าสุด: 3/8/2554 02:34 โดย AguileraAnimato
"พ่อพูดได้ไหมลูก" หลวงพ่อถาม เมื่อได้ยินสมศรีอุทาน
"เอ้อออ รับค่ะ" สมศรีตอบอย่างตื่นๆ
"เอ้อออ รับค่ะ" สมศรีตอบอย่างตื่นๆ

"ทีนี้เจ้าบ้าง สมศักดิ์ยินดีรับสมหญิงเป็นภรรยาไหม" หลวงพ่อถาม
"ผมไม่รับ แต่ผมจะรุก" สมศักดิ์ตอบแล้วหัวเราะอย่างชั่วร้าย
"ล้อเล่นคร้าบบบ ผมรับ"
"ผมไม่รับ แต่ผมจะรุก" สมศักดิ์ตอบแล้วหัวเราะอย่างชั่วร้าย
"ล้อเล่นคร้าบบบ ผมรับ"

แล้วสมศักดิ์ก็สวมแหวนที่ซื้อมาจากโรงรับจำนำให้สมศรี
"เอาล่ะ ในทีนี้มีใครต้องการคัดค้านการเป็นผัวเมียของสองคนนี้ไหม หากมีก็จงประกาศออกมา" หลวงพ่อถามคนในงาน
ลูกปลาหันมามองที่สมศักดิ์ตาเขม็งราวกับจ้องจะหาความลับดำมืดในตัวเค้าออกมาให้ได้ เธอเชื่อว่าสมศักดิ์ต้องมีอะไรไม่ชอบมาพากลซุกซ่อนอยู่
"เอาล่ะ ในทีนี้มีใครต้องการคัดค้านการเป็นผัวเมียของสองคนนี้ไหม หากมีก็จงประกาศออกมา" หลวงพ่อถามคนในงาน
ลูกปลาหันมามองที่สมศักดิ์ตาเขม็งราวกับจ้องจะหาความลับดำมืดในตัวเค้าออกมาให้ได้ เธอเชื่อว่าสมศักดิ์ต้องมีอะไรไม่ชอบมาพากลซุกซ่อนอยู่

พักแป๊บนึงเดี๋ยวมาต่อ.... ออกไปซื้อหนมก่อน
สิ้นคำถามของหลวงพ่อก็มีเสียงดังมาจากที่นั่งแขก
"ค้านนนนน คะ ค้านนนน" เสียงชายแก่คนนึงตะโกนออกมา
สมศักดิ์ สมศรี และแขกทั้งหลายต่างหันไปยังต้นตอของเสียง ใครนะที่จะค้านการแต่งงานของบ่าวสาวคู่นี้
"ค้านนนนน คะ ค้านนนน" เสียงชายแก่คนนึงตะโกนออกมา
สมศักดิ์ สมศรี และแขกทั้งหลายต่างหันไปยังต้นตอของเสียง ใครนะที่จะค้านการแต่งงานของบ่าวสาวคู่นี้

เป็นเสียงของลุงหมานนั้นเอง
"ค้านนน คันคอ คันคออออ แค่กๆ" ลุงหมานหยิบผ้าเช็ดหน้าขึ้นมาปิดปาก ขณะที่ไอ
"แม่หนูหยิบสเตร๊ปซิลค์ให้ลุงทีสิ" ลุงหมานบอกสาวที่นั่งข้างๆ
"เออๆๆๆ ไม่มีไรหรอกครับ ตะกี้แดกหนังไก่ทอดมากไป คันคอชิมป๋งเลย อ่ะๆๆๆแต่งกันเถอะทั้งสองคน" ลุงหมานบอก
"ค้านนน คันคอ คันคออออ แค่กๆ" ลุงหมานหยิบผ้าเช็ดหน้าขึ้นมาปิดปาก ขณะที่ไอ
"แม่หนูหยิบสเตร๊ปซิลค์ให้ลุงทีสิ" ลุงหมานบอกสาวที่นั่งข้างๆ
"เออๆๆๆ ไม่มีไรหรอกครับ ตะกี้แดกหนังไก่ทอดมากไป คันคอชิมป๋งเลย อ่ะๆๆๆแต่งกันเถอะทั้งสองคน" ลุงหมานบอก

ไม่มีใครค้าน หลวงพ่อก็ทำพิธีต่อ
"เจ้าจะให้สัญญาว่ารักกัน ไม่ว่ายามทุกข์ หรือยามสุข ไม่ว่ายามป่วยไข้ หรือยามแข็งแรง ตราบจนสิ้นวันตา.."
หลวงพ่อพูดเท่านี้ สมศักดิ์ก็รีบขัดก่อน เป็นสัญญาณให้รู้ว่าไม่ต้องพูด ตามที่ได้บอกกันก่อนล่วงหน้า
"เจ้าจะให้สัญญาว่ารักกัน ไม่ว่ายามทุกข์ หรือยามสุข ไม่ว่ายามป่วยไข้ หรือยามแข็งแรง ตราบจนสิ้นวันตา.."
หลวงพ่อพูดเท่านี้ สมศักดิ์ก็รีบขัดก่อน เป็นสัญญาณให้รู้ว่าไม่ต้องพูด ตามที่ได้บอกกันก่อนล่วงหน้า

หลวงพ่อกระแอมไอ แล้วจึงเปลี่ยนประโยคปิดท้ายใหม่
"ขอให้รักกันสนั่นเตียง เอาล่ะ บ่าวสาวกระซวกปากกันได้เลย"
ว่าแล้วทั้งสองก็ทะลุทะลวงกันอย่างอิ่มเอมท่ามกลางเสียงครางดีใจของแขกเหรื่อ
"ขอให้รักกันสนั่นเตียง เอาล่ะ บ่าวสาวกระซวกปากกันได้เลย"
ว่าแล้วทั้งสองก็ทะลุทะลวงกันอย่างอิ่มเอมท่ามกลางเสียงครางดีใจของแขกเหรื่อ

สมศักดิ์เลียริมฝีปากสมศีอย่างนุ่มนวล กลิ่นยาสีฟันตราดอกบัวคู่ในช่องปากของเจ้าสาวลอยกระทบคลองนาสิกเค้าเบาๆ
สมศักดิ์ลืมตาแล้วเหลือบไปเห็นบางอย่างที่ทำให้เค้ารู้สึกไม่สบายใจ
สมศักดิ์ลืมตาแล้วเหลือบไปเห็นบางอย่างที่ทำให้เค้ารู้สึกไม่สบายใจ

นั้นคือใบหน้าอันแสนเย็นชาของสองเพื่อนเจ้าสาวนั้นเอง
ทำไมพวกเธอถึงทำหน้าแบบนี้นะ ราวกับไม่อยากให้ทั้งสองแต่งงานกัน
ทำไมพวกเธอถึงทำหน้าแบบนี้นะ ราวกับไม่อยากให้ทั้งสองแต่งงานกัน

เสร็จจากพิธี บ่าว-สาว และญาติ เพื่อนสนิท ของทั้งสองก็มารวมตัวชัก................ภาพหมู่เป็นที่ระลึก

ลุงแช่ม ญาติผู้ใหญ่คนเดียวสมศักดิ์ถือโอกาสอวยพอนด์
"ถ้าพ่อแม่ของหลานยังอยู่เค้าคงดีใจที่ได้เห็นหลานแต่งเมียสวยแบบนี้ เอานะ ลุงขออวยพรให้ทั้งสองถือไม้เท้ายอดทอง ถือกระบองเพชรยอดหญ้า มีลูกเต็มบ้าน มีหลานเต็มเมือง... เอ้า ดื่ม"
สมศักดิ์ยิ้ม ตั้งแต่พ่อแม่เค้าเสียไป ก็มีแต่ลุงแช่มที่คอยดูแลเค้ามาตลอด
"ถ้าพ่อแม่ของหลานยังอยู่เค้าคงดีใจที่ได้เห็นหลานแต่งเมียสวยแบบนี้ เอานะ ลุงขออวยพรให้ทั้งสองถือไม้เท้ายอดทอง ถือกระบองเพชรยอดหญ้า มีลูกเต็มบ้าน มีหลานเต็มเมือง... เอ้า ดื่ม"
สมศักดิ์ยิ้ม ตั้งแต่พ่อแม่เค้าเสียไป ก็มีแต่ลุงแช่มที่คอยดูแลเค้ามาตลอด

สมศักดิ์ยิ้มและทันใดนั้นเค้าก็เห็น สองสาวเพื่อนของสมศีมองเค้ามาด้วยสายตาแปลกๆ
เกิดอะไรขึ้น ทำไมพวกเธอดูเย็นชาใส่เค้าจัง หรือพวกเ้ธอไปรู้ ไปได้ยินอะไรไม่ดีมานะ---สมศักดิ์คิด
เกิดอะไรขึ้น ทำไมพวกเธอดูเย็นชาใส่เค้าจัง หรือพวกเ้ธอไปรู้ ไปได้ยินอะไรไม่ดีมานะ---สมศักดิ์คิด

หลังจากเสร็จสิ้นพิธี รวมถึงกิจกรรมถ่ายรูป
สมศรีก็กลับเข้าห้องแต่งตัว ถอดชุดที่เช่ามาจากพาหุรัดออก แล้วนั่งดื่มแชมเปญเบาๆกับเพื่อนสาวทั้งสอง
น้ำหวานเริ่มบทสนทนาขึ้น "เอาล่ะ แกเล่ามาให้พวกเราฟังเลยดีกว่า ว่าในจดหมายเขียนว่าอะไร"
สมศรีอึกอัก "เอาเถอะ คงมีคนคิดจะอำเล่นๆ"
"เธอแต่งงานกับเค้าทั้งที่รู้จักกันไม่นาน ตอนนี้เธอไปรู้เรื่องชั่วๆของเค้าแล้วล่ะสิ ทำไมล่ะ เค้ามีกิ๊กรึไง" น้ำหวานรุก
สมศรีก็กลับเข้าห้องแต่งตัว ถอดชุดที่เช่ามาจากพาหุรัดออก แล้วนั่งดื่มแชมเปญเบาๆกับเพื่อนสาวทั้งสอง
น้ำหวานเริ่มบทสนทนาขึ้น "เอาล่ะ แกเล่ามาให้พวกเราฟังเลยดีกว่า ว่าในจดหมายเขียนว่าอะไร"
สมศรีอึกอัก "เอาเถอะ คงมีคนคิดจะอำเล่นๆ"
"เธอแต่งงานกับเค้าทั้งที่รู้จักกันไม่นาน ตอนนี้เธอไปรู้เรื่องชั่วๆของเค้าแล้วล่ะสิ ทำไมล่ะ เค้ามีกิ๊กรึไง" น้ำหวานรุก

สมศรีเครียดหนัก....
"หยุดพูดได้แล้ว พวกแกออกไปจากห้องฉันเถอะ ฉันขออยู่คนเดียว" สมศรีพยายามหยุดการสนทนา ที่จะยิ่งทำให้เธอเครียด
"แกทำงี้กับเพื่อนไม่ได้นะ" ลูกปลาบอก
แต่สมศรีก็จับมือเพื่อนทั้งสอง จูงออกไปนอกห้อง
"ฟังนะ นี้คืองานของฉัน ฉันไม่อยากเครียด ข้างนอกนั้นมีบุฟเฟ่ต์รออยู่ ฉันอยากสนุกกับงานของฉันให้เต็มที่นะเพื่อน" สมศรีบอกแล้วจึงปิดประตูใส่เพื่อนทั้งสอง
"หยุดพูดได้แล้ว พวกแกออกไปจากห้องฉันเถอะ ฉันขออยู่คนเดียว" สมศรีพยายามหยุดการสนทนา ที่จะยิ่งทำให้เธอเครียด
"แกทำงี้กับเพื่อนไม่ได้นะ" ลูกปลาบอก
แต่สมศรีก็จับมือเพื่อนทั้งสอง จูงออกไปนอกห้อง
"ฟังนะ นี้คืองานของฉัน ฉันไม่อยากเครียด ข้างนอกนั้นมีบุฟเฟ่ต์รออยู่ ฉันอยากสนุกกับงานของฉันให้เต็มที่นะเพื่อน" สมศรีบอกแล้วจึงปิดประตูใส่เพื่อนทั้งสอง

เมื่ออยู่เพียงลำพัง สมศรีก็หยิบจดหมายขึ้นมาอ่านอีกครั้ง จิตใจของเธอวกวน วนเวียนอยู่กับข้อความฝนนั้น
ใครนะที่กล้าเล่นตลกแบบนี้กับเธอ
ใครนะที่กล้าเล่นตลกแบบนี้กับเธอ

เธอคิดมากับข้อความในนจดหมาย เสียจนประสาทหลอนไปกับคำว่า "ฆาตกรต่อเนื่อง"

พลันความคิดของเธอก็แตกกระจายเมื่อเสียงเคาะประตูดังขึ้น!
ปั๊กๆ เสียงประตูไม้หนาโบราณทำให้เสียงเคาะที่กระทบฟังดูทมึงทึง...
"ลูกปลา กับน้ำหวานเหรอ ฉันบอกให้แกไปที่งานก่อนไง ไม่ต้องรอ" สมศรีตะโกน
ปึ๊กๆๆๆ
เสียงเคาะดังขึ้นกว่าเดิม
"ไม่ได้ยินที่บอกเหรอ เดี๋ยวฉันตามไป" สมศรีตะโกน
ปึ๊กๆๆๆ
เสียงเคาะยังดังอยู่...
ใครนะ?
สมศรีคิด
หรือว่าจะเป็น
สมศักดิ์!
เพียงคิดได้เท่านี้เธอก็เริ่มขนลุก
ปั๊กๆ เสียงประตูไม้หนาโบราณทำให้เสียงเคาะที่กระทบฟังดูทมึงทึง...
"ลูกปลา กับน้ำหวานเหรอ ฉันบอกให้แกไปที่งานก่อนไง ไม่ต้องรอ" สมศรีตะโกน
ปึ๊กๆๆๆ
เสียงเคาะดังขึ้นกว่าเดิม
"ไม่ได้ยินที่บอกเหรอ เดี๋ยวฉันตามไป" สมศรีตะโกน
ปึ๊กๆๆๆ
เสียงเคาะยังดังอยู่...
ใครนะ?
สมศรีคิด
หรือว่าจะเป็น
สมศักดิ์!
เพียงคิดได้เท่านี้เธอก็เริ่มขนลุก

สมศรีพยายามรวบรวมความกล้า เธออยากรู้เหลือเกินว่าใครนะที่มาเคาะประตูอยู่แบบนี้
สมศีเปิดประตูออกไป
และไม่พบเสียงใด นอกจากความว่างเปล่าที่เคล้าสลัวกับแสงเทียนลาดไปตามโถงทางเดินยาว
สมศีเปิดประตูออกไป
และไม่พบเสียงใด นอกจากความว่างเปล่าที่เคล้าสลัวกับแสงเทียนลาดไปตามโถงทางเดินยาว

สมศรีหันซ้าย หันขวา ทางเดินยาวทั้งสองด้านต่างก็ไม่มีใครอยู่ นอกจากรูปปั้นที่ตั้งอยู่ภายใต้แสงและเงาอันสลัวจนดูเหมือนเป็นองครักษ์ประจำทางเดินที่เงียบงัน..
หายไปไหนนะ? เธอคิด
หายไปไหนนะ? เธอคิด

บุคคลลึกลับที่ย่องเข้ามาพยายามเบีบดบดกายตัวเองเข้าสู่เงามืด
เค้ายังไม่ต้องการให้สมศรีเห็นเค้า
เค้าพยายามซ่อนตัว ทำตัวลีบแบน... จนเผลอไปกระแทกแจกันดินเผาตกลงมาแตก
เพล้ง!
เค้ายังไม่ต้องการให้สมศรีเห็นเค้า
เค้าพยายามซ่อนตัว ทำตัวลีบแบน... จนเผลอไปกระแทกแจกันดินเผาตกลงมาแตก
เพล้ง!

สมศรีหันไปยังทิศทางของเสียงด้วยความตกใจ
"ใครน่ะ" เธอตะโกน
"ใครน่ะ" เธอตะโกน

แต่บุคลลึกลับรีบหนีไปก่อน เค้าเปิดประตูข้างๆแล้วค่อยๆย่องออกไป
ใช่แล้วเค้าคือหญิงลึกลับที่โพกผ้าสีแดงนั้นเอง
คนที่นำจดหมายฉบับนี้มาให้เธอ
-------
ขอตัวออกไปซื้ออาหารเช้ากินก่อนนะครับ เดี๋ยวมาต่อๆ ครึ่งเรื่องล่ะ
ใช่แล้วเค้าคือหญิงลึกลับที่โพกผ้าสีแดงนั้นเอง
คนที่นำจดหมายฉบับนี้มาให้เธอ
-------
ขอตัวออกไปซื้ออาหารเช้ากินก่อนนะครับ เดี๋ยวมาต่อๆ ครึ่งเรื่องล่ะ

ขอบคุณสำหรับหนังนะคะคุณหนึ่ง
ฉายตั้งแต่สี่ทุ่ม ได้นอนหรือยังคะ
ฉายตั้งแต่สี่ทุ่ม ได้นอนหรือยังคะ
แก้ไขล่าสุด: 3/8/2554 10:40 โดย Poiily
รอดูต่อนะคร้าบ กำลังตื่นเต้นเลยยย
ชูป้ายไฟ

แก้ไขล่าสุด: 3/8/2554 11:14 โดย stynx
มาฉายต่อล่ะนะ...
สมศรีเก็บความสงสัยไว้ เธอกลับไปเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดสำหรับรับประทานอาหารมื้อเย็น ขณะที่กำลังจะเดินไปยังโถงทางเดิน สายลมที่เกรียวกราวก็พัดเข้ามา จนทำให้จดหมายที่เธอยังคงถือติดตัวไว้ปลิวออกไป
สมศรีเก็บความสงสัยไว้ เธอกลับไปเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดสำหรับรับประทานอาหารมื้อเย็น ขณะที่กำลังจะเดินไปยังโถงทางเดิน สายลมที่เกรียวกราวก็พัดเข้ามา จนทำให้จดหมายที่เธอยังคงถือติดตัวไว้ปลิวออกไป

สมศรีรีบเดินไปเก็บจดหมายที่ถูกพัดจนปลิวออกไป... บนโถงทางเดินที่มืดอมน้ำเงินสลัว

รอดูนะครับ
น้ำหนึ่งสู้ๆ
น้ำหนึ่งสู้ๆ
สมศรีเอาส้นสูงจิกกระดาษเอาไว้แล้วก้มตัวลงไปเก็บ จังหวะที่เธอเหงยหน้าขึ้นมานั้นเอง ก็ปรากฎร่างผู้ชายคนนึงมายืนขวางเธอไว้อย่างไม่ให้สุ้มให้เสียง
"ว๊ายยยย ผี" สมศรีกรีดร้อง
"ไม่ใช่ผี นี้พ่อเองลูก" หลวงพ่อกล่าว
"ตกใจหมดเลยค่ะพ่อขา" สมศรีเอามือลูบทรวงอกตัวเอง
"ว๊ายยยย ผี" สมศรีกรีดร้อง
"ไม่ใช่ผี นี้พ่อเองลูก" หลวงพ่อกล่าว
"ตกใจหมดเลยค่ะพ่อขา" สมศรีเอามือลูบทรวงอกตัวเอง

"พ่อพูดได้ไหมลูก" พ่อถาม
"ค่ะพ่อ มีไรค่ะ" สมศรีตอบ
"วันนี้ลูกดูแปลกๆนะ ลุกลี้ลุกลนผิดปกติ" หลวงพ่อทำหน้าสงสัย
"ไม่มีไรหรอกค่ะ ก็เป็นเจ้าสาวก็เหนื่อยแบบนี้แหละค่ะ ว่าแต่พ่อค่ะ พ่อพอจะเล่าให้ฟังได้ไหมค่ะว่าใครเอาจดหมายมาให้หนู" สมศรีได้โอกาสจึงถามกลับ
"ก็เป็นผู้หญิงตัวสูงๆ ผูกผ้าคลุมผมสีแดง เธอเดินมาถามพ่อว่าเป็นคนทำพิธีนี้ใช่ไหม แล้วก็ฝากจดหมายนี้มาให้ลูกนะ" หลวงพ่อกลอกตาไปมา ทำท่านึก
"แล้วเค้าพูดอะไรอีกรึเปล่าค่ะ" สมศรีซัก
"จำไม่ได้แล้วล่ะ ลูกก็รู้ว่าหูพ่อไม่ค่อยดี ว่าแต่ตอนนี้ลูกควรไปงานเลี้ยงนะ ทุกคนกำลังรออยู่เลย ไปไม่ทันเงาะกระป๋องมาลีหมดไม่รู้นะ" หลวงพ่อบอกพร้อมยักคิ้วให้
"ค่ะพ่อ มีไรค่ะ" สมศรีตอบ
"วันนี้ลูกดูแปลกๆนะ ลุกลี้ลุกลนผิดปกติ" หลวงพ่อทำหน้าสงสัย
"ไม่มีไรหรอกค่ะ ก็เป็นเจ้าสาวก็เหนื่อยแบบนี้แหละค่ะ ว่าแต่พ่อค่ะ พ่อพอจะเล่าให้ฟังได้ไหมค่ะว่าใครเอาจดหมายมาให้หนู" สมศรีได้โอกาสจึงถามกลับ
"ก็เป็นผู้หญิงตัวสูงๆ ผูกผ้าคลุมผมสีแดง เธอเดินมาถามพ่อว่าเป็นคนทำพิธีนี้ใช่ไหม แล้วก็ฝากจดหมายนี้มาให้ลูกนะ" หลวงพ่อกลอกตาไปมา ทำท่านึก
"แล้วเค้าพูดอะไรอีกรึเปล่าค่ะ" สมศรีซัก
"จำไม่ได้แล้วล่ะ ลูกก็รู้ว่าหูพ่อไม่ค่อยดี ว่าแต่ตอนนี้ลูกควรไปงานเลี้ยงนะ ทุกคนกำลังรออยู่เลย ไปไม่ทันเงาะกระป๋องมาลีหมดไม่รู้นะ" หลวงพ่อบอกพร้อมยักคิ้วให้

ระหว่างที่ทั้งสองคุยกันอยู่นั้น จู่ๆก็มีเสียงต๊อกๆของส้นสูงสีแดงเดินขึ้นบันไดไป
เป็นเสียงของหญิงผู้โพกผ้าคลุมหัวสีแดงนั้นเอง เธอยังอยู่ในนี้!
เป็นเสียงของหญิงผู้โพกผ้าคลุมหัวสีแดงนั้นเอง เธอยังอยู่ในนี้!

สมศรีรีบสะบัดหัวมองขึ้นไปด้านบนทันที
"พ่อได้ยินเสียงไหมค่ะ เสียงคนเดิน" สมศรีรู้สึกหวาดหวั่น มีบางสิ่งบางอย่างอยู่ใกล้ๆเธอ แต่เธอมองไม่เห็น และไม่อาจรู้ว่ามันอยู่ไหนกันแน่
"ไม่เห็นได้ยินเลยลูก ป่ะ อย่าไปสนใจเลย ไปงานเลี้ยงกันเถอะ" หลวงพ่อชวนขณะที่จุลินทรีย์ในท้องกำลังประท้วงหาข้าวผัดกุนเชียง และกะเพราะปลาลงท้อง
"พ่อได้ยินเสียงไหมค่ะ เสียงคนเดิน" สมศรีรู้สึกหวาดหวั่น มีบางสิ่งบางอย่างอยู่ใกล้ๆเธอ แต่เธอมองไม่เห็น และไม่อาจรู้ว่ามันอยู่ไหนกันแน่
"ไม่เห็นได้ยินเลยลูก ป่ะ อย่าไปสนใจเลย ไปงานเลี้ยงกันเถอะ" หลวงพ่อชวนขณะที่จุลินทรีย์ในท้องกำลังประท้วงหาข้าวผัดกุนเชียง และกะเพราะปลาลงท้อง

ทั้งสองเดินออกจากประตูโบสถ์ ลมในยามค่ำคืนพัดแรงเหลือเกิน เสียงอู้ฟู้ของมันแทบจะดังมวลกลบเสียงพูดคุยของทั้งสองคน
"รู้ไหมว่าการที่พ่อได้เห็นพวกเธอแต่งงานกัน มันทำให้พ่อมีความสุขนะ เพราะครั้งนึงพ่อเคยประกอบพิธีแต่งงานให้พ่อกับแม่ของสมศักดิ์มาก่อน แต่มันเกิดเรื่องไม่ดีขึ้น" หลวงพ่อพูด
"รู้ไหมว่าการที่พ่อได้เห็นพวกเธอแต่งงานกัน มันทำให้พ่อมีความสุขนะ เพราะครั้งนึงพ่อเคยประกอบพิธีแต่งงานให้พ่อกับแม่ของสมศักดิ์มาก่อน แต่มันเกิดเรื่องไม่ดีขึ้น" หลวงพ่อพูด

"หลวงพ่อชวนขณะที่จุลินทรีย์ในท้องกำลังประท้วงหาข้าวผัดกุนเชียง และกะเพราะปลาลงท้อง"
งานแต่งสมศรีกับสมศักดิ์เลี้ยงโต๊ะจีนใช่มั้ย ^^
งานแต่งสมศรีกับสมศักดิ์เลี้ยงโต๊ะจีนใช่มั้ย ^^
ปาดขวาๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
ปล. ดูด้วยนะเออ ^^
ปล. ดูด้วยนะเออ ^^
สมศรีตกใจ เคยเกิดเรื่องไม่ดีขึ้นกับพ่อและแม่ของสมศักดิ์ สามีของเธอด้วยเหรอ ทำไมสมศักดิ์ไม่เคยเล่าให้เธอฟังเลย
"เรื่องมันเป็นยังไงค่ะ" สมศรีถามหลวงพ่อ
"พ่อว่าให้สมศักดิ์เล่าเองจะดีกว่านะ" หลวงพ่อบอก
สมศรีงุนงง ชายคนรักของเธอมีอดีต มีความลับอะไรเกี่ยวกับพ่อแม่ของเค้าในพิธีแต่งงานกันแน่นะ หรือนั้นจะเป็นสาเหตุที่ทำให้เค้าไม่ค่อยใส่ใจในพิธีการ...
"เรื่องมันเป็นยังไงค่ะ" สมศรีถามหลวงพ่อ
"พ่อว่าให้สมศักดิ์เล่าเองจะดีกว่านะ" หลวงพ่อบอก
สมศรีงุนงง ชายคนรักของเธอมีอดีต มีความลับอะไรเกี่ยวกับพ่อแม่ของเค้าในพิธีแต่งงานกันแน่นะ หรือนั้นจะเป็นสาเหตุที่ทำให้เค้าไม่ค่อยใส่ใจในพิธีการ...

แล้วหลวงพ่อก็เดินนำไป...
สมศรีนึกขึ้นได้เรื่องคนเคาะประตู เธอตะโกนถามหลวงพ่อด้วยเสียงที่ดังแข่งกับเสียงลม
"หลวงพ่อมาเคาะประตูห้องหนูรึเปล่า"
"อะไรนะ" หลวงพ่อตะโกนกลับ
"หลวงพ่อมาเคาะประตูห้องหนูรึเปล่าค่าาาา" สมศรีตะโกนอีกรอบ
"อ่อ ถ้าลูกอยากแก้กรรมก็เอาหอยแขวนประตูนะลูกนะ" ว่าแล้วหลวงพ่อก็เดินจากไป
สมศรีนึกขึ้นได้เรื่องคนเคาะประตู เธอตะโกนถามหลวงพ่อด้วยเสียงที่ดังแข่งกับเสียงลม
"หลวงพ่อมาเคาะประตูห้องหนูรึเปล่า"
"อะไรนะ" หลวงพ่อตะโกนกลับ
"หลวงพ่อมาเคาะประตูห้องหนูรึเปล่าค่าาาา" สมศรีตะโกนอีกรอบ
"อ่อ ถ้าลูกอยากแก้กรรมก็เอาหอยแขวนประตูนะลูกนะ" ว่าแล้วหลวงพ่อก็เดินจากไป

หลังจากผละกับหลวงพ่อสมศรีก็เดินไปที่ศาลาริมสวนเพื่อหาของแดก
แต่เธอรู้สึกหวาดหวั่นราวกับมีคนแอบสะกดรอยตามเธออยู่เรื่อยๆ
แต่เธอรู้สึกหวาดหวั่นราวกับมีคนแอบสะกดรอยตามเธออยู่เรื่อยๆ

สมศักดิ์นั้นเอง เค้าแอบฟังสิ่งที่สมศรีคุยกับหลวงพ่ออยู่ตะกี้
สมศักดิ์ลัดลดไปตามเงามืดของพุ่มสุมไม้เพื่อเร้นกายตัวเองไม่ให้เจ้าสาวของเค้าเห็น...
สมศักดิ์ลัดลดไปตามเงามืดของพุ่มสุมไม้เพื่อเร้นกายตัวเองไม่ให้เจ้าสาวของเค้าเห็น...

ปาด...ป๊าดดดด
ติดตามชม
สมศรีเดินเข้าไปในศาลา เธอพบลุงแช่ม ลุงของสมศักดิ์นั่งแทะป๋อเปี๊ยะอยู่
"ไอ้แก่นี้ใส่ซองมาแค่ 20 บาท เสือกกินประหนึ่งจ่าบเช๊ค 2000 บาท" สมศรีคิดในใจ
"อ้าวว่าไง เธอมีอะไรเหรอ" ลุงแช่มถาม มีรากผักชีติดที่ฟันเค้า
"คือหนูอยากรู้เรื่องเกี่ยวกับพ่อแม่สมศักดิ์ค่ะ" สมศรีเครียด เธอต้องการทราบเบื้องลึกเบื้องหลังสามีเธอให้ได้
"ไอ้แก่นี้ใส่ซองมาแค่ 20 บาท เสือกกินประหนึ่งจ่าบเช๊ค 2000 บาท" สมศรีคิดในใจ
"อ้าวว่าไง เธอมีอะไรเหรอ" ลุงแช่มถาม มีรากผักชีติดที่ฟันเค้า
"คือหนูอยากรู้เรื่องเกี่ยวกับพ่อแม่สมศักดิ์ค่ะ" สมศรีเครียด เธอต้องการทราบเบื้องลึกเบื้องหลังสามีเธอให้ได้

แก้ไขล่าสุด: 3/8/2554 13:22 โดย AguileraAnimato
ลุงแช่มหัวเราะขณะที่รินไวน์ฟูลมูนเป็นรอบที่ 16
"เธอคงไม่ได้รู้สึกแย่ที่ผลีผลามแต่งงานลงไปหรอกนะ... เอาเถอะเรื่องพ่อแม่สมศักดิ์ เราไม่รู้ว่าเค้าไปไหน แต่เค้าหายสาปสูญไปเลย ตอนนั้นสมศักดิ์ยังเด็กมาก เค้าช๊อกไปเลย กลายเป็นเด็กที่มีพฤติกรรมแปลกๆ แต่ฉันยืนยันนะว่าตอนนี้เค้าเป็นปกติแล้ว... เป็นไปได้ก็ไม่ต้องไปถามเค้าเรื่องนี้หรอก เค้าไม่ชอบ" ลุงแช่มพูด
"เธอคงไม่ได้รู้สึกแย่ที่ผลีผลามแต่งงานลงไปหรอกนะ... เอาเถอะเรื่องพ่อแม่สมศักดิ์ เราไม่รู้ว่าเค้าไปไหน แต่เค้าหายสาปสูญไปเลย ตอนนั้นสมศักดิ์ยังเด็กมาก เค้าช๊อกไปเลย กลายเป็นเด็กที่มีพฤติกรรมแปลกๆ แต่ฉันยืนยันนะว่าตอนนี้เค้าเป็นปกติแล้ว... เป็นไปได้ก็ไม่ต้องไปถามเค้าเรื่องนี้หรอก เค้าไม่ชอบ" ลุงแช่มพูด

"เธอเองก็เสียพ่อแม่ไปเหมือนกันไม่ใช่เหรอ" ลุงแช่มถาม
"ใช่ค่ะ ทุกวันนี้หนูอยู่กับพี่ชาย" สมศรีตอบ
"ใช่ค่ะ ทุกวันนี้หนูอยู่กับพี่ชาย" สมศรีตอบ

ทันใดนั้นสมศักดิ์ก็เดินเข้ามา
"อ้าวคุยอะไรกันอยู่ครับ" สมศักดิ์ถาม
"ลุงคุณบอกฉันว่าคุณเป็นผู้ชายที่ดีมากๆเลยค่ะ" สมหญิงรีบแก้ตัว
สมชายมองหน้าแบบทีเล่นทีจริงกับหญิงสาว
"อ่อเหรอ ผมนึกว่าลุงจะเล่าเ้รื่องไม่เป็นเรื่องให้คุณฟังเสียอีก เวลาเมาแกชอบทำตัวไร้สาระ" สมศักดิ์หันไปมองลุงแช่มแบบดุๆ แฝงเลศนัย
"ที่รัก มีคนเรียกเราสองคนไปหา ขอตัวนะลุง" สมศักดิ์พูดแล้วโอบเอวสมศรีเดินออกไป
"อ้าวคุยอะไรกันอยู่ครับ" สมศักดิ์ถาม
"ลุงคุณบอกฉันว่าคุณเป็นผู้ชายที่ดีมากๆเลยค่ะ" สมหญิงรีบแก้ตัว
สมชายมองหน้าแบบทีเล่นทีจริงกับหญิงสาว
"อ่อเหรอ ผมนึกว่าลุงจะเล่าเ้รื่องไม่เป็นเรื่องให้คุณฟังเสียอีก เวลาเมาแกชอบทำตัวไร้สาระ" สมศักดิ์หันไปมองลุงแช่มแบบดุๆ แฝงเลศนัย
"ที่รัก มีคนเรียกเราสองคนไปหา ขอตัวนะลุง" สมศักดิ์พูดแล้วโอบเอวสมศรีเดินออกไป

แก้ไขล่าสุด: 3/8/2554 13:33 โดย AguileraAnimato
สมศักดิ์จูงมือสมศรีเดินลัดบนสนามที่ปราศจากแสงไฟแจ่มแจ้ง
"ผมขออะไรคุณอย่างนึงได้ไหม" เค้าบีบมือเธอแน่น
"อะไรค่ะ" สมศรีถามแบบกลัวๆ
"คุณช่วยทำตัวให้มีความสุขหน่อยได้ไหม ผมไม่เข้าใจว่ามันเกิดอะไรขึ้น แต่คุณดูแปลกไป แล้วเพื่อนคุณสองคนก็ยังมองผมแปลกๆอีก"
"ผมขออะไรคุณอย่างนึงได้ไหม" เค้าบีบมือเธอแน่น
"อะไรค่ะ" สมศรีถามแบบกลัวๆ
"คุณช่วยทำตัวให้มีความสุขหน่อยได้ไหม ผมไม่เข้าใจว่ามันเกิดอะไรขึ้น แต่คุณดูแปลกไป แล้วเพื่อนคุณสองคนก็ยังมองผมแปลกๆอีก"

"ทำไมเหรอ เพื่อนฉันบอกอะไรคุณ" สมศรียิ่งสงสัยหนัก... เธอกลัวว่าเพื่อนอาจจะหวังดีมากเิกินไปจนนำภันใส่ตัว...
"เปล่า" สมศักดิ์ตอบ
"เปล่า" สมศักดิ์ตอบ

สมศรีปลีกวิเวกมาโทรศัพท์บริเวณทางเดินที่เงียบสงบ
เธอกดโทรศัพท์กลับไปยังห้องตัวเองที่อาศัยอยู่กับพี่ชาย
เสียงเครื่องบันทึกดังขึ้น แสดงให้รู้ว่าไม่มีคนรับโทรศัพท์
"ฮัลโหล พี่เหรอจ้ะ นิฉันสมศรีเองนะพี่ ฉันรู้ว่ามันดูโง่ที่มาพูดเอาตอนนี้ แต่ฉันว่า ฉันคงตัดสินใจผิด ผลีผลามเร็วเกินไป ฉันอนากกลับบ้านเหลือเกิน มันน่ากลัวมาก" สมศรีร้องไห้ น้ำตาแห่งความหวาดระแวงรินไหล
เธอกดโทรศัพท์กลับไปยังห้องตัวเองที่อาศัยอยู่กับพี่ชาย
เสียงเครื่องบันทึกดังขึ้น แสดงให้รู้ว่าไม่มีคนรับโทรศัพท์
"ฮัลโหล พี่เหรอจ้ะ นิฉันสมศรีเองนะพี่ ฉันรู้ว่ามันดูโง่ที่มาพูดเอาตอนนี้ แต่ฉันว่า ฉันคงตัดสินใจผิด ผลีผลามเร็วเกินไป ฉันอนากกลับบ้านเหลือเกิน มันน่ากลัวมาก" สมศรีร้องไห้ น้ำตาแห่งความหวาดระแวงรินไหล

เมื่อเธอวางโทรศัพท์ลง เธอก็พบลูกปลา และน้ำหวานมายืนอยู่ข้างหลัง
"ฉันได้ยินที่แกคุยในโทรศัพท์แล้ว ฉันจะต้องไปบอกสมศักดิ์สักทีว่าฉันคิดยังไงกับเค้า และเค้าทำอะไรให้เพื่อนฉันต้องเป็นแบบนี้" ลูกปลาพูดด้วยความดกรธ แล้วเดินปั้นปึงออกไป
"ฉันได้ยินที่แกคุยในโทรศัพท์แล้ว ฉันจะต้องไปบอกสมศักดิ์สักทีว่าฉันคิดยังไงกับเค้า และเค้าทำอะไรให้เพื่อนฉันต้องเป็นแบบนี้" ลูกปลาพูดด้วยความดกรธ แล้วเดินปั้นปึงออกไป

สู้ตายนะคะ อยากเอาตัวไปถวายเจ้าของกระทู้จัง โฮ๊ะๆๆ
มารอดูด้วยค่ะ ให้กำลังใจคุณ AguileraAnimato อิอิ
ลูกปลาเดินเร็วไปหาสมศักดิ์ี่ศาลาริมสวน
"นายทำอะไรให้เพื่อนฉันเสียใจฮ่ะ" ลูกปลาขึ้นเสียง
"เพื่อนฉันไม่มีความสุขเลย นายปิดบังอะไรกันแน่" ลูกปลาถามต่อ
"อะไรของคุณ ผมยังไม่ทันทำไรเลย สมศรีก็ดูสติแตกไปแล้ว" สมศักดิ์ตอบคำถามอย่างงงๆ จริงๆเค้าก็อยากรู้เหมือนกันว่าภรรยาเค้าเป็นอะไรกันแน่
"ก็มีคนส่งจดหมายมาให้เพื่อนฉันไง พอเปิดอ่าน เธอก็จิตตกจนตอนนี้" ลูกปลาเผย
"นายทำอะไรให้เพื่อนฉันเสียใจฮ่ะ" ลูกปลาขึ้นเสียง
"เพื่อนฉันไม่มีความสุขเลย นายปิดบังอะไรกันแน่" ลูกปลาถามต่อ
"อะไรของคุณ ผมยังไม่ทันทำไรเลย สมศรีก็ดูสติแตกไปแล้ว" สมศักดิ์ตอบคำถามอย่างงงๆ จริงๆเค้าก็อยากรู้เหมือนกันว่าภรรยาเค้าเป็นอะไรกันแน่
"ก็มีคนส่งจดหมายมาให้เพื่อนฉันไง พอเปิดอ่าน เธอก็จิตตกจนตอนนี้" ลูกปลาเผย

เมื่อกี้แอบงีบหลับไปสักครู่แล้วครับ แหะๆๆๆ ใกล้จบล่ะ...
------------------------
สมศรีเดินเข้ามาพอดี
"ลูกปลาแกหยุดได้แล้ว ขอฉันคุยกับเค้าสองคนได้ไหม" สมศรีร้อง
ลูกปลาหันหลังกลับไป เหลือเพียงแค่คู่รักที่หัวใจสั่นคลอน
"ไหนคุณบอกว่าไม่มีอะไรไง แล้วจดหมายนั้นคืออะไร บอกผมมาสิ มันเขียนว่าไง" สมศักดิ์เริ่มหมดความอดทน เค้าตะคอกเธอ
------------------------
สมศรีเดินเข้ามาพอดี
"ลูกปลาแกหยุดได้แล้ว ขอฉันคุยกับเค้าสองคนได้ไหม" สมศรีร้อง
ลูกปลาหันหลังกลับไป เหลือเพียงแค่คู่รักที่หัวใจสั่นคลอน
"ไหนคุณบอกว่าไม่มีอะไรไง แล้วจดหมายนั้นคืออะไร บอกผมมาสิ มันเขียนว่าไง" สมศักดิ์เริ่มหมดความอดทน เค้าตะคอกเธอ

"ผมจะบอกให้นะ คนเราหากคิดจะแต่งงานกัน เราต้องเชื่อใจกัน คุณจะไปฟังคำคนทุกคนแล้วเอามาเชื่อหมดไม่ได้หรอก" สมศักดิ์เริ่มอ้างหาเหตุผล

"ฉันกลัวคุณ" สมศรีร้องไห้ เธอไม่คิดเลยว่า การแต่งงานอย่างกะทันหันจะนำมาสู่เรื่องวุ่นวายแบบนี้

สมศักดิ์วีนสุดขีดเมื่อได้ยินคำพูดเช่นนั้นจากปากหญิงสาวที่เค้ารัก
"คุณได้ยินไหม" เค้าเดินไปที่กลุ่มแขกเหรื่อในงาน โดยเฉพาะตรงจุดที่ลูกปลา และน้ำหวานนั่งอยู่
"เมียผมบอกว่า ผมทำให้เธอกลัว... ทุเรศสิ้นดี ถ้าไม่ใช่เพราะยัยเพื่อนจอมสอดสาระแนมาคอยปั่นหัวล่ะก็ เธอต้องไม่มีวันเป็นแบบนี้แน่ อีพวกนี้มันขี้อิจฉาไม่อยากเห็นคนเค้ามีความสุข" สมศักดิ์ตะคอกใส่
"คุณได้ยินไหม" เค้าเดินไปที่กลุ่มแขกเหรื่อในงาน โดยเฉพาะตรงจุดที่ลูกปลา และน้ำหวานนั่งอยู่
"เมียผมบอกว่า ผมทำให้เธอกลัว... ทุเรศสิ้นดี ถ้าไม่ใช่เพราะยัยเพื่อนจอมสอดสาระแนมาคอยปั่นหัวล่ะก็ เธอต้องไม่มีวันเป็นแบบนี้แน่ อีพวกนี้มันขี้อิจฉาไม่อยากเห็นคนเค้ามีความสุข" สมศักดิ์ตะคอกใส่

สมศรีเห็นท่าไม่ดีเลยเดินไปบอกสมศักดิ์
"โอเค ฉันยอมล่ะ เราต้องคุยกัน ตรงๆแฟรงค์ๆ คุณกับฉัน" สมศรีตัดสินใจแล้ว เป็นไงเป็นกัน ไม่ว่าเนื้อความในจดหมายนั้นจะจริงหรือไม่!
"โอเค ฉันยอมล่ะ เราต้องคุยกัน ตรงๆแฟรงค์ๆ คุณกับฉัน" สมศรีตัดสินใจแล้ว เป็นไงเป็นกัน ไม่ว่าเนื้อความในจดหมายนั้นจะจริงหรือไม่!

สมศักดิ์เดินเข้าไปในโบสถ์
สมศรีเดินตามไป แต่สมศักดิ์ไวเหลือเกิน เธอตามเค้าไม่ทันแล้ว เห็นเพียงแต่หลังแว่บๆเท่านั้น...
สมศรีเปิดประตูเข้าไปในโบสถ์ บรรยากาศที่ชวนฝัน โรแมนติกเมื่อช่วงเย็น กลับดูวิเวกวังเวงและชวนขนลุกในยามค่ำที่ไม่มีใครนอกจากตัวเธอ
คนเดียวรึเปล่า
สมศรีเดินตามไป แต่สมศักดิ์ไวเหลือเกิน เธอตามเค้าไม่ทันแล้ว เห็นเพียงแต่หลังแว่บๆเท่านั้น...
สมศรีเปิดประตูเข้าไปในโบสถ์ บรรยากาศที่ชวนฝัน โรแมนติกเมื่อช่วงเย็น กลับดูวิเวกวังเวงและชวนขนลุกในยามค่ำที่ไม่มีใครนอกจากตัวเธอ
คนเดียวรึเปล่า

สมศรีเดินสำรวจไปรอบๆ จนในที่สุดเธอก็เดินไปตามทาง aisle ของโบสถ์...
เธอเห็นเงาตะคุ่มๆอยู่ตรงแถวที่นั่งด้านขวา
"สมศักดิ์คุณใช่ไหม"สมศรีถาม พยายามสะกดกลั้นความกลัวของเธอไว้ที่ใต้ลิ้น
เธอเห็นเงาตะคุ่มๆอยู่ตรงแถวที่นั่งด้านขวา
"สมศักดิ์คุณใช่ไหม"สมศรีถาม พยายามสะกดกลั้นความกลัวของเธอไว้ที่ใต้ลิ้น

"วันนี้มันควรจะเป็นวันที่เราจะมีความสุขด้วยกันไม่ใช่เหรอ" สมศักดิ์พูด แต่ไม่เงยหน้าขึ้นมา...
"ฉันไม่รู้หรอกนะว่าลูกปลากับน้ำหวานพูดอะไรกับคุณ" สมศรีบอกเรียบๆแต่น้ำเสียงสั่นด้วยความกลัว
"ก็พวกเค้าบอกว่าคุณไปรู้มาว่าผมเคยทำอะไรไม่ดีเอาไว้นะสิ..." สมศักดิ์ตอบอย่างเยือกเย็น
"ฉันไม่รู้หรอกนะว่าลูกปลากับน้ำหวานพูดอะไรกับคุณ" สมศรีบอกเรียบๆแต่น้ำเสียงสั่นด้วยความกลัว
"ก็พวกเค้าบอกว่าคุณไปรู้มาว่าผมเคยทำอะไรไม่ดีเอาไว้นะสิ..." สมศักดิ์ตอบอย่างเยือกเย็น

"แล้วคุณมีอะไรจะเล่าให้ฉันฟังไหมล่ะ" สมศรีถามกลับ พยายามทำใจดีสู้เสือสมิง

สมศักดิ์เงยหน้าขึ้นมองสมศรี
หึหึหึหึหึหึ
หึหึหึหึหึหึ

สมศักดิ์ค่อยๆลุกขึ้นยืน มือของเค้ายึดพนักเก้าอี้ มือที่สวมถุงมือหนังสีดำไว้.....

"คุณกลัวผมเหรอ..." สมศักดิ์ถาม พร้อมเดินเข้าไปใกล้สมศรี
"ปะ เปล่านะ" สมศรีพูดปากคอสั่น แต่ค่อยๆขยับไปข้างหลัง พยายามมองหาทางหนี หนทางที่จะวิ่งไป...
แต่จะไปทางไหนดี?
"ปะ เปล่านะ" สมศรีพูดปากคอสั่น แต่ค่อยๆขยับไปข้างหลัง พยายามมองหาทางหนี หนทางที่จะวิ่งไป...
แต่จะไปทางไหนดี?

"ฉันไม่เชื่อเรื่องในจดหมายหรอก มันก็แค่เรื่องไร้สาระ" สมศรีบอก เธอเหลือกตาไปมา....

ติดตามๆ
สมศรีพิสูจน์ให้เห็นว่าเธอไม่เชื่อข้อความในจดหมาย ด้วยการวิ่งหนีไม่คิดชีวิต
ไปที่ประตูหลังซุ้มพิธีโบสถ์.... แต่ว่าประตูมันล๊อค!
ไปที่ประตูหลังซุ้มพิธีโบสถ์.... แต่ว่าประตูมันล๊อค!

"ถ้าไม่กลัวผม แล้วคุณจะวิ่งหนีทำไมล่ะ" สมศักดิ์ถามเสียงดุ

สมศรีพยายามวิ่งหนีไปอีกประตูนึง แต่ก็ถูกสมศักดิ์วิ่งเข้ามาขัดไว้....

ชายหนุ่มยืนข้างประตูอย่างผู้มีชัย...
สาวน้อยถอยไปตั้งหลักอย่างผู้แพ้....
แต่ไม่ เธอต้องทำอะไรสักอย่าง
สาวน้อยถอยไปตั้งหลักอย่างผู้แพ้....
แต่ไม่ เธอต้องทำอะไรสักอย่าง

สมศรีหยิบเชิงเทียนขึ้นมาเป็นอาวุธ ด้ามยาวแบบนี้ จับถนัดมือ...
ตุ๊กแก๊ --- ตุ๊กแก๊---
เสียงตุ๊กแกดังขึ้นด้านหลัง สมศรีหันไปดู
ตุ๊กแก๊ --- ตุ๊กแก๊---
เสียงตุ๊กแกดังขึ้นด้านหลัง สมศรีหันไปดู

แต่เมื่อหันกลับมา เพียงแป๊บเดียว สมศักดิ์ก็หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย ดุจผี

สมศรีตกใจกลัว ฆาตกรต่อเนื่องอาจโผล่มาฆ่าเธอได้ทุกเมื่อ มันอยู่ที่ไหน?
เธอถือเชิงเทียน เอาปลายแหลมชี้ออกด้านนอก หมายจะใช้เป็นอาวุธเสียบปีศาจร้ายในคราบชายหนุ่ม...
แต่มือของเธอสั่นเหลือเกิน เธอควรทำอย่างไรดี
เธอถือเชิงเทียน เอาปลายแหลมชี้ออกด้านนอก หมายจะใช้เป็นอาวุธเสียบปีศาจร้ายในคราบชายหนุ่ม...
แต่มือของเธอสั่นเหลือเกิน เธอควรทำอย่างไรดี

ตามขนบสาวสวยในหนังสยองขวัญ ให้หนีก็ไม่หนี แต่ชอบนักล่ะ กับการเข้าไปหลบซ่อนในตู้...
ว่าแล้วสมศรีก็เปิดตู้สารภาพบาป แล้วเข้าไปหลบอยู่ข้างใน
ว่าแล้วสมศรีก็เปิดตู้สารภาพบาป แล้วเข้าไปหลบอยู่ข้างใน

สาวน้อยตัวสั่นเหมือนลูกนกที่พยายามหลบซ่อนจากอสรพิษร้ายที่ซุ่มจะฉก....
มีฆาตกรอยู่ข้างนอก...
มีฆาตกรอยู่ข้างนอก...

ปึ๊งๆๆๆ
เสียงทุบประตูตู้สารภาพดังขึ้น
เงามรณะเข้าทาบบริเวณช่องไม้รอยแกะสลัก ราวกับเงาจันทคราสที่เข้าบดบังดวงอาทิตย์....
มันรอเธออยู่ที่หน้าประตูแล้ว
"เปิดประตูสิที่รัก เรามีเรื่องต้องคุยกัน"
สมศรีหวาดกลัว ใครจะโง่เปิดให้ฆาตกรออกมาฆ่าเล่า
เธอตัวสั่นด้วยความกลัว สัมผัสถึงฟันที่กัดกระทบกันหงึกๆไม่ยอมหยุด
มันทุบประตูดังขึ้นด้วยความโมโห
"บอกให้เปิดยังไงล่ะ"
เสียงทุบประตูตู้สารภาพดังขึ้น
เงามรณะเข้าทาบบริเวณช่องไม้รอยแกะสลัก ราวกับเงาจันทคราสที่เข้าบดบังดวงอาทิตย์....
มันรอเธออยู่ที่หน้าประตูแล้ว
"เปิดประตูสิที่รัก เรามีเรื่องต้องคุยกัน"
สมศรีหวาดกลัว ใครจะโง่เปิดให้ฆาตกรออกมาฆ่าเล่า
เธอตัวสั่นด้วยความกลัว สัมผัสถึงฟันที่กัดกระทบกันหงึกๆไม่ยอมหยุด
มันทุบประตูดังขึ้นด้วยความโมโห
"บอกให้เปิดยังไงล่ะ"

แก้ไขล่าสุด: 3/8/2554 16:53 โดย AguileraAnimato
เมื่อเธอไม่เปิด ผลสุดท้าย สมศักดิ์เลยเข้าไปนั่งตู้ข้างๆ...
สมศรีกรี๊ดลั่นเมื่อบัดนี้ฆาตกรอยู่ห่างเพียงแค่ 1 ผนังกั้นเท่านั้น
สมศักดิ์เปิดหน้าต่างที่เชื่อมต่อทั้งสองตู้ เพื่อที่เค้าจะได้พูดบางอย่างกับเธอ...
สมศรีกรี๊ดลั่นเมื่อบัดนี้ฆาตกรอยู่ห่างเพียงแค่ 1 ผนังกั้นเท่านั้น
สมศักดิ์เปิดหน้าต่างที่เชื่อมต่อทั้งสองตู้ เพื่อที่เค้าจะได้พูดบางอย่างกับเธอ...

สมศรีพยายามจะหนี แต่เธอไม่สามารถเปิดประตูได้ เพราะสมศักดิ์เอาเก้าอี้มาขัดไว้แล้ว
ตอนนี้เธอต้องนั่งเพื่อฟังเค้า
ตอนนี้เธอต้องนั่งเพื่อฟังเค้า

"เอาล่ะไหนๆก็ไหนๆ มันคงถึงเวลาที่ผมต้องสารภาพความจริงกับคุณสักที ผมไม่รู้ว่าในกระดาษนั้นเขียนว่าอะไร แต่ผมคิดว่าคงการตามตื้อจองล้างจองผลาญของผู้หญิงคนนึง" สมศักดิ์เริ่มต้นเล่าเรื่อง...
"คุณจำตอนคุณไปออกค่ายอาสาที่้เชียงรายได้ไหม ตอนนั้นผมไม่ได้ไป อยู่กทม. แล้ววันนึงผมไปเจอสาวคนนึงที่บาร์ เธอน่ารักมาก แต่ผมก็ไม่ได้มีอะไรเกินเลยกับเธอนอกจากไปเดินซื้อของหน้าราม..."
"แต่เธอไม่ยอม เธอเรียกร้องจะเอาผม แม้ผมจะตีตัวจาก เธอก็ยังตามตื้อ หาเบอร์ฌทรผม เบอร์บ้าน เบอร์ที่ทำงาน... และผมเข้าใจว่าวันนี้เธอคงเขียนอะไรมดเท็จลงไปในจดหมายให้คุณ... ผมอยากบอกคุณว่า ผมไม่เคยมีอะไรเกินเลยจากนี้เลย ผมรักคุณนะสมศรี" สมศักดิ์สารภาพหมดเปลือก
"คุณจำตอนคุณไปออกค่ายอาสาที่้เชียงรายได้ไหม ตอนนั้นผมไม่ได้ไป อยู่กทม. แล้ววันนึงผมไปเจอสาวคนนึงที่บาร์ เธอน่ารักมาก แต่ผมก็ไม่ได้มีอะไรเกินเลยกับเธอนอกจากไปเดินซื้อของหน้าราม..."
"แต่เธอไม่ยอม เธอเรียกร้องจะเอาผม แม้ผมจะตีตัวจาก เธอก็ยังตามตื้อ หาเบอร์ฌทรผม เบอร์บ้าน เบอร์ที่ทำงาน... และผมเข้าใจว่าวันนี้เธอคงเขียนอะไรมดเท็จลงไปในจดหมายให้คุณ... ผมอยากบอกคุณว่า ผมไม่เคยมีอะไรเกินเลยจากนี้เลย ผมรักคุณนะสมศรี" สมศักดิ์สารภาพหมดเปลือก

สมศรีถอนหายใจ
"อะไรกันนี้ นี้หรอกเหรอความลับของเค้า"
"ผมแค่อยากบอกให้คุณรู้ว่าผมไม่ได้นอกใจคุณเลย" สมศักดิ์ย้ำ
"อะไรกันนี้ นี้หรอกเหรอความลับของเค้า"
"ผมแค่อยากบอกให้คุณรู้ว่าผมไม่ได้นอกใจคุณเลย" สมศักดิ์ย้ำ

แก้ไขล่าสุด: 3/8/2554 17:16 โดย AguileraAnimato
รู้สึกว่าจะใกล้จบแล้ว
และอีกฟากนึงของเมือง....
ในห้องๆนึงที่บรรจุศพดองเอาไว้มากมาย ชิ้นส่วนหัวของมนุษย์เพศชาย....
ในห้องๆนึงที่บรรจุศพดองเอาไว้มากมาย ชิ้นส่วนหัวของมนุษย์เพศชาย....

นี้คือห้องของสาวผ้าคลุมผมสีแดงนั้นเอง...

แก้ไขล่าสุด: 3/8/2554 17:23 โดย AguileraAnimato
เธอเดินสำรวจห้องเพื่อหาใครบางคน แต่ดูเหมือนกับว่าเค้าคนนั้นจะยังไม่กลับบ้าน...
วขณะที่กวาดสายตาอยู่นั้นเอง เธอก็เห็นสัญญาฯแจ้งเตือนว่ามีมิสคอสบันทึกเทปไว้ที่โทรศัพท์....
ว่าแล้วเธอก็กดปุ่มเล่น
วขณะที่กวาดสายตาอยู่นั้นเอง เธอก็เห็นสัญญาฯแจ้งเตือนว่ามีมิสคอสบันทึกเทปไว้ที่โทรศัพท์....
ว่าแล้วเธอก็กดปุ่มเล่น

เสียงจากปลายสายดังขึ้น
"ฮัลโหล พี่เหรอจ้ะ นิฉันสมศรีเองนะพี่ ฉันรู้ว่ามันดูโง่ที่มาพูดเอาตอนนี้ แต่ฉันว่า ฉันคงตัดสินใจผิด ผลีผลามเร็วเกินไป ฉันอนากกลับบ้านเหลือเกิน มันน่ากลัวมาก"
"ฮัลโหล พี่เหรอจ้ะ นิฉันสมศรีเองนะพี่ ฉันรู้ว่ามันดูโง่ที่มาพูดเอาตอนนี้ แต่ฉันว่า ฉันคงตัดสินใจผิด ผลีผลามเร็วเกินไป ฉันอนากกลับบ้านเหลือเกิน มันน่ากลัวมาก"

ใช่แล้ว นี้คือปลายทางที่สมศรีโทรกลับ....
นี้คือห้องของสาวผ้าคลุมผมสีแดง ที่เธอไม่รู้เลยด้วยซ้ำว่าเค้าเป็นคนใกล้ตัว
คนที่เธออาศัยห้องแบ่งปันกันและกันมาตั้งแต่เด็กจนเติบโต
นี้คือห้องของสาวผ้าคลุมผมสีแดง ที่เธอไม่รู้เลยด้วยซ้ำว่าเค้าเป็นคนใกล้ตัว
คนที่เธออาศัยห้องแบ่งปันกันและกันมาตั้งแต่เด็กจนเติบโต

พี่ชายของเธอ สมบูรณ์ ตะโกนเรียกหาน้องสาว
เค้าเชื่อว่าจดหมายนั้นจะทำให้งานแต่งงานต้องยกเลิก...
"ในที่สุดเธอก็กลับมาแล้วใช่ไหม สมศรี"
เค้าเชื่อว่าจดหมายนั้นจะทำให้งานแต่งงานต้องยกเลิก...
"ในที่สุดเธอก็กลับมาแล้วใช่ไหม สมศรี"

สมศรียังคงนั่งอยู่ในตู้สารภาพบาป... เธอเริ่มคลายใจลงแล้ว
"ผมเล่าให้คุณฟังทุกอย่างแล้ว ผมพูดความจริง แล้วคุณล่ะ คุณจะลืมเรื่องจดหมายนั้นได้รึยัง" สมศักดิ์ถาม
"ผมเล่าให้คุณฟังทุกอย่างแล้ว ผมพูดความจริง แล้วคุณล่ะ คุณจะลืมเรื่องจดหมายนั้นได้รึยัง" สมศักดิ์ถาม

เธอมองกระดาษนั้นอีกครั้ง...
แล้วจึงค่อยๆพูดอย่างช้าๆ
"ที่รัก ฉันคิดว่ามันมีปัญหานิดหน่อยกับจดหมายฉบับนี้" สมศรีเข้าใจทุกอย่างแล้ว...
"คุณยังไม่เชื่อผมอีกเหรอ" สมศักดิ์ถาม
"เปล่าๆ นี้ไม่ได้พูดถึงเรื่องกิ๊กคุณหรอก..." สมศรีบอก
แล้วจึงค่อยๆพูดอย่างช้าๆ
"ที่รัก ฉันคิดว่ามันมีปัญหานิดหน่อยกับจดหมายฉบับนี้" สมศรีเข้าใจทุกอย่างแล้ว...
"คุณยังไม่เชื่อผมอีกเหรอ" สมศักดิ์ถาม
"เปล่าๆ นี้ไม่ได้พูดถึงเรื่องกิ๊กคุณหรอก..." สมศรีบอก

"คุณรู้ใช่ไหมค่ะว่าบาทหลวงนะหูไม่ค่อยดี... ท่านเลยได้ยินไม่ค่อยชัด... ลูกปลาก็เลยเอาจดหมายฉบับนี้มาส่งผิดคน" สมศรีค่อยๆเฉลย
"บาทหลวงบอกว่าให้ฝากมาให้ สมศรี แต่จริงๆท่านได้ยินไม่ชัด เพราะชื่อเจ้าของจดหมายตัวจริงเค้าชื่อคล้ายๆกับฉัน... "
"คุณต่างหากคือเจ้าของจดหมายตัวจริง" สมศรียิ้ม
"ไม่เอาน่า ผมไม่สนหรอกว่ามันจะพูดอะไร เอาไว้คุณอยากให้ผมดูตอนไหนก็ค่อยให้ผมดูแล้วกัน ตอนนี้เราปรับความเข้าใจกันแล้วนะ" สมศักดิ์พูด
"ค่ะ" สมหญิงยิ้มด้วยสีหน้าแบบที่สมศักดิ์จะต้องจดจำไปตลอดไม่ว่ายามสุขหรือทุกข์....
จบ
"บาทหลวงบอกว่าให้ฝากมาให้ สมศรี แต่จริงๆท่านได้ยินไม่ชัด เพราะชื่อเจ้าของจดหมายตัวจริงเค้าชื่อคล้ายๆกับฉัน... "
"คุณต่างหากคือเจ้าของจดหมายตัวจริง" สมศรียิ้ม
"ไม่เอาน่า ผมไม่สนหรอกว่ามันจะพูดอะไร เอาไว้คุณอยากให้ผมดูตอนไหนก็ค่อยให้ผมดูแล้วกัน ตอนนี้เราปรับความเข้าใจกันแล้วนะ" สมศักดิ์พูด
"ค่ะ" สมหญิงยิ้มด้วยสีหน้าแบบที่สมศักดิ์จะต้องจดจำไปตลอดไม่ว่ายามสุขหรือทุกข์....
จบ

จบแล้วๆๆๆ เหนื่อยจัง ขนาดหนังสั้นๆนะ
ดูแล้วเชิญมาถกกันได้เลย งานนี้เราขอเปลี่ยนบรรยากาศจากหนังโหด หนังเสื่อม มาเป็นหนังระทึกลูกล่อลูกชนหักมุมกันบ้าง หวังว่าคงชอบบ้างไม่มากก็น้อย^^
ดูแล้วเชิญมาถกกันได้เลย งานนี้เราขอเปลี่ยนบรรยากาศจากหนังโหด หนังเสื่อม มาเป็นหนังระทึกลูกล่อลูกชนหักมุมกันบ้าง หวังว่าคงชอบบ้างไม่มากก็น้อย^^
ขอบคุณมากค่ะ หนังมันส์จริงๆ เอาไป 5 กะโหลก
หง่ะ หักมุมหัวทิ่มเลย
ขอบใจจาน้องหนึ่ง
ขอบใจจาน้องหนึ่ง
ไอเดียเข้าท่าแฮะ
หักมุมหลังหักเลย
ขอบใจน้ำหนึ่ง หนังดูระทึกดีน่ะ มีลุ้นว่าอะไรจะเป็นยัง ในที่สุดก็หักมุม
ฮือ งง ชื่อมันเหมือนกันอ่ะ
กะไว้แร้วเชียวว่าต้องเป็นแบบนี้
ถ้าเอารูปภาพออก เหมือนอ่านเรื่องสั้นเรื่องนึงเลย การใช้คำ การบรรยาย การเรียบเรียงประโยค อ่านได้ลื่นปรื๊ด ลื่นปรื๊ด ....
เยี่ยมมากๆ เลยค่ะ ^^
เยี่ยมมากๆ เลยค่ะ ^^
แก้ไขล่าสุด: 3/8/2554 20:21 โดย stynx
อยากดูเป็นหนังอ่ะ
ขอบคุณที่เอามาให้ชมจ้า
ขอบคุณที่เอามาให้ชมจ้า
ดูจบแล้วยังงงๆ
ใครช่วยอธิบายอีกที ให้ฟังหน่อยดิ
ใคร อะไร อย่างไร ทำไม
ใครช่วยอธิบายอีกที ให้ฟังหน่อยดิ
ใคร อะไร อย่างไร ทำไม
จดหมายที่ว่า"คนที่คุณกำลังจะแต่งงานด้วยเป็นฆาตกรต่อเนือง" คนส่งต้องการส่งหาสมศักดิ์ค่ะ ไม่ใช่สมศรี
เค้าต้องการเตือนตาสมศักดิ์ว่าคนที่ตาสมศักดิ์กำลังจะแต่งงานด้วยนั้นเป็นฆาตกรต่อเนือง ซึ่งก็คือคุณสมศรีนั่นเอง
ชอบซีรีย์นี้ม๊ากกกกกกกกกกก เสียดายไม่มีต่อว่าแต่อีกห้าตอนที่ขาดไปหาโหลดได้ที่ไหนคะพอทราบมั้ยเอ่ย ขอบคุณล่วงหน้าเลยค่ะ
เค้าต้องการเตือนตาสมศักดิ์ว่าคนที่ตาสมศักดิ์กำลังจะแต่งงานด้วยนั้นเป็นฆาตกรต่อเนือง ซึ่งก็คือคุณสมศรีนั่นเอง
ชอบซีรีย์นี้ม๊ากกกกกกกกกกก เสียดายไม่มีต่อว่าแต่อีกห้าตอนที่ขาดไปหาโหลดได้ที่ไหนคะพอทราบมั้ยเอ่ย ขอบคุณล่วงหน้าเลยค่ะ
แก้ไขล่าสุด: 3/8/2554 22:13 โดย kubkew
ผมโหลดจากในบิทอ่ะครับ มันมีให้โหลดแบบทั้งแยกตอน และก็รวมทุกตอนเลยครับ
คุณ kubkew ลองเซิจไปเลย fear itself
แต่ไม่มีซับให้นะ ต้องไปหากันเอง (นั้นเป็นสาเหตุนึงที่ทำให้เราไม่ได้ดูต่อ555+)
คุณ kubkew ลองเซิจไปเลย fear itself
แต่ไม่มีซับให้นะ ต้องไปหากันเอง (นั้นเป็นสาเหตุนึงที่ทำให้เราไม่ได้ดูต่อ555+)
อ๋อ เข้าใจแล้ว... แต่มันฮาดีตรงที่ ตัวเองเป็นถึง ฆาตกร ต่อเนื่อง ..แล้วจะกลัว ผู้ชายทำไม 55
คือผมเข้าใจแบบนี้ครับ
สมศรีนะ น่าจะมีอาการทางจิต (ซึ่งหนังไม่ได้บอกหรอกว่าเป็นอะไีร) แต่ถ้าให้เดาก็น่าจะเป็นพวกที่ถูกผู้ชายทำร้าย หรือถูกทำให้เสียใจมาก่อน แล้วก็เลยมีความคิดที่ต้องกำจัดผู้ชายทิ้ง
จากไดอะล๊อกนึงในหนังที่เพื่อนมันบอกว่า "แฟนเก่าของเธอส่วนใหญ่ก็ล้วนแล้วแต่นิสัยไม่ดี ตอนหลังก็เปิดตูดหนีหายไปหมด" ก็เข้าใจได้ว่าสมศรีน่าจะเจอแต่ผู้ชายไม่ดีๆมา่เยอะ เลยฆ่าทิ้งหมด...
แต่ทีนี้สมศักดิ์เป็นผู้ชายคนแรกที่สมศรีอยากแต่งงานด้วยไง อาจจะแบบคบหาดูใจแล้วรู้สึกว่าใช่ คนนี้เลือกไม่ผิดแน่นอน
แต่เจ้ากรรม พี่ชายตัวดีดันเข้ามาป่วนงานแต่งซะก่อน
ยัยสมศรีก็กลัวว่าเจ้าชายในฝันของเธอที่เลือกมาร่วมหอลงโรงเป็นฆาตกร (แต่ตัวมึงเองนะแหละที่น่ากลัวกว่าคนอื่น) ก็เลยทำให้เธอไม่มั่นใจ เพราะเคยผ่านประสบการณ์เลวร้ายกับผู้ชายมาก่อน... เลยทำให้เธอสติแตกอย่างที่เห็น...
ส่วนใหญ่ถ้าเราเคยดูหนังมา บางทีตัวฆาตกรนะ จะคิดไปเกินความจริงไง คือมองว่าคนอื่นนะน่ากลัวกว่าตัวเอง แล้วก็เลยฆ่าคนเพื่อป้องกันตัวเอง แต่ในความเป็นจริงไอ้การที่เราตื่นตระหนก ระแวงแล้วฆ่าคนนี้แหละ ที่ทำให้เรากลายเป็นฆาตกรต่อเนื่อง โดยที่เราไม่รู้ตัว พวกนี้มีอาการทางจิตนะ
ที่นี้ตัวพี่ชายก็มองได้สองอย่างว่าทำไมมันถึงอยากให้งานแต่งงานล่ม
1. มันไม่อยากให้ผู้ชายต้องมาใช้ชีวิตร่วมกับฆาตกร คือรู้ดีว่าน้องสาวตัวเองเป็นตัวอันตราย
2. มันนะแอบหลงรักน้องสาวมาตลอด และไม่อยากให้เธอไปแต่งกับคนอื่น (จากไดอะล๊อกที่สมศรีบอกว่า "พี่งอนฉัน พอฉันบอกจะย้ายออก") แล้วลองคิดดูว่าการที่พี่ชายมันสมรู้ร่วมคิดเก็บศพเอาไว้ในห้อง ก็แสดงว่ามันต้องรักและอยากปกป้องน้องสาวในระดับมากเกินปกติ
เพราะคนธรรมดา ต่อให้เป็นพี่น้องยังไง ก็คงไม่สามารถรู้เห็นเป็นใจให้น้องตัวเองมาเก็บศพในห้องแน่ๆ
โดยส่วนตัวที่เลือกตอนนี้มาฉาย ทั้งที่ไม่มีฉากโหดไรเลย เพราะชอบบทแหละ เอาไปเป็นกรณีศึกษาการทำหนังระทึกขวัญได้เลย ได้ทุกองค์ประกอบจริงๆ แล้วบทมันเจ้าเล่ห์ดีอ่ะ ชอบๆๆๆ
แล้วมันก็ตั้งคำถามถึงเรื่องการแต่งงานด้วย
คือคุณศรัทธาในงานแต่งงานแค่ไหนว่ามันจะเป็นเครื่องยืนยันถึงความรักนิรันดร
ในขณะเดียวกันมันก็ถามกลับไปยังคู่รักด้วยว่า พวกคุณรู้จักกันดีแค่ไหน รู้จักกันมากพอแล้วหรือ เพราะบางทีเราอยู่กันมานานๆ อาจไม่รู้เลยว่าแฟนเรามีอะไรผิดปกติจากคนอื่น
แล้วมันเลยทำให้"จดหมายฉบับเดียว"ทำให้เรื่องทั้งหมดปั่นป่วน นั้นเพราะลึกๆแล้ว ตัวละครในหนังทั้งสมศักดิ์ สมศรี ต่างก็เปราะบางทางความมั่นคงของชีวิตรัก คือพวกเค้าหลอกตัวเองว่ารักกัน เข้าใจกัน แต่พอเจออะไรนิดหน่อยมากระทบมันก็เลยพินาศอย่างที่เห็นนี้แหละ....
ไว้เดี๋ยวโอกาสหน้าจะเอาตอนแบบ "สยองๆๆๆๆๆ" มาฉายล่ะครับ
อาจจะเป็น eater ไม่ก็ Skin and Bones
สมศรีนะ น่าจะมีอาการทางจิต (ซึ่งหนังไม่ได้บอกหรอกว่าเป็นอะไีร) แต่ถ้าให้เดาก็น่าจะเป็นพวกที่ถูกผู้ชายทำร้าย หรือถูกทำให้เสียใจมาก่อน แล้วก็เลยมีความคิดที่ต้องกำจัดผู้ชายทิ้ง
จากไดอะล๊อกนึงในหนังที่เพื่อนมันบอกว่า "แฟนเก่าของเธอส่วนใหญ่ก็ล้วนแล้วแต่นิสัยไม่ดี ตอนหลังก็เปิดตูดหนีหายไปหมด" ก็เข้าใจได้ว่าสมศรีน่าจะเจอแต่ผู้ชายไม่ดีๆมา่เยอะ เลยฆ่าทิ้งหมด...
แต่ทีนี้สมศักดิ์เป็นผู้ชายคนแรกที่สมศรีอยากแต่งงานด้วยไง อาจจะแบบคบหาดูใจแล้วรู้สึกว่าใช่ คนนี้เลือกไม่ผิดแน่นอน
แต่เจ้ากรรม พี่ชายตัวดีดันเข้ามาป่วนงานแต่งซะก่อน
ยัยสมศรีก็กลัวว่าเจ้าชายในฝันของเธอที่เลือกมาร่วมหอลงโรงเป็นฆาตกร (แต่ตัวมึงเองนะแหละที่น่ากลัวกว่าคนอื่น) ก็เลยทำให้เธอไม่มั่นใจ เพราะเคยผ่านประสบการณ์เลวร้ายกับผู้ชายมาก่อน... เลยทำให้เธอสติแตกอย่างที่เห็น...
ส่วนใหญ่ถ้าเราเคยดูหนังมา บางทีตัวฆาตกรนะ จะคิดไปเกินความจริงไง คือมองว่าคนอื่นนะน่ากลัวกว่าตัวเอง แล้วก็เลยฆ่าคนเพื่อป้องกันตัวเอง แต่ในความเป็นจริงไอ้การที่เราตื่นตระหนก ระแวงแล้วฆ่าคนนี้แหละ ที่ทำให้เรากลายเป็นฆาตกรต่อเนื่อง โดยที่เราไม่รู้ตัว พวกนี้มีอาการทางจิตนะ
ที่นี้ตัวพี่ชายก็มองได้สองอย่างว่าทำไมมันถึงอยากให้งานแต่งงานล่ม
1. มันไม่อยากให้ผู้ชายต้องมาใช้ชีวิตร่วมกับฆาตกร คือรู้ดีว่าน้องสาวตัวเองเป็นตัวอันตราย
2. มันนะแอบหลงรักน้องสาวมาตลอด และไม่อยากให้เธอไปแต่งกับคนอื่น (จากไดอะล๊อกที่สมศรีบอกว่า "พี่งอนฉัน พอฉันบอกจะย้ายออก") แล้วลองคิดดูว่าการที่พี่ชายมันสมรู้ร่วมคิดเก็บศพเอาไว้ในห้อง ก็แสดงว่ามันต้องรักและอยากปกป้องน้องสาวในระดับมากเกินปกติ
เพราะคนธรรมดา ต่อให้เป็นพี่น้องยังไง ก็คงไม่สามารถรู้เห็นเป็นใจให้น้องตัวเองมาเก็บศพในห้องแน่ๆ
โดยส่วนตัวที่เลือกตอนนี้มาฉาย ทั้งที่ไม่มีฉากโหดไรเลย เพราะชอบบทแหละ เอาไปเป็นกรณีศึกษาการทำหนังระทึกขวัญได้เลย ได้ทุกองค์ประกอบจริงๆ แล้วบทมันเจ้าเล่ห์ดีอ่ะ ชอบๆๆๆ
แล้วมันก็ตั้งคำถามถึงเรื่องการแต่งงานด้วย
คือคุณศรัทธาในงานแต่งงานแค่ไหนว่ามันจะเป็นเครื่องยืนยันถึงความรักนิรันดร
ในขณะเดียวกันมันก็ถามกลับไปยังคู่รักด้วยว่า พวกคุณรู้จักกันดีแค่ไหน รู้จักกันมากพอแล้วหรือ เพราะบางทีเราอยู่กันมานานๆ อาจไม่รู้เลยว่าแฟนเรามีอะไรผิดปกติจากคนอื่น
แล้วมันเลยทำให้"จดหมายฉบับเดียว"ทำให้เรื่องทั้งหมดปั่นป่วน นั้นเพราะลึกๆแล้ว ตัวละครในหนังทั้งสมศักดิ์ สมศรี ต่างก็เปราะบางทางความมั่นคงของชีวิตรัก คือพวกเค้าหลอกตัวเองว่ารักกัน เข้าใจกัน แต่พอเจออะไรนิดหน่อยมากระทบมันก็เลยพินาศอย่างที่เห็นนี้แหละ....
ไว้เดี๋ยวโอกาสหน้าจะเอาตอนแบบ "สยองๆๆๆๆๆ" มาฉายล่ะครับ
อาจจะเป็น eater ไม่ก็ Skin and Bones
แก้ไขล่าสุด: 4/8/2554 02:21 โดย AguileraAnimato
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด เราเข้าใจเรื่องนี้แล้ว
คือสมบูรณ์เป็นพระเอกคร่ะ เว้ออออออ -_-"
คือสมบูรณ์เป็นพระเอกคร่ะ เว้ออออออ -_-"
แล้วหนึ่งเคลียร์เรื่องของสาวหมวกแดงมะ
สาวผ้าคลุมแดงคือสมบูรณ์ปะคะ?
หักมุมซะ...รอชมเรื่องต่อไป มาโพสไวๆเน้อ
ก็สมบูรณ์ไงคือสาวหมวกแดง.... นี้ตกลงมีคนไม่เข้าใจเหรอ
หรือว่าเราต้องแคปช๊อตที่มันถอดผ้าคลุมด้วย
คือก็ว่าแคปละเอียดแล้วนะ
เวลาอ่านเราก็จะดูภาพต่อเนื่อง... คือมันก็เห็นอยู่ว่าในห้องนั้นมีแต่ใคร
ก็คนนั้นแหละสาวหมวกแดง
หรือว่าเราต้องแคปช๊อตที่มันถอดผ้าคลุมด้วย
คือก็ว่าแคปละเอียดแล้วนะ
เวลาอ่านเราก็จะดูภาพต่อเนื่อง... คือมันก็เห็นอยู่ว่าในห้องนั้นมีแต่ใคร
ก็คนนั้นแหละสาวหมวกแดง
คือเข้าใจว่าสาวหมวกแดงอยู่ในห้องเดียวกับสมบูรณ์น่ะ โอเค ตอนนี้ก็เคลียร์แล้ว
หัวทิ่มเลย
ชื่อ เจ้าสาว ในเรื่องจริง ๆ แล้วชื่อก็คล้ายกันใช่ป่ะครับ
ว่าแต่ชื่ออะไร
ว่าแต่ชื่ออะไร
#161
Samantha and Carlos
Samantha and Carlos
เข้ามาหมั่นไส้ คห.4 ค่ะ แหม๋... นั่นมันสามีหนู
ดูจบแล้วโคตรชอบเลย คิดได้ไงพลอตแบบนี้!!!
ชอบมากมากกกกกกกกกก
ขอบคุณค่ะที่มาฉายให้ดูกัน
ชอบมากมากกกกกกกกกก
ขอบคุณค่ะที่มาฉายให้ดูกัน
สนุกมากๆ
โอ้ววววว
เรื่องนี้ไอเดียดีโคตรเลยคับ
แถมตอนจบก็จบได้สวยอีก
ชอบๆ
ไม่ทราบจะหาซื้อเก็บได้ที่ไหนอะคับ???
เรื่องนี้ไอเดียดีโคตรเลยคับ
แถมตอนจบก็จบได้สวยอีก
ชอบๆ
ไม่ทราบจะหาซื้อเก็บได้ที่ไหนอะคับ???
หาซื้อได้ตามเว็บไซต์ที่ขายซีรี่ย์ทั่วไปได้เลยครับ^^
5 ตอนสุดท้ายเรามีค่ะ
เพราะอัดเอาจาก true เองเลย
เพราะอัดเอาจาก true เองเลย
ตัวเอกสมศรีกับสมศักดิ์นี่หน้าคุ้นๆเหมือนนักแสดงในซีรีย์เรื่อง psych เลยแฮะ
ขอบคุณครับ แต่ว่าผมดูตอน eater แล้วแต่อยากดูแบบฉายหนัง
พระนางจากเรื่องPhychนี่หว่า
ที่ท่านเจ้าของกระทู้บรรยายว่า "โดยมีเพื่อนรักทั้งสอง สมัยเรียนปวช.เพาะช่าง" คือบรรยายเอาฮาใช่ไหมอ่ะครับ แต่จริงๆที่เพาะช่างไม่มีการสอนระดับ ปวช. นะครับ เพราะผมก็จบที่สถาบันแห่งนี้มาอ่ะครับ
บรรยายเอาฮาไปงั้นอ่ะครับ จขกท. มั่วแหลกกกก
Thx ka
ชอบจังเลยค่ะ ขอบคุนที่เอามาฉายค่าา
Function Used time : 0:00:00:00.026