Review : The Blob (1988) ..... เหนอะ เคี้ยว โลก ....หนัง สัตว์ประหลาด จาก อวกาศ
by Darkside Fairy • วันพุธที่ 27 กรกฎาคม พ.ศ. 2554 17:22
o ก่อนอื่น ขอบอกก่อนว่า นัทชอบหนังแนว Sci-fi/Horror (มั้ง) เท่าที่สังเกตตัวเอง
นัทก็เลยรีวิวแต่หนังที่มันออกแนวนี้ อีกอย่าง ทุกเรื่องที่รีวิวนัทชอบ เลยสามารถรีวิวได้ ไม่งั้นโม้เรื่องไม่ได้ อิอิ:)
ถ้าใครตามอ่านรีวิวของนัท หนังมันก็จะแนวๆ นี้อ่ะคะ ไม่ได้โหด เหวอะเกินไป ไรประมาณนั้น
o ถ้าใครสังเกต ดีๆ หนังแต่ละเรื่องของนัทจะต่อกันนะ จากพื้นดิน และก็ไปทะเล ทะเลแล้วขึ้น อวกาศ อวกาศ ส่งมายังโลก
แล้วก็จะมีต่อๆไป ถ้ายังไม่ขี้เกียจ ให้มันต่อกันนะคะ :) 555 ว่างจัด
นัทพูดมากจัง... มาเริ่มเลยดีกว่า
หนังเรื่องนี้ ง่ายๆสั้นๆ เกี่ยวกับ สสารอะไรไม่รู้หนึบๆ ตกมาจากฟ้า เป็นอุกกาบาต อยู่แถวชานเมืองนอกเมือง ..
มีคนไปพบเข้า ก็โดนกิน มันสามารถยืดหยุ่นไหลไปตามท่อน้ำ แล้วก็เข้าเมืองไปตามทางท่อระบายน้ำ
มันกินทุกอย่างที่ขวางหน้า... มันสามารถขยายตัวได้จนใหญ่มาก ... ชาวเมืองก็ต้องหนี ทางการก็ส่งเจ้าหน้าที่มาทำลายตามนั้น
หนังเรื่องนี้ remake มาจากต้นฉบับ The Blob (1958) พล๊อตเรื่องเหมือนกัน แต่เอฟเฟคดีกว่าค่อนข้างมาก ..
ทำตัวหนึบออกมาได้ สยองพอสมควร เพราะ อันเดิม หนึบๆสีแดงๆ เหมือนหมากฝรั่ง ไม่น่ากลัวเลย ... แต่อันใหม่นี่น่ากลัวดี
เพราะมันใส แลเห็นเหมือนมีเศษ ซากคน กระจายอยู่ได้ด้วยตลอดเวลา ฉากที่โดนดูดลงท่ออ่างล้างจานก็น่ากลัวดี ฉากในตู้โทรศัพท์
และฉากที่ติดตานัทตอนเด็ก คือฉากที่อยู่ในท่อระบายน้ำ ขยายตัวใหญ่มาก เพื่อจะกินนางเอกกะเด็ก ....พระเอกก็ออกแนว Bon Jovi
..ก็สนุกดีค่ะ ตามประสา หนัง Sci-fi/Horror
นัทก็เลยรีวิวแต่หนังที่มันออกแนวนี้ อีกอย่าง ทุกเรื่องที่รีวิวนัทชอบ เลยสามารถรีวิวได้ ไม่งั้นโม้เรื่องไม่ได้ อิอิ:)
ถ้าใครตามอ่านรีวิวของนัท หนังมันก็จะแนวๆ นี้อ่ะคะ ไม่ได้โหด เหวอะเกินไป ไรประมาณนั้น
o ถ้าใครสังเกต ดีๆ หนังแต่ละเรื่องของนัทจะต่อกันนะ จากพื้นดิน และก็ไปทะเล ทะเลแล้วขึ้น อวกาศ อวกาศ ส่งมายังโลก
แล้วก็จะมีต่อๆไป ถ้ายังไม่ขี้เกียจ ให้มันต่อกันนะคะ :) 555 ว่างจัด
นัทพูดมากจัง... มาเริ่มเลยดีกว่า
หนังเรื่องนี้ ง่ายๆสั้นๆ เกี่ยวกับ สสารอะไรไม่รู้หนึบๆ ตกมาจากฟ้า เป็นอุกกาบาต อยู่แถวชานเมืองนอกเมือง ..
มีคนไปพบเข้า ก็โดนกิน มันสามารถยืดหยุ่นไหลไปตามท่อน้ำ แล้วก็เข้าเมืองไปตามทางท่อระบายน้ำ
มันกินทุกอย่างที่ขวางหน้า... มันสามารถขยายตัวได้จนใหญ่มาก ... ชาวเมืองก็ต้องหนี ทางการก็ส่งเจ้าหน้าที่มาทำลายตามนั้น
หนังเรื่องนี้ remake มาจากต้นฉบับ The Blob (1958) พล๊อตเรื่องเหมือนกัน แต่เอฟเฟคดีกว่าค่อนข้างมาก ..
ทำตัวหนึบออกมาได้ สยองพอสมควร เพราะ อันเดิม หนึบๆสีแดงๆ เหมือนหมากฝรั่ง ไม่น่ากลัวเลย ... แต่อันใหม่นี่น่ากลัวดี
เพราะมันใส แลเห็นเหมือนมีเศษ ซากคน กระจายอยู่ได้ด้วยตลอดเวลา ฉากที่โดนดูดลงท่ออ่างล้างจานก็น่ากลัวดี ฉากในตู้โทรศัพท์
และฉากที่ติดตานัทตอนเด็ก คือฉากที่อยู่ในท่อระบายน้ำ ขยายตัวใหญ่มาก เพื่อจะกินนางเอกกะเด็ก ....พระเอกก็ออกแนว Bon Jovi
..ก็สนุกดีค่ะ ตามประสา หนัง Sci-fi/Horror

Replies (57)





เคยดูแต่ version ของ irvin S. ต้องบอกเลยว่าประทับใจมาก ปู่แกมีแนวคิดแปลกๆดี ทั้ง 4D Man (1959), Dinosaurus! (1960) ในยุคนั้นมันล้ำมาก และก็ยังไม่ล้าสมัยในยุคนี้ด้วย แต่ดูจากภาพแล้วฉบับ remake นี่น่าจะโหดกว่าเยอะ
ชอบเอฟเฟค์ร่างละลายจริง ๆ
ตัวหนังเองก็ชอบ ดูไปลุ้นไป ^^
ตัวหนังเองก็ชอบ ดูไปลุ้นไป ^^

คุณ Darkside Fairy ชอบพวก Sci-Fi ไม่ลองหา postnuke หรือ cyberpunk มาดูละครับอาจจะชอบก็ได้
มันเอามารีเมคใหม่ด้วยครับคุณนัทดูรึยังครับ


ฮาคุณ AguileraAnimato นี่มัน Flubber ตัวดึ๋งดั๋ง แต่ The Blob นี่ต้องดูให้ได้ ว่าแล้วก็ดูซะเลย ฮะฮา
คุณ AguileraAnimato ไม่ใช่ละ 55
คนตัดเทรลเลอร์เค้าเก่งนะ ทำจนกลายเป็นหนังสยองเลย
แล้วเวอร์ชั่นรีเมค ของรีเมค อีกทีจะได้ดูกันไหมนี่ ... ตกลงใครได้เป็นผู้กำกับ ข่าวคราวเงียบหายไปไหนละ ?

ตอนเด็กๆ ดูละกลัวโดนดูดลงส้วมไปพักใหญ่ๆเลย 555
version 2011 คาดว่าจะเป็น Robert Bartleh หรือ Rob Zombie นั่นเอง ดูท่าพี่แกชอบหนังสยองมาก ชื่อวงก็เอาชื่อหนังมาตั้ง แต่ดูจากที่แกกำกับมาแต่ละเรื่องส่งกลิ่นไม่ดีเลยสำหรับผมกับ The Blob ที่พี่แกจะทำนี่
ดูแล้วครับ สัตว์ประหลาดแพ้ความเย็น ฮ่าๆ ตอนหลังนี้มันตายแบบว่า ชื่นใจมากๆ อิๆ
อยากดู ต้นฉบับ The Blob (1958)
แบบเก่า The Blob น่ารักน่าชัง
#8
postnuke หรือ cyberpunk คือยังไงเหรอคะ ไม่รู้จักอ่ะ T^T
postnuke หรือ cyberpunk คือยังไงเหรอคะ ไม่รู้จักอ่ะ T^T
cyberpunk ก็หนังแบบของ Shinya Tsukamoto
อ่ะครับ พวกเรื่อง Tetsuo: The Iron Man, Tetsuo II: Body Hammer ที่ดังๆของเค้า
โดยความเข้าใจของเราคือ หนังไซไฟในยุคโพสท์โมเดิร์นที่มีส่วนผสมของความดิบ หยาบในแบบหนังใต้ดิน เคยได้ยินว่าคำจำกัดความมันคือ high tech/low life
ถ้าอย่างงานของชินยะ ที่ยกตัวอย่างมามันก็คือการตีความเทคโนโลยีในแบบถึงเหนือถึงหนัง มีการผสมหล่อหลวมระหว่างจักรกล และร่างกายมนุษย์
นึกภาพเหล็กปะทะเนื้อ... ของนิ่มกับของแข็งหล่อหลอมกันจนเป็นไซบอร์ค ...มุมกล้องชวนเวียนหัว การตัดต่อแบบไม่แคร์ความละมุ่นละม่อมแต่ได้อารมณ์มึน เท่ ไปกับดนตรีดิบๆซ่าส์ๆ - - แต่ไม่ได้หมายความว่าไซเบอร์พังค์ทุกเรื่องจะต้องเป็นแบบนี้หมดนะ
หนังอย่าง videodrome ของเดวิด โครเนนเบิร์ก ก็มีความไซเบอร์พังค์อยู่เหมือนกันนะ ไอ้ฉากทีวี ผิวหนัง และปืน นั้นแหละ กลิ่นความเป็นไซเบอร์พังค์
ไอ้พวกนี้มันจะแตกพันธุ์ไปอีกเป็นพวก body horror หรือหนังสยองที่ชำแหละกันถึงเนื้อใน ร่างกาย การกลายพันธุ์ แปรเปลี่ยนกายภาคของมนุษย์เป็นโลหะ หรือเป็นรูปแบบวัตถุอื่นๆ
ที่ยกตัวอย่างคือในกลุ่มหนังสยอง คัลท์ แต่จริงๆไซเบอร์พังค์ไม่ได้จำกัดที่หนังสยอง แต่มันเป็นแค่สไตล์นึงเท่านั้นครับ หนังแบบ blade runner / escape from new york อะไรก็ใช่
อ่ะครับ พวกเรื่อง Tetsuo: The Iron Man, Tetsuo II: Body Hammer ที่ดังๆของเค้า
โดยความเข้าใจของเราคือ หนังไซไฟในยุคโพสท์โมเดิร์นที่มีส่วนผสมของความดิบ หยาบในแบบหนังใต้ดิน เคยได้ยินว่าคำจำกัดความมันคือ high tech/low life
ถ้าอย่างงานของชินยะ ที่ยกตัวอย่างมามันก็คือการตีความเทคโนโลยีในแบบถึงเหนือถึงหนัง มีการผสมหล่อหลวมระหว่างจักรกล และร่างกายมนุษย์
นึกภาพเหล็กปะทะเนื้อ... ของนิ่มกับของแข็งหล่อหลอมกันจนเป็นไซบอร์ค ...มุมกล้องชวนเวียนหัว การตัดต่อแบบไม่แคร์ความละมุ่นละม่อมแต่ได้อารมณ์มึน เท่ ไปกับดนตรีดิบๆซ่าส์ๆ - - แต่ไม่ได้หมายความว่าไซเบอร์พังค์ทุกเรื่องจะต้องเป็นแบบนี้หมดนะ
หนังอย่าง videodrome ของเดวิด โครเนนเบิร์ก ก็มีความไซเบอร์พังค์อยู่เหมือนกันนะ ไอ้ฉากทีวี ผิวหนัง และปืน นั้นแหละ กลิ่นความเป็นไซเบอร์พังค์
ไอ้พวกนี้มันจะแตกพันธุ์ไปอีกเป็นพวก body horror หรือหนังสยองที่ชำแหละกันถึงเนื้อใน ร่างกาย การกลายพันธุ์ แปรเปลี่ยนกายภาคของมนุษย์เป็นโลหะ หรือเป็นรูปแบบวัตถุอื่นๆ
ที่ยกตัวอย่างคือในกลุ่มหนังสยอง คัลท์ แต่จริงๆไซเบอร์พังค์ไม่ได้จำกัดที่หนังสยอง แต่มันเป็นแค่สไตล์นึงเท่านั้นครับ หนังแบบ blade runner / escape from new york อะไรก็ใช่
แก้ไขล่าสุด: 27/7/2554 20:38 โดย AguileraAnimato
มันเป็น sub-genre ของ Sci-fi อีกทีนะครับ จริงๆแล้ว postnuke และ cyberpunk มีแนวคิดที่ใกล้เคียงกันมาก แต่ตัวหนังเองค่อนข้างที่จะแตกต่างกันทีเดียว postnuke ก็คือหนัง Sci-fi ที่นำเสนอเรื่องราวหลังสิ้นสุดของอารยธรรมอาจมาจากนิวเคลียร์ ภัยพิบัติครั้งใหญ่ สงครามชีวภาพ ภัยพิบัติทางระบบนิเวศ การสูญสิ้นของทรัพยากรณ์ธรรมชาติ การคลุกคลามของเทคโนโลยีและมักตามมาด้วย ความผิดปกติของพันธุกรรมต่างๆ กลุ่มกฏบต่อต้าน การล่าอณานิคม การแย่งชิงทรัพยากรณ์ แต่ cyberpunk จะมุ่งเน้นไปในเรื่องของ cybernetic organism หรือการทำงานร่วมกันระหว่างสิ่งมีชีวิตกับเครื่องจักร
postnuke ที่ทุกคนน่าจะรู้จักก็ mad max ครับ หรือแม้กระทั่ง การ์ตูนอย่างมัดเทพพระดาวเหนือก็ใช่ครับ หรือแม้กระทั่งหนัง hollywood จ๋าอย่าง waterworld และอีกหลายๆเรื่อง
Cherry 2000 (1987)

Hell Comes To Frogtown (1987)

Solarbabies (1986)

Endgame (1983)
.jpg)
1990: Bronx Warriors (1982)

2019: After the Fall of New York (1983)

Shocking Dark (1990)

Future Kill 1985 (1985)

cyberpunk ส่วนหนึ่งก็อย่างที่ คุณ AguileraAnimato กล่าวไว้ครับ และไม่จำเป็นต้องเป็นแบบ Shinya Tsukamoto เสมอไปอย่าง cyberpunk เรื่องแรก Metropolis (1927) ซึ่งถือล้ำยุดมากกับงานที่เกือบ 100 ปีมาแล้ว
ส่วนงานของ David Cronenberg น่าจะจัดอยู่ในส่วนของ body horror หรือ biopunk ก็ตรงตัวครับ มากจาก biological ซึ่งมีเนื้อหาเกี่ยวชีวะ การกลายพันธุ์ ผสมข้ามพันธุ์ อย่าง
Invasion of the Body Snatchers (1956)
Street Trash (1987)
Re-Animator (1985)
The Fly (1958/1986)
แค่นี้ก่อนครับเขียนเกียจ biopunk ขอไม่ลงรูปนะแล้วมันเยอะไม่รู้จะเอาอะไรลง ไม่รู้จะเขียนถึงความเป็นมา หรือว่าจะแนะนำหนังที่ดูสนุก เดี๋ยวจะยาวไปเรื่อยและที่สำคัญความหิวเริ่มเข้าแทรกแซกจิตใจและร่างกายแล้ว สงสัยไรถามดีกว่าครับ
postnuke ที่ทุกคนน่าจะรู้จักก็ mad max ครับ หรือแม้กระทั่ง การ์ตูนอย่างมัดเทพพระดาวเหนือก็ใช่ครับ หรือแม้กระทั่งหนัง hollywood จ๋าอย่าง waterworld และอีกหลายๆเรื่อง
Cherry 2000 (1987)

Hell Comes To Frogtown (1987)

Solarbabies (1986)

Endgame (1983)
.jpg)
1990: Bronx Warriors (1982)

2019: After the Fall of New York (1983)

Shocking Dark (1990)

Future Kill 1985 (1985)

cyberpunk ส่วนหนึ่งก็อย่างที่ คุณ AguileraAnimato กล่าวไว้ครับ และไม่จำเป็นต้องเป็นแบบ Shinya Tsukamoto เสมอไปอย่าง cyberpunk เรื่องแรก Metropolis (1927) ซึ่งถือล้ำยุดมากกับงานที่เกือบ 100 ปีมาแล้ว
ส่วนงานของ David Cronenberg น่าจะจัดอยู่ในส่วนของ body horror หรือ biopunk ก็ตรงตัวครับ มากจาก biological ซึ่งมีเนื้อหาเกี่ยวชีวะ การกลายพันธุ์ ผสมข้ามพันธุ์ อย่าง
Invasion of the Body Snatchers (1956)
Street Trash (1987)
Re-Animator (1985)
The Fly (1958/1986)
แค่นี้ก่อนครับเขียนเกียจ biopunk ขอไม่ลงรูปนะแล้วมันเยอะไม่รู้จะเอาอะไรลง ไม่รู้จะเขียนถึงความเป็นมา หรือว่าจะแนะนำหนังที่ดูสนุก เดี๋ยวจะยาวไปเรื่อยและที่สำคัญความหิวเริ่มเข้าแทรกแซกจิตใจและร่างกายแล้ว สงสัยไรถามดีกว่าครับ
แก้ไขล่าสุด: 27/7/2554 21:52 โดย skull terror
#15 ... เฮีย Rob Zombie แกถอนตัวไปจากโปรเจคแล้วครับ เห็นพี่แกจะมีผลงานเรื่อง Lord of Salem ฉายในปีหน้า (ดูจากเอ็มวีเพลงชื่อเดียวกันของพี่แกแล้ว ... น่าจะออกแนวล่าแม่มด) และ (คาดว่า) จะตามต่อด้วยโปรเจค Tyrannosaurus Rex หนังแนวหมัดเทพเจ้าดาวเหนือครับ
#21 ... ท่าน Skull Terror มาแนวหนังเก่าตามฟอร์มเลย (อิอิ)
ปล. ถ้าคุณ Darkside Fairy สนใจ Cyberpunk ลองไป หามังงะของ Tsutomu Nihei มาอ่านสิครับ ... ที่แปลเป็นไทยก็เรื่อง Blame! ของสยาม ผลงานของพี่แกได้อิทธิพลจากแนวนี้มาเต็ม ๆ
หรือถ้าขี้เกียจไปซื้อ โหลดแบบแปล Eng มาอ่านได้ครับ ภาพจะงามกว่าแบบ hard copy ของสยามมั่ก ๆ ... http://bdcomics.bdgamers.net/2006/11/05/noise-and-blame/
#21 ... ท่าน Skull Terror มาแนวหนังเก่าตามฟอร์มเลย (อิอิ)
ปล. ถ้าคุณ Darkside Fairy สนใจ Cyberpunk ลองไป หามังงะของ Tsutomu Nihei มาอ่านสิครับ ... ที่แปลเป็นไทยก็เรื่อง Blame! ของสยาม ผลงานของพี่แกได้อิทธิพลจากแนวนี้มาเต็ม ๆ
หรือถ้าขี้เกียจไปซื้อ โหลดแบบแปล Eng มาอ่านได้ครับ ภาพจะงามกว่าแบบ hard copy ของสยามมั่ก ๆ ... http://bdcomics.bdgamers.net/2006/11/05/noise-and-blame/

แก้ไขล่าสุด: 28/7/2554 01:21 โดย nana_idol
หนังใหม่ ๆ ที่ "มีกลิ่น" ของ Cyberpunk ที่น่าจะรู้จักกันดีก็หนังของพี่นีโอสุดหล่อ The Matrix นั่นละครับ ... ส่วนเรื่องอื่น ๆ ที่พอจะนึกออก อย่างเช่น
The Gene Generation (2007) ...
Doomsday (2008) ...
Repo! The Genetic Opera (2008) ... เรื่องนี้เป็นหนังเพลงครับ ผลงานภาพยนต์ของ Darren Lynn Bousman (Saw 2-4) และผลงานเพลงโปรดิวซ์โดยโยชิกิ (X-Japan)
แต่อย่างที่คุณหนึ่งพูดไว้ละครับ ถ้าจะพูดถึงหนังแนวนี้จริง ๆ มันต้องมี "ความดิบในแบบหนังใต้ดิน" ซึ่งหนังใหม่ ๆ ที่มีโปรดักชั่นสูง ๆ จะขาดตรงจุดนี้ไป ... ดังนั้นหนังทั้งหมดที่ผมกล่าวมาข้างต้น จึงใช้คำว่า "มีกลิ่น" ของ Cyberpunk / Post-nuke แต่กลิ่นนั้นจะถูกเจือจางไปมากหรือน้อยนั้น ขึ้นอยู่กับผู้สร้างครับ
ขอตัวไปนอนก่อนละ ... ไว้จะมาเพิ่มให้อีก ถ้านึกออก
ปล. ผิดพลาดประการใด ขออภัยละกัน ... ไม่ได้แน่นปึ๊กทางด้านนี้ เหมือนสองท่านก่อนหน้าซักเท่าไร (อิอิ)
The Gene Generation (2007) ...
Doomsday (2008) ...
Repo! The Genetic Opera (2008) ... เรื่องนี้เป็นหนังเพลงครับ ผลงานภาพยนต์ของ Darren Lynn Bousman (Saw 2-4) และผลงานเพลงโปรดิวซ์โดยโยชิกิ (X-Japan)
แต่อย่างที่คุณหนึ่งพูดไว้ละครับ ถ้าจะพูดถึงหนังแนวนี้จริง ๆ มันต้องมี "ความดิบในแบบหนังใต้ดิน" ซึ่งหนังใหม่ ๆ ที่มีโปรดักชั่นสูง ๆ จะขาดตรงจุดนี้ไป ... ดังนั้นหนังทั้งหมดที่ผมกล่าวมาข้างต้น จึงใช้คำว่า "มีกลิ่น" ของ Cyberpunk / Post-nuke แต่กลิ่นนั้นจะถูกเจือจางไปมากหรือน้อยนั้น ขึ้นอยู่กับผู้สร้างครับ
ขอตัวไปนอนก่อนละ ... ไว้จะมาเพิ่มให้อีก ถ้านึกออก
ปล. ผิดพลาดประการใด ขออภัยละกัน ... ไม่ได้แน่นปึ๊กทางด้านนี้ เหมือนสองท่านก่อนหน้าซักเท่าไร (อิอิ)
แก้ไขล่าสุด: 28/7/2554 02:21 โดย nana_idol
จากคุณ : nana_idol "ท่าน Skull Terror มาแนวหนังเก่าตามฟอร์มเลย (อิอิ)" หากเราไม่รู้จักปู่และพ่อเรานามสกุลเราจะมีความหมายอันใด หากปราศจากลูกหลานนามสกุลก็คงไม่มีค่าอันใดเช่นกัน, จริงๆแล้วผมอาจจะเกิดไวไปหน่อยก็ได้ 555
จากคุณ : nana_idol ปล. ผิดพลาดประการใด ขออภัยละกัน ... ไม่ได้แน่นปึ๊กทางด้านนี้ เหมือนสองท่านก่อนหน้าซักเท่าไร (อิอิ)
ไม่ขนาดนั้นหรอกครับผมเชื่อว่ามีคนที่รู้มากกว่าผมอีกเยอะ เขาอาจจะอ่านเฉยๆโดยไม่แสดงตัวหรือความเห็นใดๆก็ได้ผมเชื่ออย่างนั้นจริงๆ ผมก็รู้จักเว็บนี้ตั้งแต่สมัยที่ยังเป็นส่วนหนึ่งของเว็บ pantip.com ก็ตามอ่านมาเรื่อยๆโดยที่ไม่เคยโพสหรือแสดงความคิดเห็นสักครั้งจนย้ายมาเป็นเว็บ horrorclub ได้พักใหญ่ผมถึงเริ่มโพสบ้าง ต้องขอบอกตามตรงเลยจะโกรธกันก็ขออภัยไว้ด้วยนะครับ ว่าตอนแรกที่ไม่ได้โพสอะไรผมมองว่าเป็นเพียงการดูเพื่อความสนุกผ่านๆไปเท่านั้นไม่ได้จริงจังอะไร และไม่เข้าใจกับกระทู้ฉายหนังเอามากๆตอนนี้ก็ยังไม่เข้าใจอยู่ 555
ก็แค่เป็นการมองจากคนนอกครับ เพราะอาจะเป็นที่ผมไม่ค่อยได้โพสอะไรจึงไม่เกิดความสนิมสนม หรือไม่ได้ไปร่วม meeting และคงไม่ไปเพราะผมกินแต่เหล้าไม่กินข้าว 555 ถ้าพูดอะไรเกินเลยไปก็ขออภัยไว้ด้วยครับ ถ้ามีคนเหล่านั้นโปรดแสดงตัวได้แล้วครับ
จากคุณ : nana_idol ปล. ผิดพลาดประการใด ขออภัยละกัน ... ไม่ได้แน่นปึ๊กทางด้านนี้ เหมือนสองท่านก่อนหน้าซักเท่าไร (อิอิ)
ไม่ขนาดนั้นหรอกครับผมเชื่อว่ามีคนที่รู้มากกว่าผมอีกเยอะ เขาอาจจะอ่านเฉยๆโดยไม่แสดงตัวหรือความเห็นใดๆก็ได้ผมเชื่ออย่างนั้นจริงๆ ผมก็รู้จักเว็บนี้ตั้งแต่สมัยที่ยังเป็นส่วนหนึ่งของเว็บ pantip.com ก็ตามอ่านมาเรื่อยๆโดยที่ไม่เคยโพสหรือแสดงความคิดเห็นสักครั้งจนย้ายมาเป็นเว็บ horrorclub ได้พักใหญ่ผมถึงเริ่มโพสบ้าง ต้องขอบอกตามตรงเลยจะโกรธกันก็ขออภัยไว้ด้วยนะครับ ว่าตอนแรกที่ไม่ได้โพสอะไรผมมองว่าเป็นเพียงการดูเพื่อความสนุกผ่านๆไปเท่านั้นไม่ได้จริงจังอะไร และไม่เข้าใจกับกระทู้ฉายหนังเอามากๆตอนนี้ก็ยังไม่เข้าใจอยู่ 555
ก็แค่เป็นการมองจากคนนอกครับ เพราะอาจะเป็นที่ผมไม่ค่อยได้โพสอะไรจึงไม่เกิดความสนิมสนม หรือไม่ได้ไปร่วม meeting และคงไม่ไปเพราะผมกินแต่เหล้าไม่กินข้าว 555 ถ้าพูดอะไรเกินเลยไปก็ขออภัยไว้ด้วยครับ ถ้ามีคนเหล่านั้นโปรดแสดงตัวได้แล้วครับ
แก้ไขล่าสุด: 28/7/2554 03:13 โดย skull terror
ขอขอบคุณทุกคนที่ให้คำแนะนำนัทนะคะ :)
บางเรื่องนัทก็เคยดู บางเรื่องก็ไม่เคยอ่ะ ...
เพิ่งมารู้ตัวเองจริงๆว่าชอบแนวนี้ sub-genre
ทั้ง postnuke และ cyberpunk เพราะอย่างเรื่องที่เกี่ยวกับระเบิด และ นิวเคลียร์ฟิสิกส์ กัมมันตภาพรังสี ไรแบบนั้นก็ชอบ ...แต่จะชอบกลิ่นอายของพวกโซเวียต รัสเซียไรแบบนี้มากกว่า ทางเอเชีย ในส่วนของ cyberpunk ...เรื่องแรกที่ได้ดูคือ Terminator 2 เลยชอบ เพราะมันมีวิวัฒนาการดีอ่ะ ชอบตัวร้ายมากกว่า อาร์โนลด์อีก ... อย่างหนังใหม่ๆ ก็ Doomsday เพื่อนบอกไม่รู้เรื่อง แต่เราดันสนุกดี ... แต่ที่ทุกคนแนะนำมายังไม่ได้ดูอีกเยอะเลยค่ะ ขอบคุณมากๆจริงๆ ... มีไรให้ดูมากกว่าไปเช่าหนังแล้ว เย้ :)
บางเรื่องนัทก็เคยดู บางเรื่องก็ไม่เคยอ่ะ ...
เพิ่งมารู้ตัวเองจริงๆว่าชอบแนวนี้ sub-genre
ทั้ง postnuke และ cyberpunk เพราะอย่างเรื่องที่เกี่ยวกับระเบิด และ นิวเคลียร์ฟิสิกส์ กัมมันตภาพรังสี ไรแบบนั้นก็ชอบ ...แต่จะชอบกลิ่นอายของพวกโซเวียต รัสเซียไรแบบนี้มากกว่า ทางเอเชีย ในส่วนของ cyberpunk ...เรื่องแรกที่ได้ดูคือ Terminator 2 เลยชอบ เพราะมันมีวิวัฒนาการดีอ่ะ ชอบตัวร้ายมากกว่า อาร์โนลด์อีก ... อย่างหนังใหม่ๆ ก็ Doomsday เพื่อนบอกไม่รู้เรื่อง แต่เราดันสนุกดี ... แต่ที่ทุกคนแนะนำมายังไม่ได้ดูอีกเยอะเลยค่ะ ขอบคุณมากๆจริงๆ ... มีไรให้ดูมากกว่าไปเช่าหนังแล้ว เย้ :)
โทษทีครับที่ทำให้คุณนัทเข้าใจผิดพลาดไปเนื่องจากปก Terminator 2 มันไม่ใช่หนังคนเหล็กที่อาร์โนลด์เล่นครับ มันเป็นหนังอิตาลี่ครับ Shocking Dark แต่ใช้อีกชื่อว่า Terminator 2 เพื่อหวังผลทางการตลาดเหมือน Zombie 2 ของ Lucio Fulci
หาปกอีกเวอร์ชั่นไม่เจอครับ เอาวิดีโอไปก่อน แต่ที่แน่ๆการทำการตลาดวิธีนี้กับหนังเกรดบีมันได้ผล 555555555
หาปกอีกเวอร์ชั่นไม่เจอครับ เอาวิดีโอไปก่อน แต่ที่แน่ๆการทำการตลาดวิธีนี้กับหนังเกรดบีมันได้ผล 555555555
5555555555 อาไรว๊าาาา ... เดี๋ยวลองหาดูก่อน
5555555555 อาไรว๊าาาา ... เดี๋ยวลองหาดูก่อน
ขอมาต่อก่อนนอนอีกนิดละกัน เมื่อกี้ได้ไปคุยกับเพื่อนที่อยู่เมืองนอกมา มันบอกว่า Cyberpunk ตามนิยามก็คือ high tech / low life อย่างที่คุณหนึ่งพูดนั่นแหละ ... แต่เพื่อนผมได้เสริมว่า คำว่า Cyberpunk นั้นมันมีแบบอย่างมาจากองค์ประกอบในนิยายของ William Gibson ซึ่งจะเล่าเรื่องของโลกอนาคตอันใกล้ โดยมีองค์ประกอบหลักสามอย่างคือ แฮกเกอร์ (ซึ่งอาจจะหมายถึงกลุ่มผู้ต่อต่าน), ชีวิตจักรกล และมหาอำนาจทางเครือข่าย (Mega-corporations)
และนอกจากนี้ ถ้าอ้างอิงจากที่เพื่อนผมบอก แก่นแท้โลกของ Cyberpunk จะเป็นโลกเสมือนจริงของเครือข่ายเน็ตเวิร์ค ...
แต่ภาพในโลกของ Cyberpunk นั้นได้ติดตาแฟน ๆ ภาพยนต์ ในรูปแบบโลกอนาคต (ที่ไม่ไกลนัก) จากหนังเรื่อง Blade Runner ... ซึ่ง William Gibson ได้บอกว่า เป็นภาพของโลกที่ตรงกับ Neuromancer นิยาย Cyberpunk ชื่อดังของเขา
ดังนั้นภาพโลกของ Cyberpunk อันดับแรกก็คือต้องดูมืดหม่น และเป็นโลกอนาคตที่ไม่ไกลจากความเป็นจริงนัก สิ่งก่อสร้างต่าง ๆ ต้องเป็นกลไกจักรกลที่เราพบเห็นในได้ในปัจจุบัน แต่อาจจะมีการทำให้ดูทันสมัยขึ้น ปะปนไปกับสิ่งก่อสร้างรูปแบบใหม่ ๆ ... และที่สำคัญคือ จะต้องมีการปฎิสัมพันธ์กันของจักรกลและชีวิต
ปล. ทั้งหมดนี่ผมแปลจากทีุ่คุยผ่าน MSN กับเพื่อนเป็นภาษาอังกฤษ พี่แกเล่นพิมพ์มาแบบเป็นชุด ผมก็ง่วง ๆ แปลผิดบ้างถูกบ้าง ... ผิดพลาดประการใดต้องขออภัยละกันครับ
ผมไปนอนก่อนละ ... จะตีสี่แล้ว ~~
และนอกจากนี้ ถ้าอ้างอิงจากที่เพื่อนผมบอก แก่นแท้โลกของ Cyberpunk จะเป็นโลกเสมือนจริงของเครือข่ายเน็ตเวิร์ค ...
แต่ภาพในโลกของ Cyberpunk นั้นได้ติดตาแฟน ๆ ภาพยนต์ ในรูปแบบโลกอนาคต (ที่ไม่ไกลนัก) จากหนังเรื่อง Blade Runner ... ซึ่ง William Gibson ได้บอกว่า เป็นภาพของโลกที่ตรงกับ Neuromancer นิยาย Cyberpunk ชื่อดังของเขา
ดังนั้นภาพโลกของ Cyberpunk อันดับแรกก็คือต้องดูมืดหม่น และเป็นโลกอนาคตที่ไม่ไกลจากความเป็นจริงนัก สิ่งก่อสร้างต่าง ๆ ต้องเป็นกลไกจักรกลที่เราพบเห็นในได้ในปัจจุบัน แต่อาจจะมีการทำให้ดูทันสมัยขึ้น ปะปนไปกับสิ่งก่อสร้างรูปแบบใหม่ ๆ ... และที่สำคัญคือ จะต้องมีการปฎิสัมพันธ์กันของจักรกลและชีวิต
ปล. ทั้งหมดนี่ผมแปลจากทีุ่คุยผ่าน MSN กับเพื่อนเป็นภาษาอังกฤษ พี่แกเล่นพิมพ์มาแบบเป็นชุด ผมก็ง่วง ๆ แปลผิดบ้างถูกบ้าง ... ผิดพลาดประการใดต้องขออภัยละกันครับ
ผมไปนอนก่อนละ ... จะตีสี่แล้ว ~~
แก้ไขล่าสุด: 28/7/2554 03:50 โดย nana_idol
ขอบคุณมากนะคะ ว่าแต่ จาก The Blob เหนอะ เคี้ยวโลก ... มันไปถึง หุ่นยนต์ ได้ไงเนี่ย แหะ ๆ
โอ้ว ขอบคุณมากครับที่ทำให้ได้รู้จัก Cyberpunk / Post-nuke มากขึ้นกว่าเดิมมาก ๆ จากที่ไม่เคยรู้จักมาก่อน
คุณอาท เราไม่คิดว่าเรารู้เยอะหรอก มันก็แค่การอ่าน ดู จดจำ แล้วก็นำมาถกเถียง หาข้อแลกเปลี่ยนเท่านั้น อาจจะเพราะสนใจอะไรพวกนี้เลยมี source เป็นคลังเก็บไว้
ทุกอย่างมาจากหม้อ"สยองขวัญ"ทั้งนั้นแหละ ที่ทำให้เรางอกเงย แต่เราก็คิดว่ายังมีอะไรต้องเรียนรู้อีกเยอะ และมันก็ดีถ้าได้มาแลกเปลี่ยน ถ่ายโอนความคิดกัน
ทุกอย่างมาจากหม้อ"สยองขวัญ"ทั้งนั้นแหละ ที่ทำให้เรางอกเงย แต่เราก็คิดว่ายังมีอะไรต้องเรียนรู้อีกเยอะ และมันก็ดีถ้าได้มาแลกเปลี่ยน ถ่ายโอนความคิดกัน
ไม่ ขนาดนั้นหรอกครับผมเชื่อว่ามีคนที่รู้มากกว่าผมอีกเยอะ เขาอาจจะอ่านเฉยๆโดยไม่แสดงตัวหรือความเห็นใดๆก็ได้ผมเชื่ออย่างนั้นจริงๆ ผมก็รู้จักเว็บนี้ตั้งแต่สมัยที่ยังเป็นส่วนหนึ่งของเว็บ
pantip.com ก็ตามอ่านมาเรื่อยๆโดยที่ไม่เคยโพสหรือแสดงความคิดเห็นสักครั้งจนย้ายมาเป็น เว็บ horrorclub ได้พักใหญ่ผมถึงเริ่มโพสบ้าง ต้องขอบอกตามตรงเลยจะโกรธกันก็ขออภัย
ไว้ด้วยนะครับ ว่าตอนแรกที่ไม่ได้โพสอะไรผมมองว่าเป็นเพียงการดูเพื่อความสนุกผ่านๆไปเท่า นั้นไม่ได้จริงจังอะไร และไม่เข้าใจกับกระทู้ฉายหนังเอามากๆตอนนี้ก็ยังไม่เข้าใจอยู่ 555
--------------------------
คือเราว่ามันมีอยู่แล้วคนที่รู้เยอะ แต่ไม่ตอบ เพราะเค้าก็จะมีที่เฉพาะไว้คุยกัน
ซึ่งเราก็ไม่รู้ว่าเค้ามองว่าการเข้ามาตอบ เป็นการทำตัวเมนสตรีมรึว่ายังไง เหมือนกับพยายามปิดกั้นตัวเองอยู่แต่ในที่ของตัวเอง ไม่คลุกคลี
เราว่ามันก็เหมือนคนพวกนี้เซท firewall ขึ้นมาเพื่อจะบอกว่า เราต่างจากพวกดูหนังสยองขวัญเมนสตรีม หนังสยองบ๊อก ออฟฟิส เราไม่จำเป็นต้องเข้าไปปฏิสัมพันธ์อะไรกับคนพวกนี้ เพราะคนพวกนี้
ไม่ได้ดูหนัง ไม่ได้รู้หนังสยองขวัญขั้นลึกแบบเรา ไม่ใช่ชนชั้นเดียวกับเรา (ประมาณคนดูหนังอาร์ท ไม่อยากคลุกคลีกับคนดูหนังเมนสตรีม).... คือโอเคอาจจะมีเหตุผลอื่นเช่น คนกลุ่มนี้มองว่าไม่อยากตอบ
เพราะเหมือนอวดภูมิ... แต่เราคิดว่าสุดท้ายการอยู่ในสังคมก็เป็นเรื่องการปฏิสัมพันธ์ การสื่อสาร แลกเปลี่ยนความคิดเห็นนั้นแหละ ถ้าคุณไม่เข้ามา คุณก็จะไม่รู้ว่ามีอะไรเปลี่ยนแปลง เปลี่ยนไปในโลกบ้าง
ผู้คนเค้าคิดยังไงกับหนังสยองในปัจจุบัน หนังมันก็เป็นแฟชั่นอ่ะ มันเปลี่ยนไปตามยุคสมัย เราก้าวผ่านยุคหนังslasher มาเป็น gore จนจะไป found footage และความคิดคนที่มีต่อหนัง
สยองขวัญก็เปลี่ยนไปเช่นบางคนที่บอกชอบหนังผีๆ แต่รับไม่ได้กับหนังกอร์ torture porn...
คือยิ่งคุณแบ่งแยก มันก็ยิ่งเกิดชนชั้นในคนดูหนังสยองนั้นแหละ และสุดท้ายมันก็จะมีไอ้ความคิดฝังหัวไปกับคนดูหนังเมนสตรีมแบบ กระทู้ที่มีคนมาชวนเล่นเกมส์ทายหนังสยองที่แป้กนั้นแหละ คือพวกนึงก็จะรู้สึกฉันไม่รู้
ฉันขอคลานเข่าอยู่ในเรือนท่านเจ้าคุณ มิบังอาจโชว์พละคลังแสงปัญญาอันน้อยนิดกับผู้รู้ ที่ทำให้ฉันรู้สึกว่าตัวเองไม่รู้อะไร แค่สนุกสนานไปวันๆ ...แล้วก็นำไปสู่การกระทำ"ขอเป็นผู้อ่านอย่างเดียวดีกว่า"
แล้วสุดท้ายบอร์ดก็จะเงียบ แป้ก...
พูดมายืดยาว คือเราว่าถ้าเดินเข้ามาคุยก็เดินเข้ามาคุย นั่งพื้นกินข้าวเหนียวจกลาบด้วยกันนั้นแหละครับ บางทีเฮฮาด้วยกัน ก็ดีกว่าอ่านหนังสืออยู่คนเดียว
ส่วนเรื่องกระทู้ฉายหนัง อันนี้แล้วแต่คนครับ
ป.ล. เดี๋ยวจะคิดว่าเราโกรธ คือไม่โกรธนะ แต่เมื่อคุณแสดงความเห็นออกมา เราก็พูดสิ่งที่เราคิดกลับไป ไม่ได้คิดว่าห้ามคิดต่างหรอก ยังไงก็มองว่าเป็นสมาชิกคนนึงที่มีความรู้ ความเห็นน่าสนใจและเป็นประโยชน์ท่านนึงครับ
pantip.com ก็ตามอ่านมาเรื่อยๆโดยที่ไม่เคยโพสหรือแสดงความคิดเห็นสักครั้งจนย้ายมาเป็น เว็บ horrorclub ได้พักใหญ่ผมถึงเริ่มโพสบ้าง ต้องขอบอกตามตรงเลยจะโกรธกันก็ขออภัย
ไว้ด้วยนะครับ ว่าตอนแรกที่ไม่ได้โพสอะไรผมมองว่าเป็นเพียงการดูเพื่อความสนุกผ่านๆไปเท่า นั้นไม่ได้จริงจังอะไร และไม่เข้าใจกับกระทู้ฉายหนังเอามากๆตอนนี้ก็ยังไม่เข้าใจอยู่ 555
--------------------------
คือเราว่ามันมีอยู่แล้วคนที่รู้เยอะ แต่ไม่ตอบ เพราะเค้าก็จะมีที่เฉพาะไว้คุยกัน
ซึ่งเราก็ไม่รู้ว่าเค้ามองว่าการเข้ามาตอบ เป็นการทำตัวเมนสตรีมรึว่ายังไง เหมือนกับพยายามปิดกั้นตัวเองอยู่แต่ในที่ของตัวเอง ไม่คลุกคลี
เราว่ามันก็เหมือนคนพวกนี้เซท firewall ขึ้นมาเพื่อจะบอกว่า เราต่างจากพวกดูหนังสยองขวัญเมนสตรีม หนังสยองบ๊อก ออฟฟิส เราไม่จำเป็นต้องเข้าไปปฏิสัมพันธ์อะไรกับคนพวกนี้ เพราะคนพวกนี้
ไม่ได้ดูหนัง ไม่ได้รู้หนังสยองขวัญขั้นลึกแบบเรา ไม่ใช่ชนชั้นเดียวกับเรา (ประมาณคนดูหนังอาร์ท ไม่อยากคลุกคลีกับคนดูหนังเมนสตรีม).... คือโอเคอาจจะมีเหตุผลอื่นเช่น คนกลุ่มนี้มองว่าไม่อยากตอบ
เพราะเหมือนอวดภูมิ... แต่เราคิดว่าสุดท้ายการอยู่ในสังคมก็เป็นเรื่องการปฏิสัมพันธ์ การสื่อสาร แลกเปลี่ยนความคิดเห็นนั้นแหละ ถ้าคุณไม่เข้ามา คุณก็จะไม่รู้ว่ามีอะไรเปลี่ยนแปลง เปลี่ยนไปในโลกบ้าง
ผู้คนเค้าคิดยังไงกับหนังสยองในปัจจุบัน หนังมันก็เป็นแฟชั่นอ่ะ มันเปลี่ยนไปตามยุคสมัย เราก้าวผ่านยุคหนังslasher มาเป็น gore จนจะไป found footage และความคิดคนที่มีต่อหนัง
สยองขวัญก็เปลี่ยนไปเช่นบางคนที่บอกชอบหนังผีๆ แต่รับไม่ได้กับหนังกอร์ torture porn...
คือยิ่งคุณแบ่งแยก มันก็ยิ่งเกิดชนชั้นในคนดูหนังสยองนั้นแหละ และสุดท้ายมันก็จะมีไอ้ความคิดฝังหัวไปกับคนดูหนังเมนสตรีมแบบ กระทู้ที่มีคนมาชวนเล่นเกมส์ทายหนังสยองที่แป้กนั้นแหละ คือพวกนึงก็จะรู้สึกฉันไม่รู้
ฉันขอคลานเข่าอยู่ในเรือนท่านเจ้าคุณ มิบังอาจโชว์พละคลังแสงปัญญาอันน้อยนิดกับผู้รู้ ที่ทำให้ฉันรู้สึกว่าตัวเองไม่รู้อะไร แค่สนุกสนานไปวันๆ ...แล้วก็นำไปสู่การกระทำ"ขอเป็นผู้อ่านอย่างเดียวดีกว่า"
แล้วสุดท้ายบอร์ดก็จะเงียบ แป้ก...
พูดมายืดยาว คือเราว่าถ้าเดินเข้ามาคุยก็เดินเข้ามาคุย นั่งพื้นกินข้าวเหนียวจกลาบด้วยกันนั้นแหละครับ บางทีเฮฮาด้วยกัน ก็ดีกว่าอ่านหนังสืออยู่คนเดียว
ส่วนเรื่องกระทู้ฉายหนัง อันนี้แล้วแต่คนครับ
ป.ล. เดี๋ยวจะคิดว่าเราโกรธ คือไม่โกรธนะ แต่เมื่อคุณแสดงความเห็นออกมา เราก็พูดสิ่งที่เราคิดกลับไป ไม่ได้คิดว่าห้ามคิดต่างหรอก ยังไงก็มองว่าเป็นสมาชิกคนนึงที่มีความรู้ ความเห็นน่าสนใจและเป็นประโยชน์ท่านนึงครับ
แก้ไขล่าสุด: 28/7/2554 11:15 โดย AguileraAnimato
กลายเป็นกระทู้ที่ดีไปอีกกระทู้ แต่อย่างที่คุณ จขกท. แกบอก ว่าจาก "หนืดเคี้ยวโลก" กลายมาเป็น "Cyberpunk" ได้อย่างไรกัน
ผมเข้าใจคุณ Skull Terror ครับ ในหลาย ๆ แง่มุม และไม่ได้จะโกรธอะไรด้วย เพราะผมเชื่อเสมอว่าโลกเรามันต้องคิดต่าง ถ้าไม่คิดต่างอะไรหลาย ๆ อย่างก็จะไม่เกิดขึ้น ... และหวังว่าเราจะได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นอะไรหลาย ๆ อย่างกันอีกครับ
ส่วนไอ้เรื่องกระทู้ฉายหนังนี่ แวปแรกที่เห็นผมก็คิดเหมือนคุณน่ะ ว่ามันมีไปทำไม ทำไปได้อะไร ทำไมไม่ไปหาตัวหนังมาดูเลยถ้าอยากดูจริง ๆ ... แต่ต้องยอมรับครับ หลังจากได้คุย ๆ กับเพื่อนหลาย ๆ คนในเวป เขาถูกจำกัดด้วย อะไรหลาย ๆ อย่าง ที่ไม่สามารถทำให้ไปหาหนังหายาก ๆ บางเรื่องมารับชมได้
ดังนั้นไหน ๆ ก็เปิดประเด็นกระทู้ฉายหนังละ ผมขอคอมเมนต์อะไรหน่อยละกัน ... คือไม่ใช่อะไรหรอก อยากจะให้หนังที่เอามาฉายมัน rare หน่อยอ่ะ ไม่ใช่หนังหาง่าย ๆ ตามร้านเช่า เพราะเชื่อว่าทุกคนคงหากันได้ และผมเชื่อว่ายิ่งคุณหาหนังที่ rare เท่าไรมาฉายได้ เชื่อเถอะครับ คนจะยิ่งมาสนใจกระทู้ของคุณมากเท่านั้น (อันนี้ความเห็นส่วนตัวผมนะ ... อย่าว่ากันละ)
ส่วนกลุ่มคนที่อ่านแล้วไม่โพส ... อันนี้ผมมองว่าเป็นสิทธิของเขาครับ เพราะในเวปบอร์ดหลาย ๆ เวป ผมก็เลือกที่จะอ่านอย่างเดียวเหมือนกัน
เอาล่ะ ... ทั้งหมดเป็นความเห็นของผม และไม่ได้โกรธใครอะไรทั้งนั้นนะ เอาเป็นว่าแลกเปลี่ยนความเห็นกันครับ
ปล. สำหรับใครที่เป็นแฟนของหนัง Cyberpunk เป็นที่น่าเสียดายว่า ชะตากรรมของ Neuromancer ในรูปแบบภาพยนต์ (ซึ่งเข้าใจว่านี่เป็นครั้งแรกใช่มะ ที่มีการสร้างเรื่องนี้เป็นภาพยนต์) อาจเจอโรคเลื่อนครับ ... Neuromancer ถูกจัดว่าเป็นหนึ่งในห้านิยายวิทยาศาสตร์ที่กลายมาเป็นความจริง ซึ่งก็คือเรื่องของระบบ Cyberspace หรือ World wide Web ที่เรารู้จักกันดี และก็ในเรื่องของ Avatar, Virtual Reality อย่างเกมส์ออนไลน์ที่เราเล่นกันนั้นละ
เพราะเท่าที่ดูแม้ว่า Vincenzo Natali (Cube, Splice) ยังคงมีชื่อในแท่นผู้กำกับ แต่พี่แกก็ไปทำงานเรื่องอื่นตัดหน้าเรื่องนี้แล้ว ทั้ง ๆ ที่ตอนแรกจะสานต่อหลังความสำเร็จ (รึเปล่า?) ของ Splice ... ใครเป็นแฟน ๆ ก็คอยสวดมนต์เอาใจช่วยละกันครับ โดยส่วนตัวผมอยากเห็นโลก Cyberpunk ของ Vincenzo Natali จริง ๆ ว่าจะออกมาเป็นอย่างไร
ผมเข้าใจคุณ Skull Terror ครับ ในหลาย ๆ แง่มุม และไม่ได้จะโกรธอะไรด้วย เพราะผมเชื่อเสมอว่าโลกเรามันต้องคิดต่าง ถ้าไม่คิดต่างอะไรหลาย ๆ อย่างก็จะไม่เกิดขึ้น ... และหวังว่าเราจะได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นอะไรหลาย ๆ อย่างกันอีกครับ
ส่วนไอ้เรื่องกระทู้ฉายหนังนี่ แวปแรกที่เห็นผมก็คิดเหมือนคุณน่ะ ว่ามันมีไปทำไม ทำไปได้อะไร ทำไมไม่ไปหาตัวหนังมาดูเลยถ้าอยากดูจริง ๆ ... แต่ต้องยอมรับครับ หลังจากได้คุย ๆ กับเพื่อนหลาย ๆ คนในเวป เขาถูกจำกัดด้วย อะไรหลาย ๆ อย่าง ที่ไม่สามารถทำให้ไปหาหนังหายาก ๆ บางเรื่องมารับชมได้
ดังนั้นไหน ๆ ก็เปิดประเด็นกระทู้ฉายหนังละ ผมขอคอมเมนต์อะไรหน่อยละกัน ... คือไม่ใช่อะไรหรอก อยากจะให้หนังที่เอามาฉายมัน rare หน่อยอ่ะ ไม่ใช่หนังหาง่าย ๆ ตามร้านเช่า เพราะเชื่อว่าทุกคนคงหากันได้ และผมเชื่อว่ายิ่งคุณหาหนังที่ rare เท่าไรมาฉายได้ เชื่อเถอะครับ คนจะยิ่งมาสนใจกระทู้ของคุณมากเท่านั้น (อันนี้ความเห็นส่วนตัวผมนะ ... อย่าว่ากันละ)
ส่วนกลุ่มคนที่อ่านแล้วไม่โพส ... อันนี้ผมมองว่าเป็นสิทธิของเขาครับ เพราะในเวปบอร์ดหลาย ๆ เวป ผมก็เลือกที่จะอ่านอย่างเดียวเหมือนกัน
เอาล่ะ ... ทั้งหมดเป็นความเห็นของผม และไม่ได้โกรธใครอะไรทั้งนั้นนะ เอาเป็นว่าแลกเปลี่ยนความเห็นกันครับ
ปล. สำหรับใครที่เป็นแฟนของหนัง Cyberpunk เป็นที่น่าเสียดายว่า ชะตากรรมของ Neuromancer ในรูปแบบภาพยนต์ (ซึ่งเข้าใจว่านี่เป็นครั้งแรกใช่มะ ที่มีการสร้างเรื่องนี้เป็นภาพยนต์) อาจเจอโรคเลื่อนครับ ... Neuromancer ถูกจัดว่าเป็นหนึ่งในห้านิยายวิทยาศาสตร์ที่กลายมาเป็นความจริง ซึ่งก็คือเรื่องของระบบ Cyberspace หรือ World wide Web ที่เรารู้จักกันดี และก็ในเรื่องของ Avatar, Virtual Reality อย่างเกมส์ออนไลน์ที่เราเล่นกันนั้นละ
เพราะเท่าที่ดูแม้ว่า Vincenzo Natali (Cube, Splice) ยังคงมีชื่อในแท่นผู้กำกับ แต่พี่แกก็ไปทำงานเรื่องอื่นตัดหน้าเรื่องนี้แล้ว ทั้ง ๆ ที่ตอนแรกจะสานต่อหลังความสำเร็จ (รึเปล่า?) ของ Splice ... ใครเป็นแฟน ๆ ก็คอยสวดมนต์เอาใจช่วยละกันครับ โดยส่วนตัวผมอยากเห็นโลก Cyberpunk ของ Vincenzo Natali จริง ๆ ว่าจะออกมาเป็นอย่างไร

กระทู้ฉายหนัง
เราว่ามันอารมณ์แบบ กระทู้ละครออนพันทิปนะ ที่แบบคนดูละครเรื่องนึงจะแคปหน้าจอกันสดๆ แล้วมานั่งโพสรูปเล่าเรื่อง กัน แล้วแฟนละครก็จะแห่กันมาคุยถึงละคร
กระทู้ฉายหนังโหดก็ประมาณนั้นแหละ
1. ให้แฟนหนังมาคุยกัน เสมือนฉายหนังดูด้วยกัน (ในความเป็นจริงเราไม่สามารถเช่าหนังมาแล้วดูพร้อมกันได้)
2. แลกเปลี่ยนความเห็นกับหนัง
3. บางคนไม่อยากดูภาพเคลื่อนไหวก็มาดูภาพนิ่ง และการบรรยายแทน
และ 4. เหตุที่ทำให้กระทู้หนังโหดก่อกำเนิดคือ ตอนเรื่อง teeth ตอนนั้นมีข่าวหนังจะไม่เข้า แล้วหลายคนก็อยากดูมาก เลยมีคนแคปหนังทั้งเรื่องมาบรรยายเรื่องราว มันเลยเป็นการกำเนิดขึ้นมานั้นคือ เอาหนังหายากมาให้ทุกคนดู
คืออย่าลืมว่าไม่ใช่ทุกคนจะรู้แหล่งขายหนัง บิททอเรนท์ และบางคนก็แค่อยากเปิดหูเปิดตาหนังแปลกๆ ไม่ได้ถึงขั้นจะหามาดูแบบเรียลๆ
แต่จริงๆหลายคนก็ดูจากในกระทู้แล้วเค้าก็ไปหาหนังจริงมาดูต่อนะ....
ป.ล. เห็นด้วยมากๆ---> อยาก จะให้หนังที่เอามาฉายมัน rare หน่อยอ่ะ ไม่ใช่หนังหาง่าย ๆ ตามร้านเช่า เพราะเชื่อว่าทุกคนคงหากันได้ และผมเชื่อว่ายิ่งคุณหาหนังที่ rare เท่าไรมาฉายได้ เชื่อเถอะครับ คนจะยิ่งมาสนใจกระทู้ของคุณมากเท่านั้น
+
ความเห็นเรา
หนังที่หาง่าย คนส่วนใหญ่เค้าดูกันแล้ว เพราะฉะนั้นระดับความน่าสนใจในกระทู้ก็จะลดลง เพราะทุกคนผ่านการมองเห็นแบบภาพเคลื่อนไหวมาแล้วนะครับ มันเลยไม่ได้รู้สึกตื่นเต้นพอจะเปิดมาดูอะไรที่ถูกfreeze ให้เป็น frame ภาพนิ่งอ่ะ...
เราว่ามันอารมณ์แบบ กระทู้ละครออนพันทิปนะ ที่แบบคนดูละครเรื่องนึงจะแคปหน้าจอกันสดๆ แล้วมานั่งโพสรูปเล่าเรื่อง กัน แล้วแฟนละครก็จะแห่กันมาคุยถึงละคร
กระทู้ฉายหนังโหดก็ประมาณนั้นแหละ
1. ให้แฟนหนังมาคุยกัน เสมือนฉายหนังดูด้วยกัน (ในความเป็นจริงเราไม่สามารถเช่าหนังมาแล้วดูพร้อมกันได้)
2. แลกเปลี่ยนความเห็นกับหนัง
3. บางคนไม่อยากดูภาพเคลื่อนไหวก็มาดูภาพนิ่ง และการบรรยายแทน
และ 4. เหตุที่ทำให้กระทู้หนังโหดก่อกำเนิดคือ ตอนเรื่อง teeth ตอนนั้นมีข่าวหนังจะไม่เข้า แล้วหลายคนก็อยากดูมาก เลยมีคนแคปหนังทั้งเรื่องมาบรรยายเรื่องราว มันเลยเป็นการกำเนิดขึ้นมานั้นคือ เอาหนังหายากมาให้ทุกคนดู
คืออย่าลืมว่าไม่ใช่ทุกคนจะรู้แหล่งขายหนัง บิททอเรนท์ และบางคนก็แค่อยากเปิดหูเปิดตาหนังแปลกๆ ไม่ได้ถึงขั้นจะหามาดูแบบเรียลๆ
แต่จริงๆหลายคนก็ดูจากในกระทู้แล้วเค้าก็ไปหาหนังจริงมาดูต่อนะ....
ป.ล. เห็นด้วยมากๆ---> อยาก จะให้หนังที่เอามาฉายมัน rare หน่อยอ่ะ ไม่ใช่หนังหาง่าย ๆ ตามร้านเช่า เพราะเชื่อว่าทุกคนคงหากันได้ และผมเชื่อว่ายิ่งคุณหาหนังที่ rare เท่าไรมาฉายได้ เชื่อเถอะครับ คนจะยิ่งมาสนใจกระทู้ของคุณมากเท่านั้น
+
ความเห็นเรา
หนังที่หาง่าย คนส่วนใหญ่เค้าดูกันแล้ว เพราะฉะนั้นระดับความน่าสนใจในกระทู้ก็จะลดลง เพราะทุกคนผ่านการมองเห็นแบบภาพเคลื่อนไหวมาแล้วนะครับ มันเลยไม่ได้รู้สึกตื่นเต้นพอจะเปิดมาดูอะไรที่ถูกfreeze ให้เป็น frame ภาพนิ่งอ่ะ...
ปกติ นัทก็แทบจะไม่เป็นสมาชิกเวบไหนเลยค่ะ มีเวบนี้เวบแรก ที่เป็นสมาชิกแบบจริงจัง ส่งบัตรประชาชน นโน่นนี่นั่น สร้างกระทู้ นั่งไล่ดูแต่ละกระทู้ ตอบกระทู้ ...ไม่รู้สิ นัทเพิ่งมาใหม่ แต่ขอบอกว่า นัทชอบเวบนี้มากค่ะ
เคยเห็นที่พันทิป ก็อ่านเฉยๆ ไม่ได้คิดจะตอบหรืออะไรด้วย ไม่เป็น สมาชิกพันทิป ด้วย ...แต่เวบนี้มันเฉพาะกลุ่มอ่ะ ในความเข้าใจของนัทนะ :) ดีค่ะ
และนัทรู้ว่าทำไมจาก เหนอะ เคี้ยวโลก มาเป็น cyberpunk ... เพราะมันเริ่มจากที่นัทเพิ่งรู้ว่าชอบแนว sci-fi มั้ง คุณ Skull Terror เลยแนะนำให้ดู 2 แนวนี้นะคะ เป็นความรู้มากๆ ขอบคุณนะคะทุกคน
เคยเห็นที่พันทิป ก็อ่านเฉยๆ ไม่ได้คิดจะตอบหรืออะไรด้วย ไม่เป็น สมาชิกพันทิป ด้วย ...แต่เวบนี้มันเฉพาะกลุ่มอ่ะ ในความเข้าใจของนัทนะ :) ดีค่ะ
และนัทรู้ว่าทำไมจาก เหนอะ เคี้ยวโลก มาเป็น cyberpunk ... เพราะมันเริ่มจากที่นัทเพิ่งรู้ว่าชอบแนว sci-fi มั้ง คุณ Skull Terror เลยแนะนำให้ดู 2 แนวนี้นะคะ เป็นความรู้มากๆ ขอบคุณนะคะทุกคน
ขอตอบในส่วนตัวผมแล้วกัน เรื่องการต่อต้านความเป็น mainstream กับการไม่ชอบคนที่ชอบ mainstream นี่อาจจะเป็นเฉพาะบางคน ผมยอมรับว่าผมคือคนหนึ่งที่ต่อต้านความเป็น mainstream แต่คงไม่ได้ไปก้าวก่ายคนที่รักที่ชอบอะไรแบบนั้น ผมมองเพียงแค่ว่า mainstream คือความไม่เป็นเนื้อแท้ การล่อหลอกด้วยเพียงผิวหน้า และลูกเล่นทางการตลาด ทำให้หนังเหล่านั้นไม่บริสุทธิ บ่นเปื้อนไปด้วยเล่ห์เหลี่ยมทางธุรกิจ การแสวงหาผลกำไร แถมบ้างครั้งยังใส่ข้อมูลที่ผิดๆลงไป มันทำให้ภาพยนตร์หรือสื่ออื่นๆเป็นเพียงสินค้าอย่างหนึ่งเท่านั้น ที่ไม่ได้โพสก็ไม่ใช่เพราะตัวตัวโอดโอ้หรือแบ่งวรรณะของตนเอง เพียงแต่คิดว่ามันจะผิดที่ผิดทางเท่านั้น
ส่วนไอ้กระทู้ฉายหนังนี่ผมอาจจะพิมพ์ไม่กระจ่างเอง คือตอนแรกผมก็เข้าใจนะว่า มันจะมีเหตุผลทางด้านลิขสิทธิ์หรืออะไร เอาหนังมาโพสเพื่อแลกเปลี่ยนพูดคุยในหนังเรื่องนั้นๆอันนี้ผมเข้าใจแต่แรก แต่ที่ไม่เข้าใจคือไอ้คำบรรยายที่ผิดไปจากเรื่องแล้วก็เป็นตลกๆอะไรไปเลยนี่ผมไม่เข้าใจจริงๆ แล้วมันกลับไปทำรายเหตุผลที่ผมเข้าใจไปตอนแรกด้วย ก็เลยกลับเป็นไม่เข้าใจเหมือนเดิม
คุณนัทผมหมายถึงว่าเว็บนี้แต่ก่อนคือเป็นส่วนหนึ่งในห้อง เฉลิมไทย ของเว็บ pantip ครับ แล้วก็ถูกปิดตัวลงก็เลยย้ายมาเป็น horrorclub.net
ส่วนไอ้กระทู้ฉายหนังนี่ผมอาจจะพิมพ์ไม่กระจ่างเอง คือตอนแรกผมก็เข้าใจนะว่า มันจะมีเหตุผลทางด้านลิขสิทธิ์หรืออะไร เอาหนังมาโพสเพื่อแลกเปลี่ยนพูดคุยในหนังเรื่องนั้นๆอันนี้ผมเข้าใจแต่แรก แต่ที่ไม่เข้าใจคือไอ้คำบรรยายที่ผิดไปจากเรื่องแล้วก็เป็นตลกๆอะไรไปเลยนี่ผมไม่เข้าใจจริงๆ แล้วมันกลับไปทำรายเหตุผลที่ผมเข้าใจไปตอนแรกด้วย ก็เลยกลับเป็นไม่เข้าใจเหมือนเดิม
คุณนัทผมหมายถึงว่าเว็บนี้แต่ก่อนคือเป็นส่วนหนึ่งในห้อง เฉลิมไทย ของเว็บ pantip ครับ แล้วก็ถูกปิดตัวลงก็เลยย้ายมาเป็น horrorclub.net
อ่อ เข้าใจล่ะครับเรื่องกระทู้ฉายหนัง
อันนี้ในความเห็นเราที่อยากแชร์นะ
สำหรับเรา เราเฉยๆในการที่มีคนเอา"ภาพเคลื่อนไหว" ไปทำเป็น "ภาพนิ่ง" แล้วบรรยาย
ถ้ามองในแง่ศิลปะ เราไม่คิดว่ามันเป็นการทำลาย แต่มันคือการtransform จากภาพยนตร์ไปสู่ความเป็นวรรณกรรม ก็คืองานเขียน (อันนี้มุมมองผู้อื่นอาจจะมองว่ากะอีแค่พิมพ์ในเนทจะเป็นงานเขียนได้ไง แต่สำหรับเรา เราถือว่ามันนับได้)...
แล้วการทำกระทู้ฉายหนังจะต่างอะไรกับการ "รีเมค" หนังเล่า เมื่อหนังถูกนำมาถ่ายทอดใหม่ ทำใหม่ เผยแพร่ใหม่ เพียงแต่มันถูกใส่ลงไปใน form ที่ไม่ใช่ฟิลม์หรือดิจิตอล หัวเทป แต่เป็นหน้าจอ เป็นไซเบอร์... แล้วแน่นอนว่าในฐานะผู้ประพันธ์ หรือคนพากย์ พวกเค้ามีสิทธิ์ที่จะใส่ความเป็น auteur มุมมองการตีความออกไป แม้ว่านั้นคือการใส่มุกตลก หรือเสียงหัวเราะก็ตาม... คือถ้าคุณชอบความเป็นออริจินัล คุณก็ดูแบบหนังไปนั้นแหละครับ เพราะเราก็ไม่ได้คลิ๊กดูกระทู้ฉายหนังทุกเรื่อง...
ก็เหมือนที่เราคิดนั้นแหละ คือศิลปะมันไม่หยุดนิ่งและมันเคลื่อนไหวไปเรื่อยๆ เปลี่ยนจากมือหนึ่งไปอีกมือหนึ่ง จากคนดู ก็กลายเป็นคนพากย์ เกิดการตีความใหม่ๆขึ้น ศิลปะแต่ละแขนงก็ส่องแสงถึงกัน ภาพยนตร์ งานเขียน เช่นนี้ แม้กระทู้ฉายหนังโหดจะไม่ได้เป็นปรากฎการณ์อะไรก็ตาม แต่เราคิดว่ามันก็เป็นก้าวที่น่าสนใจอย่างนึงนะครับ
ป.ล. ส่วนตัวนิดนึง เราสนุกกับกระทู้ฉายหนังโหด ที่มันตลก แต่เราจะไม่ชอบกระทู้ที่เล่าเรื่องจนออกทะเล หรือทำให้สาส์นของเรื่องเป๋ไป หายไป (บางคนอาจจะไม่ได้ละเอียดที่จะมองตรงนี้ ซึ่งก็แล้วแต่คน) คือคุณจะเล่ายังไงก็ได้ พลิกพลัน เปลี่ยนชื่อตัวละคร ใส้มุกเป็นพรวน แต่พอถึงตอนจบมันก็น่าจะสรุปเรื่องได้บ้าง
อันนี้ในความเห็นเราที่อยากแชร์นะ
สำหรับเรา เราเฉยๆในการที่มีคนเอา"ภาพเคลื่อนไหว" ไปทำเป็น "ภาพนิ่ง" แล้วบรรยาย
ถ้ามองในแง่ศิลปะ เราไม่คิดว่ามันเป็นการทำลาย แต่มันคือการtransform จากภาพยนตร์ไปสู่ความเป็นวรรณกรรม ก็คืองานเขียน (อันนี้มุมมองผู้อื่นอาจจะมองว่ากะอีแค่พิมพ์ในเนทจะเป็นงานเขียนได้ไง แต่สำหรับเรา เราถือว่ามันนับได้)...
แล้วการทำกระทู้ฉายหนังจะต่างอะไรกับการ "รีเมค" หนังเล่า เมื่อหนังถูกนำมาถ่ายทอดใหม่ ทำใหม่ เผยแพร่ใหม่ เพียงแต่มันถูกใส่ลงไปใน form ที่ไม่ใช่ฟิลม์หรือดิจิตอล หัวเทป แต่เป็นหน้าจอ เป็นไซเบอร์... แล้วแน่นอนว่าในฐานะผู้ประพันธ์ หรือคนพากย์ พวกเค้ามีสิทธิ์ที่จะใส่ความเป็น auteur มุมมองการตีความออกไป แม้ว่านั้นคือการใส่มุกตลก หรือเสียงหัวเราะก็ตาม... คือถ้าคุณชอบความเป็นออริจินัล คุณก็ดูแบบหนังไปนั้นแหละครับ เพราะเราก็ไม่ได้คลิ๊กดูกระทู้ฉายหนังทุกเรื่อง...
ก็เหมือนที่เราคิดนั้นแหละ คือศิลปะมันไม่หยุดนิ่งและมันเคลื่อนไหวไปเรื่อยๆ เปลี่ยนจากมือหนึ่งไปอีกมือหนึ่ง จากคนดู ก็กลายเป็นคนพากย์ เกิดการตีความใหม่ๆขึ้น ศิลปะแต่ละแขนงก็ส่องแสงถึงกัน ภาพยนตร์ งานเขียน เช่นนี้ แม้กระทู้ฉายหนังโหดจะไม่ได้เป็นปรากฎการณ์อะไรก็ตาม แต่เราคิดว่ามันก็เป็นก้าวที่น่าสนใจอย่างนึงนะครับ
ป.ล. ส่วนตัวนิดนึง เราสนุกกับกระทู้ฉายหนังโหด ที่มันตลก แต่เราจะไม่ชอบกระทู้ที่เล่าเรื่องจนออกทะเล หรือทำให้สาส์นของเรื่องเป๋ไป หายไป (บางคนอาจจะไม่ได้ละเอียดที่จะมองตรงนี้ ซึ่งก็แล้วแต่คน) คือคุณจะเล่ายังไงก็ได้ พลิกพลัน เปลี่ยนชื่อตัวละคร ใส้มุกเป็นพรวน แต่พอถึงตอนจบมันก็น่าจะสรุปเรื่องได้บ้าง
ทำไมถึงถูกปิดตัวลงอ่ะคะ ....
คือลองอ่านๆดูกระทู้ก่อนๆ คือมันต้องจำกัด อายุรึป่าว เพราะว่าภาพ เนื้อหามันโหดไปไรงี้รึป่าวค่ะ แบบ NC20 ไรเงี่ย
คือนัทไม่รู้จริงๆ เพิ่งเข้ามาในโลกเวบแบบนี้ครั้งแรกๆ เลย ส่วนใหญ่ ทำแต่งานกะ social network อย่างเดียว
คือลองอ่านๆดูกระทู้ก่อนๆ คือมันต้องจำกัด อายุรึป่าว เพราะว่าภาพ เนื้อหามันโหดไปไรงี้รึป่าวค่ะ แบบ NC20 ไรเงี่ย
คือนัทไม่รู้จริงๆ เพิ่งเข้ามาในโลกเวบแบบนี้ครั้งแรกๆ เลย ส่วนใหญ่ ทำแต่งานกะ social network อย่างเดียว
กระทู้นี้มาเต็มอ่ะ 5555
นัทไม่ได้ทำให้เครียดกันใช่มั๊ยค่ะเนี่ย
นัทไม่ได้ทำให้เครียดกันใช่มั๊ยค่ะเนี่ย
ไม่เครียดครับ ดีครับที่ได้คุยได้แลกเปลี่ยนแต่ผมแลกเปลี่ยนกับตาสองคนนั่น (AguileraAnimato, nana_idol) บ่อยแล้วหลายกระทู้แล้วเบื่อแล้ว 40 ความคิดเห็นในกระทู้เดียว แต่มีคนตอบอยู่ 3-4 คน 555 เอาไว้ให้คนใหม่ๆเข้ามามั่ง ใครอ่านอยู่ก็กระทู้ต่อไปเชิญได้ครับ ลองแสดงความเห็นในแบบคุณดูครับ
#40 ... นัทไม่ได้ทำให้เครียดกันใช่มั๊ยค่ะเนี่ย
ผมเครียดมากเลยครับ 555+ ... ล้อเล่นนะครับ ไม่เครียดหรอกครับ คุย ๆ กันเฮฮา ตามประสาคนเมาครับ
#41 ... "เบื่อ แล้ว 40 ความคิดเห็นในกระทู้เดียว แต่มีคนตอบอยู่ 3-4 คน 555 เอาไว้ให้คนใหม่ๆเข้ามามั่ง ใครอ่านอยู่ก็กระทู้ต่อไปเชิญได้ครับ ลองแสดงความเห็นในแบบคุณดูครับ"
บอกตามตรง ผมรู้สึกเหมือนคุณเลยครับ คงเป็นเพราะกระทู้ของที่นี่มันไม่ได้มีเตือน Update ขึ้นเวลามีคนตอบกระทู้กระมั้ง ... ยังไงขอใช้พื้นที่เล็ก ๆ ตรงนี้ฝากถึงคุณปลาเก๋าด้วยละกันครับ ถ้าว่างจากงาน เมื่อใด รบกวนช่วยดูในส่วนนี้ให้หน่อยครับ ขอบคุณครับ
ผมเครียดมากเลยครับ 555+ ... ล้อเล่นนะครับ ไม่เครียดหรอกครับ คุย ๆ กันเฮฮา ตามประสาคนเมาครับ
#41 ... "เบื่อ แล้ว 40 ความคิดเห็นในกระทู้เดียว แต่มีคนตอบอยู่ 3-4 คน 555 เอาไว้ให้คนใหม่ๆเข้ามามั่ง ใครอ่านอยู่ก็กระทู้ต่อไปเชิญได้ครับ ลองแสดงความเห็นในแบบคุณดูครับ"
บอกตามตรง ผมรู้สึกเหมือนคุณเลยครับ คงเป็นเพราะกระทู้ของที่นี่มันไม่ได้มีเตือน Update ขึ้นเวลามีคนตอบกระทู้กระมั้ง ... ยังไงขอใช้พื้นที่เล็ก ๆ ตรงนี้ฝากถึงคุณปลาเก๋าด้วยละกันครับ ถ้าว่างจากงาน เมื่อใด รบกวนช่วยดูในส่วนนี้ให้หน่อยครับ ขอบคุณครับ
โอเคค่า เอาเป็นว่า กระทู้ The Blob นี้.. ริวิวเสร็จละ เปลี่ยนกระทู้ดีกว่า .. อิอิ
ไม่ได้เครียดนะครับ ถ้าเครียดจะเป็นอีกแบบนึง... หึหึ
เออคุณ skull terror ครับ สรรพนาม ตานั้น อย่าใช้กับเราเลยครับ เพราะเรายังเด็กอยู่ ใช้กับคุณ nana_idol ก็พอครับ
ป.ล. กระทู้รีพลายเยอะ แต่คนตอบ 3-4 คนเป็นเรื่องปกติครับ
เออคุณ skull terror ครับ สรรพนาม ตานั้น อย่าใช้กับเราเลยครับ เพราะเรายังเด็กอยู่ ใช้กับคุณ nana_idol ก็พอครับ
ป.ล. กระทู้รีพลายเยอะ แต่คนตอบ 3-4 คนเป็นเรื่องปกติครับ
อายุกันเท่าไหร่ค่ะนี่ 30 กันรึยัง :P
#44 ...
พูดแบบนี้ผมเสียหมด ... ผมยังไม่สามสิบเรยนะ แม้ว่าจะใกล้ ๆ แ้ล้วก็ตาม
ว่าแต่คุณหนึ่งแซงตัดหน้าผมเกินสามสิบไปรึยังละ ... 55+
พูดแบบนี้ผมเสียหมด ... ผมยังไม่สามสิบเรยนะ แม้ว่าจะใกล้ ๆ แ้ล้วก็ตาม
ว่าแต่คุณหนึ่งแซงตัดหน้าผมเกินสามสิบไปรึยังละ ... 55+
แก้ไขล่าสุด: 28/7/2554 22:04 โดย nana_idol
@nana_idol > คงเป็นเพราะกระทู้ของที่นี่มันไม่ได้มีเตือน Update ขึ้นเวลามีคนตอบกระทู้กระมั้ง ... ยังไงขอใช้พื้นที่เล็ก ๆ ตรงนี้ฝากถึงคุณปลาเก๋าด้วยละกันครับ ถ้าว่างจากงาน เมื่อใด รบกวนช่วยดูในส่วนนี้ให้หน่อยครับ ขอบคุณครับ
^
^
เห็นด้วยมากๆ อยากได้ด้วย ตอนนี้ต้องนั่งเพ่งดูวันที่กับเวลาผสมกับความทรงจำว่ากระทู้เราดูไปแล้วล่าสุดตอนไหน แล้ว ณ บัดนี้มันมี update หรือยัง
ขอความกรุณาได้โปรดเห็นใจคนชราที่สายตาไม่ดีด้วยเถิดค่ะ ^^
^
^
เห็นด้วยมากๆ อยากได้ด้วย ตอนนี้ต้องนั่งเพ่งดูวันที่กับเวลาผสมกับความทรงจำว่ากระทู้เราดูไปแล้วล่าสุดตอนไหน แล้ว ณ บัดนี้มันมี update หรือยัง
ขอความกรุณาได้โปรดเห็นใจคนชราที่สายตาไม่ดีด้วยเถิดค่ะ ^^
ูู^
^
มาช่วยยืนยันครับ ว่าพี่แก่ชราภาพ มาก ๆ แล้วจริง ๆ ... ~~
^
มาช่วยยืนยันครับ ว่าพี่แก่ชราภาพ มาก ๆ แล้วจริง ๆ ... ~~
แก้ไขล่าสุด: 28/7/2554 22:12 โดย nana_idol
งั้นนัท ก็ เด็ก สุดหน่ะสิ อิอิอิอิอิ
ไม่เข้าใจผู้ใหญ่คุยไรกัน ขอตัวไปนอนก่อนนะครับ พรุ่งนี้ต้องตื่นไปเรียนปิง คอร์สเทอร์โบ เดี๋ยวเอนท์ไม่ติด
- พี่อาทครับ ได้ข่าวว่าพี่ทำบัตรประชาชนรอบที่สามแล้วไม่ใช่เหรอครับ
- พี่อาทครับ ได้ข่าวว่าพี่ทำบัตรประชาชนรอบที่สามแล้วไม่ใช่เหรอครับ
^
^
ใช่ครับ ทำรอบแรก แล้วมันพิมพ์ชื่อผิดเลยต้องไปทำใหม่รอบสอง ... ส่วนรอบสามนี่บัตรหายครับ
ว่าแต่ผมเห็นคุณหนึ่งเรียน อ.ปิง มาเก้าปีแล้ว ... ยังเอ็นไม่ติดอีกเหรอครับ (อิอิ)
^
ใช่ครับ ทำรอบแรก แล้วมันพิมพ์ชื่อผิดเลยต้องไปทำใหม่รอบสอง ... ส่วนรอบสามนี่บัตรหายครับ
ว่าแต่ผมเห็นคุณหนึ่งเรียน อ.ปิง มาเก้าปีแล้ว ... ยังเอ็นไม่ติดอีกเหรอครับ (อิอิ)
แก้ไขล่าสุด: 28/7/2554 22:44 โดย nana_idol
มาพูดเรื่องอายุนี่ถึงกับไม่รู้จะพิมพ์อะไรเลยทีเดียว อยากรู้จริงๆหรือถามไปอย่างนั้นครับ เอาเป็นว่าปีที่ John Lennon ตาย คือปีที่ผมเกิดแล้วกันนับเองครับ
Surrealism had a great effect on me because then I realised that the imagery in my mind wasn't insanity. Surrealism to me is reality. -John Lennon-
Surrealism had a great effect on me because then I realised that the imagery in my mind wasn't insanity. Surrealism to me is reality. -John Lennon-
จาก The Blob > Cyberpunk > อายุ ... [- -"]
ดังนั้นผมขอหยุดมีส่วนร่วมในกระทู้นี้ครับ ... ก่อนจะออกนอกโลกไปกว่านี้ (55+)
ดังนั้นผมขอหยุดมีส่วนร่วมในกระทู้นี้ครับ ... ก่อนจะออกนอกโลกไปกว่านี้ (55+)
ทนไม่ไหว ขอแตกประเด็น ...
ความคิดเห็นนี้ได้แตกไปยังกระทู้ #1510
นัทนั่งขำ มากๆ จริงๆนะเนี่ย 55555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555
แว๊บ........ ไปกระทู้ 1510
แว๊บ........ ไปกระทู้ 1510
เด็กๆอย่างเราเลยนั่งงง ลุงๆป้าๆเค้าคุยอะรัยกันเว้ววว
...
...

ชอบแนวเดียวกันเลยครับ
Function Used time : 0:00:00:00.016