หาเน็ตเล่นได้เลยเขียนมาให้อ่าน...........Pig เหยื่อสังหารในวันพิพากษา

by samara17520 • วันอังคารที่ 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553 00:54
Pig เหยื่อสังหารในวันพิพากษา

เมื่อม่านหมอกแห่งรัตติกาลเปิดฉาก ดวงสุริยายังสาดส่องแสงแสนอบอุ่น สว่างจ้าแต่แสนมืดบอด ความเงียบเริ่มเข้ามาย่างกราย สายลมพัดโบกเพียงแผ่วเบาประหนึ่งโลกทั้งใบกำลังถึงวาระแห่งการแตกสลาย เงียบสงัดจนฆ่าใครบางผู้ได้ในบัดดล เป็นความเงียบที่บ้าคลั่ง ณ มุมนั้นซอกหลีบตรงนั้น หนึ่งเหยื่อกับการพันธนาการอันแสนยินดีปรีดาร่วมกับนักฆ่า สายตาที่แลจ้องเมียงมองเมตตา เปล่งประกาย แต่ก็ยะเยือกเย็นราวกับก้อนน้ำแข็ง มาสิเดินย่างมาเร็วรี่ เดินมาทางนี้ ประตูนรกเปิดอ้า

Pig (เหยื่อสังหาร)หนังสั้นภาพขาว-ดำความยาวประมาณ 22 นาที ออกฉายครั้งแรกในปี ค.ศ.1998 ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา ทุ่มทุนสร้างหนังเรื่องนี้โดยบริษัท Open Eye Productions เหยื่อสังหารเป็นผลงานการกำกับและเขียนบทโดย Mark Steven Bosko เเละ T. Michael Conway นำแสดงโดย Jim Volkert(Cop), Abdullah Bey(Cadillac), Virginia Drda(Shari), Freddie Cox(Kash), Doug Seward(Kash), Doug Seward(Roller rink black man), Anita Biondic(Roller rink white woman), Max Burkins(J.D.), Gene Foster(Cop 2), Christine Funk เเละ Alex Nine(Barber) ซึ่งผู้กำกับ Mark Steven Bosko เเละ T. Michael Conway ได้คัดเลือกให้ Jim Volkert, Abdullah Bey เเละ Virginia Drda รับบทเด่นในหนัง

Pig เหยื่อสังหาร คือเรื่องราวเร้นลับในโลกแห่งนักฆ่าอันปรากฏให้เห็นเป็นภาพขาว-ดำอย่างเก่าคร่ำครึ ณ เมืองกลางทะเลทรายเล็กๆแห่งหนึ่งในประเทศสหรัฐอเมริกา หนังชวนให้เข้าใจได้ว่านักฆ่าที่ปรากฏในเรื่องอาจจะเป็นตำรวจที่ตั้งศาลเตี้ยขึ้นเพื่อปราบเหล่าอธรรมภายในเมืองแห่งนั้นก็เป็นได้ ซึ่งทางทีมผู้เขียนบทและกำกับคือ Mark Steven Bosko เเละ T. Michael Conway อาจจะต้องการให้คนดูเข้าใจ และตีความกันเอาเองมากกว่าสร้างให้หนังเรื่องนี้เป็นรูปธรรมแบบ 100 เปอร์เซ็นต์ คนที่ได้ดูหนังเรื่องนี้จึงอาจมีทั้งที่เกลียดหรือหลงใหลคลั่งไคล้ไปเลยก็มี จากการให้สัมภาษณ์ของสองผู้กำกับหนังเรื่องนี้ Mark Steven Bosko เเละ T. Michael Conway ต้องการจะให้ Pig มีภาพการนำเสนอที่แปลกแหวกแนวกว่าหนังสายหลักปกติทั่วไป หนังเรื่องนี้จะแสดงให้เห็นถึงจิตวิญญาณแห่งนักฆ่าที่มีอย่างเต็มเปี่ยม และบอกเล่าอธิบายความสัมพันธ์ที่มีระหว่างนักฆ่าและเหยื่อของเขา ผู้กำกับหนังจะทำงานเยี่ยงศิลปินผู้รังสรรสร้างงานศิลป์อันเลอค่า กล่าวกันว่า Pig มีรูปลักษณ์เป็นนามธรรมซึ่งเปิดกว้างให้คนดูสามารถตีค่าความหมายของมันไปได้อย่างหลากหลายฉะนั้นหนังเรื่องนี้จึงมีจบจบของเรื่องในมุมมองที่แตกต่างกัน

Pig เหยื่อสังหาร คือหนังที่ได้รับอิทธิพลของศิลปะสายดาดา และเซอเรียลิสม์อย่างเข้มข้นเต็มขั้น เชื่อว่าหนังเรื่องนี้ที่ทางผู้กำกับ Mark Steven Bosko เเละ T. Michael Conway ต้องการสร้างให้ทั้งภาพและการดำเนินเนื้อหาแตกต่างและแปลกประหลาดไปจากหนังเรื่องไหนที่ใครเคยดูมา อาจกล่าวได้ว่า Pig ได้รับอิทธิพลของศิลปะสายดาดาและลัทธิเซอเรียลิสม์อย่างเต็มขั้น ซึ่งเข้าใจกันในแวดวงศิลป์ว่าศิลปะสายดาดา หรือศิลปะลัทธิดาดา(Dada Art)นั้นจงเกลียดจงชังการเดินตามแนวทางหรือลัทธิประเพณีนิยมมากแค่ไหน “ดาดา” ที่ตั้งโดย ฮันส์ อาร์ป(Hans Arp), ตริสตาน ซารา(Tristan Tzara), ฮิวโก บอล(Hugo Ball) และริชาร์ด ฮึลเซนเบค(Richard Hulsenbeck)ในราวปี พ.ศ.2459 ณ เมือง Zurich ประเทศสวิสเซอร์แลนด์ กลุ่มดาดานี้ต่างเชื่อว่า “ทุกสิ่งทุกอย่างที่ศิลปินจัดทำออกมานั้นคือศิลปะ” ศิลปะสายดาดาจะสร้างงานศิลป์ตามแบบฉบับของตน เป็นรูปงานที่มีความขัดแย้งอย่างรุนแรง เป็นงานที่เกิดจากการกระทำอันรุนแรง มีกระบวนวิธีในการสร้างงานที่ผิดปกติไปจากศิลปินโดยทั่วไป ซึ่งแน่นอนว่าหนังเรื่อง Pig เข้าข่ายข้อมูลที่กล่าวมาข้างต้นดังกล่าวทุกระเบียบนิ้ว ด้วยภาพที่แปลก เนื้อหารุนแรงเกี่ยวกับการฆ่า นองเลือด สร้างผิดประเพณีนิยม(นอกกระแสอย่างชัดเจน)

Pig ได้รับอิทธิพลของศิลปะสายเซอเรียลิสม์(Surrealism)อย่างเต็มขั้น ศิลปะสายนี้เกิดขึ้นเมื่อราวปี พ.ศ.2460 โดยมีแนวคิดสืบทอดมาจากสายดาดา โดยผู้ก่อตั้งศิลปะสายเซอเรียลิสม์ก็คือ เอินส์ อาร์ป(Ernst Arp), พิคาเบีย(Picabia) และโจอัง มีโร(Joan Miro) เซอเรียลิสม์ หรือ Surrealism คือศิลปะที่เน้นการสร้างงานแหวกม่านประเพณีนิยมอันเป็นที่คุ้นเคยกันมานาน เป็นบ่อเกิดความคิดสร้างสรรค์แนวใหม่ เน้นรูปลักษณ์แนวนามธรรมเป็นหลัก บรรยากาศเพ้อฝัน ไร้เหตุผล ซึ่งหนังเรื่อง Pig มีแทบทุกสิ่งที่กล่าวมา เหยื่อสังหารมีทั้งการแหวกม่านประเพณีนิยมในการสร้าง เป็นแนวคิดใหม่ มีบรรยากาศเพ้อฝัน องค์รวมของหนังดูไร้เหตุผล แต่มองดีๆก็มีเหตุแห่งการกระทำอันน่างวยงง

Pig เหยื่อสังหาร และพระเจ้าในวันพิพากษา(justmentDay)เปิดเรื่องด้วยฉากหนังขาว-ดำ กับดวงตาสัญลักษณ์แห่ง Open Eye Productions พร้อมฉากในเงามืดกับชายชุดดำที่กำลังจัดกระเป๋าอยู่ เขาจัดบางสิ่งบางอย่างลงกระเป๋าใบใหญ่อย่างใจเย็น เดินไปขึ้นรถและขับมันออกไปสู่สถานที่อีกแห่งหนึ่ง รกร้างว่างเปล่าอยู่กลางทะเลทราย เพื่อรับชายที่ถูกพันใบหน้าคนหนึ่ง(เหยื่อ)ออกเดินทางร่วมกันมุ่งสู่ขุมนรกอเวจี การพันธนาการกายร่างในแบบต่างๆ นักฆ่าที่เดินย่างกรายอย่างยมทูตเชื้อเชิญให้แขกผู้มาเยือนหลงใหลสู่ปลายทางการนองเลือดสุดวิปริต ในแสงสว่างอันแสนมืดบอด คือความเงียบที่บ้าคลั่ง คือการทดลองความทนทานต่อความตายอันน่าสะพรึง พร้อมจุดจบที่เราจะได้สัมผัสร่วมกันจนวินาทีสุดท้ายแห่งลมหายใจ


บทความโดย : samara17520









Replies (31)

#1samara17520 • 30/11/2553 00:55
attachment
#2samara17520 • 30/11/2553 00:55
attachment
#3samara17520 • 30/11/2553 00:55
attachment
#4samara17520 • 30/11/2553 00:55
attachment
#5samara17520 • 30/11/2553 00:56
attachment
#6samara17520 • 30/11/2553 00:56
attachment
#7samara17520 • 30/11/2553 00:56
attachment
#8samara17520 • 30/11/2553 00:56
attachment
#9samara17520 • 30/11/2553 00:56
attachment
#10samara17520 • 30/11/2553 00:56
attachment
#11samara17520 • 30/11/2553 00:56
attachment
#12samara17520 • 30/11/2553 00:57
attachment
#13samara17520 • 30/11/2553 00:57
attachment
#14samara17520 • 30/11/2553 00:58
ช่วงนี้ได้ลงมาเฝ้าห้องเก็บผังงานที่จังหวัดพัทลุง 1 อาทิตย์ มีคอมพร้อมเน็ตให้เล่นค่อยสบายหน่อย

ปล. อาทิตย์หน้าเข้าพม่าอีก....เซ็งเป็ด * ^ ^
#15Chakurae • 30/11/2553 12:05
เป็นหนังที่ดูจบแล้ว ค่อนข้างงงนะ แต่ก็ชอบครับ art ดี

:))
#16skull terror • 30/11/2553 20:07
เรื่องนี้ผมก็ชอบเหมือนกัน แถมเกล็ดเล็กน้อยให้ครับ ผู้กำกับ Rozz Williams หลังที่จากที่ทำเรื่องนี้เสร็จในปี 1998 เขาก็แขวนคอตายในปีเดียวกันนั้นเอง จริงๆแล้วเขาทำงานทาง sound มากกว่า visual แต่พอมาทำงานด้าน visual ผมว่าดูมีเอกลักษณ์ทีเดียวจะดีกว่าวง Christian Death ที่เขาทำซะอีก อิอิ

ป.ล. ขอถามหน่อยครับว่าเราตัดสินหรือมองยังไงว่าหนังเรื่องนั้นเป็น art หรือหนังทั่วๆไป ไม่ได้กวนนะครับ แต่อยากรู้มุมมองเฉยๆเห็นหลายๆคนพูดกันเรื่อง ART
#17SiowmaNZAD • 30/11/2553 22:09
หนังอาร์ทคือหนังที่ใช้สัญญะบางอย่างในการเล่าเรื่อง
ใช้บางสื่งแทนบางสื่ง เช่น ใช้สัตว์บางชนิดสื่อแทนเป็นคน ฯลฯ แล้วแต่มุมมองและความต้องการของ ผกก. เลยไม่แปลกที่เราบางคนจะดูไม่รุ้เรื่อง เพราะหนังไม่ได้ทำเพื่อความต้องการของคนดู แต่เป็นการเสนอความคิดของ ผกก.
มุมกล้องก็เ็ป็นส่วนสำคัญ หนังบางเรื่อง แช่กล้องจนง่วงเลย แล้วแต่ดุลยพินิจของ ผกก.

(เราอาจให้ความรู้ได้ไม่ค่อยละเอียดนะจ๊ะ แต่ก็อยากให้พอเข้าใจ พอดีเราเรียนฟิลม์มา)

++
#18nana_idol • 1/12/2553 01:07
จาก #16 - #17

ผมก็อยากรู้มานานแล้วเหมือนกันครับ ว่าอย่างพวก Experimental Film นี่ถือว่าเป็น ART หรือไม่ ... แล้วขอบเขตของหนังที่จะเรียกว่าเป็นงานทดลองอยู่ที่ใดหรือครับ อย่าง PIG (1998) นี่จัดว่าเป็น Experimental ได้ไหม (ผมไม่ค่อยได้ติดตามแนวนี้เท่าไรนัก เท่าที่เคยผ่านตาก็พวกงานของ Maya Deren จึงพอเดา ๆ ได้ในระดับหนึ่ง แต่อยากได้คำจำกัดที่ชัดเจนขึ้นครับ)

ปล. ยินดีที่ได้อ่านผลงานของคุณ samara17520 อีกครับ ... งานยุ่งมากไหมครับ ยังไงเอาใจช่วยให้งานเสร็จในเร็ววันนะครับ จะได้กลับมาเขียนอะไรโหด ๆ ให้ผมอ่านอีก (อิอิ)
#19skull terror • 1/12/2553 01:08
หมายถึงหนังที่ใช้ทฤษฎีเชิงสัญลักษณ์ (Symbolic) ในหนังเหรอครับ แล้ว โหดตัดโหด, โหด เลว ดี ของ จอห์น วู เป็นหนังอาร์ทไหมครับ มี Symbolic เต็มเลย ละครหลังข่าวเขาก็ใช้กัน แต่ผมเข้าใจว่าคุณหมายถึงหนังที่ยากต่อการทำความเข้าใจ? หรือแสดงความเป็น Author?

ผมหนังอาร์ทนี่มันไม่มีหรอกหรือมีก็ทุกเรื่องก็เป็นหนังอาร์ทได้หมด เพราะรูปวาดบนผืนพ้าใบทุกภาพยังถูกเรียกว่าภาพศิลป์เลย แล้วหนังที่มีกระบวนการเหมือนกันทุกเรื่องทำไมไม่เรียกว่าหนังอาร์ท บางทีอาจต้องย้อนไปถึงคำว่า ศิลปะคืออะไร ก็จะให้คำตอบว่าหนังอาร์ทคืออะไร? แต่คำว่าศิลปะคืออะไรยังถูกหักล้างด้วยศิลปะกันเองเลยครับ อย่างลัทธิศิลปะดาดา (dadaism) ที่เข้าของกระทู้กล่าวถึง ก็หักล้างทุกทิฤษฎีศิลป์ ทำทุกอย่างตรงข้ามหมดงานเหล่านั้นก็ยังถูกเรียกว่าศิลปะ

บางทีเราอาจให้คำว่า หนังอาร์ท เพื่อพักดันหลังเหล่านั้นที่เรารู้สึกว่าไกลต่อความรู้สึกเราออกไปเพียงเพราะสิ่งที่ฉาบอยู่บนวัตถุนั้นๆ มันกันระหว่างเรากับหนังทำให้เราห่างเหินทำให้เราไม่เข้าใจ เราเลยให้คำลงท้ายมันไปว่าอาร์ท แต่จริงๆแล้วอาร์ทกลับใกล้ตัวเรามากกว่าที่เราคิด

หนังทุกเรื่องเป็นหนังอาร์ทได้ ทุกๆสิ่งก็เป็นศิลปะได้ หากมันกระทบต่อจิตใจเราให้ความรู้สึกต่อเรามีคุณค่าทางจิตใจต่อเรา หนังเรื่อง "แฟนฉัน" จึงเป็นหนังอาร์ทสำหรับใครหลายๆคน ART มันอยู่ได้กับทุกระดับชั้น ทำไมเราต้องให้คุณค่าไอ้บ้าที่ไหนสักคนที่ทำห่าอะไรออกมาโดยไม่สนใจใครนอกจากตัวเอง แล้วเรียกหนังของมันว่าอาร์ท เขาอาจไม่สนใจใครหนังเขาอาจไม่มีคุณค่าสำหรับใครแต่มันมีคุณค่าและผลต่อจิตใจของเขามันก็อาร์ทได้ อย่าไปสิ่งฉาบวัตถุเหล่านั้นหลอกหลอนเรา ไม่ว่าจะ jean luc godard ยัน George Lucas ก็อาร์ทกันทั้งนั้น

หนังที่เราดูไม่รู้เรื่อง อาจเพราะสนามประสบการณ์ของเราต่างกันหรือเราไม่คุ้นเคยต่อเทคนิคการนำเสนอแบบนั้นใช้ว่าหนังเหล่านั้นทั้งหมดจะเป็นหนังอาร์ท หนังที่เรียบง่ายทำให้เราน้ำตาไหล ระเบิดภูเขา เผากระเท่า มันส์เล้าใจยิ่งนัก ทำรายได้มหาศาล กลับเป็นหนังตลาดห่วยๆ? ตรงนี้ที่ผมไม่เข้าใจทำไมเราถึงให้คุณค่า หรือศักดิ์ศรีที่สูงกว่ากับสิ่งที่เราไม่รู้จัก

ผมไม่ได้เรียนมาทางด้านภาพยนตร์และก็ไม่ได้จบศิลปะบัณฑิต ต้องขออถัยหากผิดพลาดประการใด เพราะผมไม่รู้ว่าที่มหาวิทยาลัยจริงๆแล้วเขาสอนยังไง แต่ถ้าสอนแบบ ความคิดเห็นที่ 17 บอกนี่... ผมว่าสิ่งเหล่านั้นเป็นเพียงเทคนิคและวิธีการนำเสนอเท่านั้น
#20samara17520 • 1/12/2553 01:59
ในฐานะคนที่จบมาทางด้านศิลป์นะ ผมมองว่า(ในเเง่คิดของผมเองนะ) ทุกอย่างที่ศิลปินทำคือศิลปะหมดเเหล่ะ ไม่ว่าจะเป็นทางด้านความงาม หรือความไม่งามล้วนเรียกว่าศิลปะหมดทั้งสิ้น ขึ้นอยู่ที่ว่าศิลปินต้องการสื่อถึงอะไร


"ศิลปะคือสิ่งที่มนุษย์สร้างขึ้น เเละมีความงาม ต้นไม้ ป่าเขา เเม่น้ำ ภาพที่วาดโดยช้าง จึงไม่ใช่ศิลปะ เพราะไม่ใช่เป็นผลงานของมนุษย์"
อ.จรูญ ศรียะพันธ์ อาจารย์คนเเรกผู้สอนให้ผมรู้จักการเขียนภาพสีน้ำมันบนเเคนวาด(สมัยผมเรียน Art/เน้นศิลปะไทยประยุกต์ศิลปะยุโรป)เคยพูด เเละบอกให้ผมเข้าใจถึงคำว่า ศิลปะ ประมาณนี้เสมอๆ


หนังทุกเรื่องที่ถ่ายทำจนเสร็จ หรืออาจจะไม่เร็จก็ได้....(ในความคิดของผม)คืองานศิลป์ทั้งหมด ขึ้นอยู่ที่ว่าเราจะเข้าใจ รับรู้ถึงคุณค่าของมันได้มากน้อยเเค่ไหน


ปล. ครั้งหนึ่งผมเคยวาดรูปไปจัดเเสดงที่หอศิลป์หาดใหญ่ร่วมกับเพื่อนๆที่เรียนจบศิลป์รุ่นเดียวกันมา ปรากฏมีนักสะสมภาพวาดคนหนึ่งมาถูกใจงานของผมเข้าอย่างจัง เขาชอบสะสมของเเปลก สอบถามราคา เขาให้ราคาที่เเพงพอตัวเลยทีเดียว(ตัวเลข 5 หลัก) เเค่งานดรออิ้งหยาบๆชิ้นหนึ่ง เข้ากรอบถูกๆ เเต่ขายได้ในราคานั้น....น่าจะขายนะ 555

เเต่....ผมเคยพูดไว้ว่าถ้าสอบเข้า ณ มหาลัยเเห่งหนึ่งได้ตามที่หวังจะนำภาพๆนี้ไปมอบให้บุคคลท่านหนึ่งที่เป็นที่เคารพเป็นการส่วนตัว ผมยอมเสียค่าน้ำมันรถ ค่าอาหาร +จิปาถะกว่า 4000 บาทเพื่อเอาภาพดังกล่าวไปมอบให้ใครบางคน ผมไม่เลือกเงินที่จะขายภาพในครั้งนั้น อันนี้เป็นคุณค่าด้านจิตใจ(มั๊ง)ในความคิดของผมเอง คือเราทำเเล้วเรามีความสุขทางใจ เราก็จะทำ ใครจะว่าเราบ้าก็....(ก็พวกที่เรียนจบ Art ส่วนใหญ่คนเขามองว่าเราบ้านี่นา อิอิ)




#21AguileraAnimato • 1/12/2553 02:32
เป็นประเด็นที่ถกกันได้ไม่จบไม่สิ้นจริงๆหนังอาร์ท
เหอๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
#22skull terror • 1/12/2553 03:28
ขอบตอบคุณ nana_idol ความคิดเห็นที่ 18

แต่ไม่ขอตอบเรื่อง Experimental Films นี่ถือว่าเป็น ART หรือไม่ นะครับเพราะตอบไม่ได้ 555 เอาขอบเขตของหนังที่จะเรียกว่าเป็นงานทดลองอยู่ที่ใดแล้วกันครับขอตอบข้อง่าย ข้อยากรอคนอื่นมาตอบนะครับ Experimental Films ก็คือหนังที่สร้างขึ้นเพื่อทดลองไม่ว่าจะเป็นเทคนิคหรือแนวคิดในการนำเสนอโดยต้องเป็นการทดลองตลอดทั้งเรื่องไม่ใช่เพียงตอนใดตอนหนึ่ง หรือเพียงฉากใดฉากหนึ่งเพราะมันจะกลายเป็น Experimental Shot และ Experimental Scene ไปขอบเขตง่ายๆแค่นี้เองครับจะทดลองอะไรก็ได้ครับแต่ไม่ใช่ลองทำดูแบบนี้ไม่ใช่ แต่ผมเข้าใจว่าที่คุณ nana_idol ถามนี่คงมาจากการที่คนพูดถึงเรื่องนั้นเป็นหนังทดลองเรื่องนี้หนังทดลองแล้วมันมีลักษณะหรือรูปแบบที่คล้ายๆกัน จึงพานให้คิดไปว่าต้องเป็นไอ้แบบนี้หรือเปล่าถึงเรียกว่า Experimental Films? จะตอบว่าใช่ก็ได้ไม่ใช่ก็ได้ครับถูกทุกข้อ แต่ถูกที่สุดต้องตอบว่าไม่ใช่ครับ เพราะว่ามีการคนทำหนังทดลองเพิ่มมากขึ้นทดลองหลากหลายอย่างจึงการซ้ำในวิธีการและแนวคิด หนังเหล่านั้นจึงได้กลายเป็น Genre ไปซึ่งจะเข้าไปถูกรวมใน Avant-Garde Films ที่นำมาจากลัทธิทางศิลปะ Avant-Garde Art ซึ่งมีผลงานผ่านสื่อในหลายหลายๆรูปแบบรวมทั้ง Film ซึ่งมีแนวคิกในการทำงานแบบกบฎสร้างงานศิลป์ในแนวทางใหม่ๆ โดยใช้แนวคิดแบบสุนทรียศาสตร์เป็นในหลักในการทำงาน เมื่อพูดถึง Avant-Garde ประโยคต่อไปที่จะได้ยินก็คือ ศิลปะเพื่อศิลปะ หนังทดลองที่ใช้เทคนิคที่คนอื่นทดลองทำมาก่อนนั้นจึงเข้าสู้งาน Avant-Garde ซึงเมื่อเราดูหนังทดลองเหล่านั้นหลายๆเรื่องจะเห็นแนวคิดหนึ่งทีถูกแสดงออกแทบทุกเรื่องโดยใช้เทคเนคที่หนังทดลองเคยใช้มาก่อนเอามานำเสนอ คือการที่พวกเขานำเสนอให้เห็นภาพที่มากกว่าพี่พวกเราจะเห็นได้จริงๆ ตัวอย่างเช่นคนร้องไห้เสียใจ พวกเขาไม่ได้แสดงให้เห็นเพียงภาพคนน้ำตากำลังไหลแต่มันคือเสียใจแค่ไหน เสียใจมากขนาดไหน ใส่ทุกอย่างที่เขาคิดว่าจะสื่ออารมณ์นั้นออกมาได้ (เป็นแค่ตัวอย่างนะครับนึกไรไม่ออกเลยเอาอันนี้ไปก่อนได้เห็นภาพ)

แต่งานเหล่านี้ก็ยากที่แยกออกครับว่าเป็น Experimental Films หรือ Avant-Garde Films หรือ Surrealism Films ผมขอยกตัวอย่างหนังเรื่องหนึ่งแล้วกันได้เห็นภาพอย่างชัดเจน เรื่อง Un chien andalou ในปี 1929 ผลงานการกำกับของ Luis Bunuel พูดชื่อเรื่องหลายคนอาจจำไม่ได้แต่หากบอกว่า หนังเก่าขาวดำที่เปิดฉากมามีผู้ชายเอานิ้วถ่างตาผู้หญิงคนหนึ่งแล้วเอามีดโกนกลีดดวงตา คงร้องอ้อ อย่างเรื่องนี้ถ้ามองทางกายภาพก็คงต้องเข้าข่ายทั้ง Experimental Films, Avant-Garde Films , Surrealism Films แต่ถ้าเรามาดูที่เจตนารมณ์และแนวคิดแล้ว Un chien andalou ก็คือต้นแบบของ Surrealism Films ซึ่งมีลักษณะของการปลดปลอย ความคิด เรื่องราว หรือภาพโดยผ่านจิตใต้สำนึกและไม่ใช้เหตุผลใดๆมาขัดขวางเหมือนตอนเราฝันเราจะเห็นภาพต่างๆประติดประต่อกันอย่างไม่เป็นเรื่องราวและบางทีเราอาจตกใจกับความฝันของตัวว่าทำไมเราถึงมีความคิดแบบนี้ไปได้ เช่น เราฝันถึงการร่วมรักกับคนในครอบครัว ถ้าเป็นตอนตื่นเราจะไม่คิดเรื่องแบบนี้แน่นอนเพราะเราใช้เหตุผลเข้ามาขวางกันจินตนาการนั้นไว้ แต่ในทางจิตวิทยาการฝันถึงการร่วมรักกับคนในครอบครัวนั้นหมายถึงการที่เราคิดถึงหรือห่วงใยคน คนนั้นอยู่ จิตใต้สำนึกจะแสดงออกเฉพาะสันชาตญาณไม่มีขบวนการทางเหตุผลหรือวัฒนธรรม Surrealism ก็รับแนวคิดนี้ไปใช้อย่างเต็มๆ เรื่องราวที่ไม่ประติดประต่อ ความรุนแรง sex ชิ้นส่วนของร่างกาย ขนาดของวัตถุและร่างกายที่ผิดสัดส่วน กาลเวลาที่แปลปวน ผิดที่ผิดทาง

ส่วน Experimental Films มีเจตนารมณ์เพื่อการทดลองทางด้านภาพยนตร์เป็นหลักไม่ว่าจะเป็น เทคนิคการถ่ายทำ การเล่าเรื่อง บท วิธีการนำเสนอ โดยยังไม่มีผู้ใดทำมาก่อน
และ Avant-Garde Films สร้างสรรค์แนวคิด แนวทางใหม่ๆ หัวก้าวหน้า เป็นกบฎต่อรูปแบบเดิมๆ โดยทั้งหมดอยู่บนพื้นฐานของสุนทรียศาสตร์

ทั้ง 3 แนวทางนี้มีจุดเชื่อมโยงอยู่ที่เทคนิคการถ่ายทำเพื่อค้นหาวิธีการสื่อความในแบบของตัวเองให้ได้มากที่สุด ซึ่งอาจทำให้เรารู้สึกว่ามันเป็น Experimental Films ทั้งหมด ก็อย่างที่บอกก็ต้องแยกตามแนวคิดไปครับ

ไม่รู้ผมอธิบายรู้เรื่องไหม ถ้าผิดตรงไหนไปก็บอกกล่าวด้วยครับ

ป.ล. PIG (1998) ไม่จัดว่าเป็น Experimental Films ครับมันไม่ทดลองอะไรเลยครับ เข้าข่ายของ Avant-Garde Films มากกว่าครับ แค่นี้ก่อนครับง่วงมากมาย

ทิ้งท้ายอีกหน่อยพึ่งเห็นเจ้าของกระทู้มาตอบเรื่องศิลปะ ทิ้งท้ายไปกับประโยคของนักปราชญ์ชาวฝรั่งเศส Victor Cousin ดูมันเข้ากับที่เจ้าของกระทู้ตอบดีครับ

"Art has its own reason for being"
แก้ไขล่าสุด: 1/12/2553 03:32 โดย skull terror
#23nana_idol • 1/12/2553 10:46
ที่ผมสงสัยว่า PIG (1998) เป็น Experimental ก็เพราะว่าในบทความบางตัวที่เคยได้อ่านนั้นก็เรียก PIG (1998) ว่าเป็นงานทดลองครับ ... แต่เท่าที่อ่านจาก #22 ดูแล้ว รู้สึกว่าขอบเขตที่จะทำให้ Experimental Films กลายเป็น Avant-Garde Films มันบางมากครับ เพราะขึ้นกับว่ามีคนทำมาก่อนรึยัง ดังนั้นแสดงว่า ถ้าผู้ำกำกับหนัง คิดไอเดียที่ดันไปสอดคล้องกับงานที่เคยมีคนทำมาก่อนหน้าแล้ว งานนั้นก็จะไม่ใช่งานทดลองในทันที ดังนั้นแสดงว่าผู้สร้างผลงาน (ผู้กำกับ) จำเป็นต้องหาเทคนิคและไอเดียใหม่ ๆ เข้ามาเรื่อย ๆ เพื่อสร้างงานของตัวเองให้แตกต่างออกไปใช่ไหมครับ ดังนั้น Experimental Films จึงจัดว่าเป็นหนังที่ทำให้เกิดความก้าวหน้า (เชิงศิลปะ) ในทางภาพยนต์ เพราะมันจะนำเสนออะไรใหม่ ๆ ที่ไม่มีคนทำมาก่อน (ผมเข้าใจถูกไหมครับเนี่ย ... วิเคราะห์จากที่อ่าน ไปเองซะลึกเลย)

ยังไงก็ต้องขอขอบคุณ คุณ skull terror ที่มาพิมพ์ไขข้อข้องใจให้ผม ทั้งที่ท่านง่วงขนาดนั้น ... ยังไงขอให้นอนหลับฝันดีครับ (แม้ว่าตอนที่ผมพิมพ์ Reply นี้ท่านจะตื่นแล้วก็ตาม)

ปล. อีกประเด็นหนึ่งเกี่ยวกับคำว่าหนังเรื่องไหนมัน ART ได้ไปคุยกับเพื่อนมาเมื่อเช้า เพื่อนผมเสนอว่า มันน่าจะอยู่ที่คนดูมากกว่า ถ้าหากเรามองว่าหนังทุกเรื่องมันเป็นศิลปะที่สร้างสรรค์จากศิลปิน ... แต่การเข้าถึงคำว่า ART ของผู้ชมมันต่างกัน อย่างเช่น หนังเรื่อง Amélie (2001) ถ้าผู้ชมที่ดูแล้วมองว่ามันเป็นศิลปะคงบอกว่ามัน ART แต่ถ้าดูแล้วเฉย ๆ คงมองว่ามันเป็นหนัง Comedy ธรรมดา เพราะขอบเขตคำว่า ART ในตัวแต่ละคนมันต่างกัน
#24AguileraAnimato • 1/12/2553 12:27
เรื่อง art ไม่ art เนี้ย ก็อย่างที่บอกแหละครับว่าเป็นปัจเจก ซึ่งพอมันเป็นปัจเจก เป็นอะไรที่ individual มันก็จะไม่ถูกปักหมุด ปักไมล์ให้เห็นความสำคัญกับจักรภพทางศิลปะ เพราะถือว่าเป็นกลุ่มน้อย อาจด้วยรสนิยมที่บังเอิญไปจับกระทบแล้วรู้สึก แต่ไม่ได้มีผลกระทบในแง่ศิลปะ และความสร้างสรรค์กับคนหมู่มาก จึงไม่อาจได้รับการยอมรับได้ว่าเป็นหนังอาร์ท (ผมคิดว่าเรื่องพวกนี้สังคมก็มีส่วนที่จะขนานนามหรือสร้างความเป็นศิลปะขึ้นมาเหมือนกัน)

ในขณะเดียวกันหนังที่คนกลุ่มน้อยๆห็นว่าอาร์ท คลั่งไคล้ในแบบของเค้า สุดท้ายถึงมันจะไหลเข้าสู่ขนบของหนังciltแทนนั้นแหละครับ นั้นคือเฉพาะกลุ่มที่มีคนสนใจและเล็งเห็นคุณค่าความสำคัญในตัวมัน ไม่ว่าจะแง่ศิลปะ หรืออะไรก็ตามแต่ก็ตามที่ทำให้หนังเป็นหนัง


ป.ล. แอบมาแจมเล็กๆ โดยส่วยตัวมองว่าเป็นท๊อปปิคที่ไม่มีวันตายจริงๆ สามารถคุยได้เรื่อยๆ มีไรให้ขบคิดตลอด แต่คือคุยมาเยอะแล้ว พอเจอในเนทเลยอึนๆ+วุ่นเรื่องอื่นด้วย เลขขี้เกียจพิมพ์ยาว ขออ่านอย่างเดียว
#25skull terror • 1/12/2553 13:03
ใช่ครับเพราะว่าถ้าทำในสิ่งที่คนอื่นเขาไปกันไปแล้ว มันก็ไม่ได้ทดลองอะไรแล้วนี่ครับ แต่ใช่ว่าจะกลายเป็น Avant-Garde Films ไปซะหมด เช่นผมจะสร้างหนังขึ้นมาโดยทดลองเล่าเรื่องแบบย้อนหลัง 3-2-1 คือเล่าตอนจบมาก่อน อันนี้ก็ไม่เรียกว่าหนังทดลอง และ Avant-Garde Films เพราะวิธีการและแนวคิดนี้ถูกนำไปใช้อย่างแพร่หลายแล้วครับ อีกอย่างหนึ่งมีการทดลองซ้ำกันโดยบังเอิญ มีหนังสองเรื่องออกมาโดยทดลองในวิธีการที่คล้ายๆกันโดยทั้งสองฝ่ายไม่รู้มาก่อนว่ามีคนทำมาก่อนแล้วก็ยังเรียกว่าเป็นหนังทดลองอยู่ครับ แต่ไม่ใช่ว่าผมทำหนังโดยเอากล้องตั้งไว้เฉยๆเพื่อจับความเคลื่อนไหวของ object หนึ่ง แล้วมันบังเอิญไปซ้ำกับหนังเรื่องอื่น อันนี้ก็ไม่นับว่าเป็นหนังทดลองครับ เพราะเขาทำกันมาเยอะมากมาายแล้วคือซ้ำเป็นสิบเป็นร้อยนี่ไม่ใช่แล้ว

ยินดีครับถ้าผมตอบได้และพอมีความรู้อยู่บ้างนะครับ

อีกอย่างครับทำความเข้าใจกันก่อนที่มานั่งพูดแยกแยะหนังเรื่องนั้นต้องเป็นตะกลูนี้ตะกลูนั้น ไม่ได้จะแบ่งวรรณะหรือมาจับผิดแยกแยะจนหลงลืมตัวหนังไปนะครับ แต่การที่เราจัด Genre นั้นก็เพื่อที่จะ ทำความเข้าใจกับสิ่งที่ผู้สร้างต้องการนำเสนอหากเรารู้ถึงขอบเขตและวิธีการจะเป็นทางหนึ่งที่ทำให้สนามประสบการณ์ของเรานั้นใกล้เคียงกัน คือคุยกับหนังรู้เรื่อง และอีกอย่างสำหรับคนที่มีรสนิยมเฉพาะด้านก็สามารถหาสิ่งที่เขาต้องการดูได้อย่างง่ายขึ้น เช่น Genre ที่ใหญ่อย่าง Horror นี้ เว็บนี้ก็คงเกิดด้วยสาเหตุนี้เช่นกัน

ไม่มี Genre ดีไปกว่ากัน, หนังอาร์ทไม่ได้ดีไปกว่าหนังตลาด หนังตลาดไม่ได้แย่ไปกว่าหนังอาร์ท ทุกอย่างมีคุณในแบบฉบับของมัน อย่าให้คำว่า อาร์ท เพียงทำเดียวแยกเราออกจากหนัง ศิลปะใกล้ตัวเรายิ่งกว่าที่เราคิดไว้เยอะครับ
#26skull terror • 1/12/2553 13:09
ความคิดเห็นที่ 24

ก็อย่างที่บอกละครับว่าหนังอาร์ทนั้นมันไม่มีครับ เพราะคำว่าอาร์ทมันเป็นนามธรรมครับ เหมือนกับเพลงอินดี้นะครับมันก็ไม่มีอยู่จริง เพราะอินดี้เป็นสถานะ ไม่ใช่ Genre ของดนตรี Genre ไหนๆก็เป็น อินดี้ได้ ไม่จำเป็นต้องเป็น Genre แบบนั้นแบบนี้
#27samara17520 • 1/12/2553 13:20
อะเเอ้มม.....เอาล่ะนะ เอาเป็นว่าที่ท่านผู้รู้ทั้งหลายคุยกันในกระทู้นี้ ผมขอเก็บเลยละกันนะ อิอิ ข้อมูลเพียบ(เอาไปต่อยอดสร้างไอเดียกระฉูด) ^ - ^
#28nana_idol • 1/12/2553 20:16
กระจ่างชัดเรื่องหนังทดลองเลยครับ ขอบคุณคุณ skull terror มาก ๆ ครับ ... ^^
#29skull terror • 2/12/2553 18:38
โทษนะครับพอดีผมพึ่งมาสังเกตุเห็น เรื่อง PIG ปี 1998 นี่ต้องเป็น Rozz Williams กำกับนะครับ ไม่ใช่ Mark Steven Bosko เขากับกำกับเคยกำกับหนังที่มีชื่อว่า PIG เหมือนกันแต่เป็น PIG (2001) มันคนละเรื่องกับภาพและปกที่ลงนะครับ
#30nana_idol • 2/12/2553 19:11
ผมก็เพิ่งสังเกตุเห็นเหมือนกันครับ หลังจากที่ Reply บนบอก เลยลองไป Search คำว่า PIG (1998) กับ PIG (2001) ใน Google แล้วพบว่า Link ที่ไปยัง Imdb ในหน้า Google ขึ้นเป็นชื่อหนังต่างกัน แต่พอคลิกไป ดัน Link ไปเรื่องเดียวกันซะงั้น คือ PIG (2001) ... แต่จากใน WIKI เห็นบอกว่าผู้กำกับ Rozz Williams นักร้องนำวง Christian Death ครับ

คิดว่าคุณ samara17520 น่าจะได้ข้อมูลมาจากความผิดพลาดของเวป Imdb และ Google อีกทีครับ ...
attachment
แก้ไขล่าสุด: 2/12/2553 19:11 โดย nana_idol
#31samara17520 • 2/12/2553 21:47
อืม.....รับทราบครับ งานนี้ Imdb ทำผมหน้าเเตกอีกเเล้วครับ ^ _ ^
Login
Function Used time : 0:00:00:00.017
Go Last