มาดูภาพผีรับเทศกาลลอยกระทงกันดีกว่า

by ท่านเทพฯ • วันอาทิตย์ที่ 21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553 19:50
สำหรับคนที่ไม่ได้ไปลอยกระทง ไม่ว่าจะไม่ว่าง รึไม่มีคู่ไปลอย (เห็นเค้าลอยเป็นคู่แล้วมันจี๊ดชิมิ)
เอามาจากหนังสือ The 100 Greatest Photograpes of the Paranormal 2010
ต้นฉบับเป็นภาษาปะกิต ท่านเทพฯมามั่วเอาบวกตีไข่ใส่สีนิดหน่อยจ้าาา

ปล.หนังสือโหลดมาจาก 4shared จ้าาา

attachment

Replies (39)

#1ท่านเทพฯ • 21/11/2553 19:57
ภาพนี้ถ่ายที่โบสถ์ Newby ใน ยอร์คเชียเหนือ ประเทศอังกฤษ โดยพระราชาคณะที่ดูแลโบสถ์แห่งนั้น ท่านสาธุคุณ Reverand K ,F อันตัวท่านสาธุคุณเองก็เป็นนักถ่ายภาพสมัครเล่นมือฉกาจ วันหนึ่งในช่วงบ่ายของฤดูร้อนในปี 1960 ท่านสาธุคุณรู้สึกคันไม้คันมืออย่ากถ่ายรูปเลยชวนเพื่อนร่วมก๊วนอีกคน เข้าไปถ่ายรูปเล่นในโบสถ์กัน ตอนถ่ายรูปทั้งสองคนก็ยืนยัน นั่งยัน (แต่คงไม่ถึงกับนอนยัน) ว่าภายในโบสถ์ไม่มีมนุษย์หน้าไหนอยู่ นอกจากพวกเค้าแค่2คน แต่ที่ไหนได้ พอเอารูปที่ถ่ายไปล้างออกมา เป็นต้องหงายหลังผึ่ง เพราะมีแขกที่ไม่ได้รับเชิญโผล่มาร่วมแจมด้วย แขกที่ไม่ได้รับเชิญท่านนี้เป็นชายร่างสูงประมาณ9ฟุต ยืนอยู่ข้างแท่นบูชา สวมเสื้อคลุมสีดำ ใบหน้าสวมผ้าคลุมสีขาว บริเวณลูกตาเห็นแต่โพลงลึกสีดำ อย่างไรก็ตามโบสถ์นี้เพิ่งสร้างในช่วงศตวรรษที่19 และไม่เคยมีประวัติเกี่ยวกับเรื่องผีๆสางๆมาก่อน ทำให้แปลกใจว่าแขกท่านนี้เป็นใครกันแน่??

ปล.นี่คือแรงบันดาลใจให้ป๋า Wes เอาไปสร้าง Scream แหง๋มๆ
attachment
แก้ไขล่าสุด: 21/11/2553 19:58 โดย ท่านเทพฯ
#2ท่านเทพฯ • 21/11/2553 20:02
มีข้อมูลของภาพนี้เพียงเล็กน้อย รู้เพียงแค่ว่าภาพนี้ถูกถ่ายโดยสาธุคุณ Reverand R.S.Blance ในปี 1959 ที่ Coroboree Rock , Alice Spring ในเขตตอนเหนือของออสเตรียเลีย สถานที่นี้เป็นสถานที่สำคัญแห่งหนึ่งของชาวอะบอริจินในการประกอบพิธีกรรมต่างๆมาตั้งแต่สมัยโบราณ ซึ่งปัจจุบันได้ถูกอนุรักษ์ไว้สำหรับนักท่องเที่ยวให้มาเยี่ยมชม ไม่มีรายละเอียดเกี่ยวกับผีที่ปรากฏตัวให้เห็นในภาพ แต่จากพิจารณาจะเห็นว่าผีในภาพดูไม่เหมือนชนพื้นเมืองชาวออสเตรีย ดังนั้นนี่อาจจะเป็นวิญญาณของนักท่องเที่ยวที่บังเอิญหลงทางและหายสาบสูญไปก็ได้

ปล.เคยอ่านเจอความเป็นมาของภาพนี้ในอีกแบบนึง ต่างกันแบบหน้ามือกะหลังเท้า ดังนั้นภาพนี้แสดงให้เห็นว่า ฝรั่งก็มั่วเหมือนกันจ้าา
attachment
#3ท่านเทพฯ • 21/11/2553 20:06
Brenda Ray ถ่ายภาพนี้ที่ Tutbury , Staffordshire ในวันที่ มีนาคม ปี 1993 ในรูปทางด้านซ้ายระหว่างรถปรากฎภาพของบุคคลในเสื้อคลุมสีดำ Brenda ยืนยัน นั่งยัน (อีกแล้ว) ว่าเธอไม่ได้เห็นอะไรเลยในขณะที่เธอกำลังภ่ายภาพนั้น และที่สำคัญ ภาพของบุคคลในเสื้อคลุมสีดำก็ไม่ปรากฏในภาพที่เธอถ่ายในอีก 2 วินาทีต่อมา Tutbury เป็นปราสาทเก่าแก่ที่ ควีนแมรี่ แห่ง สก็อต ถูกคุมขังไว้เกือบ 20 ปี ในช่วงศตวรรษที่16

ปล.รีบแจ้งกระทรวงเวทมนต์โดยด่วน ถูกพวกมักเกิ้ลถ่ายภาพไว้ได้อีกแล้ว!!
attachment
#4ท่านเทพฯ • 21/11/2553 20:10
ในวันที่ 15 มีนาคม ปี 1982 Chris Brackley ถ่ายภาพภายในโบสถ์ St Botolph ที่ Bishopsgate ในลอนดอน ปรากฏว่าในรูปนอกจากจะมีความสวยงามของเครื่องประดับตกแต่งแล้ว ยังมีบางอย่างที่น่ากลัวแถมมาให้ด้วย!!
คุณ Brackley เล่าย้อนถึงเหตุการณ์ในวันนั้นให้ฟัง “พ้มยังจำได้ดี วันนั้นพ้มกับศรีภรรยาที่รักออกมาแต่เช้า เพราะไปถ่ายรูปงานหมั้น พ้มเลยถือโอกาสถ่ายรูปในโบสถ์ไว้เป็นที่ระลึกด้วย คนดูแลเปิดประตูโบสถ์ให้เราเข้าไป พ้มสาบานให้ตกน้ำป๋อมแป๋ม ตอนนั้นในโบส์ไม่มีใครจริงจริ๊งงงงง นอกจากเราแค่ 3 คน เนื่องจากในโบสถ์ค่อนข้างมืด พ้มเลยต้องปรับความเร็วชัตเตอร์ให้นานขึ้น ร่วมกับการใช้ขาตั้งกล้องช่วย หลังจากถ่ายภาพในโบสถ์เรียบร้อย พวกเราก็ออกมาแล้วก็ปิดประตูล็อคกุญแจอย่างดี แต่พอเอารูปไปล้างเรียบร้อย พ้มก็ต้องต๊กกะใจหงายหลังเมื่อเห็นรูปนี้เข้าอะจ้า”
คนที่ปรากฏในภาพอยู่ในชุดสมัย Tudor แม้ว่าโบสถ์ St Botolph จะสร้างในศตวรรษที่ 18 แต่โบสถ์นี้ก็สร้างทับโบสถ์เก่าที่สร้างมาตั้งแต่สมัยยุคกลาง หลังจากที่ภาพนี้ถูกตีพิมพ์ มีช่างติดตั้งระบบทำความร้อนคนหนึ่งออกมาเปิดเผยว่า เคยทำการรื้อกำแพงทางที่ไปสุสานในโบสถ์ ปรากฏว่าพบหีบศพดีบุกจำนวนหนึ่ง และหนึ่งในนั้นมีศพที่ยังอยู่ในสภาพที่ดีบรรจุอยู่ และที่สำคัญ “เสื้อผ้า หน้าตา เหมือนอย่างในรูปเลยจริงๆให้ดิ้นตาย” คุณช่างยืนยันหนักแน่น!! อย่างไรก็ตาม เป็นการยากที่จะจินตนาการไปว่าหน้าตาของศพอายุกว่า400ปีจะเหลือมาให้เปรียบเทียบกับรูปได้อย่างไร

ปล.ความน่าเชื่อถือจะหายไปก็เพราะ ไอ้คุณช่างนี่แหละ!!
attachment
แก้ไขล่าสุด: 21/11/2553 20:13 โดย ท่านเทพฯ
#5ท่านเทพฯ • 21/11/2553 20:17
ปริศนาของใบหน้าแห่ง Blemez เป็นหนึ่งในปริศนาที่ยังหาคำตอบไม่ได้ เหตุการณ์นี้เริ่มขึ้นในวันที่ 23 สิงหาคม ปี 1971 เมื่อ Maria Pereira หญิงชาวนาชาวสเปน ที่อาศัยอยู่ในหมู่บ้าน Blemez de la Moraleda พบว่าปรากฎรูปคล้ายใบหน้าของคนขึ้นมาบนพื้นห้องครัว สิ่งที่เกิดขึ้นสร้างความไม่สบายใจให้กับครอบครัวของเธอ ดังนั้นอีกหกวันให้หลังครอบครัวนี้จึงขุดพื้นครัวขึ้นมาแล้วทำการเทพื้นคอนกรีตทับลงไปใหม่ แต่เพียงแค่อีกสัปดาห์ต่อมาใบหน้าเหล่านี้ก็ปรากฏขึ้นอีกครั้ง ใบหน้าพวกนี้ปรากฏขึ้นเป็นเวลาหลายสัปดาห์และมีการเปลี่ยนไปอย่างช้าๆเหมือนกับว่ามีอายุเพิ่มขึ้น มีการขุดพื้นขึ้นมาอีกครั้ง คราวนี้มีการพบอุโมงค์อยู่ใต้พื้น ปรากฏว่าแท้จริงแล้วถนนทั้งสายของหมู่บ้านสร้างทับอยู่บนสุสานเก่า!! และนอกจากนั้นยังเคยมีใบหน้ามากกว่า 2 ใบหน้า ปรากฏขึ้นพร้อมๆกันบนพื้น มีผู้เชี่ยวชาญมาทำการศึกษาเรื่องใบหน้าที่ปรากฏบนพื้น เคยนับใบหน้าที่ปรากฏขึ้นมาได้ถึง 18 หน้า และเคยเห็นการปรากฏของใบหน้าบนพื้นแบบต่อหน้าต่อตา จนบัดนี้ก็ยังไม่มีใครให้คำตอบได้ว่าทำไมจึงปรากฏใบหน้าเหล่านี้ขึ้นมา กระทั่งมีบางคนให้ความเห็นว่ามันเป็นแค่การลวงโลก ความเห็นหนึ่งที่น่าจะเป็นไปได้ก็คือ Maria เป็นผู้มีพลังจิตภาพเหล่านั้นคือปรากฏการณ์ภาพความคิด(Thoughtographic) ที่เกิดขึ้นมาโดยเธอไม่ได้ตั้งใจ ภาพใบหน้าเหล่านั้นปรากฏขึ้นเป็นระยะเวลากว่า 30 ปี จนกระทั่งเธอเสียชีวิตในปี 2004 เมื่อเธออายุได้ 85 ปี

ปล.นี่คือต้นกำเนิดของ ผีหลอกวิญญาณหลอน (มั้ง)
attachment
#6ท่านเทพฯ • 21/11/2553 20:22
หมู่บ้าน Prestbury ใกล้ Cheltenham ใน Gloucestershire มีชื่อเสียงเลื่องลือในเรื่องผีๆสางๆเป็นอันมาก หนึ่งในนั้นคือเรื่องราวของ “เจ้าอาวาสในชุดดำ” เป็นภาพคนสวมชุดคลุมสีดำเดินผ่านไปมาในบริเวณโบสถ์ หญิงสาวหนึ่งบอกบรรยายว่า เจ้าอาวาสในชุดดำดูเหมือนจะเดินต่ำกว่าระดับพื้นดิน นั่นอาจเป็นเพราะช่วงเวลาที่ผ่านมามีการถมดินบริเวณโบสถ์จนสูงขึ้น (ท่านเจ้าอาวาสอาจไม่ทันสังกต??) ในคืนวันที่ 22 พฤศจิกายน ปี 1999 มีช่างภาพคนหนึ่งชื่อ Derk Stafford(เสียชีวิตไปแล้ว) ได้เข้าไปถ่ายรูปศิลาจารึกบนหลุมศพโดยใช้แสงส่องจากด้านหลัง เขาเลือกวันนี้เพราะเป็นวันที่มีหมอกลงหนัก เขาหวังว่ามันจะมีส่วนช่วยในการถ่ายรูป “เจ้าอาวาส” ซึ่งก็ได้ผลสมใจ มีรูป “เจ้าอาวาส” ติดมาในรูปถ่ายของเขาหลายใบ ซึ่งนายคนนี้ยืนยันอย่าหนักแน่นว่าช่วงที่ถ่ายรูป เขา “ไม่เห็นสิ่งผิดปกติใดๆทั้งสิ้นจ้าาาา"

attachment
#7ท่านเทพฯ • 21/11/2553 20:26
ในวันที่ 22 มกราคม ปี 1985 ศาสตราจารย์ด้านการถ่ายภาพ Haddon Davies ได้รับมอบหมายให้ไปถ่ายภาพงานเลี้ยงอาหารเย็นของสมาคม Freeman ที่ St Mary ‘s Gulidhall ใน Coventry เหมือนทุกปีที่ผ่านมา ดร. Davies ลงทุนปีนขึ้นไปบนระเบียงชั้นบน เพื่อต้องการได้ภาพมุมเด็ด เขาต้องใช้ขาตั้งกล้องและเปิดรับแสงให้นาน เนื่องแสงสว่างในห้องโถงมีไม่เพียงพอ ท่านดร. รอจนจังหวะที่ทุกคนลุกขึ้นยืนและร่วมกันกล่าวคำอวยพร จึงทำการลั่นชัตเตอร์ ทุกอย่างดูปกติดีจนกระทั่งมีการนำรูปภาพไปขยายใหญ่เพื่อมอบให้แก่นายกเทศมนตรี มีบางอย่างในรูปดูแปลกประหลาด อยู่ที่ท้ายของโต๊ะด้านบน นายกเทศมนตรี Walter Brandish บรรยายว่า “มีใบหน้าคล้ายหัวกะโหลก สวมใส่เสื้อเกราะเหมือนในยุคกลาง” แม้ว่าจะมีข้อโต้เถียงกันในวงกว้างแต่ก็ไม่มีใครสามารถให้คำอธิบายกับสิ่งที่ปรากฏในรูปภาพได้ ดร. Davies ทำการตรวจสอบภาพถ่ายอื่นๆทั้งก่อนและหลัง แต่ก็ไม่พบสิ่งประหลาดใดๆ นายกเทศมนตรี ให้นำรายชื่อของแขกทั้งหมดมาตรวจสอบกับบุคคลในภาพก็อยู่ครบถ้วน บุคคลที่นั่งอยู่ในบริเวณนั้นก็ยืนยันและนั่งยันว่าไม่มีใครรูปร่างหน้าตาแบบนั้นอยู่ตรงนั้น (จริงๆ) แต่เหล่าพนักงานที่ทำงานอยู่ในห้องโถงที่สร้างขึ้นมาตั้งแต่ในศตวรรษที่14 ดูเหมือนจะไม่มีใครประหลาดใจที่จะตั้งข้อสังเกตว่า อาจมี “ใคร” บางคนอยู่ในห้องนั้นด้วย

ปล.ขอพ้มร่วมโต๊ะดินเนอร์ด้วยคนนะขอรับ
attachment
#8ท่านเทพฯ • 21/11/2553 20:31
ในเดือนมิถุนายน ปี 1974 Alfrde Hollidge ถ่ายภาพ “Monet” แมวน้อยสุดรัก แต่ปรากฏว่าภาพที่ได้ออกมา กลายเป็นว่า เจ้า Monet ไม่ได้อยู่ตัวเดียว มีเจ้าเหมียวดำไม่ทราบชื่อขอแจมวิ่งผ่านเป็นดาราหน้ากล้องด้วยตัวนึง แถมเจ้า Monet ก็ดูเหมือนจะรู้ว่ามีแขก(แมว)ที่ไม่ได้รับเชิญโผล่เข้ามา ครอบครัว Hollidge มีเจ้า Monet เป็นสัตว์เลี้ยงแสนรักอยู่ตัวเดียวแถมตอนที่ถ่ายก็ยืนยันว่าไม่ได้มีแมวตัวอื่นจากไหนเข้ามายุ่มย่ามวุ่นวายทั้งนั้น มีแต่เจ้า Monet เป็นดาราหน้ากล้องอยู่แค่ตัวเดียวจริงๆ น่าเสียดายที่ นาย Hollidge ไม่ได้มีโอกาสเห็นรูปนี้ เพราะตะแกเสียชีวิตไปก่อนในเดือนกันยายนปีเดียวกันนั่นเอง ผู้ที่ไปพบและนำรูปนี้มาเผยแพร่ก็คือภรรยาของตะแกนั่นเอง

ปล.จริงๆเป็นแขกที่เจ้า Monet มันเชิญมามั้ง??
attachment
#9ท่านเทพฯ • 21/11/2553 20:37
ในวันที่ 5 ธันวาคม ปี 1891 Sybel Corbet เข้าไปถ่ายรูปห้องสมุดในวัด Combermere ในมณฑล Cheshire ซึ่งเป็นวันฝังศพของ Lord Combermere พอดี ในรูปปรากฏภาพของ Lord Combermere นั่งอยู่บนเก้าอี้ตัวโปรด Miss Corbet ยืนยันว่าไม่มีใครอยู่ในห้องขณะทำการถ่ายภาพ และไม่มีสิ่งผิดปกติใดๆทั้งสิ้น จนกระทั่งทำการล้างรูปออกมาถึงได้เห็นภาพของท่านลอร์ด ภาพที่เห็นดูเหมือนท่านลอร์ดจะตัวเล็กกว่าปกติ และไม่มีขา ลูกสะใภ้ของท่านลอร์ดยืนยันว่า ไม่มีคนรับใช้ในบ้านที่มีลักษณะท่าทางเหมือนคนในรูป อย่างไรก็ตามเหล่าลูกๆของท่านลอร์ดล้วนเชื่อว่าภาพที่เห็นคือภาพวิญญาณของท่านลอร์ดจริงๆ

ปล.โถ่..ท่านลอร์ด ตอนเป็นๆไม่ยักกะอยากถ่าย ดันมาอยากถ่ายตอนซี้ไปเลี้ยว

attachment
#10ท่านเทพฯ • 21/11/2553 20:40
นี่เป็นภาพถ่ายที่ Clarens , สวิตเซอร์แลนด์ ดูไปก็เหมือนรูปถ่ายของครอบครัวทั่วๆไป อันประกอบไปด้วยคุณแม่และคุณลูกอีกสอง ลูกชายคนโตถือของเล่นรูปสัตว์ไว้ในมือซ้าย ส่วนมือขวาก็เหมือนถืออะไรเล็กๆไว้ในมือ แต่เมื่อนำภาพมาขยาย จะเห็นว่าในมือขวาของเด็กชายคือลูกแมวน้อยตัวสีขาว ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว ในตอนนั้นไม่มีลูกแมวน้อยสีขาวอยู่เลย ยกเว้นเสียแต่ว่าจะย้อนกลับไปเมื่อหลายสัปดาห์ก่อน ที่ครอบครัวนี้เลี้ยงลูกแมวน้อยสีขาวไว้ แต่มันก็ต้องมาจากไปเพราะโดนเจ้าตูบขย้ำซะจมคมเขี้ยว แล้วเจ้าลูกแมวน้อยสีขาวมาจากไหน รึมันยังคงจงรักภักดีเฝ้าติดนายน้อยของมันต่อไปแม้ว่าจะจากโลกใบนี้ไปแล้ว??

ปล.เห็นอย่างนี้แล้ว จะยังมีคนเอาหมาเอาแมวไปปล่อยวัดอีกมั้ยเนี่ย??

attachment
#11ท่านเทพฯ • 21/11/2553 20:45
เลดี้ Hehir ถ่ายรูปนี้ในปี 1962 ขณะที่กำลังพา เจ้าTara สุนัขของเธอไปเดินเล่น เมื่อเลดี้เห็นรูปนี้ เธอพบว่าที่หางของเจ้าTalaมีบางอย่างดูคล้ายหัวของสุนัขโผล่ออกมา แล้วเลดี้ก็จำได้ว่าเจ้าสุนัขตัวนั้นก็คือเจ้า Kathal สุนัขของเธออีกตัวหนึ่งที่ตายไปเมื่อ 6 สัปดาห์ที่แล้ว เลดี้เล่าว่า เจ้า Tara และ เจ้า Kathal ทั้งสองตัวเป็นเพื่อนซี้กันมาก ทั้งกิน นอน เล่น ด้วยกัน ติดกันจนแทบแยกกันไม่ออก สถานที่ถ่ายภาพเป็นที่สำหรับสุนัขมาเดินออกกำลังกาย บางทีเจ้า Kathal อาจอยากกลับมาเดินเล่นกับเจ้า Tara ซี้เก่าของมันอีกครั้งละมั้ง??

ปล.เพื่อนไม่เคย..ไม่เคยทิ้งกัน
attachment
#12ท่านเทพฯ • 21/11/2553 20:49
ในศตวรรษที่ 17 Raynham Hall แมนชั่นใน Norfolk เป็นที่กล่าวขวัญถึงความเฮี้ยนของ สุภาพสตรีในชุดสีน้ำตาล ว่ากันว่าแท้ที่จริงแล้วเธอก็คือ Dorothy Walpole ซึ่งภายหลังได้เป็น Lady Townshend และเสียชีวิตลงในปี 1729 เหตุที่เรียกเธอว่าสุภาพสตรีในชุดสีน้ำตาลก็เป็นเพราะว่าเธอจะปรากฏตัวในชุดเสื้อคลุมสีน้ำตาลตลอดมา ภาพนี้ของเธอถูกถ่ายในปี 1936 โดยช่างภาพ 2 คนที่ทำงานอยู่ที่นั่น

ปล.ในบรรดาสารพัดผี โดยส่วนตัวคิดว่า "เธอ" ดังที่สุด เป็น "ซุปตา" ในแวดวงผีๆสางๆได้เลยจ้าาา
attachment
#13ท่านเทพฯ • 21/11/2553 20:57
ในวันที่ 19 พฤศจิกายน ปี 1995 เกิดเพลิงไหม้ที่ศาลากลางใน Wem , Shropshire และหนึ่งในผู้เห็นเหตุการณ์นั้นก็คือช่างภาพสมัครเล่น ชื่อ Tony ‘ O Rahilly (เสียชีวิตไปแล้ว) ซึ่งได้ถ่ายภาพเพลิงไหม้ครั้งนี้มาด้วยหลายภาพ และเมื่อทำการล้างภาพออกมา ก็ต้องประหลาดใจเป็นอย่างยิ่ง เมื่อพบว่าหนึ่งในภาพเหล่านั้น ปรากฏรูปของเด็กหญิงคนหนึ่งยืนอยู่บนทางเดินท่ามกลางเปลวเพลิงที่ลุกโชนอยู่ด้านหลัง ซึ่งเป็นไปไม่ได้ที่คนธรรมดาอย่างเราๆจะไปยืนอยู่ได้ มีผู้ตั้งข้อสังเกตว่าเด็กหญิงที่ปรากฏในภาพอาจเป็นวิญญาณของเด็กหญิงที่เป็นต้นเหตุให้เกิดเพลิงไหม้ใน Wem เมื่อตอนปี 1677 โดยเธอได้เผลอทำเทียนล้มไปโดนกองฟางในคอกสัตว์ทำให้เกิดไฟไหม้ลุกลามไปทั่วเมือง แต่ก็มีบางคนที่ไม่เชื่อแสดงความเห็นว่ามันอาจเป็นเพียงแค่ความบังเอิญของของแสงกับเงาที่ทำมุมมอเหมาะพอเจาะกันแค่นั้นเอง แต่ที่น่าสนใจก็คือมีคนงานที่ศาลากลางหลายคนอ้างว่าพวกเขาเห็นวิญญาณปรากฏตัวภายหลังที่เพลิงสงบลงแล้ว
แต่เรื่องยังไม่จบเพียงเท่านั้น อีก 15 ปีให้หลัง ในปี 2010 ดูเหมือนปริศนาเกี่ยวกับวิญญาณจะภาพถ่ายจะถูกเปิดเผยออกมา เมื่อมีผู้พบว่า ภาพวิญญาณที่ถ่ายได้ในปี 1995 ช่างเหมือนกับภาพวิญญาณที่ถูกถ่ายใน Wem ในปี 1922 ยังกะแกะ!! มันหมายถึงอะไรกันแน่ หรือ Tony ‘ O Rahilly แอบเอาภาพวิญญาณที่ถ่ายในปี 1922 มาแอบอ้างเป็นผลงานของตัวเอง??

ปล.อย่าให้คาใจ ให้ป้าหนมตามไปถามอิตา Tony ‘ O Rahilly ให้แล้วกัน อิอิ
attachment
#14ท่านเทพฯ • 21/11/2553 21:03
ในปี 1928 Mrs. Hilda L. Wickstead ได้เดินทางท่องเที่ยวในวันหยุดกับเพื่อนของเธอใน Worcestershire ในขณะที่แวะไปเยี่ยมชมโบสถ์ที่หมู่บ้าน Holly Bush ใกล้กับ Malvern Mrs. Wickstead ได้ผลัดกับเพื่อนของเธอ Mrs. Laurie ถ่ายรูปคู่กับกางเขนอันใหญ่ที่หน้าประตูโบสถ์ หลังจากนั้นจึงนำกล้องถ่ายรูปไปเก็บไว้ในรถ Mrs. Wickstead บรรยายถึงเหตุการณ์ในตอนนั้นว่า “ตอนนั้นไม่มีใครอยู่ในบริเวณนั้นเลย พวกเราเดินเข้าไปในโบสถ์ แต่แล้ว Mrs. Laurie ก็มองไปยังหลุมฝังศพ ซึ่งฝังร่างของทหารกล้าผู้หนึ่งที่รับใช้ชาติจนเสียชีวิต และข้างๆกันคือหลุมฝังศพของหญิงสาวที่เสียชีวิตในอีกสองสามเดือนถัดมา เธอรำพึงขึ้นมา “ฉันสังสัยว่าพวกเขาจะเป็นคู่รักกันรึเปล่าน้าาา” หลังจากนั้นอีก 6 สัปดาห์ เมื่อภาพถ่ายได้ถูกล้าง Mrs. Wickstead สังเกตเห็นว่า มีภาพเหมือนคู่รักสองคนกำลังโอบกอดกันอยู่ใต้ต้นไม้ท่ามกลางสุสาน ไม่ต้องสงสัยเลย ว่าทั้ง2คือคู่รักกันจริงๆ

ปล.บ้านเราจ๊าบกว่า ไปเจอกันบนทางช้างเผือก อิอิ
attachment
#15ท่านเทพฯ • 21/11/2553 21:08
ภาพนี้ถูกถ่ายที่ห้องเก็บไวน์ของโรงแรม Viaduct Inn ในลอนดอน ซึ่งในอดีตเคยเป็นห้องขังนักโทษของคุก Newgate Prison มาก่อน ผู้ถ่ายภาพนี้ Dane ได้เรียกให้ นักสัตว์วิทยา Lars Thomas มาอยู่ด้วย นอกจากนั้นแล้วก็ไม่มีใครหรืออะไรอยู่ในบริเวณรอบๆ และ Dane ยังยืนยันว่า ไม่มีใครมายืนอยู่ด้านหน้าของเขาในขณะที่กำลังถ่ายรูปด้วย

ปล.สงสัยดริ้งไปมิใช่น้อย ตัวเอียงมาเชียว
attachment
#16ท่านเทพฯ • 21/11/2553 21:11
นี่คือภาพคุณป้าสองคนที่กำลังดื่มน้ำชาอยู่ในสวนพร้อมกับหญิงรับใช้ โดยไม่ได้เฉลียวใจเลยว่า มีเจ้าหมาตัวน้อยอยากจะเข้ามาร่วมวงด้วย ภาพนี้ถ่ายในปี 1916โดย Arthur Springer อดีตเจ้าหน้าที่สก็อตแลนด์ยาร์ดที่เกษียณอายุไปแล้ว แม้คุณป้าทั้งสองจะไม่ได้รังเกียจรังงอนหมาน้อย แต่ทั้งคู่ก็ไม่ได้เลี้ยงหมา ที่สำคัญเมื่อเห็นรูปภาพที่ถ่ายออกมาแล้ว ทั้งผู้ถ่ายและผู้ถูกถ่ายก็จำไม่ได้เลยมามีน้องหมาโผล่เข้ามาร่วมแจมด้วยในตอนไหน

ปล."คนขี้งกหนมปังสักชิ้นก็ไม่ยอมโยนมาให้ ชิชิ" น้องหมาคงบ่นอยู่ในใจอ่ะ
attachment
#17ท่านเทพฯ • 21/11/2553 21:14
ในปี 1925 มีกลุ่มเพื่อน 4 คนพากันไปเที่ยวที่ Basilica of Le Bois-Chenu ในกรุงปารีส วิหารนี้สร้างขึ้นเพื่ออุทิศให้กับ Joan of Arc โดยสร้างในสถานที่ที่เธอได้ยินเสียงจากพระผู้เป็นเจ้า ในการไปเที่ยวครั้งนี้ Miss Townsend ได้ขอร้องให้ Lady Plamer ที่ไปด้วยกันถ่ายภาพให้เป็นที่ระลึก ในขณะที่อีก 2 คนในกลุ่มคือ Mr. และ Mrs. W.E. Froster ก็ยืนอยู่ข้างหลังกล้อง ซึ่งก็คือในทั้ง 4 คน มีคนเดียวที่ยืนอยู่ในโบสถ์ และไม่มีผู้ใดเห็นว่าในโบสถ์จะมี “ใคร” หรือ “อะไร” มาแสดงตัวให้เห็นเหมือนที่ปรากฏขึ้นมาในภาพ เมื่อสังเกตอย่างใกล้ชิดจะเห็นว่าภาพที่ปรากฏเป็นพระนักบวชที่สวมชุดสมัยเก่า ซึ่งดูไม่เหมือนชุดของนักบวชของโบสถ์นี้ เพราะโบสถ์ Basilica นี้เพิ่งสร้างขึ้นในช่วงศตวรรษที่ 19 เท่านั้นเอง
attachment
#18ท่านเทพฯ • 21/11/2553 21:21
ภาพนี้ถ่ายโดย Eddie Coxon ใน โบสถ์ Alton , Staffordshire เมื่อวันที่ 12 กันยายน ปี 1993 ในช่วงเทศกาลดอกไม้ ตอนนั้นมีคนอยู่ในโบสถ์หลายคน แต่ Coxon ยืนยันอย่างมั่นใจว่า ไม่มีใครมายืนอยู่หน้ากล้องถ่ายรูปอย่างแน่นอน บางทีกลิ่นหอมของดอกไม้อาจเรียกผู้ที่รักดอกไม้ให้คืนกลับมาชื่นชมความงามของมันอีกครั้งก็เป็นได้

ปล.ดอกไม้กรู..อยู่.ห..น..า..ย
attachment
#19ท่านเทพฯ • 21/11/2553 21:24
ภาพใบหน้าที่ปรากฏอยู่ในรูปนี้ ถูกถ่ายที่โบสถ์ Selfton , Merseyside โดยช่างภาพ Paul Manon ในเดือนกันยายน ปี 1999 เค้ายืนยันว่า นอกจากเค้าและเพื่อนอีกคนนึงแล้ว ไม่มีใครอีกเลยที่อยู่ในโบสถ์ขณะที่กำลังถ่ายรูปอยู่

ปล.ขอเค้าเสนอหน้านิดนุงน้าาาาา
attachment
#20ท่านเทพฯ • 21/11/2553 21:31
เมื่อ Robert A Ferguson ได้ไปแสดงปาถกถาในการประชุมเรื่องวิญญาณที่ Los Angeles ในวันที่ 16 พฤศจิกายน ปี 1968 ได้มีการถ่ายรูปของเขาด้วยกล้องโพลาลอยด์หลายภาพ และหนึ่งในภาพเหล่านั้นปรากฏรูปของพี่ชายของเขาชื่อ Walter ที่เสียชีวิตไปแล้วในปี 1944 ขึ้นมายืนอยู่เคียงข้างด้วย

ปล.เดี๋ยวจะหาว่าดีแต่พูด หึ..หึ
attachment
#21ท่านเทพฯ • 21/11/2553 21:34
นี่เป็นภาพโต๊ะเขียนหนังสือที่ถ่ายโดยตัวแทนจำหน่ายเฟอร์นิเจอร์ ประมาณว่าภาพนี้ถ่ายในช่วงปลายศตวรรษที่ 19 หรือ ต้นศตวรรษที่ 20 ภาพนี้ถูกตีพิมพ์ในนิตยสาร The Stand Magazine ในปี 1903 ผู้ถ่ายยืนยันว่าไม่มีอะไรผิดปกติในขณะที่ทำการถ่ายรูป ถึงแม้จะใช้ความเร็วชัตเตอร์ที่ 13 นาที แต่ช่วงเวลานั้นก็ไม่มีใครเข้าไปที่โต๊ะอย่างแน่นอน หรือว่าโต๊ะตัวนี้สวยถูกใจใครบางคนจนอดใจไม่ได้ที่จะต้องมาพิจารณาอย่างใกล้ชิด??

ปล.กรุณาไปลงชื่อจองที่เคาร์เตอร์บริการลูกค้าด้วยค่ะ

attachment
แก้ไขล่าสุด: 21/11/2553 21:35 โดย ท่านเทพฯ
#22ท่านเทพฯ • 21/11/2553 21:39
นี่เป็นภาพวิญญาณเด็กทารกที่ถ่ายได้จากหลุมฝังศพที่ Australian ไม่มีใครรู้ว่าทารกในภาพเป็นใคร และทำไมจึงมาปรากฏตัวในภาพนี้ ในช่วงปี 1946 หรือ ปี 1947 Mrs. Andrew ได้เดินทางไปยังสุสานที่ Gatton ใน Queensland เพื่อถ่ายภาพหลุมศพของบุตรสาวเธอ Joyce ที่เสียชีวิตในปี 1945 และ Cecil พี่สาวของ Joyce ที่เสียชีวิตในปี 1942 และแน่นอน Mrs. Andrew ยืนยันเต็มร้อยว่าไม่มีเด็กเล็กๆอยู่ในบริเวณนั้นขณะที่ถ่ายภาพอย่างแน่นอน ในปี 1995 นักสืบสวนเรื่องเหนือธรรมชาติ Tony Healy ได้ไปสำรวจที่สุสานนี้ และพบว่าในบริเวณใกล้เคียงมีหลุมฝังศพของเด็กทารกอายุ 18 เดือน และ เด็กอายุ 3 ขวบ อยู่ บางทีเด็กน้อยเหล่านั้นอาจจะเหงาและเพียงแค่อยากให้ใครสักคนเห็นและเข้ามาโอบกอดให้ความอบอุ่นแก่พวกเขาบ้าง..แค่นั้นเอง

ปล.ถ้าหนูมาอยู่เมืองไทย หนูจะไม่เหงา เพราะหนูจะมีเพื่อนเป็นพันๆ พูดไปก็เศร้าใจฟร่ะ
attachment
#23ท่านเทพฯ • 21/11/2553 21:41
ภาพนี้ถ่ายโดย Matt Adams ในปี 1994 ในสุสานที่อังกฤษ ดูเหมือนจะมีใบหน้าลึกลับโผล่มาจากหลุมศพที่เปิดอยู่

ปล.เค้าเขิลน้าาาา เล่นมาแอบถ่ายรูปเค้าอย่างเนี๊ยะ
attachment
#24GoGoM • 21/11/2553 21:43
มาติดตามอย่างใกล้ชิด
พร้อมเก็บเข้าคลังกระทู้....


อิๆๆๆ ><
#25ท่านเทพฯ • 21/11/2553 21:43
เมื่อเรือ SS Watertown ได้ออกทะเลในเดือนธันวาคม ปี 1924 เกิดอุบัติเหตุมีลูกเรือเสียชีวิต 2 คน คือ James Courtney และ Michael Meehan ศพคนทั้ง 2 ได้ถูกฝังลงกลางทะเลตามประเพณีชาวเรือ ที่นอกฝั่ง Mexico แต่หลังจากนั้น เหล่าลูกเรือก็ต้องแตกตื่นเมื่อมีคนพบว่า ปรากฏหน้าของทั้ง 2 คนบนเกลียวคลื่นรอบๆเรือ ในช่วงการเดินทางกลับ กัปตันได้ตัดสินใจซื้อกล้องถ่ายรูปติดมาด้วย และสามารถถ่ายภาพใบหน้าทั้ง 2 บนเกลียวคลื่นได้หลายใบ ภาพเหล่านั้นมันคืออะไรแน่ แค่การเล่นตลกของแสงและเงาจากเกลียวคลื่นเท่านั้นหรือ หรือบางทีมันอาจจะเป็นวิญญาณของชายสองคนที่ไล่ตามเรือเพื่อจะได้เดินทางกลับมายังบ้านเกิดของพวกเขา

ปล.เยยยยยยยยยย จะเอาชั้นนั้นไปลอยทะเลลลลล
attachment
#26ท่านเทพฯ • 21/11/2553 21:47
แหมมีคนอยู่ด้วย นึกว่าไปลอยกระทงกันหมดแล้ว อิอิ
...

ภาพนี้ถ่ายที่โบสถ์ Iona ในเดือนพฤษภาคม ปี 1928 โดย Donald G Mackenzie นักเคมีจาก Glasgow ผู้ซึ่งยืนยันว่า “ผมไม่เคยเชื่อเรื่องผีๆสางๆมาก่อนเลยจริง (ให้ดิ้นตาย!!)” อย่างไรตามภาพที่เขาถ่ายแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่า มีใบหน้าของบางสิ่งปรากฏขึ้นอยู่บนกำแพงหินกลางภาพอย่างแน่นอน

ปล.แบบนี้เค้าเรียกว่า "รอยยิ้มของหิน" ขนานแท้และแน่นอน

attachment
#27ท่านเทพฯ • 21/11/2553 21:50
ในปี 1991 เมื่ออายุได้ 2 ขวบ Greg Sheldon Maxwell เริ่มพูด “ Old Nanna อยู่นี่” พร้อมกับชี้ไปที่อากาศว่างเปล่าข้างหน้า Old Nanna คือย่าทวดที่เสียชีวิตไปแล้วของเขานั่นเอง ตอนที่ถ่ายภาพนี้ ทุกคนไม่เห็นสิ่งปกติใดๆทั้งสิ้น ยกเว้นแต่ Greg ที่ดูเหมือนกำลังจ้องมองอะไรบางอย่าง หรือเขาจะเห็นอะไรบางอย่างในกลุ่มควันเหล่านั้น??

ปล.อันนี้คือต้นกำเนิดของ Six-Senses ชิมิ?? อิอิ

attachment
#28ท่านเทพฯ • 21/11/2553 21:53
ขอจบภาคแรกกันแค่นี้ก่อนจ้าาา ถ้ามีเวลาจะมาต่อภาค 2 กันอีกที อิอิ
...
ถือโอกาสนี้ขออวยชัยให้สมาชิกหนังโหดทุกท่าน มีความสุขกันมั่กๆ ในวันลอยกระทงจ้าาา
...

เทพมังกรฯอวยชัยทุกท่านจ้าาา
attachment
#29meganame • 22/11/2553 02:03
ขอบคุณที่เอามาให้ดูให้ชมครับผม
#30แว่นจัง • 22/11/2553 09:14
รูป12 ดังมากเคยเห็นในหนังสือเรื่องลึกลับสำหรับเด็กประมาณซัก15ปีที่แล้ว

#31เคราฮึ้ม • 22/11/2553 11:59
โคตรหลอนอะ เวลาไปตจว.ถ่ายรูปแล้วชอบแอบเพ่งหาแขกไม่ได้รับเชิญ บรื๋ออออส์
#32จ้าววายุ • 22/11/2553 13:30
รูปผีฝรั่งมังค่าไม่ค่อยน่ากลัวเลยเนอะ
สู้ของไทยเราก็ไม่ได้

รูปนี้สยองมาก
attachment
#33จ้าววายุ • 22/11/2553 13:56
อันนี้ผีตานี ตากลัวสุดๆ
attachment
#34จ้าววายุ • 22/11/2553 14:36
อันนี้ไม่เล่นละ
แต่ทั้งหมดทั้งมวลในบรรดาภาพปริศนาทั้งหลาย
รูปนี้เป็นรูปที่ผมดูแล้วอึ้งที่สุด!
attachment
#35nana_idol • 22/11/2553 22:25
ขอบคุณที่เอามาให้ชมครับ ... บอกตามตรงว่าบางรูปนี่ หลอน มาก ๆ
#36horrorfever • 23/11/2553 15:20
#34 เห็นครั้งแรกอยากจะร้องไห้ (เมื่อประมาณห้าปีที่แล้ว)

ขอบคุณค่ะ อยากดูต่อๆ อยากดูแม่พระร้องไห้ T^T
#37หนอนน้อยโออิชิ • 25/11/2553 10:10
อยาดูต่อไวๆคับ


ปล.พากย์ได้ฮามาก 555+
#38horrorfever • 27/11/2553 12:25
ท่านเทพฯหายไปแว้ววว แล้วท่านเทพฯจะมาพากย์ต่อไม๊นะ???
#39puma • 20/2/2554 17:28
ชอบๆ มีประวัติด้วย ท่านเทพ จริงๆ ><
Login
Function Used time : 0:00:00:00.017
Go Last