The Last Circus / 2010  :  “โหด-บัดซบ-บ้าคลั่ง”....คือนิยามสั้นๆของหนังสยองฯเรื่องนี้!   Share






ึThe Last Circus / 2010  :  “โหด-บัดซบ-บ้าคลั่ง”....คือนิยามสั้นๆของหนังสยองฯเรื่องนี้!

“Sergio ตัวตลกผู้บ้าคลั่งและโคตรซาดิสต์หันมามองภรรยายังสาว Natalia นักกายกรรมดาวเด่นประจำคณะละครสัตว์ เขาเดินตรงเข้าไปหานาง จากนั้นจึงประเคนกำปั้นและส้นตีนใส่นางนับครั้งไม่ถ้วนจนนางเลือดกบปาก แต่แล้วความสัมพันธ์โคตรจะพิสดารก็บังเกิด สาวเจ้า Natalia กลับชื่นชอบมัน นางเริ่มยิ้มเเลมีความสุขที่ถูกสามีสุดเลิฟทำร้าย นางถอดกางเกงชั้นในแล้วถ่างขาออก ให้ตัวตลกสามีผู้บ้าคลั่งข่มขืนกระทำชำเราแบบสุดเหวี่ยงภายในมุมมืดของร้านอาหารแห่งหนึ่ง อีกมุมของบานกระจกฝั่งตรงข้ามที่สองสามี-ภรรยาวิปริตกำลังซำกันอย่างเมามันส์จนกำเเพงสั่นระดับ 7.5 ริกเตอร์ กลับมีตัวตลกอ้วนอีกตัวกำลังร่ำไห้อาลัยรักเเท้ด้วยอารมณ์เจ็บปวดอย่างยากจะบรรยาย….”

หนังใช้ชื่อว่า The Last Circus / 2010 หรือ Balada Triste De Trompeta / 2010 (ชื่อฉบับ Original Title) เป็นหนังสยองขวัญสายโหด-บัดซบ-บ้าคลั่งแบบสุดๆงานร่วมทุนสร้างจากประเทศสเปนและฝรั่งเศส ผลงานการกำกับของ Director: Álex de la Iglesia

โครงเรื่องหลักภายใน The Last Circus / 2010 นำเสนอเรื่องราวในสองช่วงตอน  ช่วงแรกเรื่องราวเริ่มต้นในปี ค.ศ.1937 ซึ่งเป็นช่วงที่สงครามกลางเมืองในสเปนกำลังคุกรุ่น  ช่วงสองมานำเสนอเรื่องราวในปี ค.ศ.1973 ภายหลังสงครามกลางเมืองในสเปนยุติลงและประเทศกลับคืนสู่ความสงบสุขอีกครั้ง....

ช่วงแรกเป็นเรื่องราวเริ่มต้นในปี ค.ศ.1937 ซึ่งเป็นช่วงที่สงครามกลางเมืองในสเปนกำลังคุกรุ่น : หนังนำเสนอเรื่องราวของสองกลุ่มชนที่กำลังรวบรวมกำลังทหารและพลเรือนติดอาวุธหนักเข้าห้ำหั่นกันอย่างชนิดเอาตาย โดยฝ่ายสังคมนิยมได้รวบรวมกำลังทหาร-พลเรือนติดอาวุธ-รวมถึงตัวตลกในชุดโบโซ่เต็มยศติดปืนกลคู่ออกรบกับทหารของฝ่ายชาตินิยม แต่ปรากฏว่าในสงครามครั้งนั้นฝ่ายสังคมนิยมแพ้แบบยับเยิน ตัวตลกในชุดโบโซ่จึงถูกทหารของฝ่ายชาตินิยมจับตัวไปเป็นทาสรับใช้แรงงานในเหมืองถ่านหิน

ไม่นานนักลูกชายของตัวตลกโบโซ่อย่างหนุ่มน้อย Javier (รับบทโดย Carlos Areces)ก็แอบลักลอบเข้ามาภายในค่ายเชลยในเหมืองทำถ่านหิน Javier พยายามใช้ระเบิดแหกค่ายเพื่อเอาตัวพ่อบังเกิดเกล้ากลับออกมาให้ได้รับอิสรภาพอีกครั้ง แต่เหมือนบุญของคุณพ่อทำมาแค่นี้  ตัวตลกวัยเก๋าหนุ่มใหญ่วัยดึกถูกพวกทหารฆ่าตาย ภาพในวันนั้นช่างติดตาคนเป็นลูกเสียเหลือเกิน จวบจนหลายปีผ่านไป….

ช่วงสองมานำเสนอเรื่องราวในปี ค.ศ.1973 ภายหลังจากสงครามกลางเมืองในสเปนยุติลงและกลับคืนสู่ความสงบสุข  :  ลูกชายของตัวตลกในชุดโบโซ่เต็มยศอย่าง Javier ยังไม่ลืมเหตุการณ์ในวันที่สูญเสียคุณพ่อไป เขาทำอาชีพตัวตลกในชุดโบโซ่แห่งความเศร้า รับช่วงต่อจากคุณพ่อของเขาภายในคณะละครสัตว์คณะหนึ่งที่ซึ่งมีชายหน้าหล่อ-ซาดิสต์อย่าง Sergio (รับบทโดย Antonio de la Torre)เป็นเจ้าของและบริหารดูแลควบ

Sergio แม้นจะเป็นถึงเจ้าของและบริหารดูแลคณะละครสัตว์ แต่จริงๆแล้วเขาเป็นคนซาดิสต์ ชอบแกล้งหรือทำร้ายลูกน้องในคณะเป็นประจำ การชอบกลั่นแกล้ง ทารุณกรรมลูกน้องนี้แม้แต่ภรรยายังสาวของเขาอย่าง Natalia (รับบทโดย Carolina Bang)นักกายกรรมดาวเด่นประจำคณะละครสัตว์ก็โดนมาประจำ เล่ากันว่า ครั้งหนึ่ง....  “Sergio ตัวตลกผู้บ้าคลั่งและโคตรซาดิสต์หันมามองภรรยายังสาว Natalia นักกายกรรมดาวเด่นประจำคณะละครสัตว์ เขาเดินตรงเข้าไปหานาง จากนั้นจึงประเคนกำปั้นและส้นตีนใส่นางนับครั้งไม่ถ้วนจนนางเลือดกบปาก แต่แล้วความสัมพันธ์โคตรจะพิสดารก็บังเกิด สาวเจ้า Natalia กลับชื่นชอบมัน นางเริ่มมีความสุขที่ถูกสามีสุดเลิฟทำร้าย นางถอดกางเกงชั้นในแล้วถ่างขาออก ให้ตัวตลกสามีผู้บ้าคลั่งข่มขืนกระทำชำเราแบบสุดเหวี่ยงภายในมุมมืดของร้านอาหารแห่งหนึ่ง อีกมุมของบานกระจกฝั่งตรงข้ามที่สองสามี-ภรรยาวิปริตกำลังซำกันอย่างเมามันส์ กลับมีตัวตลกอ้วนอีกตัวกำลังร่ำไห้ด้วยอารมณ์เจ็บปวดอย่างยากจะบรรยาย….”

หลังจากที่ Javier พ่อตัวตลกร่างอวบแห่งความเศร้าแอบมอง Natalia ถูกรังแกมาเนินนาน เขาจึงวางแผนลอบเป็นชู้กับนางและหวังว่าสักวันหนึ่งจะพานางในฝันนางนี้หนีออกไปจากเงื้อมมือของพญามารร้ายอย่างสามีจอมซาดิสต์โฉดชั่ว Sergio ได้ แต่ปรากฏความลับดันแตก เพราะตลกซาดิสต์ Sergio ดันจับได้ว่าไอ้ห่ารากอ้วนป้อมหน้าเหมือนหมูมาแอบเป็นชู้กับภรรยายังสาวของตน  ทำเอาพ่อหนุ่มตุ้ยนุ้ยนาม Javier ต้องวิ่งหนีตายออกมาจากคณะละครสัตว์แบบไม่คิดชีวิต หนีไปหนีมาดันซวยห่ารากตกหลุมดักสัตว์ในป่าลึก เเถมดันไปพบเข้ากับนายทหารโจทย์เก่าสมัยสงครามกลางเมืองที่แค้น Javier แบบไม่เผาผี(เพราะสมัยหนีออกมาจากเหมือนถ่านหิน Javier ดันไปทำนายทหารคนนี้ตาบอด เสียโฉมด้วยความบังเอิญ) ความซวยมันช่างถาโถมเข้ามาแบบบ้าคลั่งเสียนี่กระไร  จนพอถึงช่วงหนึ่ง Javier ก็เกิดบ้าคลั่งขึ้นมาเพราะเรื่องห่าเหวต่างๆถูกโยงมาทิ่มเเทงภายในหัวใจดวงน้อยๆของเขา!

ใช่ครับ ไอ้ตัวตลกบ้าร่างตุ้ยนุ้ย Javier กำลังกลายร่างเป็นพระเจ้าอย่างสมบูรณ์เเบบ!

“ครั้งนั้น....พ่อตัวตลกแห่งความเศร้าร่างตุ้ยนุ้ยจึงหยิบเอาน้ำกรดมาสาดใส่ใบหน้าตัวเองให้เสียโฉม แล้วจึงใช้เตารีดร้อนๆมานาบลงตรงใบหน้า จากนั้นจึงใช้มีดปลายแหลมทะลวงหน้าผาก คิ้ว แก้ม จนเป็นรูพรุนอย่างสยดสยองพองขนหัว ตัวตลกบ้าคลั่งแบบสุดขีดยิ่งขึ้นไปอีก มันจัดการรื้ออาวุธพิฆาตภายในห้องเก็บของลับของกลุ่มนายทหาร เอาออกมาเพื่อจบเกมทั้งหมด ใช่….ไอ้สัส มันจะต้องเกมในวันนี้!”

****** ความเห็นส่วนตัวของผู้เขียน
เเค่ได้ดูตัวอย่างของมัน(Trailer)ผมก็หลงรักหนังเรื่องนี้เข้าอย่างถอนตัวไม่ขึ้นเสียเเล้ว หลังได้ดูตัวเต็มแบับหลุดกองเซ็นเซอร์จบ เราพบว่าหนังมีฉากการถ่ายทำโคตรสมจริง หม่นหมองในห้วงอารมณ์เเบบสุดๆ หลายฉากเลยที่ตัวตลกเล่นได้อย่างบ้าคลั่งจนเราแอบกลัวนิดๆ(555+) เป็นหนังที่ภาพสวย ตัดต่อกระชับเนียนตาดีครับ งานเอฟเฟคก็เเจ่มสะเด็ดเข้าขั้น กับฉากจบที่พอสังเคราะห์ได้ประมาณ.... “ในสงคราม ไม่ว่าฝ่ายไหนจะเป็นผู้ชนะ แต่ประชาชนทุกคนก็คือผู้แพ้ร่วมกัน” ใช่....มันเป็นเฉกเช่นนั้นจริงๆเเล

เอ่อ....สุดท้ายนี้ หนังดีเลยครับ เอาไป 9 / 10 คะเเนน

ความคิดเห็นที่ 1

อยากดูหนังเรื่องนี้ทัมงัยจ้ะ.. งุงิงุงิ


Function Used time : 0:0:0:0