( เป็นหนังเเนวทหารปะทะสิ่งลี้ลับที่ไม่รู้ว่าเป็นอะไรคะเเนน 10 / 10 ) : Neither Heaven Nor Earth / 2015 (บังเกอร์ผีหลอก!)

“ เล่าลือกันอย่างหนาหูในหมู่ทหารฝรั่งเศสที่มาประจำการที่นี่ว่า มันเป็นบังเกอร์เก่าๆรกร้างตั้งอยู่บริเวณไหล่เขาบนเทือกเขาสูงลูกหนึ่งกลางทะเลทรายในประเทศอัฟกานิสถาน เชื่อว่าถ้าทหารนายใดได้มาเฝ้าเวรยามภายในบังเกอร์ตรงจุดนี้ จะถูกผีหลอกจนเสียสติ แม้แต่ศพก็ยังหาไม่เจอสักรายเดียว….”

ถ้าพูดถึงหนังแนวทหารปะทะสิ่งลี้ลับที่ไม่รู้ว่าเป็นอะไร ลำดับต้นๆที่เราจะนึกออกคงเป็น R-Point / 2004, The Guard Post / 2008, The Squad / 2011, Deathwatch / 2003, เเละ Spectral / 2016 ถามต่อ….ว่าหลังจากนี้มีหนังเรื่องไหนพอที่จะมาเทียบบารมีของ 5 สุดยอดหนังแนวทหารปะทะสิ่งลี้ลับที่ไม่รู้ว่าเป็นอะไร(ที่เอ่ยนามผ่านมานี้ได้บ้าง) คำตอบ ณ ตอนนี้มีครับ ผมยกให้เรื่องนี้เลย Neither Heaven Nor Earth / 2015 (บังเกอร์ผีหลอก!)

Neither Heaven Nor Earth / 2015 หรือ Ni le ciel ni la terre เรื่องนี้เป็นหนังสยองขวัญสัญชาติ France | Belgium โดย Director: Clément Cogitore ที่บอกเล่าเรื่องราวของทหารฝรั่งเศสกลุ่มใหญ่(ราว 30 นาย) กับปฏิบัติการปกป้องคุ้มครองหมู่บ้านแห่งหนึ่งในย่านห่างไกลความเจริญในประเทศอัฟกานิสถานให้ปลอดภัยจากการรุกรานปล้นสะดมของผู้ก่อการร้ายกลุ่มตาลีบัน โดยทางการสั่งให้ทหารกลุ่มนี้ตั้งค่ายใหญ่บนเทือกเขาสูง และมีบังเกอร์รักษาความปลอดภัยเป็นจุดๆล้อมรอบค่าย(หนึ่งจุดมีทหารประจำบังเกอร์ 2 นายพร้อมปืนกลหนักและปืน M16 ประจำกาย)

ปรากฏว่ามันเกิดปัญหาขึ้นตรงบังเกอร์จุดหนึ่ง ที่ซึ่ง…. “ เล่าลือกันอย่างหนาหูในหมู่ทหารฝรั่งเศสที่มาประจำการที่นี่ว่า มันเป็นบังเกอร์เก่าๆรกร้างตั้งอยู่บริเวณไหล่เขาบนเทือกเขาสูงลูกหนึ่งกลางทะเลทรายในประเทศอัฟกานิสถาน เชื่อว่าถ้าทหารนายใดได้มาเฝ้าเวรยามภายในบังเกอร์ตรงจุดนี้ จะถูกผีหลอกจนเสียสติ แม้แต่ศพก็ยังหาไม่เจอสักรายเดียว….” โดยเหตุการณ์ล่าสุดที่ผ่านมาก็คือ บังเกอร์ตรงจุดนี้ปิดหน้าต่างทุกบาน-ล็อคประตูทางเข้าออกจากภายใน แต่ปรากฏว่าพลทหารติดอาวุธหนักพร้อมประจัญบาน 2 นายกลับหายออกไปจากบังเกอร์อย่างไร้วี่แวว ไม่มีแม้ร่องรอยการพยายามต่อสู้ขัดขืนหรือการยิงปะทะ….แล้วศัตรูเข้ามาภายในบังเกอร์ เเล้วเเบกร่างของทหารทั้งสองนายออกไปได้ยังไง ในเมื่อบังเกอร์ลงกลอนล็อคจากภายใน!!

เรื่องดังกล่าวสร้างความมึนงงแก่กัปตัน Antares Bonassieu(รับบทโดย Jérémie Renier)หัวหน้าของทหารหน่วยนี้เป็นอย่างมาก จนในที่สุดก็เริ่มออกสืบเรื่องจากคนพื้นถิ่นของที่นี่และได้ข่าวว่า “การที่ทหารหายไปเพราะบางสิ่งบางอย่างที่เดินอยู่ใต้พื้นดินจับตัวไป ไม่มีใครรู้หรอกว่ามันเป็นใครหรือตัวอะไร มีเพียงพระเจ้า(อัลเลาะห์)เท่านั้นที่รู้ว่ามันคืออะไร และชาวบ้านทุกคนที่นี่หวาดกลัวต่อเจ้าสิ่งนี้มากๆ ทำให้พวกชาวบ้านและพวกตาลีบันต้องบูชาเซ่นสรวงสิ่งลี้ลับนี้(ที่เชื่อว่าเป็นปีศาจร้าย)ด้วยการนำแกะมาผูกไว้กับหลักเสา สังเวย เพื่อให้สิ่งลี้ลับพึงพอใจ ไม่มาเบียดเบียนพวกเรา….”

นอกจากนี้ยังมีเรื่องเล่าลือกันว่าพวกกลุ่มนักรบตาลีบัน(ที่อาศัยอยู่บนเทือกเขาเยื้องๆกัน)ก็หวาดกลัวต่อเจ้าสิ่งลี้ลับนี้เป็นอย่างมาก พวกนักรบผู้ชายที่ติดอาวุธหนักเป็นปืนเอเค-47 และปืนยิงลูกจรวด RPG จำต้องใช้เชือกผูกเอวของตนเองไว้ใกล้ๆกับนักรบคนอื่นๆ เพื่อเวลาถูกเจ้าสิ่งลี้ลับประหลาดโจมตีจะได้รู้ตัวและช่วยเหลือกันได้ทันเวลา….

หลังจากได้ฟังเรื่องเล่าของกลุ่มชาวบ้านและเรื่องเล่าจากปากของนักรบตาลีบันบางคนที่เคยเผชิญหน้ากับสิ่งลี้ลับประหลาดจบ กัปตัน Antares Bonassieu ดูเหมือนจะเริ่มไม่สบอารมณ์เป็นอย่างมาก เขาไม่เชื่อว่าปีศาจมีอยู่จริง เลยออกคำสั่งสุดท้ายให้กลุ่มทหารกล้าสิบกว่านายเตรียมอาวุธหนักให้ครบมือ เพื่อลงไปเฝ้าบังเกอร์ผีหลอกและรบแบบประจัญบานกันสิ่งลี้ลับ(ที่เราไม่มีทางรู้ว่ามันคืออะไร)ในค่ำคืนนี้…..

**** ความเห็นส่วนตัวของผู้รีวิว
เพราะเรื่องนี้เป็นหนังที่มีกระบวนการเล่าเรื่องอย่างเป็นระบบ ผู้กำกับพยายามนำเสนอคำตอบ…ที่ไม่เคยให้คำตอบใดใดแก่เรา!

หนังมีฉากการถ่ายทำที่สวยงามแบบสุดๆ นำเสนอธรรมชาติ-ท้องถิ่นในแบบอัฟกานิสถานที่คนดูดูจบเชื่ออย่างสนิทใจว่า “นี่คือสงครามในอัฟกานิสถานของจริง” หนังนำเสนอภาพความหวาดกลัวของพลทหารที่มีต่อสถานที่-ธรรมชาติ(ทั้งภาคกลางวันและกลางคืนได้อย่าง #สุดขนหัวลุก!) เป็นการใช้พลังความเงียบ-ธรรมชาติ-และความกลัวใต้จิตสำนึกเข้าเล่นงาน “เหยื่อ” อย่างชนิดไม่ไว้หน้าใครทั้งสิ้น แม้เรามองไม่เห็นสิ่งลี้ลับที่มีพลังโจมตี แต่เราก็ยังคิดว่ามันอยู่ตรงเบื้องหน้าของเราอยู่ดี และมีอันตรายต่อเราในทุกสภาวะที่เราเผลอละสายตาจากมัน เรื่องนี้จึงจัดเป็นหนังแนว Genres: Drama | Fantasy | Mystery | Thriller | War ที่ดีเยี่ยมมากๆในสายตาของนักดูหนังสายนี้(เพียงบางกลุ่มเท่านั้นนะ) เป็นหนังที่สนุก-หลอนขนหัวลุกสุดๆ แต่…. “นี่ไม่ใช่หนังที่จะสนุกสำหรับทุกๆคน!”

ถ้าถามผมว่าให้คะแนนเท่าไหร่….เรื่องนี้ผมชอบมากๆครับ แค่บรรยากาศภายในหนังก็กินขาด-สุดๆล่ะ มันคล้ายจับ R-Point / 2004 มายำกับ The Squad / 2011 แล้วก็ยัดห่า Deathwatch / 2003 ลงไป แล้วเอาสากมาตำรัวๆจนออกมาเป็นหนังเรื่องนี้ ถ้าให้คะแนนก็ซัก 10 / 10 คะแนนไปเลยครับ เรื่องนี้รักเลยแม้ปริศนาภายในหนังเราต้องวิเคราะห์กันจาก Spoil ของต่างประเทศอีกทีจนกระจ่างก็เหอะ ยังไงก็ชอบครับเรื่องนี้ อิอิอิ(ความเห็นส่วนตัวล้วนๆนะเออ)