รีวิว : เมื่อสาวน้อยน่ารักโลหิตท่วมตัววิ่งเล่นในท้องทุ่งดอกลาเวนเดอร์อย่างสนุกสนาน นี่คือหนังน่ารักสำหรับคนทัศนคติโลกสวยใน : Lavender / 2016 (แล้วฉันก็กลับสู่อ้อมกอดของครอบครัวแสนสุข….)

จะมีใครสักกี่คนที่กล้าสร้างหนังสยองขวัญเกี่ยวกับจิตวิเคราะห์มนุษย์ ผสานตำนานความเชื่อเรื่องผีสางสุดหลอน และจบลงด้วยการหักมุมล้างแค้นแบบฆ่าล้างโคตร-มันลงตัวและกลมกล่อมประหนึ่งการนั่งจิบกาแฟยี่ห้อ Hacienda La Esmeralda ของปานามาในช่วงสายของวันที่อากาศดี…ว่าแต่คุณรู้จักตัวตนของผู้กำกับชื่อ Ed Gass-Donnelly ดีแค่ไหน (????)

นิ่งๆไว้แล้วเริ่มนับนะ Jane นับช้าๆ แล้วทุกอย่างจะเริ่มดีขึ้น นับตัวเลขพร้อมกันนะ 5-4-3-2 แล้วก็….

ผมจำได้ว่าเมื่อวาน….พอเริ่มว่างจากงานประจำ ก็นั่งเคาะแป้นคอมฯหาหนังสยองขวัญไว้ดูสนุกสนานเรื่อยๆ สบายๆ ชิลล์ๆ ตามประสา เอ่อ…ก็ไปเจอหน้าปกของหนังเรื่องนี้พร้อมลิ้งตัว Full โชว์หราอยู่ ณ เว็บออนไลน์ต่างประเทศแห่งหนึ่ง จริงๆขอบอกว่าหน้าปกของมันไม่เร้าอารมณ์ให้ผมอยากหยิบลิ้งของมันมาดูเสียเท่าไหร่ ปกหนังประมาณ มีลูกโป่งสีแดง, ท้องทุ่งต้นอะไรสักอย่าง, แล้วก็ภาพของผู้หญิง(ภาพเลือนลาง), บ้านหลังเก่า(ที่ดูหลอนๆ), แล้วก็… เอ่อ ภาพใบหน้าผู้หญิง(นางเอกของเรื่อง / มั๊ง) บนท้องฟ้า ใช่….ประมาณนี้แหล่ะ ดูแล้วผ่านๆมันก็ เอ่อ…เฉยๆ

พอดูชื่อหนัง (หนังชื่อ Lavender / 2016) ชื่อแปลกจัง จริงๆชื่อแนวนี้น่าจะออกประมาณหนังรัก, หนังเพลงโลกสวยฟรุ๊งฟริ๊งมากกว่า(มั๊ง) คราวนี้เลยอยากทราบเรื่องย่อ เลยไปหาอ่านเรื่องย่อภาคภาษาอังกฤษเอาที่เว็บมหาชนอย่าง IMDB ซึ่งก็เขียนไว้หยาบๆประมาณ….หญิงสาวนางหนึ่งที่มีปัญหาเรื่องความทรงจำบางส่วนหายไป จิตแพทย์จึงแนะให้เธอกลับไปเยียวยาตนเองที่บ้านเก่าของเธอ โดยหวังว่าเธอจะค้นพบและได้ตัวตนที่แท้จริงกลับมา….. (หนังเล่าไว้แค่ประมาณนี้จริงๆ) กับคะแนนที่ได้ 7.3 / 10 คะแนน(ในช่วง 2-3 วันแรกที่หนังปล่อยตัว Full ออกมา) และเพราะมันเป็นหนังแนว Horror Movie (Genres : Drama-Thriller) การได้คะแนนในระดับนี้…จึงถือกันว่าสูงมากๆ (ตรงนี้แหล่ะเริ่มทำให้ผู้เขียนชักอยากลองดูมันให้จบสักครั้ง / โดยคิดเอาไว้ว่า ลองดูไปก่อนซัก 30 นาที ถ้าไม่สนุก หรือชักไม่สนุกด้วย ก็แค่ปิดทิ้ง…จบ!)

Lavender / 2016 (แล้วฉันก็กลับสู่อ้อมกอดของครอบครัวแสนสุข….) เป็นหนังร่วมทุนสร้างของสองประเทศ (Canada และ USA) ในแนวทาง Genres : Drama-Thrillerโดยผู้กำกับ Ed Gass-Donnelly และได้ Colin Frizzell มาช่วยเกลาบท หนังโฟกัสลงไปที่เรื่องราวเมื่อวันที่ 10 ตุลาคม ปี ค.ศ. 1985 ในฟาร์มปศุสัตว์ และท้องทุ่งเล็กๆแห่งหนึ่งย่านชานเมือง กับเหตุการณ์ฆาตกรรมหมู่ภายในบ้านหลังหนึ่ง ซึ่งเมื่อตำรวจที่ลงมาในพื้นที่ก็ได้เข้าจับกุมเด็กหญิงคนหนึ่ง(วัยประมาณ 8-10 ขวบปี) เด็กหญิงที่ร่างกายและใบหน้าเต็มไปด้วยเลือด ในมือกำมีดโกนไว้แน่น นั่งตัวสั่นอยู่ที่มุมห้องอย่างหวาดกลัว แล้วภาพก็จมดับมืดหายไป….กระทั่ง

อีก 25 ปีต่อมา…..

หนังกำลังนำคุณผู้ชมเข้าสู่ “อีกโลก” กับมุมมองของหญิงสาวนางหนึ่ง เธอชื่อ Jane (รับบทโดย Abbie Cornish) จากภาพเด็กหญิง(วัยประมาณ 8-10 ขวบปีเมื่อ 25 ปีก่อน) ปัจจุบันเธอแต่งงานแล้วกับสามีสุดรัก Patrick (รับบทโดย Dermot Mulroney) และมีลูกสาววัยกำลังน่ารัก (อายุประมาณ 8-10 ขวบปี) อย่าง Alice (รับบทโดย Lola Flanery) ใช่….เธอกำลังมีชีวิต-มีคืนวัน-และมีครอบครัวที่แสนสุขเลยล่ะ เรื่องราวชีวิตคู่และครอบครัวของเธอดูเหมือนจะ Happy Ending หลังเหตุชวนเศร้าเมื่อหลายปีก่อนผ่านพ้นไป กระทั่ง อยู่มาวันหนึ่ง ภาพในอดีตบางส่วนมันก็เริ่มผุดขึ้นมาอยู่ในหัวของเจ้าหล่อน….และค่อยๆรุนแรงขึ้น หนักหน่วงขึ้นอย่างน่ากลัว พร้อมกล่องของขวัญใบจิ๋วผูกริบบิ้นแดงหาที่มาที่ไปไม่ได้ ซึ่งมันจะปรากฏขึ้นทุกครั้งพร้อมกับเรื่องร้ายๆเสมอๆ

วันนั้น….นางเอกของเรื่อง (Jane) เธอเริ่มมีอาการแปลกๆทางสมอง เธอเริ่มมองเห็นเด็กหญิงคนหนึ่งในความคิดและจินตภาพในหัวของเธอ เด็กหญิงคนที่เธอเห็นเรียกชื่อตนเองว่า “Alice” (มีหน้าตาคล้ายลูกสาวของเธอ แต่ Alice ในจินตภาพที่เธอเห็นมีสภาพคล้ายซากศพไร้ชีวิต) นับแต่วันนั้น…เด็กน้อย Alice เริ่มเข้ามาก่อกวนชีวิตของสาวเจ้าอย่างเบาบาง และหนักหน่วงขึ้นทุกครั้งที่เธอพยายามปรับทัศนคติตนเองว่า “เรื่องที่เธอเห็นทั้งหมดมันไม่เป็นเรื่องจริง!” คุณสามี(Patrick)จึงแนะนำให้ภรรยาสุดเลิฟไปรักษาอาการป่วยกับจิตแพทย์ท่านหนึ่ง ปรากฏว่ายิ่งรักษาอาการที่นางเอกมองเห็นเด็กหญิงAliceในความฝันและใน “อีกโลก” (ภาวะกึ่งหลับกึ่งตื่น) ภาพมันยิ่งรุนแรงขึ้น ถี่ขึ้น จนจิตแพทย์แนะนำวิธีสุดท้ายคือให้เธอไปทำการบำบัดรักษาอาการด้วยตนเองกับวิธี “ย้อนกลับไปสู่จุดเริ่มต้นแห่งอดีตความกลัวที่อยู่ภายในจิต” ซึ่งก็คือการให้นางเอกของเรื่องและครอบครัว(คุณสามี-คุณลูกสาว)เดินทางท่องเที่ยวผ่อนคลายชีวิตในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ กับการเดินทางกลับไปยังบ้านเก่า, ฟาร์มปศุสัตว์ และท้องทุ่งของครอบครัวเธอเองในอดีตเพื่อให้เธอได้ฟื้นความทรงจำ-รักษาบาดแผลในหัวใจ(ทรอมา)ในอดีตให้จบสิ้นด้วยกล้องถ่ายรูปและการถ่ายภาพที่เธอรัก จวบจนได้วันที่เหมาะสม สาว Jane พร้อมครอบครัวจึงเดินทางไปพบคนงานเก่าของฟาร์มปศุสัตว์เพื่อขอยืมกุญแจสำหรับเปิดบ้านเก่าของเธอ และเพื่อพักค้างแรมในคืนนี้ โดยหารู้ไม่ว่าการเดินทางกลับไปยังบ้านเก่าหลังน้อย(คืนนี้)อาจจะทำให้ชีวิตของเธอไม่กลับมาเหมือนเดิมอีกตลอดกาล…..

Lavender / 2016 หนังใช้ชื่อสำหรับฉายในภาคภาษารัสเซียว่า Фотограф / 2016 หนังมีความยาวประมาณ 92 นาที ออกฉายครั้งแรกเมื่อ 3 มีนาคม ปี 2017 (ใน USA) นำแสดงโดย Dermot Mulroney, Abbie Cornish และ Justin Long

**** ความเห็นส่วนตัวของผู้เขียน
หนังเรื่องนี้เล่าถึง….พฤติกรรมของมนุษย์หลากหลายจำพวก เช่น กลุ่มที่มีทรอมา (Trauma) อย่างฝันลึกแนบแน่นในจิต, กลุ่มที่มีอาการฟิโดฟิเลีย (Pedophilia) อันอยู่ใต้ร่มเงาของพาราฟิเลีย (Paraphilia) อย่างซ่อนเร้นปิดบัง, รวมทั้งเรื่องราวเกี่ยวข้องในกรณีการศึกษาเรื่องราวทางสาย Animism และ Mana ของชาวแคนาดาและอเมริกาในกระบวนทรรศน์แบบ Cultural Diffusion (ว่าด้วยเรื่องการแพร่กระจายวัฒนธรรมทางความเชื่อ #เป็นหลัก) ดูจนจบ…พบว่าช่วงเวลาที่นางเอกของเรื่องเกิดภาวะ Trance (ภาวะกึ่งสำนึก) ขึ้นมา ทำให้นึกถึงงานเขียนของ Donna Williams จากหนังสือชื่อ Nobody Nowhere (เป็นใครมาจากไหนก็ไม่รู้) กับวลีตราตรึงอันบรรยายถึงสภาพการต่อสู้ระหว่างเธอและเธอที่มีชีวิตอยู่ในอีกโลกหนึ่งว่า “นี่คือสงครามในสองสมรภูมิ หนึ่งคือการหลีกหนีจากโลก และอีกหนึ่งคือการดิ้นรนเพื่อให้ได้เข้าไปอยู่ นี่คือสงครามในโลกของฉัน แนวทางการต่อสู้ ยุทธวิธีที่ใช้ และความเสียหายที่เกิดจากสงครามส่วนตัวของฉันในการต่อสู้กับผู้อื่น ถ้าคุณรู้สึกว่าเข้าไม่ถึง ก็มิได้ผิดแปลกอันใด เป็นเช่นนั้นจริงๆ ขอต้อนรับสู่โลกของฉัน….” (วาทะโดย : Donna Williams จากหนังสือชื่อ Nobody Nowhere / พิมพ์ภาคภาษาไทยโดยสำนักพิมพ์มติชน)

Lavender / 2016 เป็นหนังที่มีการเล่าเรื่องได้อย่างสุขุมลุ่มลึก ขอชมผู้กำกับ Ed Gass-Donnelly และคนเกลาบท Colin Frizzell ที่ช่วยกันทำให้หนังเรื่องนี้มีชีวิตและทำให้คนดูได้ซาบซึ้งไปกับมันชนิดพองขนหัว หนังมีเทคนิคการถ่ายทำในแต่ละฉาก นำเสนอภาพที่งดงามตระการตา ขอชมว่าผู้กำกับ Arts ของหนังเรื่องนี้เก่งนะที่รู้จักการเล่นศิลป์แห่งความหวาดกลัว-ชวนหวาดระแวง เป็นศิลปะสวยงามที่สร้างความสงสัยในบรรยากาศแบบเปิดโล่ง ซึ่งคนดูจะถูกถล่ม-กระชากหัวใจให้ดำดิ่งลงสู่ขุมนรกในบรรยากาศเปิดโล่งกลางท้องทุ่งอันแสนเงียบสงบ และในอีกมุม กับภาวะอับชื้นสลัวด้วยแสงอันบางเบาของห้องหับหลังแคบๆกับบรรยากาศกึ่งปิดตาย ผสานด้วยโทนดนตรีประกอบหลากหลายอารมณ์ โดยในช่วงต้นเรื่อง(แรกๆ)เป็นเสียงไวโอลินบรรเลงคลอเบาๆ ด้วยเพลงที่พร้อมเบิกจินตนาการ ช่วยให้คนดูรู้สึกผ่อนคลาย สนุกสนาน จวบจนผู้กำกับต้องการ “เล่น” กับอารมณ์ของคนดูให้กระเจิดกระเจิง การปรับโทนดนตรีให้ลุ่มลึก ฟังแล้วเกิดอาการสงสัย หวาดระแวงจึงเกิดขึ้น ซึ่งมันช่วยให้หนังมีโทน-น้ำหนัก-ความน่าติดตามเพิ่มขึ้นทวีคูณจนไม่สามารถละสายตาจากหนังเรื่องนี้ได้ลง

อีกจุดหนึ่ง ผมชอบตรงการลากความเชื่อมโยงในหนังเรื่องนี้ที่ผู้กำกับกล้าที่จะเล่นกับอารมณ์-อาการสนใจใคร่รู้ของผู้ชม-คนดู ด้วยการนำเสนอภาพการวิเคราะห์ภาวะความเจ็บป่วยทางจิต และการวิเคราะห์ภาวะภายในอันบูดเบี้ยวของมนุษย์ ผสานกับตำนานความเชื่อเรื่องผีสางสุดหลอนประจำถิ่น และจบลงกับการหักมุม-ล้างแค้นแบบฆ่าล้างโคตร…ลงตัวกลมกล่อม! (มันดูยอดเยี่ยมและทรงพลังมาก)

สรุปว่า Lavender / 2016 เป็นหนังดีมากๆเลยนะ ภาพสวย, ดนตรีไพเราะ, จังหวะลูกล่อลูกชน…เป๊ะ! เป็นหนังที่สร้างความสงสัย จนนำไปสู่การค้นพบความจริงอันสุดสะพรึง และฉากจบอันแสนสะใจ(แบบเล็กๆ) ถ้านับวันที่ 1 มกราคม ปี 2560 – ปัจจุบัน (วันที่ 7 กุมภาพันธ์ ปี 2560) ผมยกให้หนังเรื่องนี้ #ดีที่สุดนับแต่ดูมาครับ มันเป็นหนังสยองขวัญที่ดีเยี่ยม, Perfect ในเกือบทุกด้าน ถ้าจะให้คะแนนนะ…ผมเทให้ 10 / 10 คะแนนไปเลยครับ (ความเห็นส่วนตัวล้วนๆนะ)