จุดกำเนิดแห่ง Snuff film Snuff film คำๆนี้มีจุดเริ่มต้นมาจากที่ไหน ในปี ค.ศ. 1916 มีนวนิยายอยู่เรื่องหนึ่งชื่อ Tarzan and The Jewels of Oper ได้กล่าวเอาไว้ในเนื้อเรื่องบางส่วนเกี่ยวกับคำว่า Snuff film อันมีความหมายไปในทิศทางที่เลวร้าย สื่อถึงหายนะและความตาย นอกจากนี้ในหนังสือเรื่อง 1971 by Ed Sanders,Family : The story of charles Manson (คัดลอกข้อมูลจากหนังสือ The New York Times, Oct. 31, 1971)ได้กล่าวถึงเรื่องราวของ Manson Family (ครอบครัวแมนสัน)ผู้นำของครอบครัวนี้เป็นชายชาวอเมริกันที่มีชื่อว่า Charles Manson (ชาร์ลส แมนสัน)ซึ่งต่อมาประวัติส่วนตัวของแมนสันได้กลายเป็นส่วนหนึ่งแห่งหนัง Snuff film ใน wikipedia (http://en.wikipedia.org/wiki/Snuff_film วันที่ 26 กรกฎาคม 53) กล่าวสรุปอธิบายถึงหนังแนว Snuff film เอาไว้ว่า Snuff film หมายถึง ภาพยนตร์ หรือหนังที่แสดงให้เห็นภาพบันทึกความตาย ภาพการสังหารบุคคล ประชาชนโดยไม่ต้องใช้เทคนิคพิเศษในการถ่ายทำ แต่เป็นการถ่ายจากของจริง ในเว็บไซต์ listing-index.ebay (http://listing-index.ebay.com/movies/Snuff_film.html)อธิบายความหมายของ Snuff film สรุปเอาไว้ว่าหมายถึง หนังที่มุ่งให้เห็นฉากการฆาตกรรมของจริง เป็นการฆาตกรรมที่มิใช่อุบัติเหตุ แต่เป็นการฆาตกรรมที่มีเจตนากระทำการอย่างชัดเจน และตัวหนังดังกล่าวสร้างขึ้นเพื่อความบันเทิงของคนกลุ่มหนึ่งอันไม่เป็นที่เปิดเผย ในเว็บ kucity.kasetsart.org ของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ในหน้า Movie Report ในเว็บ blogging หน้า Movie Report (http://kucity.kasetsart.org/kucity/WebFormDetailBoard.aspx?BRD_ID=12445&PAGE=1) ได้กล่าวถึงเรื่องของ Snuff film เอาไว้สรุปได้ว่า กล่าวถึง Snuff film แล้วเชื่อว่าเป็นของหนัก บางคนก็เชื่อว่ามันเป็นประตูเพื่อเข้าไปสู่โลกมืด มีตำนานบ้าๆที่เล่ากันในหมู่คนดูหนังสยองขวัญ ว่าถ้าดู Snuff film แล้วจะทำให้เครียดมากหรือดูแล้วหลอนไปเลย ไม่สามารถจะชี้ชัดว่า Snuff film ของแท้นั้นสามารถหาดูได้จากที่ไหน จากข้อมูลที่ได้มาเบื้องต้น ผู้เขียนจึงขอนิยามความหมายเฉพาะแห่ง Snuff film ว่า Snuff film นั้นหมายถึง ภาพยนตร์ หรือหนังประเภทมีฉากฆาตกรรมของจริง เนื้อหาหลักภายในหนังเน้นฉากการฆ่า ทรมาน ข่มขืนนักแสดงเสียเป็นส่วนมาก หนังแนว Snuff film ส่วนใหญ่มักนิยมถ่ายแบบ “ลองชอร์ต ไม่มีเทค” ใน Snuff film จะไม่ปรากฏรายชื่อนักแสดง ผู้กำกับ วัน เวลา และสถานที่ในการถ่ายทำแต่ประการใด นักแสดงตัวเอกอาจถูกหลอกมาแสดงหรือถูกวางยาที่ทำให้สติไม่ปกติ Snuff film จึงเป็นภาพบันทึกห้วงแห่งความตายที่แสนวิปริตแต่กลับเป็นที่ถูกอกถูกใจคนบางกลุ่มถึงขั้นลุ่มหลง ยกย่องเชิดชูให้เป็นประหนึ่งอาหารเลิศรส หาชิมยาก เป็นที่ปรารถนาให้ได้มาเพื่อตอบสนองรสนิยมส่วนตัวอันแสนอันตราย Snuff film แบ่งออกเป็น 2 ประเภทคือ Snuff film แบบแท้และแบบเทียม โดย Snuff film ในแบบแท้นิยมเรียกกันว่า Real Snuff film ส่วน Snuff film แบบเทียมนิยมเรียกกันว่า Fake Snuff film
จากคุณ : samara17520
เขียนเมื่อ : 5 Oct 16 15:08
|
|
จากคุณ : samara17520
เขียนเมื่อ : 5 Oct 16 15:09
|
|
Real Snuff film หนังแห่งตำนานต้องห้ามตลอดกาล
จากการบันทึกข้อมูลใน wikipedia (http://en.wikipedia.org/wiki/Snuff_film วันที่ 26 กรกฎาคม 53) ได้กล่าวอ้างถึง Real Snuff film เอาไว้ถึง 5 กลุ่มตัวอย่างคดี (ที่ได้รับการเปิดเผย) ซึ่งหมายถึงเป็นการถ่ายทำ Snuff film ของแท้แบบเล่นจริงตายจริงที่มิใช่เป็นแบบ Fake Snuff film แต่ประการใด กลุ่มตัวอย่างคดีแรกคือเรื่องราวที่ได้บันทึกเอาไว้ระหว่างปี ค.ศ. 1983-1985 กับการบันทึกเทปวีดีโอของ Charles Ng และ Leonard Lake ซึ่งทั้ง 2 เป็นฆาตกรโหดในกลุ่มที่กล่าวอ้างมาข้างต้น Charles Ng หรือ Charles Chi-Tat Ng ชายสัญชาติ Chinese และนาย Leonard Lake สัญชาติ American ได้ร่วมกันกักขังหน่วงเหนี่ยวเหยื่อสาว และทรมานด้วยกรรมวิธีต่างๆจนถึงแก่ความตาย ที่ขาดเสียไม่ได้เลยคือทั้ง Charles Ng และ Leonard Lake ได้บันทึกเทปวีดีโอในการทรมานเหยื่อของเขาเอาไว้ด้วย กลุ่มตัวอย่างคดีต่อมากล่าวถึง Paul Bernardo และภรรยาสาว Karla Homolka คู่รักสุดหล่อ-สวยประหนึ่งเทวดาและนางฟ้าที่หวานปานจะกลืนกินจากประเทศแคนาดา เรื่องนี้เกิดขึ้นในปี ค.ศ. 1990 กับ Paul Bernardo ผู้ได้รับฉายา “นักข่มขืนแห่งสการ์บอโรห์” กระทำการกักขังหน่วงเหนี่ยว-ข่มขืน และฆาตกรรมเด็กสาว 2 คนอย่างทารุณ นอกจากนี้ Paul Bernardo และ Karla Homolka ยังได้บันทึกเทปวีดีโอขณะลงมือข่มขืนเหยื่อ และยังทำลายศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ด้วยการหั่นศพแยกร่างออกเป็นชิ้นๆ ปรากฏหลังจากทั้งคู่ถูกจับ Paul Bernardo ถูกตัดสินให้จำคุกตลอดชีวิต ส่วน Karla Homolka ภรรยาสาวถูกจำคุกจนถึงปี ค.ศ. 2005 ปัจจุบันเทปวีดีโอที่ Paul Bernardo ร่วมกับภรรยาในการฆาตกรรมเหยื่อกำลังเป็นที่ต้องการของนักสะสมของแปลก ซึ่งราคาค่างวดที่มีคนจ้องจะซื้อมันนั้นสูงลิบ!!! ซึ่งก็ยังเชื่อกันว่าเทปม้วนดังกล่าวยังคงอยู่ในความครอบครองของทางการแคนาดาจวบจนทุกวันนี้ (ข้อมูลเพิ่มเติมจาก บทความชุดฆาตกรโหดสะท้านโลก ตอนที่ 248 : Paul Bernardo & Karla Homolka ตอนที่ 1-4 โดย writer.dek-d.com) กลุ่มตัวอย่างคดีที่ 3 คดีนี้เกิดขึ้นในปี ค.ศ. 1997 เป็นเรื่องที่ Ernst Dieter Korzen และ Stefan Michael Mahn สองหนุ่มชาวเยอรมันได้ร่วมกันล่อลวงและลักพาตัวโสเภณีมากักขังหน่วงเหนี่ยว กระทำอนาจาร ข่มขืน และสุดท้ายก็ฆ่าเหยื่อด้วยของมีคมชนิดต่างๆ ต่อมามีหญิงสาวนางหนึ่งหลบหนีออกมาได้ทั้งสองจึงถูกจับพร้อมเทปของกลางมากมาย ส่วนมูลเหตุและแรงจูงใจให้ทั้งสองกระทำการดังกล่าวก็คือเงินที่ได้ในการขายหนังแนว Snuff film (Real Snuff film)ให้กับคนในตลาดมืด ทั้งสองถูกจับและถูกศาลสั่งจำคุกตลอดชีวิต และตามรายงานบันทึกเอาไว้ด้วยว่า Ernst Dieter Korzen และ Stefan Michael Mahn เป็นชาวยุโรปกลุ่มแรกๆที่ถูกจับในคดีทำ Snuff film (Real Snuff film) เพื่อขายในเชิงพาณิช
ภาพประกอบ : Paul Bernardo และภรรยาสาว Karla Homolka
จากคุณ : samara17520
เขียนเมื่อ : 5 Oct 16 15:10
|
|
กลุ่มตัวอย่างคดีที่ 4 เกิดขึ้นในปี ค.ศ. 2001 โดยฆาตกรที่มีส่วนเกี่ยวพันกับการถ่ายทำ Snuff film (Real Snuff film) รายนี้มีชื่อว่า Armin Meiwes ชายชาวเยอรมันผู้มีชื่อเสียงดังก้องโลกด้วยฉายา Rotenburg Cannibal (มนุษย์กินคนแห่งโรเธนเบิร์ก) หรืออีกฉายาคือ The Cannibal Cafe (ซึ่งคำว่า The Cannibal Cafe นี้เองใช้เรียกชื่อกลุ่มที่มีความชื่นชอบรับประทานเนื้อคนในเว็บไซต์อันตรายแห่งหนึ่ง) Armin Meiwes เกย์หนุ่มวัย 41 ขวบได้ใช้ Internet ป่าวประกาศออกไปเพื่อหาอาสาสมัครมาให้เขากินเป็นอาหารมื้อค่ำ ปรากฏมีผู้อาสา(มาเป็นอาหาร)ให้ Armin Meiwes กินเกือบ 300 คน หนึ่งในหลายคนนั้นก็คือ Bernd Jürgen Armando Brandes ที่ตกมาเป็นอาหารอันโอชะของเขา จากคำให้การในทางลับได้ข้อมูลว่า Bernd Jürgen Armando Brandes ซื้อตั๋วเดินทางโดยสารรถไฟแบบเที่ยวเดียว(ไปแบบไม่กลับ) ทั้ง Armin Meiwes และ Brandes ได้ร่วมกันสร้างสัมพันธ์ที่แนบแน่น(ตามประสาเกย์)กันในห้องนอน จวบจนถึงเวลาที่ได้นัดหมาย Brandes กินยานอนหลับเข้าไปถึง 20 เม็ด นอกจากนั้นยังกินของอีกหลายอย่างรวมถึงเหล้า schnapps เพื่อให้เกิดอาการมึนเมา(จะได้ถูกกินแบบไม่เจ็บปวดมาก) ผลก็คือ Armin Meiwes ได้กิน Bernd Jürgen Armando Brandes สมใจอยาก พร้อมทั้งมีการบันทึกวีดีโอขั้นตอน+กรรมวิธีในการทานดินเนอร์มื้อนั้นเอาไว้อย่างละเอียด หลังจาก Armin Meiwes ถูกจับกุมตัวได้ก็ปรากฏว่ามีผู้สนใจในประวัติของมนุษย์กินคนรายนี้มากถึงขั้นคลั่งไคล้หลงใหล จนมีการสร้างหนังเกี่ยวกับ Armin Meiwes ขึ้นมาในปี ค.ศ. 2006 ใช้ชื่อว่า Cannibal ได้ Marian DoraMeiwes เขียนบทหนังและอำนวยการสร้าง ส่วนนักแสดงก็ได้ Carsten Frank รับบทเป็น Armin Meiwes ส่วน Victor Brandl รับบทเป็นผู้อาสาถูกกิน Bernd Jürgen Brandes
ภาพประกอบ : Armin Meiwes ฉายา “มนุษย์กินคนแห่งโรเธนเบิร์ก”
จากคุณ : samara17520
เขียนเมื่อ : 5 Oct 16 15:10
|
|
กลุ่มตัวอย่างคดีสุดท้ายเกิดขึ้นในราวเดือนกรกฎาคม ปี ค.ศ. 2007 ในรายของ Viktor Sayenko และ Igor Suprunyuck สองเด็กหนุ่มวัยรุ่นหัวก้าวร้าวได้ช่วยกันทุบตีเหยื่อด้วยค้อน และแทงด้วยไขควงจนเหยื่อถึงแก่ความตาย โดยระหว่างที่มีการทำร้ายและฆ่าเหยื่อทิ้งนี้เองเด็กทั้งสอง(ความจริงมีเด็กอีกคนร่วมด้วยชื่อ Alexander Hanzha)ได้ถ่ายคลิปดังกล่าวไว้ในโทรศัพท์มือถือ รวมทั้งเอาไปเผยแพร่ใน Internet ด้วยความคึกคะนอง กลายเป็นข่าวดังในเว็บไซต์ และตามหน้าหนังสือพิมพ์หัวสีไปหลายวัน ซึ่งในคลิปวีดีโอที่ได้อัพโหลดใน Youtube (เข้าใจว่าลงไว้หลายแห่ง)ได้ทำให้ผู้ที่ได้รับชมถึงกับตกตะลึงกับพฤติกรรมอำมหิตดังกล่าวที่ได้พาลพบประสบเจอ ปัจจุบันทั้ง Viktor Sayenko และ Igor Suprunyuck ถูกจับกุมและกำลังชดใช้กรรมที่ตนเองได้ก่อเอาไว้ ณ สถานที่คุมขังแห่งหนึ่ง (ข้อมูลเพิ่มเติมทั้ง 5 กลุ่มตัวอย่างคดีจาก Wikipedia ภาคภาษาอังกฤษ ใน http://en.wikipedia.org/wiki/Snuff_film วันที่ 26 กรกฎาคม 53) โดย Snuff Film ที่ Viktor Sayenko, Igor Suprunyuck และ Alexander Hanzha ได้ร่วมกันถ่ายทำในครั้งนั้นมีชื่อว่า “3 guys 1 hammer” เด็ก 3 คนนี้ใช้ชื่อกลุ่มว่า Dnepropetrovsk Maniacs
ภาพประกอบ : Viktor Sayenko, Igor Suprunyuck and Alexander Hanzha
จากคุณ : samara17520
เขียนเมื่อ : 5 Oct 16 15:11
|
|
จากคุณ : samara17520
เขียนเมื่อ : 5 Oct 16 15:12
|
|
[/url]
ปี 1980 ยุคทองแห่งหนังแนว Snuff film ถือกันว่าปี ค.ศ. 1980 เป็นยุคทองของหนังแนว Snuff film อย่างแท้จริง โดยมีหนังแนวดังกล่าวออกมาให้ชมโฉมกันเป็นจำนวนมาก หนึ่งในนั้นที่จะไม่กล่าวเสียมิได้คือ Snuff film เรื่อง Cannibal Holocaust ปี 1980 (ชื่อไทยว่า เปรตเดินดินกินเนื้อคน)หนังของ Ruggero Deodato ผู้กำกับหัวรุนแรงชาว Italy หนังเรื่องนี้สร้างกระแสอย่างเกรี้ยวกราดในการเปิดฉายรอบปฐมทัศน์ในหลายๆประเทศ กับฉากมุมมองผ่านกล้อง Home Video ของวัยรุ่นหนุ่มสาวอเมริกันชนกับการเดินทางเข้าไปถ่ายทำสารคดีป่ากินคน-ชนเผ่ากินคนในป่าอเมซอน ฉากที่เป็นที่กล่าวขานกันว่าช็อคคนดูทั่วโลกจนถึงกับมีคนตั้งคำถามขึ้นว่า “สิ่งที่พวกเขาได้เห็นอยู่ตรงหน้านี้ มันเป็นเพียงหนังหรือเรื่องจริง?” ฉากดังกล่าวนี้ก็คือฉากที่หญิงสาวชาวป่าถูกข่มขืนแล้วจับเอาไม้ปลายแหลมมาเสียบเข้าที่รูทวารทะลุถึงปาก นอกจากนี้ก็ยังมีฉากในตำนาน ซึ่งก็คือฉากการฆ่าตะพาบน้ำขนาดใหญ่(ฉากนี้ของจริงครับ) ปรากฏว่าหลังจากหนังเรื่อง Cannibal Holocaust ออกฉายได้ไม่นาน Ruggero Deodato ถูกต่อต้านจากกลุ่มคนรักสัตว์และกลุ่มนักอนุรักษ์เป็นการใหญ่ข้อหาทรมานสัตว์ และฆ่าสัตว์เพื่อถ่ายทำสารคดี
ภาพประกอบ : Cannibal Holocaust เปรตเดินดินกินเนื้อคนในปี 1980
จากคุณ : samara17520
เขียนเมื่อ : 5 Oct 16 15:13
|
|
หนังในตระกูล Guinea Pig ราวปี ค.ศ. 1985 หนังในตระกูล Guinea Pig หรือซีรี่ย์ Guinea Pig นี้เองถือว่าเป็นหนังแนว Snuff film แบบเทียมที่โด่งดังที่สุดในทวีป Asia โดยเฉพาะภาค Guinea Pig : Devils Experiment (ศิลปะแห่งมาร)ซึ่งเน้นการทรมานหญิงสาวที่ถูกพันธนาการในรูปแบบต่างๆ หลายๆคนถึงกับเชื่อว่ามันเป็นของจริงและไม่สามารถทนดูให้จบลงได้ แต่หากจะพูดถึงซีรี่ย์ Guinea Pig ซึ่งมีทั้งหมด 7 ภาค(รวมภาคพิเศษด้วยก็เป็น 8 )ภาคที่ได้รับการกล่าวขานว่าสร้างออกมาได้สมจริงชวนวิงเวียนอ้วกแตกมากที่สุดคงหนีไม่พ้น Guinea Pig : Flower of Flesh and Blood (ดอกไม้โลหิต)ซึ่งก็คือตอนที่ดัดแปลงมาจากการ์ตูนสยองขวัญเรื่อง M Collection ตอน Akai Hana ด้วยภาคนี้เองที่ทำให้ Charlie Sheen ดาราฮอลีวูด ที่ได้ดูเข้าถึงกับตกใจเป็นที่สุด และเข้าใจว่า Guinea Pig : Flower of Flesh and Blood ที่ได้ดูจนจบเป็น Real Snuff film (สนัฟฟ์ฟิล์มของจริง)เลยทำการติดต่อ MPAA (Motion Picture Association of America)และ FBI ให้ช่วยสืบสวนคดีดังกล่าว จนในที่สุด Hideshi Hino ผู้กำกับต้องเอาเบื้องหลังการถ่ายทำออกมาแสดงให้ตำรวจดูว่าไม่ใช่ Real Snuff film แต่เป็นเพียง Fake Snuff film ที่สร้างได้อย่างเหมือนจริงสุดๆเท่านั้น ผู้กำกับจึงรอดคุกไปแบบฉิวเฉียด นอกจากนี้ยังปรากฏคดีฆาตกรรมอื้อฉาวในประเทศญี่ปุ่นโดยฆาตกรนามว่า Tsutomu Miyazaki ซึ่งเล่าลือกันว่าได้มูลเหตุและแรงจูงใจมาจากการชมภาพยนตร์ซีรี่ย์ Guinea Pig กระทำการฆาตกรรมเด็กผู้หญิง 4 รายเลียนแบบหนัง Guinea Pig : Flower of Flesh and Blood โดย Tsutomu Miyazaki เองซึ่งขณะนั้นอยู่ในกลุ่ม “โอตากุ” ได้ทำให้พวก “โอตากุ” กลายเป็นเป้าและจำเลยของสังคมไปอย่างช่วยไม่ได้ ยังผลให้เกิดกระแสการต่อต้านพวก “โอตากุ” ในลักษณะต่างๆนานา สุดท้าย Tsutomu Miyazaki ถูกตัดสินประหารชีวิตด้วยการแขวนคอในเรือนจำกรุงโตเกียวในวันที่ 17 มิถุนายน ปี ค.ศ. 2008 และจากคดีฆาตกรรมดังกล่าวนี้เองส่งผลให้ซีรี่ย์ Guinea Pig ต้องถูกทางการญี่ปุ่นสั่งแบนตลอดกาล กลายเป็นหนังต้องห้ามที่ห้ามสร้างภาคต่อโดยเด็ดขาด ซีรี่ย์ Guinea Pig จึงยุติการสร้างลงที่ภาคที่ 7
อนึ่ง เกี่ยวกับ “โอตากุ” หรือ “โอตาคุ” หมายถึง กลุ่มบุคคลผู้ซึ่งลุ่มหลงในโลกแห่งการ์ตูน และ อนิเมชั่น กลุ่มคนเหล่านี้จะมีความสามารถในการเก็บเกี่ยวการ์ตูนหรืออนิเมชั่นในระดับ rare จากสถานที่ต่างๆได้อย่างไม่ยาก จะเห็นได้ว่าบางคนมีของสะสมเป็นระดับ Ultimate Rare เยอะมากๆ และด้วยความหมกมุ่นอย่างหนักในโลกของอนิเมชั่น ทำให้คนเหล่านี้ไม่สามารถแยกความแตกต่างระหว่าง"เด็ก"ผู้หญิงในชีวิตจริงกับในอนิเมชั่นได้ ทำให้การรับรู้ด้านความสวยงามเกี่ยวกับผู้หญิงจริงๆสูญเสียไป พวกนี้จะคิดว่า"เด็ก"ผู้หญิงที่น่ารักคือผู้ที่มี หูแมว หูหมา หูกระต่าย ชุดเมด เท่านั้น สาเหตุส่วนใหญ่ที่ทำให้กลายมาเป็นพวก โอตาคุ ส่วนมากจะมาจาก การที่ไม่สามารถสมหวังในความรัก ( อกหัก , สาวไม่แล ) ดังนั้น จึงต้องมาปลอบประโลมตัวเองด้วยโลกสมมุติที่ตัวเองสร้างขึ้นจากความใฝ ฝันและหลงใหลในตัวละครของการ์ตูนและอนิเมชั่น เรียกได้ว่า พวกนี้คือพวกที่บ้าการ์ตูนนั่นเอง (ข้อมูลเพิ่มเติมเรื่อง โอตาคุ ที่มา http://www.gamer-gate.net/ วันที่ 26 กรกฎาคม 2553)
ภาพประกอบ : Guinea Pig : Flower of Flesh and Blood หรือที่รู้จักกันในนาม “ดอกไม้โลหิต”
ภาพประกอบ : Tsutomu Miyazaki
จากคุณ : samara17520
เขียนเมื่อ : 5 Oct 16 15:14
|
|
ต่อมาราวปี ค.ศ. 1992 หนังแนว Snuff film อีกเรื่องชื่อ man bites dog /RATE-NC20 (ในกรณีเรื่อง man bites dog นี่ขออนุโลมให้เป็น Snuff film ในเรื่องรูปแบบที่หยิบยืมมาจงใจให้ดูเหมือนนะครับ) ได้ออกมาฉายให้แฟนหนังแนวนอกกระแสได้ชมกัน หนังเรื่องนี้เป็นหนังขาว-ดำ ลักษณะเป็นการถ่ายทำด้วยกล้องชุดใหญ่ ถ่ายชีวิตประจำวันของฆาตกรคนหนึ่งชื่อ Ben เป็นชีวิตที่ช่างแสนบัดซบสิ้นดีกับภารกิจฆ่าคนไปเรื่อยๆ(Ben รับบทโดย Benoît Poelvoorde)ผู้ชมก็จะชมการดำเนินชีวิตของ Ben ผ่านมุมกล้องวีดีโอไปจนจบเช่นกัน หนังเรื่องนี้จัดเป็นหนังแนว Snuff film ที่มีฉากและมุมกล้องสวยงาม แต่ก็แฝงไปด้วยความอันตรายของพฤติกรรมที่ตัวละครแสดงออกมา เป็นการรีดพฤติกรรมความประทับใจของ Ben (ตัวเอกของเรื่อง)ในสมองทางด้านลบ (reptile brain)อย่างสมบูรณ์แบบ หากจะกล่าวว่าตัวเอกของเรื่องเป็นคนที่มีลักษณะอยู่ในกลุ่มอาการก้าวร้าวโดยกำเนิด หรือเรียกว่า “ผู้มีจิตป่วยในคุณธรรม” หรือ moral insanity ก็คงไม่ผิด ซึ่งปัจจุบันทางจิตวิทยาเรียกว่า “พวกต่อต้านสังคมและจิตใจเสื่อม” หรือ antisocial personality and psychopathy(นิยามโดย จิตแพทย์ชาวอังกฤษ เจมส์ ปริชาร์ด ปี 1835) บ้างก็เรียกกลุ่มผู้มีอาการก้าวร้าวโดยกำเนิดว่า “เลือดชั่ว” หรือ Bad Blood ปี ค.ศ. 1994 กับยุคแห่งการชำแหละศพในหนังสเปนเรื่อง Aftermath หรือในชื่อภาคภาษาไทยว่า “โคตรพ่อโคตรแม่ซอว์” กำกับและเขียนบทหนังโดย Nacho Cerdà หนังเรื่อง Aftermath ที่เอามาขายกันมีอยู่ช่วงหนึ่งที่ทำเป็นเเพคเกจขายคู่เรียกว่า Aftermath Genesis ความจริงแล้วหนังผ่าศพเรื่องนี้มีชื่อว่า Aftermath ส่วนเรื่อง Genesis นั้นเป็นเรื่องของช่างปั้นหุ่นกับภรรยาที่ตายไปไม่เกี่ยวอะไรกับ Aftermath เลยนอกจากขายเป็นแพคคู่ให้สะสมแค่นั้นเอง ตัวหนังเล่าความถึงหมอผ่าศพในห้องผ่าตัด กับมุมกล้องที่สมจริงมากๆ ฉากการผ่า ชำแหละศพ รวมถึงการมีเพศสัมพันธ์กับศพก็ทำออกมาได้ชวนสะอิดสะเอียนมาก Aftermath เกือบจะเป็นหนังเงียบ(เพราะตัวละครแทบไม่พูดกันเลยตลอดทั้งเรื่อง)ความยาวของหนังก็ราว 40 นาที สำหรับเรื่องนี้เป็น Fake Snuff film ที่หลายคนบอกว่า “รับประกันการอาเจียน” ปี ค.ศ. 1998 กับสุดยอดหนังแนว Snuff film เรื่อง Niku daruma (ตุ๊กตาไม้ลอย) แต่ที่ www.horrorclub.net นิยมเรียกกันว่า “ตุ๊กตาคนเป็น” หนังแนว Snuff film (เทียม)อีกเรื่องของประเทศญี่ปุ่น กล่าวถึงการล่อลวง-ว่าจ้างหญิงสาวและชายหนุ่มมาถ่ายทำหนังเรท X พอผ่านไปราว 40 นาทีกลายเป็นการทรมาน-ฆ่านายแบบและนางแบบทิ้ง ทุกขั้นตอนในการถ่ายทำของ Niku daruma ดำเนินตามวิถีแนวทางในแบบฉบับของ Snuff film ที่กล่าวถึงในตำนานเอาไว้อย่างครบถ้วนสมบูรณ์ เรื่องนี้จัดว่าเป็นหนังแนวนอกกระแสหายากอีกเรื่องหนึ่งที่หลายคนตามหากัน น่าเสียดายนิดที่หนังเรื่อง Niku daruma มีการ censor บางจุดอันทำให้ภาพที่ออกมาลดทอนความดิบได้ในระดับหนึ่ง(นัยจะบอกว่ามิใช่เรื่องจริงนะแต่เป็นเพียงหนังเรื่องหนึ่ง) นอกจากหนังเรื่อง Niku daruma แล้วในปี ค.ศ. 1998 นี้เองยังปรากฏหนังหายากแนว Snuff film อีกเรื่องหนึ่ง(หนังขาว-ดำ ความยาว 22 นาที) หนังเรื่องนี้มีชื่อว่า Pig (เหยื่อสังหาร) กำกับและเขียนบทโดย Mark Steven Bosko และ T. Michael Conway เป็นหนังที่ค่อนข้างดูยาก ต้องตีความหมายกันหลายตลบ เนื้อหาโดยรวมเกี่ยวกับนักฆ่าและเหยื่อของเขา(เหยื่อที่ต้องการถูกฆ่า) นอกจากหนังเรื่อง Pig จะดูเพื่อสื่อความหมายยากแล้วยังจัดเป็นหนังแนว Snuff film ที่หามารับชมยากในระดับต้นๆของโลกอีกด้วย
ภาพประกอบ : Aftermath ปี ค.ศ.1994
จากคุณ : samara17520
เขียนเมื่อ : 5 Oct 16 15:14
|
|
ปี ค.ศ. 2007 กับหนัง Snuff หายากอีกเรื่องของประเทศอาร์เจนติน่า Snuff 102 (อเวจี 102) ซึ่งเป็นผลงานการกำกับและเขียนบทโดย Mariano Peralta หนังที่มีเนื้อหาดิบสุดๆแสดงออกทางเนื้อเรื่องและภาพ ตัวหนังกล่าวถึงนักข่าวสาวนางหนึ่งที่หลงใหล และกำลังหาข้อมูลเพื่อทำข่าวเกี่ยวกับคดีฆาตกรรมแล้วถ่ายวีดีโดเก็บไว้ดู(Snuff film) เธอเข้ามาพัวพันกับคดีดังกล่าวมากเกินไปจนในที่สุดเธอก็ต้องมาเจอเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันที่เธอจะต้องจำไปจนวันตาย หลังจากที่ Mariano Peralta นำหนังเรื่อง Snuff 102 ออกฉายในงาน Mar del Plata International Film Festival ปี 2007 ปรากฏว่ามีข่าวลือกันอย่างหนาหูว่า ในงานเปิดตัวภาพยนตร์เรื่องนี้มีผู้ชมเป็นจำนวนมากกรูกันเข้ามาเพื่อที่จะทำร้ายผู้กำกับ เพราะเขา(เธอ)เหล่านั้นคิดว่าภาพที่ได้เห็นจากตัวหนัง……….เป็นเรื่องจริง!!!
ยุคแห่ง Underground ปัจจุบันเริ่มมีหนังแนว Snuff film (เทียม) หรือที่หลายๆคนรู้จักกันในนาม “หนังใต้ดิน” ออกมาให้ได้ชมกันมากพอสมควร(แต่ยังไงก็น้อยกว่าหนังสยองขวัญในกระแส หรือ Mainstream horror มาก) หนังแนว Underground ในปัจจุบันที่ได้พบเห็นเป็นประเภทขายภาพความรุนแรงเสียเป็นส่วนใหญ่ ไม่นิยมเน้นที่เรื่องราวความเป็นมา การปูพื้นถึงที่มาที่ไปแห่งความรุนแรง แต่ขายความป่าเถื่อนเป็นเมนูหลัก อาทิเช่น August Underground /2001 (สิงหาโฉดโหดไม่ปราณี) August Underground's Mordum /2003(สิงหาคลั่ง) และ August Underground's Penance /2007(สิงหาวิปลาส คู่รักวิปริต) เป็นต้น ซึ่งคาดว่าในอนาคตอันใกล้นี้เองกระแสแห่งหนังแนวนอกกระแส Cult Movies และ Snuff film (ที่เป็น Fake Snuff film)จะยังคงมีอยู่ต่อไป โดยเฉพาะแนว Underground ซึ่งกำลังเป็นที่นิยมในสังคมกลุ่มเล็กๆในโลกใบนี้
ภาพประกอบ : Snuff 102 หนังอาร์เจนติน่า ผลงานการกำกับและเขียนบทโดย Mariano Peralta
จากคุณ : samara17520
เขียนเมื่อ : 5 Oct 16 15:15
|
|
จากคุณ : erickhuesca
เขียนเมื่อ : 10 Feb 17 02:03
|
|