รีวิวหนังอำมหิต : The Man in the Orange Jacket / 2015

หลังจากดูหนังเรื่องนี้จบ กลิ่นอายของหนังโหดสุดขั้วอย่าง High Tension / 2003 ของ Alexandre Aja และหนังหลอกหลอนขนหัวลุกโคตรสมจริงในห้วงอารมณ์อย่าง Insidious / 2010 ของ James Wan ลอยมาเลย….

น้อยครั้งนักที่เราจะได้ชื่นชมหนังสยองขวัญ-งานร่วมทุนสร้างจากสองประเทศนี้ (Latvia เเละ Estonia)

เรื่องนี้เป็นหนังสยองขวัญสายอำมหิตโดยแท้ (Genres: Horror | Mystery | Thriller) เป็นหนังสยองขวัญที่เงียบ ดำเนินเรื่องเชื่องช้า ใช้สถานที่ภายในบ้านหลังหนึ่งในการเล่าเรื่อง แต่…มันกดดันหัวใจคนดูให้แทบหยุดเต้น มันทรมานคนดูได้เป็นเลิศ มันให้คุณได้ยิน…ได้ยินแม้นเพียงลมหายใจแสนแผ่วเบาของเหยื่อ  ความเบิกบานของผู้ไล่ล่า  และกลิ่นอายแห่งความตายอันแสนวิปริต…ที่นี่!

หนังเรื่องนี้มีชื่อว่า The Man in the Orange Jacket / 2015 (หรือชื่อย่อคือ M.O.J.) โดยผู้กำกับ Aik Karapetian หนังที่มีโครงเรื่องหลักแสนเรียบง่าย เกี่ยวกับลูกจ้าง(ชาย)ที่ทำงานให้กับบริษัทท่าเรือเดินสมุทรในลัตเวีย วันหนึ่งเขาโดนเจ้านายไล่ออกจากงาน(ด้วยเหตุผลบางประการ) คืนนั้นเองที่เขาเก็บเอาความเคียดแค้นแบบฝังใจไว้ และแอบย่องเข้าไปหลบซ่อนภายในบ้านของเจ้านายคนนี้(คฤหาสน์หลังใหญ่ชานเมืองห่างไกลผู้คน) จากนั้นจึงลงมือฆ่าเจ้านายและภรรยายังสาวภายในบ้านอย่างสุดอำมหิต และลากศพของคนทั้งคู่ลงไปเก็บไว้ในห้องใต้ดิน ด้วยเขาแอบอิจฉาความร่ำรวยของเจ้านายคนนี้อยู่นาน วันนี้จึงสบโอกาสขอใช้ชีวิตหรูๆบ้าง กินอาหารราคาแพงๆบ้าง และใช้รถยนต์คันงาม-เงินในตู้เก็บของเจ้านายเสียสักครั้ง ใช่…เจ้าฆาตกรโหดรายนี้กำลังแฝงตัวคล้ายปูเสฉวนย้ายเปลือกเข้ามาอาศัยอยู่ภายในบ้านที่มีศพเน่าเหม็นของเจ้านายทั้งสองอย่างชวนอาเจียนเป็นที่สุด ทุกมื้อเจ้าฆาตกรใช้เงินของบ้านหลังนี้อย่างฟุ่มเฟือย(ให้สะใจความแค้น) กิน-นอน ภายในคฤหาสน์ของอริอย่างสุขสบายอารมณ์  จวบจน…วันหนึ่ง หลังจากเจ้าฆาตกรออกไปดินเนอร์มื้อหรูกลับมา  เขาเริ่มเห็นสิ่งผิดปกติภายในคฤหาสน์แห่งนี้  เมื่อสิ่งของภายในคฤหาสน์สามารถเคลื่อนย้ายที่ได้เอง, เปียโนเล่นได้เองในยามดึกสงัด, เสียงฝีเท้ามนุษย์ปริศนาที่หาที่มาที่ไปไม่ได้, และชายสวมเสื้อ Orange Jacket ของบริษัทท่าเรือเดินสมุทรที่แอบเฝ้ามองเจ้าฆาตกรในระยะไกลเสมอยามที่เขาเผลอมองออกไปนอกหน้าต่าง…คฤหาสน์หลังนี้มันซ่อนแอบนรกอะไรไว้ภายในกันแน่!

**** มุมมองส่วนตัวของผู้เขียน
เป็นหนังที่มีความยาวทั้งเรื่องแค่ 70 นาทีเองนะ…#แต่ยากมากๆที่จะทนดูมันให้จบลงได้ในครั้งเดียว! (หัวใจอาจทำงานหนัก / และลุ้นระทึกทุกฉากแบบไม่มีมุขตลกมาแทรก) เรื่องนี้เป็นหนังสายอำมหิตที่แอบมีฉากจิตๆเยอะพอสมควรด้วยนะ เช่น ฉากการฆาตกรรมเหยื่อ และฉากการเล้าโลมศพ-การตอบสนองอารมณ์ทางเพศในแบบ AEA (Autoerotic Asphyxiation / อาการมนุษย์กามวิตถาร) หนังมีบทพูดน้อยมาก ส่วนใหญ่คนดูจะเดาอารมณ์-เป้าหมายในการกระทำของตัวละครผ่านภาษากายเป็นหลัก (อันนี้ทำให้คนไม่เก่งภาษา Latvia เเละ Estonia คลายกังวลไปได้พอสมควร) ภายในหนังเรื่องนี้คุณจะได้รับฟังเสียงเพลงโอเปร่าโทนเสียงทรงพลังลำดับชั้น Soprano ชื่อเพลง The Flower Duet (Lakmé) ดังก้องกังวานจนหนังแทบจบเรื่อง และ…แม้ใน IMDB จะให้คะแนนมันเพียง 5.2 / 10 คะแนน(จากจำนวนสมาชิกโหวตคะแนน 240 คน / ลงวันที่ 24 กรกฎาคม 2016) แต่ในมุมมองส่วนตัวของผู้เขียนให้คะแนน 10 / 10 เต็มไปเลยครับ(ความเห็นส่วนตัวล้วนๆ) เรื่องนี้ชอบมากๆครับ และ… #เรื่องนี้ห้ามพลาดด้วยประการทั้งปวงนะ(ขอบอก!)