เรื่องผีที่แม่เล่าให้ฟัง   Share

ห่างหายจากคลับโหดที่รักไปแสนนานเพราะ

ไปสิงอยู่ที่เฟสบุ๊ค ถึงตัวจะห่างแต่ใจมะห่างนะพวก

เธอว์ ตามประสาสมาชิกรุ่นป้าที่ดี เมื่อกลับมาทีก็

ต้องมีอะไรติดไม้ติดมือมาฝากกันมั่ง

วันนี้มีเรื่องเล่าจากแม่ๆมาแชร์ให้อ่านกันทั้ง

แม่ตัว แม่ผัว แม่เพื่อน ขอเริ่มจากแม่ผัวก่อนละกันนะ

คือเรื่องมันมีอยู่ว่า



ความคิดเห็นที่ 1


เรื่องเล่าจากแม่เรื่องที่ 1 คืนนั้นในห้องพิเศษ

แม่จี๊ปแต่งงานค่อนข้างช้าถ้าเทียบกับผู้หญิง

อายุเท่ากัน สมัยก่อนแต่งงานกันอย่างช้าสุดไม่เกิน

26-27 แต่แม่จี๊ปแต่งตอน 35 เข้าไปแล้ว แต่ว่าแม่

ท้องค่อนข้างเร็ว หลังแต่งงาน 6 เดือนแม่ก็ตั้งท้อง

ท้องนี้เป็นท้องแรกและทำให้แม่ได้เจอสิ่งที่แม่ไม่เคย

เชื่อมาตลอด ที่เค้าว่ากันว่าคนท้องเนื้อหอมและจิต

อ่อนไม่ใช่แค่คำบอกเล่าลอยๆซะแล้ว

จากวันที่เริ่มตั้งท้องจนครบกำหนดคลอด 9

เดือนเต็ม แม่เริ่มเจ็บท้องอาการปวดถี่ๆมีมากขึ้น

พ่อรีบพาไปโรงพยาบาลประจำอำเภอ เป็นโรง

พยาบาลที่เก่าแก่และมีชื่อเสียง บรรยากาศก็ดีเพราะ

ติดทะเล แถมเพื่อนของพ่อยังเป็นหมออยู่ที่นี่อีก หลัง

จากตรวจแล้วแม่คงไม่คลอดวันนี้ง่ายๆแน่ เชิงกรานก็

เล็กคงต้องผ่า เพื่อนพ่อเลยจัดหาห้องพิเศษให้พัก

คืนนั้นแม่ต้องนอนโรงพยาบาล โดยมีพ่อนอนเฝ้า

เพราะอาการเจ็บท้อง ทำให้นอนไม่หลับสนิทนักราวๆ

ห้าทุ่มกว่าๆ แม่รู้สึกว่ามีมือมาคลำท้องเลยลืมตามาดู

เพราะเข้าใจว่าพยาบาลมาตรวจแ่ต่ภาพที่เห็นมันไม่ใช่

มือคุ่นั้นดำๆกร้านๆไม่ใช่มือของพยาบาลมาลูบมาคลำ

ท้องใหญ่ๆของแม่ๆ พยายามปัดป้องเพราะรู้สึกความ

ไม่ปลอดภัย ลูกในท้องก็ดิ้นอย่างแรงปัดเท่าไหร่ก็ไม่

ไป ท้องก็เจ็บแม่เลยสวดมนต์และแผ่เมตตามือนั้นก็

หายไป

แม่โล่งใจคิดว่าทุกอย่างผ่านไปแล้ว แต่พอแม่

เคลิ้มจะหลับอีก ก็รู้สึกว่ามีมือมาคลำท้องอีกครั้งและ

คราวนี้เหมือนจะคลำแรงขึ้น แม่กลัวมากไม่กล้าลืมตา

พยายามสวดมนต์และแผ่เมตตา แต่รอบนี้ไม่ยอมไป

แม่ทั้งปัดและร้องกลัวก็กลัว แต่ก็แข็งใจลืมตาขึ้นดู

ถึงเห็นว่า มือคู่นั้นดำกร้านและเห็นเหมือนแขนเสื้อ

เชิ้ตเป็นลากตราหมากรุกสีดำสลับชมพู ที่สำคัญมัน

ยื่นยาวมาทางหน้าต่าง แม่ร้องลั่นด้วยความกลัวจน

พ่อตื่น (ก่อนหน้านี้ไม่ตื่นเลยทั้งที่เสียงแม่ก็ค่อนข้างดัง)

แม่ละล่ำละลักเล่าให้ฟัง พ่อเลยเอาพระคล้องให้

พ่อขึ้นไปนอนเตียงคนไข้แทนเพราะแม่ไม่ยอมนอน

และไปนอนที่โซฟายาวของคนเ้ฝ้าไข้แทน

หลังจากนั้นแม่ผ่าตัดคลอดอย่างปลอดภัย

ได้ลูกชายคนโต ( ที่มาเป็นสามีคนเล่า) ก่อนออก

จากโรงพยาบาล พ่อจี๊ปเล่าให้ลุงหมอที่เป็นเพื่อนฟัง

ลุงหมอบอกว่าเป็นไปได้นะ ว่าแม่จะเจอจริงๆไม่ได้

เพ้อเพราะเจ็บท้อง นั่นก็เพราะว่า ห้องพิเศษนั้นอยู่สุด

ทางเดิน และหน้าต่างห้องที่แม่พักหันไปทางตึกที่

เป็นห้องดับจิต !!!!

จบเรื่องที่ 1






ความคิดเห็นที่ 2

หลอนนนนน บรื๊อออออออ!!!

ความคิดเห็นที่ 3

น่ากลัว

ความคิดเห็นที่ 4

ที่มาของพี่จิ๊ป

ความคิดเห็นที่ 5

อ่านะปั๋วฉันสัมผัสเรื่องนี้มาตั้งกะในท้องแม่เลยทีเดียว

ความคิดเห็นที่ 6

มือนั้นอาจจะเป็นมือกระหังที่มาจากสี่คิ้วก็ได้นาาาาคุงพี่

ความคิดเห็นที่ 7

เขาอยากจะมาเกิดอ๊ะป่าว

ความคิดเห็นที่ 8

มารออ่านเรื่องต่อไปค๊าบ

ความคิดเห็นที่ 9

หลอนจิงจังมากๆ

ความคิดเห็นที่ 10

ต่อๆๆ

ความคิดเห็นที่ 11

เรื่องเล่าจากแม่เรื่องที่ 2 คนสวยใจดี


เรื่องนี้ยังเป็นเรื่องของแม่สามีกับโรงพยาบาลเดิม

อีกครั้ง สาเหตุเดิมคือแม่ไปคลอดลูก (อย่าแปลกใจ

บ้านนี้เค้าหัวปีท้ายปี ) หลังจากจี๊ปเกิดได้ไม่นาน แม่

ก็ตั้งท้องอีกครั้ง ห่างกัน 6 เดือนพอดี ท้องที่สอง

ค่อนข้างมีปัญหาเพราะว่าแผลเดิมที่ผ่าตัดยังไม่ทัน

หายสนิทดี แม่จี๊ปตั้งความหวังจะได้คลอดเองเพราะ

เข็ดขยาดกับการผ่าท้องคลอด ท้องเจ็บตึงและทำ

อะไรก็ไม่สะดวก วันเวลาผ่านไปท้องสองนี่ก็ใหญ่ขึ้น

เรื่อยๆ พร้อมกับลูกคนโตที่ยังกินนมอยู่และต้องดูแล

เหนื่อยแทบขาดใจเลยตอนนั้นแม่บอก

ในที่สุดก็ถึงกำหนดคลอดและความหวังของ

แม่ไม่สัมฤทธิ๋ผล หมอยืนยันให้แม่ผ่าคลอดไม่ให้

คลอดเอง เพราะนอกจากเชิงกรานแม่เล็กแล้วแผล

เดิมก็ยังไม่หายสนิท ถ้าคลอดเองมีความเสี่ยงบาด

เจ็บและเสียเลือดมากเกินไป แม่เลยต้องยอม

ถึงเวลาหลังจากผ่าคลอดแล้ว แม่ได้อยู่ห้อง

พิเศษ คนละตึกกับเรื่องแรก แม่หลับไปนานเท่าไหร่

ไม่รู้ๆแต่ว่า เริ่มสะลึมสะลือขึ้นมาตอนดึก เพราะฤทธิ๋

ยาเริ่มหมด แม่เจ็บแผลมาก และรู้สึกว่าเลือดเปื้อน

เต็มที่นอนอยากขยับหนี ความชื้นแฉะนั้น ก็ทำไม่ได้

แผลใหม่ๆสดๆ พึ่งหมดยาชาทำให้แม่ปวดจนขาสั่น

ได้แต่ร้องโอยๆ อยู่บนเตียง ยังไม่ทันที่ีแม่จะเรียก

พยาบาล แม่บอกว่ามีผู้หญิงคนนึงมายืนข้างเตียง

เท่าที่จำได้เป็นคนสวย ผิวขาว ผมยาว หน้าคมๆ

ใส่ชุดแม๊กซี่ยาวกรอมเท้า เธอก้มลงมาใกล้หน้าแม่

และถามว่าเป็นอะไรเจ็บแผลเหรอ แม่ตอบว่าค่ะเจ็บ

มาก เธอยืนมองครู่นึงและถามว่าอยากเปลี่ยนท่านอน

ใช่มั้ยมาเดียวจะช่วย แล้วเธอก็มายืนชิดๆเตียง และ

บอกว่า เอ้ากอดเอวฉันไว้นะคะ แม่ก็กอดเอวเค้า แล้ว

เธอก็จับแม่ขยับท่านอนใหม่ให้สบายและพ้นเขตเปียก

แม่กล่าวขอบคุณ เธอคนนั้นไม่ตอบอะไร ยิ้มให้และ

เิดินออกไปทางฝั่งขวาของประตู จากนั้นแม่ก็หลับไป

ไม่รู้สึกเจ็บทรมานจากแผลผ่าตัดอีก

หลังจากนั้นอีก 1-2 วันแม่ก็ได้ออกจาก

โรงพยาบาล และช่วงเวลาก่อนออกมานั้นแม่พยายาม

มองหา ถามหาผู้หญิงสาวสวยใจดีคนนั้นแต่ก็ไม่มีใคร

รู้จักเธอ แม่พยายามเดินกระย่องกระแย่งไปดูรายชื่อ

พยาบาลบนวอร์ดก็ไม่มี เธอคนนั้น แล้วแม่ก็มานั่งคิด

ทบทวน ตอนที่ผู้หญิงคนนั้นเข้ามาในห้อง แม่ไม่ได้

ยินเสียงเปิดประตูจะว่าแม่เจ็บแผลจนไม่รู้เรื่องก็ไม่น่า

จะใช่เพราะ อาการเจ็บแผลทำให้แม่มีสติเต็มร้อย

จู่ๆทำไมเธอมาหาและช่วยแม่ๆพักฟื้นในห้องพิเศษ

ถ้าหมอและพยาบาลไม่เดินตรวจก็จะไม่เห็น แต่เธอ

ไม่ใ่ช่พยาบาลแน่เพราะเธอใส่ชุดแม๊กซี่ และหากเธอ

เป็นญาติคนไข้คนอื่นที่มีน้ำใจมาช่วยแล้วเธอรู้ได้ยัง

ไงว่าแม่เจ็บแผลต้องการให้คนช่วย เพราะแม่ไม่ได้

ร้องโวยวาย และสุดท้ายตอนที่เห็นเธอเดินออกจาก

ห้องไปทางฝั่งขวาของประตู ฝั่งนั้นเป็นทางตันเพราะ

ห้องที่แม่พักเป็นห้องสุดท้ายของทางเดินมันไม่มีทาง

ไปต่ออีกแล้ว.......

ถึงแม้ว่า แม่จี๊ปจะมาคิดทบทวนแล้วรู้สึกกลัว

กับเธอที่ได้เจอแต่แม่ก็ยังระลึกถึงน้ำใจที่เธอมาช่วย

แม่ในคืนนั้น ไม่ว่าเธอจะเป็นใครก็ตาม

จบเรื่องที่ 2



ความคิดเห็นที่ 12

ชอบเรื่องที่สองค่ะเพื่อนตั๊ก ขนลุกเลย

ความคิดเห็นที่ 13

เรื่องสองหลอนแบบเย็นๆ :)

ความคิดเห็นที่ 14

น่ากลัวมากเลยค่ะ

ความคิดเห็นที่ 15

หลอนแบบใจดี

ความคิดเห็นที่ 16

ฉันหลอนตรงนี้

ได้ลูกชายคนโต ( ที่มาเป็นสามีคนเล่า)

กรีสสสสสสสสส

ความคิดเห็นที่ 17

เอาไปทำเป็นหนังสั้นได้เลย><

ความคิดเห็นที่ 18

ช่วงนี้งานเข้า ขอตัวซักพักแล้วจะกลับมาใหม่ แฮ่!!

ความคิดเห็นที่ 19

น่ากลัวมากครับ >__<

ความคิดเห็นที่ 20

สวัสดีเหล่าสาวกคลับโหดทั้งหลาย หลังจากไปตรากตรำ

ใ้ช้แรงงานที่ต่างแดนมาระยะเวลาสั้นๆก็ได้เวลา

อู้งานกลับมาเพิ่มเติมเรื่องเล่าให้ทุกๆท่านอีกครั้งไม่ว่าจะ

มีคนรอหรือไม่รออ่านเราว่างก็อัพ ( อิอิ) คราวนี้เป็น

เรื่องเล่าจากแม่ของแม่ (ยายนั่นแหละ) ตั้งแต่สมัยแม่

คนเล่ายังไม่เกิด ราวๆ 50 กว่าปีผ่านมา มาอ่านไป

พร้อมๆกัน

เรื่องเล่าจากแม่ (ของแ่ม่) เรื่องที่ 3 ขี้ผึ้งมหาเสน่ห์

ก่อนจะเล่าเรื่องนี้ขอเกริ่นพื้นฐานครอบครัวของ

คนเล่าสักเล็กน้อย บ้านเราเป็นคนอีสานจังหวัดอุบลฯ

ทั้งยายและแม่เกิดและโตที่อุบล แถบแดนอีสานใต้

ต่อเขตกับจังหวัดศรีษะเกศ สุรินทร์ ที่ขึ้นชื่อเรื่องเล่น

ของ เล่นอาคม เป็นเรื่องธรรมดาของยุคนั้นและการติด

ต่อค้าขายเดินทางยังไม่สะดวกสบายเหมือนตอนนี้

ทำให้นิยมมีเครื่องราง ของขลังติดตัวไว้ รวมทั้งของ

ที่ช่วยเรื่องเมตตามหานิยมให้คนนิยมชมชอบเมตตา

1ในของขลังอาคมนั้นคือ ขี้ผึ้งมหาเสน่ห์ วิธีใช้ก็ง่ายๆ

แค่ท่องคาถา เอาขี้ผึ้งทาปาก แล้วทีนีเวลาเจรจา

การค้าก็ราบรื่น ทุกคนเชื่อถือให้ความรักเอ็นดู หรือจะ

ใช้สำหรับเกี้ยวสาวก็ได้ ที่มาของขี้ผึ้งนี้แต่ละอาจารย์

แต่ละสำนักก็ต่างกันไป และถือว่าเป็นของเสริม

เสน่ห์ไ่ม่มีอะไรน่ากลัว แต่ถ้ามันไม่เป็นแบบนั้นล่ะ


ย้อนกลับไปราวๆปี พศ.2498 ยายคลอด

ลูกสาวคนที่ 5 ออกมาได้ราวๆ 4-5 เดือนส่วน

ทางตาก็ช่วยทางบ้านค้าขายเนื้อวัวไปบ้าง เมาบ้าง

ตามประสา (ไม่ได้เอาบรรพบุรุษมานินทานะตาอย่า

เข้าฝันหนูล่ะ) คืนนึงดึกมากแล้ว ตายังไม่กลับซึ่งก็

ถือเป็นเรื่องปกติที่ตาจะไปสังสรรค์กับเพื่อนจนลืม

เวลาเสมอ กระทั่งใกล้เที่ยงคืนจึงกลับมา เพราะเสียง

เปิดประตูก๊อกๆ แก๊ก ทำให้ยายสะดุ้งตื่นและทันเห็น

ตาซุกอะไรบางอย่างไว้ใสเสาเรือน (ที่เสาเรือนเป็น

เกิดเป็นช่องเล็กๆตรงตาไม้) แล้วเปิดมุ้งเข้ามานอน

ตาหลับแทบจะในทันที แต่กลับกันยายกลับนอนไม่

หลับและรู้สึกกระวนกระวายใจอย่างบอกไม่ถูก

ยังไม่ทันจะทำอะไรต่อจู่ๆ ลูกสาวน้อยก็ร้องไห้โยเย

อย่างไม่เคยเป็นมาก่อนร้องสะอึกสะอื้นอย่างหนัก

ปลอบกันอยู่นานกว่าจะหยุด พอลูกเงียบเสียงยายก็

ล้มตัวลงนอนบ้างเพราะเหนื่อยมาทั้งวัน แต่ทันทีที่

หลับตาลง ในความมืดหลังม่านตานั้นยายเห็นเงาดำๆ

สูงประมาณเด็กราวๆ 7-8 ขวบ ขนรุงรัง ยืนอยู่ตรงหัว

นอน

และทำท่ากระโดดโลดเต้นไปมา ยายตกใจลืมตา

ทันทีแต่กลับไม่พบอะไรทั้งสิ้น มีแต่ความว่างเปล่า

แล้วจู่ๆ ลูกอ่อนก็ร้องไห้ขึ้นมาอีก ร้องอย่างหนัก

ต้องกระเตงอุ้มแล้วปลอบขวัญ พอล้มตัวกันนอนทั้ง

แม่และลูก มันก็ลับมาให้ยายให้อีกครั้งทันทีที่หลับตา

เงาดำๆ รูปร่างเหมือนเด็กแต่แขนยาวผิดปกติ

ขนรุงรังนั้นยังคงโลดเต้นเหมือนจะเยาะเย้ย อยู่จุดเดิม

ยายเริ่มรู้สึกกลัว มันคืออะไรกันแน่ กลัวก็กลัวแต่ใจก็

อยากรู้เลยพยายามเพ่งมองในความมืดหลังม่านตา

ถึงเห็นชัดๆว่ามันเป็นลิง ! ลิงขนดำรุงรังตาแดง แยก

เขี้ยวหลอก กระโดดโลดเต้นไม่หยุดและทำท่าจะเดิน

เข้ามาหา ยายตกใจมากลืมตาอีกครั้งและมันก็หายไป

มันคืออะไรๆๆ ยายคิดซ้ำๆและเหมือน

มีคนกระซิบข้างหู " ปอบลิงมันมากับของที่ผัว

เจ้านำมาด้วย" ไม่รอช้ายายปลุกตาขึ้นมา

ทันทีและคาดคั้น ตอนแรกตาไม่ยอมรับอาจจะเพราะ

เสียดายของแต่เมื่อยายบอกว่าหรือจะให้ผีมันมากิน

หมดบ้าน เลยบอกขี้ผึ้งมหาเสน่ห์เพื่อนให้มา ได้มา

จากบ้านใต้ยายให้ตาหยิบมาให้ พอได้มาลองดูดีๆมัน

เป็นตลับไม้เล็กๆไม่ใหญ่มากเปิดออกตัวขี้ผึ้งสีตุ่นและ

หอมเอียนๆ

จำนวนแค่นี้ไม่น่าเชื่อว่าจะนำสิ่งชั่วร้ายมาด้วยได้

ยายเอาตลับขี้ผึ้งไปทิ้งในส้วมทันที เพราะ

การกำจัดของอาถรรณพ์นั้นเค้าให้ทิ้งลงส้วมจากนั้น

กลับมานอนก็ไม่เห็นอะไรอีกและลูกอ่อนก็ไม่ร้องโยเย

ทั้งคืน .....


ปล.ที่บอกว่าเป็นปอบลิงเพราะมันมาให้เห็นในลักษณะของลิงกังตัวใหญ่ ซึ่งจริงๆแล้วผีปอบจำแลง
ได้หลายรูปแบบทั้งม้า หมาดำ และแมว

ปล.2 ของอาถรรณพ์วิชาพวกนี้เคยมีอยู่และยังมีอยู่

ปล.3 เรื่องนี้อาจจะไม่ค่อยน่ากลัว แต่บอกได้แค่ว่า
มันจริง ลูกอ่อนในเรื่องนี้ปัจจุบันอายุ 58 ปีและเป็น
ป้าแท้ๆของคนเล่า ส่วนยายปีนี้ก็ 84 แต่ยังจำเรื่อง
นี้ได้ติดตาติดใจ

ปล.4 หลังจากนั้นตาก็หาของมาอีกแต่ยายรู้ทันและเอาไปทิ้งส้วมเหมือนเดิม





ความคิดเห็นที่ 21

อยากได้จังค่ะ

ความคิดเห็นที่ 22

อย่าเลยคุณเจ๊แทนที่จะได้มหาเสน่ห์จะโดนจกตับก่อนนะ

ความคิดเห็นที่ 23

ถ้ามาแบบเป็นกรัต่ายน้อย อาจจะรับเลี้ยงก็ได้นะพี่

ความคิดเห็นที่ 24

เิอ่อน่ารักเชียวปอบกระต่าย

ความคิดเห็นที่ 25

น่ามีไว้ซักอัน ไว้เรียกหนุ่มๆ อิอิ

ความคิดเห็นที่ 26

กลับมาอีกครั้งไม่ว่าใครจะเรียกร้องหรือไม่เรื่องคราวนี้

เป็นเรื่องเล่าของแม่เราเองเป็นเรื่องสั้นแต่ทุำกเรื่อง

เหตุเกิดสถานที่เีดียวกันคือบ้านที่เราอยู่ในปัจจุบัน

เรื่องเล่าจากแม่เรื่องที่ 4 เหตุเกิด ณ บ้านแสนรัก

ย้อนไปราวๆ 23 ปีก่อนตอนที่ครอบครัวเราย้ายมาอยู่

บ้านหลังนี้ใหม่ๆ ขณะนั้นละแวกบ้านยังไม่เจริญมาก

ถึงหมู่บ้านเราที่อยู่ท้ายซอยจะห่างจากปากซอยแค่

1 กิโลนิดๆ แต่ก็รู้สึกไกลมากและเงียบ ด้านหลัง

ของบ้านเราเป็นป่ารกมีแต่ต้นหญ้าธูปฤาษีสูงมิดหัว

บ้านของเราเป็นบ้านทาวน์เฮาส์ แต่หลังที่ติดกันนั้น

มีคนอยู่แค่ฝั่ขวาแต่ฝั่งซ้ายยังไม่มีใครมาอยู่

ครอบครัวของเรามี 5 คน คือ แม่ พ่อ ยาย เรา

และน้องชายวัยไม่ถึงขวบบ้านหลังนี้เป็นบ้านหลังแรก

ของพ่อแม่กับแม่เงินเก็บทั้งหมดและเงินเดือนต้อง

เอามาใช้จ่ายกับบ้านไปทั้งหมด เรียกได้ว่าทุ่มกัน

หมดหน้าตักเลยทีเดียว ทำให้แม่กับพ่อไม่มีงบจะ

เอาไว้ทำบุญบ้าน อยู่กันอย่างสงบได้ราวๆ2-3เดือน

แม่ก็เริ่มเจออะไรแปลกๆ เริ่มจากคืนหนึ่งขณะที่แม่

นอนหลับสนิท จู่ๆก็สะดุ้งตื่นตอนราวๆตี2 แม่บอกว่า

พอรู้สึกตัวก็จะลุกขึ้นไปเข้าห้องน้ำแต่ปรากฏว่า

แม่ขยับตัวไม่ได้ ทำได้อย่างเดียวคือกรอกตาไปมา

ขณะที่แม่พยายามจะขยับตัวอยู่นั้นจู่ๆตรงหางตาก็มี

กลุ่มควันขาวๆ ค่อยๆก่อตัวขึ้นเห็นเป็นผู้หญิงคนนึง

ผมยาว ยืนก้มหน้าร้องไห้สะอึกสะอื้น แม่ตกใจมาก

พยายามสวดมนต์แต่สวดแค่ไหนเธอก็ไม่ไปกลับ

ร้องไห้เสียงดังขึ้นเรื่อยๆแม่บอกว่ากลัวก็กลัวแถม

ยิ่งแม่พยายามสวดมนต์ให้ดังเท่าไหร่เสียงนั้นก็ยิ่ง

ร้องไห้ดังขึ้นเท่านั้นเหมือนจะพยายามกลบเสียงแม่

จนในที่สุดแม่ก็คิดขึ้นได้และเปลี่ยนจากการสวดมนต์

เป็นท่องบทแผ่เมตตาให้แทน แม่ท่องบทแผ่เมตตา

ซ้ำไปซ้ำมาแล้วเธอคนนั้นก็หยุดร้องไห้แล้วก็ค่อยๆ

เลือนหายไปต่อหน้าต่อตา พอเช้าแม่รีบตื่นใส่บาตร

ให้เธอคนนั้นทันที จบเหตุการณ์ที่ 1

ความคิดเห็นที่ 27

เหตุเกิด ณ บ้านแสนรัก

เหตุการณ์ที่ 2

หลังจากแม่เจอกับเธอคนนั้นและทำบุญไปให้ก็ไม่ได้

เจอเธออีกเลย และบ้านเราก็ได้ทำบุญเลี้ยงพระขึ้น

บ้านใหม่ แม่ก็ไม่เจอเหตุการณ์อะไรแปลกๆอีก

ช่วงนั้นแม่กับพ่อต้องขยันทำมาหากินเป็นพิเศษเพราะ

ลำพังเงินเดือนข้าราชการชั้นผู้น้อย ไหนจะค่าใช้จ่าย

ในบ้าน ค่าเล่าเรียนลูก(อะฮั้นเอง) ค่าผ่อนบ้าน

ผ่อนมอเตอร์ไซค์(ฮอนด้าคุรสภา) พ่อกับแม่ต้อง

ช่วยกันขายของ ทั้งขายกับข้าวตามสั่ง ไปประตูน้ำ

ขนเสื้อผ้ามาขาย ขายผ้าปูที่นอน ผ้าห่ม พอดีกว่า

ชักจะไม่เกี่ยวกับเรื่องผีและ เอาเป็นว่าแม่กับพ่อต้อง

ทำมาหากินกันตัวเป็นเกลียว และด้วยความที่แม่ของ

คนเล่านั้นเป็นคนชอบทำบุญและีมีความเชื่อในเรื่อง

พุทธคุณ รวมทั้งการสวดมนต์ ตอนนั้นแม่มักจะสวด

บทชิณบัณชรเสมอเพราะแ่ม่เชื่อว่าอนิสงส์การสวด

มนต์และแผ่เมตตานั้นจะช่วยให้ผ่านภาวะที่เหนื่อย

ยากนั้นไปได้ แม่ตั้งใจมากถึงขั้นกับไหว้พระหน้าโต๊ะ

บูชาและบอกกล่าวเจ้าที่เจ้าทางให้รับทราบถึงความ

ตั้งใจและร่วมอนุโมทนาบุญ แต่ด้วยความเหนื่อยอ่อน

จากการทำมาหากิน เลิกงานมาถึงบ้านราวๆสี่โมงเย็น

พ่อกับแม่ก็ต้องพากันซ้อนมอเตอร์ไซค์ไปประตูน้ำ

บ้าง คลองเตยบ้าง บางทีต้องไปส่งของถึงปทุมฯ

กว่าจะกลับถึงบ้านก็เกือบเที่ยงคืน ทำให้แม่ได้สวด

มนต์อย่างที่ตั้งใจไว้ แม่ละเลยการสวดจากวันเป็น

สองวัน สามวันและเป็นอาทิตย์ และในคืนนึงที่แม่

กลับมาจากไปส่งของและหลับไปอย่างเหนื่อยอ่อน

โดยที่ไม่ได้อาบน้ำอาบท่าอะไรเลย แม่บอกว่าขณะ

ที่หลับอยู่นั้น แม่ก็เกิดฝันไปว่ามีผู้ชายแก่ๆใส่ชุดขาว

เดินถือไม้เท้า มาหาแม่ เอาไม้เท้าชี้หน้าและบอกว่า

"คนอะไรพูดไม่เป็นคำพูดไม่ตั้งใจจริงไม่เห็นทำได้

อย่างที่ว่า" แล้วชายแก่คนนั้นก็เดินหันหลังกลับไป

เท่านั้นแหละแม่สะดุ้งตื่นทันที รีับอาบน้ำแต่งตัวใหม่

แล้วไปสวดมนต์ที่ห้องพระ จากนั้นแม่ก็ไม่ลืมที่สวด

มนต์ก่อนนอนทุกคืน บางคืนถ้าแม่มีเวลาก็จะสวด

หน้าหิ้งพระ สวดแบบออกเสียงดังกังวานไปทั้งบ้าน

แต่เรื่องมันไม่จบ หลังจากนั้นต่อมาอีกราวๆ หนึ่งหรือ

สองเดือนแม่ฝันเห็นชายแก่คนเดิมอีกครั้ง(เข้าใจว่า

เป็นเจ้าที่) คราวนี้เจ้าที่ท่านเดินเข้ามาบอกว่า รู้แล้ว

ว่าตั้งใจแต่สวดมนต์น่ะไม่ได้ต้องมากก็ได้ สวดเบาๆ

ก็รู้แล้ว ..... จบเหตุการณ์ที่ 2

ปล.เจ้าที่ๆบ้านเวลาแม่เจอมักจะเป็นคนแก่แต่เวลา

คนเล่าเจอจะเป็นอีกคนไม่เคยเห็นจะๆแต่รู้ว่าหนุ่มกว่า

ปล.2 แ่ม่ฝันเห็นแต่ลูกแม่เห็นตอนตื่นๆนี่แหละ !!



ความคิดเห็นที่ 28

เหตุเกิด ณ บ้านแสนรัก

ภาคคนเล่าเจอเอง เรื่องที่ 1 ทำไมไม่กลับบ้าน

สมัยคนเล่ายังเด็กรุ่นๆ จะชอบไปนั่งเล่นบ้านเพื่อน

วันหนึ่งในโอกาสพิเศษ เพื่อนสนิทที่บ้านอยู่ใกล้ๆกัน

ชวนกันไปตั้งวง(บอกตรงๆล่ะขี้เกียจสร้างภาพ)

เลยบอกแม่ไว้ว่าไปกินข้าวบ้านเพื่อน ถ้าดึกแล้วก็

ล็อคบ้านได้เลยแ่ม่ก็โอเค คืนนั้นก็สังสรรค์กันตาม

ประสาวัยรุ่น ขอไม่อธิบายเดี๋ยวเยาวชนที่อ่านอยู่

จะเอาเป็นเยี่ยงอย่าง จนกระทั่งตีหนึ่งกว่าๆก็ตัดสินใจ

นอน ซึ่งตอนแรกเพื่อนที่เป็นเจ้าของบ้านชวยให้ไป

นอนข้างบนห้องแต่เรารู้สึกว่าไ่ม่อยากนอนอยาก

กลับบ้านแต่ตอนนั้นก็ดึกมากๆแล้ว ถ้ามาเรียกแม่

เปิดบ้านคงโดนด่าเปิง เลยขอนอนข้างล่างเพราะ

พอเ้ช้าจะไ้ด้รีบกลับ คืนนั้นนอนไม่หลับ รู้สึกอย่าง

เดียวคืออยากกลับบ้าน อยากกลับไปนอนบ้าน

รู้สึกวุ่นวายใจบอกไม่ถูก แต่ก็ต้องหลับๆตื่นๆไปจน

เช้ามืด พอเริ่มเห็นแสงอาทิตย์ก็ตื่นแล้วกลับไปบ้าน

ทันทีทิ้งคนอื่นนอนเงิบกันไป เดินไปบ้านแม่ตื่นพอดี

ไหว้แม่แล้วเข้าห้องนอนเลย ซึ่งปกติเราจะนอนห้อง

เดียวกับยายแต่วันนั้นยายไม่อยู่ พอเข้าห้องได้เราก็

โดดใส่ที่นอนทันที ซึ่งที่นอนเราปูกับพื้นไม่ได้นอน

เตียงแต่ยายเรานอนเตียงเหล็กที่เวลาขยับตัวมีเสียง

เอี๊ยดๆ ขณะที่เราหลับตาจะนอนต่อนั้น ก็ไ้ด้ยินเสียง

เหมือนเตียงยายดังเหมือนมีคนพลิกตัว เลยลืมตาขึ้น

และมองไปที่เตียงยาย เพื่อตอกย้ำความมั่นใจเรา

เห็นที่นอนค่อยๆยุบตัวและเสียงเตียงก็ัยังขยับให้

ยิน ตอนนั้นยอมรับว่าเราตกใจแต่ก็ยังพูดออกไปว่า

"กลับมาแล้วค่ะเมื่อคืนไปนอนบ้านเพื่อนขอโทษที่

ไม่ได้บอกก่อนค่ะ" เสียงนั้นก็เงียบลงและเหมือนมี

คนลุกจากที่นอนเดินออกนอกห้องเราไป(เราไม่ได้

ปิดประตู) จากนั้นเราก็นอนต่อ...

คนเล่าเจอเองจบตอน 1

ความคิดเห็นที่ 29

5555น่ากลัว

ความคิดเห็นที่ 30

โลมาป่าเถื่อนผู้ฆ่าเสือด้วยมือเปล่าแล้วถลกหนังมันมาห่ม


Function Used time : 0:0:0:0